ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    R A V E `เด็กดื้อที่ชื่อแบคฮยอน♔ CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #3 : ทดลองเป็นคุณอาครั้งที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 58


             
     

    2

     

     

     


               "นอนได้แล้วครับเด็กดี นี่มันดึกแล้วนะ" หลังจากที่ พูดคุยแลกเปลี่ยนกันพี่ชานยอลก็บอกให้ผมไปพักผ่อนตอนเช้าตื่นมาจะได้สดชื่น สดใส อันที่จริงสำหรับแบคฮยอนเองไม่ต้องรอจนถึงเช้าก็ได้ แค่มีพี่ชานยอลอยู่ด้วยก็สดใสแล้วล่ะฮะ 

               แต่ก็อย่าลืมว่าแบคฮยอนมาจากต่างประเทศ ซึ่งเวลาของทั้งสองประเทศย่อมไม่ตรงกัน ยิ่งเคยอยู่ที่ประเทศอังกฤษมายิ่งแล้วใหญ่ ห่างกันหลายชั่วโมงเลยล่ะ เลยเป็นเหตุให้ผมต้องเดินมารบกวนพี่ชานยอลหรือคุณอาจำเป็นสุดหล่อตอนกลางค่ำกลางคืน ถึงจะเกรงใจพี่ชานยอลมากๆก็เถอะแต่จะทำยังไงได้ละ ก็คนมันนอนไม่หลับนี่นา

     

     

               ก็อกๆ..

     

               "พี่ชานยอลหลับหรือยังฮะ.."

     

               "ยังครับ เปิดประตูเข้ามาเลยแบคฮยอน"

             

               ทันทีที่ได้รับคำอณุญ่ติมือเรียวก็ผลักประตูไม้แง้มๆ โผล่ไปแต่ลูกตา แล้วยังเห็นพี่ชานยอลเดินมาหาในชุดสบายๆอย่างเสื้อยืดแขนยาวกับกางเกงนอนที่ แม้จะเป็นการแต่งตัวสบายๆก็ยังคงระดับความหล่อไว้อยู่ดียิ่งเขินไปใหญ่

     

               "ว่า ไง เด็กดื้อ ทำไมไม่ยอมนอนเรา หืม ไม่ชินที่หรอ?" มือหนาเปิดประตูออกกว้าง ส่วนผมก็ถือหมอนใบนึงในมือ ปากอยากจะพูดเหลือเกินว่า ขอนอนด้วยฮะ!! แต่ถ้าถามว่ากล้ามั้ย?

     

     

     

               นั่นก็อีกเรื่องนึง T_T

     

               "ฮะ.." ก้มหน้ากำหมอนในมือแน่นจนมันเกือบขาดคามือเมื่อคุณอาจำเป็นยังส่งยิ้มหวานกับแววตาอบอุ่นนั่นให้ไม่วางตา

     

               พี่ชานยอลคนบ้า ! นี่กะจะทำให้แบคฮยอนเขินได้ทุกๆห้านาทีเลยหรือไงกัน

     

               "เข้ามาก่อนสิ วันนี้นอนห้องพี่ก่อนก็ได้นะ" เขาจับมือผมแล้วออกแรงดึงนิดหน่อยตัวผมก็แทบจะปลิวติดมืออยู่แล้ว ยิ่งระทวยความหล่ออยู่ เขานั่งลงที่เก้าอี้โต๊ะทำงานแล้วหยิบแว่นมาใส่โดยไม่ลืมปิดไฟเพราะกลัวผมนอนไม่หลับ ตอนนี้เลยมีแต่แสงไฟโต๊ะทำงานและแสงจากจอโน๊ตบุ๊คเท่านั้น แต่ออร่าความหล่อก็พุ่งกระฉูดเหมือนเดิม

     

               "แล้วพี่จะนอนตรงไหนล่ะฮะ?

