ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ALIVE or DEAD

    ลำดับตอนที่ #37 : บทที่ 36 อย่าคิดไปเอง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 162
      2
      27 มิ.ย. 58

    บทที่ 37 อย่าคิดไปเอง

    "เฮ้ย! เธอเป็นใครกันเนี่ย!"

    ข้าวต้มตะโกนขึ้น  แล้วชี้มาทางฟ้าใส  เสียงของเขาทำให้คนอื่นๆตื่นขึ้นมาทันที

    เพราะพวกเราคุยกันจนทำเขาตื่น...

    "แย่ละสิ...."

    สิ้นสุดเสียงอันดังของเด็กหนุ่ม  ทำให้ทุกคน ณ ที่นี้ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียและมองหาต้นตอของเสียง

    "อ้าว...เวรแล้วไง"

      วัฒน์สบถขึ้นอย่างเบาๆเล็กน้อย  เมื่อเห็นว่าฟ้าใสกำลังโดนข้าวต้มชี้หน้าอยู่นั่นเอง

    " เอ๊ะ! ใครกันผู้หญิงคนนี้  ไม่ใช่เด็กในโรงเรียนเรานี่"   แป้งที่ตื่นขึ้นมาก็มองที่ฟ้าใสอย่างตื่นตระหนก

    " ทุกคนใจเย็นก่อน  เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้ฟังเอง....!"

      ขวัญข้าววิ่งเข้ามาแทรกระหว่างฟ้าใสกับพวกเขา  เพื่อจะบอกว่าเธอไม่ใช่คนอันตราย  และขณะที่กำลังเล่าเหตุผลที่ฟ้าใสอยู่ที่นี่นั้น   เธอก็โดนฟ้าใสดึงกลับมาแล้วก็เข้าไปพูดเอง

    " ฉันชื่อฟ้าใส  มาที่นี่เพื่อช่วยเมฆ  และเป็นคนที่รู้เกือบทุกอย่างเกี่ยวกับคฤหาสถ์หลังนี้"  

    "!!

     ทุกคนสะดุ้งขึ้นทันที  เมื่อจู่ๆฟ้าใสก็พูดโพล่งออกมาแบบนั้น 

    "ฟ้าใสไหนว่าเธอจะไม่...."

    "ฉันรู้น่าว่าทำไรอยู่..."

      ผมที่เข้ามาเตือนเธอ  เพราะคิดว่าถ้าบอกความจริงไป  พวกนั้นอาจจะระแวงเธอและเข้าใจไปอีกเรื่องนึงก็ได้

    "เฮ้!เมฆนี่มันหมายความว่าไงกัน"

      ข้าวต้มหันมาหาผมผู้ที่ถูกเอ่ยชื่อกล่าวถึง  แล้วถามด้วยอาการที่ร้อนรน  ผมที่เหงื่อตกเมื่อได้มองรอบๆแล้วเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่ฟ้าใส  อย่างกลัวๆ  ผมหันมาทางข้าวต้มที่กำลังถามอย่างกดดันผม   แต่เพื่อนซี้ของผมก็เป็นคนเข้ามาตอบแทน

    "มันเป็นเรื่องจริง"   

    "วัฒน์!

    วัฒน์เดินเข้ามาพูด  แล้วมองด้วยสายตาจริง....เอ่อ

    "วัฒน์...นี่ข้าเฟ้ยไม่ใช่ข้าวต้ม- -"  

    "อ้าวเวร! โทษทีผิดคน  พอไม่มีแว่นแล้วตามันไม่ค่อยดีอะ  เองเก็บแว่นข้าอยู่ใช่มั๊ยเอามาซักทีดิ้"  วัฒน์ขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะบ่นขึ้นมา  หมอนี่มันเซอะๆซะๆเป็นเหมือนกันแฮะ

    "อะ เอาไป"     ผมยื่นแว่นให้มัน

    "พวกนายนี่ตอนนี้กำลังซีเรียสนะ  มัวเล่นตลกอะไรกันอยู่!"  แป้งตะโกนขึ้นพร้อมขมวดคิ้ว  อย่างหงุดหงิดเล็กน้อย

     

    "ทุกคนใจเย็นๆสิ" 

      เดียร์เดินเข้ามาพยายามบอกทุกคน  ด้วยใบหน้าที่...ขอร้องสุดๆ 

    "ให้ใจเย็นได้ไงเดียร์  นี่มันเรื่องใหญ่เลยนะ  วัฒน์ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่  ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร!"   นิดเสริมขึ้นด้วยท่าทางหงุดหงิดไม่ต่างจากแป้ง

     

    "...................."  

