ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Zero Online : มหาสงครามราชันข้ามฟ้า

    ลำดับตอนที่ #42 : CHAPTER 39 : เมืองลับในป่าแห่งหมอก 4

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.52K
      31
      28 ต.ค. 58

    CHAPTER 39 : เมืองลับในป่าแห่งหมอก 4

     

    ทวีปเวเซอุส

    ณ  ป่าแห่งหมอก

     

    ชิ้ง!!โครม!!!

     

    "ชิ!บ้าเอ๊ย!"

     

    เสียงต้นไม้ขนาดใหญ่หลายสิบต้นที่อยู่บริเวณนี้  โดนของมีคมบางอย่างตัดไปจนล้มระเนระนาด  พร้อมกับชายหนุ่มผมดำมัดเป็นจุกไว้ด้านหลังดวงตาสีน้ำตาลเฮลเซนัท  ในสภาพร่างเปลือยท่อนบน  ทะยานหลบคลื่นพลังที่ออกมาจากกรงเล็บของชายหนุ่มผมดำดวงตาสีโลหิตนั่นอย่างยากลำบาก


    เพราะต้องหลบต้นไม้สูงใหญ่ที่โค่นล้มลงมาจากการตัดอันเฉียบคมนั่น....     

     

    " จะหนีไปไหนไอ้พวกมนุษย์กินคน!"

     

    "ก็บอกไม่ใช่ไงโว้ย!! ดูผิวตูดิวะดำเหมือนผมแม่แกมั๊ยเล่า!!"

     

    ชายหนุ่มแวมไพร์ตะโกนอย่างอารมณ์เสียที่เห็นผู้ชายร่างเปลือยท่อนบนนี้  เอาแต่หนีอย่างเดียว  แถมยังหลบได้อีกตังหาก  ทำให้หนุ่มแวมไพร์คนนี้เชื่อว่าชายตรงหน้านี้ยังไม่เอาจริง


    ส่วนทางชายหนุ่มร่างเปลือยท่อนบน หรือ ก็คือชุนที่คอยหลบอีกมาได้ตลอดเวลาอย่างเฉียดฉิว  เพราะเขามีพื้นฐานความคล่องตัวจากเกมส์ The Blond Bullet ของเขาอยู่แล้ว  ทำให้ไม่ยากเท่าไรสำหรับการหลบหลีกนี่

     

    ติ๊ง!                                             

     

    <ผู้เล่นชุนปลดล๊อคสถานะพิเศษค่ะ  ได้รับฉายา 'เทพลมกรด'ค่ะ  เนื่องจากผู้เล่นชุนทำตามครบเงื่อนไข  หลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามครบ  1,000 ครั้งอย่างต่อเนื่องค่ะ    

    รายละเอียด ฉายา'เทพลมกรด'   -  ทำให้ผู้เล่นสามารถเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น 10 เท่าจากเดิมค่ะ

                                                    -  ทำให้ผู้เล่นสามารถรับรู้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้ได้   โดยสัมผัสทางสายลมค่ะ>

     

    ติ๊ง!

     

    <ผู้เล่นชุนเลื่อนระดับธาตุลมเป็น  0>10 ค่ะ>


     

    "หา! นี่ตูหลบคู่ต่อสู้ครบพันครั้งแบบไม่โดนตอนไหนฟะ....อ่อ"

     

    ชุนที่งุนงงกับเสียงระบบทั้งสองอย่าง  ก็งงอย่างแรกขึ้นมาก่อน  เขานึกอยู่ว่าเขาไปหลบได้ถึง 1,000 ครั้งตอนไหน  เขาก็จำได้ว่าก่อนมาถึงป่านี้ 


    เขาก็ไปสู้กับมอนเตอร์ข้างทางพร้อมกับอาเธอร์  เป็นจำนวนมากพอสมควร  และยังไม่มีครั้งไหนที่เขาโดนโจมตีเลยซักครั้ง


    และพอมาถึงนี่เขาก็เจอพวกฝูงอสูรกายไร้หน้า  กับ มนุษย์กินคน ซึ่งถ้ารวมพวกมันเข้าด้วยกันก็มีจำนวนเกือบพันตน  ถ้านับตั้งแต่ออกจากถ้ำมาพร้อมกับอาเธอร์ และ ยัยงูพิษ(มีล่า

     

    เขาก็หลบหลีกมาโดยตลอด  โดยไม่รู้ตัวว่าเขานั้นหลบหลีกได้ชำนาญมาก  ขนาดพวกมันทั้งปาหอก  ข่วนก็ไม่โดนเขาแม้แต่น้อย  อาเธอร์ก็โดนเฉียดๆไปเยอะอยู่  


    ทำให้อาเธอร์ในตอนนั้นเองก็อดสงสัยไม่ได้ว่าชุนสามีของเธอทำได้ยังไงกัน

     

    จนหลบไปหลบมาจนถึงตอนที่กำลังสู้กับแวมไพร์นี่มาได้ซักพัก...

     

     

    เขาก็หลบมาโดยตลอด  แถมยังไม่โดนซักครั้งด้วย...

