'เจ้า...ต้องเป็นคู่เต้นรำให้ข้าในงานพบปะเหล่ามวลปีศาจ'
ครืน~
คำพูดของทีอายังคงก้องอยู่ในหัวของสเวน นั่นคือข้อแลกเปลี่ยนกับการที่ทีอาจะยอมช่วยเหลือโดยสอนเวทย์คลายสะกดหรือเวทย์ที่จะทำให้ฮายอนหลุดจากการควบคุมได้
งานพบปะเหล่ามวลปีศาจที่ทีอาพูดถึงคืองานที่มีการรวมตัวกันของระดับราชาปีศาจของแต่ละเผ่าหรือเหล่าผู้ปกครองของเหล่าปีศาจรวมถึงลูกหลานของพวกเขาที่จะได้เป็นวาที่ราชาคนต่อไปอีกด้วย
งานนี้จุดประสงค์หลักที่จัดขึ้นเพื่อทำให้แต่ละเผ่าปีศาจทำความรู้จักกันและสร้างความสัมพันธ์อันดีเกิดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปกครอง พันธมิตรด้านการค้าหรือการรบ แต่นอนจากนั้นสิ่งที่พวกราชา ราชินีเผ่าปีศาจแต่ละเผ่าคิดเหมือนกันก็คือ...
การหาคู่ให้กับบุตรและบุตรีของตน หรือเพ่งเล็งไว้ว่าใครที่บุตรหรือบุตรีของพวกเขาควรรู้จักและควรสร้างความสัมพันธ์ด้วยนั่นเอง
เพราะถ้าบุตรและบุตรีของทั้งสองเผ่าพันธ์ุชอบพอกันนั่นก็หมายความว่าทั้งสองเผ่าพันธ์ุนั้นก็จะกลายเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นคู่พันธมิตรที่จะแข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธ์ุที่อยู่เผ่าพันธ์ุเดียวแน่นอน
ซึ่งงานนี้จากงานครั้งก่อน แน่นอนว่าทีอาย่อมเป็นที่สนใจที่สุดของเหล่าอิสตรีของเผ่าปีศาจ ถึงแม้ทีอาจะเป็นจอมมารแต่การคงอยู่ของเผ่าพันธ์ุก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเผ่าปีศาจ
ถ้าทีอาไม่คิดที่จะหาใครเป็นคู่ครองก็เท่าว่าเป็นการทรยศเผ่าพันธ์ุของตนเองไปแล้ว แน่นอนว่าพวกเผ่าปีศาจจะต้องลุกฮือต่อต้านเธอแน่นอน และถึงเธอจะแข็งแกร่งที่สุดในเผ่าปีศาจก็ตามแต่เธอก็เลือกจะปฏิเสธกฎที่จอมมารรุ่นแรกตั้งขึ้นไม่ได้
เพราะถ้าจอมมารไม่มีรัชทายาทคนต่อไปก็เท่ากับว่า...
เผ่าปีศาจได้จบสิ้นลงไปแล้ว...
งานนี้จะมีทุกๆ50ปี ทีอาก็มางานนี้แล้วถึง 3 ครั้งและครั้งนี้เธอก็อายุครบ 200ปีแล้วก็จะกลายเป็นครั้งที่ 4 ใน3ครั้งก่อนทีอาก็มีเหล่าบุตรชายของเผ่าปีศาจชั้นสูงมากมายมาทำความรู้จักกับเธอด้วยแน่นอนว่าเป็นการแนะนำของราชาและราชินีของเผ่าปีศาจเผ่านั้นๆ
เจ้าชายปีศาจบางเผ่าก็แน่นอนว่ามีหลายตนทีเดียวเลยหละมากมายจนนับไม่ถ้วน ที่หลงใหลในตัวทีอาเปรียบเสมือนกับเธอเป็นเป้าหมายชีวิตของพวกเขา
พวกเขาก็ย่อมอยากทำความรู้จักกับเธอด้วยตนเองถึงแม้พวกเขาจะมีพลังที่เทียบกับเธอไม่ได้แต่ถ้าได้ทีอามาเป็นคู่ครองเผ่าพันธ์ุของพวกเขาก็จะขึ้นมาปกครองเผ่าปีศาจทุกเผ่าอย่างมีอำนาจเหนือทุกเผ่าพันธ์ุเลยทีเดียว
แต่ทีอาที่ผ่านมาก็ได้ปฏิเสธพวกเขาตลอด...