     

               โผล่หน้ามาจากผ้าห่มผืนหนามองตามนิ้วที่ชี้ไปตรงอีกฝั่งของเตียงด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะดันกรอบแว่นสายตาที่หล่นลงมาให้กลับไปอยู่ที่ดั้งโด่งดังเดิม

     

               อา ใส่แว่นก็หล่อ ถอดแว่นก็หล่อ

     

     

               หล่อ หล่อ หล่อ !!!!

     

               "นอนซะนะ เดี๋ยวกล่อมเอามั้ย"

     

               "คะ..ครับ เอ่อะ.. ฮะ"

     

               โอ้ย  ! ลิ้น ของผมมันพันกันไปหมดแล้ว จะครับ คะ หรือฮะกันแน่ก็ไม่รู้ ยิ่งพี่ชานยอลเดินมานั่งบนเตียงเดียวกับผมที่นอนดึงผ้าห่มคลุมโผล่มาแค่ตา สองข้างแถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมก็ยิ่งพูดไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่เลย ให้ตายสิ

     

               "เขินพี่หรอ?"

     

               จู่ๆก็เปลี่ยนเรื่องคุยกระทันหัน ซํ้ายังยื่นหน้ามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดบนหน้าผาก ผมหลับตาปี๋

     

               "ขะ เขินทำไมละ ไม่ได้เขินซักหน่อย พี่ชานยอลมั่วแล้ว" ปากบอกอย่างนั้นแต่ในใจนี่อยากจะตะโกนดังๆว่าเขินจนไม่รู้จะเขินยังไงแล้ว  !!!

     

               "ฮ่าๆ น่ารักจริงๆเด็กคนนี้" พี่ชานยอลชมผมอีกแล้ว ปากหวานจังน้า ~

     

               "นอนซะนะครับ เดี๋ยวพี่ทำงานต่ออีกแปปนึง" เขากำลังจะลุกออกไป อะไรกัน!! มาทำให้เขินแล้วจะชิ่งหนีกันงั้นหรอ ขี้โกงนี่!

     

     

               หมับ!

     

               ผมจับมือพี่ชานยอลไว้ข้างหนึ่งแล้วรั้งให้นั่งลงที่เดิมพลางเอาศีรษระกลมๆซุกที่แผ่นหลังกว้าง

     

     

               อุ่นดีจังน้า..

     

               "ง่า แบคนอนไม่หลับจริงๆนะ" พูดเสียงอ้อนประหนึ่งลูกแมวกำลังคลอเคลียเจ้าของ พี่ชานยอลหันมามองแล้วลูบหัวผม ชอบจังเวลาเขาลูบหัว

     

               "แล้วจะให้พี่ทำยังไงดีเอ่ย" ผมยกแขนขึ้นสองข้างแล้วทำเสียงอ้อนปนเศร้าไปด้วย

     

     

     

     

               "นอนกอดแบคฮยอนหน่อย.."

     

     

     

     

               ปล่าวอ่อยแค่นอนไม่หลับ









     

     

     

     

                กว่าจะกล่อมให้แบคฮยอนหลับก็ใช้เวลานานพอสมควร... เพราะเวลาของต่างประเทศกับที่เกาหลีไม่ตรงกัน อีกอย่างคงจะไม่คุ้นที่ด้วย กว่าจะนอนก็นู่นน่ะ..

     

                เที่ยงคืนกว่า

     

                แต่ยังดีที่วันพรุ่งนี้ผมหยุดงานเลยมีเวลากล่อมแบคฮยอนให้หลับ เด็กน้อยหลับปุ๋ยแถมยังครางหงิงๆเหมือนลูกหมา ลึกๆผมอยากจะลุกไปทำงานต่อนะ แต่นี่มันก็ดึกแถมยังปวดตาปวดหัว แล้วอีกอย่าง ..เจ้าตัวเล็กนี่ก็กอดผมแน่นซะจนไปไหนไม่ได้.. แถมยังใช้หัวทุยๆซุกกับหน้าอกผม ไซร้ๆไปมาจนคนแก่บ้าจี้ที่นอนกอดเด็กน้อยไปเกร็งตัวไปหมด อกบางกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะ หายใจเข้าออกสมํ่าเสมอจนคนกล่อมเองก็รู้สึกง่วงตามไปด้วย

     

                "ลูกหมาเอ้ย"

     

                "หงิง.."

