คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ทดลองเป็นคุณอาครั้งที่ 6 {50%}
BBH’S PART
”พี่ชานยอล ๆ แบคฮยอนกินขิงไม่ได้อ่ะ” ผมว่าแล้วใช้ช้อนตักขิงสีเหลืองไว้ขอบจาน อยากจะเบะปากเมื่อคิดถึงตอนเด็กๆที่ผมเคยลองกินขิงเข้าไปและพบว่ามันฮีนขึ้นสมองจนปวดหัว โลกหมุนไปหมด คือไม่ได้แพ้แต่แค่ไม่ชอบกลิ่น.. เกลียดเลยอ่ะ อารมณ์ประมาณเจอขิงในระยะสามสิบเซ็นคือหยิบทิ้ง ๆ ไร้ปราณีใด ๆ
“เอ้า ไม่บอกพี่ตอนทำล่ะ” ชานยอลทำตาโตใส่แล้วดึงจานของแบคฮยอนสลับกับของตัวเอง บังเอิญจริงๆที่จานของชานยอลก็ไม่ค่อยมีขิงเยอะเท่าไหร่เผลอๆแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมต้องเอาจานที่มีขิงเยอะมาให้ตอนแรกด้วยเนี่ย!
“เดี๋ยวคืนนี้แบคเข้าห้องไปก่อนเลยนะ พี่ว่าจะอยู่เคลียงาน.. นิดนึง” พี่ชานยอลแอบกลืนน้ำลาย โกหกเนี๊ยนนนนเนียน ผมมองหน้าพี่เขาแล้วเอียงคอถามต่อ
“เคลียงาน ?”
“อือ เคลียงานให้เสร็จจะได้ไปซื้อโทรศัพท์กับเราไง เด็กบ๊อง”
“อ่อ ๆ อืม เร็ว ๆ นะเดี๋ยวนอนเล่นรอ”
“ไม่ต้องรอหรอก นอนไปเลย เด็กต้องนอนเยอะ ๆ”
“พูดเหมือนพี่อายุ40งั้นแหละ..”
จู่ ๆ ก็รู้สึกผิดขึ้นมาแฮะ..ร่างบางส่งยิ้มเจื่อนๆก่อนจะกินต่อจนหมดแล้วลุกเอาจานไปเก็บเงียบๆ ผมรีบเดินไปที่หน้าทีวีทันที มือก็คว้ารีโมทแล้วเปิดดูซีรี่ย์หลังข่าวที่แสนจะน้ำเน่าแต่เขาก็ชอบดู ซึ่งเขาไม่พลาดแน่นอนเพราะอีกแค่ตอนเดียวซีรี่ย์เรื่องนี้ก็จะจบแล้ว ถ้าไม่ดูเดี๋ยวจะขาดตอนเอา ไม่ได้เลย
ผมอาศัยจังหวะระหว่างที่มันกำลังโฆษณาคั่นอยู่ลุกขึ้นไปหยิบนมในตู้เย็นมาวางตรงโต๊ะหน้าทีวี แอบชะโงกหน้าไปดูในห้องทำงานมืด ๆ ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอนของพี่ชานยอล แต่ก็เห็นเพียงแค่คุณอาคนหล่อของผมที่กำลังใส่แว่นตาแล้วเคลียร์งานอย่างขมักขะเม้น นึกแล้วก็อยากจะให้เคลียงานเสร็จเร็ว ๆ คนแก่ของแบคฮยอนจะได้ไปพักซักที
‘ซึลบี!!!’
ทันทีที่ได้ยินเสียงพระเอกเรียกชื่อนางเอกจากทีวีเจาตัวเล็กก็รีบวิ่งดุ้กดิ้กกลับไปดูต่อพร้อมแก้วนมในมือ รอซีรี่ย์จบแปปเดียวเดี๋ยวเค้าไปนวดไหล่กับหลังให้นะพี่ชานยอล ตอนนี้ขอดูก่อนแปปเดียวจริงๆ
‘ซึลบีอา’
‘คุณมากอดฉันทำไม’
เพี๊ยะ!!