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าชายแวมไพร์ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเฮเซลของตระกูลแวมไพร์อีกตระกูลหนึ่ง หรือเจ้าชายเผ่ามนุษย์หมาป่า เจ้าชายเผ่าออร์คลูกชายของโมร่อน เจ้าชายเผ่าจิ้งจอกเก้าหาง เจ้าชายแห่งเผ่าไวด์(เผ่าที่มีพลังของสัตว์ป่า) เจ้าชายแห่งเผ่าอสรพิษ...
...หรือแม้แต่ฮาเดสเทพนรกที่วางตัวเป็นกลางระหว่างเผ่าปีศาจกับเผ่าเทพ...
งานจะถูกจัดขึ้นในอีก 30 วันข้างหน้า ซึ่งทีอาต้องการใช้เขามาเป็นเสมือนโล่กำบังสำหรับเรื่องนี้ เธอจะใช้เขาให้กลายมาเป็นคู่หมั้นหลอกๆให้เธอ แน่นอนว่าในงานถ้าพวกเจ้าชายปีศาจทั้งหลายเจอเขา
ต้องข่มขู่เขาอย่างแน่นอน...
พวกราชาเผ่าปีศาจเผ่าต่างๆก็ต้องขอคำยืนยันความเหมาะสมนี้แน่...
ดังนั้นทีอาเลยอยากให้เขา...
'เจ้าจงไปฝึกตนให้แข็งแกร่งก่อนจะถึงวันงาน เอาให้พอชนะเจ้าโมร่อนได้ก็พอ...รู้ใช่ไหมถ้าเจ้าทำข้าเสียหน้าหรือผิดหวังเจ้าจะเป็นยังไง'
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมของทีอายังคงทำให้เดย์จดจำจนถึงตอนนี้...
ครืน~
แน่นอนว่าเดย์จะทำตามคำขอของเธออย่างแน่นอนถึงจะเป็นเพียงแค่ตัวหลอกก็ตาม เพราะไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมยกทีอาให้กับใครแน่นอน ทีอาต้องเป็นศรีภรรยาสุดที่รักของเขาคนเดียว
แต่นั่นเป็นเพียงเรื่องของอนาคต ตอนนี้คือต้องฝึกฝนอย่างที่ทีอาบอก เตรียมพร้อมรบกับกองกำลังมอนเตอร์จำนวนมหาศาลในวันพรุ่งนี้และที่สำคัญ...
...ช่วยฮายอน
ดังนั้นหลังจากที่เดย์ประชุมกับพวกพันเอกเอิร์ล พันโทดอร์ค ไอน์ กริมเมอร์และขุนนางสาวแคลร์เสร็จ เขาก็มานั่งควบคุมการไหลเวียนและดูดซึมซัพพลังธาตุจากธรรมชาติต่อภายในห้องพักในคฤหาสถ์ของขุนนางสาวแคลร์ที่เธอจัดให้เดี๋ยวถ้าทำให้ระดับดาวของทุกธาตุขึ้นมาได้อย่างน้อย 1 - 2ดาวได้เมื่อไรเขาก็จะฝึกดาบต่อหรือสร้างทักษะใหม่ๆขึ้นมา
ในโลกนี้ความง่วงรู้สึกจะไม่เป็นปัญหากับเขาเลย เขาสามารถอดนอนได้หลายวันโดยที่ร่างกายยังคงสดชื่นเหมือนนอนมาทั้งวัน แต่ก็ไม่มากเกินหนึ่งอาทิตย์เขาก็จะล้าทันที
ก๊อกๆ
"สเวนคุณนอนรึยังคะ?"
