คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : บทที่ 28 ฆาตกรถือเลื่อยไฟฟ้า
บทที่ 28 ฆาตกรถือเลื่อยไฟฟ้า
ตึก ตึก!
โถ่เว้ยจะตามไปถึงไหนวะ
ต้องรีบหนีจากมัน
มันไปแล้วงั้นเหรอ....
น่าจะเป็นหยั่งงั้นแสดงว่าเรารอดตายแล้วสินะ
ว่าแต่
หวังว่าเดียร์คงไม่เจอกับมันนะ
ชักเป็นห่วงแล้วสิ
ไอ้ฆาตกรนั่นก็ดันเหยียบวิทยุจนพังอีก ซวยจริงๆ บัดซบเอ๊ย!
ผมได้ยินจริงๆด้วยเสียงเหล่านั้นดังเข้ามาในหัวของผม ไม่สิหูผมเปล่าๆนี่แหละ
ทำไมผมถึงได้ยินเสียงพวกเขาได้ละทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้อยู่ใกล้ๆกับเราแท้ๆ
" เมฆเป็นอะไร"
ขวัญข้าวสะกิดผม จนผมรู้สึกตัวแล้วก็หันไปมองหน้าเด็กสาวหน้าสวย เธอจ้องผมด้วยท่าทางสงสัย ด้วยดวงตาอันกลมโตนั่น
" .............."
ผมไม่รู้ทำไมจึงมีความรู้สึกว่า อยากบอกผู้หญิงคนนี้
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงเชื่อมั่นว่าผู้หญิงคนนี้จะเชื่อใจผม
"คือ....ฉันได้ยินเสียงพวกเขาน่ะ"
ผมบอกเธอพลางชี้ไปที่หูของตัวเอง
ด้วยท่าทางอึนๆ
แต่พอผมทำหยั่งงั้นขวัญข้าวก็ทำหน้าเหมือนกับว่ามีไอคอนเควสชั่นมาร์คขึ้นมาบนหัวทันที เธอเอียงคออย่างงงๆกับคำพูดของผม
" เป็นไปได้ไงฉันไม่เห็นได้ยินเสียง.....หรือว่า อาการประหลาดของเธอทำให้เธอ..."
ขวัญข้าวที่กำลังทำหน้าเหมือนโฮล์มนักสืบที่กำลังไขคดีปริศนา ก็โดนวัตสันขัดขึ้นมา
" พวกนายเงียบๆก่อนสิ"
วัฒน์เอามือชี้มาที่เรา พลางทำท่าเหมือนให้หมอบลง เพื่อลดเสียงอะไรประมาณนั้น
เสียงหยั่งงั้นเหรอ....ถ้าเราลองเงี่ยหูฟังดูน่าจะ....
ไม่พูดพร่ำทำเพลง
ผมก็หลับตาเงี่ยหูฟัง....
ฉึบ ฉึบ!
"อ้ะ ฉันได้ยินเสียงอะไรบางอย่างมาจากทางแยกข้างหน้านั่น!" ผมพูดพลางลุกขึ้นพรวดชี้ไปข้างหน้านั่น ทางข้างหน้ามีระเบียงกั้นอยู่ ส่วนทางขวากับซ้ายนั้นเป็นทางแยก
ไทยเห็นดังนั้นจึงวิ่งร่าถือหอกเหล็กที่ได้มาจากหุ่นอัศวิน ที่วัฒน์บอกนักบอกหนาว่าให้ทิ้ง แต่ไทยก็ดื้อเก็บไว้บอกว่ามันเท่ห์ดี
"อ้ะ!"
วัฒน์ที่วิ่งตามมาพอเหลือบมองดูก็เห็นที่มาของเสียงเสียงนั้นทันที นั่นก็คือ....เสียงของกับดัก!
เหล็กหอกปลายแหลมจำนวนนับไม่ถ้วน
เรียงกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
กำลังพุ่งเข้าพุ่งออกมาจากรูบนพื้นนั่น
" ไอ....หยา" ไทยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูหวาดเสียว
"ท่าโดนเข้าไปคงเป็นรูพรุนทั้งร่างแน่เลย"
วัฒน์กลืนน้ำลายไปหลายอึกเมื่อเห็นมันกำลังพุ่งขึ้นพุ่งลง
แต่ที่ผมตกใจไม่ใช่แค่นั้นมันมี....คราบเลือดแถวๆนั้นด้วย.....มีคนโดนกับดักไปแล้ว แต่ไม่ถึงกับตายสินะ ผมคิดในใจเมื่อยเห็นหยดเลือดตามทางนั่น
"เดี๋ยวนะ..."