‘…’
‘แล้วใครคือซึลบี ฉันชื่อว่า ชอน ซาราง’
‘ซึลบีอา..’
‘คุณร้องไห้ทำไม ฉันขอโทษ เจ็บหรือปล่าวคะ’
‘ทำไมเธอถึงจำฉันไม่ได้..อึก’
‘อ้าว นั่นนายร่มนี่!’
‘ซึลบีเธอจำซองยอลได้หรอ’
‘ว้าว เขาชื่อซองยอลหรอ ชื่อเท่จังเลย’
‘…’
นางเอกนี่จำใครไม่ได้เลยใช่อ่ะ ??? โฮ น้องแบคสงสารพระเอกกับพระรองเรื่องนี้จังเลยง่ะ อยากจะเอาหน้ามุดจอโทรทัศน์เข้าไปเหวี่ยงนางเอกให้รถชนอีกสักรอบสองรอบเผื่อสมองจะเลิกเบลอถ้าไม่ติดว่าเกรงใจเจ้าของห้องที่นั่งทำงานอยู่..
ครืดดดดดดดดดดด
เสียงจากโทรศัพท์.. โทรศัพท์งั้นหรอ ? แถมไม่น่าจะใช่เสียงจากในซีรี่ย์ซะด้วยสิ ก็แปลว่าของพี่ชานยอลงั้นสินะ ดันมาลืมไว้ในห้องครัวซะได้ สงสัยต้องเอาไปให้แล้วล่ะ ก็ถ้าเกิดเป็นสายด่วนขึ้นมาแล้วจะแย่ ว่าแล้วก็ไปหยิบโทรศัพท์ยกขึ้นมาดูรายชื่อคนโทรมาเผื่อเป็นพี่จงอินจะได้รับสายให้เลย..
‘mom :(’
ผมขมวดคิ้วทันทีที่เห็นชื่อคนโทรมา เป็นแม่โทรมาหน่ะไม่แหลก แต่ที่แปลกคืออีโมเบะปากข้างหลังเนี่ยแหละ.. พี่ชานยอลต้องทะเลาะกับแม่ชัวร์ๆ แต่จะให้ไปถามตรงๆก็ดูน่าเกลียดไปเนอะเดี๋ยวจะโดนหาว่ายุ่งไม่เข้าเรื่องเอา ไว้เดี๋ยวถามพี่จงอินเอาก็ได้.. ผมเดินไปทางห้องทำงานที่อยู่ไม่ไกลนักแต่พอเดินถึงหน้าห้องโทรศัพท์ก็ถูกคนโทรมาตัดสายไปซะก่อน แถมยังมีข้อความสวนขึ้นมาอีก
mom :( : แกไม่ต้องโทรกลับ เดี๋ยวฉันจะโทรมาใหม่
แล้วข้อความก็ดับไป เห้ย แม่ลูกภาษาอะไรใช้แกกับฉัน ดูไม่สนิทสนมกันเลย คงทะเลาะกันจริงๆล่ะ.. ผมยืนมองโทรศัพท์สลับกับประตูห้องเล็กน้อยแล้วเคาะประตูเบาๆ ก่อนจะดันประตูไม้ออกอย่างเบามือกลัวว่าหากเปิดแรงคนทำงานอยู่จะสติแตกไม่เป็นอันทำงาน
“พี่ชานยอล โทรศัพท์เข้าอะ”
“หื้อ ใครโทรมา?” พี่ชานยอลถามหน้ามึน ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมา โอ้โหย หล่ออีกแล้วอ่า
“แม่พี่โทรมาอะ”
“.. .”
“ท่านบอกว่าไม่ต้องโทรกลับแต่เดี๋ยวจะโทรมาอีกที”
“…”
“พี่ชานยอล..”
“เอาโทรศัพท์มาแล้วไปดูหนังต่อเถอะ”
เอ้า หน้าตึงเฉย..