เสียงหวานใสดังขึ้นหน้าห้องของเขา เสียงนีร้คือเสียงของขุนนางสาวเจ้าของคฤหาสถ์และยังเป็นเจ้าเมืองของเมืองนี้ เดย์หยุดการโคจรพลังเวทย์ก่อนจะลืมตาขึ้นและมองไปยังทิศทางของประตูพร้อมเดินไป
แอ๊ด
"ยังครับมีอะไรงั้นเหรอ?"
เดย์เปิดประตูห้องออกมา ก็พบกับแคลร์หญิงสาวหน้าสวยผมดำยาวนัยต์ตากลมโตคู่หวานสีม่วงเธอตอนนี้อยู่ในชุดนอนยาวสีขาวลายดอกไม้สีม่วง กลิ่นหอมจากตัวเธอโชยมาเดย์รับรู้ว่ามันเป็นกลิ่นของสบู่ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จมาหมาดดังนั้นเขาจึงเห็นผิวพรรณที่ขาวเนียนของเธอจึงอดไม่ได้ที่จะหน้าแดงเล็กน้อย
แต่นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจหญิงสาวหน้าไหน ในเมื่อเขาชอบทีอาและตอนนี้ฮายอนแฟนสาวปัจจุบันของเขาก็กำลังตกอยู่ในอันตรายดังนั้นเขาจึงตัดเรื่องความรู้สึกที่หลงใหลในรูปร่างของแคลร์ออกอย่างรวดเร็ว
"ฉันรู้นะว่าตอนนี้คุณกำลังลำบากใจเรื่องที่คนรู้จักของคุณคนนั้น..."
แคลร์ก้มหน้าลงเล็กน้อยพร้อมกล่าวเรื่องภาพที่เห็นในนิมิตที่แหวนมรดกของเธอได้ฉายเข้ามาในหัวของพวกเขาด้วยสีหน้ากังวล เดย์มองหน้าเธอเล็กน้อยเหมือนเธอจะตอบไม่ตรงกับคำถามที่เขาถามไป แต่ให้เดาว่าเธอคงรู้สึกเป็นห่วงเขาที่ในวันพรุ่งนี้ต้องมาสู้กับคนรู้จักของตนเอง
"ผมไม่เป็นไรอะไรหรอกไม่ต้องเป็นห่วง...ตกลงมาหาผมเพราะเรื่องนี้งั้นเหรอ?คุณไม่ต้องห่วงหรอกว่าวันพรุ่งนี้ผมจะไม่สู้เต็มที่"
เดย์กล่าวขึ้นพร้อมกับนึกถึงภาพในแหวนนั่นที่ฉายให้เขาเห็น นั่นคือขุนนางสาวตรงหน้าเขานี้จะตายในวันพรุ่งนี้โดยการโดนมอนเตอร์รุมกิน บางทีที่เธออาจมาหาเขาคงเพราะกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
ที่เธอไม่ไปหากริมเมอร์หรือไอน์บางทีตอนนี้เธออาจไม่เชื่อใจในตัวพวกเขาลึกๆแล้วก็ได้ ขนาดแม้แต่แม่เลี้ยงอย่างพันตรีเอริธที่เอ็นดูเธอเหมือนลูกมาตลอดยังหักหลังกะฆ่าเธอและหวังเอามรดกที่พ่อของเธอมอบให้เลย
ในทางกลับกันตัวเขาที่ช่วยเธอจากเหตุการณ์ในตอนนั้นที่ตัวเขาเองก็มีโอกาสที่จะตายเหมือนกัน แต่ยังคงสู้ปกป้องเธอแล้วรอดชีวิตกลับมาได้ นั่นอาจจึงเป็นเหตุให้แคลรืตอนนี้เชื่อใจตัวเขามากกว่าใครๆแล้วว่าจะ...
...ปกป้องเธอได้และไม่หักหลังเธอเหมือนคนอื่น
หมับ
"อ้ะ?!"
