ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lost Zero Online : มหาสงครามราชันข้ามฟ้า

    ลำดับตอนที่ #118 : CHAPTER 109 : เจ้าหญิงเงือกแห่งเผ่าธีดาส

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 592
      15
      24 ต.ค. 59




    ณ  สถานที่แห่งหนึ่ง...


    ดินแดนแห่งนี้คือดินแดนลี้ลับที่ไม่มีผู้เล่นคนไหนเคยได้เหยียบมาก่อน เพราะมันเป็นเขตมิติที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทพองค์หนึ่งที่ใข้เขตมิตินี้ในการใช้ในการกักขังอะไรบางอย่างไว้ ดินแดนแห่งนี้เป็นเกาะขนาดใหญ่ถ้าเทียบกับโลกจริงก็ใหญ่กว่าเกาะที่เรียกว่าญี่ปุ่นเสียอีก


    ดินแดนแห่งนี้มีอาณาจักรขนาดใหญ่ตั้งอยู่มันมีพื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลมากและยังมีป่าขนาดใหญ่มากมายมีเกาะลอยฟ้าขนาดเล็กลอยอยู่เหนือป่าแห่งหนึ่งด้วย


    ดินแดนแห่งนี้มีความสามารถร้ายแรงอย่างหนึ่งที่ส่งผมต่อผู้เล่นมากๆ...


    คือถ้าใครได้เหยียบย่ำเข้ามา...ผู้เล่นคนนั้นก็จะมีพลังหรือความสามารถเท่ากับร่างตัวเองจริงๆบนโลกจริง พลังหรือทักษะพิเศษ สกิลต่างๆทุกอย่างจะหายไป


    และที่นี้ก็มีคนผู้นึงมาถึงดินแดนนี้แล้ว...



    "ข้าไม่แนะนำให้เจ้ามาที่นี่เลยนะ ที่นี่มันอาจจะไม่มีสิ่งนั้นก็ได้"


     ชายป่าแห่งหนึ่ง ก็มีคนในชุดคลุมสีขาวถึงสองคนยืนมองอาณาจักรขนาดใหญ่ตรงหน้า เสียงชายชราในคนชุดคลุมตัวใหญ่เอ่ยขึ้นมาบอกเรื่องบางอย่างให้กับคนในชุดคลุมอีกคนนึงฟัง


    "......"


    คนชุดคลุมอีกคนนึงไม่พูดอะไร เขามองอาณาจักรตรงหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง ก่อนเขาและชายชราจะรู้สึกถึงพลังอะไรบางอย่างที่มากมายมหาศาลมาจากป่าทางด้านหลังไม่ไกลจากชายป่าที่เขาอยู่มากนัก


    ครืน~


    "!!!x2"


    ทั้งสองชักหน้าหันไปมองด้านหลัง ชายชราหรี่ตามองจากทิศนั้นเล็กน้อยก่อนจะหลับตาสัมผัสถึงพลังนั่นว่ามันคืออะไร


    "ไม่น่าเชื่อ...พลังทั้งสองนี่คือพลังของพวกเผ่ามารกับเผ่าเทพ ทำไมพวกมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้"


    ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อตัวเอง คนในชุดคลุมมองทิศนั้นเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงไปทิศที่มีพลังมหาศาลนั่น ชายชรามองดังนั้นก็คิดไว้แล้วว่าเขาต้องไปทางนั้นแน่ๆ ชายชราเลยเดินตามคนในชุดคลุมไปทันที


    ทางที่พวกเขาไปนั้นก็มีพวกเบลล์อยู่นั่นเอง...










    ณ เกาะอสรพิษ




    ตึก ตึก



    ที่ถ้ำใต้โบราณสถานลาร่าได้ใช้ความสามารถในการอ่านภาษาโบราณของเธอพาพวกซีลาร์ อาเธอร์ ลูน่า เดเบียล่าและ...เจ้าหญิงอควา 

    พวกเขาต้องผ่านพวกมอนเตอร์ถ้ำและอสูรมากมายระหว่างทาง แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะพวกมันมีระดับพลังค่าเฉลี่ยที่ขั้น 1 - 2 เพียงเท่านั้น ไม่ใช่ระดับจะทำให้พวกลูน่า อาเธอร์ เดเบียล่าระคายผิวได้เลย...อาจยกเว้นแค่ซีลาร์ที่กำลังอ่อนแอจากการตั้งครรภ์เท่านั้น


    แต่ก็ได้ลูน่าคุ้มครองอย่างดี อาเธอร์ก็ปกป้องเจ้าหญิงอควา เดเบียล่าก็ปกป้องลาร่า จนในที่สุดพวกเธอก็เดินทางมาถึงประตูบานยักษ์บานนึงที่ทำด้วยมรกตสีเขียว


    "ว้าว สวยจังเลย!"