ยังไม่ทันพูดจบคุณอาคนหล่อก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นๆ.. หรือว่าโกรธที่แบคพูดเสียงดัง หรอ?? หรือรำคาญที่ทำสมาธิแตก?
“อือ”
แต่ถึงอยากจะบ่นอีกสักหน่อยแต่พอเงยหน้าเจอคนหล่อทำหน้าตึงแบบนั้นก็ได้แต่รีบเดินเอาโทรศัพท์ไปวางบนโต๊ะแล้วเดินออกมาด้วยความเร็วแสง จะว่าไปพี่ชานยอลก็เคยมีท่าทางแบบนี้นะ ตอนที่ป้ายอนฮวานั่นตบแบคฮยอนนั่นแหละ แถมตอนนั้นยังโกรธมาก ๆ อีกด้วย เฮ้ คงจะไม่ได้โกรธแบคฮยอนขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย !?
‘พักโฆษณาซักครู่ ช่วงหน้า...’
=__=..
เบื่อระดับสิบ นี่ทั้งโดนดุทั้งพักโฆษณา เออ เอาเลย ตามสบาย ไปนอนแล้วก็ได้ ไม่ดูแล้วซีร่งซีรี่ย์หมดอารมณ์เว้ย หมดตั้งแต่อีนางเอกจำไม่ได้ละก็อินไปงั้น ๆ แหละ
จะนอนห้องไหนอะทีนี้. ปกติก็ไม่คิดหรอกเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ แต่พึ่งโดนดุออกมามันก็ต้องมีหวั่นๆบ้างล่ะที่แบบว่า โดนด่าเสร็จละยังนอนอยู่ที่เดิมให้เขารำคาญ
ปกตินอนกับพี่ชานยอลตลอดนะ ที่จริงนอนหลับเริ่มสนิทตั้งแต่สามวันแรกที่มาอยู่ที่นี่แล้วหล่ะ.. แต่แบบ คนชอบกันมันก็อยากใกล้ชิดป้ะล่ะแก ._. เวลานอนด้วยกันก็แค่นอนปกติ ไม่มีซัมธิงใด ๆ ทั้งสิ้น แค่นอนเตียงเดียวกันน้องแบคก็ละลายรวมกับฟูกไปแล้วถ้ามากงมากอดแบบวันแรกคงเขินตายไปนานแล้วแน่ๆ
กลับเข้าประเด็นเถอะว่าผมจะนอนห้องไหน
จะนอนห้องตัวเองนี่ก็รู้สึกแปลกๆแหละ ห้องตัวเองมีไว้เพื่อเก็บของสงวนแท้ ๆ เช่นกางเกงนุงเกงใน เสื้อซับ ครีมร้อยแปดพันเก้า ถ้าพี่ชานยอลมาเห็นคงขำตาย บ็อกเซอร์ลายมุ้งมิ้งหมีพูห์งี้ ลิ้ตเติ้ลโพนี่งี้แต่ถึงงั้นก็เหอะ วันนี้คงนอนห้องตัวเองไปก่อน เผื่อพี่ชานยอลง่วงแล้วยกงานมาทำในห้องนอนไรงี้ ถ้าแบคฮยอนไปนอนเกลือกกลิ้งบนเตียงก็ดูจะรบกวนเกินไป.. นอกจากเขาจะเอางานมาเคลียเพื่อเขาแล้วเขายจะนอนอืดขวางที่ขวางทางเขาอีก จะดูแย่เกินไป
ถึงจะเป็นเด็กดื้อยังไงก็พอมีจิตสำนึกหรือเกรงใจหน่ะ..
แอดดดดดด..
ผมเดินดุ่ม ๆ เข้าไปที่เตียงตัวเองซึ่ง ย้ายมาโซลเกือบเดือนยังไม่เคยแม้แต่จะนอนจริงจัง.. แถมเตียงก็กว้างพอๆกับที่นอนกับพี่ชานยอลอีก ขนาดนอนสองคนยังรู้สึกโล่ง ๆ ละคราวนี้มานอนคนเดียว
จะมีใครมานอนกับเค้ามั้ยอะ
แง๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง..
