จักรวรรดิ์โรฮันเนสล่า
เมืองเพร์
ณ คฤหาสถ์ของเจ้าเมือง
วิ๊งๆ
ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างได้สงบลงแล้วหลังจากนักฆ่าจากองค์กรปริศนาหลบหนีไปได้ ห้องทำงานของขุนนางสาวก็ได้ทำการซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อยโดยเหล่านักเวทย์ธาตุดิน
ทางพันตรีเอริธพอได้ทราบเรื่องก็ได้ส่งกองกำลังทหารของจักรวรรดิ์ภายใต้การบังคับบัญชาของเธอมาคุ้มครองขุนนางสาวที่เป็นลูกสาว(ไม่แท้)ของเธอ
ทางด้านเดย์หรือสเวนตอนนี้ก็ได้รับความดีความชอบจากทางทหารของพันตรีเอริธที่สามารถปกป้องชีวิตของเจ้าเมืองเพเดร์หรือขุนนางสาวในภารกิจของเขาเอาไว้ได้
"........"
ส่วนตอนนี้เขาก็กำลังนั่งเฝ้าขุนนางสาวที่หลังจากเธอได้รับการรักษาบาดแผลตามตัวที่เกิดจากถูกเปลวเพลิงแลัโดนนักฆ่าคนนั้นทำร้ายโดยเหล่านักเวทย์ธาตุแสงแล้วก็หลับมาตลอดในห้องนอนของตัวเธอเอง อันที่จริงทางพันตรีเอริธได้บอกกับเขาว่าภารกิจได้เสร็จสิ้นแล้ว
โดยให้เขามอบของในถุงนั่นฝากไว้กับทหารของเธอที่เฝ้าขุนนางสาวไว้และให้ตัวเขากลับมาที่เมืองหลวงเพื่อให้เขาได้ไปทำการสอบวัดความเป็นผู้นำและจะได้ทำการเลื่อนขึ้นเป็นว่าที่ร้อยตรีทันที
แต่ทว่าด้วยความสงสัยบางอย่างของเดย์จึงขอเลื่อนการเดินทางกลับไปให้พันตรีเอริธได้รับรู้ ตอนนี้มีเรื่องอยู่สองเรื่องที่เขาต้องทำตอนนี้ พูดคุยเรื่องนักฆ่ากับขุนนางสาวรวมทั้งสิ่งของที่อยู่ในถุงนี้โดยตรงแน่นอนว่ามันอาจไม่ใช่เรื่องของเขา...
แต่เมื่อได้รับรู้สิ่งที่ผิดแปลกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง พูดง่ายๆคือถ้าเขาสงสัยอะไรเขาก็จะต้องหาคำตอบนั่นให้พบไม่งั้นด้วยลักษณะนิสัยของเขาเขาคงไม่มีทางนอนตายตาหลับ
ส่วนอีกเรื่องคือ...ฮายอนได้หายตัวไป
แอนนาได้เล่าว่าฮายอนทะยานไปยังทิศทางหนึ่งที่ตรงข้ามกับทางคฤหาสถ์ของขุนนางสาว เหมือนกับว่าเธอกำลังไล่ตามอะไรบางอย่าง แล้วเธอก็ไม่กลับมาอีกเลยหลังจากนั้น
เขาคาดว่าเธอน่าจะเห็นหญิงสาวนักฆ่าคนนั้นแล้วก็ตามเธอไปในทันทีเพื่อหวังจับมาให้เขา แต่เวลาป่านนี้เธอก็ไม่กลับมา เขามั่นใจว่าระดับฮายอนน่าจะชนะนักฆ่าสาวคนนั้นได้ไม่ยากแต่เหตุใดป่านนี้เธอจึงไม่กลับมากัน
"เธออยู่ไหนกันนะ...ฮายอน"
"...อือ"
"หือ?ตื่นแล้วสินะ..."
เดย์เมื่อได้ยินเสียงเบาๆและเมื่อมองดูหญิงสาวขุนนางก็ค่อยๆปรือตาขึ้นมาอย่างช้า เธอจะพยายามส่งสายตามองไปรอบๆอย่างช้าๆเพื่อดูว่าที่นี่คือที่ไหน ก่อนจะมองมายังเดย์ที่ตอนนี้ยืนมองดูเธออยู่
"คุณ..."
