ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Zero Online : มหาสงครามราชันข้ามฟ้า

    ลำดับตอนที่ #86 : CHAPTER 80 : ชุน vs เลบิส (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.47K
      23
      3 ม.ค. 59

     

    CHAPTER 80 : ชุน vs เลบิส (1)            

                                    

     

    " กระบวนท่า.....อิไอ!!"

     

    คว้างงง!!!ตูมมมม!!

     

    ที่ใจกลางป่าหิมะใกล้ๆกับอาณาจักรออร์คของบารอน  หลังจากเดียรินี่และออโรร่าตามสะกดรอยตามพวกฟูจิวาระและกองทัพออร์คตัวเมียมา พวกเธอก็เห็นว่าพวกเขามีการจับมนุษย์กึ่งอสูรไว้ด้วย  ออดรร่าเห็นแบบนั้นก็พอเดาได้ว่าพวกเขาน่าจะนำมาค้าขายในระบบทาสให้กับพวกผู้เล่นเป็นแน่

     

    และหลังจากฟูจิวาระนำกองทัพของเขาไปสมทบกับพวกที่อยู่ในเมืองเพื่อหวังจะหมายฆ่ากษัตริย์นั่นแล้ว  เดียรินี่กับออโรร่าก็ออกมาจากที่ซ่อนแล้วเข้าไปช่วยเหลือออร์คตัวเมียผู้หนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นราชินีทันที

     

    พวกผุ้เล่นคนอื่นพอเห็นทั้งสองก็พอจำได้ว่าเป็นออโรร่าที่เป็นพวกของชุน กับเดียรินี่พวกของรัฐบาล  พวกเขาเห็นพวกเธอที่ฆ่าพวกพ้องของเขาไปแบบนั้นก็เดาได้ชัดแล้วว่าเป็นศัตรู  


     

    "เจ้าพวกออร์คฆ่าผู้หญิงสองคนนั้นซะ!"  ผู้เล่นชายคนนึงก็สั่งพวกออร์คตัวเมียขึ้น 

     

    "โฮก!!"

     

     แล้วพวกออร์คตัวเมียนับสิบที่ไร้สติสตังก็แยกเขี้ยวคว้าอาวุธขวานของตนกระโจนมาที่พวกเดียรินี่ทันที

      

     

    " อ้ะ! พวกท่านอย่าฆ่าพวกเขานะ พวกเขาโดนไอ้พวกชั่วช้านี่ควบคุมสติไว้เลยไม่ใช่ตัวของตัวเอง!"   

     

    "ว่าไงนะ!"                                                            

     

    ราชินีออร์คเห็นเดียรินี่กับออโรร่าก็พอเดาได้ว่าพวกเธอมาช่วยเธอ  แต่เห็นพวกเธอทำท่าหมายจะฆ่าพวกออร์คเหล่านั้นก็ร้องห้ามขึ้นพร้อมบอกเหตุผล  

     

    เดียรินี่ก็อุทานออกมาอย่างตกใจ  เพราะแบบนี้ถ้าสู้ไปป้องกันไปก็ลำบากน่ะสิ   ออโรร่าเห้นใบหน้าเดียรินี่ที่มองพวกออร์ควิ่งมาทางพวกเธออย่างดูกังวลก็ร้องบอกขึ้น                  

                            

     

    "เธอก็ทำให้พวกเขาสลบซะสิ! ส่วนพวกผู้เล่นด้านหลังนั่นก็ฆ่าให้ตายก็เท่านั้นเอง!

     

    ฟ้าวว!!!                                                               


     

    ติ๊ง!                                                        

     

    <ผู้เล่นออโรร่า  พบ  ออร์คนักรบหญิง  ประเภท : อสูรระดับกลาง  ระดับ : ขั้น 2 ระดับ 100  จำนวน 100 ตัวค่ะ>           

     

    "พวกผู้หญิงอ่อนแอกว่าพวกผู้ชายเรอะ..." 

     

     ออโรร่าที่ทะยานเข้าไปหาก็หรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อฟังระดับของพวกเธอจากระบบ  ก่อนจะทำการก้มหลบคมขวานเล่มยักษ์ที่ฟาดเข้ามาอย่างฉิวเฉียด  และนำด้ามไม้กวาดสีชมพูที่เปลี่ยนมาจากดาบสีดำของเธอเพื่อลดดาเมจที่รุนแรงมากระแทกเข้ากับท้องของออร์คนักรบหญิงอย่างจัง

     

    ตูมม!!             

     

    ก่อนเธอจะหมุนตัวก้มหลบอย่างคล่องแคล่วให้กับออร์คนักรบหญิงที่ยิงธนูเข้ามา  พร้อมปามีดเล่มเล็กที่เธอชอบปาใส่ชุนบ่อยๆไปทางออร์คนักรบหญิงธนูนั่น  แต่เธอไม่ได้เลงเพื่อให้โดนออร์คตัวนั้น


     

    ควับ!! ฟ้าวว!!!

     

    "เอ้ะ?"

     

    ฉึกก!! ฉูดดดด!