ขวัญข้าวทำน้ำเสียงเหมือนผิดสังเกตุอะไรบางอย่าง เธอจ้องมองที่เลือดนั่น ทำให้พวกเรามองตามเธอไปด้วย....เอ้ะ!
"เลือดยังไม่แห้งเลยนี่นา!"
ผมที่มองไปที่เลือดที่เป็นรอยตามทางนั้น เมื่อสังเกตุดีๆ มันยังมีรอยนูนไหลนองตามพื้น แสดงว่านี่มันเพิ่งเกิดได้ไม่นานนี่นา
" หือ?"
ตึก ตึก!
"อย่าขวัญข้าว!"
ผมเบิกตาโพลงทันทีเมื่อเห็นหญิงสาววิ่งไปกับดักหอกเหล็กปลายแหลม ที่พุ่งขึ้นพุ่งลงอย่างรวดเร็วนั่น ผมทำท่าจะเอื้อมไปคว้าเสื้อเธอแต่ก็ไม่ทัน
ตุบ!
ขวัญข้าววิ่งกระโดดข้ามตอนที่จังหวะหอกนั่นกำลังลงกลับเข้าไปที่รูของมัน
เธอข้ามไปได้และก็กลิ้งอย่างทรงตัวไม่ให้ล้ม
ผมเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกที่เธอปลอดภัย แต่ก็ทึ่งกับความสามารถด้านกีฬาของเธอจริงๆ ไม่คิดว่าเป็นคนเดียวกับที่ขาแพลงตอนที่ขึ้นมาคฤหาสถ์จนผมต้องแบกเธอเลยนะเนี่ย
"ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ยขวัญข้าว เดี๋ยวก็ตายหรอก!" วัฒน์ตะโกนขึ้นอย่างไม่ชอบใจ ในการกระทำที่บ้าบิ่นของเธอ
" ฉันต้องรีบไปช่วยเจ้าของเลือดคนนี้ ท่าทางคนคนนี้ต้องบาดเจ็บหนักแน่เลย
พวกนายถ้าข้ามมาไม่ไหวก็อ้อมหาทางขึ้นทางอื่นไปหาพวกวิยดาละกันส่วนฉัน....!"
ขวัญข้าวที่กำลังพูดกับพวกวัฒน์
โดยที่เธอยังไม่ทันพูดจบ
ผมก็วิ่งไปทางกับดักนั่น......
.......ไม่ยากหรอก
ไม่ยากเลย
ลองฟังเสียงการทำงาน
การขึ้นลงของมันดีๆ....
ฟึบ!
ตอนนี้แหละ!
ฟ้าว!
ตึง!โครม!
"โอ๊ย!"
ผมวิ่งข้ามฝ่ามาได้อย่างเฉียดฉิว....ผมอาจไม่คล่องตัวเหมือนขวัญข้าว
แต่ผมก็จะใช้ประสาทสัมผัสทางหูนี่ให้เป็นประโยชน์
"เมฆเป็นอะไรรึเปล่า!"
ขวัญข้าววิ่งมาดูผมที่กลิ้งล้มไม่เป็นท่า ในขณะที่พวกวัฒน์ ไทยยังอึ้งกับการกระทำบ้าบิ่นของคนอีกคน
" ฉันไม่ปล่อยเธอไปคนเดียวหรอกน่า..."
