คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3 ฝัน (รีไรต์)
บทที่ 3 ฝัน
ตอนนี้ผมก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ผมตอนนี้กำลังที่จะเดินกลับบ้านอยู่ต้องรีบไปเตรียมข้าวของไปที่ค่ายนั่น วัฒน์ก็กลับบ้านไปแล้ว ส่วนฟ้าใสเธอรีบกลับไปที่บ้านผมเพื่อเตรียมอาหารล่วงหน้าก่อนแล้ว
แถมเธอบอกว่าเตรียมของไปค่ายให้แล้วด้วย.....เฮ้อ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงดีละเนี่ย แต่ผมก็เกรงว่าเธออาจจะเตรียมไปไม่ครบผมจึงกะพอถึงบ้านแล้วก็จะเช็คของที่เธอเตรียมให้ซะหน่อยว่าเอาไปถูกรึเปล่า
ตึก ตึก...
"เลี้ยวตรงมุมนี้ก็ถึงบ้านเรอแล้ว....หือ?"
ผมพูดขึ้นแล้วจู่ๆผมก็หยุดคำพูดของผม แล้วก็มองใครบางคนที่อยู่ตรงหน้าบ้านผมเขาใส่เสื้อกันฝนสีดำที่มีฮู้ดคลุมปิดบังใบหน้าไว้ เขามองมาทางผมพร้อมฉีกยิ้มให้.....อะไรของเขาอีกอย่าง
ฝนก็ไม่ได้ตกนี่นา....เขาบ้ารึเปล่าที่ใส่ชุดเวลานี้ แต่ที่สำคัญเขามายืนทำไมหน้าบ้านของผม
"เฮ้นี่คุณ....!"
ขณะที่ผมกำลังจะเรียกเขาจู่ๆเสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น...
"....เสียงเปียโน"
เสียงเปียโนดังขึ้นมาจากบ้านของผม แต่บ้านของผมไม่มีเปียโนนี่นา...
ครืน.....
"เอ๊ะ...."
จู่ๆก็มีเสียงฟ้าร้องเมฆเริ่มมารวมตัวกัน จนกลายเป็นเมฆสีดำ อะไรกันก่อนหน้านี้ยังอากาศดีอยู่เลยทำไม...
ซ่า....ซ่า...
ฝนตกลงมา และเสียงของเปียโนก็ยังคงบรรเลงอยู่ ไม่รู้ทำไมผมถึงยืนอยู่ที่เดิมไม่ยอมหลบเข้าไปในบ้าน และผมคิดไปเองรึเปล่าเสียงเปียโนนี้เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศเริ่มอึมครึมเรื่อยๆ
ผมที่กำลังมองท้องฟ้าที่มืดสงัดอยู่นั้นก็ก้มลงมามองชายตรงหน้าอีกครั้ง........แต่แล้วสิ่งที่พบก็คือ....ไม่มีอะไร ผู้ชายสวมเสื้อกันฝนคนนั้นหายไปแล้ว
ฝนตอนนี้เริ่มซาลง ผมตัดสินใจเดินเข้าไปในบ้าน...
เสียงเปียโนเองก็เริ่มเบาลงเรื่อยๆ...
แอ๊ด...
"เอ้ะ?"
เสียงของเปียโนหยุดลงพร้อมกับผมที่กำลังสั่นไหวกับภาพตรงหน้า หัวใจผมเหมือนโดนกำแพงบีบอัดจนสลาย ผมเห็นหญิงสาวคนนึงกำลังลอยอยู่เหนือผม เท้าเธอไม่ได้ติดพื้น ที่พื้นตรงปลายเท้าเธอมีของเหลวบางอย่างซึ่งเป็นสีแดงสด
...เธอไม่ได้ลอยอยู่กับพื้นแต่ถูกทำให้ลอยอยู่ต่างหาก เชือกแข็งขนาดใหญ่ผูกอยู่กับโคมไฟและคอของหญิงสาวคนนั้น
ผมหน้าซีดเผือกมือไม้สั่นไปหมด...เพราะคนที่อยู่ตรงหน้านี้คือ.....ฟ้าใส
........................................................................................
ม่ายยย!!!!
"แฮ่ก....แฮ่ก....เอ้ะ....ที่นี่มัน"
เอ้ะที่สะดุ้งขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวกับภาพที่ได้เห็นนั้น ร่างกายเนื้อตัวของผมเต็มไปด้วยเหงื่อ ผมมองไปรอบๆที่นี่คือ ห้องของผม...
ตึง ตึง!
"เมฆเกิดอะไรขึ้น!"
