คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : CHAPTER 39 : เมืองลับในป่าแห่งหมอก 4
CHAPTER 39 : เมืองลับในป่าแห่งหมอก 4
ทวีปเวเซอุส
ณ ป่าแห่งหมอก
ชิ้ง!!โครม!!!
"ชิ!บ้าเอ๊ย!"
เสียงต้นไม้ขนาดใหญ่หลายสิบต้นที่อยู่บริเวณนี้ โดนของมีคมบางอย่างตัดไปจนล้มระเนระนาด
พร้อมกับชายหนุ่มผมดำมัดเป็นจุกไว้ด้านหลังดวงตาสีน้ำตาลเฮลเซนัท ในสภาพร่างเปลือยท่อนบน
ทะยานหลบคลื่นพลังที่ออกมาจากกรงเล็บของชายหนุ่มผมดำดวงตาสีโลหิตนั่นอย่างยากลำบาก
เพราะต้องหลบต้นไม้สูงใหญ่ที่โค่นล้มลงมาจากการตัดอันเฉียบคมนั่น....
" จะหนีไปไหนไอ้พวกมนุษย์กินคน!"
"ก็บอกไม่ใช่ไงโว้ย!! ดูผิวตูดิวะดำเหมือนผมแม่แกมั๊ยเล่า!!"
ชายหนุ่มแวมไพร์ตะโกนอย่างอารมณ์เสียที่เห็นผู้ชายร่างเปลือยท่อนบนนี้ เอาแต่หนีอย่างเดียว แถมยังหลบได้อีกตังหาก ทำให้หนุ่มแวมไพร์คนนี้เชื่อว่าชายตรงหน้านี้ยังไม่เอาจริง
ส่วนทางชายหนุ่มร่างเปลือยท่อนบน หรือ
ก็คือชุนที่คอยหลบอีกมาได้ตลอดเวลาอย่างเฉียดฉิว
เพราะเขามีพื้นฐานความคล่องตัวจากเกมส์ The Blond Bullet
ของเขาอยู่แล้ว
ทำให้ไม่ยากเท่าไรสำหรับการหลบหลีกนี่
ติ๊ง!
<ผู้เล่นชุนปลดล๊อคสถานะพิเศษค่ะ
ได้รับฉายา 'เทพลมกรด'ค่ะ เนื่องจากผู้เล่นชุนทำตามครบเงื่อนไข หลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามครบ 1,000
ครั้งอย่างต่อเนื่องค่ะ
รายละเอียด ฉายา'เทพลมกรด' -
ทำให้ผู้เล่นสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น 10 เท่าจากเดิมค่ะ
-
ทำให้ผู้เล่นสามารถรับรู้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้ได้ โดยสัมผัสทางสายลมค่ะ>
ติ๊ง!
<ผู้เล่นชุนเลื่อนระดับธาตุลมเป็น
0>10 ค่ะ>
"หา!
นี่ตูหลบคู่ต่อสู้ครบพันครั้งแบบไม่โดนตอนไหนฟะ....อ่อ"
ชุนที่งุนงงกับเสียงระบบทั้งสองอย่าง ก็งงอย่างแรกขึ้นมาก่อน เขานึกอยู่ว่าเขาไปหลบได้ถึง 1,000 ครั้งตอนไหน เขาก็จำได้ว่าก่อนมาถึงป่านี้
เขาก็ไปสู้กับมอนเตอร์ข้างทางพร้อมกับอาเธอร์ เป็นจำนวนมากพอสมควร และยังไม่มีครั้งไหนที่เขาโดนโจมตีเลยซักครั้ง
และพอมาถึงนี่เขาก็เจอพวกฝูงอสูรกายไร้หน้า กับ มนุษย์กินคน ซึ่งถ้ารวมพวกมันเข้าด้วยกันก็มีจำนวนเกือบพันตน ถ้านับตั้งแต่ออกจากถ้ำมาพร้อมกับอาเธอร์ และ
ยัยงูพิษ(มีล่า)
เขาก็หลบหลีกมาโดยตลอด โดยไม่รู้ตัวว่าเขานั้นหลบหลีกได้ชำนาญมาก ขนาดพวกมันทั้งปาหอก ข่วนก็ไม่โดนเขาแม้แต่น้อย อาเธอร์ก็โดนเฉียดๆไปเยอะอยู่
ทำให้อาเธอร์ในตอนนั้นเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่าชุนสามีของเธอทำได้ยังไงกัน
จนหลบไปหลบมาจนถึงตอนที่กำลังสู้กับแวมไพร์นี่มาได้ซักพัก...
เขาก็หลบมาโดยตลอด
แถมยังไม่โดนซักครั้งด้วย...
