คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #86 : CHAPTER 80 : ชุน vs เลบิส (1)
CHAPTER 80 : ชุน vs เลบิส (1)
" กระบวนท่า.....อิไอ!!"
คว้างงง!!!ตูมมมม!!
ที่ใจกลางป่าหิมะใกล้ๆกับอาณาจักรออร์คของบารอน
หลังจากเดียรินี่และออโรร่าตามสะกดรอยตามพวกฟูจิวาระและกองทัพออร์คตัวเมียมา
พวกเธอก็เห็นว่าพวกเขามีการจับมนุษย์กึ่งอสูรไว้ด้วย ออดรร่าเห็นแบบนั้นก็พอเดาได้ว่าพวกเขาน่าจะนำมาค้าขายในระบบทาสให้กับพวกผู้เล่นเป็นแน่
และหลังจากฟูจิวาระนำกองทัพของเขาไปสมทบกับพวกที่อยู่ในเมืองเพื่อหวังจะหมายฆ่ากษัตริย์นั่นแล้ว
เดียรินี่กับออโรร่าก็ออกมาจากที่ซ่อนแล้วเข้าไปช่วยเหลือออร์คตัวเมียผู้หนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นราชินีทันที
พวกผุ้เล่นคนอื่นพอเห็นทั้งสองก็พอจำได้ว่าเป็นออโรร่าที่เป็นพวกของชุน กับเดียรินี่พวกของรัฐบาล พวกเขาเห็นพวกเธอที่ฆ่าพวกพ้องของเขาไปแบบนั้นก็เดาได้ชัดแล้วว่าเป็นศัตรู
"เจ้าพวกออร์คฆ่าผู้หญิงสองคนนั้นซะ!" ผู้เล่นชายคนนึงก็สั่งพวกออร์คตัวเมียขึ้น
"โฮก!!"
แล้วพวกออร์คตัวเมียนับสิบที่ไร้สติสตังก็แยกเขี้ยวคว้าอาวุธขวานของตนกระโจนมาที่พวกเดียรินี่ทันที
" อ้ะ!
พวกท่านอย่าฆ่าพวกเขานะ พวกเขาโดนไอ้พวกชั่วช้านี่ควบคุมสติไว้เลยไม่ใช่ตัวของตัวเอง!"
"ว่าไงนะ!"
ราชินีออร์คเห็นเดียรินี่กับออโรร่าก็พอเดาได้ว่าพวกเธอมาช่วยเธอ แต่เห็นพวกเธอทำท่าหมายจะฆ่าพวกออร์คเหล่านั้นก็ร้องห้ามขึ้นพร้อมบอกเหตุผล
เดียรินี่ก็อุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะแบบนี้ถ้าสู้ไปป้องกันไปก็ลำบากน่ะสิ ออโรร่าเห้นใบหน้าเดียรินี่ที่มองพวกออร์ควิ่งมาทางพวกเธออย่างดูกังวลก็ร้องบอกขึ้น
"เธอก็ทำให้พวกเขาสลบซะสิ! ส่วนพวกผู้เล่นด้านหลังนั่นก็ฆ่าให้ตายก็เท่านั้นเอง!"
ฟ้าวว!!!
ติ๊ง!
<ผู้เล่นออโรร่า พบ
ออร์คนักรบหญิง ประเภท : อสูรระดับกลาง ระดับ : ขั้น 2 ระดับ 100 จำนวน 100
ตัวค่ะ>
"พวกผู้หญิงอ่อนแอกว่าพวกผู้ชายเรอะ..."
ออโรร่าที่ทะยานเข้าไปหาก็หรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อฟังระดับของพวกเธอจากระบบ ก่อนจะทำการก้มหลบคมขวานเล่มยักษ์ที่ฟาดเข้ามาอย่างฉิวเฉียด
และนำด้ามไม้กวาดสีชมพูที่เปลี่ยนมาจากดาบสีดำของเธอเพื่อลดดาเมจที่รุนแรงมากระแทกเข้ากับท้องของออร์คนักรบหญิงอย่างจัง
ตูมม!!
ก่อนเธอจะหมุนตัวก้มหลบอย่างคล่องแคล่วให้กับออร์คนักรบหญิงที่ยิงธนูเข้ามา
พร้อมปามีดเล่มเล็กที่เธอชอบปาใส่ชุนบ่อยๆไปทางออร์คนักรบหญิงธนูนั่น แต่เธอไม่ได้เลงเพื่อให้โดนออร์คตัวนั้น
ควับ!! ฟ้าวว!!!
"เอ้ะ?"
ฉึกก!! ฉูดดดด!
แต่เป็นผู้เล่นพวกของฟูจิวาระที่ยืนรอเฝ้าพวกมนุษย์กึ่งอสูรที่อยู่ในกรงอย่างสบายใจด้านหลังของเธอตังหาก
ออโรร่าก็ปาเข้าไปปักหน้าผากผุ้เล่นคนนั้นอย่างจัง และผู้เล่นคนนั้นก้มีระดับต่ำกว่าออโรร่าพอสมควร
ก็เลยเลือดพุ่งกระฉูดออกมาตายได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว
"แบบนี้ไง"
ออโรร่าหันไปบอกเดียรินี่ที่มองอย่างชื่นชม
ก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วดึงดาบของตนออกมาทั้งๆที่ยังมีฝักดาบอยู่ในท่าพร้อมลุย
"ต้องแบบนั้นสิแม่จักรพรรดินี....หวังว่าเธอคงไม่ได้มีดีแค่พลังนะ"
ออโรร่ายิ้มอย่างพอใจ เรื่องแบบนีเธอค่อนข้างเชี่ยวชาญอยู่แล้วเพราะตอนสมัยอยู่ในกิลสโมสรนักฆ่า
ไม่ได้มีเป้าหมายให้ฆ่าเพียงอย่างเดียว
ยังมีจับเป็นอีกด้วย
เธอก็เลยชินในการทำให้คนสลบและรู้จุดตายดีว่าจุดไหนถ้าโดนกระทบเข้าจะสลบทันที
"แน่นอนสิคะ.....ทักษะก้าวพริบตา!"
ฟุบ ฟุบๆๆ!!!!!!
เดียรินี่ยิ้มให้ออโรร่าเล็กน้อย ก่อนจะเรียกทักษะของตนขึ้น มันเป็นทักษะประจำตัวของอาชีพซามูไร
ทำให้สามารถวิ่งได้เหมือนการย่นระยะทางให้สั้นลง คนภายนอกจะเห็นเป็นเธอวิ่งด้วยความเร็วเหนือแสง
แต่ที่จริงสำหรับเดียรินี่ก็เหมือนกับระยะทางสั้นลงเท่านั้น
ตึงๆๆๆ!!! ฟ้าวว!! ฉัวะๆๆๆ!!ฉูดดดๆๆๆ!!
"เป็นไงคะฉันบอกแล้วฉันก็ทำได้
ฮิ ฮิ"
เดียรินี่ที่ไปยืนอยู่ตรงปากถ้ำตรงนั้นตอนไหนไม่รู้หันมายิ้มให้ออโรร่า
ออโรร่าที่รู้สึกตัวก็ผงะไปเมื่อเห็นเธอที่อยู่ตรงหน้าหายไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง แถมเธอมองสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทันเลย
ไม่รู้ว่าทำไมออร์คจำนวนหลายสิบตัวในแนวเส้นตรงนี้ทำไมถึงล้มกองกับพื้นแบบนั้น
แล้วพวกผู้เล่นที่อยู่ตรงบริเวณปากถ้ำนับร้อยนั่นตายตอนไหนกัน
"เธอนี่มัน....น่ากลัวจริงๆเลยแฮะ" ออโรร่ายิ้มแห้งๆ
"เฮ้ย!อย่าไปกลัวพวกมันบุกเข้าไปไปพร้อมกันนี่แหละ!!"
พวกผู้เล่นที่อยู่วงนอกอีกหลายร้อยที่ไม่ได้อยู่ตรงบริเวณปากถ้ำในระยะของเดียรินี่ก็ร้องตะโกนบอกขึ้น ก่อนจะชักอาวุธกรูกันวิ่งไปพร้อมกันพร้อมกับพวกออร์คที่เหลือเพื่อหวังฆ่าเดียรินี่กับออโรร่าที่ยืนอยู่ตรงกลางพวกเขาที่ล้อมอยู่
พวกหน่วยปืนและธนูก็ยิงใส่พวกเธอด้วย
"ออโรร่าคะดูราชินีออร์คทีอย่าให้เธอโดนลูกหลงละ ฉันจะจัดการพวกเขาเอง"
เดียรินี่พูดขึ้นพร้อมจับดาบคาตานะเล่มสีขาวด้วยมือทั้งสองข้างไว้แน่น
พร้อมกับสายตามองพวกผู้เล่นและออร์คที่ล้อมรอบพวกเธอ ก่อนจะเหล่าไปทางลูกธนูกับลูกกระสุนที่ยิงออกมา
"เอาเถอะระดับเธอคงทำได้อยู่แล้วละ...ไม่ค่อยอยากใช้ทักษะนี้เลยแฮะ...ทักษะล่องหน"
วุ่มม...
"อ้ะ!ยัยนั่นพาราชินีออร์คหนีไปแล้ว!!"
ออร่าพูดจบร่างของเธอก็หายตัวไปก่อนเธอจะแตะร่างของราชินีออร์คทำให้เธอหายตัวไปด้วย
จากนั้นออโรร่าก็อุ้มราชินีออร์คทะยานออกจากบริเวณนี้ทันที
ถึงออโรร่าจะเก่งแค่ไหนก็รู้ว่าพวกที่อยู่ที่นี่ถ้าโดนรุมๆเข้าเธอก็อาจตายได้เพราะเธอไม่ใช่สายบู้ล้างผลาญอยู่แล้ว เธอไม่ได้มีพลังมหาศาลแบบเดียรินี่ก็เลยตัดสินใจฟังคำขอเดียรินี่โดยง่าย
"ช่างพวกนั้นฆ่าเดียรินี่ก่อน!
เพราะดุท่าทางพวกรัฐบาลต้องส่งเธอมาขัดขวางพวกเราไม่ให้นำตัวพวกมนุษย์กึ่งอสูรนี่ไปแน่!"
ผุ้เล่นที่ดูท่าจะเป็นระดับหัวหน้าหน่วยในกิลของกลุ่มพวกนี้ก็สั่งขึ้น
พวกลูกน้องผู้เล่นฟังแบบนั้นก็เข้าใจทันทีว่าเดียรินี่ถูกรัฐบาลส่งมาที่นี่เพื่อให้มาขัดขวางแผนการได้ลาภลอยจากการค้าทาสของพวกเขาฝ่ายปฎิวัตินั่นเอง
"หน่วยปืนธนูยิงเธอให้พรุนซะ!!"
หัวหน้าคนนั้นพูดขึ้น
พวกหน่วยปืนไกลและธนูก็ทำตามคำสั่งง้างธนูนับพันขึ้นแล้วทำการเลงยิงไปที่เดียรินี่ทันที พวกหน่วยปืนยาวก็เลงแล้วยิงพร้อมกัน
ปังๆๆฟุบๆๆๆ
"ไม่ได้ผลหรอกค่ะ"
เดียรินี่พูดได้แค่นั้นก่อนจะใช้สายตาของเธอจดจ้องไปที่ลูกธนูทุกลูก กระสุนทุกนัดที่ยิงออกมาจากนั้นเธอก็กระชับดาบแน่นขึ้นก่อนจะตวัดฟันพวกมันอย่างรวดเร็ว
เช้งๆๆๆ!!!!
เดียรินี่ทำการตวัดบ่ายเบี่ยงทิศทางของลูกกระสุนและลูกธนูนับพันนั่นอย่างรวดเร็ว จนแทบไม่มีใครเห้นการเคลื่อนไหวการฟันของเธอได้ทันซักคน
ฉึก!
"เฮ้ย!"
"อ๊ากก!"
แถมลูกกระสุนและลูกธนูที่ถูกเธอบ่ายเบี่ยงก็ไปโดนผู้เล่นพวกเดียวกันกับพวกเขาทั้งทิศตรงข้ามและทิศเดียวกัน จนล้มนอนเจ็บไปหลายคนเลยทีเดียว
พวกออร์คก็โดนไปเล็กน้อยแต่ผิวกายเขียวของพวกเขาหนาพอรับกระสุนและลูกธนูพวกนี้ได้ในระดับนึงจึงไม่เป้นอะไรมาก
"ฟู่ว....เอาละขอจบเลยนะคะ..."
"อ้ะ...."
เดียรินี่เป่าปากอย่างใจเย็น ก่อนจะยิ้มมองไปที่พวกเขาด้วยใบหน้าสวยน่ารักของเธอ แล้วเธอพอเห็นพวกเขาเคลิมเคลิ้มอยู่นั้นก็ฉวยโอกาสรีดเร้นพลังปราณของเธอจนถึงจุดสูงสุดแล้วใช้กระบวนท่าปลิดชีพทันที
"กระบวนท่า...อิไอ!"
คว้างง!!! ตูมมม!!!!!
"อ๊ากก!!"
แต่เดียรินี่ใช้เพียงแค่สายลมที่รุนแรงจากผลของท่าฟันนี่เท่านั้นในการจัดการพวกเขา
พวกผู้เล่นและออร์คที่โดนเข้าไปก็โดนคลื่นลมที่เดียรินี่ฟันออกมาจนทำให้ลอยกระเด็นเคว้งคว้างอยู่บนฟ้าพร้อมกับพวกออร์คด้วย
ตึงๆๆๆ!!
ก่อนร่างของพวกเขาและพวกออร์คจะร่วงหล่นลงมากระแทกแล้วสลบกันไป
พวกผู้เล่นส่วนมากจะตายเพราะจากที่ถูกและบาดเจ็บอยู่ก่อนนั้นด้วย
ส่วนพวกออร์คไม่ตายซักตัวเพราะมีผิวกายแข็งแกร่งอาจเพียงแค่บอบช้ำภายในเล็กน้อยและสลบไปเท่านั้น
"เรียบร้อยแล้วค่ะออโรร่า เป็นไงคะพอได้ไหมแบบนี้
ฉันไม่ได้ฆ่าพวกออร์คของท่านเลยนะคะองค์ราชินี ฮี่ ฮี่"
เดียรินี่พอจัดการพวกผู้เล่นลูกน้องของฟูจิวาระและพวกออร์คเสร็จ
ก็หันมายิ้มไร้เดียงสาให้กับออโรร่าและองค์ราชินีที่ซ่อนอยู่บนต้นไม้ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะนั่น
"เฮ้อเธอนี่น้า....แล้วรู้ตำแหน่งของฉันได้ไงเนี่ย....หือ...เดียรินี่ระวัง!!!"
ออโรร่างุนงงเล็กน้อยว่าเธอสัมผัสถึงตัวเธอที่ล่องหนอยู่บนต้นไม้ได้ไง ก่อนจะคลายทักษะออกมาแล้วถอนหายใจถามขึ้น แต่ไม่ทันที่เธอจะถามจบออโรร่าก็เห้นเงาดำๆตะคุ่มๆอยู่ด้านหลังของเดียรินี่และสัมผัสแบบนี้เธอก้รู้ได้ว่าเป็นใครจึงร้องบอกเดียรินี่ขึ้นทันที
แต่ดุท่าจะสายไปแล้ว...
ฉึกก!!!
"เอ้ะ..."
เดียรินี่ที่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่แหลมคมผ่านร่างเธอไป ก็ก้มลงมามองที่ท้อง
ก่อนจะเห็นดาบเล่มนึงปลายแหลมของมันทะลุออกมาจากท้องของเธอและเลือดของเธอ...แถมมีสารสีเขียวออกมาด้วย
"อึ้ก! อ๊อกก!!!"
"เดียรินี่!"
ออโรร่าร้องขึ้นอย่างตกใจที่จู่ๆเธอก็พลาดท่าแบบนั้น
ก่อนจะตกใจอีกครั้งเมื่อจู่ๆแหวนของเธอก็ส่องแสงออกมา
ว้าบ!
ตูมมม!!!
"ไม่เป็นไรนะคะเจ้านาย!"
ก่อนจะมีหญิงสาวผมดำโผล่ออกมาจากแหวนของเธอแล้วโจมตีใส่เงาที่ลอบทำร้ายเดียรินี่ทันที พร้อมกับแบกร่างอขงเดียรินี่กระโจนออกมาจากบริเวณนั้นแล้วมายืนข้างๆกับออโรร่ากับราชินี
"ชิ....เธอติดพิษจากดาบนั่น....พิษระดับนี้มันและก็ทักษะปิดบังตัวเองระดับนี้มัน...หรือว่า!!"
การโจมตีของซาเลไลย์ทำให้เกิดกองหิมะกระจายไปทั่ว
พวกเธอจึงฉวยโอกาสนี้ดูแผลของเดียรินี่ก่อนจะตกใจกับบาดแผลของเธอและพิษระดับนี้
ออโรร่าก็พอนึกได้ว่าคนที่สามารถปิดบังตัวตนขนาดเดียรินี่ที่สัมผัสเธอที่ล่องหนง่ายๆยังไม่รู้ถึงตัวตนของคนคนนั้นมีแค่คนเดียวเท่านั้น....
"ไม่ได้เจอกันนานนะ...ออโรร่า..."
พอหิมะร่วงหล่นลงมา ก็ทำให้เห็นคนที่ลอบทำร้ายเดียรินี่ได้ชัดตา ออโรร่าก็เบิกตาโพลงขึ้นเมื่อเห้นชายคนนี้ พร้อมกับร่างของชายชุดดำคนอื่นที่จู่ๆก็โผล่ออกมาจากไหนไม่รู้ แต่ชายที่ยืนเด่นอยู่ตรงกลางนั่นเธอจำได้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นใคร
"นะ...นาย!"
"อะไร...ลืมฉันไปแล้วรึไง อดีตหัวหน้ากิลของเธอน่ะหืม..."
"พวกเจ้าว่าอะไรนะ
เป็นฝีมือของพวกมนุษย์งั้นเรอะ!"
ออร์คขนาดใหญ่ที่สูงถึงเกือบ 7
เมตรร้องคำรามออกมาอย่างตกใจ
ขณะที่กำลังทะยานตามหลังอาคารบ้านเรือนเพื่อหนีพวกออร์คนับแสนที่กำลังกวดไล่ตามมา รวมถึงพวกผู้เล่นของฟูจิวาระและเลบิสด้วย
ออร์คยักษ์ในชุดเกราะสีทองหรือบารอน
1 ใน 5 องครักษ์ราชันย์ข้ามฟ้าร้องถามกับอาเธอร์อย่างร้อนรน
เมื่อเห็นชี้ไปที่พวกมนุษย์ผู้เล่นที่ไล่ล่าเขาเช่นเดียวกับพวกนักรบออร์คของเขา
"ใช่ค่ะท่านบารอน ชุนเลยส่งพวกเรามาคุ้มกันท่านเพราะถ้าท่านตายทุกอย่างคือจบ...ชิ!"
"ตายซะแล้วเอาของดรอปมาให้ฉัน!...เอ้ะ!"
ผัวะ!!โครม!!
อาเธอร์ที่ทะยานตามมาอยู่ข้างๆก็บอกตอบบารอนไป
ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นผุ้เล่นสายนักฆ่าโผล่ออกมาแล้วทะยานเข้ามาหมายฆ่าบารอน เธอก็เลยหมุนตัวเตะเสยคางมันไปจนกระเด็นไปกระแทกกับอาคารหลังนึงจนพังโครมทันที
"ฆ่ามันให้ได้ อย่าไปกลัวระดับมันอีกอย่างมันไม่กล้าฆ่าพวกเดียวกันหรอก
ฮ่าๆๆ!! "
พวกผู้เล่นทั้งหลายที่ทะยานตามมานับแสนพร้อมกับพวกออร์คอีกนับแสนจากด้านหลังก็ตะโกนร้องอย่างฮึกเหิม...