"ผมว่าที่ร้อยตรีสเวนครับ ผมเป็นคนที่ส่งมอบมรดกของตระกูลคุณให้กับคุณตามคำสั่งของพันตรีเอริธครับ"
เดย์กล่าวขึ้นเพราะยังไงเขาก็น่าจะผ่านการสอบเลื่อนเป็นว่าที่ร้อยตรีอยู่แล้วจึงกล้าบอกไปแบบนั้น เพื่อให้ขุนนางสาวคลายความแคลงใจที่เขารับมือกับนักฆ่าในตอนนั้นได้ภายใต้ชุดทหารจักรวรรดิ์ที่ไร้ยศตำแหน่ง
"มิน่าละคุณคือผู้มีพรสวรรค์ในการสอบเข้าเป็นนายกองนั่นเอง ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยชีวิตฉันไว้"
"มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ อย่าได้ห่วงเรื่องนั้นเลย..."
เดย์กล่าวกับขุนนางสาวที่มองเขาด้วยสายตารู้สึกขอบคุณอย่างอ่อนโยน เธอมองรอบๆเล็กน้อยก็รู้ว่าที่นี่คือห้องนอนของเธอเอง ดูเหมือนว่าเธอจะหลับไปนานพอสมควรเพราะเธอสัมผัสได้ว่าในคฤหาสถ์ของเธอมีทหารเต็มไปหมด
"........."
ก่อนเธอจะมีสีหน้าที่เครียดลงเล็กน้อย ก่อนถามอะไรบางอย่างกับเดย์
"คุณสเวน ฉันขอถามอะไรหน่อยนะคะ...นักเวทย์น้ำแข็งของฉันและองครักษ์ของฉันกลับมาถึงรึยังคะ?"
ขุนนางสาวหันมาถามด้วยสีหน้ากังวลกับเดย์ เขาก็แปลกใจเล็กน้อยกับสีหน้าแปลกๆของเธอ ก่อนจะนึกถึงคำถามของเธอ
ได้ข่าวจากปากชาวบ้านและพันตรีเอริธอยู่บ้างว่าเธอนั้นมีนักเวทย์น้ำแข็งผู้มีพลังสองธาตุในการควบคุมจัดการเรื่องพืชฤดูหนาวของเธอ และมีองครักษ์ที่แข็งแกร่งพอสมควรแต่ตอนนี้โดนพันตรีเอริธว่าจ้างให้ไปช่วยงานเรื่องนึงอยู่
"ยังเลยครับ ผมเองก็สงสัยเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ตามหลักถ้าเกิดเรื่องแบบนี้กับท่านพวกเขาก็ควรน่าจะรีบกลับมาได้แล้ว..."
เดย์ตอบเธอ ก่อนกล่าวความสงสัยของเขาให้เธอได้ฟัง คาดว่าเธอเองก็คงคิดเหมือนกับเขาเช่นเดียวกัน...
"......."
ขุนนางสาวผงกหัวอย่างเข้าใจ ก่อนจะเหลือบมองไปทางหน้าห้องเล็กน้อย เดย์คาดว่าเธอน่าจะมองพวกทหารที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง
เขาก็มองตามเธอก่อนจะหรี่ตาลงเมื่อเขาสัมผัสได้ว่าตอนนี้พวกทหารทุกคนในคฤหาสถ์...มีจิตสังหารมากขึ้นเรื่อยๆราวกับว่ากำลังเตรียมพร้อมจะฆ่าใครซักคนแล้วตอนนี้
ตึก ตึก
ด้วยประสาทสัมผัสเฉียดคมของเธอ เขาก็สัมผัสได้ว่าพวกทหารนั้นกำลังขึ้นบันไดมายังที่นี่จำนวนหลายสิบคน สีหน้าของขุนนางสาวก็เครียดขึ้นเรื่อยๆคาดว่าเธอเองก็ทราบถึงเรื่องนี้เหมือนกัน...แต่อาจพึ่งไม่นานนี้
วึ่ม
"....."