     

    แต่เป็นผู้เล่นพวกของฟูจิวาระที่ยืนรอเฝ้าพวกมนุษย์กึ่งอสูรที่อยู่ในกรงอย่างสบายใจด้านหลังของเธอตังหาก  ออโรร่าก็ปาเข้าไปปักหน้าผากผุ้เล่นคนนั้นอย่างจัง  และผู้เล่นคนนั้นก้มีระดับต่ำกว่าออโรร่าพอสมควร  ก็เลยเลือดพุ่งกระฉูดออกมาตายได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว


     

    "แบบนี้ไง"         

     

    ออโรร่าหันไปบอกเดียรินี่ที่มองอย่างชื่นชม   ก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วดึงดาบของตนออกมาทั้งๆที่ยังมีฝักดาบอยู่ในท่าพร้อมลุย

     

     

    "ต้องแบบนั้นสิแม่จักรพรรดินี....หวังว่าเธอคงไม่ได้มีดีแค่พลังนะ"  

     

    ออโรร่ายิ้มอย่างพอใจ  เรื่องแบบนีเธอค่อนข้างเชี่ยวชาญอยู่แล้วเพราะตอนสมัยอยู่ในกิลสโมสรนักฆ่า ไม่ได้มีเป้าหมายให้ฆ่าเพียงอย่างเดียว  ยังมีจับเป็นอีกด้วย เธอก็เลยชินในการทำให้คนสลบและรู้จุดตายดีว่าจุดไหนถ้าโดนกระทบเข้าจะสลบทันที

     

     

    "แน่นอนสิคะ.....ทักษะก้าวพริบตา!"              


     

    ฟุบ ฟุบๆๆ!!!!!!                                


     

    เดียรินี่ยิ้มให้ออโรร่าเล็กน้อย ก่อนจะเรียกทักษะของตนขึ้น  มันเป็นทักษะประจำตัวของอาชีพซามูไร  ทำให้สามารถวิ่งได้เหมือนการย่นระยะทางให้สั้นลง  คนภายนอกจะเห็นเป็นเธอวิ่งด้วยความเร็วเหนือแสง   แต่ที่จริงสำหรับเดียรินี่ก็เหมือนกับระยะทางสั้นลงเท่านั้น


     

    ตึงๆๆๆ!!! ฟ้าวว!! ฉัวะๆๆๆ!!ฉูดดดๆๆๆ!!                      

                        

     

     

    "เป็นไงคะฉันบอกแล้วฉันก็ทำได้ ฮิ ฮิ"  

     

    เดียรินี่ที่ไปยืนอยู่ตรงปากถ้ำตรงนั้นตอนไหนไม่รู้หันมายิ้มให้ออโรร่า  ออโรร่าที่รู้สึกตัวก็ผงะไปเมื่อเห็นเธอที่อยู่ตรงหน้าหายไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง  แถมเธอมองสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทันเลย 

     

    ไม่รู้ว่าทำไมออร์คจำนวนหลายสิบตัวในแนวเส้นตรงนี้ทำไมถึงล้มกองกับพื้นแบบนั้น  แล้วพวกผู้เล่นที่อยู่ตรงบริเวณปากถ้ำนับร้อยนั่นตายตอนไหนกัน

     

     

    "เธอนี่มัน....น่ากลัวจริงๆเลยแฮะ"   ออโรร่ายิ้มแห้งๆ             

     

     

    "เฮ้ย!อย่าไปกลัวพวกมันบุกเข้าไปไปพร้อมกันนี่แหละ!!

     

     พวกผู้เล่นที่อยู่วงนอกอีกหลายร้อยที่ไม่ได้อยู่ตรงบริเวณปากถ้ำในระยะของเดียรินี่ก็ร้องตะโกนบอกขึ้น  ก่อนจะชักอาวุธกรูกันวิ่งไปพร้อมกันพร้อมกับพวกออร์คที่เหลือเพื่อหวังฆ่าเดียรินี่กับออโรร่าที่ยืนอยู่ตรงกลางพวกเขาที่ล้อมอยู่  พวกหน่วยปืนและธนูก็ยิงใส่พวกเธอด้วย

     


    "ออโรร่าคะดูราชินีออร์คทีอย่าให้เธอโดนลูกหลงละ  ฉันจะจัดการพวกเขาเอง"

     

     เดียรินี่พูดขึ้นพร้อมจับดาบคาตานะเล่มสีขาวด้วยมือทั้งสองข้างไว้แน่น  พร้อมกับสายตามองพวกผู้เล่นและออร์คที่ล้อมรอบพวกเธอ  ก่อนจะเหล่าไปทางลูกธนูกับลูกกระสุนที่ยิงออกมา


     

    "เอาเถอะระดับเธอคงทำได้อยู่แล้วละ...ไม่ค่อยอยากใช้ทักษะนี้เลยแฮะ...ทักษะล่องหน"                          

     

    วุ่มม...                                                                                                       

     

    "อ้ะ!ยัยนั่นพาราชินีออร์คหนีไปแล้ว!!"                                    