     

    ส่วนเพราะฉายานี่เกี่ยวกับธาตุลม  ที่เป็นธาตุประจำตัวของชุน  ที่เขาเลือกตอนแรกในอาคารภารกิจตั้งแต่เริ่มเล่นเกมส์  เป็นฉายาที่เกี่ยวข้องกับลมเลยทำให้ระดับธาตุพลังเพิ่มขึ้นด้วย

     

    "เอ....ลืมเรื่องการฝึกธาตุเลยแฮะเรา"

     

    ชิ๊ง!!โครม!!

     

    "บ่นอะไรของแก! เจ้ามนุษย์กินคน หลบอยู่นั่นแหละ!"

     

    ' ไม่หลบตูก็ตายสิฟะ  เอาไรไปสู้ขั้น 5 ของเอ็งมันระดับเดียวกับพวก 3 จักรพรรดิ์นั่นเลยนะเฟ้ย!   แถมอีกอย่างมนุษย์กินคนบ่านป้าแกสิพูดภาษารู้เรื่องได้ฮะ!  ไม่ได้ฟังตอนมันพูดรึไงฟะ  มันพูดแต่แฮ่ๆๆเนี่ย'

     

    ชุนบ่นขึ้นมายาวๆในใจ  ตอนนี้เขายังคิดหาทางรอดจากเจ้าแวมไพร์บ้าพลังนี่อยู่  แถมยังต้องแบกยัยงูพิษที่จับใส่ถุงย่ามเข้าที่เดิมอีก  ทำให้ร่างกายเขาเริ่มล้าขึ้นเรื่อยๆแล้ว 

     

    'จริงสิลองพลังปราณใช้ดูดีกว่า...ฮึบ!'

     

    ชุนว่าแล้วก็ขับลมปราณขึ้น  พร้อมกับหลบหลีกไปด้วย  แต่พอเขาเสียสมาธิกับปราณแค่แปปเดียวเท่านั้น  แวมไพร์หนุ่มก็ทำการวาร์ปมาด้านหลังทันที


    แว๊บ!


    "เฮ้ย!"

     

    ชิ๊ง!!โครม!!

     

    "อะไรเนี่ย!ยังหลบได้อีกเรอะ!ไอ้มนุษย์กินคน!!"

    "ก็บอกไม่ใช่เว้ย!!"

     

    แวมไพร์หนุ่มที่โผล่มากระทันหัน  ใช้เล็บของตนเองพุ่งแทงไปที่หลังของชุน  ที่แบกร่างของมีล่าอยู่ด้วย  เพื่อหวังให้ทะลุ   แต่ด้วยฉายาเทพลมกรดของชุน  ทำให้เขาไหวตัวทันหมุนหลบอย่างเฉียดฉิว 

    และพร้อมกับอัดพลังปราณที่สะสมไว้เมื่อครู่เสร็จพอดีไว้ที่หมัด  ก่อนจะปล่อยเข้าสีข้างของแวมไพร์หนุ่มเต็มๆ

     

    ตูมม!!                             

     

    "ฮะ ฮะ เป็นไงเล่า...."

     

    ชุนที่ชกเข้าไปเต็มแรงก็หัวเราะขึ้น  เมื่อเห็นเสียงที่ดังออกมาจากการกระแทก  ก่อนเขาจะเงยหน้ามองแวมไพร์หนุ่มร่างสูงที่เกือบ 2 เมตรนี่  ก็ปรากฏว่ามันมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง  ก่อนจะพูดว่า...

     

    "หมัดของแกทำไมเบาอย่างงี้วะ เจ้ามนุษย์กินคน  ตามหลักหมัดพวกแกแรงกว่านี้นะ..."

    "อะ..."

     

    ผัวะ!!  โครม!!!  โครม!!  โครม!!  โครม!!

     

    ชุนโดนหลังมือของแวมไพร์หนุ่มอสูรระดับขั้น 5 เข้าไปเต็ม  ทำให้ร่างเขาและมีล่าที่อยู่ในย่ามกระเด็นเข้าไปกระแทกกับต้นไม้สูงจำนวนมาก 


    ชุนกลัวว่ายัยงูพิษจะโดนเข้าไปเต็มๆเพราะเขาลอยละลิ่วในขณะที่หันหลังที่มีร่างของมีล่าสลบอยู่ในย่ามด้านหลัง   เขาเลยหมุนตัวกลางอากาศอย่างรวดเร็ว  แล้วตัวเองก็เข้ากระแทกกับต้นไม้จำนวนนับไม่ถ้วนล้มพังครืนไปเป็นแถบๆ

     

    เลือดของชุนลดลงฮวบฮาบ  ชุนคิดว่าถ้าปล่อยเป็นแบบนี้เขาจะเลือดหมดตายแน่...

     

    จึงเปลี่ยนร่างเป็นเบลล์แทน  เพราะเลือดของเธอมีเยอะกว่าลายเท่า  และเลือดของแต่ละคนจะไม่เชื่อมต่อกัน  เช่น  ชุนโดนโจมตีจนเลือดเหลือ 1 แต่ถ้าเขาเปลี่ยนไปเป็นร่างเบลล์   เขาจะมีเลือดเป็นของเบลล์ที่มีเลือดเป็นล้านทันที(ถ้าร่างของเบลล์ยังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรอะนะ)

     

    "อั๊ก อั๊ก! เปลี่ยนเป็นเบลล์!!"