    วัฒน์ไม่พูดอะไรพลางคิดอะไรบางอย่างก่อนจะตอบขึ้นมา   ตอนนี้ผมพยายามยืนข้างฟ้าใสให้ใกล้ที่สุด  เพราะกลัวว่าพวกเขาอาจทำร้ายเธอได้ถ้าพวกเราพูดอะไรไม่เข้าท่าขึ้นมา

    ในขณะที่เดียร์ ขวัญข้าว และวิยดา ยืนมองอย่างกังวลและพูดอะไรไม่ออกกับสถานการณ์นี้  พวกเธอคงคิดว่าหน้าที่นี้ควรปล่อยให้เป็นของวัฒน์

     

    "ก็อย่างที่เธอบอกมานั่นแหละ  เธอมาจากข้างนอก  เธอรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่เพราะว่า...."

     

    วัฒน์เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟังทั้งหมด  ที่ฟ้าใสเคยเล่าให้พวกเขาฟัง  ให้พวกข้าวต้มฟังเช่นกัน  ถึงแม้เขาจะคิดว่าการพูดไปแบบนี้อาจเสี่ยงที่ฟ้าใสหรือผมจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนที่เป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมดที่เพื่อนๆต้องมาตายที่นี่ก็เถอะ

    แต่ว่าเขาเองก็คงคิดว่าการที่โกหกพวกเขา  อาจจะลำบากในภายภาคหน้าก็ได้  ถ้าเกิดว่าพวกเขาได้รู้ความจริงขึ้นมา...

    "........."

    พวกข้าวต้ม นิด แป้ง แพร หน่อย เบิกตาโพลงเมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด  สีหน้าของพวกเขาไม่ต่างจากพวกเราที่ได้ฟังจากฟ้าใสครั้งแรกเท่าไรเลย

    "เรื่องจริงเหรอเนี่ย...."

     แป้งพูดขึ้นพลางนำมือปิดปากอย่างกังวลแล้วมองมาทางผมและฟ้าใสด้วยสายตาที่แฝงด้วยความสงสารจับใจ  

    "ฉันขอโทษนะที่อาจเป็นสาเหตุที่พวกนายทุกคนต้องมาเสี่ยงไปด้วย....เพราะฉัน"   ผมก้มหน้าลงขอโทษทุกคน  ทุกคนพอได้ฟังก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินมาทางผม

    "พวกเธออย่าโทษหรือว่าอะไรเมฆกับฟ้าใสเลยนะ   พวกเขาไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้พวกเราต้องมาโดนด้วยแบบนี้  ถ้าจะโทษพวกเราควรโทษไอ้พวกที่มันทดลองพวกเขา  และเอาพวกเรามาทำแบบนี้มากกว่า"   ขวัญข้าวบอกพวกเขาเมื่อเห็นว่าพวกเขาทำท่าเหมือนคิดหนักเกี่ยวกับอะไรบางอย่าง   ขวัญข้าวพูดพลางมาสบตาผมเล็กน้อย

    และพวกข้าวต้มพอฟังจบก็เดินมาทางพวกผม....

    แปะ!

    "เอ้ะ?"

    "พวกนายอย่าเพิ่งคิดไปกันเองสิ  ฉันไม่โทษเมฆ กับผู้หญิงคนนี้หรอก   พวกเขาต่างหากที่น่าสงสารที่ต้องมาโดนแบบนั้น  ทั้งครอบครัวและชีวิตของพวกเขา........และฉันก็ไม่อาจให้พวกเขาเสียเพื่อนไปอีกหรอกนะ

    ....ใช่พวกนายยังมีพวกเรา   ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดกับพวกเรา  พวกเราก็ไม่อยากที่จะโดนกล่าวหาหรือโทษหรอก เพราะฉะนั้นพวกเราเข้าใจพวกนาย"

      ข้าวต้มเดินมาแตะบ่าไหล่ของผมพลางสบตาฟ้าใสเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นมา  ด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน

    "ขอบคุณ..." 