     

    ออร่าพูดจบร่างของเธอก็หายตัวไปก่อนเธอจะแตะร่างของราชินีออร์คทำให้เธอหายตัวไปด้วย  จากนั้นออโรร่าก็อุ้มราชินีออร์คทะยานออกจากบริเวณนี้ทันที 

     

    ถึงออโรร่าจะเก่งแค่ไหนก็รู้ว่าพวกที่อยู่ที่นี่ถ้าโดนรุมๆเข้าเธอก็อาจตายได้เพราะเธอไม่ใช่สายบู้ล้างผลาญอยู่แล้ว  เธอไม่ได้มีพลังมหาศาลแบบเดียรินี่ก็เลยตัดสินใจฟังคำขอเดียรินี่โดยง่าย


     

    "ช่างพวกนั้นฆ่าเดียรินี่ก่อน! เพราะดุท่าทางพวกรัฐบาลต้องส่งเธอมาขัดขวางพวกเราไม่ให้นำตัวพวกมนุษย์กึ่งอสูรนี่ไปแน่!

     

    ผุ้เล่นที่ดูท่าจะเป็นระดับหัวหน้าหน่วยในกิลของกลุ่มพวกนี้ก็สั่งขึ้น  พวกลูกน้องผู้เล่นฟังแบบนั้นก็เข้าใจทันทีว่าเดียรินี่ถูกรัฐบาลส่งมาที่นี่เพื่อให้มาขัดขวางแผนการได้ลาภลอยจากการค้าทาสของพวกเขาฝ่ายปฎิวัตินั่นเอง


     

    "หน่วยปืนธนูยิงเธอให้พรุนซะ!!"                                                                  

     

    หัวหน้าคนนั้นพูดขึ้น  พวกหน่วยปืนไกลและธนูก็ทำตามคำสั่งง้างธนูนับพันขึ้นแล้วทำการเลงยิงไปที่เดียรินี่ทันที  พวกหน่วยปืนยาวก็เลงแล้วยิงพร้อมกัน


     

    ปังๆๆฟุบๆๆๆ


     

    "ไม่ได้ผลหรอกค่ะ"

     

    เดียรินี่พูดได้แค่นั้นก่อนจะใช้สายตาของเธอจดจ้องไปที่ลูกธนูทุกลูก  กระสุนทุกนัดที่ยิงออกมาจากนั้นเธอก็กระชับดาบแน่นขึ้นก่อนจะตวัดฟันพวกมันอย่างรวดเร็ว


     

    เช้งๆๆๆ!!!!

     

    เดียรินี่ทำการตวัดบ่ายเบี่ยงทิศทางของลูกกระสุนและลูกธนูนับพันนั่นอย่างรวดเร็ว  จนแทบไม่มีใครเห้นการเคลื่อนไหวการฟันของเธอได้ทันซักคน

     

    ฉึก!

     

    "เฮ้ย!"                                                     

     

    "อ๊ากก!"

     

    แถมลูกกระสุนและลูกธนูที่ถูกเธอบ่ายเบี่ยงก็ไปโดนผู้เล่นพวกเดียวกันกับพวกเขาทั้งทิศตรงข้ามและทิศเดียวกัน  จนล้มนอนเจ็บไปหลายคนเลยทีเดียว  พวกออร์คก็โดนไปเล็กน้อยแต่ผิวกายเขียวของพวกเขาหนาพอรับกระสุนและลูกธนูพวกนี้ได้ในระดับนึงจึงไม่เป้นอะไรมาก 


     

    "ฟู่ว....เอาละขอจบเลยนะคะ..."

     

    "อ้ะ...."

     

    เดียรินี่เป่าปากอย่างใจเย็น  ก่อนจะยิ้มมองไปที่พวกเขาด้วยใบหน้าสวยน่ารักของเธอ  แล้วเธอพอเห็นพวกเขาเคลิมเคลิ้มอยู่นั้นก็ฉวยโอกาสรีดเร้นพลังปราณของเธอจนถึงจุดสูงสุดแล้วใช้กระบวนท่าปลิดชีพทันที


     

    "กระบวนท่า...อิไอ!"

     

    คว้างง!!! ตูมมม!!!!!                        

     

    "อ๊ากก!!"

     

    แต่เดียรินี่ใช้เพียงแค่สายลมที่รุนแรงจากผลของท่าฟันนี่เท่านั้นในการจัดการพวกเขา   พวกผู้เล่นและออร์คที่โดนเข้าไปก็โดนคลื่นลมที่เดียรินี่ฟันออกมาจนทำให้ลอยกระเด็นเคว้งคว้างอยู่บนฟ้าพร้อมกับพวกออร์คด้วย 


     

    ตึงๆๆๆ!!

     

    ก่อนร่างของพวกเขาและพวกออร์คจะร่วงหล่นลงมากระแทกแล้วสลบกันไป  พวกผู้เล่นส่วนมากจะตายเพราะจากที่ถูกและบาดเจ็บอยู่ก่อนนั้นด้วย  ส่วนพวกออร์คไม่ตายซักตัวเพราะมีผิวกายแข็งแกร่งอาจเพียงแค่บอบช้ำภายในเล็กน้อยและสลบไปเท่านั้น

     


    "เรียบร้อยแล้วค่ะออโรร่า  เป็นไงคะพอได้ไหมแบบนี้ ฉันไม่ได้ฆ่าพวกออร์คของท่านเลยนะคะองค์ราชินี ฮี่ ฮี่"  

     

    เดียรินี่พอจัดการพวกผู้เล่นลูกน้องของฟูจิวาระและพวกออร์คเสร็จ  ก็หันมายิ้มไร้เดียงสาให้กับออโรร่าและองค์ราชินีที่ซ่อนอยู่บนต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะนั่น

     


    "เฮ้อเธอนี่น้า....แล้วรู้ตำแหน่งของฉันได้ไงเนี่ย....หือ...เดียรินี่ระวัง!!!"

     

    ออโรร่างุนงงเล็กน้อยว่าเธอสัมผัสถึงตัวเธอที่ล่องหนอยู่บนต้นไม้ได้ไง  ก่อนจะคลายทักษะออกมาแล้วถอนหายใจถามขึ้น  แต่ไม่ทันที่เธอจะถามจบออโรร่าก็เห้นเงาดำๆตะคุ่มๆอยู่ด้านหลังของเดียรินี่และสัมผัสแบบนี้เธอก้รู้ได้ว่าเป็นใครจึงร้องบอกเดียรินี่ขึ้นทันที

     

    แต่ดุท่าจะสายไปแล้ว...

     

    ฉึกก!!!

     

    "เอ้ะ..."


    เดียรินี่ที่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่แหลมคมผ่านร่างเธอไป  ก็ก้มลงมามองที่ท้อง  ก่อนจะเห็นดาบเล่มนึงปลายแหลมของมันทะลุออกมาจากท้องของเธอและเลือดของเธอ...แถมมีสารสีเขียวออกมาด้วย

     

    "อึ้ก! อ๊อกก!!!"                                       

     

    "เดียรินี่!"

     

    ออโรร่าร้องขึ้นอย่างตกใจที่จู่ๆเธอก็พลาดท่าแบบนั้น  ก่อนจะตกใจอีกครั้งเมื่อจู่ๆแหวนของเธอก็ส่องแสงออกมา

     

    ว้าบ!

     

    ตูมมม!!!

     

    "ไม่เป็นไรนะคะเจ้านาย!

     

    ก่อนจะมีหญิงสาวผมดำโผล่ออกมาจากแหวนของเธอแล้วโจมตีใส่เงาที่ลอบทำร้ายเดียรินี่ทันที  พร้อมกับแบกร่างอขงเดียรินี่กระโจนออกมาจากบริเวณนั้นแล้วมายืนข้างๆกับออโรร่ากับราชินี


     

    "ชิ....เธอติดพิษจากดาบนั่น....พิษระดับนี้มันและก็ทักษะปิดบังตัวเองระดับนี้มัน...หรือว่า!!"

     

    การโจมตีของซาเลไลย์ทำให้เกิดกองหิมะกระจายไปทั่ว  พวกเธอจึงฉวยโอกาสนี้ดูแผลของเดียรินี่ก่อนจะตกใจกับบาดแผลของเธอและพิษระดับนี้  ออโรร่าก็พอนึกได้ว่าคนที่สามารถปิดบังตัวตนขนาดเดียรินี่ที่สัมผัสเธอที่ล่องหนง่ายๆยังไม่รู้ถึงตัวตนของคนคนนั้นมีแค่คนเดียวเท่านั้น....


     

    "ไม่ได้เจอกันนานนะ...ออโรร่า..." 

     

     พอหิมะร่วงหล่นลงมา  ก็ทำให้เห็นคนที่ลอบทำร้ายเดียรินี่ได้ชัดตา  ออโรร่าก็เบิกตาโพลงขึ้นเมื่อเห้นชายคนนี้  พร้อมกับร่างของชายชุดดำคนอื่นที่จู่ๆก็โผล่ออกมาจากไหนไม่รู้  แต่ชายที่ยืนเด่นอยู่ตรงกลางนั่นเธอจำได้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นใคร


     

    "นะ...นาย!"

     

    "อะไร...ลืมฉันไปแล้วรึไง  อดีตหัวหน้ากิลของเธอน่ะหืม..."




    "พวกเจ้าว่าอะไรนะ เป็นฝีมือของพวกมนุษย์งั้นเรอะ!"

     

     ออร์คขนาดใหญ่ที่สูงถึงเกือบ 7 เมตรร้องคำรามออกมาอย่างตกใจ  ขณะที่กำลังทะยานตามหลังอาคารบ้านเรือนเพื่อหนีพวกออร์คนับแสนที่กำลังกวดไล่ตามมา  รวมถึงพวกผู้เล่นของฟูจิวาระและเลบิสด้วย 

     

    ออร์คยักษ์ในชุดเกราะสีทองหรือบารอน 1 ใน 5 องครักษ์ราชันย์ข้ามฟ้าร้องถามกับอาเธอร์อย่างร้อนรน เมื่อเห็นชี้ไปที่พวกมนุษย์ผู้เล่นที่ไล่ล่าเขาเช่นเดียวกับพวกนักรบออร์คของเขา


                                                                                                                                   

    "ใช่ค่ะท่านบารอน  ชุนเลยส่งพวกเรามาคุ้มกันท่านเพราะถ้าท่านตายทุกอย่างคือจบ...ชิ!"      

    "ตายซะแล้วเอาของดรอปมาให้ฉัน!...เอ้ะ!"

     

    ผัวะ!!โครม!!   

