ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Zero Online : มหาสงครามราชันข้ามฟ้า

    ลำดับตอนที่ #134 : CHAPTER 125 : สงครามอสูรทะเล (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 548
      10
      1 ก.ค. 60




    "ถ้าพวกเธอต้องการปะทะกับพวกอสูรยักษ์ทะเลที่เป็นอมตะละก็ คำเตือนที่ฉันจะบอกพวกเธอก็คือ...ห้ามใช้พลังเวทย์กับพวกมัน 


    เพราะนอกจากพวกมันจะไม่เป็นไอะไรแล้วพวกมันจะยังใช้พลังเวทย์พวกนั้นมารักษาแผลและเพิ่มพลังกายให้กับตัวพวกมันเองอีกด้วย"



    อาเธน่ากล่าวบอกด้วยใบหน้าจริงจัง



    "งั้นแสดงว่าพลังปราณปกติสามารถสร้างบาดแผลให้มันได้สินะครับ แต่เป็นไปได้พวกเราก็ไม่อยากบุกไปตรงๆ 

    ทักษะเทเลพอร์ทของผมก็สามารถพาทุกคนไปได้อยู่หรอก แต่ติดตรงที่ว่าสถานที่ที่จะเทเลพอร์ทไปผมต้องรู้ตำแหน่งที่แน่นอนของมันด้วยนี่สิ"



    ชุนสมมติฐานขึ้นก่อนจะกล่าวถามถึงวิธีการเข้าไปยังส่วนกลางของเมือง โดยไม่ต้องผ่านเจ้าพวกยักษ์ทะเลนั่น



    อาเธน่าฟังดังนั้นก็ยิ้ม ก่อนจะทุบไม้เท้าของตัวเองทีนึง...



    ตึง!


    แว๊บ!



    "นี่คือ..."



    "ภาพที่พวกเธอเห็นอยู่นี้คือเมืองปอมปีอา ชุนถ้าเจ้าเห้นแบบนี้แล้วเจ้าจะยังใช้ความสามารถเทเลพอร์ทของเจ้าได้รึไม่?" 



    อาเธน่ายิ้มกล่าวถาม



    "ถ้าแบบนี้ละก็หายห่วงเลยครับ หึๆ เดียรินี่ช่วยบอกตำแหน่งของพวกทีรามิสุหน่อยได้ไหมครับ" ชุนหันไปถามหญิงสาวซามูไรหน้าสวย



    "ที่ปราสาทสมาพันธ์รัฐบาลสาขาปอมปีอาทางตอนเหนือของเมืองค่ะ" เดียรินี่กล่าวบอก ชุนก็พยักหน้ารับทราบ ก่อนเขาจะหันมาทางอาเธน่า



    "อาเธน่าครับ ช่วยผมหาตำแหน่งของกองเรือปฏิวัติกับที่อยู่ของเจ้าหญิงเงือกที่ ผมคาดว่าลูกแก้วนั่นน่าจะอยู่กับเจ้าหญิงนั่นหรือไม่เธอก็อาจอยู่บนกองเรือพวกนั้น" 



    ชุนกล่าวขอกับอาเธน่าด้วยสีหน้าสุขุม เพราะตอนนี้เขาอยู่ในโหมดจริงจังเกมส์มิ่งแล้ว พวกอาเธอร์เห็นแบบนี้ก็ถอนหายใจก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาเพราะถ้าสามีของพวกเธอมีใบหน้าแบบนี้ละก็...




    ทุกอย่างคงถูกเขาควบคุมไว้หมดแล้ว...


















    ณ  ปราสาทสมาพันธ์รัฐบาล สาขาปอมปีอา




    แว๊บ!



    "อ้ะ! ยินดีต้อนรับครับพลเอกเดียรินี่!"


