คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ทดลองเป็นคุณอาครั้งที่ 2
2
"นอนได้แล้วครับเด็กดี นี่มันดึกแล้วนะ" หลังจากที่ พูดคุยแลกเปลี่ยนกันพี่ชานยอลก็บอกให้ผมไปพักผ่อนตอนเช้าตื่นมาจะได้สดชื่น สดใส อันที่จริงสำหรับแบคฮยอนเองไม่ต้องรอจนถึงเช้าก็ได้ แค่มีพี่ชานยอลอยู่ด้วยก็สดใสแล้วล่ะฮะ ♡
แต่ก็อย่าลืมว่าแบคฮยอนมาจากต่างประเทศ ซึ่งเวลาของทั้งสองประเทศย่อมไม่ตรงกัน ยิ่งเคยอยู่ที่ประเทศอังกฤษมายิ่งแล้วใหญ่ ห่างกันหลายชั่วโมงเลยล่ะ เลยเป็นเหตุให้ผมต้องเดินมารบกวนพี่ชานยอลหรือคุณอาจำเป็นสุดหล่อตอนกลางค่ำกลางคืน ถึงจะเกรงใจพี่ชานยอลมากๆก็เถอะแต่จะทำยังไงได้ละ ก็คนมันนอนไม่หลับนี่นา
ก็อกๆ..
"พี่ชานยอลหลับหรือยังฮะ.."
"ยังครับ เปิดประตูเข้ามาเลยแบคฮยอน"
ทันทีที่ได้รับคำอณุญ่ติมือเรียวก็ผลักประตูไม้แง้มๆ โผล่ไปแต่ลูกตา แล้วยังเห็นพี่ชานยอลเดินมาหาในชุดสบายๆอย่างเสื้อยืดแขนยาวกับกางเกงนอนที่ แม้จะเป็นการแต่งตัวสบายๆก็ยังคงระดับความหล่อไว้อยู่ดียิ่งเขินไปใหญ่
"ว่า ไง เด็กดื้อ ทำไมไม่ยอมนอนเรา หืม ไม่ชินที่หรอ?" มือหนาเปิดประตูออกกว้าง ส่วนผมก็ถือหมอนใบนึงในมือ ปากอยากจะพูดเหลือเกินว่า ขอนอนด้วยฮะ!! แต่ถ้าถามว่ากล้ามั้ย?
นั่นก็อีกเรื่องนึง T_T
"ฮะ.." ก้มหน้ากำหมอนในมือแน่นจนมันเกือบขาดคามือเมื่อคุณอาจำเป็นยังส่งยิ้มหวานกับแววตาอบอุ่นนั่นให้ไม่วางตา
พี่ชานยอลคนบ้า ! นี่กะจะทำให้แบคฮยอนเขินได้ทุกๆห้านาทีเลยหรือไงกัน
"เข้ามาก่อนสิ วันนี้นอนห้องพี่ก่อนก็ได้นะ" เขาจับมือผมแล้วออกแรงดึงนิดหน่อยตัวผมก็แทบจะปลิวติดมืออยู่แล้ว ยิ่งระทวยความหล่ออยู่ เขานั่งลงที่เก้าอี้โต๊ะทำงานแล้วหยิบแว่นมาใส่โดยไม่ลืมปิดไฟเพราะกลัวผมนอนไม่หลับ ตอนนี้เลยมีแต่แสงไฟโต๊ะทำงานและแสงจากจอโน๊ตบุ๊คเท่านั้น แต่ออร่าความหล่อก็พุ่งกระฉูดเหมือนเดิม
"แล้วพี่จะนอนตรงไหนล่ะฮะ?
โผล่หน้ามาจากผ้าห่มผืนหนามองตามนิ้วที่ชี้ไปตรงอีกฝั่งของเตียงด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะดันกรอบแว่นสายตาที่หล่นลงมาให้กลับไปอยู่ที่ดั้งโด่งดังเดิม
อา ใส่แว่นก็หล่อ ถอดแว่นก็หล่อ
หล่อ หล่อ หล่อ !!!!