เดย์ที่ตอนนี้พอเดาสาเหตุที่เธอมาหาเขาได้แล้วก็มองเธอด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ พันตรีเอริธได้สร้างบาดแผลในใจของเธอเข้าให้เสียแล้ว การถูกคนที่เชื่อใจหักหลังนี่มันยากที่จะรักษาหายได้ เธอในตอนนี้ก็เหมือนกับเขาก่อนที่มาโลกนี้
เขาเองก็โดนสหายเพื่อนร่วมรบมาเป็นปีหักหลังโดยการยิงจากข้างหลังจนถึงแก่ความตายเช่นกัน...
"แคลร์ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณตายแน่นอนรวมถึงเมืองและผู้คนของคุณด้วย...และผมก็จะไม่มีทางหักหลังคุณ"
เดย์จับเธอเข้ามากอดซบที่หน้าอกของเขาอย่างอ่อนโยน พร้อมเอ่ยคำสัญญาออกไปว่าจะปกป้องเธอ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาได้ทำอะไรลงไป แคลร์เองเป็นแค่หญิงสาวในภารกิจของเขาที่เพิ่งเจอหน้ากันเพียงสามวัน
แต่เหตุใดเขาถึงกับต้องสัญญากับเธอว่าจะปกป้องเธอด้วย เธอไม่ใช่แม้กระทั้งเพื่อน ครอบครัวหรือคนรัก...เสียด้วยซ้ำ
บางที...
ตัวเขาคงคิดว่าตัวของแคลร์นั้นเหมือนกับเขาละมั้ง
คนที่โดนหักหลังจากความเชื่อใจ
การที่จะปล่อยให้คนแบบเดียวกับเขาเผชิญหน้ากับปัญหานั้นเพียงคนเดียว บางทีเขาคงไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ละมั้ง...
ฮึก ฮึก
แคลร์พอได้ฟังดังนั้นตัวของเธอก็สั่นเทาจนเดย์รู้สึกได้ เสื้อผ้าบางๆตรงหน้าอกของเขาเริ่มที่จะเปียกชุ่มกับน้ำตาของหญิงสาว เธอกอดตอบเขากลับแน่นขึ้นเรื่อยๆ ด้วยร่างของเธอที่ตัวเล็กกว่าทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนปกคลุมภายใต้อ้อมกอดแสนอบอุ่นของเดย์
คำพูดอันอ่อนโยนของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวรู้สึกราวกับถูกปลดปล่อยจากความเจ็บปวดที่ถูกบีบอัดเก็บไว้ในหน้าอกข้างซ้ายของเธอ ถ้ามีใครมาเห็นสภาพของเธอในตอนนี้คงไม่คาดคิดว่าเธอเป็นคนเดียวกับ...
'แม่มดผู้เพียบพร้อม' คนนั้น...
หญิงสาวที่สามารถสร้างคำพูดที่เหมือนควบคุมได้ทุกอย่างราวกับเป็นพลังของแม่มด สายตาอันเฉียบคมและไหวพริบอันชาญฉลาดที่ใครได้มองถึงกับต้องหวาดกลัวถ้าคิดจะทุจริตกับเธอ
หญิงสาวที่แข็งแกร่งและแสนสง่าคนนั้นตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงหญิงสาวอ่อนแอคนนึงเพียงเท่านั้น
พรึบ!
"เอ้ะ?!"
เสียงบางอย่างดังขึ้นจนเดย์ถึงกับต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เมื่อเขาก้มลงไปมองที่มาของเสียงนั้นก็พบว่า...
แคลร์ได้ปลดเสื้อผ้าของตนเองออกจนตอนนี้เหลือแต่ร่างเปลือยเปล่าที่ขาวอมชมพูเนียนชวนสัมผัส หน้าอกหน้าใจของหญิงสาวที่เปลือยเปล่าก็ทาบลงมาที่หน้าอกของเขาเดย์ตอนนี้สับสนทำอะไรไม่ถูก
"ทะ...เธอจะทำอะไรน่ะแคลร์"
ทันทีที่หญิงสาวได้ยินเสียงของเขา เธอก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับคราบน้ำตาที่ยังคงหลงเหลือ แต่สีหน้าของเธอยิ้มกลับยิ้มมองเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ แล้วใบหน้าที่เหมือนหญิงสาวที่กำลังหวาดกลัวคนนั้นหายไปไหนแล้วละ?