    ทันทีที่พวกชุนมาถึง พวกผู้เล่นทหารยศชั้นผู้น้อยของรัฐบาลที่กำลังวิ่งวุ่นปฐมพยาบาลให้กับพวกผู้เล่นที่บาดเจ็บพอเห็นเดียรินี่พวกเขาก็รีบตะเบ้ะทำความเคารพทันที



    "อ้าว?!พวกเธอมาได้จังหวะพอดีเลย!ตอนนี้พวกเราต้องการกำลังเสริมอย่างมาก ถ้ามีเธอมาช่วยอะไรๆก็น่าจะง่ายขึ้นเยอะเลย"



    เสียงหญิงสาวที่คุ้นหูดังขึ้น พวกเธอก็คือตะวัน เหม๋ยหลินและฮิซานะนั่นเองสามสาวในหน่วย16องครักษ์ พวกเธอเหลือบมองพวกชุนเล็กน้อย ชุนก็พยักหน้าไปทางเดียรินี่ให้ช่วยตอบข้อสงสัยแทน




    "ตะวันนำทางพวกฉันไปหาท่านทีรามิสุที ฉันกับพวกชุนมีแผนที่จะหยุดสงครามนี้แล้ว"



    เดียรินี่มองด้วยสายตาจริงจัง พวกตะวันก็พยักหน้ารับทันทีก่อนจะนำทางพวกชุนและเดียรินี่ไป 












    "เอาละพวกเธอมีแผนว่ายังไงก็ว่ามาเลย"


    ทีรามิสุที่อยู่บนหัวโต้ะประชุมกล่าวขึ้น พร้อมมองไปที่ชุนกับเดียรินี่ที่ยืนอยู่ด้วยกันอย่างไม่ชอบใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่แสดงสีหน้าออกมา เพราะเขาไม่อยากเอาเรื่องในเกมส์มาปนกับเรื่องส่วนตัวซักเท่าไร


    ที่ห้องประชุมตอนนี้ประกอบไปด้วย จอมพลทีรามิสุ  ร้อยเอกตะวัน  ร้อยเอกเหม๋ยหลิน  พันโทฮิซานะ พลตรีฉินซื่อหม่ย พันตรีบาบิโลน พลตรีหวางโหลน  พันเอกจางซานฟง และพลเอกเซี่ยหล่งหยาง พวกสิบหกองครักษ์ที่เหลือไปดูแลสาขาอื่นๆอยู่ เพื่อกันโดนตลบหลังตอนที่ทีรามิสุไม่อยู่ 


    ยกเว้นพลเอกชินโงและร้อยเอกฮยอนอาที่ตอนนี้ติดอยู่ที่ใดซักที่กับเบลล์


    ขณะเดียวกันพวกชุนที่ไม่อยู่ ณ ที่นี้ก็มีแต่ซีลาร์เท่านั้นที่ชุนไม่อยากให้เธอมาเสี่ยอันตรายเพราะกำลังท้องแก่อยู่ จึงให้เธอไปพักผ่อนอยู่ที่ปราสาทของเขาในมิติพิเศษ โดยมีร่างจิตของอาเธน่าคอยคุ้มกันและฉายภาพของชุน ณ ตอนนี้ให้ซีลาร์ดูด้วย


    "ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าถ้าต้องการหยุดสงครามนี้ ควรทำยังไงน่ะสิ"


    ชุนกอดอกยิ้มกล่าวขึ้น... 



    "แล้วทำยังไงเหรครับท่านพี่" 


    เซี่ยหย่งหลางกล่าวถามอย่างไพเราะ อย่างเอาอกเอาใจพี่ชายของสาวที่เขาหลงรักอย่างเบลล์ แต่ชุนได้ฟังดังนั้นก็ไม่ได้สนใจ เดียรินี่เห็นชุนชักช้าก็ตอบขึ้นมาแทน



    "ตอนนี้ตัวการที่ควบคุมพวกยักษาทะเลคือเจ้าหญิงแห่งเผ่าเงือกค่ะไม่ใช่ฝีมือของพวกกองกำลังปฏิวัติ พวกนั้นแค่ใช้เจ้าหญิงเงือกเฉยๆ แล้วสิ่งที่ใช้ควบคุมก็คือลูกแก้วมรกตในมือของเจ้าหญิงคนนั้นค่ะ ซึ่งตอนนี้ที่อยู่ของพวกนั้นอยู่ที่ทางตอนใต้ติดกับทะเลของเมืองปอมปีอา