     

                "ปล่อยพี่แปปนึงได้ไหมเด็กดี พี่จะไปปิดโน๊ตบุ๊ค"

     

                "ฮือ อออ.. อือ" นอกจากไม่ปล่อยแล้วยังกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิมจนผมต้องนอนเฉยๆเพราะกลัวเด็กจะ ตื่นเอา อา นี่เขาแกล้งหลับหรือปล่าวเนี่ยเริ่มไม่แน่ใจซะแล้ว

     

                "ฮืมม.."

     

                สุดท้ายก็ยอมแพ้เด็กคนนี้ ผมยกแขนขึ้นกอดตอบแล้วเกยคางไว้บนศีรษระเล็กๆ กลิ่นแป้งอ่อนๆลอยเข้าจมูกก็พลันยกยิ้มขึ้นอย่างชอบใจ

     

     

                ชอบจังน้า กลิ่นตัวเด็กๆแบบนี้

     

     

     

                พอได้นอนเล่นสักพักผมก็เริ่มรู้สึกง่วง แม้โน๊ตบุ๊คจะเปิดอยู่ แต่ไหนๆก็ลุกไปปิดไม่ได้แล้ว ก็นอนเลยละกัน ไม่ไหวแล้ว..

     

     

     

     

     

     

     

                "พี่ชานยอล!!! ตื่นได้แล้วฮะ นี่มันสายแล้วนะเดี๋ยวไปทำงานไม่ทันหรอก!"

     

                "อื้อ เป็นประธานบริษัทไม่ต้องตอกบัตรเหมือนพนักงานนะครับ.." เสียงแหบพร่าตอบเบาๆ ทั้งๆที่คนตัวโตยังมุดอยู่ในกองผ้าห่มหนา ดวงตากลมเจ้าเสน่ห์ปิดลงแน่นเพราะแบคฮยอนเปิดม่านออก ทำให้แสงมันเข้ามาในห้อง

     

                "แต่พี่ก็ควรไปเช้าๆก่อนคนอื่นเค้าไม่ใช่หรอ!! ตื่นเลย" สุดท้ายก็ยอมเด็กมัน คนตัวโตลุกไปเข้าห้องนํ้า แล้วออกมาอย่างไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ เพราะมีแค่ผ้าเช็ดตัวที่ถือติดมือเข้าไปในห้องน้ำผืนเดียว เลยพันเอวแล้วเดินอาจๆ ออกมาจากห้องนํ้าแล้วก็โดนแบคฮยอนไล่ให้กลับไปใส่เสื้อในห้อง แล้วยังบ่นขมุบขมิบหน้าแดงอีก น่ารักชะมัด..

     

     

                มันเป็นแบบนี้ทุกวัน นี่ก็เข้าอาทิตที่สองแล้ว

     

                ใช่.. มันผ่านไปสองอาทิตย์กับการใช้ชีวิตกับแบคฮยอนแต่ความรู้สึกของผมมันเร็วมากๆ เหมือนกับกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง เพราะผมอยู่กับเด็กหน่ะหรอก็นะ..ช่วงนี้ก็มีแต่คนพูดว่าชานยอลเปลี่ยนไป เด็กลงบ้างละ พูดมากกว่าเดิมบ้างหล่ะ หล่อขึ้นบ้างล่ะ แต่ความรู้สึกของตัวผมเองส่วนตัวคิดว่ามันก็เหมือนเดิม..

     

                ผมเปลี่ยนไปตรงไหนกัน?