เพราะก่อนที่พวกซีลาร์ อาเธอร์ อาลีเซีย ลูน่า
และเดเบียล่าจะมาพวกเขากำลังได้เปรียบอยู่เลย
เพราะบารอนไม่กล้าทำร้ายออร์คพวกเดียวกัน
จึงทำให้ฆ่าพวกผู้เล่นอย่างพวกเขาที่เป็นต้นเหตุไม่ถนัด เพราะกลัวโดนลูกหลงไปทำร้ายพวกเดียวกันด้วย
" ชิ!
อาเธอร์พาบารอนไปก่อนเลย พวกเราจะสกัดพวกนี้ไว้ให้เองรีบพาบอรอนไปซ่อนที่ไหนก็ได้ซะ! ซีลาร์ เดเบียล่า
ลูน่ายืมมือหน่อยนะ!"
อาลีเซียเห็นพวกผู้เล่นและพวกออร์นับแสนที่ใกล้เข้ามาอย่างกระชั้นชิดแบบกัดไม่ปล่อย
ก็สบถอารมณ์ออกมาก่อนจะเบรคหยุดตัวเองที่ทะยานอยู่แล้วหันไปโจมตีพวกผู้เล่นและพวกออร์คที่ไล่ตามมาแทน พร้อมบอกพวกซีลาร์ให้มาช่วยด้วย
ซีลาร์พยักหน้าเข้าใจก่อนจะกลายร่างเป็นเสือยักษ์เข้าไปขย้ำพวกผู้เล่นที่เข้ามาใกล้ทันที
"โฮกก!!"
"เฮ้ย!!อ๊ากกก!!"
"จัดให้ค่ะพี่อาลีเซีย...โฮกก!!!"
เดเบียล่าก็ยิ้มรับก่อนจะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าสีฟ้าเข้าไปช่วยขย้ำพวกผู้เล่นทันที
ส่วนพวกออร์คพวกเธอก็แค่ตบอัดกระแทกให้สลบเพียงเท่านั้นตามคำสั่งของชุน
"ต้องงี้สิค่ะ
เอาแต่หนีน่าเบื่อจะตาย ฮิ ฮิ"
ลูน่ายิ้มอย่างชอบใจในคำขอของอาลีเซีย ก่อนจะเรียกฝูงค้างคาวดูดเลือดนับแสนของเธอโบยบินมาฉูบกัดกินดูดเลือดพวกผู้เล่นพวกนั้นทันที
"อ๊ากก!!
นี่มันอะไรเนี่ยยัยพวกนี้มันอะไรกัน!!"
พวกผู้เล่นก้ร้องโวยลั่นอย่างเจ็บปวดและทรมาณเมื่อโดนฝูงค้างคาวมารุมกัดกินกัน
จนเนื้อแผลแหว่งเหวอะแถมรู้สึกว่าเลือดจะโดนดูดออกไปด้วย ลูน่าให้ค้างคาวจัดการพวกผู้เล่น ก่อนเธอจะใช้พลังระดับขั้น 4
ของเธอไล่อัดพวกออร์คนักรบเพศผู้เพศเมียที่เข้ามาใกล้ให้สลบกองกับพื้นไปทันที
ตูมม!!
"โฮกก!!"
"งั้นฝากด้วยนะทุกคน
ไปกันค่ะท่านบารอน!"
อาเธอร์เห็นแบบนี้ก็เข้าท่าและเธอรู้ว่าพวกเธอคงไม่เป็นไรกันมากจึงรีบหาทางนำตัวบารอนไปซ่อนดีกว่า
ในตอนที่พวกเธอถ่วงเวลาให้แบบนี้ แต่ว่า....
"ไม่.....ข้าจะอยู่ที่นี่แหละ
"
บารอนก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
ขณะกำลังยืนมองดูพวกซีลาร์ซัดกับพวกผู้เล่นและออร์คเหล่านั้นอย่างยากลำบาก
เพราะต้องรับมือกับคนนับแสนพร้อมกันด้วยกำลังคนเพียงแค่ 4 คน
อาเธอร์ฟังอย่างงั้นก็เบิกตาโพลงกับคำพูดของบารอน
"ทำไมละคะท่านบารอน!"
อาเธอร์ถามขึ้นอย่างร้อนรน
บารอนหันมามองอาเธอร์ผลัดกับพวกซีลาร์ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดขึ้นว่า....
