ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ALIVE or DEAD

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 7 เกาะไผ่ (รีไรต์)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 263
      6
      27 พ.ย. 58

    บทที่ 7  เกาะไผ่


     7.00 น.


     บรืน.....


    เสียงเครื่องยนต์ของเรือเฟอร์รี่ที่บรรทุกคนจำนวนถึง30กว่าคน   กลุ่มของพวกเราขึ้นเรือลำที่สองเป็นกลุ่มแรก   ไม่น่าเชื่อเลยว่าผลออกมาจะเป็นอย่างนี้   กลุ่มที่จะไปเกาะไผ่มีแค่2กลุ่มเท่านั้น

     
    กลุ่มของเรากับอีกกลุ่มนึง....

     

    พวกเราตอนนี้กำลังมุ่งสู่เกาะไผ่...


    ซ่า...ซ่า...


    เสียงของใบพัดเรือที่หมุนกระทบกับน้ำทะเล  เพื่อดันเรือไปข้างหน้า  ถามว่าทำไมกลุ่มที่จะไปเกาะไผ่ถึงมีแค่สองกลุ่ม   นั่นไม่ยากเลยเพราะ เกาะไผ่นั้นไม่มีอะไร  เป็นแค่สถานที่เล็กๆที่เอาไว้พักหย่อนใจ

     

    ใช่เกาะไผ่นั้นแตกต่างกับเกาะล้านอย่างสิ้นเชิง  ทั้งขนาดของเกาะ  และสิ่งก่อสร้างต่างๆที่พัก  ร้านค้า  รีสอร์ทนั้นเกาะไผ่ไม่มีเลย   ถ้าถามว่าทำไมพวกครูถึงให้เรามาเลือกทั้งสองเกาะ   ครูบอกพวกเราว่าพวกเขาได้ทำกิจกรรมอะไรบางอย่างรอพวกเราไว้แล้ว   แล้วกิจกรรมของเกาะทั้งสองเกาะก็ไม่เหมือนกันด้วย

     

    พวกครูบอกว่าคะแนนกลุ่มที่ได้จากกิจกรรมที่เกาะ   จะส่งผลถึงคะแนนเก็บปลายภาคเทอม 2 ด้วย

    จะว่าโชคดีก็ดีมั้ง  จะได้ไม่ต้องสอบเก็บคะแนนกว่าครั้งก่อนๆ

     

    ผมคิดเรื่องอื่นเพื่อให้ผมคิดว่าที่ผมเห็นตอนนั้น  มันก็อาจจะแค่เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นหลายครั้งแบบพอดิบพอดี


     

    "ไงละเมฆ  หนาวละสิท่าตัวสั่นยิกเลย" 


     วัฒน์เดินเข้ามาแซวผมที่อยู่ท้ายเรือเฟอร์รี่  ผมที่กำลังยืนกอดตัวเองอย่างหนาวสั่น   เพราะผมดันโดดลงทะเลในเวลาเช้าๆแบบนั้น  น้ำทะเลที่เย็นจัดแทรกผ่านเข้ามาทางรูขุมขนของผมจนรู้สึกได้ว่ามันเย็นแค่ไหน

     

    "มะ....ไม่เห็นจะเท่าไรเลย...ฮะ...ฮัดเช้ย!!!


     ผมพูดแล้วพอรู้สึกว่าอะไรกำลังจะออกขึ้นมาทางร่างกาย  แล้วขึ้นไปยังจมูกผมจามขึ้นพลางมีน้ำใสๆออกมาทางจมูกผมเล็กน้อย...หวัดกินครับผม....-_-lllll


     

    "เฮ้อ แล้วนายจะโดดลงไปทำไมวะ  เฮ้อ..."  


    กฤตมองผมอย่างปวดหัว   ตอนนี้ในเรือลำนี้มีแค่กลุ่มของพวกเรา30คน  และครูดำรงค์ กับคนขับเรือ

     

    เรือของพวกเราแล่นผ่านมาไกลจากเต๊นท์ของพวกเรามาก   ที่เต๊นพวกนั้นก็มีพวกคุณครูที่เหลือดูแลให้จนกว่าพวกเราจะกลับ   เพื่อป้องกันคนมาขโมยของภายในเต๊นท์

     

                ฟ้าว.....