     

                หรือ ว่าจะอยู่กับเด็กเลยติดนิสัยหรือการพูดมาจากแบคฮยอนกันนะ ยิ่งช่วงนี้รู้สึกว่าบรรดาลูกค้าที่เข้ามาจะดูผ่อนคลายลงเวลาคุยงานกับผม จากที่เมื่อก่อนเอาแต่ทำหน้าเครียด

     

                "พี่ชานยอล~" หลานตัวเล็กเรียกคุณอาที่กำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างขมักขะเม้น "อยากกินแซนวิชอ่า ทำให้กินหน่อย"

     

                "ครับ เดี๋ยวรอพี่แปปนึงนะ" และดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแบคฮยอนจะดีขึ้นไปแบบก้าวกระโดดซะด้วย ก็คงเพราะคุยกันทุกวันทั้งวัน(?)ล่ะนะ

     

                "เย้ พี่ชานยอลใจดีจัง หล่อด้วย!" น้องยิ้มตาหยี แก้มยุ้ยๆนั่นขึ้นสีแดงอ่อนๆ ปากแดงๆเปล่งเสียงเจื้อยแจ้วที่ฟังยังไงก็ไม่เบื่อ ไม่น่ารำคาณเหมือนเสียงผู้หญิงแว้ดๆด้วย ซึ่งทุกอย่างมันดูน่ารักในสายตาคนแก่กว่าตลอด

     

                "ปากหวานนะเรา"

     

                "ฮิๆ ~"

     

                "ไปทำเร็วๆๆๆ แบคฮยอนหิวแล้ว" เขาเร่ง แล้วดันหลังผมให้ไปที่ห้องครัวก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้กลางห้องครัว

     

                "ฮืมมมม ~" วันนี้ รู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กดูอารมณ์ดีกว่าทุกวัน เดี๋ยวร้องเพลงเดี๋ยวเดินมาป้วนเปี้ยนแถมยังยิ้มน่ารักๆตลอดเวลา คนตัวโตก็อดแซวไม่ได้

     

                "อารมณ์ดีจังนะ"

     

                "ก็จะได้กินแซนวิชนี่ อยากกินแล่ว แง่งงง" ใบหน้าหวานงํ้างอลงภายในพริบตา โอ๋ๆ จะรีบทำเดี๋ยวนี้แหละเด็กดี.. คุณอาจำเป็นส่ายหัวแล้วรีบลงมือทำอาหารเช้าทันที

     

     

     

                "งํ่าๆ" แบคฮยอนกัดแซนวิชตำโตแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ รีบกลืนลงคอ

     

                "ค่อยๆกินสิเดี๋ยวก็ติดคอหรอก" ผมปรามเขาเล็กน้อย

     

                "ก็หิวนี่ คนแถวนี้ชอบตื่นสาย"

     

                "ขอโทษครับ ฮ่าๆ"

     

                ยู่ปากอย่างน่ารักแล้วทานแซนวิชต่อ ไม่นานนักเราสองคนก็ทานอาหารเช้ากันจนเสร็จ ผมบอกให้น้องไปนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นส่วนผมก็เก็บจาน

     

     

                'จากนักธุรกิจเป็นพ่อบ้านไปแล้วสินะผมอมยิ้มน้อยๆกับความคิดตัวเอง

     






                     "ไปกันครับแบคฮยอน" มองเด็กน้อยที่นั่งดูทีวีรอกลางห้องบนโซฟา 

                วันนี้ เค้าแต่งตัวเป็นเสื้อยืดลายการ์ตูนน่ารักๆกับ กางเกงขาสั้นเหนือหัวเข่าโชว์ขาเล็กๆนั่น ผมหรี่ตามองเด็กน้อยที่กระโดดเหยงๆแล้ววิ่งมากอดแขนผมแน่น จะว่าหวงมันก็ไม่ใช่ จะว่าหึงก็คงไม่ใช่เนอะไม่ได้เป็นแฟนกัน งั้นเรียกว่าอะไรดี?