    แว้บ!!


    โครม! โครม! ตูม!!!

     

    "หือ? แย่ละทางนั้นมัน!"


    ฟ้าวว!!!


    แวมไพร์หนุ่มที่ลอยมองดูผลงานตัวเองอยู่  ก็เบิกตาโพลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าทิศทางที่ชายหนุ่มผมดำเปลื่อยท่อนบนที่เขาตบกระเด็นไปนั้น  ไปในทิศทางที่ไม่ควรไปซะแล้ว

     

    ครึก...ครึก...


    "ทักษะเดือดดาล!! เกราะทมิฬ!!"

     

    "หือ?"

     

    ขณะที่แวมไพร์หนุ่มกำลังทะยานเข้าไปดูจุดที่ชายหนุ่มร่างเปลือยท่อนบนตก  ท่ามกลางม่านหมอก และควันที่ฟุ้งกระจายเพราะเกิดจากร่างของชายคนนั้นที่กระแทกลงไปบวกกับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่หักโค่น

     

    .....ก็มีร่างหญิงสาวผมสีน้ำตาล  หน้าตาน่ารักน่าชัง  จนแวมไพร์หนุ่มที่เห็นใบหน้านั่นก็ช๊อคตาค้างกับใบหน้าของหญิงสาว  ราวกับว่าเวลารอบตัวหยุดเดิน  แวมไพร์หนุ่มมองร่างหญิงสาวที่เริ่มมีออร่าสีแดงและดำ

     

     ทะยานเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ...

     

    รอบตัวเขาตอนนี้ที่เห็นเธอมีแสงสว่างเจิดจ้า  มีทุ่งดอกกุหลาบล้อมรอบตัวหญิงสาวผมน้ำตาลดวงตาดำกลมโตคนนั้น   แวมไพร์หนุ่มมองทุกการเคลื่อนไหวของเธออย่างเคลิบเคลิ้ม  ทุกๆอย่างรอบตัวเขา

     

    ....เหมือนดั่งภาพสโลโมชั่นแล้ว  ในตอนนี้....

     

    เขามองเธอไปเรื่อยๆ  จนเห็นมือของเธอเริ่มชักอะไรบางอย่างขึ้นมา.....มันมีรูปร่างคล้ายปืน...

     

    "เฮ้ย!ก็ปืนจริงนี่หว่า!!"

     

    "ตายซะ!!"

     

    ปัง! ปัง ! ปัง! ปัง! ตูม!!ตูม!!บรึ้ม!!บรึ้ม!!  

     

    แต่ก่อนจะทันรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว  เบลล์ไม่รู้ว่าทำไมแวมไพร์หนุ่มถึงดูเหม่อลอยไปชั่วขณะ  แต่เธอก็ไม่สนใจ  ยิงกระสุนที่มีทักษะเดือดดาลและเกราะทมิฬเข้าไปเต็มๆ  


    ทำให้กระสุนที่เคลือบเกราะทมิฬนั่นต่อให้เป็นระดับขั้น 5 ก็ไม่อาจปัดป้องได้...

     

    "อ๊ากก!! อ๊ากก!!"            

     

    แวมไพร์หนุ่มโดนกระสุนพวกนั้นกระแทกอัดเข้าร่างกายเต็มๆนับไม่ถ้วน  ถึงจะไม่รุนแรงพอสำหรับฝังร่างกายอสูรระดับขั้น 5 ได้ถึงแม้จะมีทักษะเดือดดาลก็ตาม  แต่จากทักษะเกราะทมิฬก็ทำให้ไม่อาจปัดป้องได้เช่นกัน

     

    ร่างของแวมไพร์หนุ่มกระเด็นไปกระแทกต้นไม้ต้นสูงจำนวนนับไม่ถ้วน  เหมือนกับชุนในตอนแรกเช่นกัน   เบลล์เห็นว่าสามารถเล่นงานได้ก็ยิ้มกริ่มแล้วยิงต่อ  เพราะดูจากการร้องลั่นนั่นแสดงว่า...

     

    มันต้องบอดเจ็บจนใกล้ตายแน่เลย....

     

    เบลล์ที่คิดว่าเป็นความสามารถของเธอล้วนๆนั้นก็คิดผิด....เพราะไม่ได้มาจากฝีมือของเธอซะส่วนใหญ่  

     

    เหตุเพราะแวมไพร์หนุ่มก่อนหน้านี้  โดนพวกอสูรกายกับมนุษย์กินคนเล่นงานมาก่อนหน้านั้น  จนบาดเจ็บพอสมควร   เลยทำให้พลังชีวิตเหลือไม่มาก  พอโดนกระสุนเคลือบทักษะเกราะทมิฬที่ไม่อาจปัดป้องได้อีกก็ยิ่งทำให้ร่างกายช้ำไปใหญ่

     

    แต่ถ้าเป็นอสูรระดับขั้น1 ขั้น 2 ละก็โดนแบบนี้เข้าต่อให้เลือดเต็มก็ตายแน่นอน  ส่วนพวกขั้น 3 อาจมีสิทธิบาดเจ็บสาหัส  เพราะระดับพลังพอๆกับเบลล์ในขั้น 1 ระดับ 100 (เพราะสวมชุดระดับ s)

     

    "อย่าทำพี่ลูเชียส!!"

    "เอ๋!"

     

    ฉึก!!ฉูดด!!

    "อ๊อกก!!"

     

    เบลล์ที่กำลังยิงกระหน่ำใส่ร่างแวมไพร์หนุ่มอย่างไม่สนใจอะไร  เพราะทักษะเกราะทมิฬที่เป้นเหมือนทักษะโคตรโกงนี้  ก็มีเงื่อนไขของมัน  คือ  อยู่ได้แค่ 1 นาที  สำหรับมานาทั้งหมดที่เบลล์มี  พูดง่ายๆคือถ้าใช้ทักษะนี้  เบลล์จะไม่สามารถสู้ต่อได้เป็นเวลา 1 วันเลยทีเดียว

     

    ทำให้เบลล์อยากรีบฆ่าแวมไพร์หนุ่มตนนั้นให้ได้อย่างรวดเร็ว....

     

    แต่ก็โดนหญิงสาวผมดำดวงตาสีโลหิตที่มาจากไหนไม่รู้  เธอสวมชุดเดรสสีแดงดำ  มีเลือดและบาดแผลทั้งตัว  เธอเข้ามาเอาเล็บของเธอแทงเบลล์จากด้านหลังจนทะลุถึงท้องเลยทีเดียว  พร้อมกับเลือดที่พุ่งกระฉูดออกมา  จากท้องของหญิงสาวผมสีน้ำตาลดวงตาสีดำกลมโตน่ารักน่าชังคนนี้

     

    เบลล์ก็กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ  ไม่คิดว่าจะมีพวกมันอีกคนด้วย....พร้อมกับเสียงระบบที่ดังขึ้น               

     

    ติ๊ง!


    <ผู้เล่นเบลล์ และ ชุน พบ แวมไพร์เลือดผสม 'ลูน่า'  ประเภท : อสูรระดับสูง  ระดับ : ขั้น 4 ระดับ 95   หากผู้เล่นถูกโจมตีจนเสียชีวิต  จะลด 50 ระดับ  และเกิดใหม่ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้าค่ะ>

     

    'บัดซบเอ๊ย!!แวมไพร์อีกตัวเรอะ...แต่ว่าสวยแฮะ  เฮ้ย!ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องแบบนี้  ท่าทางยัยแวมไพร์นี่จะใกล้ตายและ  มานาของเบลล์ก็หมดแล้ว

     ไม่มีพลังพอจะฆ่าไอ้แวมไพร์ตัวผู้นั่นแล้ว....เดี๋ยวก่อนนะ!มะกี้ยัยนี่  มันเรียกไอ้แวมไพร์นั่นว่า...'

                                                                                                                                                                                      

    ตูม!!

     

    "แค่ก แค่ก! อะไรกันผู้หญิงคนมะกี้มาจากไหน....เล่นงานเราได้รุนแรงแบบนี้  พวกของไอ้หนุ่มนั่นเรอะ...หือ?"

     

    แวมไพร์หนุ่มที่ลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก เพราะโดนเล่นงานทีเผลอจนเจ็บแสบ... (ไม่ได้เผลอนะ เอ็งมัวแต่เคลิ้มนี่)

     

          แวมไพร์หนุ่มปัดเศษฝุ่นตามชุดสีดำของเขาเล็กน้อยราวกับว่าการโจมตีมะกี้ไม่ได้รุนแรงมากเท่าไร   ก่อนจะสะดุ้งกับภาพตรงหน้า...

     

    เขาเห็นชายหนุ่มผมดำร่างเปลือยท่อนบนคนเดิม (กลับร่างเป็นชุน เพราะเบลล์มานาหมดขยับร่างกายไม่ได้แถมชายหนุ่มคนนี้ถือดาบยาวเกือบ 3 เมตร  จ่อที่คอของผู้หญิงผมดำดวงตาสีโลหิต  ที่มีบาดแผลเต็มตัว

     

    "เฮ้ย!แกเป็นพี่ยัยนี่สินะ  มาคุยกันดีๆดีกว่าน่า  ถ้าไม่อยากให้ชั้นฆ่าน้องสาวสุดที่รักของแกละก็นะ"

     

      ชุนที่กลับมาร่างเดิมพร้อมบาดแผลตามตัวเล็กน้อยพูดขึ้นพร้อมกับเอาดาบคร่าวิญญาณของเขา  จ่อไปที่คอของแวมไพร์สาวที่สภาพบาดเจ็บสาหัสคนนี้

     

    "อะ...ไรกัน....ทำไมแกถึงกลายเป็นผู้ชาย  แล้ว...แผลที่ฉันแทงทะลุไปละ...นี่มันยังไงกัน" 


    "ยัยแวมไพร์เงียบไปพูดมาก เดี๋ยวแผลก็เปิดขึ้นจนตายซะหรอก!"