    ผมยิ้มอย่างกังวลกลับคืนไปหาพวกเขา  ข้าวต้มพูดออกมาจากใจจริงของเขา  เพราะเสียงในใจของเขาก็ไปในทางเดียวกันกับคำพูดของเขา.........แต่ผมก็รู้สึกใจหาย  เมื่อได้ยินเสียงในใจของใครบางคนหนึ่งใน  3  เด็กสาวที่เหลือที่อยู่ด้านหลังข้าวต้ม

     

    "เพราะไอ้เวรพวกนี้  พวกเราเลย....ต้องมาเสี่ยงตายแบบนี้  อยากให้มันตายไปพ้นๆจริงๆ"

     

    เสียงในใจของใครซักคนในกลุ่มของ นิด แป้ง แพร  พูดขึ้นมา  ผมพอได้ฟังก็รู้สึกกังวลทันทีเมื่อได้ยินความในใจของเพื่อนร่วมชั้น  ที่คิดแบบนั้นกับพวกเรา  แต่ผมก็ไปว่าอะไรเขาไม่ได้  สาเหตุหลักๆที่พวกเขาต้องมาโดนแบบนี้  นั่นคือ  เพราะพวกเขาอยู่โรงเรียนเดียวกับผม

    "ฉันขอโทษนะที่ปิดบังเรื่องนี้กับพวกนาย...เรื่องของฟ้าใสและฉัน"   ผมเอ่ยขอโทษพวกเขาอีกครั้ง

    "เอาน่าอย่าคิดมาก  อย่างน้อยนายก็พูดความจริงกับพวกเราแล้วนี่  แล้วฉันก็เชื่อว่าซักวันเมื่อพวกนายพร้อมก็จะบอกพวกเราอยู่ดีใช่มั๊ยละ  ถึงไม่ต้องให้พวกเราจับได้ก็เถอะ"

     ข้าวต้มหันมายิ้มให้ผมกับฟ้าใส  ผมคิดว่าข้าวต้มนี่ นิสัยดีกว่าที่คิดมากเลย  ผมดีใจจริงๆที่ได้รู้จักเพื่อนดีๆแบบนี้เพิ่มขึ้นอีกคน

     

    "เอาละ  นึกว่าจะแย่ซะและขอบใจพวกนายมากนะที่เข้าใจ  และไม่ถือโทษโกรธพวกเราที่พยายามปิดบังพวกนาย  และเรื่องที่ฟ้าใสรู้เกี่ยวกับคฤหาสถ์นี้เป็นเรื่องจริงด้วย" 

     วิยดาที่ปาดเหงื่อหลังจากเรื่องเครียดๆจบลงก็เดินมา   ยืนข้างผมกับฟ้าใส   ผมมองเธอที่กำลังขยับแว่นของตัวเองก่อนจะพูดเรื่องที่ฟ้าใสพูดมาก่อนหน้านั้นอีกครั้ง 

     

    " จริงใช่มั๊ย  แม่ผมสีน้ำตาลสุดสวย!"   ข้าวต้มหันมาถามฟ้าใสที่ยืนอยู่ข้างผม

    "อะ...อื้อ  แต่ฉันจะเล่าทุกอย่างขึ้นให้ฟัง  แต่พวกเราต้องไปหากลุ่มของขานพวกของพวกเธอด้วย  แล้วฉันจะเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับคฤหาสถ์นี้ทีเดียวเลย"   ฟ้าใสหันมาบอกข้าวต้มที่ตอนนี้ดูอารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว 

    "อืม...เอางั้นก็ได้   งั้นพวกเราขอแยกไปนอนกันต่อนะนอนยังไม่เต็มอิ่มเลย  หาววว... "

      ข้าวต้มพยักหน้าแล้วเดินออกไป  แต่ทางแป้ง นิด แพร  ก็ยังคงมองมาทางฟ้าใสอย่างสงสัย  คงเพราะยังไม่เชื่อใจเธอเท่าไรละมั้ง

     

    ".................."  