     

    อาเธอร์ที่ทะยานตามมาอยู่ข้างๆก็บอกตอบบารอนไป  ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นผุ้เล่นสายนักฆ่าโผล่ออกมาแล้วทะยานเข้ามาหมายฆ่าบารอน  เธอก็เลยหมุนตัวเตะเสยคางมันไปจนกระเด็นไปกระแทกกับอาคารหลังนึงจนพังโครมทันที

     

     

    "ฆ่ามันให้ได้  อย่าไปกลัวระดับมันอีกอย่างมันไม่กล้าฆ่าพวกเดียวกันหรอก ฮ่าๆๆ!!

     

     พวกผู้เล่นทั้งหลายที่ทะยานตามมานับแสนพร้อมกับพวกออร์คอีกนับแสนจากด้านหลังก็ตะโกนร้องอย่างฮึกเหิม...

     

      เพราะก่อนที่พวกซีลาร์ อาเธอร์ อาลีเซีย ลูน่า และเดเบียล่าจะมาพวกเขากำลังได้เปรียบอยู่เลย  เพราะบารอนไม่กล้าทำร้ายออร์คพวกเดียวกัน  จึงทำให้ฆ่าพวกผู้เล่นอย่างพวกเขาที่เป็นต้นเหตุไม่ถนัด  เพราะกลัวโดนลูกหลงไปทำร้ายพวกเดียวกันด้วย


     

    " ชิ! อาเธอร์พาบารอนไปก่อนเลย  พวกเราจะสกัดพวกนี้ไว้ให้เองรีบพาบอรอนไปซ่อนที่ไหนก็ได้ซะซีลาร์ เดเบียล่า ลูน่ายืมมือหน่อยนะ!"

     

     อาลีเซียเห็นพวกผู้เล่นและพวกออร์นับแสนที่ใกล้เข้ามาอย่างกระชั้นชิดแบบกัดไม่ปล่อย  ก็สบถอารมณ์ออกมาก่อนจะเบรคหยุดตัวเองที่ทะยานอยู่แล้วหันไปโจมตีพวกผู้เล่นและพวกออร์คที่ไล่ตามมาแทน  พร้อมบอกพวกซีลาร์ให้มาช่วยด้วย   ซีลาร์พยักหน้าเข้าใจก่อนจะกลายร่างเป็นเสือยักษ์เข้าไปขย้ำพวกผู้เล่นที่เข้ามาใกล้ทันที

     

    "โฮกก!!"

     

    "เฮ้ย!!อ๊ากกก!!"

     

     

    "จัดให้ค่ะพี่อาลีเซีย...โฮกก!!!"

     

    เดเบียล่าก็ยิ้มรับก่อนจะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าสีฟ้าเข้าไปช่วยขย้ำพวกผู้เล่นทันที  ส่วนพวกออร์คพวกเธอก็แค่ตบอัดกระแทกให้สลบเพียงเท่านั้นตามคำสั่งของชุน

     

     

    "ต้องงี้สิค่ะ เอาแต่หนีน่าเบื่อจะตาย ฮิ ฮิ"

     

    ลูน่ายิ้มอย่างชอบใจในคำขอของอาลีเซีย  ก่อนจะเรียกฝูงค้างคาวดูดเลือดนับแสนของเธอโบยบินมาฉูบกัดกินดูดเลือดพวกผู้เล่นพวกนั้นทันที

     

     

    "อ๊ากก!! นี่มันอะไรเนี่ยยัยพวกนี้มันอะไรกัน!!"

     

    พวกผู้เล่นก้ร้องโวยลั่นอย่างเจ็บปวดและทรมาณเมื่อโดนฝูงค้างคาวมารุมกัดกินกัน  จนเนื้อแผลแหว่งเหวอะแถมรู้สึกว่าเลือดจะโดนดูดออกไปด้วย  ลูน่าให้ค้างคาวจัดการพวกผู้เล่น  ก่อนเธอจะใช้พลังระดับขั้น 4 ของเธอไล่อัดพวกออร์คนักรบเพศผู้เพศเมียที่เข้ามาใกล้ให้สลบกองกับพื้นไปทันที

     

    ตูมม!!

     

    "โฮกก!!"

     

    "งั้นฝากด้วยนะทุกคน ไปกันค่ะท่านบารอน!"  

     

    อาเธอร์เห็นแบบนี้ก็เข้าท่าและเธอรู้ว่าพวกเธอคงไม่เป็นไรกันมากจึงรีบหาทางนำตัวบารอนไปซ่อนดีกว่า ในตอนที่พวกเธอถ่วงเวลาให้แบบนี้  แต่ว่า....


     

    "ไม่.....ข้าจะอยู่ที่นี่แหละ " 

     

     บารอนก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง  ขณะกำลังยืนมองดูพวกซีลาร์ซัดกับพวกผู้เล่นและออร์คเหล่านั้นอย่างยากลำบาก  เพราะต้องรับมือกับคนนับแสนพร้อมกันด้วยกำลังคนเพียงแค่ 4 คน  อาเธอร์ฟังอย่างงั้นก็เบิกตาโพลงกับคำพูดของบารอน

     


    "ทำไมละคะท่านบารอน!


    อาเธอร์ถามขึ้นอย่างร้อนรน  บารอนหันมามองอาเธอร์ผลัดกับพวกซีลาร์ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า....


     

    "ข้าคือราชาแห่งเผ่าพันธุ์ออร์คผู้เกรียงไกร  จะมาหลบหลังมนุษย์เพศเมียอย่างพวกเจ้าได้อย่างไรละ  ข้าจะจัดการพวกนี้เองถ้าไม่เอาถึงตายข้าก็พอจัดการได้ไม่ต้องห่วง  แต่พวกเจ้าต้องช่วยนำทางข้าไปหามนุษย์ที่ใช้ผลึกควบคุมคนของข้า  ข้าจะจัดการมันเองทุกอย่างจะได้จบลงเสียที...."

     

    บารอนพูดขึ้นพร้อมกำหมัดที่มีกล้ามเนื้ออันใหญ่หนานั่นจนแน่น  ก่อนจะรีดเร้นพลังออกมาอย่างมหาศาล พวกผู้เล่นพอสัมผัสได้ถึงพลังนั่นก็ตัวสั่นเล็กน้อยอย่างหวาดหวั่น



    "ท่าบารอน....."                                                                           

     

    อาเธอร์ฟังคำพูดของบารอนก็อึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มอย่างชอบใจ  พร้อมชี้ไปยังทิศทางที่ชุนกับเลบิสสู้กันอยู่

     

     

    "หึ สมเป็นท่านจริงๆนะคะ  ตอนนี้ชายคนนั้นกำลังต่อสู้กับสามีของพวกเราอยู่ค่ะอยู่ที่ปราสาทของท่าน....เอ้ะ!"  

     

    อาเธอร์ก็ชี้ไปทางที่ปราสาทเหล็กของบารอน  ซึ่งเป็นที่เลบิสตัวต้นเหตุของเรื่องอยู่   แต่พอเธอมองไปยังปราสาทนั่นก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็น....

     

    ม่านบาเรียสีดำทรงลูกบาศก์ครอบคลุมปราสาทนั่นอยู่ทั้งหลัง...แถมที่ตรงนั้นมีกองกำลังผุ้เล่นและออร์คหนากว่าจุดไหนๆ  ราวกับว่ากันไม่ให้ใครเข้ามาบริเวณนี้


     

    ตูมม!!!

     

    "กรี๊ด!"

     

    "เอ๊ะ! อาลีเซีย!

     

    และขณะที่เธอกำลังงุนงงกับม่านบาเรียนั่น  ร่างของอาลีเซียก็กระเด้นลอยมากระแทกกับหลังคาที่เธอกับบารอนยืนอยู่  อาเธอร์ก็ตกใจเข้าไปประคองเธอก่อนจะตกใจว่าใครที่ทำเธอได้แบบนี้  อาเธอร์จึงกลับหลังหันไปมองทิศทางที่พวกเธออยู่ตอนแรก....

     

     

    "โบกัซ...ทรอกอซ"

     

    บารอนพูดขึ้นเมื่อเห็นออร์คชุดเกราะเงินขนาด 6 เมตรผู้เป็นถึงมือขวากับมือซ้ายของเขา  กำลังยืนอยู่ต่อหน้าพวกซีลาร์  ลูน่าและเดเบียล่าอยู่ตอนนี้  อาเธอร์มองนัยต์ตาของแม่ทัพออร์คทั้งสองที่ดูเหม่อลอยนั่นก็แสดงว่าโดนควบคุมไปด้วย

     

     

    "แย่ละงานนี้....ไม่คิดว่าพวกเขาจะโดนด้วยเลยนะเนี่ย"

     

    อาเธอร์เอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ  เพราะไม่คิดว่าออร์คระดับแม่ทัพระดับขั้น  5  อย่างโบกัซและขั้น 4 อย่างทรากอซจะโดนควบคุมไปด้วย  แถมทั้งสองระดับมากกว่าพวกเธอด้วย 

     

    ถึงพวกเธอจะได้รับการฝึกจากเบลเลี่ยนมาแล้วแต่ก็ยังไม่เท่ากับระดับออร์คระดับแม่ทัพทั้งสองตัวนี้ยิ่งโบกัซแล้วยิ่งแล้วใหญ่  คนที่พอจะต่อกรกับเขาได้ก็น่าจะมีแค่ลูเชียสที่มีระดับถึงขั้น 5 คนเดียวในหมู่ผู้ติดตาม  แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ ณ ที่นี้ด้วย

     

    ถ้าเป็นชุนก็น่าจะชนะได้  แต่ว่าเขาก็ไม่ว่างมาช่วยทางนี้แน่....

     

    แถมต้องรับมือพวกเหล่าผู้เล่นนับแสน กับออร์คอีกนับแสนอีก  แค่นี้ก็ตึงมือแล้ว....

                   

     

    "ท่าทางต้องฝากท่านจัดการกับพวกเขาทีนะคะ  ท่านบารอน ส่วนพวกเราจะจัดการกับพวกคนอื่นๆเอง"   อาเธอร์หันหน้าสวยคมของเธอไปบอกบารอนที่หรี่ตามองพวกโบกัซอยู่  บารอนฟังดังนั้นก็พูดว่า....

     

    "อ่า...พวกเขาไม่คณามือข้าหรอกอย่าห่วง  ข้าจะรีบจัดการพวกเขาแล้วพวกเราก็จะบุกไปฆ่าไอ้มนุษย์ที่มันกล้าทำแบบนี้กับพวกข้า" 

     

    บารอนพูดด้วยสายตาอำมหิต  ก่อนจะมองไปที่ปราสาทเหล็กที่ถูกม่านบาเรียปกคลุมอยู่               

     

     

     

    ทางด้านชุน....



     

    ตูมมม!! ตุม!

     

    ชุนตอนนี้กำลังใช้ดาบคร่าวิญญาณของเขาฟาดฟันไปที่เลบิส   แต่ก็ไม่มีคมดาบใดที่ถูกตัวเลบิสแม้แต่น้อย  คมดาบของชุนไปฟาดฟันตัวกำแพงของห้องท้องพระโรงนี้จนพังทลายจนหมด  


     

    'ชิ! มันมีทักษะอ่านใจงั้นเรอะถึงคาดเดาได้ว่าเราจะฟาดไปทางไหน  แล้วทำไมเราถึงอ่านใจมันไม่ได้ละ!'  

     

    ชุนสบถในใจขึ้นอย่างไม่เข้าใจ  เลบิสที่หลบอย่างชิลๆพอเห้นสีหน้าของชุนก็พอเดาได้ว่าคิดอะไรจึงพูดบอกเหตุผลขึ้น...

     


    "แกคงไม่มีทักษะการฟันดาบสินะ  ถึงได้อ่านทางง่ายอย่างนี้  ฉันเคยสู้กับผู้หญิงคนนึงที่เชี่ยวชาญด้านการฟันดาบนั่น และพวกเราก้สู้กันบ่อยครั้ง เพราะแบบนั้นฉันจึงมีทักษะการอ่านทางดาบได้ง่ายละมั้ง  แต่ก็ใช่ว่าฉันจะหลบคมดาบของเธอคนนั้นได้หมดหรอกนะ  แต่ของนายมันดูออกง่ายเกินไปก็เท่านั้น"

     

    เลบิสพูดขึ้นขณะที่หลบคมดาบที่น่ากลัวของชุนอยู่อย่างชิลๆ  ที่บอกน่ากลัวก็ขึ้นคมดาบของชุนที่ฟาดมาแต่ละครั้งมันมีพลังทำลายที่รุนแรงมาก   ขนาดทำให้กำแพงปราสาทเหล็กกล้านี่พังทลายได้โดยง่าย  


    เลบิสที่รู้ถึงพลังนี้ดีแต่แค่ต้องการตรวจสอบอะไรหน่อยเท่านั้นจึงถึงยอมเสี่ยงยืนหลบคมดาบของชุน


     

    ' ชิ! ไอ้เวรนี่จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะเว้ย....แล้วผู้หญิงที่ว่าหมายถึงใครวะ!...แต่ช่างเถอะสรุปคือแกไม่มีทักษะอ่านใจสินะ'

     

    ชุนคิดในใจขึ้นขณะที่นำมือขวาฟาดดาบคร่าวิญญาณบาว 3 เมตรไปที่ใบหน้าของเลบิส  เลบิสที่อ่านทางง่ายก็ยิ้มหัวเราะ  ก่อนจะทำการก้มหลบอย่างสบายๆ

     


    "เฮอะ แกนี่มันไม่มีพัฒนาการเลยนะ...หืม?"

     

    แต่เลบิสก็พูดได้เท่านั้น  ก่อนจะอ่านใจความคิดของชุน   แล้ก็เห็นว่ามือซ้ายของชุนหยิบดาบใหญ่จากด้านหลังของเขาขึ้นมาพร้อมหมุนเปลี่ยนท่าดาบเป็นรูปแบบแทงเข้ามา   

     

    "เอาไปกินซะ!"


    ชุนตะโกนขึ้นพร้อมแทงเข้ามาอย่างสุดแรง  เลบิสอ่านใจแล้วเข้าใจว่าเขาคงคิดแทงเข้ามาให้ร่างของเขาที่ก้มหลบดาบอีกเล่มอยู่ให้ทะลุ   


    เลบิสคิดว่าที่ชุนทำแบบนั้นก็เพื่อไม่ให้เขาที่ก้มอยู่มีโอกาสหลบดาบที่แทงมาได้ทัน  เพราะถ้ากระโดดหลบก้ต้องโดนดาบคร่าวิยญาณที่อยู่เหนือหัวเขาแน่


     

    "ใช้สมองได้ดีนี่แต่ว่า...."

     

    เลบิสพูดแค่นั้น  เขาไม่คิดกระโดดหลบแต่แรกแต่นำเอาอาวุธดาบสั้นของเขาขึ้นมาแล้วเบี่ยงดาบคร่าวิยญาณที่อยู่เหนือหัวของเขาออก  ก่อนจะทำการถอยหลังเพื่อหลบดาบที่แทงเข้ามานั่นอย่างรวดเร็ว

     

    "ติดกับละ!"

     

    "หา?"

     

    ตูมมม!

     

    "อั๊ก!"                                      

     

    ชุนทำการคลิกปุ่มลั่นไกที่ด้ามดาบของกันซอร์ดที่แทงเข้าไป  แล้วกระสุนที่รุนแรงระดับช๊อตกันก็ถูกยิงเต็มอัดร่างของเลบิส  เลบิสก็ไม่เข้าใจว่าเขาก็อ่านใจไปแล้วนี่ไม่เห็นจะรู้เลยว่าชุนคิดจะทำแบบนี้ด้วย

     

    แต่เขาไม่มีเวลามาคิดรีบนำดาบสั้นของเขามากั้นจุดที่โดนยิงอย่างทันควัน  แต่ความรุนแรงของกระสุนก็ซัดเขาจนกระเด็นไปติดกับกำแพง

     


    ครึก....