ไม่เป็นไรแบคฮยอน แกเปิดไฟนอนก็ได้ พี่ชานยอลคงไม่ว่าหรอกนะ..ก็ได้แต่โอดครวญแล้วม้วนตัวเองกับผ้าห่มราวกับโคปเวอร์เป็นไข่ม้วนยังไงอย่างนั้น คิดอะไรเรื่อยเปื่อยทุกๆเรื่องมักจะมีแต่พี่ชานยอล พี่ชานยอล แล้วก็พี่ชานยอล..
อะไร ๆ ก็พี่ชานยอลอ่ะ โอ้ยยย รำคาญตัวเอง
ฮือ ;-; ให้ตายสิถ้าวันนึงพี่ชานยอลไม่อยู่ขึ้นมาจะทำไงฟระ
ผมปิดไฟหัวเตียงและเปิดไฟกลางห้อง เอาล่ะ สบายใจละ คงไม่มีแล้วล่ะผีเผอเปิดไฟสว่างโล่ขนาดนี้ หึหึ ผมยกนาฬิกาปลุกมาวางไว้อีกฝั่งของเตียงแล้วหันหน้าเข้าหานาฬิกา เผื่อผมยังไม่นอนแล้วพี่ชานยอลนอนแล้วงี้จะได้รู้กันว่างานที่ว่านั่นอ่ะ นิ้ดนึงที่ว่าอะ กี่ชั่วโมง
ไม่ได้เป็นห่วงหรอก หึ..
ตีหนึ่งครึ่ง..
รู้ซึ้งเลยว่าการข่มตานอนหลับไม่ใช่เรื่องตลก =__= ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วแต่ผมก็นอนไม่หลับซักที นึกรำคาญตัวเองที่บางทีก็ติดพี่ชานยอลมากไปนิดหน่อย (นิดหน่อยของเขาถึงแม้สำหรับคนอื่นจะเรียกว่าคลั่งพี่ชานยอลก็เถอะ)
ลุกไปหานมกินก่อนนอนเถอะ. นึกแล้วก็กินนมก่อนนอนทุกวัน มีวันนี้แหละที่เข้านอนก่อน
แขนเล็กยันตัวเองขึ้นมาจากเตียงแล้ววิ่งเหยาะ ๆ ออกจากห้อง ผ่านห้องทำงานก็ชะโงกหน้า ว่าจะส่องไปดูแต่คราวนี้ดันปิดไฟมืดตื๋อไปแล้วอ่ะดิเลยมองไม่เห็น เอ้า ไปนอนตอนไหนวะ?ทำไมไม่เห็นได้ยินเสียงปิดประตู ห้องนอนพี่ชานยอลอยู่ข้างๆเองนะแบคฮยอน
โอ้ย อายุแค่นี้หูไม่ดีแล้วหรอไง
ร่างบางเดินเข้าไปในห้องครัว ใช้มือคลำๆหาสวิทช์ไฟแต่ก็ไม่เจอเลยตัดสินใจเดินเข้าไปทั้งแบบนั้นแหละ อาศัยไปจากนอกหน้าต่างเอาก็ได้
แต่บางทีไฟจากข้างนอกก็ริบหรี่เกินไปนะ
ฟึบ ฟึบ..
เสียงลากเท้าเบาๆจากข้างหลังทำเอาคนตัวเล็กที่ยืนอยู่กลางห้องครัวตัวแข็งทื่อเหมือนโดนสาป.. หูนี่เพี้ยนหนักถึงขั้นมโนเสียงคนเดินขึ้นมาได้เองเลยหรือนี่?? พรุ่งนี้ต้องไปหาหมอแล้วล่ะ.