    ผมเงียบและคิดอะไรบางอย่าง  ที่เพิ่งผุดขึ้นมาในสมองของผม

      .....มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ   ฟ้าใสรู้อะไรมากันแน่นะถึงคิดว่ามั่นใจที่จะพาออกจากที่นี่ได้   ผมคิดว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา   เบาะแสที่อาจจะพาพวกเราออกจากที่นี่ได้  มาจากผู้หญิงในภาพหลอนของผม  หรือเบาะแสต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสถ์หลังนี้ซะอีก

    ผมยืนคิดแล้วคิดเองโดยไม่สนใจคนรอบข้างเลย  ว่าพวกเขาแยกย้ายกันไปนั่งคุยแยกกลุ่มกันแล้ว

     

    "เมฆยืนทำอะไรอยู่วะเขาแยกย้ายกันไปนอนแล้วนะเว้ย"    วัฒน์ที่เดินมาพร้อมสายรุ้งพูดขึ้นมาแล้วมองผมอย่างงงๆ 

    "อ่าวงั้นเหรอ!  " 

     ผมอุทานตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าทุกคนไปจองที่นอนของตัวเองกันแล้ว     

    "กำลังคิดอะไรอยู่รึไง? "   วัฒน์ถามขึ้น

    "เอ่อ....ไม่มีอะไรหรอก   ฉันขอตัวไปหาหนังสือห้องสมุดนี่อ่านหน่อยละกัน  นายไปนอนเถอะ เธอด้วยนะสายรุ้งอย่ามัวแต่ติดหมอนี่แจนะ^^"

       ผมเดินออกไปทางชั้นตู้หนังสือขนาดใหญ่ที่เรียงตั้งกันเป็นแนวลึกหลายๆแถว   ก่อนจะหันไปมองสายรุ้งด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

    "ไม่ได้ติดซะหน่อย>3<

     สายรุ้งเบ้ปากใส่ผมอย่างเก้อเขิน  ด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงขึ้นมาเล็กๆ   ขณะที่ผมกำลังเดินไปก็หันไปเหลือบมองทางกลุ่มของฟ้าใส  ที่ตอนนี้กำลังนั่งคุยกับเดียร์และวิยดาอย่างสนิทสนมกัน......เดียร์

    ผมพอเห็นเดียร์ก็นึกถึงเรื่องตอนนั้นได้ขึ้นมาทันที   เรื่องที่ผมทิ้งมันไปชั่วขณะ

    เรื่องที่เธอ........เป็นคนที่ฆ่ากฤตจริงรึเปล่า

     

    "เมฆ!"

    "!!!!"

    ผมที่กำลังทำหน้าครุ่นคิดหน้านิ้มคิ้วขมวด  (มากไป-_-)  เกี่ยวกับเรื่องที่ผมเครียดและกังวล  มากที่สุดในตอนนี้จนทำให้ผมไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครเดินมาใกล้ๆผมแล้ว  เธอคนนั้นเรียกผมจากด้านหลังโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว

    ผมสะดุ้งเฮือก  เหมือนหัวใจตกอยู่ตาตุ่มเลย   ผมจับหน้าอกตัวเองหายใจอย่างหอบๆก่อนจะหันมามองเด็กสาวที่เป็นต้นเหตุ

    "ทำอะไรของเธอเนี่ย ตกใจหมดเลยขวัญข้าว  เฮ้อ..."    ผมถอนหายใจอีกครั้ง  เพื่อรวบรวมสติกลับมา

    "แฮะ แฮะ โทษทีก็ฉันเรียกตั้งนานแล้วนี่  เธอไม่สนใจฉันนี่เลยต้องแกล้งแบบนี้ไง  แบร่!:P"

      ขวัญข้าวแลบลิ้นใส่   แล้วยิ้มหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข   นี่ผมคิดไปเองรึเปล่าเนี่ย   ผมรู้สึกว่าขวัญข้าวเปลี่ยนไปเยอะเลย