ผมเงยหน้าขึ้นมามองขวัญข้าว
ที่ผมพูดไปอย่างงั้นเพราะขืนปล่อยเธอไปคนเดียวอาจจะเกิดอันตรายได้ นอกจากเหตุผลที่เธอเป็นผู้หญิงแล้วถึงเธอจะเก่งทักษะทางด้านกีฬา แต่นิสัยเปิ่นๆและซุ่มซ่ามของเธอก็ยังน่าเป็นห่วง
ถึงภายนอกจะเห็นว่าเธอเข้มแข็ง
แต่พอเอาเข้าจริงๆเธอเป็นคนที่ขี้กลัวมาก
เหมือนตอนที่ผมเจอเธอที่อยู่คนเดียวตอนชั้นสองหลังจากพลัดกับพวกวิยดา เธอเอาแต่ร้องไห้ คุกเข่าด้วยอาการสั่นกลัวอยู่อย่างงั้น
ถ้าผมไม่เจอเธอเข้า
เธอก็อาจจะอยู่ที่ตรงนั้นตลอดไปเลยก็ได้..........ผมถึงอดห่วงไม่ได้ไง
ขณะที่เด็กหนุ่มคิดในใจ
เขาไม่รู้เลยว่าเด็กสาวหน้าสวยตรงหน้ากำลังหน้าแดงหลังจากคำพูดคำนั้นของเขา
" พวกนายไปหาพวกวิยดาก่อนเลย
เดี๋ยวพวกฉันตามไปทีหลัง!" พอผมพูดไปงั้นวัฒน์ก็กัดฟันกรอด
"แยกกับเอ็งอีกแล้วเหรอฟะ
เออ!ก็ได้ตามมาให้ได้ละ!"
"เออ ไว้ใจได้เลย!"
พูดจบวัฒน์กับไทยก็มุ่งไปทางแยกขวา
ที่น่าจะมุ่งตรงไปสู่ห้องสมุดใหญ่ที่เจอตอนนั้น
เพราะใกล้ๆห้องสมุดนั่นมีบันไดใหญ่พาขึ้นไปยังชั้น 3
" พวกเราก็ไปกันเถอะ"
ผมหันมาบอกขวัญข้าว
ขวัญข้าวก็พยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นพวกเราก็เดินตามรอยเลือดนั่นไป
......................................................
10 นาทีต่อมา....
"เอ๋ ห้องนี้มัน??"
ผมพอเดินตามรอยเลือดกับขวัญข้าวมา
ก็พบว่ามันเข้าไปในประตูบานใหญ่สีขาวตรงทางเดินห้องโถงขนาดใหญ่ พวกเราก็มองหน้ากันก่อนจะตัดสินใจเปิดห้อง
และก็พบว่า ห้องนี้มัน....เต็มไปด้วย..ต้นไม้
ดอกไม้ ใบหญ้าพืชพันธุ์พืชสวนต่างๆนาๆหลากหลายสายพันธุ์ จนใครเข้ามาก็ต้องหลงเสน่ห์ กับความสวยงามของธรรมชาติตรงหน้านี่
ซ่า...
เสียงของน้ำพุจากรูปปั้นสีขาว
รูปร่างเป็นผู้ชายเปลือยกับผู้หญิงเปลือยกำลังช่วยกันเทน้ำลง
ดูจากรูปร่างของผลงานนี้คงเป็นของชาวกรีกละมั้ง ผมเองก็ไม่รู้อะไรมากหรอกเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
แต่ดูท่าผู้หญิงข้างๆผมคงจะหลงเสน่ห์มันเต็มเปาเลยละ....
พื้นที่เราเหยียบเองก็เป็นพื้นหญ้า
ที่มีอิฐบล๊อกวางเป็นทางเดินอย่างสวยงาม
แต่พวกเราก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีเมื่อเห็น .....หยดเลือดที่พวกเราเดินตามมานั่นอยู่บนทางเดินอิฐบล๊อกนั่น
และจากนั้นไม่นานพวกเราก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างขึ้นมา......
แบ๊น แบ๊น!
เสียงนี่มัน....เหมือนเคยได้ยิน....เสียงแบบเดียวกับตอนที่พ่อของฟ้าใสกำลังตัดต้นไม้ เขาใช้...เลื่อยไฟฟ้า
"อ้ะ! เมฆ!นั่น"
ขวัญข้าวสะกิดไหล่ผมแล้วชี้ไปที่ต้นไม้ที่สูงตระหง่านสุด ณ
ที่นี้ ข้างๆต้นไม้นั่น มีเด็กสาวสวมเสื้อเอี้ยมนอนอยู่บนม้านั่ง และดูจากเลือดมันมาจากเด็กสาวคนนั้นตรงข้อเท้าของเธอ....เด็กสาวคนนั้นก็คือ...