ส่วนเพราะฉายานี่เกี่ยวกับธาตุลม
ที่เป็นธาตุประจำตัวของชุน
ที่เขาเลือกตอนแรกในอาคารภารกิจตั้งแต่เริ่มเล่นเกมส์ เป็นฉายาที่เกี่ยวข้องกับลมเลยทำให้ระดับธาตุพลังเพิ่มขึ้นด้วย
"เอ....ลืมเรื่องการฝึกธาตุเลยแฮะเรา"
ชิ๊ง!!โครม!!
"บ่นอะไรของแก! เจ้ามนุษย์กินคน หลบอยู่นั่นแหละ!"
' ไม่หลบตูก็ตายสิฟะ
เอาไรไปสู้ขั้น 5 ของเอ็งมันระดับเดียวกับพวก 3 จักรพรรดิ์นั่นเลยนะเฟ้ย! แถมอีกอย่างมนุษย์กินคนบ่านป้าแกสิพูดภาษารู้เรื่องได้ฮะ! ไม่ได้ฟังตอนมันพูดรึไงฟะ มันพูดแต่แฮ่ๆๆเนี่ย'
ชุนบ่นขึ้นมายาวๆในใจ
ตอนนี้เขายังคิดหาทางรอดจากเจ้าแวมไพร์บ้าพลังนี่อยู่
แถมยังต้องแบกยัยงูพิษที่จับใส่ถุงย่ามเข้าที่เดิมอีก ทำให้ร่างกายเขาเริ่มล้าขึ้นเรื่อยๆแล้ว
'จริงสิลองพลังปราณใช้ดูดีกว่า...ฮึบ!'
ชุนว่าแล้วก็ขับลมปราณขึ้น
พร้อมกับหลบหลีกไปด้วย
แต่พอเขาเสียสมาธิกับปราณแค่แปปเดียวเท่านั้น แวมไพร์หนุ่มก็ทำการวาร์ปมาด้านหลังทันที
แว๊บ!
"เฮ้ย!"
ชิ๊ง!!โครม!!
"อะไรเนี่ย!ยังหลบได้อีกเรอะ!ไอ้มนุษย์กินคน!!"
"ก็บอกไม่ใช่เว้ย!!"
แวมไพร์หนุ่มที่โผล่มากระทันหัน
ใช้เล็บของตนเองพุ่งแทงไปที่หลังของชุน
ที่แบกร่างของมีล่าอยู่ด้วย
เพื่อหวังให้ทะลุ แต่ด้วยฉายาเทพลมกรดของชุน ทำให้เขาไหวตัวทันหมุนหลบอย่างเฉียดฉิว
และพร้อมกับอัดพลังปราณที่สะสมไว้เมื่อครู่เสร็จพอดีไว้ที่หมัด ก่อนจะปล่อยเข้าสีข้างของแวมไพร์หนุ่มเต็มๆ
ตูมม!!
"ฮะ ฮะ เป็นไงเล่า...."
ชุนที่ชกเข้าไปเต็มแรงก็หัวเราะขึ้น
เมื่อเห็นเสียงที่ดังออกมาจากการกระแทก
ก่อนเขาจะเงยหน้ามองแวมไพร์หนุ่มร่างสูงที่เกือบ 2 เมตรนี่ ก็ปรากฏว่ามันมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง ก่อนจะพูดว่า...
"หมัดของแกทำไมเบาอย่างงี้วะ เจ้ามนุษย์กินคน ตามหลักหมัดพวกแกแรงกว่านี้นะ..."
"อะ..."
ผัวะ!! โครม!!! โครม!! โครม!! โครม!!
ชุนโดนหลังมือของแวมไพร์หนุ่มอสูรระดับขั้น 5 เข้าไปเต็ม
ทำให้ร่างเขาและมีล่าที่อยู่ในย่ามกระเด็นเข้าไปกระแทกกับต้นไม้สูงจำนวนมาก
ชุนกลัวว่ายัยงูพิษจะโดนเข้าไปเต็มๆเพราะเขาลอยละลิ่วในขณะที่หันหลังที่มีร่างของมีล่าสลบอยู่ในย่ามด้านหลัง เขาเลยหมุนตัวกลางอากาศอย่างรวดเร็ว
แล้วตัวเองก็เข้ากระแทกกับต้นไม้จำนวนนับไม่ถ้วนล้มพังครืนไปเป็นแถบๆ
เลือดของชุนลดลงฮวบฮาบ
ชุนคิดว่าถ้าปล่อยเป็นแบบนี้เขาจะเลือดหมดตายแน่...
จึงเปลี่ยนร่างเป็นเบลล์แทน
เพราะเลือดของเธอมีเยอะกว่าลายเท่า
และเลือดของแต่ละคนจะไม่เชื่อมต่อกัน
เช่น ชุนโดนโจมตีจนเลือดเหลือ 1
แต่ถ้าเขาเปลี่ยนไปเป็นร่างเบลล์ เขาจะมีเลือดเป็นของเบลล์ที่มีเลือดเป็นล้านทันที(ถ้าร่างของเบลล์ยังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรอะนะ)
"อั๊ก อั๊ก! เปลี่ยนเป็นเบลล์!!"
แว้บ!!
โครม! โครม! ตูม!!!
"หือ? แย่ละทางนั้นมัน!"
ฟ้าวว!!!
แวมไพร์หนุ่มที่ลอยมองดูผลงานตัวเองอยู่
ก็เบิกตาโพลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าทิศทางที่ชายหนุ่มผมดำเปลื่อยท่อนบนที่เขาตบกระเด็นไปนั้น ไปในทิศทางที่ไม่ควรไปซะแล้ว
ครึก...ครึก...
"ทักษะเดือดดาล!! เกราะทมิฬ!!"
"หือ?"
ขณะที่แวมไพร์หนุ่มกำลังทะยานเข้าไปดูจุดที่ชายหนุ่มร่างเปลือยท่อนบนตก ท่ามกลางม่านหมอก
และควันที่ฟุ้งกระจายเพราะเกิดจากร่างของชายคนนั้นที่กระแทกลงไปบวกกับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่หักโค่น
.....ก็มีร่างหญิงสาวผมสีน้ำตาล
หน้าตาน่ารักน่าชัง
จนแวมไพร์หนุ่มที่เห็นใบหน้านั่นก็ช๊อคตาค้างกับใบหน้าของหญิงสาว ราวกับว่าเวลารอบตัวหยุดเดิน
แวมไพร์หนุ่มมองร่างหญิงสาวที่เริ่มมีออร่าสีแดงและดำ
ทะยานเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ...
รอบตัวเขาตอนนี้ที่เห็นเธอมีแสงสว่างเจิดจ้า
มีทุ่งดอกกุหลาบล้อมรอบตัวหญิงสาวผมน้ำตาลดวงตาดำกลมโตคนนั้น
แวมไพร์หนุ่มมองทุกการเคลื่อนไหวของเธออย่างเคลิบเคลิ้ม ทุกๆอย่างรอบตัวเขา
....เหมือนดั่งภาพสโลโมชั่นแล้ว
ในตอนนี้....
เขามองเธอไปเรื่อยๆ
จนเห็นมือของเธอเริ่มชักอะไรบางอย่างขึ้นมา.....มันมีรูปร่างคล้ายปืน...
"เฮ้ย!ก็ปืนจริงนี่หว่า!!"
"ตายซะ!!"
ปัง! ปัง ! ปัง! ปัง! ตูม!!ตูม!!บรึ้ม!!บรึ้ม!!
แต่ก่อนจะทันรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว เบลล์ไม่รู้ว่าทำไมแวมไพร์หนุ่มถึงดูเหม่อลอยไปชั่วขณะ แต่เธอก็ไม่สนใจ ยิงกระสุนที่มีทักษะเดือดดาลและเกราะทมิฬเข้าไปเต็มๆ
ทำให้กระสุนที่เคลือบเกราะทมิฬนั่นต่อให้เป็นระดับขั้น 5
ก็ไม่อาจปัดป้องได้...
"อ๊ากก!! อ๊ากก!!"
แวมไพร์หนุ่มโดนกระสุนพวกนั้นกระแทกอัดเข้าร่างกายเต็มๆนับไม่ถ้วน ถึงจะไม่รุนแรงพอสำหรับฝังร่างกายอสูรระดับขั้น
5 ได้ถึงแม้จะมีทักษะเดือดดาลก็ตาม
แต่จากทักษะเกราะทมิฬก็ทำให้ไม่อาจปัดป้องได้เช่นกัน
ร่างของแวมไพร์หนุ่มกระเด็นไปกระแทกต้นไม้ต้นสูงจำนวนนับไม่ถ้วน เหมือนกับชุนในตอนแรกเช่นกัน เบลล์เห็นว่าสามารถเล่นงานได้ก็ยิ้มกริ่มแล้วยิงต่อ เพราะดูจากการร้องลั่นนั่นแสดงว่า...
มันต้องบอดเจ็บจนใกล้ตายแน่เลย....
เบลล์ที่คิดว่าเป็นความสามารถของเธอล้วนๆนั้นก็คิดผิด....เพราะไม่ได้มาจากฝีมือของเธอซะส่วนใหญ่
เหตุเพราะแวมไพร์หนุ่มก่อนหน้านี้
โดนพวกอสูรกายกับมนุษย์กินคนเล่นงานมาก่อนหน้านั้น จนบาดเจ็บพอสมควร เลยทำให้พลังชีวิตเหลือไม่มาก
พอโดนกระสุนเคลือบทักษะเกราะทมิฬที่ไม่อาจปัดป้องได้อีกก็ยิ่งทำให้ร่างกายช้ำไปใหญ่
แต่ถ้าเป็นอสูรระดับขั้น1 ขั้น 2 ละก็โดนแบบนี้เข้าต่อให้เลือดเต็มก็ตายแน่นอน ส่วนพวกขั้น 3 อาจมีสิทธิบาดเจ็บสาหัส เพราะระดับพลังพอๆกับเบลล์ในขั้น 1 ระดับ 100 (เพราะสวมชุดระดับ
s)
"อย่าทำพี่ลูเชียส!!"
"เอ๋!"
ฉึก!!ฉูดด!!
"อ๊อกก!!"
เบลล์ที่กำลังยิงกระหน่ำใส่ร่างแวมไพร์หนุ่มอย่างไม่สนใจอะไร
เพราะทักษะเกราะทมิฬที่เป้นเหมือนทักษะโคตรโกงนี้ ก็มีเงื่อนไขของมัน คือ
อยู่ได้แค่ 1 นาที
สำหรับมานาทั้งหมดที่เบลล์มี
พูดง่ายๆคือถ้าใช้ทักษะนี้
เบลล์จะไม่สามารถสู้ต่อได้เป็นเวลา 1 วันเลยทีเดียว
ทำให้เบลล์อยากรีบฆ่าแวมไพร์หนุ่มตนนั้นให้ได้อย่างรวดเร็ว....
แต่ก็โดนหญิงสาวผมดำดวงตาสีโลหิตที่มาจากไหนไม่รู้ เธอสวมชุดเดรสสีแดงดำ มีเลือดและบาดแผลทั้งตัว
เธอเข้ามาเอาเล็บของเธอแทงเบลล์จากด้านหลังจนทะลุถึงท้องเลยทีเดียว พร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดออกมา
จากท้องของหญิงสาวผมสีน้ำตาลดวงตาสีดำกลมโตน่ารักน่าชังคนนี้
เบลล์ก็กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ ไม่คิดว่าจะมีพวกมันอีกคนด้วย....พร้อมกับเสียงระบบที่ดังขึ้น
ติ๊ง!
<ผู้เล่นเบลล์ และ ชุน พบ แวมไพร์เลือดผสม 'ลูน่า'
ประเภท : อสูรระดับสูง ระดับ : ขั้น 4 ระดับ 95 หากผู้เล่นถูกโจมตีจนเสียชีวิต จะลด 50 ระดับ
และเกิดใหม่ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้าค่ะ>
'บัดซบเอ๊ย!!แวมไพร์อีกตัวเรอะ...แต่ว่าสวยแฮะ เฮ้ย!ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องแบบนี้ ท่าทางยัยแวมไพร์นี่จะใกล้ตายและ มานาของเบลล์ก็หมดแล้ว
ไม่มีพลังพอจะฆ่าไอ้แวมไพร์ตัวผู้นั่นแล้ว....เดี๋ยวก่อนนะ!มะกี้ยัยนี่ มันเรียกไอ้แวมไพร์นั่นว่า...'
ตูม!!
"แค่ก แค่ก! อะไรกันผู้หญิงคนมะกี้มาจากไหน....เล่นงานเราได้รุนแรงแบบนี้ พวกของไอ้หนุ่มนั่นเรอะ...หือ?"
แวมไพร์หนุ่มที่ลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก
เพราะโดนเล่นงานทีเผลอจนเจ็บแสบ... (ไม่ได้เผลอนะ เอ็งมัวแต่เคลิ้มนี่)
แวมไพร์หนุ่มปัดเศษฝุ่นตามชุดสีดำของเขาเล็กน้อยราวกับว่าการโจมตีมะกี้ไม่ได้รุนแรงมากเท่าไร ก่อนจะสะดุ้งกับภาพตรงหน้า...
เขาเห็นชายหนุ่มผมดำร่างเปลือยท่อนบนคนเดิม (กลับร่างเป็นชุน เพราะเบลล์มานาหมดขยับร่างกายไม่ได้) แถมชายหนุ่มคนนี้ถือดาบยาวเกือบ
3 เมตร
จ่อที่คอของผู้หญิงผมดำดวงตาสีโลหิต
ที่มีบาดแผลเต็มตัว
"เฮ้ย!แกเป็นพี่ยัยนี่สินะ มาคุยกันดีๆดีกว่าน่า
ถ้าไม่อยากให้ชั้นฆ่าน้องสาวสุดที่รักของแกละก็นะ"
ชุนที่กลับมาร่างเดิมพร้อมบาดแผลตามตัวเล็กน้อยพูดขึ้นพร้อมกับเอาดาบคร่าวิญญาณของเขา
จ่อไปที่คอของแวมไพร์สาวที่สภาพบาดเจ็บสาหัสคนนี้
"อะ...ไรกัน....ทำไมแกถึงกลายเป็นผู้ชาย
แล้ว...แผลที่ฉันแทงทะลุไปละ...นี่มันยังไงกัน"
"ยัยแวมไพร์เงียบไปพูดมาก
เดี๋ยวแผลก็เปิดขึ้นจนตายซะหรอก!"
ชุนตะโกนสั่งแวมไพร์สาวที่กำลังงงกับร่างหญิงสาวในตอนแรกกลายเป็นร่างชายหนุ่มคนนี้ซะงั้น
และก็งงเล็กน้อยที่ชายหนุ่มคนนี้พูดเหมือนเป็นห่วงเธอ
ทั้งๆที่เอาดาบจ่อคอเธออยู่
'ขืนเธอตายตูก็ไม่มีตัวประกันสำหรับใช้หลบหนีไอ้แวมไพร์บ้านี่สิฟะ!
ชุนคิดในใจ....
"ชิ!....เล่นวิธีสกปรกเชียวนะแก"
แวมไพร์หนุ่มกัดฟันกรอด
เมื่อเห็นชายตรงหน้าเล่นแผนสกปรกแบบนี้
ส่วนทางชุนถึงไม่อยากทำแบบนี้
แต่ก็จำเป็นเพราะจะให้เขาขั้น 1 ระดับ 100 ไปสู้กับขั้น 5 ระดับ 20
ก็คงมีแต่ตาย จึงจำเป็นต้องใช้วิธีนี้
"อือ....หา!!อะไรกันเนี่ยแวมไพร์ขั้น 5 ขั้น
4สองตัวนี้!!!"
หญิงสาวผมขาวที่สลบอยู่พอได้ยินเสียงเอะอะก็ปรือตาขึ้น
พร้อมกับเสียงระบบที่ได้ยินขึ้นมาบอกถึงระดับของแวมไพร์สองตัวข้างหน้านี่
"ยัยงูพิษ อยู่เฉยๆละอย่าทำอะไรนอกเรื่อง เดี๋ยวชั้นจัดการเอง"
มีล่าที่ยังโดนมัดอยู่(เชือกแน่นดีเนอะ) มองบาดแผลตามตัวของชายหนุ่มเป้าหมายของเธอ กับสภาพรอบๆที่เละเทะตุ้มเป้ะ ก็รู้ว่าเกิดการต่อสู้กัน
และดูจากสถานการณ์ต่อให้เธออยากกำจัดชุน โดยไปช่วยแวมไพร์สาวที่ดูเหมือนตัวประกันนั่น
แล้วให้แวมไพร์หนุ่มจัดการชุนแทน ถึงจะทำได้สำเร็จ
แต่ก็ไม่มีใครรับรองว่าเจ้าแวมไพร์หนุ่มระดับขั้น 5 นั่นจะไม่ฆ่าเธอ ทำให้เธอคิดว่าอยู่กับชุนท่าจะดีกว่า
เพราะตอนที่รู้สึกตัวครั้งแรก..
ไม่ใช่ตะกี้....แต่เป็นตอนที่ชุนโดนแวมไพร์หนุ่มตบกระเด็น
และเธอยังเห็นว่าชุนนั้นเอาร่างกายตัวเองรับแทนเธอ ถึงเธอจะไม่เข้าใจว่าชุนทำไปเพื่ออะไร
คงคิดจะเก็บเธอไว้ไม่ให้รีบตายแล้วไปทรมาณต่อหรือเปล่า?
เธอก็ไม่แน่ใจ....แต่ที่แน่ใจคือเขาทำให้เธอรู้สึกแปลกๆขึ้นมา
เธอก็ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกที่ร้อนวูบวาบในทรวงอกนั้นคืออะไร...
และในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น ก็ปรากฏแสงสว่างทั้ง 3 ขึ้นมา เป็นร่างของหญิงสาวสองคนและเด็กสาวอีกหนึ่ง
ว๊าบ! ว๊าบ! ว๊าบ!
"หือ?"
"เอ้ะ!"
ชุน มีล่า แวมไพร์หนุ่มและแวมไพร์สาว
มองอย่างแปลกใจกับแสงสว่างที่โผล่ขึ้นมาทั้งสามจุดรอบๆตัวชุน ก่อนที่เสียงระบบจะดังขึ้นมา 3 ครั้ง พร้อมกับปรากฏร่างหญิงสาวงามทั้งสอง
และเด็กสาวอีกหนึ่ง
ติ๊ง!
<ผู้ติดตามเจ้าหญิงอาลีเซีย รัชทายาทลำดับที่ 12 แห่งราชวงศ์กันด์กูเนอร์ สถานะ : ภรรยา ระดับ : ขั้น 1 ระดับ 90 คืนชีพค่ะ เนื่องจากเสียชีวิตทำให้เสียระดับไป 10
ระดับค่ะ >
ติ๊ง!
<ผู้ติดตามมนุษย์หมาป่า
เดเบียล่า สถานะ : ภรรยา ระดับ : ขั้น 2 ระดับ 45
คืนชีพค่ะ
เนื่องจากเสียชีวิตทำให้เสียระดับไป 10 ระดับค่ะ>
ติ๊ง!
<ผู้ติดตามพญาอสูรพยัคฆ์ขาว
ซีลาร์ สถานะ :
ภรรยา ระดับ : ขั้น
2 ระดับ 75 คืนชีพค่ะ
เนื่องจากเสียชีวิตทำให้เสียระดับไป 10 ระดับค่ะ>
หญิงสาวทั้งสองและเด็กสาวอีกหนึ่งปรือตาขึ้นมา
ก่อนมองไปที่ชายคนหนึ่งที่กำลังเอาดาบจ่อคอหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ พวกเธอมองมาที่ชุนแทบจะร้องไห้ออกมา โดยไม่สนใจคิดจะสนกับสถานการณ์ตอนนี้
"ชุนx2 / พี่ชุน! / ซีลาร์ อาลีเซีย เดเบียล่า!!"
ณ ปราสาทฐานที่มั่นรัฐบาล
ห้องฟื้นตัว
บุ๋ง บุ๋ง...แอ๊ด..ซ่า!
" ไง เป็นไงมั่งเดียร์เคลื่อนไหวได้เหมือนปกติแล้วสินะ "
หญิงสาวผมน้ำตาลมัดแกละสองข้าง
สวมในชุดเครื่องแบบทหารชายผ้าคลุมยาวสีขาวขอบน้ำเงินพูดขึ้น...
เมื่อเห็นหญิงสาวผมสีม่วงอ่อนออกมาจากตู้หลอดแก้ว ในชุดว่ายน้ำสีขาว...
ทำให้โชว์สัดส่วนที่ดูดีละเซ๊กซี่ของเธอได้อย่างดี
หญิงสาวผมม่วงอ่อนดวงตาสีชมพูมองเพื่อนสาวตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้ แล้วมองดูสภาพตัวเองที่ฟื้นกลับมาเหมือนเดิม แขนที่ขาดก็หายกลับมาแล้ว
" อื้อ...เหม๋ยหลินฉันขอโทษนะที่กลับไปช่วยพวกเธอกับฮิซานะไม่ทัน
"
หญิงสาวผมม่วงอ่อนกล่าวพลางก้มหน้าอย่างรู้สึกสึกผิด เหม๋ยหลินเห็นเพื่อนสาวที่ทำหน้าแบบนั้นก็ส่ายหน้ากับความคิดเล็กคิดน้อยของเธอ ก่อนจะเดินเข้าไปกอดคอเพื่อนสาวคนนั้น
"อย่าคิดมากน่า ไปกินข้าวกันเถอะพวกฮิซานะ ตะวัน พี
ก็รอพวกเราอยู่ที่ภัตตาคารแล้วนะ....เอ้อ!
เธอรู้ยังเบลล์ได้มาเข้าฝ่ายรัฐบาลของพวกเราแล้วนะ ได้ทั้งตำแหน่งร้อยเอก และ16
องครักษ์ที่มาแทนฉันด้วย"
เหม๋ยหลินพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
หญิงสาวผมม่วง หรือ เดียรินี่ของเราก็ทำหน้าตกใจเล็กน้อยแล้วยิ้มเล็กๆ ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น
"เธอก็ไม่เคยเสียดายตำแหน่งอะไรตามเคยเลยนะ...เฮ้อ"
" แหม จะคิดเล็กคิดน้อยไปทำไมเล่า ก็ฉันอ่อนก็เบลล์จังจริงๆนี่นา
ให้เบลล์จังเค้าขึ้นตำแหน่งแทนฉันอะดีแล้ว
เอ้อ!แล้วเรื่องกิลละ
เบลล์ยังไม่มีกิลเลยนะ เธอจะให้เบลล์เข้ากิลของเธอหรือเปล่า?"
เบลล์ที่ทำหน้าไม่สนใจในตำแหน่ง 16 องครักษ์แม้แต่น้อย
ก็เหมือนนึกขึ้นได้ว่าในตอนนั้นเดียรินี่เพื่อนของเธอได้ชวนเบลล์เข้ากิลนี่นา เลยถามเธอประมาณว่าจะชวนเธอเข้าอีกมั๊ย
ไหนๆเธอก็เข้าร่วมสมาพันธ์เดียวกันแล้ว
"อือ...แน่นอนสิ งั้นฉันขอลองโทรไปบอกเธอแปปนะ"
ติ๊ด ติ๊ด
เดียรินี่ว่าแล้วก็เปิดหน้าจอข้อมูลตัวเองขึ้นมา
พร้อมเลื่อนรายชื่อเพื่อนแล้วคลิกรูปโทรศัพท์ที่ชื่อของเบลล์ทันที แทนพอกดได้เท่านั้นเสียงระบบก็ตอบกลับมาทันที
<ไม่สามารถติดต่อผู้เล่นเบลล์ได้ค่ะ
เนื่องจากอยู่ในเขตไร้สัญญาณค่ะ>
"เอ๋? มีอย่างงี้ด้วยเหรอ...เขตไร้สัญญาณ"
เหม๋ยหลินที่เงี่ยหูฟังอยู่ด้วย
พอได้ยินเสียงระบบที่ดังออกมาจากโทรศัพท์นั่น
ก็ตกใจมากเพราะเท่าที่ผ่านมาถ้าจะโทรไม่ติดก็เนื่องจากถูกบล๊อคจากรายชื่อเพื่อน แต่ในกรณีนั้นระบบต้องบอกว่า...