ผลัก!
ตุบ!
เธอผลักเขาลงบนเตียงของเขาก่อนจะขึ้นคร่อมเขาด้วยร่างอันเปลือยเปล่าแสนเย้ายวลใจของเธอ เดย์อดไม่ได้ที่จะมองสำรวจเรือนร่างเธอทุกส่วนพร้อมกลืนน้ำลายลงคอ
"คุณอาจยังไม่รู้กฎของตระกูลของฉันนะ แต่ว่าใครคนไหนที่สวมแหวนให้ผู้สืบทอดมรดกหรือสวมใส่ตนเองคนคนนั้นจักต้องแต่งงานกับผู้สืบทอดมรดกและผู้สืบทอดคนนั้นก็คือฉันและอีกคนก็คือ...คุณไงละ"
ถึงแม้แคลร์จะยิ้มพร้อมกล่าวออกมาโดยไม่ติดขัด แต่เธอก็มีสีหน้าที่แดงและมือของเธอที่กำลังปลดเสื้อผ้าของเขาก็สั่นๆตะกุกตะกักเหมือนไม่เชี่ยวชาญ...
แสดงว่านี่เองก็คงเป็นครั้งแรกของเธอ แต่จากที่เธอกล่าวมาแสดงว่าเขาต้องแต่งงานกับเธออย่างงั้นเหรอ?
"เดี๋ยวสิแคลร์!...ผมไม่เห็นรู้เรื่องนั้นเลย!"
"คุณผิดเองนั่นแหละค่ะที่มาจับต้องแหวนนั่นโดยไม่ได้รับอนุญาติ แถมสวมแหวนให้ฉันโดยไม่ถามอีก...แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะถ้าเป็นคุณฉันก็ยอมรับได้ที่จะให้คุณมาเป็นสามี"
แคลร์กล่าวโดยไม่สนใจชายหนุ่มเธอก็ปลดเสื้อเขาต่อ ทางเดย์ก็กลั้นกิเลสเต็มที่เพราะร่างเปลือยแสนเซ็กซี่ของแคลร์กำลังคร่อมร่างของเขาหน้าอกหน้าใจก็กระเพื่อมตามจังหวะเคลื่อนไหวของเธอ
เดย์ตอนนี้อดกลั้นอารมณ์ไม่ให้พุ่งไปขย้ำเธอจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว...
ถึงในหัวของเขาตอนนี้จะมีเรื่องของทีอาและฮายอนมาตีในหัวจนวุ่นวายไปหมดก็เถอะ บางทีแคลร์คงไม่รู้ว่าฮายอนเป็นแฟนของเขาละมั้งถึงกล้าที่จะทำแบบนี้หรือบางทีความเครียดจากการที่เห็นตัวเองตายเลยทำให้แคลร์ที่แสนใจเย็นกลายเป็นแบบนี้ไปรึเปล่า?
ด้วยกิเลสที่กำลังครอบงำเดย์เรื่อยๆ ทำให้เขาเกิดความคิดที่สนับสนุนเรื่องตรงหน้านี้่โดยหาเหตุผลมากล่าวอ้างสารพัดจนเกิดความคิดพวกนี้ขึ้นมา
'จะว่าไปเราก็ได้ทีอาสอนเวทย์คลายสะกดแล้วนี่นา ถ้าเจอเธอพรุ่งนี้ก็คงช่วยเหลือได้อย่างง่ายดายแล้วแล้วเราจะกังวลอะไรอีก?...ส่วนทีอาผมขอโทษนะผมไม่สามารถอดกลั้นต่อไปได้แล้ว'
ในที่สุดเดย์ที่ความคิดตีกันในหัว ระหว่างความดีกับกิเลสก็เป็นกิเลสที่ได้รับชัยชนะไป...
จนกลายเป็น...
'ตบะแตก'
หมับ!
"วั๊ย!"
เดย์พุ่งจับแคลร์ล้มลงนอนกับฟูกนอน...