    เดเบียล่าอุทานขึ้นเมื่อเห็นประตูมรกตที่มีสีเขียวสวยงามนี่ ก่อนเธอจะเข้าไปลูบคลำอย่างสนุกสนานตามประสาเด็ก 


    "....."

    ลาร่ายิ้มมองเดเบียล่าเด็กสาวผมยาวสีฟ้าผู้มีหน้าอกหน้าใจเกินวัยด้วยสีหน้าเอ็นดู ก่อนจะเดินเข้าไปที่ประตูมรกตแล้วพยายามหาอักษรโบราณที่น่าจะเป็นคำใบ้สู่สถานที่ข้างในนี้ เพราะที่ผ่านมาเธอก็ใช้วิธีนี้ตลอด


    "ฮ้าว~"

    ลูน่าหาวขึ้นเล็กน้อยเพราะทางที่ผ่านมามีแต่เรื่องน่าเบื่อ มอนเตอร์ก็กระจอกเกินไป แถมต้องมายืนรอลาร่าที่ต้องใช้เวลาในการไขภาษาโบราณอีก ใจจริงเธออยากจะไปช่วยชุนสู้กับเมดูซ่าถ้าไม่ติดว่าชุนฝากเธอให้คอยดูแลซีลาร์และทุกๆคนละก็...เธอคงบินแจ้นไปนานแล้ว


    "....."

    อาเธอร์ก็มองขมวดคิ้วใส่ลูน่าที่แสดงกิริยามารยาทไม่สมกับเป็นผู้ดีเล็กน้อย แถมไม่สมกับเป็นผู้หญิงด้วย เพราะเธอเล่นหาวอ้าปากซะกว้างจนเห็นลิ้นไก่เลยทีเดียว แต่ลูน่าก็ไม่สนใจท่าทีของลูน่าเธอก็ทำท่าหาวพ่นลมแกล้งใส่อาเธอร์ทันที อาเธอร์ก็ฉุนพยายามไล่เอาคืนเธอแต่ลูน่าก็บินหนีได้อย่างสบายๆด้วยท่าทีชวนหมั่นไส้


    "ฮิๆ"

    ซีลาร์กับเดเบียล่าก็ขำในการกลั่นแกล้งกันของทั้งสอง ลาร่ากับเจ้าหญิงอควาก็มองเล็กน้อย ก่อนลาร่าจะสบตากับเจ้าหญิงอควาด้วยความหมายอะไรบางอย่าง ลาร่าหยิบของชิ้นนึงมาจากช่องเก็บสัมภาระของตัวเองขึ้นมาโดยไม่ให้พวกซีลาร์รู้และให้เข้าใจว่าเธอกำลังแก้ปริศนาภาษาโบราณนี่อยู่


    ฉึบ...


    ของที่เธอหยิบขึ้นมา มีรูปร่างกลมแบนและดูสกปรก เนื้อของวัสดุมันน่าจะทำมาจากพวกหิน ลาร่าเหลือบมองอาเธอร์ที่กำลังเล่นอยู่กันเล็กน้อยก่อนจะหันมาสบตาเจ้าหญิงอควา เจ้าหญิงอควาก็คลี่ยิ้มพลางเป็นสัญญาณ


    กริ๊ก!กึง!...ครืนๆ


    "ได้แล้วเหรอรอซะตั้งนาน"


    ลูน่าพูดอย่างดีใจเมื่อประตูเปิดมรกตขนาดใหญ่เปิดขึ้นมาแล้ว เธอก็ทำท่าจะเดินเข้าไปในประตูหยกทันทีแต่ว่าขณะที่พวกเธอกำลังจะตามเข้าไปนั้น



    "เฮ้!!พวกแกแย่แล้ว!!!"


    เสียงหญิงสาวคนนึงก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง ลาร่า เจ้าหญิงอควาและทุกๆคนก็หันไปมองพร้อมกัน ก็เห็นว่าเป็นมีล่าหญิงสาวที่พยายามเข่นฆ่าชุนตลอดที่ตอนนี้โดนเขาจับเป็นเชลยอยู่จนอยู่ๆก็หายตัวไปได้ไม่นานนี้ แต่...พวกเธอก็ไม่ได้สนใจที่จะตามหาเลยก็คือมีล่าคนนั้นนั่นเอง


    "อ้าว!พี่มีล่าหายไปไหนมาคะเนี่ย?"


    เดเบียล่าวิ่งต้อกแต้กๆเข้าไปหาหญิงสาวผมขาวในชุดหนังสีม่วง มีล่าเห็นว่ามีเด็กสาวมนุษย์หมาป่าคนเดียวที่สนใจเธอ เธอก็ยิ้มดีใจอย่างเอ็นดูเล็กน้อย ก่อนจะตาเบิกโพลงเมื่อเห็นคนที่พวกเธออยู่ด้วย


    "เงือก...แย่แล้ว!พวกแกอย่าไปเข้าใกล้พวกเงือกนะพวกมันน่ะ...!"


    ฟ้าวววว!!!


    มีล่าตกใจแทบสะดุ้งเมื่อเห็นเจ้าหญิงอควาอยู่กับพวกซีลาร์ด้วย เธอก็รีบตะโกนบอกพวกซีลาร์เกี่ยวกับภัยบ่งอย่างทันที แต่ไม่ทันที่จะพูดจบอาวุธสามง่ามก็พุ่งเข้ามาจากไหนไม่รู้เข้ามาใกล้ถึงใบหน้าของมีล่า


    แต่ว่า...


    เคร้ง!!


    ก่อนที่สามง่ามจะได้แทงทะลุใบหน้าของมีล่า ดาบสั้นของลูน่าก็เข้ามาปัดมันทิ้งได้ก่อนอย่างรวดเร็ว


    ชิ้ง!!!


    และในเวลาเดียวกันอาเธอร์ก็ชักดาบมาจ่อคอหอยของเจ้าหญิงอควา เดเบียล่าเองก็แปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่ามาคุ้มกันซีลาร์


    "...นี่มันเรื่องอะไรกัน"


    อาเธอร์หรี่ตามองที่เจ้าหญิงอควาด้วยสายตาเรียบนิ่ง พวกซีลาร์และทุกคนก็เช่นเดียวกัน มีล่าเห็นบรรยากาศอึมครึมก็ได้โอกาสพูดขึ้นมาทันที



    "พวกแกฉันจะบอกให้เอง!ยัยนี่จะฆ่าฉันเพราะฉันจะพูดว่าพวกเงือกทุกตัวกำลังจะหักหลังพวกเราน่ะสิ!!"


    มีล่าตะโกนบอกทุกคน ทุกคนก็หันไปมองที่เจ้าหญิงอควากันหมด ลาร่าเห็นทุกคนมองมาที่เจ้าหญิงอควา เธอก็คลี่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเริ่มขยับมือของตัวเองเพื่อจะทำอะไรบางอย่าง  แต่ว่าในชั่วพริบตานั้นเอง...


    ฟ้าวว!!



    ฉึก!!!ฉูด!!!!


    กรี๊ดด!!!


    จู่ๆก็มีมีดเล่มนึงพุ่งมาจากไหนไม่รู้อย่างรวดเร็วและพุ่งปักเข้ามือของลาร่า ก่อนเธอจะร้องกรี๊ดลั่นพร้อมเลือดที่พุ่งออกมาจากฝ่ามือ เจ้าหญิงอควาและทุกคนเห็นดังนั้นก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนพวกเขาจะหันไปตามทิศทางที่มีดพุ่งมา


    "คุณคิดจะทำอะไรมิทราบค่ะ คุณนักโบราณคดีคนเก่งแห่งฝ่ายกองกำลังปฏิวัติ"


    เสียงของหญิงสาวออกแนวเย็นชาดังขึ้นในเงามืด ก่อนเจ้าของเสียงจะเดินออกมา


    ตึก ตึก


    "ออโรร่าx4!/พี่ออโรร่า!"  


    ทุกคนอุทานเรียกชื่อหญิงสาวเจ้าของเสียงเย็นชาที่ออกมาจากมุมมืด แถมเธอไม่ได้มาคนเดียว อาลีเซีย เดียรินี่  พวกอสรพิษลูกน้องของเมดูซ่า อนาคอน ซินเซและเมดูซ่า...และคนสุดท้ายก็คือสามีของพวกเธอ


    "ไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นพวกเดียวกับพวกเงือกแต่แรกเลยนะ...ลาร่า ไม่สิพูดให้ถูกคุณคือผู้เล่นในสังกัดฝ่ายกองกำลังปฏิวัติสินะครับ พวกเดียวกับพวกแม๊กซิมุสนั่น"


    "ชุนx3!!/พี่ชุน!!"


    เหล่าภรรยาทั้งสี่เรียกชุนขึ้นพร้อมกัน ชุนก็ยิ้มให้ก่อนจะดึงซีลาร์ภรรยาคนแรกของเขามาหลบหลังเขา เดียรินี่ที่ฟื้นขึ้นมาและรับฟังเรื่องราวแล้วตอนนี้ก็เหลือบมองมีล่าที่เธอเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเพราะก่อนหน้านั้นพวกชุนจับเธอไว้ที่อื่นเล็กน้อย เพราะจำไม่ผิดเธอคือคนของสโมสรนักฆ่าของฝ่ายกองกำลังปฏิวัติ


    "......."

    แต่เธอเห็นว่าออโรร่าที่น่าจะรู้อยู่แล้วว่ามีล่าเป็นใคร แต่กลับไม่สนใจแสดงว่าเธอคนนี้เป็นพวกเดียวกัน เดียรินี่เลยกลับมามองสถานการณ์ตรงหน้าต่อแต่ในใจถึงเธอจะฟังเรื่องราวแล้วพอเดาได้ว่าเมดูซ่าเป็นพวกเดียวกันแต่เธอก็ไม่วายที่จะประมาทคอยจับตาเธออยู่ตลอด


    "...พวกคุณรู้ตอนไหนกัน" 


    ลาร่าเอาถามด้วยน้ำเสียงเบา เพราะเธอกำลังฝืนทนต่ออาการบาดเจ็บกับมีดที่ปักในมือจนไปปักไปติดกับกำแพงหินนี่


    "เพราะมันแปลกน่ะสิที่ผู้เล่นไร้ฝ่ายสมาพันธ์อย่างเธอจะมาอยู่ที่นี่ได้ เขตดินแดนนี้เป็นเขตวังวนปิดกั้นถ้าไม่มีคริสตัลสำรวจดินแดนจากหัวหน้าฝ่ายสมาพันธ์ละก็ ก็จะเข้ามาในเขตแดนที่นี่ไม่ได้"


    ออโรร่ากอดอกอธิบายมองด้วยสายตาเรียบนิ่ง เพราะคนที่เอะใจการคงอยู่ของลาร่าคนแรกก็คือเธอนี่แหละ เพราะเรื่องกฎต่างๆของระบบเกมเธอที่เป็นผู้ช่วยสร้างและเป็นถึงหัวหน้าGMสูงสุดก็ย่อมรู้ดีที่สุด


    "และอีกอย่างฉันก็มีสายในฝ่ายสมาพันธ์ปฏิวัติทำให้รู้ว่า พวกปฏิวัติกำลังวางแผนที่จะเอาผลึกสีเขียวที่อยู่ข้างในนั่นเพื่อที่จะควบคุมอสูรยักษาทะเลทั้งหมดนั่นโดยร่วมมือเป็นพันธมิตรกับเผ่าอสูรที่รู้เรื่องนี้นั่นก็คือ...พวกเผ่าเงือกธีดาส"


    "......"

    ลาร่าเบิกตาโพลงถึงกับพูดไม่ออกไม่คิดว่าฝ่ายกองกำลังปฏิวัติเองก็มีสายที่แฝงตัวอยู่อีก เธอเหลือบมองที่ชุนด้วยสายตากลัวๆเล็กน้อยดูว่าเขาจะทำยังไงกับเธอ เพราะตอนนี้เธอก็หมดหนทางที่จะไปต่อแล้ว


    "หึ หึ คิดว่าฉันจะยอมง่ายๆงั้นเหรอ รู้สึกว่า...ที่นี่จะมีคนที่น่าสนใจพอดีเลยนะ"


     เจ้าหญิงอควาหัวเราะขึ้น เมดูซ่าไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไรแต่กันไว้ดีกว่าแก้ เธอทำท่าจะจับให้เจ้าหญิงอควากลายเป็นหินซะแต่ว่า...


    ตูมมม!!!


    จู่ๆก็มีหมัดยักษ์สีเขียวคล้ำลงมาจากข้างบนซัดลงมาอย่างรุนแรงจนพื้นสะพานถ้ำที่เราเหยียบระเบิดกระจาย


    "ธาร์นี่นา!เสร็จกัน!! อย่าให้มันแตะผลึกได้นะ!!"


    เมดูซ่าร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นคนที่เข้ามาขัดขวางคือธาร์ อสูรยักษาทะเลที่ซัดเรือสำราญข้ามฟากของพวกชุนจนล่มตอนนั้น อนาคอน ซินเซที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของสะพานซึ่งอยู่ใกล้กว่าก็รู้หน้าที่พุ่งทะยานตามเจ้าหญิงเงือกอควาไป


    "พวกคุณดูแลซีลาร์กับออโรร่าทีนะ! เมดูซ่าเจ้านี่มันอยู่ในอาณัติของคุณไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงทำตามคำสั่งยัยนั่นได้ละ!" 

    ชุนบอกพวกอาเธอร์ที่ทะยานหลบการโจมตีของธาร์มาอยู่ด้านหลังและร้องถามอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นอสูรยักษาทะเลในตอนนั้นมาขัดขวางพวกเขา อาเธอร์ อาลีเซีย ลูน่า เดเบียล่าก็ผงกหัวรับทราบพร้อมเตรียมสู้กับอสูรยักษาทะเลนี่หรือว่าธาร์


    "โทษทีตอนนี้มันโดนพลังของเจ้าหญิงเงือกนั่นควบคุมแล้ว!"

     เมดูซ่าตะโกนบอกอย่างเจ็บใจ จะสาปเป็นหินก็ไม่ได้เพราะร่างกายของยักษาทะเลพวกนี้สามารถต้านทานได้ทุกคำสาปในสมัยยุคราชันย์ข้ามฟ้าถึงได้กลัวปีศาจอมตะนี่นักหนา


    "ทำไมงั้นละ?!"


    ตูมมม!!


    ชุนที่กลับเป็นร่างปกติแล้วถามขึ้นพร้อมทะยานไปเอาดาบรับหมัดของมัน พร้อมใช้พลังปราณอัดจนมันเกือบล้ม แต่ขนาดตัวของมันก็ยังบังทางที่จะไปฟากโน้นอยู่ ขืนชักช้าเจ้าหญิงอควาได้ผลึกไปแน่ไม่นึกว่าเจ้าหญิงเงือกจะเป็นตัวร้ายซะเองนี่ชุนคิดในใจ


    "เพราะ...พลังของเจ้าหญิงเงือกคือ...ควบคุมเผ่าเงือกได้ทุกเผ่าโดยไม่สามารถขัดขืนได้!" เมดูซ่าบอกพร้อมกับนำเส้นผมฟาดให้มันล้มเพื่อเปิดทาง แต่มันก็ยังไม่ยอมล้มง่ายๆ


    "แล้วเจ้าธาร์ที่เป็นอสูรยักษาทะเลในตำนานที่คุณว่านี่มันเกี่ยวอะไรด้วย มันไม่ใช่เงือกนี่!" 

    ชุนร้องถามพร้อมสร้างบาเรียกันพวกซีลาร์เมื่อเห็นมันพ่นพิษใส่ อาเธอร์กับลูน่าก็ช่วยสร้างอีกชั้นช่วย




    "เพราะธาร์เป็นอสูรครึ่งยักษ์ครึ่งเงือกน่ะสิ!"


























    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×