'ผู้เล่นไม่สามารถติดต่อผู้เล่นคนนี้ได้
เนื่องจากผู้เล่นถูกบล๊อคการติดต่อจากฝ่ายตรงข้ามค่ะ'
ต้องประมาณนี้
แต่เขตไร้สัญญาณนี่ไม่เคยได้ยินมาก่อน...
"อืม...สงสัยเธอคงอยู่ในเขตมิติพิเศษละมั้ง?"
"เขตมิติพิเศษเหรอ?"
"ใช่ มันเป็นเขตพื้นที่ลับสำหรับเควสใหญ่ๆ
หรือเมืองลับอะไรประมาณนี้น่ะ
ซึ่งเขตพวกนี้ส่วนมากจะมีห้วงของช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เช่น
เมืองของเราที่ยืนอยู่นี้ผ่านไป 1 ชั่วโมง
แต่เมืองลับในเขตพิเศษนั้นจะผ่านไปถึง 1 ปีเลย นี่คือเท่าที่ฉันได้ยินมาอะนะ "
เดียรินี่บอกความหมายให้เหม๋ยหลินฟัง ว่าเขตพิเศษคืออะไร แต่เธอก็ไม่ได้บอกว่าเธอเคยผ่านมาแล้ว และเธออยู่ที่เขตนั้นถึง 5 ปีเลยทีเดียว และเธอก็ฝึกฝนอยู่ในนั้นตลอดจนพลังของเธออยู่ในระดับสูงและมีทักษะมากมาย พอออกมาเธอก็เลยสามารถเลื่อนเป็นระดับขั้น 4 ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นขั้น 5 ในที่สุด....
เธอใช้เวลาเพียงแค่ 1
เดือนเท่านั้นจนมาถึงระดับนี้ได้...ในขณะเดียวกันพวกเลบิส ทีรามิสุ เดอะ เกรท ที่เป็น 3 จักรพรรดิ์ใช้เวลาตั้งแต่เปิดเกมส์OPEN BETA เลยทีเดียว
ที่เดียรินี่สามารถเล่นโดยมีองค์ความรู้กับเกมส์นี้มากก็เพราะว่า....เธอเคยเล่นเกมส์นี้ในช่วงCLOSED BETA
มาก่อนนั่นเอง
ทำให้ไม่แปลกที่เธอจะเล่นเกมส์นี้ได้อย่างชำนาญในเวลาอันสั้น
และเชื่อว่าอีกไม่นาน
เธอจะขึ้นนำและเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดให้จงได้....
"โห มีอย่างงี้ด้วย
แสดงว่าพวกที่เข้าไปในเขตนั้นต้องออกมาเทพแน่เลยใช่มะ?" เหม๋ยหลินถามขึ้น
"ก็อาจจะละนะ
แต่ก็ใช่ว่าเขตพิเศษนี่จะหาเจอได้ง่ายๆหรอกนะ ไม่งั้นคงมีแต่คนเทพๆเดินกันเกลื่อนแล้วละ เอาละเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ รอเบลล์โทรกลับมาละกัน พวกเราไปกินข้าวเถอะ....ฉันหิวแล้ว"
"เครๆ ขืนฉันไม่ดูแลแม่สาวสวยอันดับ 1 ของเกมส์ให้ดีละก็ เดี๋ยวฉันจะโดนพวกผู้ชายตามฆ่ากันพอดีนี่เนอะ
ฮะ ฮะ"
เดียรินี่ที่เห็นพูดนอกเรื่องมานานก็ลากกลับเข้าประเด็นที่จะไปกินข้าวกัน
เหม๋ยหลินเห็นหน้าที่หิวโหยนั่นก็หัวเราะแซวขึ้น
เดียรินี่ก็ทำแก้มป่องงอนก่อนจะโดนเหม๋ยหลินกอดคอลากเธอไป
ป่าแห่งหมอก (เขตมิติพิเศษ)
ณ ปราสาทหินแห่งกองทัพเผ่าบาบาเรี่ยน
ตึง!
"โอ๊ย! เจ้าจะโยนข้าทำไมเนี่ย
วางดีๆไม่เป็นรึไง"
เสียงจากหญิงสาวผมบลอนด์ในชุดเกราะอัศวินสีขาวคนหนึ่งดังขึ้น
หลังจากที่เธอโดนชายวัยกลางของเผ่ามนุษย์กินคนผิวดำคนนี้
ที่ขี่อสูรสีดำที่หน้าตาแบบเดียวกับมังกรโคโมโดในโลกจริงเป้ะ โยนลงมาจากหลังของสัตว์อสูรตัวนั้นเข้ามาในห้องมืดๆห้องหนึ่ง
"ฮูม ฮูม!