"เธอผิดเองนะแคลร์...แต่ไม่ต้องห่วงหลังจากนี้ฉันจะรับผิดชอบเธอเอง"
"...สเวน...อ๊ะ"
เดย์ว่าจบก็เข้าไปจูบต้นคอของเธอจนแคลร์เกิดความรู้สึกเสียวซ่านขึ้นฉับพลัน เดย์ปลดเสื้อผ้าของตนเองออกจนหมดจนอยู่ในร่างเปลือยเปล่า เดย์ตอนนี้ไม่สนอะไรแล้วเขาก้มลงจูบกับแคลร์ริมฝีปากของทั้งสองประกบกันลิ้นของทั้งสองก็แลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน
"สะ...เวน"
เดย์มองหน้าของแคลร์ที่ตอนนี้หมดแรงจากการถูกกระตุ้นของเขา หน้าของแคลร์ตอนนี้แดงระเรื่อเหงื่อเต็มตามตัวเธอ เมื่อเห้นสีหน้าของเธอก็แสดงว่าน้องสาวของเธอคงพร้อมแล้ว น้องชายของเขาตอนนี้ก็พร้อมสุดๆเช่นเดียวกัน
แต่ในขณะที่เดย์กำลังจะมีอะไรกับแคลร์นั้น...
แก๊ง แก๊ง!!
เสียงระฆังของเมืองเพเดร์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะร่วมรักของทั้งสอง พร้อมกับเสียงตะโกนของเหล่าทหาร
"พวกมอนเตอร์บุกแล้ว!!"
"!!!"
เสียงนั่นช่วยเรียกสติของทั้งสองคน เดย์รีบลุกจากท่าคร่อมของเขาก่อนจะดีดตัวรีบใส่เสื้อผ้าทันที แคลร์พอได้สติเธอก็หน้าแดงแจ๋จนแทบอยากแทรกแผ่นดิน ในหัวของเธอต่างคิดเป็นคำเดียวว่า
'ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย'
จนถึงตอนนี้่เธอก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเธอถึงมาที่ห้องของเดย์ คงเพราะเธอกลัวเรื่องที่เธอจะตายจริงๆละมั้ง และพอได้ฟังคำพูดที่เขาจะปกป้องเธอมันเหมือนราวกับว่าอะไรบางอย่างในตัวของเธอมันขาด
ในตอนนั้นเธอเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจว่าคนที่เธอจะแต่งงานด้วยต้องเป็นเขาเพียงเท่านั้นถึงแม้จะไม่มีเรื่องกฎของตระกูลมายุ่งก็ตาม
แต่สามีของเธอต้องเป็นเขาเพียงเท่านั้น ทำให้ตอนนั้นเธอเกิดอารมณ์ชั่ววูบกลัวว่าถ้าหญิงสาวผมชมพูคนนั้นที่เขาเป็นห่วงคือคนรักของเขาเธอจะทำอย่างไร
ในตอนนั้นเหมือนความโลภของเธอเกิดครอบงำเธอวางแผนที่จะมีอะไรกับเขา เพื่อที่ตัวเธอคนเดียวเพียงเท่านั้นที่จะเป็นของเขาเพียงคนเดียว
"แคลร์"
"...?"
เสียงเรียกของเขาทำให้หญิงสาวที่ตอนนี้กอดผ้าห่มแน่นด้วยความรู้สึกสับสนหันไปมอง
"ไม่ต้องห่วงเองถ้าเรื่องกฎของตระกูลคุณเป็นจริงอย่างว่าผมก็จะรับผิดชอบโดยการแต่งงานกับคุณเอง แต่ตอนนี้ช่วยลืมเรื่องนั้นไปก่อนคุณต้องนำทัพในครั้งนี้นะอย่าลืมสิ"
"...ขอโทษค่ะคือฉัน..."
ราวกับภาพในแหวนนั่นปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง ภาพที่เธอถูกมอนเตอร์รุมกิน...
กึกๆ
นั่นทำให้แคลร์เกิดความกลัวขึ้นมาอีกครั้ง มันยากที่จะลบความกลัวของภาพนั้นออกจากใจของเธอได้
หมับ!