"คุณสเวนฉันมีเรื่องจะข้อร้องอะไรซักหน่อยนะคะ"
"...อะไรงั้นเหรอครับ"
ขุนนางสาวรู้สึกจะใช้เวทย์อะไรบางอย่างปกคลุมที่นี่ มันเป็นเวทย์ไร้ธาตุ เขาคาดว่าน่าจะเป็นเวทย์ปิดกั้นเสียง เพื่อให้แค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยินกันและกัน
"ฉันอยากให้คุณเก็บมรดกนั่นไว้กับตัวคุณเอง ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่ามันมีค่าแค่ไหน แต่ฉันเชื่อใจคุณว่ามันจะต้องถูกคุณใช้ไปในทางที่ถูกได้แน่นอนเพราะฉะนั้น...
...พามันหนีไปพร้อมกับคุณตอนนี้เลยค่ะ"
ขุนนางสาวนำมือมากุมมือทั้งสองข้างของเดย์ ก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยน เดย์มองดูก็รู้ว่าสภาพของเธอตอนนี้ยังมีบาดแผลช่วงขานั้นที่ยังไม่ได้รับการรักษา
แสดงว่านี่อาจเป็นจุดประสงค์ของพวกมันที่ไม่ต้องการให้เธอหนีไปไหน คงเพราะเขาช่วยชีวิตเธอไว้เธอจึงไว้ใจเขามากขนาดนี้
เธอคงรู้อยู่แล้วว่าพวกทหารที่ส่งมาคุ้มกันเธอนั้นคือพวกคนที่ได้รับสั่งการมาให้ฆ่าเธอ และการที่องครักษ์ของเธอและนักเวทย์น้ำแข็งยังไม่รีบกลับมา บางทีเพราะคนคนนั้นปิดข่าวเรื่องที่ขุนนางสาวผู้นี้ถูกทำร้ายทำให้พวกเขาไม่ได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น
หมับ!
"เอ้ะ!คุณสเวนคุณคิดจะทำอะไรคะ?!ฉันบอกให้คุณรีบหนีไป...!"
ปัง!!
เดย์อุ้มขุนนางสาวขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนโดยไม่ลังเลและไม่ฟังคำพูดใดๆของเธอ ก่อนจะมีเสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับทหารของพันตรีเอริธจำนวนมากทยอยเข้ามาล้อมรอบพวกเขาไว้
ขุนนางสาวก็มองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าเครียดเพราะทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอคาดการณ์ไว้ทั้งหมด
"เป็นคุณจริงๆด้วยสินะ...ท่านแม่...ที่ส่งนักฆ่าคนนั้นมาฆ่าฉัน"
ขุนนางสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเดย์ก็มองไปยังทางตรงกลางหน้าประตูห้อง ก่อนจะมีหญิงวัยกลางคนในชุดทหารระดับนายพันเดินเข้ามาพร้อมคลี่ยิ้มมาทางเธอ
"ฉลาดสมกับฉายาแม่มดผู้เพียบพร้อมจริงๆเลยนะลูกแม่...ว่าแต่เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเป็นฝีมือแม่"
พันตรีเอริธถามขึ้น...
"ในตอนแรกฉันก็ไม่รู้หรอกค่ะ แต่ฉันพอเริ่มคาดเดาตั้งแต่ทราบข่าวจากพวกพ่อค้าจากกองคาราวานว่าทหารที่ดูแลมรดกของท่านพ่อหนูที่คุณแม่ส่งมาถูกดักโจมตีระหว่างทาง...แต่ตอนนั้นฉันไม่คิดว่าเป็นท่านแม่หรอกนะคะ"
ขุนนางสาวเหลือบมองเดย์ที่ตอนนี้มองไปข้างหน้าด้วยสีหน้านิ่งเรียบเล็กน้อย...
"แน่นอนว่านั่นเป็นแผนของฉันไงละที่กันไม่ให้เธอสงสัยในตัวฉัน โดยการทำร้ายทหารของฉันเสียเองและให้นักฆ่าที่ฉันจ้างด้วยเงินขโมยมรดกนั่นมา แต่ก็ดันผิดพลาดที่พวกนี้ดันเก่งกาจเกินกว่าที่คิด..."
"......"
พันตรีเอริธเหลือบมองมาที่เดย์อย่างไม่ชอบใจเล็กน้อย
"ดังนั้นท่านแม่เลยส่งนักฆ่าระดับสูงมาเพื่อฆ่าฉันแทน พร้อมกับให้คนคนนั้นฆ่าพวกคุณสเวนไปด้วยทันทีที่มาถึงและจึงชิงมรดกไป"
"แต่ไอ้บ้านี่ก็ดันมาช่วยเธอไว้ได้ทันและขับไล่นักฆ่านั่นไปได้อีก..."
พันตรีเอริธมองอย่างไม่พอใจต่อมาที่เดย์อีกครั้ง ก่อนจะรับฟังข้อสันนิษฐานของลูกเลี้ยงของเธอต่อ
"หลังจากนั้นท่านแม่ที่กลัวดอเรนกับไพซ์กลับมาช่วยจึงได้ทำการปิดข่าวที่ฉันถูกลอบสังหารไม่ให้แพร่งพรายออกไป แล้วจึงส่งทหารภายใต้สังกัดของตนเองมารวมกันทำทีว่าจะมาป้องกันให้ฉัน แต่ที่จริง..."
ขุนนางสาวพูดเว้นว่างทิ้งไว้...
"มาเพื่อสังหารแกกับไอ้หนุ่มตัวแสบนี่ยังไงละ ผิดพลาดที่ไม่รู้ว่าผู้หญิงอีกคนหายไปไหน...แต่แค่ฆ่าพวกแกแล้วชิงมรดกมาก็จบละ...
...พูดกันแค่นี้ละกันเพราะยังไงพวกแกก็ต้องตายอยู่ดี ทหารของฉันที่อยู่ที่นี่ระดับร้อยตรีขึ้นไปทั้งนั้นและมีถึง 30 คนไม่มีทางที่แกทั้งสองคนจะหนีรอดไปได้หรอก...
เพราะฉะนั้นก็จงตายซะเถอะ!"
พันตรีเอริธว่าแค่นั้นก็ชี้มือไปทางพวกเขา ขุนนางสาวได้ยินก็ทำใจทั้งน้ำตาเพราะเธอไม่เคยคิดว่าแม่เลี้ยงที่เธอเคารพรักมาตลอดคิดจะฆ่าเธอเพื่อหวังครอบครองมรดกทั้งหมดของพ่อของเธอ
ถึงตอนสันนิฐานตะกี้เธอจะมีสีหน้าใจเย็นเหมือนไม่รู้สึกอะไร...
แต่ภายในใจของเธอเจ็บปวดหัวใจอย่างที่สุดราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆเมื่อคนที่เธอคิดว่าเป็นเสมือนแม่ของเธอมาตลอดคิดจะฆ่าเธอเพื่อสมบัติ
"เปลวเพลิงแผดเผา!!"
พวกทหารใช้เวทย์ไฟยิงมาที่พวกเขา ความร้อนแรงของเปลวไฟทำให้ทางที่เปลวไฟผ่านละลายเลยทีเดียว ขุนนางสาวเงยหน้ามองมาที่เดย์ครั้งสุดท้ายเพื่อหวังจะขอโทษเขาที่ต้องทำให้เขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ไปกับเธอด้วย
"ขอโทษนะ...!"
แต่ไม่ทันที่ขุนนางสาวภายใต้อ้อมแขนของเขาจะได้ทันพูดอะไร เดย์ก็นำนิ้วมาแตะที่ริมฝีปากของเธอด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ก่อนจะกล่าวกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ไม่ต้องพูดอะไรหรอแกครับ เพราะผมจะไม่ตายและ...คุณเองก็เช่นกัน"
ขณะที่เปลวไฟที่ร้อนระอุพร้อมเผาผลาญพวกเขาทั้งคู่กำลังมาถึงตัวพวกเขาในอีกไม่ช้า เดย์ก็พึมพัมเบาๆเรียกใช้ทักษะที่ได้จากลาเมียร์พร้อมกับใช้ทักษะกายาภูติผีทำให้เขาและขุนนางสาวไม่โดนเปลวไฟพวกนั้น
ตึง!!
"อั้ก!!"
ตูมมม!!
"อะไรกัน!!"
