ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ALIVE or DEAD

    ลำดับตอนที่ #51 : บทที่ 50 ต้องเลือก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 129
      1
      23 มี.ค. 59

     บทที่ 50 : ต้องเลือก



    แหมะ...


    ติ๊ง...



    "อือ..."


    ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด ได้ยินเพรยงแต่เสียงของหนดน้ำที่หยดลงกระทบกับอะไรบางอย่าง 


    "......"


     มันคือใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังนอนอยู่บนพื้นห้องๆนึงที่มืดสงัด มีเพียงแต่แสงของฟ้าแลบข้างนอกของอาคารเท่านั้น ที่ช่วยพอเยียวยาบรรเทาให้ความมืดมิดนี้ผ่อนเบาไปบ้าง



    "...ที่นี่มัน"


    เด็กหนุ่มหลังจากปรือตาขึ้นมาก็พบกับว่าตัวเองอยู่ในห้องๆนึง ไม่ใช่สวนข้างนอกของคฤหาสถ์อีกแล้ว



    "เรามาที่นี่ได้ยังไงกัน...เราน่าจะกำลังสู้กับฆาตกรทั้งสองนั่นนี่นา" 


    เด็กหนุ่มลุกขึ้นมานั่งพร้อมหนี่ตาลงนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เขาจำได้ว่าตนเองกำลังสู้อยู่กับฆาตกรถือค้อน เขาตอนนั้นคำนวนในใจมาอย่างดีแล้วว่าสามารถชนะฆาตกรได้


    เพราะจุดอ่อนของพวกมันที่ว่า...ตาบอด มันจึงมีดึแค่การฟังเท่านั้นและเขาก็จำได้ว่ามันเคลื่อนไหวตามเสียงได้ลำบาก เพราะตอนนั้นมันอยู่ข้างนอกคฤหาสถ์ที่มีฝนตกหนัก


    นั่นจึงทำให้ประสาทการรับฟังของมัน ไม่สามารถใช้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์...



    "หรือว่านี่จะเป็นมิติของแม่ของแมรี่อย่างงั้นเหรอ..."


    เด็กหนุ่มพยุงตัวขึ้นมา พร้อมมองสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเองก่อนจะพูดสมมติฐานขึ้น แต่ไม่ทันที่เขาจะได้คำตอบอะไร ก็มีเสียงคนคนนึงดังขึ้น




    "ตื่นแล้วสินะ..."


    "ใครน่ะ!"


    เมฆพอได้ยินเสียงของคนที่ไม่คุ้นหูดังขึ้น เขาก็ขมวดคิ้วตะโกนถามกลับทันทีด้วยสีหน้าตกใจ เพราะเสียงของมันดังทั่วทุกที่ของห้องที่เขาอยู่ ทำให้ระบุไม่ได้ว่าเจ้าของเสียงอยู่ที่ไหน



    "ฉันว่าเธอเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะว่าฉัน...ไม่สิ...พวกเราคือใคร" 


    เสียงนั่นตอบกลับมา เมฆที่ได้ฟังก็ขมวดคิ้วกับน้ำเสียงที่ดูมีลับลมคมในนั่น ก่อนเขาจะหรี่ตาลงเพราะพอจะเดาออกแล้วว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร



    "อ่อ...พวกนักวิทยาศาสตร์เดนมนุษย์สินะ"


    เมฆพูดพร้อมกับจ้องด้วยสายตาอาฆาตไปทั่วทุกมุมห้อง เพราะเขาแน่ใจว่ามันต้องมีพวกกล้องจับภาพของเขาอยู่ที่นี่แน่


    แต่พอสิ้นสุดคำพูดของเขา...



    เปรี๊ยะ...เปรี๊ยะ


    "หือ?"


    เปรี้ยง!!



    "อ๊าก!!!"


    ทั่วทุกมุมห้องที่มืดมิดจู่ๆก็สว่างวาบขึ้นมาด้วยแสงสีฟ้าที่เป็นเส้นหยักๆไปมา มันคือกระแสไฟฟ้านั่นเอง กระแสไฟฟ้าทั่วทุกมุมห้องแผ่พุ่งตรงไปเข้าร่างของเมฆ เมฆร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดเพราะระบบประสาทที่ดีผิดมนุษย์มนาจากการทดลองอาจไม่ใช่ผลดีเสมอไป...


    เพราะระบบประสาทที่ทำงานได้ดีมากกว่าเดิม ก็จะทำให้เขารับรู้ความเจ็บปวดมากกว่าเดิม



    ซู่ว...


