ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Zero Online : มหาสงครามราชันข้ามฟ้า

    ลำดับตอนที่ #39 : CHAPTER 36 : ฝึกปราณ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.77K
      40
      25 ต.ค. 58

    CHAPTER 36 : ฝึกปราณ

     

    ทวีปเวเซอุส


    ณ  เขตชายป่าโอ้ชิบฮายแระ

    หรืออีกชื่อนึงคือป่าแห่งหมอก

     

    ครืน~


    ณ ที่ชายป่าแห่งหนึ่ง  หญิงสาวคนหนึ่งผมบรอนทองมัดผมหางม้า  ใส่เสื้อกล้ามสีดำ  กางเกงยีน  กำลังหลับตาแล้วกำหมัดแน่นพร้อมกับปลดลมหายใจเข้าหอกเป็นระยะ   ตอนนี้หญิงสาวมีอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นจนเหงื่อเริ่มไหลออกมาเล็กน้อย  ถ้าไม่สังเกตุดีๆก็จะไม่เห็นเลย

     

    ฟุ่บ!

    และพอหญิงสาวลืมตาขึ้น  ก็มีออร่าสีเหลืองปกคลุมที่หมัดของเธอ  ก่อนเธอจะง้างหมัดนั่นชกเข้ากับต้นไม้ต้นนึง

     

    ตึง!โครม!

     

    "ว้าว~!!!"

    เสียงชายหนุ่มคนนึงอุทานขึ้น  เมื่อเห็นภรรยาสาวอัศวินของตัวเองชกเข้าไปที่ต้นไม้ขนาดกลางนั่นอย่างเสียงดัง  ก่อนจะเห็นผลลัพธ์ว่าลำต้นของต้นไม้นั่นปริแตกแล้วก็หักโค่นลงมา

     

    "จิ๊บ!  แง้วๆโฮ่งๆ!"

     

    พอต้นไม้ล้มลงมาเท่านั้น  เหล่าสรรพสัตว์มอนเตอร์ตัวเล็กๆที่เชื่องกับมนุษย์ที่นั่งดู และยืนดูหญิงสาวผมบรอนว่าเธอคิดจะทำอะไร  ข้างๆชายหนุ่มผมดำ  ก็พากันร้องแตกตื่นวิ่งกระจัดกระจายออกไป  เมื่อเห็นพลังรุนแรงนั่น

     

    "สุดยอดเลยอาเธอร์  คุณทำได้ไงเนี่ยไม่มีดาบแท้ๆ"

    ชายผู้เป็นสามีของหญิงสาวผมบรอนอุทานถามขึ้นอย่างประหลาดใจ  พร้อมกับสนใจอย่างมาก

     

    " มันคือการถ่ายเทพลังปราณในตัวเร่งออกมาจากร่างกาย  แล้วก็ส่งมาที่หมัดน่ะ    แต่ข้าว่ามันยังไม่ดีเท่าที่ควรเท่าไร  เพราะข้าถนัดถ่ายเทปราณมายังสิ่งของที่ใช้เป็นอาวุธมากกว่า"

     

    ภรรยาอัศวินสาวพอเห็นสีหน้าชายหนุ่มผู้เป็นสามี  ที่ทำหน้าตกอกตกใจแบบไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน  ก็ปลงตกพร้อมส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ  พลางคิดว่าที่เขารอดมาได้ถึงทุกวันนี้  คงเป็นเพราะดวงแสนโชคดีที่เขาได้ชุดอุปกรณ์ระดับสูงมานั่นแหละ

     

    "โห~ ถ่ายพลังนี่ลงอาวุธได้ด้วยเหรอ  แล้วไหนว่ามันเป็นพลังที่เกิดจากร่างกายไงละ  แล้วทำไมมันถึงถ่ายเทลงในอาวุธได้?"

      ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผู้เป็นสามีถามขึ้นอย่างสงสัย....

     

    " ก็จริงอยู่ที่ว่าพลังปราณเป็นสิ่งที่เกิดจากพลังในร่างกายของตนเอง  แต่ว่าสิ่งแวดล้อมเองก็จัดเป็นพาชนะชนิดหนึ่งในการกำเนิดพลังปราณเช่นเดียวกัน  จึงเรียกปราณที่ไม่ได้เกิดจากตัวเราว่า  'ปราณธรรมชาติ"

     

    อาเธอร์ภรรยาอัศวินสาวอธิบายต่อ  เพื่อจะบอกเขาว่าปราณไม่ได้มีแค่ที่มนุษย์เท่านั้น  เพราะปราณที่เกิดจากร่างกาย  และธรรมชาติเองก็จัดเป็นร่างกายชนิดหนึ่งของปราณเช่นเดียวกัน

     

    " คุณจะบอกว่าเราสามารถถ่ายเทปราณของเรา   ไปสู่ปราณของธรรมชาติที่อยู่ในสิ่งของได้อย่างงั้นเหรอ?

    (***สิ่งของจัดเป็นธรรมชาติที่มนุษย์สร้างขึ้น  เพราะวัตถุดิบในการสร้างสิ่งของก็มาจากธรรมชาติ***)

     

    "ใช่"

    อาเธอร์พอเห็นชุน ผู้เป็นสามีเข้าใจแล้ววิเคราะห์อะไรได้รวดเร็วดี  ก็ยิ้มอย่างพอใจ  แล้วคิดว่าการสอนเขาให้เรียนรู้ต่อไปนี้คงจะไม่ยากจนเกินไปแล้ว  เพราะดูท่าทางถ้าเขาได้เรียนรู้ก็คงจดจำสิ่งนั้นได้อย่างแน่นอน

     

    " แล้วปราณธรรมชาติละ?  เราสามารถเอาปราณธรรมชาติเข้ามาสู่ตัวเราได้หรือเปล่า?"