    ตามหลักขวัญข้าวที่ผมเคยรู้จักที่โรงเรียนถึงจะไม่ค่อยคุยกันเท่าไร  เพราะไม่สนิทกัน  เธอเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยคุยกับใครเท่าไรโดยเฉพาะผู้ชายนี่แทบไม่เคยคุยเลย   เธอมักจะคุยอยู่กับพวกวิยดาตลอด   ในสายตาของผมหรือมุมทองของผมเลยคิดว่าเธอเป็นคนเย็นชา  แต่ในตอนนี้เมื่อได้มองหน้าเธอที่กำลังล้อเลียนผมอยู่นั้น...

    ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดไปเลยทันที.........ผมคิดว่าเธอเป็นคนที่น่ารักมากเลย

    ตึก ตัก

    "............" 

     เสียงหัวใจของผมตอนนี้เต้นไม่เป็นจังหวะเลย  เมื่อได้เห็นเด็กสาวคนนี้   เป็นเพราะพวกเราอยู่ด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เกิดเรื่องรึเปล่านะ   และยิ่งอยู่กับเธอนานขึ้นก็ยิ่งรู้จักเธอมากขึ้น  เห็นมุมมองของเธอที่ผมยังไม่เคยเห็น....

     ทั้งๆที่ผมรักเดียร์แท้ๆ  หรือว่าเพราะความสงสัยในตอนนี้ที่มีต่อเดียร์ทำให้ผมเริ่ม..........ไม่ ไม่  ผมรักเดียร์  ผมในตอนนี้ที่สามารถทำเพื่อเธอได้คือหาหลักฐานที่จะลบล้างความสงสัยของผมที่มีต่อเธอต่างห่ากละ 

    "ทำอะไรเมฆ- -?

    ขวัญข้าวมองมาที่ผม  ด้วยสายตาสงสัยเมื่อเห็นผมส่ายหัวไปมา  ด้วยใบหน้าที่มีเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า

    "อ๋อ เปล่าหรอก  เธอมาก็ดีและฉันคิดว่าเราควรหาเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับคฤหาสถ์หลังนี้ดีกว่า  ดีกว่านอนเฉยๆ   เธอจะไปนอนก็ได้นะฉันไม่ว่า  แต่จะมาช่วยฉันค้นห้องสมุดนี้ด้วยก็ดี"   ผมยิ้มแล้วพลางยักคิ้วใส่เธอเป็นทำนองเชิงชวน

     

    "อืม...ฉันช่วยเธอดีกว่า นอนมาเยอะและมา  เดี๋ยวฉันช่วย" 

     ขวัญข้าวว่าปุ้บก็เดินหยิบดูหนังสือต่างๆนานาที่อยู่ใกล้ผม  เธอหาที่น่าจะบอกเบาะแสอะไรได้  แล้วยื่นมาทางผมเรื่อยๆ

     

    ขณะที่ผมกับขวัญข้าวกำลังช่วยกันค้นหาข้อมูลจากหนังสือของห้องสมุด  ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่ามีเด็กสาวอีกคนมองมาที่ผมด้วยสายตาไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ

    เธอมองมาที่โลหะที่มีแสงส่องสะท้อนออกมาแวบๆ   จากตรงกระเป๋ากางเกงของผม   ผมไม่รู้เลยว่าตัวเองยัดไม่ลึกพอ   ทำให้ตัวอักษร'D'  โผล่ออกมาเล็กน้อย

    และคนที่กำลังมองอยู่นั้นไม่ใช่ใครที่ไหน   เธอก็คือ  ....เดียร์....นั่นเอง

    ทางด้านนึง

    ตึก ตึก

    เสียงของฝีเท้าที่บอกก็รู้ได้เลยว่า  เจ้าของฝีเท้ามีขนาดตัวเท่าไหน

    ชายชุดกันฝนสีดำร่างใหญ่  กำลังเดินถือค้อนของตัวเอง   เดินวนเวียนอยู่ชั้น 3 และกำลังเดินมุ่งไปทาง....ห้องสมุดใหญ่     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×