"ไม่ต้องห่วงคุณจะไม่ตาย"
เดย์กล่าวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยน แสงอาทิตย์อัสดงฉายเข้าส่องใบหน้าของพวกเขาทั้งคู่ ก่อนสีหน้าของแคลร์จะเปลี่ยนไปใบหน้าของเธอตอนนี้พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
เธอจะไม่ยอมให้เหตุการณ์ในอนาคตนั่นเกิดขึ้นจริงได้อย่างแน่นอน
"ค่ะ แล้วคุณก็จะช่วยเพื่อนของคุณได้เช่นกัน"
ทั้งสองยิ้มให้กันภายใต้แสงอาทิตย์อัสดงที่ฉายเข้ามาในห้องของพวกเขา ก่อนทั้งสองจะออกไปเผชิญกับสงครามตรงหน้าทันที....
"......."
ทุกสิ่งทุกอย่างแน่นอนว่าไม่เคยรอดพ้นสายตาของทีอา ใบหน้าของเธอเรียบนิ่งมองไปยังลูกแก้วในมือในขณะที่เธอกำลังขี่อสูรมังกรยักษ์สีทมิฬพร้อมกองกำลังรบนับสองแสนของเธอเพื่อไปรบกับจูเลียสวานาดีสแห่งเพลิงสีน้ำเงิน
ครืน...
ในมือของเธอถือหอกสีดำที่มีคลื่นพลังแผ่ออกมาอย่างน่ากลัว แถมท่าถือของเธอเหมือนกำลังจะขว้างมันไปไหนซักที่ เธอมองลูกแก้วนั้นเพียงเล็กน้อยก่อนเก็บหอกลงพร้อมจ้องไปที่แคลร์...
"เกือบตายแล้วนะเจ้าน่ะ"
ข้อมูลเดย์
[เดย์ ข้ารับใช้จอมมาร]
[สเวน]
ฉายา : ผู้ปราบวิญญาณ
นักผจญภัยระดับ : B
อาชีพ : นักดาบ
ระดับ : ขั้น 4 ระดับ 50
เลเวล : 350
พลังธาตุ :
[ธาตุลมระดับ 3 : 6 ดาว]
[ธาตุไฟระดับ 2 : 6 ดาว]
[ธาตุน้ำระดับ 2 : 2 ดาว]
[ธาตุดินระดับ 2 :1 ดาว]
[ธาตุสายฟ้าระดับ 3 : 5 ดาว]
[ธาตุแสงระดับ 2 : 0 ดาว]
[ธาตุความมืดระดับ 2 : 2 ดาว]
ทักษะ :
-ควบคุมโลหิต ระดับ S
- กายาภูติผี ระดับ SS
-เคลื่อนย้ายควัน ระดับ S
-สายลมเริงระบำ ระดับ S
-ทักษะกรดแห่งไสลม์ ระดับ E
-ทักษะสร้างทายาทกับทุกเผ่า ระดับ A
-ทักษะทำอาหาร ระดับ B
-ทักษะเย็บปักถักร้อย ระดับ A
-ทักษะทำความสะอาด ระดับ B
-ทักษะต้านทานกายภาพ ระดับ : A
-ทักษะลุ่มหลง ระดับ : A
-ทักษะแรงดึงดูด ระดับ : S
-พยัคฆ์อัศนีบาต ระดับ : A
-ทักษะอาภรณ์แสง ระดับ : B
-ทักษะปลุกชีพศพ ระดับ : S
-ทักษะควบคุมเงา ระดับ : A
อาวุธ :
- ดาบคาตานะ (ต่างโลก) ระดับ : SSS
-ปืนไรเฟิล M41 (ต่างโลก) ระดับ : SSS
-ปืนพก DSE (ต่างโลก) ระดับ : SSS
-เคียวยมทูต ระดับ : A
ชุดอุปกรณ์
-ชุดผู้กอง (ต่างโลก) ระดับ : A
-ชุดยมทูต ระดับ : A
-หน้ากากยมทูต ระดับ : A
-ลูกแก้วแรร์มานา ระดับ : A
ปล.คอมเม้นเป็นกำลังใจในการแต่งตอนต่อไปน้า
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย