ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Zero Online : มหาสงครามราชันข้ามฟ้า

    ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER 6 : เควสอาชีพของเบลล์ 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.64K
      69
      5 พ.ย. 58

    CHAPTER 6  : เควสอาชีพของเบลล์ 3


    ทวีปอาเมเรีย


    ณ  เมืองกันสแลซ

     

      ปราสาทราชวงศ์กันด์กูเนอร์ (ประตูทางออก)


          หลังจากชุนได้ทำเรื่องราวเกี่ยวกับเควสอาชีพของเดธเปอร์ราโด้ของตัวละครสาวของเขา 'เบลล์' เสร็จเขาก็กล่าวลากับองค์ชายเอเลียสเล็กน้อย   


    เอเลียสก็ยิ้มอย่างเคอะเขินกับชุนในร่างของเบลล์   ชุนก็ยิ้มเยาะในใจ  เขาก็คิดจะกล่าวลากับเจ้าหญิงอาลีเซียซักหน่อย  แต่คิดอีกทีก็ขี้เกียจตามหาตัวเธอที่อยู่ในปราสาทที่กว้างขวางอย่างนี้

     

           ชุนก็เลยเดินออกมาพร้อมกับซีลาร์ผู้ติตามพยัคฆ์สาวแสนสวยของเขา   เขาพอเห็นประตูทางออกไม่ค่อยมีคนก็กลับร่างเป็นชุนทันที  


    เพราะเขาเริ่มชักรำคาญสายตาของชายทั้งหลายที่มองมาทางเขาอย่างหื่นกระหาย   ตั้งแต่ในพระราชวังศ์แล้ว  แต่พอเขาเดินพ้นออกจากปราสาทไปเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น


    "ชุนรอข้าด้วย!  ...เอ้ะ!กรี๊ด!!!"


    ฮึบ!


    "เฮ้ย!"


    ชุนเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงนั้น   เขาก็เห็นอาลีเซียในชุดคลุมสีน้ำตาลนั่นอีกครั้ง   เธอกระโดปีนข้ามกำแพงมาแต่เธอก็ดันสะดุดกับขอบกำแพง   ทำให้เธอร่วงลงมาทางเขา  ชุนก็ใจหายวาบเมื่อเห็นดาบของเธอที่ไม่ได้เข้าฝักเหน็บอยู่ข้างเอวเธอชี้มาทางเขา 


    แต่ด้วยทักษะการหลบหลีกขั้นตำนานจากเกมส์ The Blond Bullet ทำให้เขาหลบหลีกข้างอย่างชำนาญให้พ้นรัศมีจากปลายแหลมคมของดาบนั่น  แล้วเขาก็เอื้มมือทั้งสองข้างรับแรงกระแทกของร่างบางที่ร่วงลงมาอย่างพอดีมือ

     

    ฟุบ!


    "ไม่เป็นไรนะ" 


    ชุนกล่าวโดยยิ้มกระชากใจหญิงสาวไปทางเธอ   แต่เขาก็แปลกใจที่เธอหน้าแดงจนเกินไปกว่าที่เขาคิด  แต่ก็รู้สาเหตุของใบหน้าที่แดงก่ำของเธอได้ทันที  เพราะมือของเขากำลังสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่มของเจ้าหญิงแสนสวยคนนี้

     

    "เอามือออกจากก้นของฉันได้รึยังเจ้าบ้า!"


    ผัวะ!!


    "อั้ก!!"    


    ชุนโดนหมัดของเจ้าหญิงเข้าที่ปลายคางจนหน้าหงายล้มลงไป   พอเขาล้มจุ้มปุกลงพื้นก็เหลือบมองมาทางซีลาร์อย่างแปลกใจ


    "ทำไมทีนี้คุณไม่ช่วยผมละครับ...คุณซีลาร์T-T"   ชุนทำหน้าอ้อนพลางนำมือลูบคางตัวเองที่โดนกระแทก


    " ลามกแบบนี้ก็สมควรโดนแล้วละคะ...ฮึ"   ซีลาร์พูดอย่างเย็นชาก่อนจะสะบัดหน้ามองไปทางอื่น


     

    'นี่ถ้าผมเผลอไปจับก้นใครอีกที  แล้วคนนั้นเอาดาบจะฟันคอผมขาดคุณจะช่วยมั๊ยเนี่ย-*-'


     

    ชุนคิดในใจอย่างหน่ายๆ  นี่ถ้าเขาจะโดนฆ่าเธอจะมาช่วยมั๊ยเนี่ย  ในกรณีแบบนี้...


    "แล้วคุณมีธุระอะไรครับเจ้าหญิงอาลีเซีย  ถึงได้หนีออกมาอีกแบบนี้-*-" 


      ชุนขมวดคิ้วอย่างอารมณ์เสียมากตอนนี้  เจ้าหญิงก็มองก็รู้สึกได้ว่าชายหนุ่มเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว  จึงรีบเข้าเรื่อง

    "คือข้าจะไปกับเจ้าด้วยน่ะ..."


    "หา!ขืนทำแบบนั้น  ผมก็โดนข้อหาลักพาตัวเจ้าหญิงน่ะสิถ้าโดนจับได้!!"   ชุนอุทานออกมา  พลางนึกผลที่จะตามมา


    "ก็อย่าให้ใครจับได้สิ..."   อาลีเซียกล่าวด้วยเสียงอ่อย


    "เอ่อ...ฉันว่าชุนพาแม่นี่ไปคุยให้ห่างจากที่นี่ดีกว่านะ  เพราะพวกนั้นกำลังตามหาแม่นี่ให้ควักแล้ว"   ซีลาร์กล่าวขึ้นพลางมองไปยังตัวปราสาทที่ตอนนี้มีทหารจำนวนมากเดินตามหาเจ้าหญิงกันให้ควักอย่างร้อนรน

     

    "อ้ะ...ไปเร็วเข้าชุน!"


    "เฮ้ยไหงงั้นเนี่ย!


    ชุนห้ามไม่ทันไรก็โดนอาลีเซียลากพาวิ่งเข้าไปในป่าหลังเมืองกันสแลซทันที   พร้อมกับเสียงที่ดังอย่างวุ่นวายจากด้านหลัง

     

    "เจ้าหญิงอยู่ไหนครับ!"


    "เจ้าหญิงอาลีเซียค้า!!"


    "เดี๋ยวพวกเราหัวกุดนะครับ ถ้าคุณไม่กลับมาT-T!!"


    "Our Princesssssssssssssssss   Where are  Uuuuuu!!!!"

     

    เสียงวุ่นวายจากภายในปราสาท  ในขณะที่ชายหนุ่มหน้าหล่อผมเงิน  เจ้าชายเอเลียสก็มองท่ามกลางความวุ่นวายนั่น  พลางหยิบดินสอมาขีดเส้นหนึ่งลงบนสมุดสีทอง


    "หนีครั้งที่ 99  อีกครั้งเดียวครบ 100และน้องเรา^^"

     

    อีก  50 ชั่วโมง  56 นาที จะเข้าสู่ระบบสงครามชิงเมือง (Factionwar)....

     

    กลางดึก


    ป่านากัวมักมาก  (เขตเมืองกันสแลซ)


             ชุนกับซีลาร์ได้ฟังเหตุผลการหลบหนีครั้งนี้ของเธอ  โดยหารู้ไม่ว่านี่คือครั้งที่ 99 ของเธอแล้ว   เธอบอกว่าที่เธอหนีออกมาแบบนี้


      เพราะไม่ชอบกับระบบของราชวงศ์ของตัวเอง  ที่ทุกคนในราชวงศ์ของกันด์กูเนอร์ต้องใช้อาวุธประเภทปืนทุกคน  ห้ามเรียนอาวุธแบบอื่นเด็ดขาด   คงเพราะแบบนี้ราชวงศ์ของเธอเลยได้ถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ผู้ใช้อาวุธประเภทปืนทั้งหมด


    ที่เธอหนีมานั้นก็เพราะ...เธอเป็นคนที่ชื่นชอบอาวุธประเภทหอกมากกว่า   เธอจึงเลยไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบในหมู่พี่น้องและญาติของตัวเองเพราะความแปลกแยก


    "หืม...แย่จังเลยนะแบบนั้น  และไหนละหอกของเธอนึกว่าเธอชอบดาบซะอีกถึงพกดาบไว้แบบนั้นตลอด งั้ม...งั้ม"


      ชุนพูดพลางงับเนื้อกระต่ายอย่างในมือที่เสียบกับไม้อย่างดี   เขาได้ใช้ไอเทมชุดคั้งแคมป์และแคมป์ไฟมาตั้งเพื่อหาอาหารมากินยามกลางคืน  พร้อมเต๊นท์นอนพักที่สามารถล๊อคเอาท์เช่นเดียวกับโรงแรมประจำเมืองได้ด้วย

     

    แต่ความปลอดภัยในการบุกรุกต่างกันลิบลับ....

     

    ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้........


             คนหาเนื้ออย่างมาก็เป็นหน้าที่ของชุนกับซีลาร์   มอนเตอร์ที่อยู่ในป่านี้สูงกว่าป่าไครอสมากนัก   เพราะอยู่ในระหว่างมอนเตอร์ระดับ  20 - 40 ทั้งนั้น   เพื่อความไม่ประมาทถึงเขาจะระดับ 31 แล้วก็เถอะ  เขาก็ล่ามอนเตอร์แค่ 20กว่าเท่านั้นพร้อมกับซีลาร์


        ชุนล่าได้พวกกระต่ายน้ำตาลระดับ 24  จำนวน 12 ตัว   นกฮูกจงอยเหล็กระดับ  27 จำนวน 5  ตัว(เปลี่ยนร่างเป็นเบลล์แล้วใช้ปืนสอยโดยไม่ให้อาลีเซียเห็น)  จนระดับของเขาขึ้นเป็น 32   แต่เขาต้องตกใจเมื่ออยู่ๆระดับของเขาจาก 32ก็เด้งเป็น 47ทันที

     

    ติ๊ง!