(ข้าพามาให้แล้วท่านเทพธิดา)"
ชายวัยกลางคนผิวดำดวงตาสีแดง
ที่ตามตัวมีรอยอักขระสีขาว
ใส่ชุดขนสัตว์สีดำหนา
นั่งคุกเข่าลงพร้อมคำรามเหมือนพูดกับใครบางคน
ที่อยู่ในห้องที่มืดและกว้างนี้แบบเดียวกับอาเธอร์และมนุษย์กินคนผู้นี้ ที่จากระบบบอกว่าชื่อ 'โบรอส'
ตึก ตึก
และสิ้นสุดของเสียงคำรามเบาๆของโบรอสมนุษย์กินคนผู้ขี่อสูร
ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นท่ามกลางห้องมืดๆนี่
และฝีเท้านั้นกำลังใกล้เข้ามาหาหญิงสาวผมบลอนด์กับโบรอสขึ้นเรื่อยๆ
คว้าง!!ฟ้าว!!
"เอ้ะ!"
แต่ไม่ทันที่อาเธอร์และโบรลอสจะได้เห็นร่างนั้นที่กำลังเดินมา ก็มีแสงสีแดงสว่างวาบขึ้นแวบนึง
ก่อนจะมีขวานเล่มนึงพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วจนแม้แต่อาเธอร์ยังไม่ทันได้รู้สึกตัว
ขวานเล่มนั้นก็พุ่งเฉียดแก้มอาเธอร์ และฉิวเฉียดหน้าโบรอสเล็กน้อย
ก่อนจะไปฝังในกำแพงหินของห้องนี้อย่างเสียงดังสั่นหวั่นไว
ฉัวะ!ตึง!!!
"อึ๊ก!อะไรเนี่ย!"
อาเธอร์มองเลือดที่ไหลออกมาข้างแก้มอย่างตกใจ
เพราะเธอมองไม่ทันเลยว่าขวานเล่มนั้นเฉียดหน้าเธอตอนไหน
และในขณะที่เธอตกใจอยู่นั้นก็มีลิ้นเล็กๆมาเลียแก้มของเธอตรงบาดแผลที่เลือดออกนั่น
แผลบ
"อ้ะ!"
"เลือดของอัศวินศักดิ์สิทธิงั้นเหรอ....ทำได้ดีนี่นาโบรอส"
เสียงที่ทรงอำนาจดังขึ้นที่ข้างหน้าใบหน้าของอาเธอร์อย่างกระชั้นชิด อาเธอร์รีบหันไปมองทันที ก็เห็นร่างของหญิงสาวผมสีแดงผูกมัดเป็นปมไว้บนหัวและมีอะไรที่เหมือนกับกระดูกแหลมๆ เสียบที่ปมผมนั่นเพื่อยึดผมไม่ให้ปล่อยออกมา
เธอมีดวงตาสีแดงดุจเลือด ผิวที่ควรดำกลับขาวสะอาด ใส่ชุดขนสัตว์สีดำและเกราะสีดำขอบแดงตรงอก ส่วนหน้าท้องโชว์ไว้
ส่วนล่างใส่อะไรซักอย่างที่คล้ายกระโปรงสีดำ
และใส่รองเท้ายาวที่ท่าทางจะทำจากขนสัตว์เช่นเดียวกัน
อาวุธที่เธอถือคือขวานคู่สีดำลายแดง ที่ตอนนี้เธอถืออยู่ในมือเล่มนึง กับอีกเล่มที่ฝังกำแพงอยู่...
หลังจากอาเธอร์มองลักษณะเธอเสร็จ ระบบก็ดังขึ้น....
ติ๊ง!
<ผู้ติดตามอาเธอร์ พบ 1 ใน
7 เทพธิดาสงคราม
เทพธิดาแห่งการทำลายล้าง 'เบลลเลี่ยน'
ประเภท : ราชาสปิริตระดับสูง ระดับ : ขั้น 8 ระดับ 10 ค่ะ
>
*******************************************************************
ปล.อืม....ถ้าจะนานแน่ตอน 7 เทพธิดาสงครามคนนี้ ผมสปอยให้หน่อย -3-
(เดี๋ยวหลังจากจบตอนของ 7 เทพธิดาสงครามคนนี้ ชุนจะได้ทั้งผู้ติดตาม และฝีมือที่เมพขึ้นขิงๆ อิอิ แต่ยังไม่สุดนะ ยังมีตอนอื่นๆที่ทำให้เมพขึ้น เมพขึ้นไปอีกกกก555+ )
ปล.2 ขอคอมเม้นนนนน อ๊ากกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!
ปล.3 ลิ้งค์เพจติดต่อได้ตลอดครับ
https://www.facebook.com/The-Lost-Zero-Online-175831109424018/?ref=bookmarks
ความคิดเห็น