    แต่การเข้าไปถึงตัวก็ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะที่นั่นมีพวกยักษ์ทะเลคอยคุ้มกันเยอะที่สุด รวมถึงมีวอลเตอร์กับเลบิสคอยปกป้องอยู่ด้วยค่ะ"


    เดียรินี่กล่าวรายงานให้ทีรามิสุฟัง ทุกคนในที่ประชุมก็รับฟังแล้วดูเหมือนว่าแหล่งข้อมูลจากปากเดียรินี่จะน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก ถึงจะไม่มีหลักฐานแต่การทำงานของเดียรินี่ไม่เคยผิดพลาดเลย 



    "โอเคผมเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เราควรจัดการอยู่ตรงไหน แต่มีอีกปัญหาหนึ่งที่ผมสงสัย...ถ้าพวกเราชิงลูกแก้วมาได้พวกมันก็จะคุมเหล่ายักษ์ทะเลไม่ได้สินะ"


    ทีรามิสุกล่าวถามตามสมมติฐานของตนเอง...



    "ใช่ค่ะ"


    เดียรินี่ตอบกลับ


    "แต่เราก็ยังไม่สามารถจัดการพวกอสูรยักษาทะเลนั่นอยู่ดี ต่อให้พวกมันหลุดการควบคุมก็ใช่ว่ามันจะไม่ทำอะไรพวกเรานี่ ยิ่งขึ้นชื่อว่าอสุร...


    เผลอๆพอหลุดการควบคุมมันต้องอาละวาดอย่างหนักโดยไม่สนใจอะไรแน่ๆ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราจะทำยังไง หรือเธอเตรียมวิธีรับมือกับผลลัพธ์นี้แล้ว?"


    ทีรามิสุเลิกคิ้วหันมาทางเดียรินี่ แต่สายตามองไปที่ชุน ชุนฟังดังนั้นก็คลี่ยิ้มก่อนจะตอบแทนเดียรินี่



    "เรื่องนั้นในตอนแรกพวกเราก็คิดว่าจะทำยังไงเหมือนกัน แต่พอได้รู้จากผู้เชี่ยวชาญเรื่องประวัติศาสตร์เกมส์นี้ทำให้พวกเราที่แสนโชคดีมีสิ่งนั้นที่จะช่วยแก้ไขในเรื่องนี้ในตัวเองอยู่แล้ว"


    ชุนยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางนึกไปถึงสิ่งที่อาเธน่าบอกมา...


    "สิ่งนั้นคือ?"


    ทีรามิสุกับพวกสิบหกองครักษ์ถามขึ้นมาพร้อมกัน






    "ผมมีผู้ติดตามที่เป็นเงือกอยู่คนนึง และเธอมีเชื้อสายราชวงศ์ที่จะสามารถควบคุมลูกแก้วนั่นได้...


    ชื่อของเธอคือ...ซุยเรน"











    ณ  ทางด้านหนึ่ง...








    "ท่านเลบิส ท่านวอลเตอร์ ท่านไว้ใจพวกเงือกได้จริงๆเหรอคะ ฉันรู้มาว่าพวกมันเป็นหนึ่งในกลุ่มของพวกมารที่อยู่ฝ่ายเดียวกับจอมมารบอสใหญ่ของเกมส์นี้นะคะ"


    ลาร่าที่ตอนนี้เกิดใหม่มาแล้ว หลังจากโดนลูกหลงจากการต่อสู้ของพวกชุนกับอสูรยักษ์ทะเลที่เกาะของเมดูซ่า



    "หึ พวกเราไม่ได้ไว้ใจมันมาตั้งแต่แรกแล้วละลาร่า"



    เลบิสอดีตจักรพรรดิ์เผ่าแวมไพร์เชื้อพระะวงศ์กล่าวขึ้นขณะที่กำลังกอดอกมองดูสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นจากพวกอสูรยักษ์บนเรือของเขา



    "งั้นถ้าพวกเราชนะสมาพันธ์รัฐบาลได้ตามที่ต้องการแล้ว เราจะเอายังไงกับพวกเงือกและอสูรยักษ์ทะเลเหล่านั้นละคะ?"



    ลาร่าถามขึ้นมาอีกครั้ง พลงเหลือบมองเจ้าหญิงเงือกที่กำลังนั่งบนบัลลังค์บนตัวอสูรปลายักษ์เผ่าพันธ์ุเดียวกับแลนตี้ของเดียรินี่ 



    แถมบนปลานั่นก็มีราชาและราชินีเงือกยืนอยู่ข้างกายเจ้าหญิงเงือกอีกด้วย



    "ในตอนแรกข้าวางแผนจะชิงลูกแก้วนั่นมาเพื่อควบคุมอสูรยักษ์ทะเลเหล่านั้น แต่ปัญหาคือลูกแก้วมันจะทำงานก็ต่อเมื่ออยู่ในมือราชวงศ์เงือกเท่านั้น"


    วอลเตอร์ในชุดคลุมจีนมือไขว้หลังกล่าวขึ้น พอเห็นท่าทางที่รอฟังต่อของลาร่าเขาก็เหลือบมองชายชุดคลุมสีดำปริศนาที่มีนามว่า ซีโร่ ชายที่ปะทะกับเดียรินี่และออโรร่าในศึกสงครามออร์คและเลบิสเล็กน้อย


    ก่อนจะกล่าวต่อ...



    "แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย เพราะชายชุดคลุมที่อยู่ด้านหลังเรามีทักษะควบคุมจิตใจขั้นสูงและระดับของทักษะเหนือกว่าไอ้ชุนนั่นอีกด้วย แค่ควบคุมเอไอตัวเดียวมันจะไปยากอะไร...


    ...จริงไหมละ"



    วอลเตอร์คลี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย พร้อมมองออกไปยังในตัวเมืองปอมปีอาที่มีเสียงการต่อสู้ดังก้องกังวานตลอด 




    "แถมฉันคาดว่าพวกไอ้ชุนและเดียรินี่มันก็รู้เกี่ยวกับพลังของลูกแก้วนี่ จากที่เธอบอก ดังนั้นมันก็ต้องหาทางมาที่นี่โดยไม่ปะทะกับพวกอสูรตรงๆแน่"



    ลาร่าพอได้ยินชื่อชุนจากปากของวอลเตอร์ก็มีสีหน้ากังวลเล็กน้อย เพราะเธอรู้สึกผิดลึกๆที่หักหลังเขา ทำไมเธอถึงรู้สึกอย่างนี้ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน



    "แล้วแบบนั้นมันจะไม่แย่เหรอคะ ถ้าพวกเขาหาทางมาที่นี่ได้ง่ายๆ เผื่อคุณไม่รุ้นะคะท่านวอลเตอร์ ไม่เชื่อก็ถามท่านเลบิสได้ค่ะว่าชุนนั้นไม่ได้ธรรมดานะคะ ยิ่งถ้าเขามาพร้อมกับเดียรินี่และทีรามิส...


    ก็เหมือนมีระดับจักรพรรดิ์สามคนเลยนะคะ..."



    ลาร่ากล่าวเตือน ในขณะที่เลบิสก็พอได้ฟังชื่อของชุนก็หลับตาลงอย่างสงบใจ พร้อมคิดในใจว่าถ้าชุนมาที่นี่ได้จริงๆ เขาก็จะเป็นคนกำจัดมันด้วยตัวเขาเอง เพื่อล้างอายในครานั้น



    "ไม่ต้องห่วงลาร่า ฉันขึ้นชื่อว่าขงเบ้งเชียวนะ...ฉันมีแผนรับมือกับพวกมันแน่นอนอยู่แล้ว"



    วอลเตอร์ยิ้มก่อนจะหันเหลือบไปมอง คนสามคนที่โดนแขวนอยู่บนใบเรือ...







    นั่นคือ...อนาคอน  ซินเซและ...ซาเลไลย์นั่นเอง












    ปล.ลงช้ามากทดทีครับ ฝากคอมเม้นด้วยนะค้าบลบ


















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×