ร่างของพวกทหารชั้นนายร้อยมุกคนทรุดลงกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง พร้อมกับเปลวไฟของพวกเขาที่ทะลุผ่านร่างของเดย์และขุนนางสาวอย่างหน้าตาเฉย ภาพเหตุการณ์ตรงหน้านี้ถึงกับทำให้พันตรีเอริธแทบจะอดอุทานอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตนเองไม่ได้
ฟึบ
"เอ้ะ?!"
"สวมแหวนนี่ไว้นะครับ เพราะมันเป็นของที่พ่อของคุณต้องการมอบให้คุณคนเดียว"
เดย์ยิ้มกล่าวด้วยสีหน้าอ่อนโยนกับเธอและใจเย็นกับสถานการณ์ตรงหน้านี้ หลังจากนำแหวนวงนึงที่อยู่ในถุงสีแทงที่พันตรีเอริธมอบมาให้สวมแหวนให้กับเธอ
ขุนนางสาวตอนนี้ก็กำลังสับสนไปหมดเธอทำตัวไม่ถูกแล้วกับสถานการณ์อย่างงี้เขาสวมแหวนให้เธอ?
เหตุใดเขาถึงทำให้พวกทหารเหล่าระดับหัวกะทิเหล่านั้นล้มลงได้โดยที่ตัวเขาเองกลับเพียงแค่อยู่เฉยๆ?
แล้วเปลวเพลิงที่พวกนั้นโจมตีมาทำไมกลับผ่านร่างของพวกเขาไปได้แบบนั้น?
ในหัวของขุนนางสาวตอนนี้สับสนงุนงงไปหมดยากที่เธอจะเข้าใจได้แล้ว และก่อนที่เธอจะพยายามทำความเข้าใจอะไร เดย์ใช้ฝ่ามือของเขาใช้พลังธาตุน้ำพ่นใส่พวกทหารที่นอนกองอยู่กับพื้น
ก่อนเขาจะใช้มืออีกข้างเคลือบด้วยพลังธาตุสายฟ้าแล้วนำมือข้างนั้นแตะไปที่พวกทหารเหล่านั้น...
เปรี้ยง!!
"อ๊ากกก!!"
สายฟ้าที่มือของเขาทันทีที่กระทบกับน้ำบนตัวพวกเขา พลังของสายฟ้านั่นก็โจมตีอย่างรุนแรงมากกว่าที่เธอเห้นในตอนแรกที่เขาใช้สู้กับนักฆ่าคนนั้นเสียอีก
แถมครั้งนี้มันกลับเป็นวงกว้างช๊อตร่างพวกทหารหัวกะทิเหล่านั้นทุกคนจนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มีเพียงพันตรีเอริธเท่านั้นที่ทะยานฉีกหลบสายฟ้านั่นออกไปได้ทัน
( เดย์ใช้ทักษะกายาภูติเคลือบตัวตัวเองเพื่อให้ขุนนางสาวไม่โดนสายฟ้าช๊อตไปด้วย)
"แกเป็นใครกันแน่!พลังขนาดนี้แกต้องไม่ใช่ทหารธรรมดาๆแน่นอน!"
พันตรีเอริธกล่าวขึ้นเสียงดัง พร้อมกับชักอาวุธคทาประจำตัวของเธอขึ้นมา เธอมั่นใจว่าพลังของเธอที่เป็นถืออัจฉริยะที่มีถึง 3 ธาตุต้องชนะเดย์ได้แน่นอนถึงเธอจะมีพลังธาตุของวอยเซฟเฟอร์ด้วยก็ตาม (เข้าใจว่าเดย์มีพลังแค่ธาตุน้ำกับสายฟ้า)
"ก็แค่คนคนนึง...ที่จะกลายเป็นจอมพลของจักรวรรดิ์นี้ยังไงละ!"
เดย์กล่าวแค่นั้นก็วางขุนนางสาวลงพร้อมหยิบอาวุธ...ปืน!ของเขาขึ้นมา แต่แน่นอนว่าเขาต้องการจับตัวเป็นเธอจึงได้ทำกระสุนยาสลบไว้แล้ว
"........."
ขุนนางสาวมองแหวนที่เขาสวมให้ด้วยสีหน้าแดง ก่อนจะนึกไปถึงคำพูดของพ่อของเธอ...