    ราวกับมีไออะไรบางอย่างออกมาจากตัวเขา เมฆที่โดนเข้าไปเต็มๆก็ถึงกับทรุดลงกองกับพื้น



    "ดูท่าเธอจะยังไม่รู้จุดยืนของตัวเองนะ ผู้ทดลอง001 แต่ไม่ต้องห่วงพวกเราไม่ได้มีเป้าหมายหลักคือการฆ่าเธอหรอก เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าพวกเราจะช๊อตเธอจนตาย"


    กลุ่มเจ้าของเสียงปริศนาที่เมฆเดาว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทดลองก็พูดขึ้นต่อ หลังจากเห็นว่าเมฆยอมสงบปากสงบคำในที่สุด


    "อึ้ก...เวรเอ๊ย"


    เมฆพอร่างกายรับรู้ว่ากระแสไฟฟ้าได้หยุดลงแล้ว จึงค่อยๆขยับประคองร่างกายที่ชาไปทั้งตัวขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ก่อนจะกัดฟันแล้วถามขึ้นต่อกับเจ้าของเสียงปริศนา


    "พวกแกทำแบบนี้เพื่ออะไร! ทำไมต้องลากพวกคนอื่นๆที่ไม่ได้ถูกทดลองมาเกี่ยวข้องด้วย! ทำไมไม่ส่งแค่ฉันคนเดียวมาที่นี่ละวะ!!!"


    เมฆตะโกนลั่นออกมาด้วยความโกรธแค้นและเจ็บใจ เมื่อตัวเขาลองนึกไปว่าต้องมีเพื่อนร่วมชั้นของเขากี่คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องต้องมาตายที่นี่



    "เด็กพวกนั้นน่ะเหรอ...ก็แค่เป็นส่วนประกอบนึงที่ต้องใส่เข้ามาในสมการ เพื่อให้เป็นการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทของพวกเธอก็เท่านั้นเอง...."


    ตึง!!


    "พวกเค้าไม่ใช่ส่วนประกอบอะไรทั้งนั้น ไอ้พวกนักวิทยาศาสตร์สวะ!ฉันจะพาพวกเขาออกจากที่นี่ให้ได้และหลังจากนั้น...ฉันก็จะฆ่าพวกแก สับพวกแก หั่นพวกแกเป็นชิ้นๆเลยคอยดู!!"


    กึกๆ....



    "........"


    เมฆตะคอกกลับด้วยความเดือดดาล เสียงอันดังลั่นของเขาก้องไปทั่วพร้อมกับอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นตามแต่เขาไม่ทันสังเกต มีเพียงแต่เจ้าของกลุ่มเสียงปริศนาเท่านั้นที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนั่น


    พวกเขายิ้มเล็กๆที่มุมปาก ก่อนจะเริ่มทำสิ่งที่วาดแผนไว้ในใจออกมา



    "หึ นี่ก็คือเหตุผลอีกอย่างที่พวกเราพาเธอมาที่นี่นอกจากเหตุผลที่ว่า....เธอจะทำลายยมทูตของพวกเรา เพราะพวกเราคิดว่าคงแย่แน่ถ้าเหล่ายมทูตของ


    'ยมทูต...หมายถึงพวกฆาตกรนั่นสินะ'


    เมฆคิดในใจ เมื่อได้ยินชื่อที่ดูเหมือนจะมาแทนบุคคลกลุมหนึ่งขึ้นมา ซึ่งนั่นก็คือเหล่าฆาตกรนั่นเอง


    "เหตุผลอะไรของแก..."


    เมฆสวนคำพูดต่อ แต่ด้วยท่าทางที่เยือกเยนกว่าเดิมเพราะเขาเริ่มจับเค้าได้ว่ามันเริ่มจะทำการอะไรยางอย่างแล้ว



    "ก็...ที่ว่าเธอจะทำได้จริงรึเปล่าไง...ที่จะช่วยเพื่อนทุกคนน่ะ หึ หึ"


    กึง กึง!


    ครืน...



    "อ้ะ!"


    สิ้นสุดเสียงของกลุ่มเสียงปริศนา จู่ๆด้านหน้าของเมฆก็สว่างขึ้น มันคือปรัตูเลื่อนอัตโนมัติขนาดใหญ่ แต่ที่เมฆตกใจไม่ใช่เพราะว่ามันมีประตูกลขนาดใหญ่อยู่ที่นี่ได้ยังไง


    แต่เป็น...


    ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าต่างหาก...พอประตูเปิดออกก็มีทางเดินไปซ้ายกับไปขวาส่วนข้างหน้าของเขา มีแผงควบคุมอะไรบางอย่างและข้างหน้าแผงควบคุมนั่นก็มีห้องกระจกและคนที่อยู่ในห้องนั้นถึง 2คนซึ่งกำลังถูกมัดกับไม้กางเขนขนาดใหญ่ทั้งสอง


    พวกเขาถูกถุงคลุมปิดบังใบหน้าทำให้ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่ทั้งสองคนเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน...