     

     ชุนตะโกนสั่งแวมไพร์สาวที่กำลังงงกับร่างหญิงสาวในตอนแรกกลายเป็นร่างชายหนุ่มคนนี้ซะงั้น   และก็งงเล็กน้อยที่ชายหนุ่มคนนี้พูดเหมือนเป็นห่วงเธอ ทั้งๆที่เอาดาบจ่อคอเธออยู่

     

    'ขืนเธอตายตูก็ไม่มีตัวประกันสำหรับใช้หลบหนีไอ้แวมไพร์บ้านี่สิฟะ!

    ชุนคิดในใจ....                          

     

    "ชิ!....เล่นวิธีสกปรกเชียวนะแก"

     

    แวมไพร์หนุ่มกัดฟันกรอด เมื่อเห็นชายตรงหน้าเล่นแผนสกปรกแบบนี้  ส่วนทางชุนถึงไม่อยากทำแบบนี้  แต่ก็จำเป็นเพราะจะให้เขาขั้น 1 ระดับ 100 ไปสู้กับขั้น 5 ระดับ 20 ก็คงมีแต่ตาย  จึงจำเป็นต้องใช้วิธีนี้

     

    "อือ....หา!!อะไรกันเนี่ยแวมไพร์ขั้น 5 ขั้น 4สองตัวนี้!!!"

     

      หญิงสาวผมขาวที่สลบอยู่พอได้ยินเสียงเอะอะก็ปรือตาขึ้น  พร้อมกับเสียงระบบที่ได้ยินขึ้นมาบอกถึงระดับของแวมไพร์สองตัวข้างหน้านี่

     

    "ยัยงูพิษ อยู่เฉยๆละอย่าทำอะไรนอกเรื่อง เดี๋ยวชั้นจัดการเอง"

     

      มีล่าที่ยังโดนมัดอยู่(เชือกแน่นดีเนอะมองบาดแผลตามตัวของชายหนุ่มเป้าหมายของเธอ  กับสภาพรอบๆที่เละเทะตุ้มเป้ะ  ก็รู้ว่าเกิดการต่อสู้กัน 

     

     

    และดูจากสถานการณ์ต่อให้เธออยากกำจัดชุน  โดยไปช่วยแวมไพร์สาวที่ดูเหมือนตัวประกันนั่น

     แล้วให้แวมไพร์หนุ่มจัดการชุนแทน  ถึงจะทำได้สำเร็จ  แต่ก็ไม่มีใครรับรองว่าเจ้าแวมไพร์หนุ่มระดับขั้น 5 นั่นจะไม่ฆ่าเธอ  ทำให้เธอคิดว่าอยู่กับชุนท่าจะดีกว่า

     

    เพราะตอนที่รู้สึกตัวครั้งแรก..

     

          ไม่ใช่ตะกี้....แต่เป็นตอนที่ชุนโดนแวมไพร์หนุ่มตบกระเด็น  และเธอยังเห็นว่าชุนนั้นเอาร่างกายตัวเองรับแทนเธอ  ถึงเธอจะไม่เข้าใจว่าชุนทำไปเพื่ออะไร  คงคิดจะเก็บเธอไว้ไม่ให้รีบตายแล้วไปทรมาณต่อหรือเปล่า?

     

     เธอก็ไม่แน่ใจ....แต่ที่แน่ใจคือเขาทำให้เธอรู้สึกแปลกๆขึ้นมา 

     

    เธอก็ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกที่ร้อนวูบวาบในทรวงอกนั้นคืออะไร...                         

     

    และในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น  ก็ปรากฏแสงสว่างทั้ง 3 ขึ้นมา  เป็นร่างของหญิงสาวสองคนและเด็กสาวอีกหนึ่ง

     

    ว๊าบ! ว๊าบ! ว๊าบ!

     

    "หือ?"

    "เอ้ะ!"           

     

    ชุน  มีล่า  แวมไพร์หนุ่มและแวมไพร์สาว มองอย่างแปลกใจกับแสงสว่างที่โผล่ขึ้นมาทั้งสามจุดรอบๆตัวชุน  ก่อนที่เสียงระบบจะดังขึ้นมา 3 ครั้ง  พร้อมกับปรากฏร่างหญิงสาวงามทั้งสอง และเด็กสาวอีกหนึ่ง

     

    ติ๊ง!

     

    <ผู้ติดตามเจ้าหญิงอาลีเซีย  รัชทายาทลำดับที่ 12 แห่งราชวงศ์กันด์กูเนอร์  สถานะ : ภรรยา  ระดับ : ขั้น 1 ระดับ 90 คืนชีพค่ะ  เนื่องจากเสียชีวิตทำให้เสียระดับไป 10 ระดับค่ะ >

     

    ติ๊ง!

     

    <ผู้ติดตามมนุษย์หมาป่า เดเบียล่า  สถานะ : ภรรยา   ระดับ : ขั้น 2 ระดับ 45 คืนชีพค่ะ  เนื่องจากเสียชีวิตทำให้เสียระดับไป 10 ระดับค่ะ>

     

    ติ๊ง!