"ข้าคือราชาแห่งเผ่าพันธุ์ออร์คผู้เกรียงไกร
จะมาหลบหลังมนุษย์เพศเมียอย่างพวกเจ้าได้อย่างไรละ ข้าจะจัดการพวกนี้เองถ้าไม่เอาถึงตายข้าก็พอจัดการได้ไม่ต้องห่วง
แต่พวกเจ้าต้องช่วยนำทางข้าไปหามนุษย์ที่ใช้ผลึกควบคุมคนของข้า ข้าจะจัดการมันเองทุกอย่างจะได้จบลงเสียที...."
บารอนพูดขึ้นพร้อมกำหมัดที่มีกล้ามเนื้ออันใหญ่หนานั่นจนแน่น ก่อนจะรีดเร้นพลังออกมาอย่างมหาศาล
พวกผู้เล่นพอสัมผัสได้ถึงพลังนั่นก็ตัวสั่นเล็กน้อยอย่างหวาดหวั่น
"ท่าบารอน....."
อาเธอร์ฟังคำพูดของบารอนก็อึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มอย่างชอบใจ พร้อมชี้ไปยังทิศทางที่ชุนกับเลบิสสู้กันอยู่
"หึ สมเป็นท่านจริงๆนะคะ
ตอนนี้ชายคนนั้นกำลังต่อสู้กับสามีของพวกเราอยู่ค่ะอยู่ที่ปราสาทของท่าน....เอ้ะ!"
อาเธอร์ก็ชี้ไปทางที่ปราสาทเหล็กของบารอน ซึ่งเป็นที่เลบิสตัวต้นเหตุของเรื่องอยู่
แต่พอเธอมองไปยังปราสาทนั่นก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็น....
ม่านบาเรียสีดำทรงลูกบาศก์ครอบคลุมปราสาทนั่นอยู่ทั้งหลัง...แถมที่ตรงนั้นมีกองกำลังผุ้เล่นและออร์คหนากว่าจุดไหนๆ ราวกับว่ากันไม่ให้ใครเข้ามาบริเวณนี้
ตูมม!!!
"กรี๊ด!"
"เอ๊ะ! อาลีเซีย!"
และขณะที่เธอกำลังงุนงงกับม่านบาเรียนั่น ร่างของอาลีเซียก็กระเด้นลอยมากระแทกกับหลังคาที่เธอกับบารอนยืนอยู่ อาเธอร์ก็ตกใจเข้าไปประคองเธอก่อนจะตกใจว่าใครที่ทำเธอได้แบบนี้
อาเธอร์จึงกลับหลังหันไปมองทิศทางที่พวกเธออยู่ตอนแรก....
"โบกัซ...ทรอกอซ"
บารอนพูดขึ้นเมื่อเห็นออร์คชุดเกราะเงินขนาด
6 เมตรผู้เป็นถึงมือขวากับมือซ้ายของเขา
กำลังยืนอยู่ต่อหน้าพวกซีลาร์
ลูน่าและเดเบียล่าอยู่ตอนนี้
อาเธอร์มองนัยต์ตาของแม่ทัพออร์คทั้งสองที่ดูเหม่อลอยนั่นก็แสดงว่าโดนควบคุมไปด้วย
"แย่ละงานนี้....ไม่คิดว่าพวกเขาจะโดนด้วยเลยนะเนี่ย"
อาเธอร์เอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ เพราะไม่คิดว่าออร์คระดับแม่ทัพระดับขั้น 5
อย่างโบกัซและขั้น 4 อย่างทรากอซจะโดนควบคุมไปด้วย แถมทั้งสองระดับมากกว่าพวกเธอด้วย
ถึงพวกเธอจะได้รับการฝึกจากเบลเลี่ยนมาแล้วแต่ก็ยังไม่เท่ากับระดับออร์คระดับแม่ทัพทั้งสองตัวนี้ยิ่งโบกัซแล้วยิ่งแล้วใหญ่ คนที่พอจะต่อกรกับเขาได้ก็น่าจะมีแค่ลูเชียสที่มีระดับถึงขั้น
5 คนเดียวในหมู่ผู้ติดตาม
แต่เขาก็ไม่ได้อยู่ ณ ที่นี้ด้วย
ถ้าเป็นชุนก็น่าจะชนะได้ แต่ว่าเขาก็ไม่ว่างมาช่วยทางนี้แน่....
แถมต้องรับมือพวกเหล่าผู้เล่นนับแสน
กับออร์คอีกนับแสนอีก
แค่นี้ก็ตึงมือแล้ว....
"ท่าทางต้องฝากท่านจัดการกับพวกเขาทีนะคะ ท่านบารอน
ส่วนพวกเราจะจัดการกับพวกคนอื่นๆเอง"
อาเธอร์หันหน้าสวยคมของเธอไปบอกบารอนที่หรี่ตามองพวกโบกัซอยู่ บารอนฟังดังนั้นก็พูดว่า....
"อ่า...พวกเขาไม่คณามือข้าหรอกอย่าห่วง ข้าจะรีบจัดการพวกเขาแล้วพวกเราก็จะบุกไปฆ่าไอ้มนุษย์ที่มันกล้าทำแบบนี้กับพวกข้า"
บารอนพูดด้วยสายตาอำมหิต ก่อนจะมองไปที่ปราสาทเหล็กที่ถูกม่านบาเรียปกคลุมอยู่
ทางด้านชุน....
ตูมมม!! ตุม!
ชุนตอนนี้กำลังใช้ดาบคร่าวิญญาณของเขาฟาดฟันไปที่เลบิส
แต่ก็ไม่มีคมดาบใดที่ถูกตัวเลบิสแม้แต่น้อย
คมดาบของชุนไปฟาดฟันตัวกำแพงของห้องท้องพระโรงนี้จนพังทลายจนหมด
'ชิ! มันมีทักษะอ่านใจงั้นเรอะถึงคาดเดาได้ว่าเราจะฟาดไปทางไหน แล้วทำไมเราถึงอ่านใจมันไม่ได้ละ!'
ชุนสบถในใจขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
เลบิสที่หลบอย่างชิลๆพอเห้นสีหน้าของชุนก็พอเดาได้ว่าคิดอะไรจึงพูดบอกเหตุผลขึ้น...
"แกคงไม่มีทักษะการฟันดาบสินะ ถึงได้อ่านทางง่ายอย่างนี้
ฉันเคยสู้กับผู้หญิงคนนึงที่เชี่ยวชาญด้านการฟันดาบนั่น
และพวกเราก้สู้กันบ่อยครั้ง
เพราะแบบนั้นฉันจึงมีทักษะการอ่านทางดาบได้ง่ายละมั้ง แต่ก็ใช่ว่าฉันจะหลบคมดาบของเธอคนนั้นได้หมดหรอกนะ แต่ของนายมันดูออกง่ายเกินไปก็เท่านั้น"
เลบิสพูดขึ้นขณะที่หลบคมดาบที่น่ากลัวของชุนอยู่อย่างชิลๆ ที่บอกน่ากลัวก็ขึ้นคมดาบของชุนที่ฟาดมาแต่ละครั้งมันมีพลังทำลายที่รุนแรงมาก ขนาดทำให้กำแพงปราสาทเหล็กกล้านี่พังทลายได้โดยง่าย
เลบิสที่รู้ถึงพลังนี้ดีแต่แค่ต้องการตรวจสอบอะไรหน่อยเท่านั้นจึงถึงยอมเสี่ยงยืนหลบคมดาบของชุน
' ชิ! ไอ้เวรนี่จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะเว้ย....แล้วผู้หญิงที่ว่าหมายถึงใครวะ!...แต่ช่างเถอะสรุปคือแกไม่มีทักษะอ่านใจสินะ'
ชุนคิดในใจขึ้นขณะที่นำมือขวาฟาดดาบคร่าวิญญาณบาว
3 เมตรไปที่ใบหน้าของเลบิส
เลบิสที่อ่านทางง่ายก็ยิ้มหัวเราะ
ก่อนจะทำการก้มหลบอย่างสบายๆ
"เฮอะ แกนี่มันไม่มีพัฒนาการเลยนะ...หืม?"
แต่เลบิสก็พูดได้เท่านั้น ก่อนจะอ่านใจความคิดของชุน แล้ก็เห็นว่ามือซ้ายของชุนหยิบดาบใหญ่จากด้านหลังของเขาขึ้นมาพร้อมหมุนเปลี่ยนท่าดาบเป็นรูปแบบแทงเข้ามา
"เอาไปกินซะ!"
ชุนตะโกนขึ้นพร้อมแทงเข้ามาอย่างสุดแรง เลบิสอ่านใจแล้วเข้าใจว่าเขาคงคิดแทงเข้ามาให้ร่างของเขาที่ก้มหลบดาบอีกเล่มอยู่ให้ทะลุ
เลบิสคิดว่าที่ชุนทำแบบนั้นก็เพื่อไม่ให้เขาที่ก้มอยู่มีโอกาสหลบดาบที่แทงมาได้ทัน
เพราะถ้ากระโดดหลบก้ต้องโดนดาบคร่าวิยญาณที่อยู่เหนือหัวเขาแน่
"ใช้สมองได้ดีนี่แต่ว่า...."
เลบิสพูดแค่นั้น เขาไม่คิดกระโดดหลบแต่แรกแต่นำเอาอาวุธดาบสั้นของเขาขึ้นมาแล้วเบี่ยงดาบคร่าวิยญาณที่อยู่เหนือหัวของเขาออก ก่อนจะทำการถอยหลังเพื่อหลบดาบที่แทงเข้ามานั่นอย่างรวดเร็ว
"ติดกับละ!"
"หา?"
ตูมมม!
"อั๊ก!"
ชุนทำการคลิกปุ่มลั่นไกที่ด้ามดาบของกันซอร์ดที่แทงเข้าไป
แล้วกระสุนที่รุนแรงระดับช๊อตกันก็ถูกยิงเต็มอัดร่างของเลบิส
เลบิสก็ไม่เข้าใจว่าเขาก็อ่านใจไปแล้วนี่ไม่เห็นจะรู้เลยว่าชุนคิดจะทำแบบนี้ด้วย
แต่เขาไม่มีเวลามาคิดรีบนำดาบสั้นของเขามากั้นจุดที่โดนยิงอย่างทันควัน แต่ความรุนแรงของกระสุนก็ซัดเขาจนกระเด็นไปติดกับกำแพง
ครึก....
"อึ้ก!...นี่มัน....อ้ะ! หรือว่าแก!"
เลบิสที่ชุนกับกำแพงจนพังทลายออกทะลุออกไปด้านนอกของปราสาท ตรงบนหลังคาของปราสาทจุดนึง ก็พูดขึ้นมาเหมือนนึกอะไรบางอย่างที่ทำให้ชุนสามารถทำแบบนี้ได้โดยที่เขาอ่านใจไม่ได้ มันก้มีอยู่เหตุผลเดียวเท่านั้น...
"แกก็มีทักษะอ่านใจเหมือนกันสินะ...."
เลบิสลุกขึ้นปัดฝุ่นตามตัว
ก่อนจะเงยหน้ามองชุนที่ยืนอยู่ข้างบนตรงกำแพงที่เขาทะลุออกมา ชุนฟังดังนั้นก็ยิ้มก่อนพูดว่า...
"ถูกต้อง แกก็น่าจะเคยอ่านวิธีใช้ของมันมาบ้างสินะ ถ้าทักษะอ่านใจถูกใช้ตอนใช้กับทักษะอ่านใจที่อีกคนใช้พร้อมกัน...มันจะหักล้างกันเองจนไม่สามารถอ่านใจทั้งสองฝ่ายได้ "
ชุนยิ้มบอกด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
แต่ตามตัวเขาก็มีเหงื่อหยดออกมาตามตัวเล็กน้อย
'ดีนะที่เราดูออกว่ามันอ่านใจได้ ถ้ารู้ไม่ทันแย่แน่
และดีจริงๆที่มันไม่รู้ว่าเรามีทักษะอ่านใจตอนแรก แต่จากนี้จะเอาไงดีละ ทักษะจิตสังหาร ทักษะควบคุมจิตใจ ทักษะแรงโน้มถ่วง ใช้กับมันไม่ได้เลยแฮะ....ต้องสู้กันแบบด้นสดเรอะ
'
ชุนคิดในใจอย่างวางแผนการณ์ว่าจะทำไงต่อดี แต่สายตาของเขาก็ยังคงมองไปที่เลบิสตลอดเพื่อความไม่ประมาท แต่บางอย่างก็ทำให้เขาละสายตาจากเลบิส
นั่นคือม่านบาเรียที่ปกคลุมที่นี่จนทำให้ในปราสาทดูมืดไร้แสงใดสาดส่องมา
"นี่มันคือ...."
ชุนถามลอยๆขึ้นพร้อมมองม่านบาเรียรอบๆปราสาท
"ก็มีไว้กันเจ้าออร์คขั้น 7
นั่นเข้ามารบกวนหรือมาฆ่าฉันน่ะสิ....เอาละฉันว่าได้เวลาเลิกเล่นกันแล้วละ มาสู้กันให้จบๆไปดีกว่า...."
ฟุบ!
"เอ้ะ!"
ตูมมมมมมมมมม!!!!
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!ๆๆๆ
เลบิสพูดจบจู่ๆร่างของเขาก็หายไปจากตรงหลังคานั่น
ก่อนจู่ๆจะมาโผล่หน้าชุนแล้วหมุนถีบเข้าที่ท้องของเขาเต็มแรง
ชุนก็รีดเร้นพลังปราณออกมากันแต่ว่าก็กันไว้ไม่อยู่ทำให้กระเด็นไปกระแทกกับกำแพงห้องจนทะลุและยังคงทะลุไปเรื่อยๆถึง
10 ห้อง ก่อนจะร่วงหล่นในที่สุด
"นี่มันอะไรกัน....ทั้งๆที่เรามีปราณระดับ
1000 เบลเลี่ยนนี่มันหมายความว่าไงครับ..."
'
ไม่ใช่....แรงถีบของเจ้านั่นไม่ได้มาจากพลังปราณหรือระดับ....แต่มาจากชุดเกราะสีแดงบนตัวมันนั่น'
เบลเลี่ยนที่มองสถานการณ์ตรงหน้ามาตลอดก็พูดขึ้นตอบชุน
ชุนฟังดังนั้นก้มองชุดเกราะสีแดงบนตัวเลบิสที่เปล่งออร่าสีดำนั่น
' หมายความว่าไงครับ?!' ชุนถามขึ้นอย่างสงสัย
'
ชุดเกราะนั่นมันสามารถดูดใช้พลังปราณของบผู้อื่นที่มาสัมผัสได้
และให้แก่ผู้สวมใส่
นั่นก็หมายความว่าพลังปราณของมันตอนนี้เท่ากับเจ้ายังไงละ'
'หา!!!'
ปล.คอมเม้นเยอะๆนะครับ
ลิ้งค์เพจ
https://www.facebook.com/The-Lost-Zero-Online-175831109424018/
ความคิดเห็น