     

                "ทำไมใส่ขาสั้นครับ?" เขาเอียงคอ

     

                "งะ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยหนิ"

     

                "เป็นสิ พี่หวง. ไปเปลี่ยนเลย"

     

                "แต่นี่มันสายแล้วนะพี่ชานยอล"

     

                "รอได้"

     

                ยื่น คำขาดให้น้องก่อนจะนั่งบนโซฟา หายใจฮึดฮัด ไม่ใช่อะไรหรอกครับ วันนั้นผมเคยพาน้องไปที่บริษัทแล้วน้องใส่ขาสั้นไป พวกพนักงานก็จ้องกันตาเป็นมันจนผมก็อดหวงไม่ได้ พวกนั้นมันเฒ่าหัวงูชัดๆ อย่ามายุ่งกับแบคฮยอนของผมเชียว ไม่งั้นไล่ออกจริงๆ!

     

     

                "เสร็จแล้วฮะ"

     

                "อืม.. เห้ย!!"

     

                หันไปมองแล้วเบิกตากว้างเมื่อเห็นกางเกงขาสั้นกว่าเดิมสวมบนต้นขาเรียว แบคฮยอนต้องการอะไรจากผม! ดูสิ จากเมื่อกี้ที่ว่าใส่สั้นอยู่แล้วแล้วคราวนี้เดินออกมากลายเป็นว่าสั้นกว่า เดิมอีก อยากบอกเขาจริงๆสั้นอย่างนี้ถอดเถอะครับ อย่าใสเลย

     

                "ไปกันเถอะสายแล้ว นะๆ" วิ่งมาเขย่าแขนแล้วช้อนตามองอ้อนๆ พลางยํ่าเท้าไปกับพื้นห้องเร็วๆ ผมส่ายหน้า อ้าปากเตรียมบ่นแต่ดันมีสายโทรศัพท์มาแทรก

     

                /จงอิน/

     

                แบ คฮยอนแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผมแล้ววิ่งลงไปข้างล่าง ผมกุมขมับแล้วเดินตามออกไปอย่างจำนนพลางรับโทรศัพท์คนที่โทรมาขัดตอนที่ผมจะ บ่นน้องไปด้วย

     

                "ฮัลโหล โทรมาทำไม?"

     

                'แหนะ ทำเป็นโมโห มาทำงานสายยังจะอารมณ์เสียใส่กูอีกหรอ'

     

                "กำลังไปนี่ไง"

     

                'อืมๆ รีบๆมานะ มีแขกมาหวะ'

     

                "ใคร"

     

                'มาก่อน เดี๋ยวรู้เลย'

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                "ง่า โกรธแบคฮยอนขนาดนั้นเลยหรอ?" ผมถามในขณะที่พี่ชานยอลเอาแต่ทำหน้าเครียดตั้งแต่เดินลงมาทีหลังผมจนตอนนี้ จะถึงบริษัทแล้วก็ยังขมวดคิ้วไม่เลิก

     

                "งื้อออ แบคฮยอนขอโทษคราวหน้าจะไม่ใส่ขาสั้นแล้ว.."

     

                "พี่ไม่ได้โกรธเราเรื่องนั้นซะหน่อย."

     

                "จริงนะ!!"

     

                "แต่" พูดขัดก่อนจะหันมามองผมเล็กน้อย

     

                "ไม่ได้โกรธแต่ยังไม่ได้เคลียร์" พี่ชานยอลขมวดคิ้วเข้มเป็นปมแน่น เขามองหน้าผมไล่ลงไปเรื่อยๆจนถึงต้นขาด้วยสายตาอ่านยาก

     

                เจ้าเล่ห์!

     

                "ช่ะ.. ช่างมันเถอะน่า ถึงแล้วเนี่ยลงกัน!" ผมชวนเขาลงจากรถ ขืนไม่ลงแล้วโดนสกินชิพนี่ทำไงละ ฮือ ถึงพี่ชานยอลจะหล่อขนาดไหนผมก็หวงตัวนะเว้ย!