“คิดไปเองหน่า”
ปลอบใจกับตัวเองท่ามกลางความมืดและเสียงเดินลากเท้าที่จู่ๆก็หายไป แบคฮยอนเดินไปหยิบแก้วน้ำใบเดิมกับช่วงหัวค่ำออกมาแล้วรีบเดินหาตู้เย็นเปิดแล้วหยิบขวดนมออกมาถือในมือ แต่จู่ๆไฟทางห้องนั่งเล่น(อยู่ด้านหลังห้องครัว)ก็ติด พรึ่บขึ้นมา เด็กน้อยกลืนน้ำลายลงคอแล้วหยีตาออกมาเมื่อมีคนเปิดไฟ แต่พอมองไปที่พื้นก็ต้องเบิกตากว้าง
ตอนแรกที่มีแค่เงาของเขาตอนนี้มันมีอีกเงาซ้อนอยู่ข้างหลัง..
ให้ตายเถอะ..
“เชบัล”
ส่งเสียงเหมือนขอคำขอร้องจากสวรรค์ให้นี่เป็นเพียงฝันร้ายและพอตื่นขึ้นมาก็จะพบว่าเขากำลังนอนอยู่บนเตียง แต่ไอความเย็นจากตู้เย็นทำให้พอเดาออกว่าไม่ได้ฝันแต่อย่างใด
หันไปมองคงไม่ช้อคตายไปก่อนสินะ
เร็วเท่าความคิดเด็กน้อยหันขวับมองทางด้านหลังแต่ไม่พบกับใครเลย.. แถมพอก้มลงมองที่พื้น ยังเหลือเพียงแค่เงาของเขาคนเดียวเช่นกับตอนแรก..
กึก!
“อ้ากกกกกกกกกกก!!”
มือหนักๆพาดลงมาบนบ่าแล้วล้อคคอของแบคฮยอนเข้าไปใกล้จนชิดอก แทบจะปล่อยแก้วนมในมือทิ้งลงพื้นแล้วกรี้ดให้ดังๆแต่ตัวของเขากลับเกร็งแข็งและปลายมือเย็นเฉียบไปหมด รู้สึกว่าหัวใจที่เต้นปกตอเต้นเร็วจนแทบบ้า มันทั้งบีบคั้นทั้งโหวงๆแปลกๆ
“พี่ชานยอล พี่ชานยอล..”
หลับหูหลับตาแล้วได้แต่ร้องโอดครวญเบาๆเมื่อรู้สึกว่านอกจากแขนนั้นจะรัดต้นคอมากขึ้นจนหายใจไม่ค่อยออกแล้วยังรู้สึกเหมือนกับมีดที่วางบนซิ้งล้างจานจะเปลี่ยนตำแหน่งมาจ่ออยู่ที่คอของเขาแทน
“พี่ชานยอลลลลลลล!!!!!!!!!”
ตึก ๆๆๆๆ
“แบคฮยอนเป็นอะไร!!”
เฮือก!
“แบคฮยอนเจ็บตรงไหนมั้ย?”
ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่น..
ห้องนั่งเล่นงั้นหรอ
ดวงตาเรียวรีมองหานาฬิกาแล้วพบว่านี่เป็นเพียงแค่ช่วงห้าทุ่มหน่อยๆ ทีวีก็ถูกเปิดทิ้งไว้และหน้าโต๊ะก็มีแก้วนมวางเอาไว้ ร่างบางลุกขึ้นยืนแล้วหันไปหาพี่ชานยอลที่จู่ๆก็วิ่งออกมาจากห้องทำงานแล้วนั่งอยู่กับพื้นห้องแล้วเลิกคิ้วก่อนจะนั่งยองๆจับใบหน้าของพี่ชานยอลหันซ้ายหันขวา
“ทำอะไรหน่ะแบคฮยอน.”
“พี่ชานยอล ยืมแขนข้างขวาหน่อย”
“หื้อ?”
เจ้าของแขนเลิกคิ้วงงแล้วเปลี่ยนจากนั่งยองๆเป็นนั่งขัดสมาธิ แบคฮยอนคว้าแขนข้างขวาของเขาไปแล้วนั่งลงบนตักก่อนจะเอาแขนล้อคคอตัวเองแน่นๆจนชานยอลเองยังตกใจ
“เห้! ทำอะไรหน่ะ!”