     

    <ผู้ติดตามพญาอสูรพยัคฆ์ขาว ซีลาร์   สถานะ : ภรรยา  ระดับ : ขั้น 2 ระดับ 75 คืนชีพค่ะ  เนื่องจากเสียชีวิตทำให้เสียระดับไป 10 ระดับค่ะ>

     

    หญิงสาวทั้งสองและเด็กสาวอีกหนึ่งปรือตาขึ้นมา  ก่อนมองไปที่ชายคนหนึ่งที่กำลังเอาดาบจ่อคอหญิงสาวคนหนึ่งอยู่  พวกเธอมองมาที่ชุนแทบจะร้องไห้ออกมา  โดยไม่สนใจคิดจะสนกับสถานการณ์ตอนนี้


     

    "ชุนx2 / พี่ชุน! / ซีลาร์ อาลีเซีย เดเบียล่า!!"



    ณ  ปราสาทฐานที่มั่นรัฐบาล

     

    ห้องฟื้นตัว


     

    บุ๋ง  บุ๋ง...แอ๊ด..ซ่า!

     

    " ไง เป็นไงมั่งเดียร์เคลื่อนไหวได้เหมือนปกติแล้วสินะ "

     

      หญิงสาวผมน้ำตาลมัดแกละสองข้าง สวมในชุดเครื่องแบบทหารชายผ้าคลุมยาวสีขาวขอบน้ำเงินพูดขึ้น... 

     

    เมื่อเห็นหญิงสาวผมสีม่วงอ่อนออกมาจากตู้หลอดแก้ว  ในชุดว่ายน้ำสีขาว... 


    ทำให้โชว์สัดส่วนที่ดูดีละเซ๊กซี่ของเธอได้อย่างดี   หญิงสาวผมม่วงอ่อนดวงตาสีชมพูมองเพื่อนสาวตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้  แล้วมองดูสภาพตัวเองที่ฟื้นกลับมาเหมือนเดิม  แขนที่ขาดก็หายกลับมาแล้ว

     

    " อื้อ...เหม๋ยหลินฉันขอโทษนะที่กลับไปช่วยพวกเธอกับฮิซานะไม่ทัน "

     

     หญิงสาวผมม่วงอ่อนกล่าวพลางก้มหน้าอย่างรู้สึกสึกผิด   เหม๋ยหลินเห็นเพื่อนสาวที่ทำหน้าแบบนั้นก็ส่ายหน้ากับความคิดเล็กคิดน้อยของเธอ  ก่อนจะเดินเข้าไปกอดคอเพื่อนสาวคนนั้น

     

    "อย่าคิดมากน่า ไปกินข้าวกันเถอะพวกฮิซานะ ตะวัน พี ก็รอพวกเราอยู่ที่ภัตตาคารแล้วนะ....เอ้อ! เธอรู้ยังเบลล์ได้มาเข้าฝ่ายรัฐบาลของพวกเราแล้วนะ ได้ทั้งตำแหน่งร้อยเอก และ16 องครักษ์ที่มาแทนฉันด้วย"

     

    เหม๋ยหลินพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น  หญิงสาวผมม่วง หรือ เดียรินี่ของเราก็ทำหน้าตกใจเล็กน้อยแล้วยิ้มเล็กๆ  ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น

     

    "เธอก็ไม่เคยเสียดายตำแหน่งอะไรตามเคยเลยนะ...เฮ้อ"                           

     

    " แหม จะคิดเล็กคิดน้อยไปทำไมเล่า  ก็ฉันอ่อนก็เบลล์จังจริงๆนี่นา ให้เบลล์จังเค้าขึ้นตำแหน่งแทนฉันอะดีแล้ว  เอ้อ!แล้วเรื่องกิลละ  เบลล์ยังไม่มีกิลเลยนะ เธอจะให้เบลล์เข้ากิลของเธอหรือเปล่า?"

     

    เบลล์ที่ทำหน้าไม่สนใจในตำแหน่ง 16 องครักษ์แม้แต่น้อย ก็เหมือนนึกขึ้นได้ว่าในตอนนั้นเดียรินี่เพื่อนของเธอได้ชวนเบลล์เข้ากิลนี่นา  เลยถามเธอประมาณว่าจะชวนเธอเข้าอีกมั๊ย ไหนๆเธอก็เข้าร่วมสมาพันธ์เดียวกันแล้ว

     

    "อือ...แน่นอนสิ  งั้นฉันขอลองโทรไปบอกเธอแปปนะ"          

     

    ติ๊ด  ติ๊ด

     

    เดียรินี่ว่าแล้วก็เปิดหน้าจอข้อมูลตัวเองขึ้นมา  พร้อมเลื่อนรายชื่อเพื่อนแล้วคลิกรูปโทรศัพท์ที่ชื่อของเบลล์ทันที  แทนพอกดได้เท่านั้นเสียงระบบก็ตอบกลับมาทันที

     

    <ไม่สามารถติดต่อผู้เล่นเบลล์ได้ค่ะ  เนื่องจากอยู่ในเขตไร้สัญญาณค่ะ>

     

    "เอ๋? มีอย่างงี้ด้วยเหรอ...เขตไร้สัญญาณ"

     

    เหม๋ยหลินที่เงี่ยหูฟังอยู่ด้วย พอได้ยินเสียงระบบที่ดังออกมาจากโทรศัพท์นั่น  ก็ตกใจมากเพราะเท่าที่ผ่านมาถ้าจะโทรไม่ติดก็เนื่องจากถูกบล๊อคจากรายชื่อเพื่อน  แต่ในกรณีนั้นระบบต้องบอกว่า...

