คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 7 เกาะไผ่ (รีไรต์)
บทที่ 7 เกาะไผ่
7.00 น.
บรืน.....
เสียงเครื่องยนต์ของเรือเฟอร์รี่ที่บรรทุกคนจำนวนถึง30กว่าคน กลุ่มของพวกเราขึ้นเรือลำที่สองเป็นกลุ่มแรก ไม่น่าเชื่อเลยว่าผลออกมาจะเป็นอย่างนี้ กลุ่มที่จะไปเกาะไผ่มีแค่2กลุ่มเท่านั้น
กลุ่มของเรากับอีกกลุ่มนึง....
พวกเราตอนนี้กำลังมุ่งสู่เกาะไผ่...
ซ่า...ซ่า...
เสียงของใบพัดเรือที่หมุนกระทบกับน้ำทะเล เพื่อดันเรือไปข้างหน้า ถามว่าทำไมกลุ่มที่จะไปเกาะไผ่ถึงมีแค่สองกลุ่ม นั่นไม่ยากเลยเพราะ เกาะไผ่นั้นไม่มีอะไร เป็นแค่สถานที่เล็กๆที่เอาไว้พักหย่อนใจ
ใช่เกาะไผ่นั้นแตกต่างกับเกาะล้านอย่างสิ้นเชิง ทั้งขนาดของเกาะ และสิ่งก่อสร้างต่างๆที่พัก ร้านค้า รีสอร์ทนั้นเกาะไผ่ไม่มีเลย ถ้าถามว่าทำไมพวกครูถึงให้เรามาเลือกทั้งสองเกาะ ครูบอกพวกเราว่าพวกเขาได้ทำกิจกรรมอะไรบางอย่างรอพวกเราไว้แล้ว แล้วกิจกรรมของเกาะทั้งสองเกาะก็ไม่เหมือนกันด้วย
พวกครูบอกว่าคะแนนกลุ่มที่ได้จากกิจกรรมที่เกาะ จะส่งผลถึงคะแนนเก็บปลายภาคเทอม 2 ด้วย
จะว่าโชคดีก็ดีมั้ง จะได้ไม่ต้องสอบเก็บคะแนนกว่าครั้งก่อนๆ
ผมคิดเรื่องอื่นเพื่อให้ผมคิดว่าที่ผมเห็นตอนนั้น มันก็อาจจะแค่เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นหลายครั้งแบบพอดิบพอดี
"ไงละเมฆ หนาวละสิท่าตัวสั่นยิกเลย"
วัฒน์เดินเข้ามาแซวผมที่อยู่ท้ายเรือเฟอร์รี่ ผมที่กำลังยืนกอดตัวเองอย่างหนาวสั่น เพราะผมดันโดดลงทะเลในเวลาเช้าๆแบบนั้น น้ำทะเลที่เย็นจัดแทรกผ่านเข้ามาทางรูขุมขนของผมจนรู้สึกได้ว่ามันเย็นแค่ไหน
"มะ....ไม่เห็นจะเท่าไรเลย...ฮะ...ฮัดเช้ย!!!"
ผมพูดแล้วพอรู้สึกว่าอะไรกำลังจะออกขึ้นมาทางร่างกาย แล้วขึ้นไปยังจมูกผมจามขึ้นพลางมีน้ำใสๆออกมาทางจมูกผมเล็กน้อย...หวัดกินครับผม....-_-lllll
"เฮ้อ แล้วนายจะโดดลงไปทำไมวะ เฮ้อ..."
กฤตมองผมอย่างปวดหัว ตอนนี้ในเรือลำนี้มีแค่กลุ่มของพวกเรา30คน และครูดำรงค์ กับคนขับเรือ
เรือของพวกเราแล่นผ่านมาไกลจากเต๊นท์ของพวกเรามาก ที่เต๊นพวกนั้นก็มีพวกคุณครูที่เหลือดูแลให้จนกว่าพวกเราจะกลับ เพื่อป้องกันคนมาขโมยของภายในเต๊นท์
ฟ้าว.....
เรือของพวกเราตอนนี้แล่นฉิว ผ่านเกาะมาได้หลายเกาะ พวกเราต้องอ้อมไกลเพื่อไปยังเกาะพวกเกาะล้าน เกาะไผ่ ที่จริงเกาะ 2 เกาะนี้ก็ห่างกันไม่มากเท่าไร แต่ถ้าว่ายน้ำข้ามไปคงเหนื่อยตายพอดี
ตอนนี้ผมไปที่เกาะไผ่นั่นด้วยจุดประสงค์อื่น ไม่ใช่เพื่อกิจกรรมอะไรของพวกครูดำรงค์ แต่เพื่อแก้ความสงสัยของผม ผมรู้สึกว่าที่เกาะนั้นต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล ฝันนั่น.....ผู้หญิงคนนั้น
....เธอต้องการบอกอะไรผม เธอต้องการจะบอกว่าอย่าไปเกาะนั้นอย่างงั้นเหรอ ดูจากลักษณะที่ฝันนั้นบอกผม การที่ไปเกาะนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องดีก็ได้ แต่ทำไมละที่นั่นมันไม่น่าจะมีอันตรายอะไรซักหน่อย คนที่อยู่ที่นั่นก็ไม่น่าจะมี......
...แต่ที่แน่ๆถ้าผมไปที่เกาะนั้นมันอาจจะให้ผมรู้อะไรบางอย่างก็ได้
สิ่งที่ทำให้ฝันที่เลวร้ายนี่และเสียงที่คอยหลอกหลอนผมนี่ได้หายไปก็ได้....
7.20 น.
ณ เกาะไผ่
" ในที่สุดก็มาถึงแล้วโว้ย!!"
ไอ้ไทยพอเรือเทียบท่าเข้า มันก็โดดลงจากเรือทันที
" เฮ้ยไอ้ไทยระวัง!"
ตุบ!ตุบ!
พูดไม่ทันขาดคำ ไอ้ไทยก็กลิ้งลงกับพื้นของหาดทราย
"เฮ้อ..."
พลเอามือมาลูบหน้าตัวเองอย่างเซ็งๆ
" ว้าว ที่นี่น้ำสวยจัง!"
ริณอุทานขึ้น เมื่อก้มมองลงจากเรือน้ำสีฟ้าสวยใส ที่มองลงไปก็เห็นว่าภายใต้น้ำนั่นมีอะไรมั่ง ปลาเล็ก ปลาน้อยแหวกว้ายกัน แถมยังมีหาดทรายที่ขาวสะอาดนี่อีก
"เย้ลงกันเลยพวกเรา!"
พวกผู้หญิงต่างพากันวิ่งลงไปอย่างไม่รอช้า และท่าทางเหมือนครูดำรงค์จะพูดอะไรซักอย่างแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันการณ์ เลยปล่อยพวกเธอไป
"เมฆเธอไหวรึเปล่าเนี่ย..."
ขณะที่ผมกำลังนั่งดูทุกคนที่วิ่งลงไปเล่นน้ำกันอยู่บนเรือ ที่จริงผมเองก็กำลังจะลุกแล้วลงไปกับพวกเขาแต่ก็มีเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งดังขึ้นมาก่อน
"เดียร์....อ๋อไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวฉันก็กำลังลงไปนี่ไง" ผมยิ้มตอบเธอ เธอจึงยิ้มกลับแล้วก็เดินลงเรือไป
ตึก ตึก
พอเธอลงไปได้ไม่กี่วินาที ตามที่ผมคาดการณ์ไว้ว่ามันต้องมาพูดอะไรกับผมแน่นอน แค่ไม่รู้ว่าเมื่อไร....
"ธัน......"
ธันเดินมากับพวกเพื่อนของมันอีกเก้าคน สายคาที่มองผมแต่ละคนมีคนเดียวที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง สายตาของคนคนนนี้คนเดียว ที่พร้อมจะซัดผมได้ทุกเมื่อ
ปุบ!
มันลงมานั่งข้างผมบนม้านั่งบนเรือเฟอร์รี่....
"ท่าทางแกจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดก่อนหน้านี้นะ....ไอ้เมฆ" มันจ้องหน้าผมในขณะที่ผมกำลังมองคนอื่นๆที่กำลังเล่นน้ำกัน
" ข้าไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย เดียร์เขามาพูดกับข้าเองตังหาก" ผมหันไปมองมัน
"มีปัญหาอะไรเหรอรึเปล่าธัน"
เสียงๆหนึ่งพูดขึ้นมา......วัฒน์ กฤต และพล พวกเขาเดินขึ้นมาที่เรือแล้วมองไปที่พวกธันด้วยสายตาของแต่ละฝ่ายเหมือนพร้อมประชันกันได้ทุกเมื่อเลยยังไงหยั่งงั้น
" เฮ้พวกเธอทำอะไรกันอยู่นี่ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวครูจะได้ไปรับอีกกลุ่มมาต่อลงไป!" ครูดำรงที่ตอนแรกอยู่ข้างๆคนขับเรือสังเกตุพวกเราแล้วเดินออกมาไล่
"ฮึ....พวกแกอย่ามาซ่าให้มากนะ"
ธันชี้หน้าพวกวัฒน์ก่อนเดินลงจากเรือไป จากนั้นวัฒน์ก็มองมาที่ผมแล้วกวักมือเรียก ผมจึงเดินตามพวกมันไปแล้วก็ลงเรือไปพร้อมกับพวกนั้น
"เอาละเดี๋ยวพวกเธอรอที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวครูจะไปรับอีกกลุ่มมาก่อน แล้วค่อยอธิบายกิจกรรมกัน" ครูดำรงค์พูดจบก็เดินขึ้นเรือ แล้วเรือก็ขับออกไป....
"หวา ไปซะและ เฮ้พวกเรามาทำอะไรกันดีระหว่างรอครูดำรงค์"
ริณเปิดประเด็นขึ้นในขณะที่คนอื่นๆกำลังเล่นน้ำกันรวมไปถึงเดียร์ด้วย อือผมรู้สึกว่าตั้งแต่รวมกลุ่มมานี่ริณเหมือนตัวตั้งตัวตีของกลุ่มเราเลยแฮะ :l
" ตามใจพวกเธอเลย พวกฉันขอผ่านละกันนะ"
วัฒน์เอ่ยขึ้นแล้วเอาแขนมากอดคอผมแล้วพวกเราก็เดินออกไปพร้อมกฤต กับพล ส่วนไอ้ไทยดูท่าจะอยากเล่นกับพวกผู้หญิงเลยรออยู่ตรงนั้น
พวกเราเดินปลีกตัวแยกออกมาแล้วก็เดินอ้อมหาดทรายนี่...
ซ่า...ซ่า
เสียงของคลื่น....ที่กระทบเข้ากับแนวขายหาด ที่นี่คือเกาะไผ่ ที่เป็นที่พักหน่อนใจที่น่าดูชม...
ปึบ!
"เมฆข้าว่าแกบอกมาดีกว่าว่ามีเรื่องอะไรกับพวกธันกันแน่"
วัฒน์เอามือมาจับไหล่ของผม พร้อมกับพวกกฤต และพลที่ดูเหมือนกำลังรอคำตอบจากผมเช่นกัน
"ข้าน่ะ......"
ผมไม่กล้าพูดกับพวกมันเพื่อไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ จนทำให้พวกมันพลอยเจ็บตัวไปด้วย
"ถ้าแกไม่บอกก็ไม่เป็นไร...." กฤตพูดพลางเดินมาทางผมกับวัฒน์
"เฮ้ยไหงพูดงั้นละ!" วัฒน์อุทานขึ้น
" แต่ถ้าพวกธันมันทำอะไรนายละก็ พวกเราก็ไม่อยู่เฉยให้พวกมันทำอะไรนายแน่ ถึงแม้พวกเราจะสู้มันไม่ได้ก็เถอะ" กฤตกอดอกพูดขึ้นโดยหันหลังพูดกับผม...คิดว่าเท่นักรึไงฟะ-_-
"เออก็ตามที่ไอ้กฤตพูดแหละ ถ้ามีปัญหาพึ่งพวกเราได้เสอนะเมฆ พวกเราเพื่อนกันนี่"
พลกอดคอกับกฤตแล้วมองมาที่ผม วัฒน์มองพวกมันพลางส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ
"เออ....ขอบคุณว่ะ" ผมยิ้มให้พวกมัน
20 นาทีผ่านไป....
ครูดำรงค์ก็พากลุ่มที่ 2มา แล้วเขาจึงเริ่มอธิบายกิจกรรมให้ฟัง....
กิจกรรมนี้ครูเขาตั้งว่า'กิจกรรมหาสมบัติ' กติกาการกิจกรรมานี้ก็คือ ครูเขาจะพูดคำใบ้มาหนึ่งอย่างแล้วให้เรามองหารอบเกาะที่เกี่ยวข้องกับคำใบ้นั้น
แล้วสิ่งที่มีความหมายตรงกับคำใบ้นั้นก็จะมีกระดาษอยู่แผ่นนึง แล้วกระดาษแผ่นนั้นก็จะบอกคำใบ้มาอีกป็นหยั่งงี้เรื่อยจนถึงแผ่นสุดท้ายที่จะบอกที่ซ่อนของสมบัตินั้น
และกระดาษคำใบ้จะมีอยู่2ใบเพื่อให้ทั้งสองกลุ่มหยิบไปดูหาแผ่นต่อไปได้ กลุ่มไหนหาเจอสมบัติก่อนก็ชนะ ....ฮึ...มันราวกับว่าเราเป็นโจรสลัดมาหาสมบัติที่เกาะเลยแฮะ- -
ถ้าพูดถึงโจรสลัด....ก็วันพีชเล่มใหม่จะออกมารึยังน้า....อยากกลับไปอ่านเร็วๆจังTT
แต่ที่น่าสนุกของเกมนี้ก็คือ ครูเขาให้ 'ทอร์คกี้ทอร์คกี้' มาด้วยเครื่องที่เอาไว้สื่อสารกัน แต่แบบที่ครูเขาให้จะเป็นแต่ละเครื่องติดต่อไปยังเครื่องกลาง หมายความว่าเครื่องทุกเครื่องที่เป็นเครื่องย่อยจะสื่อสารได้กับเครื่องหลักเท่านั้น ส่วนเครื่องหลักจะสามารถคุยติดต่อกับทุกเครื่องได้
ซึ่งคนที่จะได้รับเครื่องหลักไปต้องเป็นหัวหน้ากลุ่มเท่านั้น ซึ่งหน้าที่นี้ได้ยกให้กับ 'วิยดา' ส่วนพวกเราที่เหลือก็เครื่องย่อยไป
"คำใบ้แรกที่อยู่ของนักษัตรตัวที่ 4 เอาละเริ่มได้ให้เวลาจำกัด 2 ชั่วโมง!"
ปรี๊ด!!!
ครูดำรงค์เป่านกหวีด พวกเราจึงวิ่งตรงออกเข้าไปในป่าทันที
" แยกกันไป 4 กลุ่มนะคงจะรู้กันนะว่าคำใบ้ที่ว่าหมายถึงอะไร!"
วิยดาตะโกนขึ้นแล้วก็แยกไปกับพวกขวัญข้าวกัน5คน ผมของตายก็ไปกับพวกวัฒน์นี่แหละ
ตึก ตึก!
"คำใบ้ที่ครูเขาพูดหมายถึงอะไรน่ะ?" ไทยถามขึ้น
เอี๊ยด!!!
ทำให้พวกเราต้องหยุดลง..
"เฮ้อไอ้ไทยเอ๋ยไอ้ไทย......." กฤตบ่นขึ้นอย่างเซงๆ
"ปีนักษัตรทั้ง12ไง แล้วที่ครูเขาพูดว่าที่อยู่นักษัตรตัวที่4 ก็....ชวด ฉลู ขาล เถาะ....ที่อยู่ของเถาะ ก็หมายถึงที่อยู่ของกระต่ายไงละ" ผมอธิบายให้ไอ้ไทยฟัง
"อ๋อออออออออออ!" มันอ๋อเสียงสูงจนปวดแก้วหูเลยทีเดียว
"เอาละถ้ารู้แล้วก็ไปหากันต่อเถอะ ช่วยกันมองหาถ้ำโพรงเล็กเล็กๆของกระต่าย เพราะกระต่ายชอบอยู่กันแบบนั้น"
วัฒน์พูดขึ้นแล้วเดินออกไป กฤตกับพลและไทนที่เกาหัวยิกๆก็เดินตามกันไปด้วย ผมยิ้มให้กับท่าทางของไอ้ไทย แต่ก่อนที่ผมจะเดินตามพวกเขาไปผมก็สังเกตุอะไรบางอย่างที่เนินข้างล่างนั่น
" อ้ะ!"
สิ่งที่ผมเห็นก็คือ โพรงของกระต่ายและกระต่ายตัวเล็กตัวนั้น ที่ผมตกใจมากไม่ใช่เพราะผมดีใจที่เจอโพรงกระต่ายนั่นเป็นคนแรกเพราะยังไงผมไม่ใช่คนแรก ที่ผมตกใจเพราะคนที่มาเจอโพรงนี้เป็นคนแรกตังหาก
"ขวัญข้าว"
"เอ้ะ!"
ครืด!
ผมสไลด์ลงไปตามเนินเพื่อไปหาเธอที่กำลังลูบกระต่ายตัวเล็กนั่นอยู่...
"โถ่....ตกใจหมดนายเองเหรอเมฆ" เธอยืนขึ้นพร้อมถอนหายใจเล็กๆอย่างโล่งอก
"ขวัญข้าวเธอได้คำใบ้มาเปล่า...." ผมถามเธอ
"อะ...อือได้มาแล้ว" เธอพูดอย่างอ้ำๆอึ้งๆ
" อะ ฮัลโหลๆทุกคน....อุ้บ!"
ในขณะที่ผมกำลังจะบอกทุกคนทางทอร์คกี้ทอร์คกี้ว่าผมเจอโพรงกระต่ายพร้อมคำใบ้แล้ว แต่จู่ๆก็มีอะไรมาครอบปากผมก่อน มือของขวัญข้าวมาอุดที่ปากผมไว้
"ฮึ้ย! ทำอะไรของเธอน่ะ!"
ผมสะบัดหน้าออกจากมือของเธอ แล้วมองเธอว่าทำไมทำแบบนี้
"อย่าเพิ่งบอกพวกเขาเลยนะ....."
"เอ๋....ทำไมละ?" ผมถามเธออย่างสงสัย
"ฉันยังไม่อยากไปหาคำใบ้ที่อื่นน่ะ.....อยากจะอยู่กับพวกน้องกระต่ายมากกว่านี้..."
...หา!OoO อะไรกันท่าทีนั่นปกติผมเห็นเธอออกจะเงียบๆ ชอบทำตัวเย็นชา ผมจึงไม่คิดว่าเธอมีมุมมองแบบนี้กับเขาด้วย
"เอ่อ....ไม่เป็นไรหรอกน่าพวกเราค่อยมาเล่นกับพวกมันใหม่ก็ได้ไม่เป็นไรหรอก ถ้าพวกเรารีบทำกิจกรรมนี่เสร็จเร็ว ครูดำรงค์เขาอาขให้เวลาพวกเราเล่นอยู่ที่นี่ซักพักก็ได้นะ" ผมบอกเธอพลางหยิบคำใบ้ออกมาจากมือของเธอ
"...อือ...เอางั้นก็ได้"
"งั้นฉันรายงานพวกเขาก่อนนะ"
...................................................................................................
หลังจากที่ผมรายงานเสร็จผมก็บอกคำใบ้ไป หลังจากนั้นพวกเราก็หาคำใบ้อื่นๆจนถึงอันสุดท้าย แล้วเราก็ได้สมบัติที่ว่ามาจนได้นั่นคือ....
"กุญแจนี่นะสมบัติที่ว่า?" ธันบ่นขึ้นอย่างอารมณ์เสีย
" เขาคงเอาไปใช้ไขอะไรอีกทีละมั้ง" 'ขุน' คนที่ชอบอยู่ข้างๆธันตลอดบอกขึ้น
ตึก ตึก
" พวกนายหาเจอแล้วสินะ"
พวกวิยดา พวกผมและก็กลุ่มของเดียร์ก็วิ่งมาถึงที่พวกธันเจอสมบัตินั่น
"อ่า พวกเรารีบไปบอกครูกันเถอะ"
ธันพูดขึ้นพวกเราเลยตัดสินใจกลับไปที่ที่เรือจอดเทียบท่า ซึ่งถือได้ว่าเป็นเส้นชัยของกิจกรรมนี้นั่นเอง
.....................................................................................................................................
พวกเราเอาไปให้ครูดำรงค์จากนั้นครูเลยเรียกกลุ่มที่เหลือให้กลับมา สรุปผลคือพวกเราชนะ ครูดำรงค์เลยให้เวลาว่างกับพวกเราเป็นของตอบแทนที่เกาะนี้ ดังนั้นครูจึงเอาช่วงเวลานี้นำกลุ่มที่แพ้กลับไปที่ตั้งเต๊นท์ที่หาดจอมเทียน
บรืน....
"หว่าครูไปซะและ ที่จริงพวกเราอยากกลับไปที่เต๊นท์มากกว่านะเนี่ย.....เฮ้อ" ริณบ่นขึ้น
" นี่พวกนายเห็นกันรึเปล่า....." ธันพูดอะไรบางอย่างขึ้นมา
"เห็นอะไรเหรอ?" วิยดาที่กำลังเดินเล่นน้ำหันมาถาม
"..คฤหาสถ์ที่อยู่บนยอดเกาะนี่...."
ธันพูดขึ้นสีหน้าของเขาดูเหมือนกำลังเช็ดว่าตัวเองเห็นจริงรึเปล่า
"นายจะบ้าเหรอที่นี่ไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรเลยนะ เพราะที่นี่ไม่มีคนอยู่น่ะสิเป็นแค่ที่มาพักเล่นๆเฉยๆ" 'สายรุ้ง' เพื่อนสนิทอีกคนของเดียร์พูดขึ้นมา
" ใช่ไง....ไม่มีคนอยู่ ฉันว่าที่นั่นน่าจะเป็นคฤหาสถ์ร้าง ดูจากสภาพที่ดูเก่าครึนั่น" ธันพูดพลางทำหน้านึกต่อ
" เธอตาฝาดรึเปล่าที่นี่ไม่น่าจะมีอะไรจริงๆนะ ฉันเดินมาตั้งนานยังไม่เห็นเลย" วิยดาพูดต่อ
"แต่ฉันก็เห็นนะวิยดา"
"เอ้ะ!"
ไทยยกมือขึ้นพูดพลางทำสีหน้าที่สงสัยว่าทุกคนไม่เห็นกันจริงๆน่ะเหรอ
ครืน......
"เอ๋...."
ซ่า....ซ่า
"ฝน!"
จู่ๆในขณะที่พวกเรากำลังพูดกันอยู่ เสียงของอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นมาจากบนฟ้า เมฆเริ่มมารวมกันจนกลายเป็นสีดำ แล้วท้องฟ้าก็กู่ร้องขึ้นพร้อมกับหยาดฝนที่ร่วงลงมา
"ว้าย!"
พวกผู้หญิงต่างเอามือมากันที่หัว แล้วเดินออกมาจากบริเวณน้ำทะเล
"นายเห็นใช่มั๊ยไทย งั้นรีบพาพวกเราไปหลบฝนที่นั่นเร็ว!" ริณวิ่งมาตะโกนใส่ไทย
" เอ๋?"
"เอ๋ อะไรเล่าพาพวกเราไปหลบฝนที่คฤหาสน์นั่นเร็ว!"
ความคิดเห็น