ลำดับตอนที่ #51
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #51 : บทที่ 50 ต้องเลือก
บทที่ 50 : ต้องเลือก
แหมะ...
ติ๊ง...
"อือ..."
ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด ได้ยินเพรยงแต่เสียงของหนดน้ำที่หยดลงกระทบกับอะไรบางอย่าง
"......"
มันคือใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังนอนอยู่บนพื้นห้องๆนึงที่มืดสงัด มีเพียงแต่แสงของฟ้าแลบข้างนอกของอาคารเท่านั้น ที่ช่วยพอเยียวยาบรรเทาให้ความมืดมิดนี้ผ่อนเบาไปบ้าง
"...ที่นี่มัน"
เด็กหนุ่มหลังจากปรือตาขึ้นมาก็พบกับว่าตัวเองอยู่ในห้องๆนึง ไม่ใช่สวนข้างนอกของคฤหาสถ์อีกแล้ว
"เรามาที่นี่ได้ยังไงกัน...เราน่าจะกำลังสู้กับฆาตกรทั้งสองนั่นนี่นา"
เด็กหนุ่มลุกขึ้นมานั่งพร้อมหนี่ตาลงนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เขาจำได้ว่าตนเองกำลังสู้อยู่กับฆาตกรถือค้อน เขาตอนนั้นคำนวนในใจมาอย่างดีแล้วว่าสามารถชนะฆาตกรได้
เพราะจุดอ่อนของพวกมันที่ว่า...ตาบอด มันจึงมีดึแค่การฟังเท่านั้นและเขาก็จำได้ว่ามันเคลื่อนไหวตามเสียงได้ลำบาก เพราะตอนนั้นมันอยู่ข้างนอกคฤหาสถ์ที่มีฝนตกหนัก
นั่นจึงทำให้ประสาทการรับฟังของมัน ไม่สามารถใช้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์...
"หรือว่านี่จะเป็นมิติของแม่ของแมรี่อย่างงั้นเหรอ..."
เด็กหนุ่มพยุงตัวขึ้นมา พร้อมมองสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเองก่อนจะพูดสมมติฐานขึ้น แต่ไม่ทันที่เขาจะได้คำตอบอะไร ก็มีเสียงคนคนนึงดังขึ้น
"ตื่นแล้วสินะ..."
"ใครน่ะ!"
เมฆพอได้ยินเสียงของคนที่ไม่คุ้นหูดังขึ้น เขาก็ขมวดคิ้วตะโกนถามกลับทันทีด้วยสีหน้าตกใจ เพราะเสียงของมันดังทั่วทุกที่ของห้องที่เขาอยู่ ทำให้ระบุไม่ได้ว่าเจ้าของเสียงอยู่ที่ไหน
"ฉันว่าเธอเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะว่าฉัน...ไม่สิ...พวกเราคือใคร"
เสียงนั่นตอบกลับมา เมฆที่ได้ฟังก็ขมวดคิ้วกับน้ำเสียงที่ดูมีลับลมคมในนั่น ก่อนเขาจะหรี่ตาลงเพราะพอจะเดาออกแล้วว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร
"อ่อ...พวกนักวิทยาศาสตร์เดนมนุษย์สินะ"
เมฆพูดพร้อมกับจ้องด้วยสายตาอาฆาตไปทั่วทุกมุมห้อง เพราะเขาแน่ใจว่ามันต้องมีพวกกล้องจับภาพของเขาอยู่ที่นี่แน่
แต่พอสิ้นสุดคำพูดของเขา...
เปรี๊ยะ...เปรี๊ยะ
"หือ?"
เปรี้ยง!!
"อ๊าก!!!"
ทั่วทุกมุมห้องที่มืดมิดจู่ๆก็สว่างวาบขึ้นมาด้วยแสงสีฟ้าที่เป็นเส้นหยักๆไปมา มันคือกระแสไฟฟ้านั่นเอง กระแสไฟฟ้าทั่วทุกมุมห้องแผ่พุ่งตรงไปเข้าร่างของเมฆ เมฆร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดเพราะระบบประสาทที่ดีผิดมนุษย์มนาจากการทดลองอาจไม่ใช่ผลดีเสมอไป...
เพราะระบบประสาทที่ทำงานได้ดีมากกว่าเดิม ก็จะทำให้เขารับรู้ความเจ็บปวดมากกว่าเดิม
ซู่ว...