                  เรือของพวกเราตอนนี้แล่นฉิว  ผ่านเกาะมาได้หลายเกาะ  พวกเราต้องอ้อมไกลเพื่อไปยังเกาะพวกเกาะล้าน   เกาะไผ่   ที่จริงเกาะ 2 เกาะนี้ก็ห่างกันไม่มากเท่าไร  แต่ถ้าว่ายน้ำข้ามไปคงเหนื่อยตายพอดี

     

            ตอนนี้ผมไปที่เกาะไผ่นั่นด้วยจุดประสงค์อื่น  ไม่ใช่เพื่อกิจกรรมอะไรของพวกครูดำรงค์  แต่เพื่อแก้ความสงสัยของผม  ผมรู้สึกว่าที่เกาะนั้นต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล  ฝันนั่น.....ผู้หญิงคนนั้น

     

              ....เธอต้องการบอกอะไรผม เธอต้องการจะบอกว่าอย่าไปเกาะนั้นอย่างงั้นเหรอ   ดูจากลักษณะที่ฝันนั้นบอกผม  การที่ไปเกาะนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องดีก็ได้   แต่ทำไมละที่นั่นมันไม่น่าจะมีอันตรายอะไรซักหน่อย   คนที่อยู่ที่นั่นก็ไม่น่าจะมี......

     

    ...แต่ที่แน่ๆถ้าผมไปที่เกาะนั้นมันอาจจะให้ผมรู้อะไรบางอย่างก็ได้


    สิ่งที่ทำให้ฝันที่เลวร้ายนี่และเสียงที่คอยหลอกหลอนผมนี่ได้หายไปก็ได้....


     

    7.20 .

     

    ณ  เกาะไผ่

     

    " ในที่สุดก็มาถึงแล้วโว้ย!!


    ไอ้ไทยพอเรือเทียบท่าเข้า  มันก็โดดลงจากเรือทันที

     

    " เฮ้ยไอ้ไทยระวัง!"

     

    ตุบ!ตุบ!

     

    พูดไม่ทันขาดคำ  ไอ้ไทยก็กลิ้งลงกับพื้นของหาดทราย  

     

    "เฮ้อ..." 


    พลเอามือมาลูบหน้าตัวเองอย่างเซ็งๆ


     

    "  ว้าว ที่นี่น้ำสวยจัง!

     

     ริณอุทานขึ้น  เมื่อก้มมองลงจากเรือน้ำสีฟ้าสวยใส  ที่มองลงไปก็เห็นว่าภายใต้น้ำนั่นมีอะไรมั่ง   ปลาเล็ก  ปลาน้อยแหวกว้ายกัน  แถมยังมีหาดทรายที่ขาวสะอาดนี่อีก    

     

    "เย้ลงกันเลยพวกเรา!"

     

     พวกผู้หญิงต่างพากันวิ่งลงไปอย่างไม่รอช้า   และท่าทางเหมือนครูดำรงค์จะพูดอะไรซักอย่างแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันการณ์  เลยปล่อยพวกเธอไป

     

    "เมฆเธอไหวรึเปล่าเนี่ย..."

     

     ขณะที่ผมกำลังนั่งดูทุกคนที่วิ่งลงไปเล่นน้ำกันอยู่บนเรือ  ที่จริงผมเองก็กำลังจะลุกแล้วลงไปกับพวกเขาแต่ก็มีเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งดังขึ้นมาก่อน

     

    "เดียร์....อ๋อไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวฉันก็กำลังลงไปนี่ไง"   ผมยิ้มตอบเธอ  เธอจึงยิ้มกลับแล้วก็เดินลงเรือไป 


    ตึก ตึก 


    พอเธอลงไปได้ไม่กี่วินาที  ตามที่ผมคาดการณ์ไว้ว่ามันต้องมาพูดอะไรกับผมแน่นอน   แค่ไม่รู้ว่าเมื่อไร....

     

    "ธัน......"  

     

    ธันเดินมากับพวกเพื่อนของมันอีกเก้าคน   สายคาที่มองผมแต่ละคนมีคนเดียวที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง   สายตาของคนคนนนี้คนเดียว   ที่พร้อมจะซัดผมได้ทุกเมื่อ

     

    ปุบ!

     

    มันลงมานั่งข้างผมบนม้านั่งบนเรือเฟอร์รี่....

     

    "ท่าทางแกจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดก่อนหน้านี้นะ....ไอ้เมฆ"    มันจ้องหน้าผมในขณะที่ผมกำลังมองคนอื่นๆที่กำลังเล่นน้ำกัน     


    " ข้าไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย  เดียร์เขามาพูดกับข้าเองตังหาก"   ผมหันไปมองมัน

     

    "มีปัญหาอะไรเหรอรึเปล่าธัน"  

     

    เสียงๆหนึ่งพูดขึ้นมา......วัฒน์  กฤต  และพล  พวกเขาเดินขึ้นมาที่เรือแล้วมองไปที่พวกธันด้วยสายตาของแต่ละฝ่ายเหมือนพร้อมประชันกันได้ทุกเมื่อเลยยังไงหยั่งงั้น

     

    "  เฮ้พวกเธอทำอะไรกันอยู่นี่ลงไปได้แล้ว  เดี๋ยวครูจะได้ไปรับอีกกลุ่มมาต่อลงไป!"  ครูดำรงที่ตอนแรกอยู่ข้างๆคนขับเรือสังเกตุพวกเราแล้วเดินออกมาไล่

     

    "ฮึ....พวกแกอย่ามาซ่าให้มากนะ"

     

      ธันชี้หน้าพวกวัฒน์ก่อนเดินลงจากเรือไป   จากนั้นวัฒน์ก็มองมาที่ผมแล้วกวักมือเรียก   ผมจึงเดินตามพวกมันไปแล้วก็ลงเรือไปพร้อมกับพวกนั้น

     

    "เอาละเดี๋ยวพวกเธอรอที่นี่ก่อนนะ  เดี๋ยวครูจะไปรับอีกกลุ่มมาก่อน  แล้วค่อยอธิบายกิจกรรมกัน"  ครูดำรงค์พูดจบก็เดินขึ้นเรือ  แล้วเรือก็ขับออกไป....

     

    "หวา ไปซะและ  เฮ้พวกเรามาทำอะไรกันดีระหว่างรอครูดำรงค์"

     

      ริณเปิดประเด็นขึ้นในขณะที่คนอื่นๆกำลังเล่นน้ำกันรวมไปถึงเดียร์ด้วย   อือผมรู้สึกว่าตั้งแต่รวมกลุ่มมานี่ริณเหมือนตัวตั้งตัวตีของกลุ่มเราเลยแฮะ :l

     

    " ตามใจพวกเธอเลย พวกฉันขอผ่านละกันนะ"

     

     วัฒน์เอ่ยขึ้นแล้วเอาแขนมากอดคอผมแล้วพวกเราก็เดินออกไปพร้อมกฤต กับพล  ส่วนไอ้ไทยดูท่าจะอยากเล่นกับพวกผู้หญิงเลยรออยู่ตรงนั้น

     

    พวกเราเดินปลีกตัวแยกออกมาแล้วก็เดินอ้อมหาดทรายนี่...


    ซ่า...ซ่า


    เสียงของคลื่น....ที่กระทบเข้ากับแนวขายหาด  ที่นี่คือเกาะไผ่  ที่เป็นที่พักหน่อนใจที่น่าดูชม...


    ปึบ!


    "เมฆข้าว่าแกบอกมาดีกว่าว่ามีเรื่องอะไรกับพวกธันกันแน่"  


      วัฒน์เอามือมาจับไหล่ของผม  พร้อมกับพวกกฤต และพลที่ดูเหมือนกำลังรอคำตอบจากผมเช่นกัน


    "ข้าน่ะ......" 