    เพราะดูจากหุ่นพวกเธอและเสื้อผ้าที่พวกมันเหลือให้เธอใส่แค่ชุดชั้นในของผู้หญิงเท่านั้น


    ข้างหน้าพวกเธอมีรางอะไรบางอย่าง มีอยู่3ทาง ทางที่ตรงไปที่ผู้หญิงคนขวา ทางที่ไปผู้หญิงคนซ้าย และทางตรงกลางที่แทรกระหว่างพวกเธอทั้งสอง


    "อ้ะ!"


    เมฆมองไล่ลงมาเรื่อยจนเห็นปลายสุด ไม่สิจุดเริ่มต้นของรางทั้งสามทาง...


    มีใบเลื่อยวงกลมขนาดใหญ่แผ่นนึงตั้งอยู่รางเลนกลาง เมฆมองใบเลื่อยสลับกับผู้หญิงทั้งสองคนนั้น



    "ละ...หรือว่าแกจะ"


     เขาเบิกตาโพลงขึ้น เมื่อพอเดาได้แล้วว่ามันต้องการจะทำอะไร



    คะ...ครืน!


    แอ๊น...แอ๊น!


    ไม่ทันที่เมฆจะได้คำตอบอะไร จู่ๆใบเลื่อยนั่นก็ทำงานขึ้น พร้อมไฟแผงวงจรตรงหน้าของเขาก็สว่างขึ้นมา

    พร้อมกับเสียงบอกคำตอบของกลุ่มเจ้าของปริศนา...



    "ใช่เธอต้องเลือกช่วยเพื่อนผู้หญิงหนึ่งคนของเธอจากทั้งสองคนนี้ โดยการเลื่อนที่สับแผงวงจรนั่นไปเลนของรางของเพื่อนผู้หญิงที่นายไม่ต้องการ และถ้านายไม่เลือกซักทางเลย...

    ใบเลื่อยนั่นก็จะเข้าตรงกลางแล้วก็ผ่าครึ่งทั้งสองคนทันที..."


    "!!!"


    เมฆเบิกตาโพลงขึ้นเมื่อได้ฟังคำพูดของพวกมัน...



    "แกไอ้ชาติชั่ว..."


    แอ๊น...แอ๊น


    "...."


    เมฆกัดฟันสบถเบาๆด้วยความเจ็บใจ เขากำหมัดแน่นพร้อมมองเด็กผู้หญิงสองคนตรงหน้า 


    อึก...


    'จะทำไงดี...จะทำไงดี สองคนนี้ใครกันใช่กลุ่มของพวกเรารึเปล่า ไม่...ไม่น่าใช่พวกเขาไม่น่าตะอยู่ที่นี่หรือว่าเป็นหน่อยที่ไปกับพวกขุนหรือใครที่อาจจะยังมีชีวิตอยู่...ไม่สิเราต้องหาทางช่วยทั้งสองคนสิ'


    แอ๊น...แอ๊น



    'ไม่มีทางเลยเหรอๆ! ใบเลื่อยนั่นจะเข้าไปเลนตรงกลางแล้ว คิดสิวะเมฆๆๆ...เอ๊ะ!'



    แปล๊บ!


    "โอ๊ย!"


    ชิ้ง!



    'อะไรกันจู่ๆก็เข้ามาในนิมิต...!!'



    เมฆที่จู่ๆปวดหัวแปล๊บและพอลืมตาขึ้น ก็พบกับภาพลางบอกเหตุบางอย่างที่ทำให้หัวใจของเขาหยุดเต้น

    ภาพหญิงสาวคนนึงโดนใบเลื่อยหั่นจนขาดสองท่อน ลำไส้ที่ตกพรวดๆลงมายั้วะเยี้ยนั่นไม่ได้เป็นจุดสนใจสำหรับเมฆในตอนนี้เลย...


    เพราะเขากำลังมองใบหน้าผู้หญิงคนนี้ เขาถึงกับตาค้างพูดอะไรไม่ออก หัวใจหยุดเต้น มือไม้ของเขาสั่นระริก เมื่อเขาเห็นว่าเธอคนนี้จะ....



    "เออ...พวกเราลืมบอกเธอไป หนึ่งในสองคนนี้มีผู้หญิงที่ชอบไปไหนมาไหนกับเธอมาตลอดคนนั้นด้วยนะ...รู้สึกจะชื่อ...






    ขวัญข้าวใช่มั๊ย...."







    ปล.คอมเม้นเยอะนะๆๆๆๆ








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×