     

    'ผู้เล่นไม่สามารถติดต่อผู้เล่นคนนี้ได้  เนื่องจากผู้เล่นถูกบล๊อคการติดต่อจากฝ่ายตรงข้ามค่ะ'

     

    ต้องประมาณนี้  แต่เขตไร้สัญญาณนี่ไม่เคยได้ยินมาก่อน...


     

    "อืม...สงสัยเธอคงอยู่ในเขตมิติพิเศษละมั้ง?"                         

    "เขตมิติพิเศษเหรอ?"                                          

     

    "ใช่ มันเป็นเขตพื้นที่ลับสำหรับเควสใหญ่ๆ หรือเมืองลับอะไรประมาณนี้น่ะ  ซึ่งเขตพวกนี้ส่วนมากจะมีห้วงของช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เช่น เมืองของเราที่ยืนอยู่นี้ผ่านไป 1 ชั่วโมง  แต่เมืองลับในเขตพิเศษนั้นจะผ่านไปถึง 1 ปีเลย  นี่คือเท่าที่ฉันได้ยินมาอะนะ  "

     

    เดียรินี่บอกความหมายให้เหม๋ยหลินฟัง ว่าเขตพิเศษคืออะไร  แต่เธอก็ไม่ได้บอกว่าเธอเคยผ่านมาแล้ว  และเธออยู่ที่เขตนั้นถึง 5 ปีเลยทีเดียว  และเธอก็ฝึกฝนอยู่ในนั้นตลอดจนพลังของเธออยู่ในระดับสูงและมีทักษะมากมาย  พอออกมาเธอก็เลยสามารถเลื่อนเป็นระดับขั้น  4 ได้อย่างรวดเร็ว  และเป็นขั้น 5 ในที่สุด....

     

    เธอใช้เวลาเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้นจนมาถึงระดับนี้ได้...ในขณะเดียวกันพวกเลบิส  ทีรามิสุ เดอะ เกรท  ที่เป็น 3 จักรพรรดิ์ใช้เวลาตั้งแต่เปิดเกมส์OPEN BETA เลยทีเดียว


    ที่เดียรินี่สามารถเล่นโดยมีองค์ความรู้กับเกมส์นี้มากก็เพราะว่า....เธอเคยเล่นเกมส์นี้ในช่วงCLOSED BETA มาก่อนนั่นเอง  ทำให้ไม่แปลกที่เธอจะเล่นเกมส์นี้ได้อย่างชำนาญในเวลาอันสั้น

     

    และเชื่อว่าอีกไม่นาน  เธอจะขึ้นนำและเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดให้จงได้....

    "โห มีอย่างงี้ด้วย  แสดงว่าพวกที่เข้าไปในเขตนั้นต้องออกมาเทพแน่เลยใช่มะ?"  เหม๋ยหลินถามขึ้น

     

    "ก็อาจจะละนะ  แต่ก็ใช่ว่าเขตพิเศษนี่จะหาเจอได้ง่ายๆหรอกนะ  ไม่งั้นคงมีแต่คนเทพๆเดินกันเกลื่อนแล้วละ  เอาละเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ  รอเบลล์โทรกลับมาละกัน  พวกเราไปกินข้าวเถอะ....ฉันหิวแล้ว"

     

    "เครๆ ขืนฉันไม่ดูแลแม่สาวสวยอันดับ 1 ของเกมส์ให้ดีละก็  เดี๋ยวฉันจะโดนพวกผู้ชายตามฆ่ากันพอดีนี่เนอะ ฮะ ฮะ"

     

    เดียรินี่ที่เห็นพูดนอกเรื่องมานานก็ลากกลับเข้าประเด็นที่จะไปกินข้าวกัน  เหม๋ยหลินเห็นหน้าที่หิวโหยนั่นก็หัวเราะแซวขึ้น  เดียรินี่ก็ทำแก้มป่องงอนก่อนจะโดนเหม๋ยหลินกอดคอลากเธอไป

     

                                                                                                                                 

    ป่าแห่งหมอก (เขตมิติพิเศษ)


    ณ  ปราสาทหินแห่งกองทัพเผ่าบาบาเรี่ยน

     

    ตึง!