...สายรุ้ง!....
"สะ...สาย...อุ้บ!"
ขณะที่ผมกำลังจะตะโกนเรียกเธอ
เพราะดีใจมากที่เห็นว่าเธอยังปลอดภัยอยู่หลังจากทราบว่าพลัดกับพวกวัฒน์ไป ขวัญข้าวนำมือมาคร่อมปากผมไว้
" เมฆ...ดูนั่นก่อนสิ"
"ดูอะไร...!!"
พอผมมองไปตามนิ้วเรียวยาวของขวัญข้าวก็เห็นว่า.....มีใครบางคนกำลังยืนตัดกิ่งไม้จากต้นไม้จ้นใหญ่ข้างๆกับสาวรุ้ง
ที่มาของเสียงเลื่อยไฟฟ้านั่น.....มาจากมัน!
"ฆาตรกร....ที่ถือเลื่อยไฟฟ้า"
ผมพูดขึ้นอย่างสั่นๆ หวังว่ามันคงไม่เห็นเรานะ ดูจากรูปร่างของมันไม่ผิดแน่ หน้ากากเหล็กที่มันใส่
แต่ที่แปลกคือหน้ากากนั่นไม่มีช่องหรือรูให้สายตารอดออกมาได้เลย ต่างกับฆาตกรถือขวานนั่น
แต่ที่แปลกจนผมอดสงสัยที่จะถามไม่ได้.....
ทำไมมันถึงไม่ทำอะไรกับร่างสายรุ้งที่นั่งข้างๆเลยละ แถมตัดกิ่งไม้นั่นอย่างใจเย็นอีก
มันไม่เหมือนกับฆาตกรถือขวานนั่นเลยซักนิด!
"เอาไงดี เราต้องพาสายรุ้งออกมานะ" ขวัญข้าวหันมามองผม ขณะพวกเรามองมันโดยไม่ละสายตา
จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากกำแพงด้านหลังร่างของสายรุ้ง
ตึง!
ตึง!
โครม!!!
"เฮ้ย!"
ผมอุทานขึ้นมาทันที
เมื่อจู่กำแพงด้านหลังร่างสาวรุ้งนั่นพังลงมา พร้อมกับชายร่างยักษ์ก็ปรากฎกายออกมาพร้อมกับค้อนยักษ์อันใหญ่
"ฆาตกรถือค้อน!"
ขวัญข้าวอุทานออกมา เธอเบิกตาโพลงอย่างตกใจ
ไม่แปลกหรอก....เพราะพวกเรากำลังอยู่กับฆาตกร....ถึงสองคนในห้องเดียวกัน
ฆาตกรถือเลื่อยไฟฟ้านั่น
หันไปมองฆาตกรถือค้อนแวบนึงก่อนจะหันกลับมาตัดกิ่งไม้ต่อ
แต่จู่ๆฆาตกรถือค้อนเห็นว่าฆาตกรถือเลื่อยนั่นไม่ได้สนใจมัน จึงไปมองร่างเด็กสาวที่กำลังหลับไหลอยู่แทน
มันง้างค้อนของตัวเองทันที
และหวังจะทุบร่างของเด็กสาวให้แหลกละเอียด!
"สายรุ้ง!"
ผมเห็นดังนั้นจึงตะโกนขึ้น
พลางกำลังจะวิ่งไปช่วยเธอด้วยความบ้าบิ่น
แต่ว่า...
"เมฆอย่า...เอ้ะ!"
ขวัญข้าวที่กำลังจะคว้ามือผมก็หยุดชะงักไปเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
เคร้ง!
แบ๊น! แบ๊น!
ภาพตรงหน้าที่เราเห็นคือ....ฆาตกรถือเลื่อยไฟฟ้านำเลื่อยของมันมาหยุดค้อนที่กำลังจะทุบร่างของสายรุ้ง
"เขาช่วยสายรุ้ง....ทำไมละ" ขวัญข้าวสับสนกับภาพตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
"อ้ะ!เมฆ!"