     

                "ครับๆ"

     

                เขาเอื้อม มาปลดเบลท์ให้พอเห็นผมนั่งนิ่ง จมูกผมแทบจะโดนแก้มพี่อยู่แล้วนะ อ่อยหรอ พี่ชานยอลขี้อ่อยอะน้องแบคจะไม่ทน แถมทำหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อีก อะไร นั่นมันอะไร!!

     

                "หืม หน้าพี่มีอะไรติดหรือปล่าว?"

     

                "ไม่.. ไม่มีๆๆๆ" ผมหลับตาแน่นเลย โอ้ย จู่ๆจะหันมาทำไม หันกลับไปเลยอีคนแก่ขี้อ่อย ฮือออ

     

                "ก็ ดูเราจ้องเข้าสิ" เสียงเขาค่อยๆห่างออกไปก่อนผมจะตะเกียกตะกายลงจากรถหรู เขาลงจากรถแล้วเดินนำผมไปที่ห้องทำงานแล้วกลับมาทำหน้าเครียดเหมือนเดิมส่วน ผมก็มานั่งเล่นในห้องทำงานพี่ชานยอลทุกวันเพราะตอนนี้ปิดเทอมหน่ะสิ อีกอย่างอยู่ห้องคนเดียวเหงาจะตาย

     

                ผมเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวแล้ว นั่งเล่นไปเรื่อยส่วนพี่ชานยอลก็ทำงานตามปกติ แต่แปลกที่วันนี้ปกติพี่จงอินจะต้องเอาขนมหรือกาแฟมาให้พี่ชานยอล แต่นี่มันเลยมาจะครึ่งชั่วโมงแล้วทำไมยังไม่มา?

     

                "แล้ววันนี้พี่จงอินไม่มาหรอฮะ" เขาเงยหน้าจากกองงานมามองผม

     

                "ช่างมันเถอะอีกแปปเดียว เดี๋ยวคงมา.."

     

                ปึงๆๆๆๆ!!!

     

                "เข้า ไม่ได้นะครับ!" ผมกับพี่ชานยอลสะดุ้งหันไปทางประตูห้องทำงานพร้อมกัน ได้ยินเสียงพี่จงอินตะโกนดังลั่นและเสียงเคาะประตูรัวๆแถมยังแรงซะจนกรอบใส่ ชื่อประธานที่ประตูร่วงลงกับพื้น ก่อนประตูเจ้ากรรมจะถูกถีบเข้ามาด้วยเรียวขาเล็กๆที่สวมส้นสูงสีแดงแปร๊ด!

     

     

     

                "ปล่อยมือสกปรกของแกจากแขนของฉันซะไอ้เลขากระจอก! !"

     

                ก่อนพี่ชานยอลจะลุกพรวดจนของร่วงกระจัดกระจายลงพื้น..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                "ยอนฮวา!!"








     


     

     

                หญิง สาวหุ่นเพรียว ผมสีดำสนิทยาวถึงกลางหลังและสวมเครื่องประดับบ่งบอกถึงความไฮโซของเธอ ดวงตาสวยเฉี่ยวกรีดอายไลน์เนอร์เพิ่มเสน่ห์อีกเป็นเท่าตัวยืนจังก้าเท้า สะเอวที่หน้าประตูโดยมีพี่จงอินคอยรั้งแขนของเธอเอาไว้ข้างหนึ่ง

     

                หญิง สาวมองไปที่ร่างสูงก่อนจะปลายตามามองคนตัวเล็กที่นั่งนิ่งๆอยู่ที่เดิมไม่ กล้าขยับ สายตาที่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรมองแบคฮยอนอย่างเย้ยหยั่น ไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าซํ้าไปซํ้ามาแล้วยิ้มเยาะออกมา

     

     

                "นี่ใครคะ?"

     

                เธอ ถามเสียงแข็ง เชิดหน้าชี้นิ้วไปที่แบคฮยอน ค่อยๆส่งรอยยิ้มอาบยาพิษไปให้ชานยอลโดยที่คนตัวโตทำหน้าเหนื่อยหน่ายราวกับ ว่ามันเป็นเรื่องน่าเบื่อ

     

                "ไม่เห็นจะเกี่ยวกับคุณนิ่ยอนฮวา" คนคัวโตยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ

     

     

                "จะไม่เกี่ยวได้ไงฉันเป็นแฟนคุณนะคะ!!!!"