     

    <ผู้ติดตามอสูรพยัคฆ์ขาว ซีลาร์   ขั้น 2 ระดับ 85  อสูรระดับกลาง 

    -ทำการล่ากระต่ายทมิฬ ระดับ  35 จำนวน 54 ตัว  

    -ทำการล่างูจงอางเลือดพิษ  ระดับ 37 จำนวน 125 ตัว

    -ทำการล่าหัวหน้างูจงอางเลือดพิษ ระดับ 40 จำนวน 50 ตัวค่ะ

    ค่าประสบการณ์จะโอนไปให้ผู้ทำพันธสัญญาทันทีค่ะ  อสูรพยัคฆ์ขาว ซีลาร์ ไม่สามารถทำการเลื่อนระดับได้เพราะผู้ทำพันธสัญญาระดับต่ำเกินไป  จะทำการเลื่อนระดับได้เมื่อผู้ทำพันธสัญญาระดับเท่ากับผู้ติดตามหรือระดับมากกว่าค่ะ>

     

           เสียงระบบดังขึ้นในหัวของชุน  เขาก็ยิ้มร่าอย่างพอใจ  และดีจริงๆที่ไม่ได้ฆ่าซีลาร์ในตอนนั้น  เพราะทำให้ระดับของเขาที่พึ่งโดยซีลาร์นั้นขึ้นได้รวดเร้วมาก  แต่เขาก็เอือมกับตัวเองที่รู้สึกพึ่งแม่เสือสาวของเขามากเกินไปยังไงไม่รู้

     

    'ท่าทางจะแค้นมอนเตอร์พวกงูมากสินะครับซีลาร์ หึ หึ  ถึงฆ่าซะเยอะเชียว.....เราเองก็ต้องรีบเก่งขึ้นจะได้ให้ซีลาร์เลื่อนระดับได้'

     

    ชุนคิดในใจพลางนึกไปถึงศัตรูคู่แค้นของซีลาร์  ซาเลย์ไลที่ตอนนี้เป็นผู้ติดตามเดียรินี่ไปแล้ว


    'ซีลาร์ครับกลับมาได้แล้ว  เดี๋ยวพวกเราจะเอาพวกนี้ทำอาหารกัน  ส่วนที่เหลือเก็บไว้ช่องเก็บของละกันพวกเนื้อที่ดรอปมาเนี่ย'


    'ค่ะ'



    กลับมาปัจจุบัน


    อาลีเซียก็คว้าก้อนผลึกอะไรบางอย่างขึ้นมาในมือ  เป็นผลึกสีเขียวเหมือนมรกต

     

    "หือ..นั่นมันผลึกอาวุธ 1ใน12อาวุธวิเศษขององค์จักรพรรดิ์ราชันข้ามฟ้านี่!!


     ซีลาร์ตะโกนแทบจะเป็นอุทานพลางลุกขึ้นชี้ไปที่ผลึกสีเขียวนั่น   ชุนเห็นดังนั้นก็รู้สึกว่ามันต้องยิ่งใหญ่มากเลยใช้ดวงตาพื้นฐานลองสแกนดู


    ติ๊ง!


    <ไม่สามารถระบุของชิ้นนี้ได้เนื่องจากสาเหตุ 2 กรณีค่ะ 

    - ของชิ้นนี้ถูกลงของป้องกันการตรวจสอบไว้โดยเจ้าของ

    -ของชิ้นนี้มีระดับที่สูงเกินไปสำหรับผู้ที่ตรวจสอบตอนนี้ค่ะ>

     

    'เห...ท่าทางคงไม่พ้นระดับ Aขึ้นไปแน่เลย '


    "เจ้าได้มาจากไหนเนี่ย!


     ซีลาร์ตะโกนถามเธอ  เพราะผลึกนี้ถือเป็น1ใน12อาวุธของเจ้านายของปู่ของเธอ


    "ข้าได้มาจากท่านอาตอนเด็กๆน่ะ  เขาบอกว่าเป็นอาวุธประจำตัวข้า  ข้าก็นึกว่าเป็นปืนมานานจนพอเผลอใช้มันก็กลับกลายเป็นหอก  ข้าเห็นครั้งแรกก็ชื่นชอบมันทันที  เลยฝึกใช้มันตั้งแต่เด็กจนป่านนี้"


    "ท่านอาที่คุณว่าเนี่ยคือผู้ที่ดูแลเควสเปอร์ราโด้ของผมน่ะเหรอ? (ชุนรู้ว่าอาลีเซียยังไม่รู้เรื่องเบลล์จากเอเลียสที่เขาโกหกไปว่ามีน้องสาวไปทำเควสเดธเปอร์ราโด้)"  ชุนถามขึ้นพลางมองผลึกสีเขียวที่ยังไม่กลายเป็นอาวุธออกมา

     

    "ใช่ ข้าไปกับเจ้าเพื่อจะไปหาท่านอาด้วยนั่นแหละ" อาลีเซียตอบกลับ


    "อืม...อย่างงี้นี่เอง"


    "ดีข้าจะได้ไปถามอาของเจ้า  อยากรู้เหมือนกับเขาไปเอามาได้ยังไง"  ซีลาร์กอดอกมองอย่างไม่พอใจ

     

    "หือ?แสดงว่าอาวุธทั้ง 12 ชิ้นนั่นไม่ได้อยู่ที่องค์จักรพรรดิ์อะไรนั่นแล้วเหรอครับ?"


     ชุนถามอย่างสงสัยเพราะฟังจากคำพูดของเธอ  เหมือนสิ่งของเหล่านี้จะแยกจากผู้ที่เป็นเจ้าของคนนั้น  จะว่าไปองค์จักรพรรดิ์ที่เป็นเจ้านายของปู่ของซีลาร์นั้นคือใครนะ  ท่าทางจะยิ่งใหญ่พอๆกับดอร์น เดวิลาซที่เป็นพญาจอมมารนั่นเลย

     

    "ใช่ค่ะ พระองค์สวรรคตไปนานแล้วค่ะ  ของเหล่านี้ที่เปี่ยมไปด้วยพลังก็ได้แยกย้ายกระจายเป็นแสงหายไปค่ะ"


      ชุนฟังพลางคิดว่าเหมือนกับลูกแก้วมังกรทั้ง 7 ในเรื่องดราก้อนบอลเลยแฮะ  ใช้เสร็จก็หายแว้บกระจายไปทั่วโลก-_-


    "ช่างเรื่องนั้นก่อนละกัน  ไหนผมขอดูอาวุธนี่หน่อยได้มั๊ยครับอาลีเซียว่าหน้าตาของมันเป็นยังไง^^"  ชุนยิ้มไปทางอาลีเซียอย่างสนอกสนใจของในมือของเธอตอนนี้


    "ได้ เจ้าเห็นแล้วต้องทึ่งแน่นอน ฮึ ฮึ...จงปรากฏหอกแห่งมวลพฤกษา  อานาสุกุ!!"


    ว๊าบ!!!


    "อุ้บ!/อ้ะ!"


        แสงสว่างวาบออกมาจนชวนแสบตา  ทำให้ชุนกับซีลาร์ต้องเอาแขนมาบดบังไว้  ก่อนแสงจะดับลงกลายเป็นหอกด้ามจับสีเขียวมรกต  ปลายหอกที่แหลมนั้นเป็นทองที่แหลมคมขอบประดับไปด้วยอัญมณีสีแดง   เรืองแสงออกมาตลอด  พร้อมกับแรงกดดันของไอของพลังงานที่วนรอบหอกสีมรกตนี่ 


    จะว่าไปอย่างงี้เขาอาจพึ่งให้อาลีเซียออกลุยเป็นกำลังรบได้น่ะสิ  ถ้าเธอมีหอกที่ทรงพลังนี่....ว่าแต่เธออยู่ในระดับไหนกันนะลืมตรวจดูเลย  เพราะไม่ใช่AIที่จะมาทำร้ายเลยไม่ขึ้นบอกระดับออกมา


    'ลองตรวจดูซักหน่อยละกัน'


    ติ๊ง!


    <เจ้าหญิงอาลีเซีย แห่งราชวงศ์กันด์กูนอร์  ทายาทระดับที่ 12  เจ้าหญิงระดับที่ 3   AIประเภทสปิริต**ระดับต่ำ   ขั้น 1ระดับ 35 ค่ะ>



    **(ประเภทต่างๆของพวกAI มอนเตอร์ และอสูร จะเป็นแบบนี้นะครับ

      1.ประเภทมอนเตอร์   ถือว่าระดับต่ำที่สุด  มีระดับต่ำ  กลาง  สูง

      2.ประเภทอสูร  มีระดับ  ต่ำ  กลาง  สูง

      3.ประเภทสปิริต(เท่ากับประเภทอสูรต่ำ  กลาง  สูง

      4.ประเภทราชาสปิริต   ต่ำ  กลาง  สูง

      5.ประเภทราชาอสูร(เท่ากับราชาสปิริต)  ต่ำ  กลาง  สูง

      6.ประเภทจักรพรรดิ์มาร  และ  จักรพรรดิ์วีรชน  ระดับสูงสุดในเกมส์ตอนนี้ที่ผู้เล่นทำการค้นพบไม่สามารถบอกได้ว่าสูง   กลางต่ำ

      7.?????  ระดับสูงสุดของเกมส์)

     

    'ก็พอใช้ได้แฮะเจ้าหญิงที่ดูอ่อนแอนี่....อย่างน้อยก็เก่งกว่าเราตอนนี้แฮะ'



    ทวีปเวเซอุส

    ณ เมืองการันเทียร์


    ปราสาทฐานที่มั่นสมาพันธ์ฝ่ายรัฐบาล (ประตูทางเข้า)


    ติ๊ง!


    <การเตรียมสงครามชิงเมืองได้ทำประกาศว่า เมือง 5 เมือง ที่อยู่ในทั้ง 5ทวีปนี้  ได้ประกาศเป็นเมืองทำการสงครามค่ะ   ผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมสงครามของทั้งสองฝ่าย  ฝ่ายปฏิวัติ  ฝ่ายรัฐบาล  จะโดนทำการวาร์ปออกจากพื้นที่ที่อยู่บริวเณทั้ง 5 เมืองนี้

    -  ทวีปอาเมเรีย(ทวีปของเมืองเริ่มต้น)  เมืองกันสแลซ

    - ทวีปครอสแลน์  เมืองครอสซิงกัน (เมืองหลวง)

    - ทวีปปอมปีอา  เมืองปอมเปอี (เมืองหลวง)

    - ทวีปวิหคคาร์  เมืองวิลลาร์

    - ทวีปนาราเรีย  เมืองร็อคลิมบัส

    เหลือเวลอีก 48 ชั่วโมง 30 นาที ตามเวลาโลกจริงค่ะ>

     

    "...ตกลงจะให้ใครไปดูแลเมืองไหนครับหัวหน้าทีรา"


             ชายหนุ่มมัดผมหางม้าสีเขียวใส่ชุดออกจีนแบบราชวงศ์   เขาคือหัวหน้ากิลหลินจง  นามว่า  'โหวหลาน'   กิลหลินจงเป็น 1 ใน 5 กิลมหาอำนาจของกิลแห่งประเทศจีนที่ผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นคนจีนทั้งสิ้น  กิลจีนพวกนี้มักจะเชี่ยวชาญด้านวรยุทธที่ใช้กำลังภายใน  หรือลมปราณนั่นเอง  ทำให้กิลของพวกเขามีการโจมตีที่รุนแรงมากแม้จะเพียงหมัดเปล่า


    ชายหนุ่มหน้าหล่อแบบชาวจีนหันไปถามหัวหน้าสมาพันธ์  ชายหนุ่มผมฟ้าปล่อยยาวตาสีน้ำเงิน  ที่ใส่ชุดฮากามะของญี่ปุ่นสีน้ำเงินขลิบดำ  ทีราฟังดังนั้นก็บอกเหล่าหัวหน้ากิลที่แสนโด่งดังเบื้องหน้า

     

    "ข้าจะขอแต่งตั้ง 5 หัวหน้ากิลนี้เป็นผู้นำการรบของแต่ละเมืองละกัน  ส่วนพวกหัวหน้ากิลที่เหลือก็จัดแจงวางแผนกันเองว่าจะเข้าไปช่วยเมืองไหนของแต่ละ 5 หัวหน้ากิลที่ข้าเลือก...ขอให้จำนวนคนจัดแจงอย่างพอๆกันละกัน"

    ทีราพูดจบก็มองทั้ง 5 คนที่ตนได้เลือกไว้

     

    "ก่อนอื่น...โหวหลาน  เจ้าไปที่เมืองวิลลาร์" 

    "น้อมรับบัญชา"


      โหวหลานผู้ดำรงตำแหน่งในยศพลตรีนำมือทั้งสองข้างทำท่ารับคำสั่งแบบนักรบชาวจีน


    "ราชาตัวตลก  เจ้าไปเมืองครอสซิงกัน"

    "อะ...ครับ"


       ชายหนุ่มผมดำยาวรับอย่างไม่เต็มใจนัก   ทีรามองเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อ   เขาอยากไปบุกเมืองกันสแลซที่เจ้าฟูจิวาระอยู่มากกว่า  จะได้คิดบัญชีแค้นด้วย

     

    "ต่อไป...ฮิซานะ  เธอไปเมืองร็อคลิมบัส"

    "รับทราบค่ะ"


       ทีรากล่าวบอกหญิงสาวหน้าคมสวยชาวญี่ปุ่นผมแดงดวงตาสีเหลืองทอง  มัดผมหางม้า  สวมอยู่ในชุดกิโมโนสีขาวขอบแดง  ถืออาวุธง้าวด้ามจับสีทองขอบทองไว้ในมือ อยู่ในฐานะตำแหน่งยศพันเอก

     

    "ต่อไปก็...บาบิโลน  เจ้าไปถล่มที่เมืองปอมเปอีละกัน"


    "ฮ่า ฮ่า ต้องงี้สิท่านหัวหน้าไว้ใจข้าได้เลย รับรองมันต้องโดนข้าถล่มเละ ฮ่า ฮ่า ไอ้พวกกบฏ!!"


      ชายหนุ่มร่างใหญ่ไว้หนวดเคราเล็กน้อยสวมชุดเกราะสีน้ำตาลขอบดำ  ผู้ดำรงตำแหน่งในยศพันตรีหัวเราะร่าอย่างเถื่อนดิบ  ตามนิสัยประจำตัว

     

    "และสุดท้าย..คุณพีกับเดียรินี่ช่วยนำกิลของพวกคุณไปที่เมืองกันสแลซทีนะ"  ทีราหันไปมองสองสาว

     

    "ไม่ต้องห่วงพวกเรารับรองว่าพวกฟูจิวาระที่อยู่นั่นต้องเสร็จเราแน่  ไว้ใจเราได้เลย เนอะเดียร์"


     หัวหน้าสาวผมแดงเลือดหมูดวงตาดูเย็นชาและดูสวยคมในตำแหน่งพันเอกมองไปที่สาวสวยอีกคนที่ดูสวยสะดุดตาที่สุด ณ ที่นี้ผมลอนสีม่วงอ่อน  ดวงตาสีชมพู  ที่อยู่ในตำแหน่งพันตรี

     

    "โถ่หัวหน้าอย่าเรียกชื่อจริงสิ  เรียกเดียรินี่สิ...ไม่ต้องห่วงท่านทีราพวกเราจะคว้าชัยมาให้อย่างแน่นอน  จงเชื่อในดาบของเราได้เลย"  เดียรินี่พูดขึ้นพลางลูบดาบของตัวเองอย่างมั่นใจ 


    "แถมฉันยังมีซาเลไลย์คอยช่วยด้วยเนอะ^^"   เดียรินี่หันไปมองผู้ติดตามสาว  ที่ฟังเรื่องที่ผ่านมาอย่างเฉยชา


    "ค่ะ ข้าจะไม่ให้ใครแตะต้องเจ้านายแม้แต่น้อย" 


     ซาเลไลย์ตอบกลับมาด้วยเสียงเจ้าเลห์ที่ดูชั่วร้าย  จนทีราต้องขนลุกเลยทีเดียว


    "โอเคก็ตามนี้แยกย้ายได้"


    "รับทราบ!"


    ฟุ่บ!!


    สิ้นสุดเสียงนั้นหัวหน้ากิลทั้งหลายก็แบ่งกลุ่มกัน  และก็แยกพุ่งออกหายไปทันที

     

    'หวังว่าคุณชุนคงยังไม่ได้อยู่ที่เมืองกันสแลซอยู่นะ....เอ...แต่เดี๋ยวก็โดนวาร์ปอยู่ดีนี่นา  คงไม่มีไรต้องห่วงหรอก'

     

    ทวีปอาเมเรีย 

    ณ  เมืองกันสแลซ


    เขตใจกลางป่านากัวมักมาก


    " อืม...ผมมีเต้นท์แค่หลังเดียวด้วยสิ...แล้วพวกเราจะนอนกันยังไง"


     ชุนที่นั่งอยู่รอบแคมป์ไฟ  เช่นเดียวกับอาลีเซียกับซีลาร์เอ่ยถามขึ้นมา  พลางเหลือบมองเต้นท์ 1 หลังที่เขาได้กางไว้  โดยพื้นที่สวามารถนอนได้แค่ 2 คนเท่านั้น

     

    "เดี๋ยวฉันเฝ้ายามให้เองค่ะชุนกับ...แม่นี่ก็ไปนอนด้วยกันเถอะ"


             ซีลาร์พูดขึ้นโดยไม่เต็มใจนัก  แต่ยามกลางคืนมันก็อันตรายและมันก็เป็นหน้าที่ของผู้ติดตามที่จะต้องคอยระวังภัยให้กับผู้ที่ทำพันธสัญญาด้วย  


           ชุนฟังดังนั้นก็ยิ้มร่าถึงจะนึกเสียดายที่อดนอนกับซีลาร์ด้วย  แต่ยังไงพวกเขาก็ต้องอยู่ด้วยกันตลอดอยู่แล้วยังไงซักวันก็ต้องมีวันแบบนั้นเกือบทุกวันอยู่แล้ว  ชุนเลยยิ้มพลางหันมามองอาลีเซียเจ้าหญิงแสนงามของราชวงศ์กันด์กูเนอร์เจ้าของเรือนผมสีดำนัยต์ตาสีมรกต


    อาลีเซียก็รับรู้ได้ทันแผนการและความคิดของชายคนนี้  เมื่อได้มองจากสีหน้าที่มองมาด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์  ก็หน้าแดงแปร๊ดอย่างร้อนรุ่ม


    "จะบ้าเหรอใครจะไปยอมนอนกับนาย  ฉันเป็นถึงเจ้าหญิงเชียวนะเสื่อมเสียเกียรติ์กันพอดี...แล้วใครแม่นี่ที่ว่า-*-"   อาลีเซียกล่าวอย่างไม่พอใจด้วยสีหน้าที่แดงดุจผิวของมะเขือเทศ  พลางเหล่ไปทางซีลาร์ที่หล่อนเรียกเธอแบบนั้น

     

    "ล้อเล่นน่ะครับ  คุณนอนเถอะผมกับซีลาร์กะจะล่าพวกมอนเตอร์แถวนี้ซักหน่อย  ได้ข่าวว่ายามกลางคืนมอนเตอร์ตัวแข็งแกร่งจะโผล่ออกมามากกว่าตอนเช้าด้วย"


    'ทีนี้ระดับเราจะได้ขึ้นเยอะๆ หึ หึ  มีซีลาร์จังช่วยแบบนี้สบายชัวเรา'


    ชุนกล่าวพลางวางแผนอย่างเจ้าเล่ห์ในใจ


    "....."


    ซึ่งเสียงในใจซีลาร์ก็ได้ยินเช่นกันจากความสัมพันธ์ทางพันธสัญญา  เธอก็หน้าแดงเล็กน้อยที่ชายหนุ่มเรียกเธอด้วยชื่อที่ลงท้ายด้วย'จัง'   และก็ยิ้มอย่างพอใจที่ชายหนุ่มเห็นเธอมีประโยชน์ต่อเขา

     

    "ดี งั้นข้าขอตัวนอนละ...นายเองก็อย่าอยู่ดึกมากละกัน   ขืนหลับกลางคันโดนพวกสัตว์อสูรจับกินไม่รู้ด้วยนะ"


    "ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ^^"


    "ไม่ได้เป็นห่วงซักหน่อยย่ะ นอนแล่ว!"


    ฟืด!


    หญิงสาวพอเห็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนล้อเลียนของชุน  ก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึงรีบสะบัดหน้าเข้าเต้นท์ไปในทันที

     

    "เอาละ...ไม่มีคนเกะกะและ"


    "เอ้ะ..!"


    ตึง!!


    "ว้ายย!!ชุนจะทำอะไรคะ!!"


             ซีลาร์แทบจะไม่ทันตั้งตัวจู่ๆก็โดนชายหนุ่มนำแขนของตัวเองกระชากแขนของเธอ  จนเธอเคลื่อนตามแรงของเขาที่ดึงแขนเธอจนกระแทกกับต้นไม้ต้นนึง   ที่เธอโดนแรงที่แสนเบาของเขาลากจูงไปได้ทั้งๆที่เธอมีพลังมากมายกว่าเขาหลายขุมนั้น  ก็เป็นเพราะพลังของผู้ทำพันธสัญญานั่นเอง

     

    "มันถึงเวลาซักทีนะที่ผมจะได้รู้จริงๆว่าคุณต้องการอะไรจากผม...." 


     ชุนมองจ้องไปที่เธอด้วยสายตาจริงจัง  ซีลาร์ก็มองอย่างสงสัยในตอนแรก  แต่ก็เปลี่ยนเป็นสายตาที่จริงจังเช่นเดียวกัน  เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้คงรู้สึกตัวถึงอะไรซักอย่างเกี่ยวกับเธอซะแล้ว


    "หมายความว่าไงคะ...ฉันไม่มีอะไรปิดบังคุณนะคะชุน"

     

    "คุณคิดว่าผมโง่มากเลยรึไง...ผมรู้นะว่าที่คุณยอมเป็นผู้ติดตามผมไม่ใช่เพราะผมเป็นคนที่ช่วยชีวิตคุณ  ถึงผมจะไม่รู้ว่าทำไมแต่ผมรู้สึกได้ถึงจิตใจของผู้ติดตามที่ปล่อยออกมาโดยไม่รู้ตัว  คุณในตอนแรกที่ขอทำพันธสัญญากับผมคุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมเป็นพิเศษเลย  สัมผัสของผู้ทำพันธสัญญาที่ผมรู้สึกได้ในตอนนั้น...คือ...

     

    ........คุณต้องการความช่วยเหลือจากใครซักคน....เพื่อช่วยเหลือใครบางคน"


    "!!"

    ซีลาร์สะดุ้งทันทีเมื่อชายหนุ่มตรงหน้ารู้ถึงความรู้สึกของเธอ....

     

    "และตอนนี้คุณก็ยังรู้สึกหยั่งงั้นอยู่....คุณช่วยบอกมาเถอะซีลาร์ว่าคุณอยากให้ผมทำอะไร  คุณไม่ต้องเก็บกดไว้ในใจ  หรือไม่ต้องเกรงใจผมหรอก

     คำว่าพันธสัญญาน่ะ....หมายถึงคนสองคนที่สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันพร้อมทั้งปรึกษาความสุข....ความทุกข์ของอีกฝ่ายได้อย่างเปิดเผยไม่ใช่เหรอ"

     

    ชุนพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง  พลางจับไหล่ทั้งสองข้างของผู้ติดตามพยัคฆ์สาว   ซีลาร์ฟังดังนั้นก็แทบเอ่อน้ำตาล้นออกมา  น้ำตาเธอเริ่มคลอเบ้ามือไม้ปากสั่น  ชุนเห็นดังนั้นก็เริ่มพูดต่อ


    "คุณบอกมาเถอะว่าอยากให้ผมช่วยอะไร  ผมพร้อมจะช่วยคุณทุกอย่าง  อะไรที่ทำให้พยัคฆ์สาวของผมทุกข์ใจผมจะขจัดออกให้เอง"   ชุนพูดพลางนำมือลูบใบหน้าของพยัคฆ์สาว

     

    "ชุน.....ฉะ...ฉัน...ฮึก ฮึก"


    "มานี่ไม่ต้องร้อง...ไม่ต้องร้องเล่ามาเถอะ  ว่าคุณอยากให้ผมทำอะไร"


    ชุนนำร่างบางของหญิงสาวเข้ามากอด  เธอก็ร้องไห้ซบอกของชายหนุ่ม  ชุนก็ลูบหัวเธอเบาๆอย่างอ่อนโยน

     

    "อะ...อื้อ...ฮึก"

     

            ซีลาร์ได้เล่าความจริงทุกอย่างออกมาตั้งแต่ตอนแรกที่พวกเขาทั้งสองได้เจอกัน   ซีลาร์ที่กำลังสู้กับซาเลไลย์ในตอนนั้น   รู้จักซาเลไลย์เป็นอย่างดี  เธอคือลูกสาวของราชาอสูรอสรพิษ'คิงคอบบร้า'  ซึ่งเป็น 1ใน 5 องครักษ์ขององค์จักรพรรดิ์ในสมัยกาล  เช่นเดียวกับปู่ของเธอ


            และสาเหตุที่ซาเลไลย์มาอยู่ที่นี่เพราะว่ารังของเธอได้ถูก 1 ใน 20 อสูรบรรพกาลของพญามารบุกโจมตีจนรังแตกพ่าย  เหล่าอสรพิษโดนเข่นฆ่ามากมาย  และก็ไม่ทราบความเป็นอยู่ของ'คิงคอบบร้า'ว่าเป็นตายร้ายดียังไง   และข่าวร้ายยิ่งกว่าคือ...ถ้ำตำหนักพยัคเมฆาทิ่อยู่ของปู่ของเธอได้โดนถล่มก่อนหน้านั้นแล้ว


             แล้วความเป็นตายร้ายดีของปู่เธอก็ไม่รู้เช่นกัน   เธออยากจะไปหาครอบครัวของเธอถ้าไม่ติดตรงหน้าที่คุ้มครองคัมภีร์นี่   จนกว่าเธอจะหาผู้รับคัมภีร์นี้ได้  เธอถึงจะออกไปจากที่นี่ได้แต่ต้องอยู่ในภายใต้กฏของผู้ติดตามเท่านั้นถึงจะฝ่าม่านศักดิ์สิทธิของถ้ำที่ไม่ให้เหล่าผู้ดูแลออกจากถ้ำนี้ได้เท่านั้น

     

              ในตอนแรกที่เธอได้พบเดียรินี่ที่ได้เข้ามาสู้กับซาเลไลย์แทนเธอที่ได้รับบาดเจ็บจากพิษจำนวนมหาศาลจนถึงแม้เธอจะเก่งกว่าซาเลไลย์  แต่สภาพที่ต้องทนพิษไปสู้ไปก็ทำให้เธอพ่ายแพ้ในที่สุด   ในใจเธอตั้งใจที่จะมอบคัมภีร์นี้ให้เดียรินี่แต่เธอก็ไม่สามารถมอบให้ได้


    เพราะกฏที่ว่าต้องมอบคัมภีร์นี้แก้บุรุษเท่านั้น....


    และพอเธอเจอชุน....     


          ความปลดเปลื้องในตัวเธอก็หล่นหายไปในทันที  แถมชายหนุ่มยังเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้อีกด้วย(ชุนรู้สึกเหมือนโดนแทงใจดำอีกรอบ(=+=) เธอจึงยอมผู้ติดตามทันที   แต่เธอก็มารู้ทีหลังว่าชุนไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมายออกจะอยู่ในขั้นอ่อนแอด้วยซ้ำ   เธอจึงเกรงใจที่จะขอให้เขาพาข้ามทวีปเมื่อไปช่วยเหลือปู่ของเธอ 

     

    แต่....โดยในใจเธอเจ็บปวดและเป็นห่วงท่านปู่ของเธอตลอดเวลา   แต่เธอก็ต้องอดทนกลั้นฝืนใจไว้  เพราะถ้าไปสภาพนี้  เท่ากับพาชายหนุ่มตรงหน้าไปตายเท่านั้น  ซึ่งเรื่องนั้นเธอก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย...

     

    "......."

    ชุนฟังดังนั้นก็กัดฟันกรอดในความอ่อนแอของตัวเอง   เพราะเขาดันกลายเป็นภาระของผู้ติดตามสาวจนได้

     

    "....ชุนฉันไม่บังคับคุณหรอก  ตอนนี้ท่านปู่ของฉันอาจจะยังมีชีวิตอยู่  และฉันเชื่อว่าท่านปู่ไม่โดนใครฆ่าได้ง่ายๆหรอก" 


     ซีลาร์พูดเหมือนให้สบายใจได้   แต่ในใจเธอตอนนี้เจ็บปวดมากมายพร้อมความกังวลที่ถาโถมมาตลอด


    "แต่ว่า...."


    "ไม่เป็นไรค่ะ....ถึงฉันจะเป็นกังวลอยู่บ้าง   แต่ฉันก็ทนไม่ได้เหมือนกันที่จะต้องมาเห็น...เธอตายเหมือนกันนะ"  ซีลาร์ที่เปลี่ยนสรรพนามจากคุณเป็นเธอด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป....

     

    ติ๊ง!


    <ความสัมพันธ์ของผู้ทำพันธสัญญากับผู้ติดตามพยัคฆ์ขาว ซีลาร์  ขั้น 2 ระดับ 85  อยู่ในระดับ 40/100 ค่ะ>

     

     

     

      

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×