     

    "โอ๊ย! เจ้าจะโยนข้าทำไมเนี่ย วางดีๆไม่เป็นรึไง"

     

    เสียงจากหญิงสาวผมบลอนด์ในชุดเกราะอัศวินสีขาวคนหนึ่งดังขึ้น  หลังจากที่เธอโดนชายวัยกลางของเผ่ามนุษย์กินคนผิวดำคนนี้  ที่ขี่อสูรสีดำที่หน้าตาแบบเดียวกับมังกรโคโมโดในโลกจริงเป้ะ  โยนลงมาจากหลังของสัตว์อสูรตัวนั้นเข้ามาในห้องมืดๆห้องหนึ่ง

     

    "ฮูม ฮูม!  (ข้าพามาให้แล้วท่านเทพธิดา)"

     

    ชายวัยกลางคนผิวดำดวงตาสีแดง ที่ตามตัวมีรอยอักขระสีขาว  ใส่ชุดขนสัตว์สีดำหนา  นั่งคุกเข่าลงพร้อมคำรามเหมือนพูดกับใครบางคน  ที่อยู่ในห้องที่มืดและกว้างนี้แบบเดียวกับอาเธอร์และมนุษย์กินคนผู้นี้  ที่จากระบบบอกว่าชื่อ 'โบรอส'

     

    ตึก  ตึก

     

    และสิ้นสุดของเสียงคำรามเบาๆของโบรอสมนุษย์กินคนผู้ขี่อสูร  ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นท่ามกลางห้องมืดๆนี่  และฝีเท้านั้นกำลังใกล้เข้ามาหาหญิงสาวผมบลอนด์กับโบรอสขึ้นเรื่อยๆ

     

    คว้าง!!ฟ้าว!!            

     

    "เอ้ะ!"

     

    แต่ไม่ทันที่อาเธอร์และโบรลอสจะได้เห็นร่างนั้นที่กำลังเดินมา  ก็มีแสงสีแดงสว่างวาบขึ้นแวบนึง  ก่อนจะมีขวานเล่มนึงพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วจนแม้แต่อาเธอร์ยังไม่ทันได้รู้สึกตัว

    ขวานเล่มนั้นก็พุ่งเฉียดแก้มอาเธอร์  และฉิวเฉียดหน้าโบรอสเล็กน้อย  ก่อนจะไปฝังในกำแพงหินของห้องนี้อย่างเสียงดังสั่นหวั่นไว

     

    ฉัวะ!ตึง!!!        

     

    "อึ๊ก!อะไรเนี่ย!"

     

    อาเธอร์มองเลือดที่ไหลออกมาข้างแก้มอย่างตกใจ  เพราะเธอมองไม่ทันเลยว่าขวานเล่มนั้นเฉียดหน้าเธอตอนไหน  และในขณะที่เธอตกใจอยู่นั้นก็มีลิ้นเล็กๆมาเลียแก้มของเธอตรงบาดแผลที่เลือดออกนั่น

     

    แผลบ

    "อ้ะ!"                                    

     

    "เลือดของอัศวินศักดิ์สิทธิงั้นเหรอ....ทำได้ดีนี่นาโบรอส"


    เสียงที่ทรงอำนาจดังขึ้นที่ข้างหน้าใบหน้าของอาเธอร์อย่างกระชั้นชิด  อาเธอร์รีบหันไปมองทันที  ก็เห็นร่างของหญิงสาวผมสีแดงผูกมัดเป็นปมไว้บนหัวและมีอะไรที่เหมือนกับกระดูกแหลมๆ  เสียบที่ปมผมนั่นเพื่อยึดผมไม่ให้ปล่อยออกมา

     

      เธอมีดวงตาสีแดงดุจเลือด  ผิวที่ควรดำกลับขาวสะอาด  ใส่ชุดขนสัตว์สีดำและเกราะสีดำขอบแดงตรงอก  ส่วนหน้าท้องโชว์ไว้   ส่วนล่างใส่อะไรซักอย่างที่คล้ายกระโปรงสีดำ  และใส่รองเท้ายาวที่ท่าทางจะทำจากขนสัตว์เช่นเดียวกัน


    อาวุธที่เธอถือคือขวานคู่สีดำลายแดง  ที่ตอนนี้เธอถืออยู่ในมือเล่มนึง  กับอีกเล่มที่ฝังกำแพงอยู่...

     

    หลังจากอาเธอร์มองลักษณะเธอเสร็จ  ระบบก็ดังขึ้น....

     

    ติ๊ง!

     

    <ผู้ติดตามอาเธอร์  พบ  1 ใน 7 เทพธิดาสงคราม  เทพธิดาแห่งการทำลายล้าง  'เบลลเลี่ยน'  ประเภท : ราชาสปิริตระดับสูง  ระดับ : ขั้น 8 ระดับ 10 ค่ะ >     



    *******************************************************************



    ปล.อืม....ถ้าจะนานแน่ตอน 7 เทพธิดาสงครามคนนี้  ผมสปอยให้หน่อย -3-

    (เดี๋ยวหลังจากจบตอนของ 7 เทพธิดาสงครามคนนี้  ชุนจะได้ทั้งผู้ติดตาม และฝีมือที่เมพขึ้นขิงๆ อิอิ   แต่ยังไม่สุดนะ  ยังมีตอนอื่นๆที่ทำให้เมพขึ้น เมพขึ้นไปอีกกกก555+ )


    ปล.2 ขอคอมเม้นนนนน อ๊ากกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!


    ปล.3 ลิ้งค์เพจติดต่อได้ตลอดครับ

    https://www.facebook.com/The-Lost-Zero-Online-175831109424018/?ref=bookmarks


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×