แขนยาวค่อยๆคลายออกจากต้นคอของแบคฮยอนก่อนเจ้าตัวจะหันมาถามอีกคำถามให้งงเล่น
“นี่ พี่ชานยอลโกรธแบคฮยอนเรื่องอะไรรึปล่าว”
“จะโกรธอะไรเล่า พี่ก็นั่งทำงานอยู่ในห้องดีๆแล้วก็ได้ยินเสียงดังปั่กพอเดินออกมาดูเราก็ดิ้นตกโซฟาเนี่ย แล้วนี่เป็นอะไร? ฝันร้ายหรอ??”
“อือ ฝันร้ายอ่ะ”
“โอ๋ ไม่ต้องกลัวนะ..”
“ฝันว่าแบคเอาโทรศัพท์เข้าไปให้ตอนที่กำลังทำงานอยู่..”
“แล้ว”
“แล้วพอแบคบอกว่าแม่โทรมา.. พี่ก็โมโหใหญ่เลย ไล่แบคด้วย แบคก็เลยย้ายไปนอนห้องตัวเอง พอนอนไม่หลับก็เลยออกมาหานมกินแล้วก็เจอขโมยอ่ะ ขโมยมันจะฆ่าแบคฮยอนเลยนะ”
“…”
“มันล้อคคอแบคฮยอนแล้วก็เอามีดในครัวมาจ่อคอแบบเมื่อกี้ที่แบคลองรัดคอดูเลย”
“เราฝันว่าแม่พี่โทรมาหรอ?”
ชานยอลถามเสียงปกติไม่ให้น้องรู้ว่าตนนั้นกำลังรู้สึกถึงลางร้ายอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวของตัวเองที่ชานยอลเองก็ไม่ค่อยจะถูกกับแม่ของตนเองซีกเท่าไหร่ คุยกับพ่อกับพี่สาวเขายังคงเป็นชานยอลคนแสนดีอยู่ หากแต่พออยู่กับผู้เป็นแม่แล้วเหมือนกับต่อมความร้ยกาจมันถูกกระตุ้นอย่างหนักให้ต่อต้านและเถียงกลับ แบคฮยอนยิ้มซื่อแล้วคว้าแขนข้างขวาคุณอาคนหล่อกอดแน่นเข้าไปอีก เจ้าตัวเล็กมุดหน้าลงกับแขนแล้วใช้แก้มกลมไถไปมาอย่างน่ารัก จนชานยอลใจอ่อนยวบ
ก็แค่ลางสังหรณ์ละน่ะ..อาจจะไม่จริงก็ได้
“อื้อ งานเสร็จรึยัง?”
“ใกล้เสร็จแล้วล่ะ เหลืออีกแค่สองสามงานเราไปนอนรอในห้องก่อนเลยก็ได้..”
“ไม่เอาหรอก จะไปนอนพร้อมกัน”
“เถียงหรอ”
“ไม่ได้เถียงซักหน่อย”
“เรามันดื้อ!”
ชานยอลแสร้งใช้แขนล้อคคอเจ้าตัวเล็กให้จนในอ้อมแขนตัวเอง แบคฮยอนดิ้นขลุกขลักแล้วคุณอาก็นึกหมั่นไส้ เขาหอมเข้าที่ขมับซ้ายของคนเป็นหลานจังๆแล้วเกยคางเอาไว้ แบคฮยอนหัวเราะคิกคักแล้วลุกขึ้นดึงมือพี่ชานยอลให้ไปทำงานต่อ ส่วนชานยอลเองก็เริ่มง่วงขึ้นมาเล็กน้อยแล้วซะด้วย..
และชานยอลยังคงหวังว่านั่นเป็นแค่ลางสังหรณ์ของเขาเท่านั้นนะ
พิชันคนพบ้า
ความคิดเห็น