    ผมไม่กล้าพูดกับพวกมันเพื่อไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่   จนทำให้พวกมันพลอยเจ็บตัวไปด้วย



    "ถ้าแกไม่บอกก็ไม่เป็นไร...."  กฤตพูดพลางเดินมาทางผมกับวัฒน์



    "เฮ้ยไหงพูดงั้นละ!"  วัฒน์อุทานขึ้น



    " แต่ถ้าพวกธันมันทำอะไรนายละก็  พวกเราก็ไม่อยู่เฉยให้พวกมันทำอะไรนายแน่  ถึงแม้พวกเราจะสู้มันไม่ได้ก็เถอะ"  กฤตกอดอกพูดขึ้นโดยหันหลังพูดกับผม...คิดว่าเท่นักรึไงฟะ-_-    

    "เออก็ตามที่ไอ้กฤตพูดแหละ  ถ้ามีปัญหาพึ่งพวกเราได้เสอนะเมฆ  พวกเราเพื่อนกันนี่" 

    พลกอดคอกับกฤตแล้วมองมาที่ผม  วัฒน์มองพวกมันพลางส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ


    "เออ....ขอบคุณว่ะ"   ผมยิ้มให้พวกมัน





    20 นาทีผ่านไป....


    ครูดำรงค์ก็พากลุ่มที่ 2มา  แล้วเขาจึงเริ่มอธิบายกิจกรรมให้ฟัง....


    กิจกรรมนี้ครูเขาตั้งว่า'กิจกรรมหาสมบัติ'  กติกาการกิจกรรมานี้ก็คือ ครูเขาจะพูดคำใบ้มาหนึ่งอย่างแล้วให้เรามองหารอบเกาะที่เกี่ยวข้องกับคำใบ้นั้น 

    แล้วสิ่งที่มีความหมายตรงกับคำใบ้นั้นก็จะมีกระดาษอยู่แผ่นนึง  แล้วกระดาษแผ่นนั้นก็จะบอกคำใบ้มาอีกป็นหยั่งงี้เรื่อยจนถึงแผ่นสุดท้ายที่จะบอกที่ซ่อนของสมบัตินั้น


    และกระดาษคำใบ้จะมีอยู่2ใบเพื่อให้ทั้งสองกลุ่มหยิบไปดูหาแผ่นต่อไปได้   กลุ่มไหนหาเจอสมบัติก่อนก็ชนะ ....ฮึ...มันราวกับว่าเราเป็นโจรสลัดมาหาสมบัติที่เกาะเลยแฮะ- -



    ถ้าพูดถึงโจรสลัด....ก็วันพีชเล่มใหม่จะออกมารึยังน้า....อยากกลับไปอ่านเร็วๆจังTT



    แต่ที่น่าสนุกของเกมนี้ก็คือ ครูเขาให้ 'ทอร์คกี้ทอร์คกี้' มาด้วยเครื่องที่เอาไว้สื่อสารกัน   แต่แบบที่ครูเขาให้จะเป็นแต่ละเครื่องติดต่อไปยังเครื่องกลาง  หมายความว่าเครื่องทุกเครื่องที่เป็นเครื่องย่อยจะสื่อสารได้กับเครื่องหลักเท่านั้น   ส่วนเครื่องหลักจะสามารถคุยติดต่อกับทุกเครื่องได้


    ซึ่งคนที่จะได้รับเครื่องหลักไปต้องเป็นหัวหน้ากลุ่มเท่านั้น  ซึ่งหน้าที่นี้ได้ยกให้กับ 'วิยดา' ส่วนพวกเราที่เหลือก็เครื่องย่อยไป



    "คำใบ้แรกที่อยู่ของนักษัตรตัวที่ 4 เอาละเริ่มได้ให้เวลาจำกัด 2 ชั่วโมง!



    ปรี๊ด!!!


    ครูดำรงค์เป่านกหวีด  พวกเราจึงวิ่งตรงออกเข้าไปในป่าทันที



    " แยกกันไป 4 กลุ่มนะคงจะรู้กันนะว่าคำใบ้ที่ว่าหมายถึงอะไร!"


      วิยดาตะโกนขึ้นแล้วก็แยกไปกับพวกขวัญข้าวกัน5คน   ผมของตายก็ไปกับพวกวัฒน์นี่แหละ


    ตึก ตึก!


    "คำใบ้ที่ครูเขาพูดหมายถึงอะไรน่ะ?"  ไทยถามขึ้น


    เอี๊ยด!!!


    ทำให้พวกเราต้องหยุดลง..


    "เฮ้อไอ้ไทยเอ๋ยไอ้ไทย......."  กฤตบ่นขึ้นอย่างเซงๆ


    "ปีนักษัตรทั้ง12ไง  แล้วที่ครูเขาพูดว่าที่อยู่นักษัตรตัวที่4  ก็....ชวด  ฉลู ขาล เถาะ....ที่อยู่ของเถาะ  ก็หมายถึงที่อยู่ของกระต่ายไงละ"   ผมอธิบายให้ไอ้ไทยฟัง


    "อ๋อออออออออออ!"  มันอ๋อเสียงสูงจนปวดแก้วหูเลยทีเดียว


    "เอาละถ้ารู้แล้วก็ไปหากันต่อเถอะ  ช่วยกันมองหาถ้ำโพรงเล็กเล็กๆของกระต่าย   เพราะกระต่ายชอบอยู่กันแบบนั้น" 


    วัฒน์พูดขึ้นแล้วเดินออกไป  กฤตกับพลและไทนที่เกาหัวยิกๆก็เดินตามกันไปด้วย  ผมยิ้มให้กับท่าทางของไอ้ไทย    แต่ก่อนที่ผมจะเดินตามพวกเขาไปผมก็สังเกตุอะไรบางอย่างที่เนินข้างล่างนั่น


    " อ้ะ!"   


    สิ่งที่ผมเห็นก็คือ โพรงของกระต่ายและกระต่ายตัวเล็กตัวนั้น  ที่ผมตกใจมากไม่ใช่เพราะผมดีใจที่เจอโพรงกระต่ายนั่นเป็นคนแรกเพราะยังไงผมไม่ใช่คนแรก   ที่ผมตกใจเพราะคนที่มาเจอโพรงนี้เป็นคนแรกตังหาก


    "ขวัญข้าว"


    "เอ้ะ!"


    ครืด!


    ผมสไลด์ลงไปตามเนินเพื่อไปหาเธอที่กำลังลูบกระต่ายตัวเล็กนั่นอยู่...


    "โถ่....ตกใจหมดนายเองเหรอเมฆ"  เธอยืนขึ้นพร้อมถอนหายใจเล็กๆอย่างโล่งอก


    "ขวัญข้าวเธอได้คำใบ้มาเปล่า...."  ผมถามเธอ


    "อะ...อือได้มาแล้ว"  เธอพูดอย่างอ้ำๆอึ้งๆ


    " อะ ฮัลโหลๆทุกคน....อุ้บ!"


     ในขณะที่ผมกำลังจะบอกทุกคนทางทอร์คกี้ทอร์คกี้ว่าผมเจอโพรงกระต่ายพร้อมคำใบ้แล้ว  แต่จู่ๆก็มีอะไรมาครอบปากผมก่อน   มือของขวัญข้าวมาอุดที่ปากผมไว้


    "ฮึ้ย! ทำอะไรของเธอน่ะ!"

     ผมสะบัดหน้าออกจากมือของเธอ  แล้วมองเธอว่าทำไมทำแบบนี้


    "อย่าเพิ่งบอกพวกเขาเลยนะ....."


    "เอ๋....ทำไมละ?"  ผมถามเธออย่างสงสัย



    "ฉันยังไม่อยากไปหาคำใบ้ที่อื่นน่ะ.....อยากจะอยู่กับพวกน้องกระต่ายมากกว่านี้..."


    ...หา!OoO  อะไรกันท่าทีนั่นปกติผมเห็นเธอออกจะเงียบๆ  ชอบทำตัวเย็นชา  ผมจึงไม่คิดว่าเธอมีมุมมองแบบนี้กับเขาด้วย


    "เอ่อ....ไม่เป็นไรหรอกน่าพวกเราค่อยมาเล่นกับพวกมันใหม่ก็ได้ไม่เป็นไรหรอก  ถ้าพวกเรารีบทำกิจกรรมนี่เสร็จเร็ว  ครูดำรงค์เขาอาขให้เวลาพวกเราเล่นอยู่ที่นี่ซักพักก็ได้นะ"  ผมบอกเธอพลางหยิบคำใบ้ออกมาจากมือของเธอ


    "...อือ...เอางั้นก็ได้"


    "งั้นฉันรายงานพวกเขาก่อนนะ"


    ...................................................................................................


    หลังจากที่ผมรายงานเสร็จผมก็บอกคำใบ้ไป  หลังจากนั้นพวกเราก็หาคำใบ้อื่นๆจนถึงอันสุดท้าย  แล้วเราก็ได้สมบัติที่ว่ามาจนได้นั่นคือ....


    "กุญแจนี่นะสมบัติที่ว่า?"  ธันบ่นขึ้นอย่างอารมณ์เสีย


    " เขาคงเอาไปใช้ไขอะไรอีกทีละมั้ง"  'ขุน'  คนที่ชอบอยู่ข้างๆธันตลอดบอกขึ้น  


    ตึก ตึก


    " พวกนายหาเจอแล้วสินะ"   

    พวกวิยดา พวกผมและก็กลุ่มของเดียร์ก็วิ่งมาถึงที่พวกธันเจอสมบัตินั่น


    "อ่า พวกเรารีบไปบอกครูกันเถอะ" 

     ธันพูดขึ้นพวกเราเลยตัดสินใจกลับไปที่ที่เรือจอดเทียบท่า   ซึ่งถือได้ว่าเป็นเส้นชัยของกิจกรรมนี้นั่นเอง 


    .....................................................................................................................................


    พวกเราเอาไปให้ครูดำรงค์จากนั้นครูเลยเรียกกลุ่มที่เหลือให้กลับมา   สรุปผลคือพวกเราชนะ   ครูดำรงค์เลยให้เวลาว่างกับพวกเราเป็นของตอบแทนที่เกาะนี้   ดังนั้นครูจึงเอาช่วงเวลานี้นำกลุ่มที่แพ้กลับไปที่ตั้งเต๊นท์ที่หาดจอมเทียน


    บรืน....


    "หว่าครูไปซะและ  ที่จริงพวกเราอยากกลับไปที่เต๊นท์มากกว่านะเนี่ย.....เฮ้อ" ริณบ่นขึ้น


    " นี่พวกนายเห็นกันรึเปล่า....."  ธันพูดอะไรบางอย่างขึ้นมา


    "เห็นอะไรเหรอ?"  วิยดาที่กำลังเดินเล่นน้ำหันมาถาม  

     

    "..คฤหาสถ์ที่อยู่บนยอดเกาะนี่...."

     ธันพูดขึ้นสีหน้าของเขาดูเหมือนกำลังเช็ดว่าตัวเองเห็นจริงรึเปล่า

     

    "นายจะบ้าเหรอที่นี่ไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรเลยนะ  เพราะที่นี่ไม่มีคนอยู่น่ะสิเป็นแค่ที่มาพักเล่นๆเฉยๆ"   'สายรุ้ง'  เพื่อนสนิทอีกคนของเดียร์พูดขึ้นมา


    "   ใช่ไง....ไม่มีคนอยู่  ฉันว่าที่นั่นน่าจะเป็นคฤหาสถ์ร้าง  ดูจากสภาพที่ดูเก่าครึนั่น"  ธันพูดพลางทำหน้านึกต่อ


    " เธอตาฝาดรึเปล่าที่นี่ไม่น่าจะมีอะไรจริงๆนะ  ฉันเดินมาตั้งนานยังไม่เห็นเลย" วิยดาพูดต่อ


    "แต่ฉันก็เห็นนะวิยดา"


    "เอ้ะ!"

      ไทยยกมือขึ้นพูดพลางทำสีหน้าที่สงสัยว่าทุกคนไม่เห็นกันจริงๆน่ะเหรอ


    ครืน......


    "เอ๋...."


    ซ่า....ซ่า


    "ฝน!


     จู่ๆในขณะที่พวกเรากำลังพูดกันอยู่  เสียงของอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นมาจากบนฟ้า   เมฆเริ่มมารวมกันจนกลายเป็นสีดำ   แล้วท้องฟ้าก็กู่ร้องขึ้นพร้อมกับหยาดฝนที่ร่วงลงมา


    "ว้าย!

    พวกผู้หญิงต่างเอามือมากันที่หัว  แล้วเดินออกมาจากบริเวณน้ำทะเล


    "นายเห็นใช่มั๊ยไทย  งั้นรีบพาพวกเราไปหลบฝนที่นั่นเร็ว!"  ริณวิ่งมาตะโกนใส่ไทย


    " เอ๋?"


    "เอ๋  อะไรเล่าพาพวกเราไปหลบฝนที่คฤหาสน์นั่นเร็ว!"

     

      


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×