เสียงของหญิงสาวคนนึงวิ่งขึ้นบันไดมาด้วยเสียงอันดัง เธอเข้ามาในห้องของผมแล้วถามขึ้นด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก เอ้ะ...ฟ้าใสแสดงว่ามะกี้นี้.....
"ฝันหยั่งงั้นเหรอ......" ผมพูดขึ้นพลางนำมือของตัวเองมาจับขมับตัวเอง
"ฝัน?นายฝันร้ายหยั่งงั้นเหรอ...." ฟ้าใสบอกได้ยินผมพูด เธอจึงถามกลับ
"อือ...คงจะหยั่งงั้น..."
ตึก ตึก
"เอ๋?"
ผมพูดขึ้นพลางลุกขึ้นออกจากเตียงเดินไปหาหญิงสาว หญิงสาวตรงหน้าผมนี้ที่ใส่เสื้อกันเปื้อนมองผมอย่างสงสัยด้วยดวงตาอันกลมโตของเธอ
หมับ!ยืดดดด
"โอ๊ยเจ็บนะเมฆทำอะไรน่ะ!" ผมนำมือของผมทั้งสองข้างดึงแก้มเธอจนยืดออก
"ฉันกำลังเช็คน่ะว่าตอนนี้ฉันไม่ได้ฝันอยู่" ผมยิ้มเล็กๆให้เธอ
"โถ่ นายก็...ว่าแต่รีบลงไปกินข้าวเช้าเถอะ เดี๋ยวก็ไปสายหรอก" เธอที่กำลังเดินลงไปข้างล่างหันมาบอกผม
"สาย?"
ผมหันไปถามเธอ เพื่อทวนคำที่เธอพูดอีกครั้งว่ามันหมายความว่าอะไร
"อ้าวอย่าบอกว่านายลืมนะเนี่ย วันนี้เป็นวันที่นายจะต้องไปค่ายไม่ใช่เหรอ?" เธอถามผมพลางเอียงหัวประมาณจะบอกว่าไม่ใช่รึไง
ควับ!
".....เฮ้ยจริงด้วย!!!!OIIIO"
ผมสะดุ่งขึ้นเมื่อหันไปมองดูปฏิทิน ผมมักจะขีดปฏิทินเมื่อวันนั้นผ่านมาแล้ว แล้วล่าสุดที่ผมไม่ได้ขีดก็คือ....วันที่ผมต้องไปค่าย!
ตึก ตึก
ผมรีบกระโดดออกจากที่นอน พับผ้าห่ม แล้วก็อาบน้ำอาบท่า แล้วก็ลงไปกินข้าวที่ฟ้าใสเตรียมให้
"รีบกินเร็วเข้าเดี๋ยวไม่ทันรถบัสหรอก!" ฟ้าใสตะโกนเร่งผม วันนี้เป็นวันเสาร์เพราะฉะนั้นฟ้าใสเลยไม่มีเรียน เธอเลยดูไม่ค่อยเร่งรีบเท่าไร
" เฮ้ เมฆเสร็จยัง!"
เสียงของใครบางคนตะโกนขึ้นหน้าบ้านของผม....วัฒน์หมอนี่มารอผมแล้ว
" นั่นไงวัฒน์มาแล้ว" เธอพูดพลางมองออกไปข้างนอก
"เอ้าเสร็จแล้ว ไปละนะ!"
ผมทิ้งชามข้าวไว้นั่นเพื่อฝากให้เธอฝากล้างด้วย ผมหยิบกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่จะเอาไปค้างแล้ววิ่งตรงออกไปใส่รองเท้า
"ขอให้สนุกนะเมฆ" เธอทำมือบ๊ายบายให้ผม
"เออ เธออย่าร้องละกันฉันไม่อยู่เนี่ย" ผมยิ้มเล็กๆให้เธอ
" ใครจะไปร้องเล่าไปได้แล้ว!" เธอตะโกนไล่ผม
"อา อา...."
ผมพูดและพอเจอรูปคุณพ่อคุณแม่ที่ตั้งอยู่ก็โค้งให้พวกท่านก่อนเดินออกจากไป
"เร็วๆเมฆ!"
"เอ้อๆ!"
ณ โรงเรียน
กลางลาน
8.30 น.