'แหวนมรดกนี้ ถ้าลูกจะสวมมันลูกจะต้องมีคนที่ลูกอยากเคียงข้างคนที่ลูกต้องการจะอยู่ด้วยและต้องเป็นคนที่สามารถปกป้องลูกได้ พูดง่ายๆคือ...
คนที่ลูกจะต้องแต่งงานด้วยและให้เขาสวมแหวนวงนั้นให้ลูก...'
ขุนนางสาวหน้าแดงพร้อมกับมองมาที่เดย์ ก่อนเดย์จะยิงปืนกระบอกนั้นไปที่พันตรีเอริธ ก็ได้มีภาพบางอย่างเกิดขึ้นในหัวของขุนนางสาวพร้อมกับแหวนมรดกที่เดย์สวมให้เธอเปล่งแสงออกมา
วิ๊งๆ
"!!!"
ภาพที่เธอเห็นอยู่ในหัวของเธอตอนนี้คือภาพมอนเตอร์และอสูรจำนวนมากนับหมื่นบุกเข้ามาโจมตีเมืองของเธอ ทหารและชาวบ้านต่างล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
ทหารของเธอ นักเวทย์น้ำแข็งและองครักษ์ของเธอที่กลับมาตอนไหนไม่ทราบสู้ป้องกันกับพวกมอนเตอร์จนตัวตาย และในภาพนั้นก็เดย์สู้กับหญิงสาวผมชมพูคนนึงในชุดทหารจักรวรรดิ์ไร้ยศตำแหน่งเหมือนกับเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
ก่อนภาพสุดท้ายที่ขุนนางสาวเห็นจะเป็นตัวเธอเอง...ที่โดนมอนเตอร์รุมกิน
ข้อมูลเดย์
[เดย์ ข้ารับใช้จอมมาร]
[สเวน]
ฉายา : ผู้ปราบวิญญาณ
นักผจญภัยระดับ : B
อาชีพ : นักดาบ
ระดับ : ขั้น 4 ระดับ 50
เลเวล : 350
พลังธาตุ :
[ธาตุลมระดับ 3 : 5 ดาว]
[ธาตุไฟระดับ 2 : 6 ดาว]
[ธาตุน้ำระดับ 2 : 1 ดาว]
[ธาตุดินระดับ 2 : 0 ดาว]
[ธาตุสายฟ้าระดับ 3 : 4 ดาว]
[ธาตุแสงระดับ 1 : 6 ดาว]
[ธาตุความมืดระดับ 2 : 1 ดาว]
ทักษะ :
-ควบคุมโลหิต ระดับ S
- กายาภูติผี ระดับ SS
-เคลื่อนย้ายควัน ระดับ S
-สายลมเริงระบำ ระดับ S
-ทักษะกรดแห่งไสลม์ ระดับ E
-ทักษะสร้างทายาทกับทุกเผ่า ระดับ A
-ทักษะทำอาหาร ระดับ B
-ทักษะเย็บปักถักร้อย ระดับ A
-ทักษะทำความสะอาด ระดับ B
-ทักษะต้านทานกายภาพ ระดับ : A
-ทักษะลุ่มหลง ระดับ : A
-ทักษะแรงดึงดูด ระดับ : S
-พยัคฆ์อัศนีบาต ระดับ : A
-ทักษะอาภรณ์แสง ระดับ : B
-ทักษะปลุกชีพศพ ระดับ : S
-ทักษะควบคุมเงา ระดับ : A
อาวุธ :
- ดาบคาตานะ (ต่างโลก) ระดับ : SSS
-ปืนไรเฟิล M41 (ต่างโลก) ระดับ : SSS
-ปืนพก DSE (ต่างโลก) ระดับ : SSS
-เคียวยมทูต ระดับ : A
ชุดอุปกรณ์
-ชุดผู้กอง (ต่างโลก) ระดับ : A
-ชุดยมทูต ระดับ : A
-หน้ากากยมทูต ระดับ : A
-ลูกแก้วแรร์มานา ระดับ : A
ปล.คอมเม้นเป็นกำลังใจในการแต่งตอนต่อไปด้วยนะครับ (ช่วงนี้เม้นน้อยมักๆเริ่มเสียกำลังใจ555)
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย