ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Zero Online : มหาสงครามราชันข้ามฟ้า

    ลำดับตอนที่ #78 : CHAPTER 72 : เบลล์จะเป็นครู

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.06K
      31
      22 ธ.ค. 58

    CHAPTER 72 : เบลล์จะเป็นครู


    ทวีป??

    ณ  วังศ์ราชันย์สีเลือด



    "ฉันขอโทษจริงๆค่ะท่านเลบิส....เพราะฉันทำให้ลูกน้องเกือบสิบล้านคนต้องตายจนหมด"


    ณ  ปราสาทสีแดงโลหิตจนเกือบดำ  ราวกับปราสาทร้างในหนังสยอมงขวัญ  แต่แท้ที่จริงคือวังศ์ประจำตัวของ 'เลบิส' 1ใน 4 จักรพรรดิ์(นับเดียรินี่เพิ่ม)  ของกองทัพปฏิวัติที่ตั่งอยู่ล้อมรอบสุสานและป่าช้า...

    ใจกลางขนาดใหญ่สีทมิฬหญิงสาวผมดำหน้าสวย เจ้าของนัยน์ตาสีดำในชุดโกธิคโลลิต้าสีดำสลับม่วงที่ตอนนี้กำลังคุกเข่าเป็นเหมือนการขออภัยให้กับความผิดพลาดในการนำพาศึกครั้งนี้จนพ่ายของเธอ  


    "อือ...อืม...แพ้งั้นเหรอก็ไม่แปลกหรอกนะ/อื้อ"


    เสียงชายหนุ่มผู้เป็นผู้นำของเธอดังขึ้นที่เตียงใหญ่ข้างหน้าเธอ  ที่ตอนนี้มีหญิงสาวเปลือยกายหลายคนกำลังนอนกอดจูบกับชายคนนั้นอย่างไม่เกรงใจสายตาของผู้ใดที่กำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าอยู่ตอนนี้


    หญิงสาวที่คุกเข่าพอได้ยินคำพูดของชายหนุ่มก็เบิกตาโพลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัยในคำพูดของเขา...


    "หมายความว่าไงคะ!"


    ".....อือ/อื้อ"


    "ท่านเลบิส!!!"


    "ห้ะ! หะ...อ๋อก็คือ"

    หญิงสาวพอเห็นหัวหน้าหนุ่มของเธอมัวแต่คลอเคลียกับสาวเปลือยกายพวกนั้นที่เป็นเอไอสาวของเมืองที่เขาปกครองอยู่นี้  ก็ฉุนขึ้นแล้วเรียกเขาด้วยเสียงดังเพื่อให้เขาตอบคำถามของเธอ



    "ชั้นรู้อยู่แล้วว่าเธอจะแพ้....ถ้ามีไอ้ทีรามิสุลงด้วย   ต่อให้มีกองกำลังมากแค่ไหนก็ไม่สำคัญหรอกถ้ากองกำลังนั้นทั้งหมดอ่อนแอ  ถ้าศึกครั้งนี้ชั้นไปด้วยก็อาจมีสิทธิที่พวกเราจะชนะ...."


    "งั้นแล้วทำไมท่านถึงส่งพวกเรา...."


    หญิงสาวผมดำ หรือ มาโยที่รอดมาจากการดจมตีของทีรามิสุได้ด้วยทักษะของเธอ ก็ทำท่าจะถามขึ้นมาว่าแล้วทำไมต้องส่งพวกเราไปตายด้วยทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าจะต้องแพ้ ถ้าฝั่งนั้นมีทีรามิสุอยู่...


    แต่เลบิสก็ตอบให้ก่อนทันที....


    "ที่จริงก็อยากให้วอลเตอร์อธิบายให้ฟังนะจะได้เข้าใจง่าย  แต่หมอนั่นก็ดันตายซะอีก....แต่ก็ไม่ผิดจากที่คาดการณ์ไว้หรอก  ชั้นจะสรุปให้ฟังละกัน....


    ที่ชั้นส่งเธอไปแค่คนเดียวโดยไม่ได้ส่งหัวหน้ากิลแนวหน้าคนอื่นๆไปก็เพราะให้เธอไปดูมาว่า....พี่น้องสัตว์ประหลาดจากบอร์ดข่าวสารนั่นมีพลังแบบไหนบ้างยังไงละ  รวมถึงพวก 16 องครักษ์และทีรามิสุด้วย....


    ....เผื่อสงครามครั้งหน้าเราจะได้มีข้อมูลของพวกมันและหาจุดอ่อนของแต่ละคนได้ยังไงละ....เพราะมันไม่ง่ายหรอกนะที่จะเรียมตัวเป้งๆจากฝ่ายรัฐบาลมารวมตัวกันแบบนี้ หึ หึ"

    "......อย่างงี้นี่เอง"

    มาโยก็พยักหน้าอย่างเข้าใจในความคิดของเขา  แต่เธอก็ยังคงมีสีหน้ากังวลอยู่  เพราะถ้าให้บอกจุดอ่อนของพวกนั้น...เธอไม่รู้เลย  เพราะพวกเธอตายได้แบบไม่ทันได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ


    "แล้วเรื่องของชอนอาละคะ? ได้ข่าวว่าเธอโดนจับตัวไปแล้วด้วยคนของไอ้ชุน"  มาโยรีบหาเรื่องอื่นมาเปลี่ยนเรื่องก่อนเลบิสจะถามขึ้น


    "....เรื่องยัยนั่นให้ไอ้เจ้าเดอะ เกรทจัดการไปเถอะ  ไม่ใช่ธุระของเรา"


    "ค่ะ"


    "เรื่องของเราตอนนี้นอกจากจะเตรียมพร้อมกับสงครามครั้งหน้า...เราต้อง....

                                  .......หาทางกำจัดเสี้ยนหนามอย่างไอ้ชุนกับน้องสาวของมันเสียก่อน






    ทวีปเวเซอุส


    ณ  เมืองอีนิคม่า




    กลับมาที่เมืองอีนิคม่า  หลังจากที่พูดคุยกับทีรามิสุเล็กน้อยทีรามิสุก็ให้เงินค่าช่วยเหลือในศึกครั้งนี้ถึง  100,000,000 zen  ก่อนจะพาตัวเบลล์กลับไปด้วย  เพราะต้องประชุมเป็นการส่วนตัวกับฝ่ายระดับหัวหน้าฝ่ายรัฐบาลอย่างเบลล์  ชุนเห็นดังนั้นก็คิดขึ้นในใจเพื่อคำนวณการใช้ทักษะร่างแยกนั่น


    ' ผลาญมานา 1 แสนต่อวัน....เอาเถอะก่อนที่ร่างเบลล์จะสลายเราก้ให้ร่างเบลล์แยกร่างอีกทีก็ได้สบายๆอยู่แล้ว  แต่ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะเหลือมานาใช้สำหรับต่อสู้น้อยอะสิ  ถ้าต้องใช้ร่างแยกไว้ตลอดแบบนี้...

    ช่างเถอะยังไงมานาเราก็มีเหลือเฟือ!'

    ชุนเห้นว่าไม่มีปัญหาอะไรจึงให้เบลล์ร่างแยกหญิงของเขาไปกับทีรามิสุ  ลูเชียสก้ทำท่าจะตามไปด้วยอีก  ชุนก็เลยแอบเปิดระบบผู้ติดตามขึ้นมาเพื่อเช็คว่าสามารถอยู่ไกลจากเจ้านายตนเองได้มั๊ย


    'ได้อีกนะ-_-'


    ปรากฏว่าได้  ชุนเลยเออออให้ลูเชียสตามเบลล์ร่างแยกไปด้วย  ในใจก็เสียดายกลัวว่าถ้าตอนมีพวกจอมมารมาอย่างเจ้าเซฟิรอธอีก แค่เขากับเหล่าภรรยาจะไหวหรือเปล่า


    แล้วทันใดนั้นเสียงของเบลเลี่ยนก็หัวเราะขึ้นมา....


    'ฮ่า ฮ่า ไม่ต้องกังวลปราณระดับ 1000 อย่างเจ้าไม่มีใครปราบได้ง่ายๆหรอก  แถมนอกจากนี้พวกซีลาร์ข้าก็ฝึกพวกเธอจนมีพลังมากกว่าระดับขั้นไปแล้วนะ  อีกอย่างเจ้าอย่าลืมมีกองทัพมนุษย์กินคนของข้าอยู่...'


    ชุนพอได้ยินเรื่องอสูรมนุษย์กินคนของเบลเลี่ยนก็นึกขึ้นได้ว่าจะถามเรื่องนี้มานานแล้ว...


    'เอ้อ เบลเลี่ยนจังผมถามหน่อยสิ  การเรียกอสูรมนุษย์กินคนของคุณ ไม่มีอะไรแลกเปลี่ยนเลยเหรอ? เพราะผมเห็นมานาของผมก็ไม่ลดลงเลย มันสามารถใช้ได้ฟรีเลยใช่มะ?'

    ชุนถามขึ้น  เบลเลี่ยนก็มองอย่างหน่ายๆก่อนจะตอบว่า...


    'มีสิ'


    'หา?แล้วมันคือ...'


    ชุนที่ตอนแรกจะยิ้มกริ่มเพราะถ้าเรียกกองกำลังปีศาจนี่ออกมาฟรีๆโดยไม่เสียอะไร  เขาก็จะเรียกใช้มันซะทุกการต่อสู้แม่มเลย  จะใช้ไม่ต้องเหนื่อยสู้เองก็ต้องหุบยิ้มลงกับคำพูดของเบลเลี่ยน


    'เอ๊า! เจ้าไม่เห็นระดับของเจ้ารึไง ! จากระดับขั้น 2 ระดับ 100 ของเจ้าเหลือแค่ขั้น  ขั้น 1 ระดับ 100 แล้วน่ะ'


    'อ๋อ...ไหนๆจริงด้วย.........เฮ้ยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!'


    หลังจากที่เบลเลี่ยนพูดเท่านั้นชุนก็เปิดขึ้นมาดูแล้วก็อ๋อจริงด้วย...ก่อนเขาจะเหงื่อตกแล้วดูค่าสเตตัสตัวเองที่ระดับพลังและเลือดลดไปด้วย  แล้วตะโกนร้องลั่นในใจเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนเบลเลี่ยนและพวกซีลาร์ต้องปิดหูเลยทันที





    กลับมาปัจจุบัน



    หลังจากทีรามิสุและเหล่า 16 องครักษ์บางกลุ่มแยกย้ายกันไปแล้วเพื่อไปจัดการเรื่องของชอนอา  ชุนที่ปล่อยความเครียดเกี่ยวกับระดับทิ้งไปก็เดินเข้าไปคุยกับฮยอนอาที่กำลังพูดคุยกับพวกฮิซานะนั้นว่าเธอจะเดินทางไปด้วยกันกับเขาไหม

    เพราะชุนเชื่อว่ากว่าจะได้เจอฮยอนอาในโลกเกมส์คงนานเลย  เพราะพอเขาใช้ร่างเบลล์ไปสมาพันธ์ฝ่ายรับบาลแล้ว ก็ไม่จำเป้นต้องเดินทางมาแถวนี้อีกแล้ว  ดังนั้นโอกาสเจอกันคงจะน้อยลง


    ฮยอนอาฟังดังนั้นก็คิดหนัก...


    ว่าจะอยู่กับแฟน....หรือกับเพื่อน


    ก่อนในที่สุดเธอจะตัดสินใจว่าจะอยู่กับพวกฮิซานะ  พี  ตะวัน และเหม๋ยหลิน  รวมไปถึงเดียรินี่ที่ตลอนหายไปไหนแล้วด้วย  

    ชุนก้ทำท่าจะร้องถามว่าทำไมไม่ไปกับเขา  ฮยอนอาก็พูดขึ้นมาทันทีด้วยความเป็นเหตุเป็นผล



    "คือ...ฉันก็อยากไปกับชุนนะคะ  แต่ที่โลกจริงฉันไม่ค่อยมีโอกาสเจอพวกเขาจึงอยากอยู่ร่วมกับพวกเขาให้นานๆอะคะ  ผิดกับชุนที่ตอนนี้ในโลกจริง....ก็ยังนอนอยู่ข้างๆฉันไม่ใช่เหรอคะ^^"


    ชุนฟังดังนั้นก็ผงะหน้าแดงไปเล็กน้อย เมื่อเห็นดวงตากลมโตหวานใสแสนบริสุทธิ์ของแฟนสาวคู่นี้  ยิ้มมองมาทางเขาพร้อมเสียงน่ารักๆของเธอ

    ชุนเห็นแบบนั้นดูจากดวงตาของเธอก็พอรู้ว่าเธอเองก็อยากจะไปกับเขามาก  แต่ไม่อยากทิ้งเพื่อนไป  จึงกล้าทำใจและพูดกับชุนไปแบบนี้  ชุนมองซักพักก็เข้าใจเพราะก็ถูกของเธอที่โลกจริงๆของเขา ตอนนี้เขาก้ยังนอนอยู่กับเธออยู่เลยไม่ได้ห่างไกลกันขนาดนั้น



    "  โอเคครับ....พี  ตะวัน  ฮิซานะ เหม๋ยหลิน  พวกคุณก็ดูแลแฟนผมให้ดีๆนะ  โดยเฉพาะเหม๋ยหลินกับตะวันถ้าไม่ดูแลให้เธอดีๆละก็...."

    ชุนมองไปที่แก๊งค์เพื่อนสาวของฮยอนอาพลางเอานิ้วชี้จิ้มไปที่ปากของตัวเองสองครั้ง  ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์  ฮยอนอาก็เอียงคอมองด้วยสายตากลมโตใสซื่อของเธออย่างสงสัยว่าพวกเขาหมายถึงอะไรกัน



    "อึ้ก! ...ฮยอนอาคือเพื่อนของพวกเราพวกเราดูแลดีอยู่แล้วน่า!" 


    "ฮ่า ฮ่า เอ้อ!แล้วฝากดูแลเบลล์ด้วยนะฮยอนอา^^"


    "อะ...อื้อน้องสาวของชุนสินะคะ โอเคค่ะ"


    ชุนพูดคุยกับแฟนสาวและเพื่อนสาวของแฟนสาวจบ  พวกตะวันไม่อยากอยู่คุยกับชุนนานก็พากันลากฮยอนอาที่ทำท่าจะเข้าไปกอดลาชุนออกไป  ชุนก้ยิ้มมองพวกเธอเล็กน้อยก่อนจะไปหาอาลีเซียที่กำลังกล่าวลากับนิคคอบป์อีกครั้ง   ชุนก้เลยถือโอกาสไปลาด้วย


    "ขอให้พวกเจ้าเดินทางโดยสวัสดิภาพนะ ดูแลหลานของผมด้วยละคุณชุน"


    "แน่นอนอยู่แล้วครับ จะดูแลให้ถึงลูกถึงคนเลย หึ หึ"


    ก่อนล่านคิคอบป์ก้ฝากชุนดูแลอาลีเซียหลานของเขาให้ดีๆ  ชุนก้ยิ้มตอบรับพร้อมพูดอย่างเจ้าเล่ห์เหล่ไปทางอาลีเซีย  อาลีเซียฟังดังนั้นก็หน้าแดงพร้อมเอาเท้ากระทืบเท้าชุน  


    "วั๊ย...อื้อ!!/ อือ...พลังกายผมเยอะไม่ได้ผลหรอกน่า ฮะ ฮะ"  


    ชุนที่โดนเหยียบก็ไม่รู้สึกอะไร  ก่อนจะคว้าเอวเจ้าหญิงของเขาด้วยความหมั่นไส้แล้วนำมากอดจูบตรงหน้านbคคอบป์ทันที  นิคคอบป์ก็ส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ  ก่อนพวกเขาจะลาแยกกันในที่สุด


    "ทุกคนออกเดินทางไปรับยัยออโรร่ากัน!"


    "โอ้!x3 ( เสียงซีลาร์  เดเบียล่า และลูน่า ที่เหลือไม่เล่นด้วย-_-)


    "........"


    ชุนไม่รู้เลยว่าหญิงสาวผมแดงนัยต์ตาเย็นชา หรือ พี เพื่อนสาวของฮยอนอาได้มองมาที่เขาตลอดจนเขาเดินทางออกจากเมืองไป






    วุ่ม...


     

    ที่ทางด้านนึงในป่าเขตหวงห้ามของเมืองอีนิคม่าหลังจากที่พวกนิคคอบป์ออกกันไปกันแล้ว...

     

    ก็ได้มีชายคนหนึ่งเข้ามาแทน เขาเป็นชายหนุ่มหน้าเด็กดูขี้เล่นตลอดเวลา  เขาเป็นชายหนุ่มผมส้มในชุดเกราะสีทอง  เขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน  เขาคือ 'ลีโอ' เทพหนุ่มเซ้นต์ประจำราศีสิงห์บริวารของอาเธน่านั่นเอง

     

    เขามาที่นี่เพราะเป็นเป้าหมายที่ได้รับมอบหมายว่าจุดๆนี้เป็นจุดที่ 7 บาปตนนึงแผ่พลังออกมา  อาเธน่าจึงส่งเขามาตรวจสอบ  และสถานที่นี้ยังเป็นสถานที่ชุนกับเซฟิรอธสู้กันอีกด้วย

     

     

    "ที่นี่เป็นสถานที่ผู้ถือครองคัมภีร์สู้กับหนึ่งในลูกน้องของจอมมารสินะ....แต่ไม่ใช่พลังของพวกหนึ่งในเจ็ดบาปนี่นา"

     

    ลีโอพูดขึ้นหลังจากที่นำมือสัมผัสกับพื้นจากร่องรอยการต่อสู้นี่ แล้วพบว่ามีแค่พลังของมนุษย์คนนึงกับพลังความมืดดำมืดที่น้อยนิดเท่านั้น  พลังดำมืดนี่มันก็น้อยเกินไปกว่าจะเป็นของพวก 7 บาป  ลีโอจึงคาดว่าน่าจะเป็นของมารตนอื่นระดับปลายแถวที่ไม่ใช่ของพวก 7 บาป

     

     

    "แล้วไหนท่านอาเธน่าสัมผัสได้ว่าพลังของพวกเจ็ดบาปโผล่ขึ้นมาที่นี่ไง....หรือว่าท่านเข้าใจผิดว่าพลังของลูกน้องมารตนนี้เป้นของเจ็ดบาปกันนะ...ก็ไม่น่าใช่นี่นา...อืม..."

     

    ลีโอนำมือจับคางพร้อมมองสภาพรอบๆอย่างสงสัย...

     

     

     

    "ไม่เข้าใจผิดหรอก..."

     

    เฮือก!!

     

    ตูมมมมมม!!!!!!!!!

     

     

    แต่จู่ๆขณะที่เขากำลังคิดอะไรอยู่นั้น  ก็มีเสียงหญิงสาวคนนึงดังขึ้นด้านหลังของเขาอย่างที่เขาไม่ทันตั้งตัว  พลังดำมืดที่ยากหยั่งถึงและชวนน่าคลื่นไส้นี่  ทำให้ลีโอรีบชักหมัดกลับหลังด้วยสัญชาตญาณแล้วต่อยไปที่จุดนั้นเต็มพลังด้วยพลังหมัดของเขาที่ถือว่ารุนแรงที่สุดในหมู่เหล่าเซ้นต์ 12 ราศีของอาเธน่า


     

    "หนุ่มน้อยลีโอทำเรื่องรุนแรงแบบนี้กับผู้หญิงมันไม่ถูกน้า ฮิ ฮิ"

     

    "แก! แอสโมดิวส์!!

     

    ลีโอไม่สงสัยเลยว่าทำไมหญิงสาวคนนี้สามารภต้านทานพลังที่รุนแรงของเขาได้...เมื่อเขาได้เห็นหน้าของเธอที่โผล่อออกมาจากฝุ่นที่คละคลุ้งนั่น...

     

    เธอเป็นหญิงสาวผมดำยาวถึงต้นขาเลยทีเดียว  ดวงตาข้างซ้ายคมเป็นสีม่วง อีกข้างเป็นสีเงินมีผิวที่ขาว  เธอสวมอยู่ในชุดคล้ายบิกินี่สีดำแต่ช่วงไหล่ทั้งสอง  ศอก  เขา และน่องขาของเธอ  มีเกราะเหล็กทมิฬสีดำสวมใส่อยู่  และมีอาวุธที่คล้ายเคียวขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังสีดำเรืองแสงอ่อนๆสีม่วง


     

    " ก็อุตส่าแผ่พลังเพื่อหวังล่อยัยอาเธน่ามาเพื่อจะได้ฆ่าทิ้งซะ  แต่คนที่มากลับเป็นเจ้าซะได้ ยัยนั่นมันฉลาดหลักแหลมจริงๆที่ส่งลูกน้องมาแทน  ทีนี้พวกเราก็อดฆ่ายัยนั่นเลยแฮะ  ฮิ ฮิ"

     

    "แก....จงใจไว้แต่แรกแล้วสินะ  แต่ว่าแล้วทำไมถึงรู้ละว่าข้าจะมาเวลาไหนแล้วหลบซ่อนพลังได้ทัน...อ้ะ!หรือว่า!"

     

    ลีโอที่จะถามอย่างสงสัยเพราะก่อนเข้ามาเขาได้ลบพลังของตัวเองเพื่อซ่อนกันจับได้ไว้แล้ว  ทำไมเธอถึงรู้ตัวว่าเขาจะมาแล้วสามารถซ่อนพลังไว้ก่อนได้  แล้วพอนึกถึงเรื่องบางอย่างก็ทำให้เขาฉุดใจขึ้นมาพร้อมเบิกตาโพลงขึ้นเมื่อคิดว่าถ้าเรื่องนั้นเป็นจริงก็แสดงว่า...

     

    "ใช่  ในหมู่เทพบนสวรรค์มีหนึ่งในพวกข้าส่งเข้าไปเป็นไส้ศึกยังไงละ  ฮิ ฮิ"

     

    "อะไรกัน! บ้าเอ๊ยต้องรีบบอกท่านอาเธ...!"

     

    ลีโอที่ทำท่าจะโทรจิตไปหาอาเธน่านั้นก็ต้องสะดุ้งขึ้น  เมื่อไม่มีคลื่นพลังที่สามารถถ่ายทอดออกไปได้


     

    "ที่นี่มันเป็นเขตห้วงมิติ  เจ้าจะติดต่อไปหาใครได้ละพ่อหนุ่มน้อยลีโอ  ฮิ ฮิ"

     

    "บัดซบเอ๊ย!!"

     

    ตูมมมม!!!!!!!

     

    ลโอสบถขึ้นก่อนจะปล่อยหมัดชกลงพื้นอย่างแรง  จนฝุ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณนี้  ลีโอที่รู้ว่าสู้ยังไงก้คงไม่ชนะเขาจึงรีบฉวยโอกาสนี้ทะยานสุดแรงเพื่อหนีออกจากที่นี่แล้วรีบนำเรื่องมีไส้ศึกในหมู่เทพไปบอกอาเธน่าเป็นการด่วน

     

    'เร็วสิๆๆๆ'

     

    ฟ้าววววววววว!!!!!!!!!!!!!

     

    ลีโอที่ทะยานด้วยความเร็วสูงมุ่งตรงไปยังประตูมิติที่บิดเบือนข้างหน้าที่เข้ามานั่นอย่างรวดเร็ว  แต่ขณะที่ไม่กี่เมตรเขาจะไปถึงประตูมิตินั่นนั้น...

     

    "คิดว่าจะหนีพ้นเหรอคะ..."

     

    ชิ้ง!

     

    เฮือก!!!!!!

     

    ฉัวะ!!ฉูดดดดดดด!!!

     

    เสียงของมีคมฟันเข้าไปยังที่แขนที่มีเกราะหนาแน่นของเทพหนุ่ม  ก่อนที่มือซ้ายของชายหนุ่มจะร้องเคว้งคว้างอยู่บนอากาศพร้อมเศษเกราะทองที่แตกละเอียดกระจายไปทั่ว  และเลือดที่พุ่งกระฉูดออกมาที่แขนช่วงที่ขาดออก

     

    ครูด!!!!

     

    "แฮ่ก...แฮ่ก..."

     

    ลีโอที่ชักบิดตัวหลบได้ทันทำให้ร่างลำตัวของเขาไม่ได้ขาดครึ่ง  แต่ก็เสียแขนไปข้างนึงจนได้  เขาดีดตัวถอยกลับเข้ามาเอาเท้ายันพื้นดินพร้อมนำมือจับแขนที่ขาดนั่นด้วยสภาพเหงื่อท่วมตัวและหน้าซีด

     

    "เห~หลบทันด้วยเหรอคะเนี่ย....งั้นฉันจะขอดูหน่อยละกันว่าการดิ้นรนของคุณจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนกัน  ฮิ ฮิ"

     

    หญิงสาวผมดำพูดและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์  ก่อนจะเดินแกว่งเคียวของตนอย่างช้าๆและอย่างสบายใจไม่ทุกข์ร้อนอะไรมาทางลีโอที่หน้าซีดมองผู้หญิงที่เดินเข้ามาอย่างไร้ซึ่งความหวัง

    แต่เขาก็ไม่ลดละความพยายามที่จะส่งบอกข้อความนี่ออกไปยังเบื้องนอก  เขาต้องแจ้งแก่ใครก็ได้เพื่อให้ส่งข่าวข้อมุลนั่นออกไปเพื่อหวังให้เหล่าพวกเทพได้รับรู้

     

    "อัญเชิญอสูรราชสีห์ไฟ!!"

     

    "โฮกกกก!!!"

     

    "ทำอะไรของคุณ....คิดว่าแต่อสุรตัวเดียวจะ..."

     

    ฟุ่มมม!!!

     

    "อ้ะ!"

     

    ลีโอทำการอัญเชิญอสูรประจำตัวออกมา  แล้วอสูรสิงโตไฟนั่นก็ทะยานมุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว  แอสโมดิวส์มองอย่างเอือมและทำท่าจะซัดอสุรนั่นให้แตกสลาย  แต่จู่ๆมันก็วาบไปแล้ววิ่งไปโผล่ด้านหลังเธอแล้ววิ่งตรงไปต่อยังประตูมิตินั่น

     

    แค่แวบนึงเธอก็มองได้ทันว่าในป่าของราชสีห์ตัวนั้น...คาบม้วนกระดาบสีส้มเรืองแสงไว้อยู่

     

    "หรือว่า! ชิ!"

     

    "ไม่มีทางหรอก!!!"

     

    ตูมมมมมมม!!!

     

    "บ้าจริง! แกนะแกทำแสบนักนะ!"

     

    แอสโมดิวส์ที่ทำท่าจะตามไปทำลายอสูรราชสีห์นั่น  ก็โดนลีโอเข้ามาขัดขวางไว้โดยการส่งคลื่นพลังหมัดมาดักหน้าเธอเป็นชุด  อย่างรุนแรงจนเธอผงะถอยไปเล็กน้อยและไม่สามารถฝ่าดงระเบิดไฟนั่นได้

     

    ก่อนจะเห็นอสูรราชสีห์ไฟนั่นหนีออกไปได้แล้ว  เธอก็หันกลับมามองลีโอด้วยสายตาอำมหิตจนลีโอถึงกับตัวสั่นและสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่กดดันเขาออกมา

     

    "ดูท่า....ผมคงทำดีสุดได้แค่นี้แล้วละครับ....ท่านอาเธน่า"

     

    ลีโอพูดเบาๆก่อนจะทำท่ารวบรวมพลังทั้งหมดที่มีในตัวออกมา  แล้วเข้าไปสู้กับแอสโมดิส์ทันที  เพื่อหวังถ่วงเวลาให้อสูรของเขาหนีไปให้ได้ไกลที่สุด

     

     

     

     

     

    ทวีปเวเซอุส

     

    ณ  เมืองการันเทียร์



     

    "ให้ฉันไปสอนพวกผู้เล่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มหัดเล่นงั้นเหรอคะ แถมยังเป็นเด็กด้วย!

     

    ใจกลางปราสาทสีฟ้าขาวหลังใหม่ที่ทีรามิสุสั่งให้สร้างขึ้นมาใหม่  แทนหลังเก่าที่ถูกชอนอาทำลายไป  ด้วยงบในคลังจากสาขาอื่นมาร่วมช่วยกันสร้างขึ้นมาใหม่  จนเหมือนเดิมเป้ะ  รวมถึงซื้อเครื่องเรือนมาตกแต่งเพิ่มด้วย 

     

    พวกเหม๋ยหลินก็เห็นว่าสร้างขึ้นมาใหม่  ก็ขอให้ทีรามุสสร้างสระว่ายน้ำให้ที่ดาดฟ้าของปราสาท  ฮยอนอาก็ขอให้ปลูกพวกพืชที่ดาดฟ้ารอบๆสระน้ำด้วยเพื่อความสวยงาม  เพราะเธอชอบที่ที่มีธรรมชาติเยอะๆ

     

    ตอนนี้พวกผู้เล่นลูกน้องที่ทำงานอยู่ที่นี่ก้ยังไม่มากันส่วนใหญ่  เพราะยังไม่คืนชีพหลังจากโดนชอนอาฆ่าไป  พวกเขาจึงนำตัวชอนอาไปขังไว้ก่อนและรอพวกนั้นฟื้นคืนชีพมาจะได้ไต่สวนทีเดียว

     

    แล้วจากนั้นทีรามิสุก็ระดมพลเหล่า 16 องครักษ์และ 4 เทพพิทักษ์ที่ตอนนี้เหลือแค่ 3 คนเพื่อพูดคุยเรื่องงานที่จะมอบหมายให้เบลล์ และพอทุกคนมากันครบทีรามิสุก็เล่างานที่เบลล์จะต้องดูแลให้กับฝ่ายรัฐบาลทันที

     

    นั่นคือการให้เธอไปเป็นครูฝึกสอนที่โรงเรียนที่ฝ่ายรัฐบาลได้จัดตั้งและสร้างขึ้นมานานแล้ว  เพื่อให้เหล่าผู้เล่นใหม่ที่อนาคตจะเข้าฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายอิสระก็ได้ ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้และสามารถเอาตัวรอดในเกมส์แห่งนี้ได้

     

    ซึ่งคนพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กตั้งแต่อายุ  10 - 17  ปีขึ้นไปทั้งนั้น...

     

    ทางฝ่ายปฏิวัติก็มีเช่นเดียวกัน  แต่ก็เป็นการฝึกที่โหดและดูรุนแรงในฉบับของพวกนั้น...


     

    "ใช่เบลล์  ผมอยากให้คุณที่เหลือเวลาว่างถึง 6 วันก่อนจะไปแข่งทัวนาเม้นต่อนั้น  ช่วยไปสอนเด็กพวกนั้นหน่อยและแน่นอนว่าค่าตอบแทนของการดูแลและสอนเด็กพวกนี้ก็จะเป็น EXPและเงิน ที่ทางระบบมอบให้สำหรับเป็นงานสำหรับของฝ่ายรัฐบาล... 

     

    ....พูดง่ายๆก็เหมือนเควสของฝ่ายรับบาลนั่นแหละที่ระบบทำการสร้างขึ้น  ซึ่งงานส่วนที่ผมจะเป็นคนมอบหมายให้ 

     

    ส่วนค่าตอบแทนคุณจะไปรับได้ที่ห้องผู้อำนวยการของโรงเรียนนั้นที่เป็น  AI เขาเป็นบุตรแห่งตระกูล ลูมิเฟล ตระกูลที่มีส่วนกับเนื้อเรื่องของเกมส์เกี่ยวกับฝ่ายรัฐบาลอะนะ  ในฐานะพันธมิตรที่คอยช่วยเหลือฝ่ายรัฐบาลตลอดเขามีชื่อว่า 'เซวาเรียส'

     

    "เอ่อ....แล้วโรงเรียนนั่นมันอยู่ที่ไหนเหรอคะ"


    เบลล์ที่นั่งอยู่ในที่นั่ง 16 องครักษ์เช่นเดียวกับพวกคนอื่นๆ ต่างตรงที่เธอมีลูเชียสยืนเป็นแบ๊คอัพอยู่ด้านหลัง  ก็ถามขึ้นมาด้วยสีหน้าหน่ายๆในใจ  เพราะชุนไม่ใช่เป็นพวกรักเด็กนี่สิ

     


    " อยู่ที่ทวีปนี้แหละ  เมืองกากันน่า.....ไม่ต้องกังวลหรอกน่า  พวกสิบหกองครักษ์ที่อยู่ ณ ที่นี้รวมถึงพวกสี่เทพพิทักษ์ก็สอนกันมาหมดแล้วแถมทุกวันนี้ก็ยังคงสอนอยู่ด้วย  เธอก็ไปปรึกษาจากพวกนี้เอาละกันว่าต้องทำยังไงบ้าง"

     

    ทีรามิสุเห็นเบลล์หน้าหงอยๆลงก็ยิ้มแห้งๆอย่างเอ็นดู ก่อนจะผายมือไปทางพวกสิบหกองครักษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆเธอและสี่เทพพิทักษ์ที่มีแค่ชินโงและเซี่ยหย่งหลางตอนนี้  เพื่อบอกว่าพวกเขาก็ผ่านมาแล้วเช่นเดียวกัน

     

    "........."

     

    "ฮี่ ฮี่  เบลล์ไม่ต้องกังวลหรอกเดี๋ยวฉันจะสอนเธอเอง" 

     

    เบลล์ก็หันไปมองทุกคนที่ยิ้มให้เธอ  (ยกเว้นชินโง)  ก่อนเหม๋ยหลินที่ให้กลับมาเป็น 16 องครักษ์ดังเดิมเพราะต้องหาคนจาก 16 องครักษ์ไปแทนที่ชอนอาที่เป็น 4เทพพิทักษ์ดังนั้นจึงทำให้ตำแหน่ง 16 องครักษ์ว่างไปที่นึง  เหม๋ยหลินจึงได้ตำแหน่งกลับคืนมานั่นเอง   


    เธอยิ้มร่าขึ้นและนำมือทุบหน้าอกตัวเองอย่างมั่นใจว่าจะสอนเบลล์ทุกอย่างได้


     

    "อย่างเธอเนี่ยนะ ครั้งก่อนยังทำเด็กร้องไห้อยู่เลย-_-"

     

    ตะวันมองหน้าตายไปทางเหม๋ยหลินที่พอฟังแล้วก็เหมือนแทงใจดำขึ้นมาทันที


     

    " เจ็บอ่า~ ตะวันอย่าเอาเรื่องนี้มาพูดซี"

     

    "ฮะ ฮะ"

     

      เหม๋ยหลินทำหน้างอนตุ้บป้องใส่ตะวันเพื่อนสาวของเธอ  ทุกคนฟังดังนั้นก้หัวเราะขึ้น ทำให้ภายในห้องนี้ดูอบอุ่นราวกับครอบครัวขึ้นมาทันที

     

     คงมีแต่ชินโงที่มองเบลล์ที่หัวเราะอยู่นั้นด้วยสีหน้าบอกไม่รับบุญ  ส่วนเซี่ยหย่งหลางมองเบลล์ที่หัวเราะด้วยเสียงเล็กๆของเธอด้วยใบหน้าเคลิบเคลิ้ม ลูเชียสเห็นอย่างนั้นก็มองตาเซี่ยหย่งหลางอย่ากินเลือดกินเนื้อ

     

    "เอาละตอนนี้ผมก็เลือกได้แล้วว่าจะเอาใครดูแลเรื่องพาเบลล์ไปดูโรงเรียน  ครั้งนี้พร้อมคอยแนะนำเธอตลอดด้วย" 


    "........."

     

    ทุกคนเงียบไปทันทีพอได้ยินคำพูดของทีรามิสุ  ก่อนจะนั่งรอฟังว่าใครจะได้ตัวเธอไปดูแลกัน  พวกผู้ชายก็นั่งรอลุ้นใจแทบขาดว่าหวังจะได้เธอ  ยกเว้นบาบิโล ชินโงและเกมสเชอร์ที่นั่งเงียบ


     

    " ขอมอบหน้าที่ดูแลเบลล์เรื่องโรงเรียนนี้ ให้ชินดงกับฮยอนอาละกัน"

     

    "ห๊า!!ทำไมต้องผม! ผม ผมมีธุระที่ต้องไปเก็บระดับอีกนะผมไม่ว่าง..."

     

    "ก็เห็นนายดูสนิทกับเธอดีนี่ตอนสงคราม ส่วนฮยอนอาเธอคงอยากที่จะดูแลน้องสาวของแฟนอยู่แล้วนี่เนอะ ตกลงตามนี้แหละเลิกประชุม!"

     

    ทีรามิสุไม่รอฟังคำโต้แย้งของชินโง  ขณะที่ทุกคนในห้องงงกับท่าทีร้อนรนของชินโงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน  พวกเขาก็มองมาที่เบลล์ตัวต้นเหตุก็อ๋อยิ้มขึ้นมาประมาณว่าสองคนนี้ต้องมีซัมติงกันแน่   ก่อนทีรามิสุจะจบการประชุมและพากันเดินออกไปทันที

     

    "เดี๋ยวสิครับท่านทีรามิสุ!"

     

    "ดูแลเธอด้วยละชินโง ผมขอตัวไปก่อน"

     

    ว้าบ!

     

    "เฮ้ย!เดี๋ยวสิครับ!!"

     

    ชินโงที่วิ่งตามทีรามิสุมาก็โดนเขาบอกลาก่อนจะอัตรธานวาบหายไป  พวกเหล่า 16 องครักษ์หนุ่มๆที่เดินออกมาก็พากันตบไหล่ชินโงพร้อมพูดขึ้นว่า...

     

    "ผมละอิจฉาท่านชินโงจริงจริ๊ง  ดูแลเธอให้ดีๆนะท่าน"

     

     ชินเอมอนกล่าวขึ้นก่อนทุกคนจะไปคุยลากับเบลล์เล็กน้อยแล้วเดินออกจากปราสาทไปเพื่อทำภารกิจส่วนตัวของแต่ละคน  จนเหลือแต่เหล่าสาวๆ

     

    "เอ้อกำ!ลืมไปมีภารกิจที่ค้างอยู่นี่นา  ฉันขอโทษนะเบลล์ว่าจะตามไปดูด้วยซะหน่อย  เดี๋ยวพวกเราจะรีบไปจบภารกิจแล้วจะไปหาที่โรงเรียนนะ แล้วเจอกัน"

     

    "อ้ะ! เดี๋ยวสิพวกเธอ!"

     

    แว้บ

     

    พวกเหล่าหญิงสาว 16 องครักษ์พูดจบก็พากันจับมือกันอันตรธานวาบหายไปทันที  จิ่งหันเผย กับฉินชื่อเหม่ยก็ออกไปทำภารกิจของตัวเองหลังจากรักษาตัวกันเสร็จแล้วที่โดนชอนอาโจมตี

     

    จนที่นี่เหลือแต่  ชินโง  ฮยอนอา และลูเชียสที่อยู่กับเธอ ....

     

    เบลล์หันไปมองฮยอนอาที่ยิ้มแห้งๆมาให้  ก่อนจะเหลือบไปมองชินโงที่ยืนอยู่ด้านหน้า  ชินโงที่รู้สึกตัวได้ว่าเธอมองเขาอยู่กันหันมาพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจนักว่า....

     

     

    "มัวแต่มองฉันแล้วจะไปถึงโรงเรียนนั่นไหม  รีบๆตามมาเร็วเข้า เดี๋ยวฉันจะได้ไปส่งให้มันจบๆ"




    ปล.คอมเม้นนนนนนน


    ขอนุญาติเปลี่ยนตอนเน่อ ตอนต่อไปแทน




      






















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×