ผมวิ่งเข้ามาเข้าแถวพร้อมวัฒน์ได้ทันพอดี พวกเขากำลังเช็คชื่อผมอยู่พอดีผมเลยขานรับได้ดัน
ซุบ ซิบ
"นั่นไงละเมฆ"
เสียงทุกคนพูดกล่าวถึงเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
" ได้ข่าวว่ามีเรื่องชกต่อยกับธันมาแหละ เลยอยู่โรงพยาบาลหลายวัน"
เสียงของเหล่าผู้หญิงที่อยู่ห้องอื่นรวมถึงห้องของเขาเองต่างพูดคุยถึงเรื่องของเขา โดยที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนพูดถึงกันอยู่
" เธอรู้ได้ยังไงละ"
ผู้หญิงคนนึงเกิดสงสัยขึ้นมา จึงถามเพื่อนของเธอที่เป็นคนเปิดประเด็น
"ฉันได้ยินมาจากพวกผู้ชายน่ะ" เธอคนนั้นตอบเพื่อนสาวของเธอกลับ
"แต่ว่าอ่อนแอจังเลยนะตาเมฆนั่น โดนแค่ต่อยกลับถึงเข้าโรงพยาบาลเลย" เพื่อนสาวอีกคนเริ่มพูดเสริมขึ้น
" นี่พวกเธอคุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ ขอฉันคุยด้วยคนสิ"
หญิงสาวอีกคนนึงที่นั่งอยู่ข้างๆพวกเธอ ได้ยินพวกเขาคุยกันเลยเกิดสนใจขึ้น เธอจึงเข้าไปถามพวกผู้หญิงเหล่านั้น.....ซึ่งเธอคนนั้นก็คือ
"อ้าวเดียร์"
ผู้หญิงห้องนั้นพูดขึ้นเมื่อคนนอกห้องของตัวเองเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
"เรื่องที่เมฆโดนธันอัดจนต้องเข้าโรงพยาบาลน่ะ" ผู้หญิงพวกนั้นบอกเธอ
"เอ๋! เมฆน่ะนะ ทำไมต้องทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้นด้วยน่ะ" เดียร์พูดด้วยสีหน้าที่รู้สึกสงสารผู้ที่ถูกกระทำ
" ........เอ....พอฉันเห็นเธอก็นึกขึ้นได้ เธอก็จำได้ใช่มั๊ยที่เมฆบอกสารภาพรักกับเธอแบบแกล้งๆตอนนั้นน่ะ" ผู้หญิงคนนั้นชี้มาที่เธอ
"เอ๋! อือ....จำได้ว่าแต่เรื่องนั้นมันเกี่ยวอะไรด้วยละ" เดียร์หันไปบอกพวกเธอพลางทำสีหน้าที่กังวล
" ก็เพราะตั้งแต่วันนั้นเมฆก็เข้าโรงพยาบาลเลยไง....ฉันขอเดานะว่าที่เมฆต้องเข้าโรงพยาบาลน่ะเพราะ....." ขณะที่พวกผู้หญิงเหล่านั้นกำลังบอกเดียร์ก็มีเสียงแทรกขึ้นมาขัดบทสนทนาของพวกเธอ
"เดียร์ห้องเราเขาจะขึ้นรถกันแล้วไปเร็ว!"
"อ้ะ! เดี๋ยวสิ"
เธอยังฟังไม่ทันจบก็โดนเพื่อนสนิทของเธอ'ริณ'ที่อยู่ห้องเดียวกันลากขึ้นรถไป รถแต่ละคั้นนั้นจะบรรจุได้แค่คันละห้องมีทั้งหมด4ห้องก็4คัน
......................................................................................................................................
" เฮ้อไปเร็วตาห้องเราขึ้นรถและ" เมฆเรียกผมขณะที่ผมกำลังนั่งเหม่ออยู่
"อ้ะ โอเคๆ"
ขณะที่ผมกำลังลุกขึ้น ผมก็รู้สึกได้ว่ามีสายตาคู่นึงกำลังมองผมอยู่ ธันมันมองผมอยู่ผมเห็นดังนั้นจึงหลบสายตาของมัน เพราะถ้าขืนจ้องกับมันก็คง...
.....ท้องกันพอดี เอ๊ย!ไม่ใช่ปลากัดO..o (แล้วปลากัดนี่แค่มองก็ท้องจริงเรอะ-_-)
ก็คงมีเรื่องกันไม่จบแน่นี่คือสิ่งที่ผมคิดในใจ
"เฮ้อจะได้ไปชลบุรีแล้ว เย้!!!" 'ไอ้ไทย'ตัวป่วนของห้องผมตะโกนขึ้น
" เฮ้อ.....กว่าจะถึงหลับดีกว่า" เพื่อนบางคนก็เซ็งกะตายที่จะได้ไปเที่ยว
.......ผมในตอนนี้ไม่รู้เลยว่าเสียงหัวเราะ เสียงแห่งความสำราญของทุกคนในตอนนี้ที่ได้ยิน
.............มันจะเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเรา
ความคิดเห็น