ราวกับมีไออะไรบางอย่างออกมาจากตัวเขา เมฆที่โดนเข้าไปเต็มๆก็ถึงกับทรุดลงกองกับพื้น
"ดูท่าเธอจะยังไม่รู้จุดยืนของตัวเองนะ ผู้ทดลอง001 แต่ไม่ต้องห่วงพวกเราไม่ได้มีเป้าหมายหลักคือการฆ่าเธอหรอก เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าพวกเราจะช๊อตเธอจนตาย"
กลุ่มเจ้าของเสียงปริศนาที่เมฆเดาว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทดลองก็พูดขึ้นต่อ หลังจากเห็นว่าเมฆยอมสงบปากสงบคำในที่สุด
"อึ้ก...เวรเอ๊ย"
เมฆพอร่างกายรับรู้ว่ากระแสไฟฟ้าได้หยุดลงแล้ว จึงค่อยๆขยับประคองร่างกายที่ชาไปทั้งตัวขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ก่อนจะกัดฟันแล้วถามขึ้นต่อกับเจ้าของเสียงปริศนา
"พวกแกทำแบบนี้เพื่ออะไร! ทำไมต้องลากพวกคนอื่นๆที่ไม่ได้ถูกทดลองมาเกี่ยวข้องด้วย! ทำไมไม่ส่งแค่ฉันคนเดียวมาที่นี่ละวะ!!!"
เมฆตะโกนลั่นออกมาด้วยความโกรธแค้นและเจ็บใจ เมื่อตัวเขาลองนึกไปว่าต้องมีเพื่อนร่วมชั้นของเขากี่คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องต้องมาตายที่นี่
"เด็กพวกนั้นน่ะเหรอ...ก็แค่เป็นส่วนประกอบนึงที่ต้องใส่เข้ามาในสมการ เพื่อให้เป็นการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทของพวกเธอก็เท่านั้นเอง...."
ตึง!!
"พวกเค้าไม่ใช่ส่วนประกอบอะไรทั้งนั้น ไอ้พวกนักวิทยาศาสตร์สวะ!ฉันจะพาพวกเขาออกจากที่นี่ให้ได้และหลังจากนั้น...ฉันก็จะฆ่าพวกแก สับพวกแก หั่นพวกแกเป็นชิ้นๆเลยคอยดู!!"
กึกๆ....
"........"
เมฆตะคอกกลับด้วยความเดือดดาล เสียงอันดังลั่นของเขาก้องไปทั่วพร้อมกับอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นตามแต่เขาไม่ทันสังเกต มีเพียงแต่เจ้าของกลุ่มเสียงปริศนาเท่านั้นที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนั่น
พวกเขายิ้มเล็กๆที่มุมปาก ก่อนจะเริ่มทำสิ่งที่วาดแผนไว้ในใจออกมา
"หึ นี่ก็คือเหตุผลอีกอย่างที่พวกเราพาเธอมาที่นี่นอกจากเหตุผลที่ว่า....เธอจะทำลายยมทูตของพวกเรา เพราะพวกเราคิดว่าคงแย่แน่ถ้าเหล่ายมทูตของ
'ยมทูต...หมายถึงพวกฆาตกรนั่นสินะ'
เมฆคิดในใจ เมื่อได้ยินชื่อที่ดูเหมือนจะมาแทนบุคคลกลุมหนึ่งขึ้นมา ซึ่งนั่นก็คือเหล่าฆาตกรนั่นเอง
"เหตุผลอะไรของแก..."
เมฆสวนคำพูดต่อ แต่ด้วยท่าทางที่เยือกเยนกว่าเดิมเพราะเขาเริ่มจับเค้าได้ว่ามันเริ่มจะทำการอะไรยางอย่างแล้ว
"ก็...ที่ว่าเธอจะทำได้จริงรึเปล่าไง...ที่จะช่วยเพื่อนทุกคนน่ะ หึ หึ"
กึง กึง!
ครืน...
"อ้ะ!"
สิ้นสุดเสียงของกลุ่มเสียงปริศนา จู่ๆด้านหน้าของเมฆก็สว่างขึ้น มันคือปรัตูเลื่อนอัตโนมัติขนาดใหญ่ แต่ที่เมฆตกใจไม่ใช่เพราะว่ามันมีประตูกลขนาดใหญ่อยู่ที่นี่ได้ยังไง
แต่เป็น...
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าต่างหาก...พอประตูเปิดออกก็มีทางเดินไปซ้ายกับไปขวาส่วนข้างหน้าของเขา มีแผงควบคุมอะไรบางอย่างและข้างหน้าแผงควบคุมนั่นก็มีห้องกระจกและคนที่อยู่ในห้องนั้นถึง 2คนซึ่งกำลังถูกมัดกับไม้กางเขนขนาดใหญ่ทั้งสอง
พวกเขาถูกถุงคลุมปิดบังใบหน้าทำให้ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่ทั้งสองคนเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน...
เพราะดูจากหุ่นพวกเธอและเสื้อผ้าที่พวกมันเหลือให้เธอใส่แค่ชุดชั้นในของผู้หญิงเท่านั้น
ข้างหน้าพวกเธอมีรางอะไรบางอย่าง มีอยู่3ทาง ทางที่ตรงไปที่ผู้หญิงคนขวา ทางที่ไปผู้หญิงคนซ้าย และทางตรงกลางที่แทรกระหว่างพวกเธอทั้งสอง
"อ้ะ!"
เมฆมองไล่ลงมาเรื่อยจนเห็นปลายสุด ไม่สิจุดเริ่มต้นของรางทั้งสามทาง...
มีใบเลื่อยวงกลมขนาดใหญ่แผ่นนึงตั้งอยู่รางเลนกลาง เมฆมองใบเลื่อยสลับกับผู้หญิงทั้งสองคนนั้น
"ละ...หรือว่าแกจะ"
เขาเบิกตาโพลงขึ้น เมื่อพอเดาได้แล้วว่ามันต้องการจะทำอะไร
คะ...ครืน!
แอ๊น...แอ๊น!
ไม่ทันที่เมฆจะได้คำตอบอะไร จู่ๆใบเลื่อยนั่นก็ทำงานขึ้น พร้อมไฟแผงวงจรตรงหน้าของเขาก็สว่างขึ้นมา
พร้อมกับเสียงบอกคำตอบของกลุ่มเจ้าของปริศนา...
"ใช่เธอต้องเลือกช่วยเพื่อนผู้หญิงหนึ่งคนของเธอจากทั้งสองคนนี้ โดยการเลื่อนที่สับแผงวงจรนั่นไปเลนของรางของเพื่อนผู้หญิงที่นายไม่ต้องการ และถ้านายไม่เลือกซักทางเลย...
ใบเลื่อยนั่นก็จะเข้าตรงกลางแล้วก็ผ่าครึ่งทั้งสองคนทันที..."
"!!!"
เมฆเบิกตาโพลงขึ้นเมื่อได้ฟังคำพูดของพวกมัน...
"แกไอ้ชาติชั่ว..."
แอ๊น...แอ๊น
"...."
เมฆกัดฟันสบถเบาๆด้วยความเจ็บใจ เขากำหมัดแน่นพร้อมมองเด็กผู้หญิงสองคนตรงหน้า
อึก...
'จะทำไงดี...จะทำไงดี สองคนนี้ใครกันใช่กลุ่มของพวกเรารึเปล่า ไม่...ไม่น่าใช่พวกเขาไม่น่าตะอยู่ที่นี่หรือว่าเป็นหน่อยที่ไปกับพวกขุนหรือใครที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่...ไม่สิเราต้องหาทางช่วยทั้งสองคนสิ'
แอ๊น...แอ๊น
'ไม่มีทางเลยเหรอๆ! ใบเลื่อยนั่นจะเข้าไปเลนตรงกลางแล้ว คิดสิวะเมฆๆๆ...เอ๊ะ!'
แปล๊บ!
"โอ๊ย!"
ชิ้ง!
'อะไรกันจู่ๆก็เข้ามาในนิมิต...!!'
เมฆที่จู่ๆปวดหัวแปล๊บและพอลืมตาขึ้น ก็พบกับภาพลางบอกเหตุบางอย่างที่ทำให้หัวใจของเขาหยุดเต้น
ภาพหญิงสาวคนนึงโดนใบเลื่อยหั่นจนขาดสองท่อน ลำไส้ที่ตกพรวดๆลงมายั้วะเยี้ยนั่นไม่ได้เป็นจุดสนใจสำหรับเมฆในตอนนี้เลย...
เพราะเขากำลังมองใบหน้าผู้หญิงคนนี้ เขาถึงกับตาค้างพูดอะไรไม่ออก หัวใจหยุดเต้น มือไม้ของเขาสั่นระริก เมื่อเขาเห็นว่าเธอคนนี้จะ....
"เออ...พวกเราลืมบอกเธอไป หนึ่งในสองคนนี้มีผู้หญิงที่ชอบไปไหนมาไหนกับเธอมาตลอดคนนั้นด้วยนะ...รู้สึกจะชื่อ...
ขวัญข้าวใช่มั๊ย...."
ปล.คอมเม้นเยอะนะๆๆๆๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น