     

      ชุนถามอาเธอร์ภรรยาสาวที่ยังไม่เสร็จเขาใน 4 ภรรยาทั้งหมดขึ้น(โยงมาเรื่องนี้ได้เนอะ-0-)   เมื่อฟังจากคำว่าการถ่ายเท  มันก็แปลว่าสามารถเกิดปฏิกิริยาผันกลับได้  สิ่งที่ชุนจะสื่อก็คือปราณทั้งสองสามารถแปรผกผันกันได้

     

    "เห~  เจ้านี่มีภูมิในการตั้งคำถามที่น่าสนใจมากเลยนะรู้ตัวหรือเปล่า"

     

    อาเธอร์พอได้ยินคำถามแบบนั้น  ก็มองชุนอย่างชื่นชม   เพราะไม่คิดว่านอกจากเขาสามารถวิเคราะห์พลังงานทั้งสองได้แล้ว  ยังสามารถตั้งสมมติฐานที่ถูกต้องขึ้นมาได้อีก

     

    "แหม...ก็ผมสามีคุณนี่ครับ  ต้องเก่งเป็นธรรมดา ฮะ ฮะ"

    "เกี่ยวเหรอ-*-"

    อาเธอร์พอได้ยินคำอ้างตัวเป็นสามีของเขาอีกแล้วแบบหน้าไม่อาย(ก็เขาพูดจริงนิก็หน้าแดงเล็กน้อยก่อนจะพูดขัดเขา  เพราะไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกันเลย

     

    " ก็อย่างที่เจ้าบอก  เราสามารถเอาพลังปราณจากธรรมชาติได้เช่นกัน  แต่การจะทำอย่างงั้นได้ก็ต้องพึ่งพลังจิตสูงพอสมควร  และข้าเองก็ไม่เก่งด้านพลังจิต  เจ้าคงต้องให้ออโรร่าสอนละ  เพราะเท่าที่ดูพลังจิตกับเวทย์ของเธอสูงกว่าข้ามากนัก"

    อาเธอร์กอดอกพูดขึ้น  เมื่อนึกไปถึงตอนที่เห็นออโรร่าสู้กับออโทรอสที่บนฟ้าในตอนนั้น   ที่เธอกำลังวิ่งมาช่วย

    " แสดงว่าคุณอ่อนด้านนี้งั้นเหรอ ไอ้พลังจิตเนี่ย?"  ชุนถามขึ้น

     

    "ใช่ ! ข้าว่าเจ้าควรเลิกถามอะไรข้าได้และ  เอาละได้เวลาภาคปฏิบัติแล้วเจ้าลูกศิษย์!  ขั้นแรกที่พื้นฐานข้าบอก  เกร็งที่หน้าท้องไว้แล้วขับเดินพลังปราณจากท้องนั่นไล่ขึ้นมาไปที่ร่างกายส่วนที่เจ้าต้องการ!"

     อาเธอเดินไปที่ต้นไม้ต้นนึงพร้อมกอดอกที่อึ๋มของเธอก่อนจะตะโกนขึ้น  พลางส่งสายตาไปที่ต้นไม้นั่นสองที  เพื่อบอกว่าลองดูดิว่าสามารถทำได้แบบเธอหรือเปล่า

     

    "อ้ะ! ผมว่าไม่ใช่นะแบบนี้!"

    จู่ๆชุนที่กำลังจะถามก็แย้งขึ้นมา  ทำให้อาเธอร์เลิกคิ้วว่าเธอพูดอะไรผิด 

     

    "ผิดตรงไหน...ก็นี่ที่ข้าสอนเจ้าตอนแรกไง"  อาเธอร์เลิกคิ้วถาม

     

    "ผิดสิ! ผมไม่ใช่ลูกศิษย์ผมเป็นสามีคุณตังหากก  มาเรียกแบบนี้ได้ไงเล่าผมรับไม่ได้!!!"      

     

    "โอ๊ย!!!  เจ้าจะเอาอะไรนักหนากับไอ้คำว่าสามีนี่ฮะ!....เอ่อ..เฮ้อก็ได้  คุณสามีค่ะได้โปรดลองทดสอบสิ่งที่ภรรยาอย่างดิฉันสอนคุณไปหน่อยเถอะนะคะ"

     

    อาเธอร์ที่แทบจะปรี๊ดแตกเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ชุนหมายถึงอะไร  แต่พอเจอสายตาลูกหมาขี้อ้อนของเขาที่เหมือนทำท่าจะร้องไห้  ก็ตบหน้าผากตัวเองหนึ่งที  ก่อนจะกัดฟันพูดตามใจเขา

     (รู้สึกเห็นใจอาเธอร์...ซีลาร์  อาลีเซีย เดเบียล่ารีบคืนชีพมาอยู่เป็นเพื่อนอาเธอร์เร็ววววว!!  ผมกลัวเส้นเลือดตรงขมับของอาเธอร์ปริแตกซะก่อน  By:ไรต์)

    เพื่อให้เขาทำตามการฝึกสอนของเธอแต่โดยดี   เพราะถ้ามัวแต่ขัดใจเขาชาตินี้ชุนสามีของเธอผู้นี้  คงไม่ไปถึงไหนและมัวแต่พึ่งแต่อุปกรณ์พวกนี้ไปจนตาย 

     