     

     

     

     

                "แฟนเก่าอะดิไม่ว่า"

     

     






     

                กริบ..

     

                ประโยค สุดท้ายจงอินเป็นคนพูดขัดขึ้น ชานยอลอมยิ้มเล็กน้อยจนลักยิ้มบุ๋มลงอีกตามเคย ส่วนแบคฮยอนก็ไม่มีปฏิกริยาอะไรทั้งสิ้นตั้งแต่เธอเดินเข้ามาแถมยังอึ้งด้วยซํ้าว่าเธอคือแฟนเก่า


                ไม่น่าเชื่อว่าพี่ชานยอลเคยมีแฟนเป็นมนุษย์ฉีดโบท็อกซ์

     

                "ความจำ เสื่อมหรอยอนฮวา เราเลิกกันแล้วนะ" จบประโยคประธารบริษัทิตัวโตก็ส่งสายตาเย็นชาให้เธอที่ยืนดิ้นพลาดๆเป็นปลา ขาดนํ้าแล้วหยิบของรอบๆตัวมาปาลงพื้น

     

     

     

                แต่บังเอิญหรือตั้งใจก็ไม่รู้ปาพลาดไปโดนหลานตัวเล็กที่นั่งสงบเสงี่ยมมานาน..

     

     

     

                ปั่ก!!

     

     

                หนังสือ เล่มหนาถูกเขวี้ยงกระแทกหัวเล็กๆจนหัวชนกำแพงข้างหลังโซฟาลั่นห้อง ชานยอลรีบวิ่งมาจับหัวเล็กๆที่ถูกกระแทกอย่างทะนุถนอม เธอยืนอยู่นิ่งๆแล้วแสยะยิ้มมองก่อนจะสะบัดตัวเดินออกไป

     

                "คราวหน้าหนักกว่านี้แน่!"

     

                "โอ้ย.." เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลตามหางคิ้วสวย คุณอาชานยอลยิ่งดูตกใจเข้าไปใหญ่ก่อนจะพาเด็กน้อยไปทำแผล

     

     

                อา คงเจ็บน่าดู..

     

     

                "โอ้ย!"

     

                "เจ็บ หรอ ขอโทษครับ.." แบคฮยอนส่ายหัวแล้วจิ้มหน้าผากของชานยอลจึ้กๆ คนตัวเล็ดขมวดคิ้วแน่น หายใจเข้าลึกๆแล้วถามข้อข้องใจของตนเองออกมา..

     

                "เค้าคือแฟนพี่ชานยอลหรอฮะ.."

     

                "แฟนเก่าครับ เลิกกันนานแล้ว"

     

                "อ้อ.. อืม" หัวกลมๆขยับรับคำเบาๆ แล้วแอบอมยิ้มเล็กน้อย ชานยอลแอบมองคนตัวเล็กที่หางคิ้วแตกแต่ยังยิ้มได้ก็ยีหัวอย่างเอ็นดูแต่หารู้ไม่ว่าเด็กน้อยกำลังคิดอะไรอยู่

     

     

     

                

     

     

                เลิกกันแล้วสินะ ถ้างั้น

     

     

     

     

     

     

     

                แบคฮยอนก็มีสิทธิในตัวพี่ชานยอลได้หน่ะสิ ใช่มั้ย? :)

     

     

     

     

    TBC.

     

    _________________________________________________

    บ่องตงเรื่องนี้แบคขี้อ่อย พอๆกับคุณอานะคะ

    55555555555555
    คุณอาก็ร้ายคุณหลานก็ดื้อ ขอบคุณทุกคนที่อ่าน เฟบ คอมเม้นจากจจริงๆค่ะ
    #นอนอ่อย

    สกรีมแท็ก#ฟิครชบ  ♡

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×