ผมไม่รอช้า ผมวิ่งไปที่ร่างของสายรุ้งที่อยู่ใต้เงาของชายร่างยักษ์ทั้งสอง
ฆาตกรถือค้อนเห็นดังนั้นจึงง้างและจะทุบผมแทนร่างของสายรุ้ง แต่ฆาตกรถือเลื่อยไฟฟ้าก็ขัดขึ้นอีกครั้ง
เคร้ง!
"เมฆมาทางนี้เร็วเข้า!"
ขวัญข้าวพอเห็นว่าเมฆอาจจะทำสำเร็จ
จึงกวักมือเรียกเขาที่กำลังพยุงร่างสายรุ้งให้มาที่ประตู ฆาตกรถือค้อนเห็นดังนั้น
จึงสะบัดเลื่อยไฟฟ้าของฆาตกรที่ขัดขวางการกระทำของตัวเองจน ฆาตกรคนนั้นเซไป
"เมฆมันมาแล้ว!"
ผมพาสายรุ้งวิ่งผ่านออกประตูมาได้
จากนั้นช่วยกับขวัญข้าวปิดประตู
พร้อมเอาท่อเหล็กที่ขวัญข้าวพกเป็นอาวุธมาขัดที่จับประตูไว้
เพื่อไม่ให้มันตามมาได้
เคร้ง!
"เรียบร้อย!"
ผมพูดขึ้นเมื่อพวกเรานำท่อเหล็กมาขัดสำเร็จ แต่ผมว่าคงต้านได้ไม่นาน
ขนาดกำแพงยังพังเลยนับประสาอะไรกับประตูไม้ศักย์
ตึง!
เปรี้ยะ!
นั่นไงว่าแล้ว.....
"รีบไปกันเถอะขวัญข้าว!"
"อื้อ!"
พูดจบขวัญข้าวก็มาช่วยประคองสายรุ้งกับผม
แล้วรีบสับขาเดินออกจากตรงนี้ทันควัน
ปล่อยให้พวกเรางงกับการกระทำที่น่าสงสัยของ....ฆาตกรถือเลื่อยไฟฟ้านั่น
ส่วนทางด้านนึง...
ด้านหน้าคฤหาสถ์
ซ่า....ซ่า
เสียงฝนที่สาดกระหน่ำ
กับลมแรงกระโชก
พร้อมกับต้นไม้ที่ทำท่าเหมือนจะล้มได้ตลอดเพราะแรงลมที่แรงนี่
ชายหนุ่มและเด็กสาวคู่หนึ่งกำลังยืนมองคฤหาสถ์หลังนี้
ด้วยแววตาที่เป็นกังวลพลางสงสัยเกี่ยวกัยคฤหาสถ์หลังนี้
" ตกลงเธอจะเข้าไปจริงๆน่ะเหรอ"
ชายหนุ่มพูดขึ้นบอกกับเด็กสาว ที่กำลังยืนด้วยตัวที่เปียกโชกตรงหน้าเขา
"ค่ะ ถ้าขืนพวกเราเข้าไปทั้งคู่ พวกเราก็จะออกมาไม่ได้อีกน่ะสิคะ" เด็กสาวหันกลับไปยิ้มให้ชายหนุ่มด้านหลัง
" ขอให้เธอ....ช่วยน้องชายฉันออกมาให้ได้นะ....ฟ้าใส"
ชายหนุ่มยิ้มอย่างเป็นกังวลก่อนจะยื่นกระดาษที่เคลือบพลาสติกมาให้เป็นอย่างดี
"นี่คือ แผนที่คฤหาสถ์หลังนี้....ฉันช่วยได้เท่านี้แหละ "
ชายหนุ่มยื่นมันให้เธอ
ด้วยใบหน้าที่เปียกปอน
" ไม่เป็นไรค่ะ
พี่เมฆินช่วยได้มากแล้วค่ะ
รับรองฉันต้องพาตาเพื่อนสมัยเด็กจอมเซอะซะคนนั้นออกมาให้ได้ รวมทั้งเพื่อนๆของเขาด้วย" เด็กสาวพูดพร้อมกำหมัดแน่นอย่างมั่นใจ
"ระวังตัวด้วยละฟ้าใส"
"ค่ะ พี่เมฆิน"
พูดจบเด็กสาวก็เปิดประตูแล้วเดินเข้าไป แล้วก็หายไปในคฤหาสถ์หลังนั้น.....
ความคิดเห็น