    "ครับคุณภรรยาสุดสวยของผม^^ "

     

    ชุนยิ้มอย่างพอใจ  ในขณะที่อาเธอร์ที่ยืนข้างต้นไม้นั้น  พร้อมกับมอนเตอร์ตัวเล็กๆจากพื้นที่ราบลุ่มแถวนี้มายืนมองชุนอย่างสนใจ  บางตัวก็เกาะหัวอาเธอร์อยู่    อาเธอร์ยิ้มให้ชุนเหมือนฝืนยิ้มก่อนจะจับสัตว์มอนเตอร์ตัวเล็กๆน่ารักพวกนั้นให้หลบไปจากต้นไม้ต้นที่ชุนกำลังจะลงมือ

     

    "เกร็งหน้าท้อง  ขับเคลื่อนพลังปราณจากท้องไล่ไปที่ร่างกายส่วนที่จะใช้พลังปราณ"

     

    ชุนพูดขึ้นพร้อมหลับตานึกภาพถึงพลังความร้อนแฝงในตัวตรงช่วงท้อง  พร้อมทำมือยกขึ้นเหมือนเป็นการขับเคลื่อนปราณนั่น  ก่อนจะขับเคลื่อนปราณนั้นเลื่อนไปที่ปลายหมัดข้างขวาที่กำลังกำแน่น

    อาเธอร์ก็เห็นว่าชายหนุ่มเข้าใจได้รวดเร็วดี  เพราะพลังออร่าสีส้มเอ่อออกมาที่มือข้างขวาอ่อนๆ

     

    "เอาละนะ...ย้า!!!"

     

    ตึง!โครม!!โครม!!

     

    "ว้าว!!เป็นไงละที่รักผมทำได้-3-"

     

    "......."

    อาเธอร์มองด้วยตาที่เบิกโพลง  เธอจำได้ว่าพลังปราณที่ออกมาจากมือของชายหนุ่มมันอ่อนมาก  แล้วทำไมมันถึงสามารถชกได้รุนแรงจนต้นไม้หักโค่นถึง2ต้นในแนวเดียวกันเลยทีเดียวเลยละ

    ก่อนไม่ทันคิดอะไรเสียงระบบก็ดังขึ้น..

     

    ติ๊ง!

     

    <ผู้เล่นชุน  ขับเคลื่อนลมปราณสำเร็จ  เลื่อนขั้นลมปราณจากระดับ 0>1  ค่ะ  

    ***หมายเหตุ  พลังปราณสามารถเพิ่มค่าสถานะได้ตามระดับพลังปราณที่ใช้  สามารถเพิ่มแค่ค่าสถานะของพลังกายเท่านั้นค่ะ>

     

    "เย้! ได้พลังปราณแล้วจริงด้วย!"

    ชุนก็ร้องดีใจ  พลางทำหน้าเก๊กหล่อใส่อาเธอร์ที่กำลังงุนงง   ก่อนจะมองดูชายหนุ่มอีกทีแล้วก็เห็นว่ามีหน้ากากซอลโลขึ้นมาแวบนึง  ทำให้อาเธอร์นึกขึ้นได้ว่า  หน้ากากซอลโลนี่ก็จัดเป็นเหมือนชุดของอาชีพที่บวกค่าสเตตัสมหาศาลให้แก่คนที่สวมใส่  และต้องเป็นเจ้าของเท่านั้น  รวมถึงผ้าคลุมซอลโลด้านหลังเขาด้วย

     

    เพราะชุดอาชีพของชุน  ที่เพิ่มค่าสเตตัสอย่างมากในความสามารถของชุดของระดับ ทำให้ไปแปลกเลยที่ชุนพอใช้พลังปราณแค่น้อยนิดนั่นก็สามารถมีพลังทำลายขนาดนั้นได้  แต่มันก็ทำให้ระดับพลังปราณที่ขึ้นมีน้อย   เพราะเขาพึ่งพาพลังจากชุดมากเกินไป

     

    "ชุน....พลังที่เจ้าใช้ในการทำลายต้นไม้สองต้นนี้นะ  98.99%  มาจากพลังกายของเจ้าล้วนจากชุดของเจ้า  พลังจากปราณเพียงแค่ 1.01%  เท่านั้นเอง"   อาเธอร์กล่าวออกมาด้วยเสียงเรียบๆ

     

    "เอ๋!จริงอะ  ผมนึกว่าเพราะพลังปราณซะอีก...เอ ถ้ามีค่าสเตตัสขนาดนี้ผมคิดว่าเราคงไม่จำเป็นต้องพึ่งพลังปราณหรอกมั้ง  ไปหาของๆดีๆใส่อย่างเดิมจะคุ้มกว่ามั้งครับ  ฮะ ฮะ!"

     

    ชุนเองที่เป็นพวกไม่ชอบการฝึกฝนเท่าไรก็พูดขึ้นมา  ด้วยท่าทางที่ดีใจ  เพราะถ้าเป็นอย่างที่เข้าใจการหาของดีๆมาใส่ก็ดูท่าจะคุ้มกว่าการฝึกที่เพิ่มพลังปราณเล็กน้อยเพื่อเพิ่มค่าสเตตัสเล็กน้อยซะอีก

      เพราะอย่างเกมThe Blond Bullet  เขาแค่หาของดีๆมาใส่ตัวเท่านั้น  บวกกับฝีมือการยิงปืนที่มาจากพรสวรรค์อยู่แล้วก็ทำให้เก่งจนเป็นตำนานอย่างที่เห็น

     

    "ถ้าเจ้าคิดอย่างงั้น....เจ้าก็ไม่มีทางชนะ คนที่ฆ่าพวกซีลาร์ได้หรอก..."

     

    อาเธอร์กล่าวออกมาเรียบๆ  ด้วยสีหน้าที่จริงจัง  เพราะเธอไม่ค่อยชอบที่ชายหนุ่มคนนี้อยากแข็งแกร่งด้วยหนทางแบบนั้น  การคิดแบบนี้ก็ไม่ต่างกับพวกมักง่ายคนหนึ่ง....

     

    ที่อยากได้อะไรมาด้วยวีธีง่ายๆเท่านั้น  ซึ่งวิธีแบบนี้ส่วนมากก็มาจากพวกโจรทำกันเท่านั้น  ...อย่างขโมยของดีๆคนอื่นมาสวมใส่  แต่ว่าการได้มาอะไรง่ายๆด้วยการแค่สวมอุปกรณ์ก็เก่งขึ้นนั้น  มันก็มีอุปสรรคร้ายแรงเช่นเดียวกัน

     

    นั่นก็คือ....ลองคิดว่าถ้าคุณไม่มีอุปกรณ์เหล่านั้นขึ้นมาละ...

     

    คุณจะไม่กลับกลายเป็นคนที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยเชียวนะ  ถ้าไม่มีอุปกรณ์เหล่านั้น....

     

    ผิดกับการฝึกฝน  ถึงแม้จะเสียเวลาซะหน่อย   แต่พลังนั้นก็อยู่กับเราตลอดไม่สามารถแยกออกหรือขโมยมาได้

      (ยกเว้นทักษะระดับสูงบางทักษะ  ที่สามารถลบล้างไม่ให้ใช้พลังพวกนี้ได้)

     

      และถึงตายไปก็ลดแค่ระดับและค่าสถานะ  ไม่ได้ลดพลังปราณที่ช่วยเพิ่มค่าสถานะ  ทำให้พลังพวกปราณ  เวทย์ จิต  เป็นส่วนสำคัญของระบบเกมส์นี้ในการแข็งแกร่งขึ้นเลยทีเดียว

     

    "............"

     

    ชุนฟังดังนั้นก็เงียบไป  และพอได้ยินเสียงในใจของอาเธอร์ (ให้คิดว่าที่อธิบายบรรยายนั่นคือ สิ่งที่อาเธอร์คิดนะครับ)

     ที่เหมือนกับการอธิบายรายละเอียดของคำว่าพลังปราณ จิต เวทย์พวกนั้นก็ทำให้ชุนเริ่มรู้ว่าตัวเองคิดผิดที่จะอยากแข็งแกร่งด้วยวีธีง่ายๆแบบนั้น  แถมยังมีข้อเสียแบบนั้นด้วย

     

    "ขะ...เข้าใจแล้วครับ  ผมจะฝึกฝนต่อแบบที่อาเธอร์ต้องการแล้วกัน  แล้วผมจะทำยังไงให้ปราณขึ้นมาได้รวดเร็วได้ละ  เพราะจากที่คุณบอกชุดซอลโลทำให้การฝึกยากขึ้นสินะ"

     

    "....ใช่  งั้นเจ้าก็ถอดชุดพวกนั้นออกให้หมดมันจะทำให้การฝึกปราณง่ายขึ้น  เพราะพึ่งแต่ค่าพลังดั้งเดิมของเจ้าในระดับขั้น 1 ระดับ 100 อ้ะ!นั่นและก็...เหลือแต่ท่อนล่างละอย่าถอด ไม่งั้นข้าตบเจ้าแน่..." 

     

    อาเธอร์ยิ้มขึ้นเมื่อเห็นชายผู้เป็นสามีคนนี้เข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อ  และดุท่าทางการกำจัดล้างแค้นคนที่ฆ่าพวกซีลาร์   จะเป็นตัวกระตุ้นชายที่เป็นสามีของเธอคนนี้ได้ดีเลยทีเดียว

     

    "ครับๆ "

    ตุบ เกร้ง!

     

    "เอาละ เจ้าฝึกเดินลมปราณให้ทั่วทุกจุดนะ  และใช้มันทำลายต้นไม้รอบข้างให้ได้....อืม...ทำไปเรื่อยๆจนโค่นต้นไม่ได้ถึง 30 ต้นแล้วกันนะ  เดี๋ยวข้าขอตัวไปล่าสัตว์ก่อนละกันจะได้มีข้าวเย็นกินกัน"

     

    อาเธอร์ยิ้มหวานๆให้ครั้งแรก  ที่เธอยิ้มเพราะเธอกำลังจะได้โชว์ฝีมือการทำอาหารที่เธอไปแอบฝึกมาตามที่ชุนเคยสอน  และคิดว่าพอไปล่าสตัว์กลับมาจะทำปรุงอาหารตามเมนูฉบับของเธอ  ให้ชุนได้ชิมและจะให้เขาพูดยอมรับว่าระดับเก่งกว่าเขาให้ได้เลย

     

    "ครับผม...ย้า!!ขับลมปราณ!!"

    ว่าจบอาเธอร์ก็เดินออกเข้าไปในป่า....

     

    'แต่ก่อนล่าสัตว์....ต้องกำจัดพวกเกะกะซักหน่อยและ'

     

    อาเธอร์คิดในใจโดยไม่ให้ชุนได้ยิน  เพราะก่อนที่เธอจะไปล่าสัตว์แล้วนำกลับมาทำอาหารให้ชายหนุ่ม  เธอต้องกำจัดกลุ่มคนที่แอบตามพวกเธอมาซะหน่อย  อาเธอร์คิดดังนั้นก่อนจะเดินลึกเข้าไป 

     

    พลางเหลือบตากลุ่มคนชุดดำที่ใส่หน้ากาคนแก่ที่แอบตามเธอมา  โดยซ่อนอยู่ในเงามืดของพุ่มไม้  เธอจงใจเดินล่อพวกนี้ออกมาให้ห่างจากการฝึกของชุน  แถมตอนที่เธอซ้อมก็ได้สร้างบาเรียปิดกั้นไม่ให้พวกมันได้ยินบทสนทนาของเธอกับชุนแล้ว  เพราะเธอกลัวว่าพวกมันจะรู้ว่าชุนไม่ได้เก่งอย่างที่คิด

     

    อาเธอร์เดาเอาว่าพวกนี้น่าจะมาจัดการชุน  เหมือนพวกกลุ่มคนในร้านอาหารนั่น  แต่ดูมืออาชีพมากกว่าเท่านั้นเอง  และสาเหตุที่มันยังไม่ลงมือตั้งนาน  เพราะน่าจะมาจากสาเหตุนั่น...

    .....ก็คือบอร์ดข่าวสารที่บอกว่าชุนกำจัดออโทรอส  ที่เป็นบอสอสูรการระดับขั้น 4 ได้  ทำให้พวกมันคงยังไม่กล้าลงมือกับชุนตอนนี้  แล้วคิดว่าชุนต้องเก่งกว่าตัวเธอเป็นแน่....จึงหาทางกำจัดพวกเธอตอนแยกเดี่ยว 

     

    แต่หารู้ไม่.....

     

    ว่าพวกมันเข้าใจผิด...เพราะอาเธอร์เก่งกว่าชายหนุ่มคนนั้น

     

      ดังนั้นอาเธอร์จึงจงใจเดินล่อออกมา

     

    เพื่อเก็บพวกมัน.........

     

    ฟุบ!ฟุบ!ๆๆๆๆๆๆๆ

    พออาเธอร์เดินออกมาซักพัก  กลุ่มชายชุดดำสวมหน้ากากคนแก่ก็โผล่ขึ้นมาจำนวนมากพอสมควร...

     

    "หึ หึ  เดินออกมาคนเดียวแบบนี้ก็ตายเดี่ยวซี่ยัยผมบรอน"

    ยิงสาวผมขาวเดินออกมาใจกลางวงชายชุดดำ  พร้อมพูดขึ้นแล้วสะบัดแส้เหล็กไปมาอย่างเตรียมพร้อม...

     

    "ข้าว่า...คงไม่มีการตายเดี่ยวหรอก"  อาเธอร์พูดออกมาน้ำเสียงเรียบๆ  โดยไม่หวาดวิตกต่อสถานการณ์ตรงหน้าแม้แต่น้อย

    "แกหมายความว่าไง"

    หญิงสาวผมขาวถามกลับ  แต่สายตายังแฝงด้วยความที่บ่งบอกว่าตัวเองกำลังมีชัยที่เหนือกว่า

     

    "เพราะจะมีการตายหมู่แทนมากกว่าไงละ"

    อาเธอร์ยิ้มเล็กๆที่มุมปาก  พวกกลุ่มหญิงสาวผมขาวก็แทบเส้นเลือดขึ้นขมับ  ก่อนหญิงสาวผมขาวจะเหลืออด

     

    "ฆ่ายัยนี่ให้ตายซะ  เอาให้ไม่กล้าพูดแบบนั้นออกมาอีกเลย!!"

    "รับทราบครับ!!"

     

    ฟ้าว ฟ้าว!!

     

    ร่างชายชุดดำจำนวนมากก็ทะยานเข้ามาทันที...


     

    "เฮ้อ...ข้าจะรีบกลับไปทำข้าวเย็นให้สามีนะ  อย่ามาขัดศรีภรรยาที่ดีแบบข้าสิ หึ หึ" 


     อาเธอร์ส่ายหน้าอย่างหน่ายๆก่อนจะคลี่ยิ้มพูดแบบนั้นออกมา  ดูท่าเธอจะติดใจในการเรียกชุนเป็นสามีเข้าซะแล้ว



     

    ตึง ตึง ตึง!โครม!

     

    ติ๊ง!


    <ผู้เล่นชุน และ เบลล์ ขับเคลื่อนลมปราณสำเร็จ  เลื่อนเป็นระดับ 5>8 ค่ะ>


     

    "แฮ่ก...แฮ่ก...ต้นที่3ซักที่  ทำไมพอถอดชุดแล้วมันพังยากอย่างงี้ฟะ!"

     

    ชุนในร่างเปลือยท่อนบนโชว์มัดกล้ามที่แข็งแรงบ่นขึ้นอย่างเหนื่อยล้า  เมื่อเห็นว่ากว่าเขาจะใช้ปราณแล้วต่อยต้นไม้แต่ละต้นให้ล้มลงมาได้  ต้องลงหมัดไปกว่าร้อยหมัดเลยทีเดียว

     

    "แต่ยังดีที่ระดับพลังปราณขึ้นเร็วแฮะ  ทีละ 3 4 ระดับต่อหนึ่งต้นแน่ะ  ขึ้นเร็วกว่าตอนใส่ชุดซอลโลอีก"

     

      ชุนยิ้มอย่างราวกับว่าที่ทำมานั้นไม่เสียแรงเปล่า  เพราะปราณที่อยู่ในตัวเขาเริ่มขับเคลื่อนได้ง่ายขึ้น  และกระแสของพลังปราณที่ไหลเวียนมาก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ  

    และก็เห็นพัฒนาการที่ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด  ต้นที่2นั้นเขาจำได้ว่าต่อยไปประมาณร้อยกว่าหมัดกว่าจะโค่นต้นไม้นี่ได้  แต่ต้นที่สามใช้เพียงไม่ถึงร้อยหมัด  ประมาณเก้าสิบกว่าหมัดก็โค่นได้แล้ว

     

    คงเป็นเพราะระดับพลังปราณที่เพิ่มมากขึ้นนั่นแหละนะ....

     

    จิ๊บๆ  แง้วๆ โฮ่งๆ!

     

    เหล่าสัตว์มอนเตอร์ตัวจิ๋วต่างๆที่ยังคงมองดูเขาอยู่ใกล้ๆ  ก็ส่งเสียงดีใจเมื่อเห็นเขาทำสำเร็จ   เพราะเจ้าพกนี้นั่งดูลุ้นมาตั้งนานด้วยความตื่นเต้น  เพราะกว่าชุนจะสามารถโค่นแต่ละต้นได้  เขาต้องต่อยจนมือมีเลือดออกเลยทีเดียว

     

    " หึ หึ เป็นไงพวกแก  เดี๋ยวคอยดูนะไม่นานฉันจะทำให้ถึง 20 ต้นก่อนที่ภรรยาของฉันจะมาเลยละ  มา!เหลืออีก 17 ต้น ขับเคลื่อนลมปราณ  ถ่ายเทไปยังหมัด ย่าห์!!!"

     

    ชุนหันไปบอกพวกมอนเตอร์ตัวเล็กๆพวกนั้นก่อนจะโม้ขึ้น  แล้วขับเคลื่อนปราณตัวเองไปที่หมัดต่อ  แล้วต่อยใส่ต้นไม้อย่างไม่ยั้ง  ขับเคลื่อนปราณ  ถ่ายไปยังหมัด  ต่อยต้นไม้

    ชุนทำวนไปวนมาอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ  จนบางครั้งมือแตก  เขาก็กินยาฟื้นฟูแล้วก็ต่อยต่อ...

     

    ในขณะเดียวกันห่างออกไปไม่ไกลมาก  ได้มีการต่อสู้ขึ้นโดยเป็นแบบคนกลุ่มร้อยคนรุมคนคนเดียว  แต่กลับกลายเป็นว่าฝั่งคนคนเดียวเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า...

     

    ฉัวะ!ฉูดด!!

    "อ๊าก!!"


    เสียงชายชุดดำที่ใส่หน้ากาคนแก่สีเขียวคนนึงดังขึ้น  เมื่อโดนดาบขาวบริสุทธิ์ฟังผ่ากลางที่หน้าอก  แล้วเข้าไปตัดเส้นเลือดใหญ่อย่างแม่นยำ  จนเลือดพุ่งกระฉูดออกมา

     

    "หนอยยัยนี่!"

     

    ชายชุดดำอีกสองคนพุ่งทะยานเข้ามาจากทั้งสองด้าน  พร้อมกับง้างมีดขึ้นมาคนละสองเล่ม  เมื่อกะปาดคอหญิงสาวผมบรอนทองหน้าสวยคมคนนี้

     

    "ฮึ"

    หญิงสาวผมบรอนทองทำหน้าแบบไม่ยี่ระ   ก่อนจะเรียกโล่ห์ของตัวเองขึ้นมา  พร้อมกับเอาโล่สีขาวขอบทองนั่นกระแทกเข้ากับชายชุดดำฝั่งซ้าย  และเอาแขนอีกข้างที่ถือดาบรับมีดของชายชุดดำฝั่งขวา


    ปึง!

    "อั๊ก!"

     

    เกร้ง!

    ผัวะ!อั๊ก!


    แล้วหญิงสาวผมบรอนก็เอาเท้าที่ว่างของเธอ  ถีบเข้าที่ท้องของชายุดดำที่รับดาบเธอจนปลิวไป  เพราะเท้าของเธออัดพลังปราณไว้ด้วย  

     

    "รุมยัยนั่นซี่!"


    หญิงสาวผมขาวสั่งขึ้น  จากนั้นชายชุดดำหลายสิบคนก็ทะยานเข้ามาพร้อมมีดคนละสองเล่ม   หญิงสาวผมบรอนหรืออาเธอร์นั้นพอเห็นดังนั้น  ก็เรียกทักษะตัวเองขึ้นมา


    "ทักษะแสงศักดิ์สิทธิ!"

    แว้บ!!

     

    "อ้ะ!อะไรกัน  รู้สึกเหมือนพลังหายฮวบฮาบเลย!


    ชายชุดดำหน้ากาคนแก่สีแดง  ที่รู้สึกตัวก่อนเพื่อนพูดขึ้น  เมื่อพลังค่าสเตตัสต่างๆของตน  ที่พอร่างกายของตนถูกแสงสี้หลืองนั่นส่องก็กลายเป็นว่าค่าสเตตัสเหล่านั้น  หายไปถึง 30% เลยทีเดียว

     

    "อย่าไปกลัวเรียกทักษะพวกแกรุมยัยนั่นเลย!"

    หญิงขาวผมขาวสั่ง  ก่อนจะทะยานเข้าไปช่วยรุมด้วย

     

    "ทักษะวิชาตัวเบา!"