     

    "อึ้ก!...นี่มัน....อ้ะ! หรือว่าแก!"

     

    เลบิสที่ชุนกับกำแพงจนพังทลายออกทะลุออกไปด้านนอกของปราสาท  ตรงบนหลังคาของปราสาทจุดนึง   ก็พูดขึ้นมาเหมือนนึกอะไรบางอย่างที่ทำให้ชุนสามารถทำแบบนี้ได้โดยที่เขาอ่านใจไม่ได้  มันก้มีอยู่เหตุผลเดียวเท่านั้น...

     


    "แกก็มีทักษะอ่านใจเหมือนกันสินะ...." 


    เลบิสลุกขึ้นปัดฝุ่นตามตัว  ก่อนจะเงยหน้ามองชุนที่ยืนอยู่ข้างบนตรงกำแพงที่เขาทะลุออกมา  ชุนฟังดังนั้นก็ยิ้มก่อนพูดว่า...



    "ถูกต้อง  แกก็น่าจะเคยอ่านวิธีใช้ของมันมาบ้างสินะ  ถ้าทักษะอ่านใจถูกใช้ตอนใช้กับทักษะอ่านใจที่อีกคนใช้พร้อมกัน...มันจะหักล้างกันเองจนไม่สามารถอ่านใจทั้งสองฝ่ายได้ "  


    ชุนยิ้มบอกด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์  แต่ตามตัวเขาก็มีเหงื่อหยดออกมาตามตัวเล็กน้อย 


     

    'ดีนะที่เราดูออกว่ามันอ่านใจได้  ถ้ารู้ไม่ทันแย่แน่ และดีจริงๆที่มันไม่รู้ว่าเรามีทักษะอ่านใจตอนแรก  แต่จากนี้จะเอาไงดีละ  ทักษะจิตสังหาร  ทักษะควบคุมจิตใจ  ทักษะแรงโน้มถ่วง  ใช้กับมันไม่ได้เลยแฮะ....ต้องสู้กันแบบด้นสดเรอะ '

     

    ชุนคิดในใจอย่างวางแผนการณ์ว่าจะทำไงต่อดี  แต่สายตาของเขาก็ยังคงมองไปที่เลบิสตลอดเพื่อความไม่ประมาท  แต่บางอย่างก็ทำให้เขาละสายตาจากเลบิส  นั่นคือม่านบาเรียที่ปกคลุมที่นี่จนทำให้ในปราสาทดูมืดไร้แสงใดสาดส่องมา


     

    "นี่มันคือ...."                                                            

     

    ชุนถามลอยๆขึ้นพร้อมมองม่านบาเรียรอบๆปราสาท


     

    "ก็มีไว้กันเจ้าออร์คขั้น 7 นั่นเข้ามารบกวนหรือมาฆ่าฉันน่ะสิ....เอาละฉันว่าได้เวลาเลิกเล่นกันแล้วละ  มาสู้กันให้จบๆไปดีกว่า...."

     

    ฟุบ!

     

    "เอ้ะ!"

     

    ตูมมมมมมมมมม!!!!

     

     

    ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!ๆๆๆ

     

    เลบิสพูดจบจู่ๆร่างของเขาก็หายไปจากตรงหลังคานั่น  ก่อนจู่ๆจะมาโผล่หน้าชุนแล้วหมุนถีบเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรง   ชุนก็รีดเร้นพลังปราณออกมากันแต่ว่าก็กันไว้ไม่อยู่ทำให้กระเด็นไปกระแทกกับกำแพงห้องจนทะลุและยังคงทะลุไปเรื่อยๆถึง 10 ห้อง  ก่อนจะร่วงหล่นในที่สุด


     

    "นี่มันอะไรกัน....ทั้งๆที่เรามีปราณระดับ 1000  เบลเลี่ยนนี่มันหมายความว่าไงครับ..."         

     

    ' ไม่ใช่....แรงถีบของเจ้านั่นไม่ได้มาจากพลังปราณหรือระดับ....แต่มาจากชุดเกราะสีแดงบนตัวมันนั่น'    

     

    เบลเลี่ยนที่มองสถานการณ์ตรงหน้ามาตลอดก็พูดขึ้นตอบชุน  ชุนฟังดังนั้นก้มองชุดเกราะสีแดงบนตัวเลบิสที่เปล่งออร่าสีดำนั่น


     

    ' หมายความว่าไงครับ?!'  ชุนถามขึ้นอย่างสงสัย

     

    ' ชุดเกราะนั่นมันสามารถดูดใช้พลังปราณของบผู้อื่นที่มาสัมผัสได้ และให้แก่ผู้สวมใส่  นั่นก็หมายความว่าพลังปราณของมันตอนนี้เท่ากับเจ้ายังไงละ'


     

    'หา!!!'

     

     

     

     

    ปล.คอมเม้นเยอะๆนะครับ


    ลิ้งค์เพจ


    https://www.facebook.com/The-Lost-Zero-Online-175831109424018/

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×