    พวกชายชุดดำตะโกนเรียกขึ้น  จากนั้นพวกมันทั้งหมดก็ดูวาองไวขึ้นผิดกับตอนแรก   พวกมันวิ่งซิกแซกไปมา  ปีนต้นไม้ทะยานสลับกันอย่างรวดเร็ว  จนอาเธอร์เองก็รู้สึกคิดว่ามันคงไม่ง่ายแล้ว

     

    "แส้อสรพิษ!"


    หญิงสาวที่ทะยานมาพูดขึ้น  แล้วก็ฟาดแส้เหล็กสีดำใส่อาเธอร์ทันที  การเคลื่อนไหวของแส้ก็ราวกับมีชีวิต   อาเธอร์เห็นว่าแส้นี่ต้องมีพิษด้วยแน่ๆจึงทะยานหลบถอยหลังมา   แต่ช่วงโอกาสที่เธอสนใจแส้นั่น

    ก็โดนพวกชายชุดดำลอบเล่นงานทันที....

     

    ฉัวะ!

    "อึ้ก!บังอาจลอบกัดข้างั้นเรอะ!  ทักษะคลื่นดาบศักดิ์สิทธิ์!!!!"

     

    "เฮ้ยย!!พวกเราหลบเร็ว!"


    คว้าง!!

     

    ชายชุดดำที่ดีใจ  ที่สามารถฟันตะหลบหลังอาเธอร์จนสร้างบาดแผลได้  ก็ต้องตกใจ  เมื่อเห็นอาเธอร์เหวี่ยงตัวดาบมาทางเขาและก่อให้เกิดคลื่นคมดาบสีทองตามรอยเหวี่ยงนั่น  คลื่นดาบพุ่งดาบมาอย่างรวดเร็วมาทางมัน  และทิศทางนี้ก็มีพวกมันอีกหลายสิบคนอยู่ด้านหลังอีกด้วย

     

    ตูม!!ฉัวะ!!ตูม!!     


    "อ๊ากกก!!!"

     

    ฟิ๊ง...ฟิ๊ง...

     

    คลื่นดาบของอาเธอร์เข้าไปผ่าร่างของพวกชายชุดดำในทิศทางนั้นนับไม่ถ้วน  พร้อมฟันต้นไม้บริเวณนั้นไปจำนวนมาก  ก่อนจะระเบิดขึ้นตามมาเมื่อถึงระยะของมัน

    ร่างของผู้เล่นชายชุดดำจำนวนมากก็สลายหายไป  เพราะสิ้นชีพในที่สุด....        

     

    "อะไรกันเนี่ย! อ้ะ!"

     

    หญิงสาวผมขาวตกใจมาก  เมื่อเห็นลูกน้องของตนตายเป็นจำนวนมาก  ทั้งๆที่พวกเขาคือนักฆ่ามืออาชีพจากกิลสโมสรนักฆ่า ชื่อดังจากฝ่ายปฏิวัติเชียวนะ  

    แต่ในขณะที่เธอมัวอึ้งอยู่นั้น  เหล่าชายชุดดำสโมสรนักฆ่าก็โกรธที่พวกตนโดนฆ่าเป็นผักปลา   พวกเขาเอาพิษทาที่ปลายมีดก่อนจะพุ่งทะยานโรมรันเพื่อหวังว่าถึงฆ่าหญิงสาวผมบรอนให้ตายด้วยคมดาบไม่ได้  ก็ต้องตายเพราะติดพิษให้ได้

     

    "ฮึ พวกที่ไม่รู้จักความต่างชั้น เข้ามา!!"

    อาเธอร์พอเห็นพวกมันไม่คิดจะหนี  แถมยังทะยานมาหาอีกก็ทะยานไปหาทันที


    เช้ง เช้ง!ฉัวะ!ฉูด!

     

    อาเธอร์รับคมมีดจำนวนมากของมันจากทั้งด้านหน้า  ด้านข้าง  ด้านบน  ด้านหลังได้อย่างสบายจนน่าเหลือเชื่อ  แถมยังฟันโดนพวกมันจนสร้างบาดแผลสาหัสไปหลายคน

     

    ปึง!ตึง!!โครม!


    "อ๊ก!"

     

    อาเธอร์บ้างก็เอาโล่ห์กระแทกจนพวกมันที่ยืนรุมกันเป็นกลุ่มหงายล้มไปทันที  และอาเธอร์ก็ใช้จังหวะนี้  ใช้ทักษธคลื่นดาบอีกครั้งทันที

     

    คว้าง!!

     

    "ว๊ากไม่!!!"


    ตูมม!!!

     

    พวกมันที่ล้มลงจากโล่ห์ที่กระแทกของอาเธอร์ในตอนแรก  ลุกขึ้นตั้งหลักหนีไม่ทัน  ก็โดนคลื่นดาบไปเต็มๆ  จนตายหายกลายเป็นแสงไปอีก   จนจำนวนชายชุดดำในตอนนี้เหลือไม่ถึงครึ่งแล้ว...

    แต่ในขณะที่อาเธอร์คิดว่าตัวเองยังไงก็ต้องชนะใสๆ  เมื่อเห็นชายชุดดำหน้ากาคนแก่สีเขียวเหลือเพียงแค่ 11 คน ชายชุดดำหน้ากาคนแก่สีแดง 1 คน....

     

    "เอ๋....แล้วยัยผู้หญิงผมขาว...อ้ะ!"


    เกร๊ง!ฉัวะ!

     

    "อึ้ก!"


    อาเธอร์ที่กำลังมองหาหญิงสาวผมขาวที่คาดว่าน่าจะเป็นตัวหัวหน้าอยู่นั้น  พอพูดถึงเธอก็มาทันที   แต่ที่อาเธอร์ตกใจเพราะเธอมาอยู่ใกล้ตัวมากแบบเธอไม่รู้ได้ไง  ก่อนจะเห็นว่าเพราะเธอใช้ทักษะล่องหนนั่นเอง

    ยัยผู้หญิงผมขาวฟาดแส้เหล็กมาทางเธอ  ในระยะประชิด  อาเธอร์ก็ป้องปัดอย่างรวดเร็ว  แต่แส้นั่นก็ราวกับมีชีวิตมันเลื้อยเอี้ยวมาเฉียดไหล่ของเธอจนเลือดออก

     

    อาเธอร์ก็รีบทะยานถอยหลังหลบไปทันที.....

     

    "ชิ!ลอบกัดกันจังนะ....แถมเล่นพิษอีก"


    อาเธอร์พูดแบบกลืนน้ำลาย  ก่อนจะมองไปยังแผลของตัวเองที่ไม่สามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิรักษาได้  เพราะพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอไม่ยอมทำงาน

     

    "แกใช้พิษอะไรทำไมข้าถึงใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้!"   อาเธอร์ถามอย่างฉุนเฉียว

     

    "สมน้ำหน้ายัยหน้าโง่  แกโดนพิษระดับสูงของฉันไปน่ะสิ  มันเป็นพษที่นอกจากจะทำให้ถึงตายแล้ว  ก็ยังสามารถระงับพลังวิเศษในตัวของผู้ถูกพิษได้ด้วย  เพื่อกันรักษา ที่นี้เจ้าก็หมดฤทธิ์แล้วยัยโง่ !!"


    หญิงสาวผมขาวบอกคำตอบที่อาเธอร์ต้องการอย่างสะใจ....

     

    "เอ้า!พวกแกรอไรรุมฆ่ายัยนี่เลย  ไม่มีพลังพิเศษก็จบละทีนี้"

    "ครับ!"


    "เฮอะ!เข้ามาเลย  ถึงข้าจะไม่มีพลังศักดิ์สิทธิ  แต่อย่าลืมสิว่าที่ผ่านมาพวกแกตายเพราะฝีมือจากดาบของข้าล้วนๆ  ถ้าอยากตายก็เข้ามาเลย!!"


    อาเธอร์ตะโกนขึ้น  ทำให้พวกชายชุดดำที่เหลือที่คิดจะเข้ามาชะงักไป  เพราะที่เธอพูดมันก็จริง

     

    ' ก็พูดไปงั้นแหละขู่ไว้ก่อน  เพราะไอ้พิษบ้านี่ทำให้เราเคลื่อนไหวลำบากมาก  สู้ตรงๆคงแย่แน่ทำไงดี  ไม่น่าประมาทเลยเรา  ถ้าสู้พร้อมชุนละก็คงชนะใสๆไปแล้ว  

    ต้องหาทางถ่วงเวลาให้ชุนมาช่วยซะแล้ว   ไม่สิไม่ได้ตอนนี้เราติดพิษชุนช่วยเราไม่ได้แน่...ทำยังไงดี'

     

    อาเธอร์คิดพร้อมเหงื่อตกออกมา....

     

     

    "อย่าไปฟังยัยนั่น  มันกำลังถ่วงเวลาให้ไอ้ผู้ชายผมดำนั่นมาช่วยน่ะสิ  ตอนนี้มันขยับไม่ค่อยได้แล้วรีบฆ่ามันซะ!!"

    หญิงสาวผมขาวรู้ทันความคิดของอาเธอร์จึงตะโกนสั่งอีกที

     

    'ชิ....ยัยผมขาวนี่...เอ้ะ!'           

     

    ครืน! กึกๆๆ

     

    "อะไรน่ะแผ่นดินไหวเหรอ!"                       

     

    หญิงสาวผมขาว กับพวกชายชุดดำต้องหยุดชะงัก  เมื่อจู่พื้นดินก็เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง  จนพวกเธอต้องหาที่จับไว้   อาเธอร์ก็สงสัยว่าป่านี้มันเกิดอะไรขึ้น  ไม่ใช่แค่ป่าที่มีหมอกธรรมดาๆเพียงอย่างเดียวเหรอ  

    อาเธอร์สลัดความสงสัยในหัว  ก่อนจะทำท่าเดินหนีออกจากที่นี่....แต่ว่า

     

    ครืน!!

    "เอ้ะ!กรี๊ด!!"

    "ท่านมีล่าครับระวังพื้นมันถล่มแล้ว!!อ๊อก!!"

     

    จู่ๆไม่ทันที่อาเธอร์จะขยับไปไหน  พื้นดินที่เธอและพวกหญิงผมขาวเหยียบ  ก็แตกแยกออกจากกันพร้อมพังทลายลง   จากนั้นร่างของพวกเขาก็ร่วงหล่นลงไปทันที



    ************************************************************************



    ปล.คอมเม้นกันเยอะๆนะครับทั้งคนเก่าทั้งคนใหม่  ผมนั่งรออ่านทุกวัน อิอิ  มันเป็นกำลังใจที่ดีในการแต่งนิยายต่อไปนะ-3-


    ปล.2ลิ้งค์เพจ

    https://www.facebook.com/The-Lost-Zero-Online-175831109424018/notifications/


    ปล.3 ภาพตัวละครเดียรินี่ จากเกมส์lost saga ครับ  ไปถ่ายมา  น่ารักเนอะ-3-

    บอกแล้วคุณเธอมีตัวตนจริงๆครับ อิอิ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×