"นอนซะนะ เดี๋ยวกล่อมเอามั้ย"
"คะ..ครับ เอ่อะ.. ฮะ"
โอ้ย ! ลิ้น ของผมมันพันกันไปหมดแล้ว จะครับ คะ หรือฮะกันแน่ก็ไม่รู้ ยิ่งพี่ชานยอลเดินมานั่งบนเตียงเดียวกับผมที่นอนดึงผ้าห่มคลุมโผล่มาแค่ตา สองข้างแถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมก็ยิ่งพูดไม่รู้เรื่องเข้าไปใหญ่เลย ให้ตายสิ
"เขินพี่หรอ?"
จู่ๆก็เปลี่ยนเรื่องคุยกระทันหัน ซํ้ายังยื่นหน้ามาใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆที่เป่ารดบนหน้าผาก ผมหลับตาปี๋
"ขะ เขินทำไมละ ไม่ได้เขินซักหน่อย พี่ชานยอลมั่วแล้ว" ปากบอกอย่างนั้นแต่ในใจนี่อยากจะตะโกนดังๆว่าเขินจนไม่รู้จะเขินยังไงแล้ว !!!
"ฮ่าๆ น่ารักจริงๆเด็กคนนี้" พี่ชานยอลชมผมอีกแล้ว ปากหวานจังน้า ~
"นอนซะนะครับ เดี๋ยวพี่ทำงานต่ออีกแปปนึง" เขากำลังจะลุกออกไป อะไรกัน!! มาทำให้เขินแล้วจะชิ่งหนีกันงั้นหรอ ขี้โกงนี่!
หมับ!
ผมจับมือพี่ชานยอลไว้ข้างหนึ่งแล้วรั้งให้นั่งลงที่เดิมพลางเอาศีรษระกลมๆซุกที่แผ่นหลังกว้าง
อุ่นดีจังน้า..
"ง่า แบคนอนไม่หลับจริงๆนะ" พูดเสียงอ้อนประหนึ่งลูกแมวกำลังคลอเคลียเจ้าของ พี่ชานยอลหันมามองแล้วลูบหัวผม ชอบจังเวลาเขาลูบหัว
"แล้วจะให้พี่ทำยังไงดีเอ่ย" ผมยกแขนขึ้นสองข้างแล้วทำเสียงอ้อนปนเศร้าไปด้วย
"นอนกอดแบคฮยอนหน่อย.."
ปล่าวอ่อยแค่นอนไม่หลับ
กว่าจะกล่อมให้แบคฮยอนหลับก็ใช้เวลานานพอสมควร... เพราะเวลาของต่างประเทศกับที่เกาหลีไม่ตรงกัน อีกอย่างคงจะไม่คุ้นที่ด้วย กว่าจะนอนก็นู่นน่ะ..
เที่ยงคืนกว่า
แต่ยังดีที่วันพรุ่งนี้ผมหยุดงานเลยมีเวลากล่อมแบคฮยอนให้หลับ เด็กน้อยหลับปุ๋ยแถมยังครางหงิงๆเหมือนลูกหมา ลึกๆผมอยากจะลุกไปทำงานต่อนะ แต่นี่มันก็ดึกแถมยังปวดตาปวดหัว แล้วอีกอย่าง ..เจ้าตัวเล็กนี่ก็กอดผมแน่นซะจนไปไหนไม่ได้.. แถมยังใช้หัวทุยๆซุกกับหน้าอกผม ไซร้ๆไปมาจนคนแก่บ้าจี้ที่นอนกอดเด็กน้อยไปเกร็งตัวไปหมด อกบางกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะ หายใจเข้าออกสมํ่าเสมอจนคนกล่อมเองก็รู้สึกง่วงตามไปด้วย
"ลูกหมาเอ้ย"
"หงิง.."
"ปล่อยพี่แปปนึงได้ไหมเด็กดี พี่จะไปปิดโน๊ตบุ๊ค"
"ฮือ อออ.. อือ" นอกจากไม่ปล่อยแล้วยังกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิมจนผมต้องนอนเฉยๆเพราะกลัวเด็กจะ ตื่นเอา อา นี่เขาแกล้งหลับหรือปล่าวเนี่ยเริ่มไม่แน่ใจซะแล้ว
"ฮืมม.."
สุดท้ายก็ยอมแพ้เด็กคนนี้ ผมยกแขนขึ้นกอดตอบแล้วเกยคางไว้บนศีรษระเล็กๆ กลิ่นแป้งอ่อนๆลอยเข้าจมูกก็พลันยกยิ้มขึ้นอย่างชอบใจ
ชอบจังน้า กลิ่นตัวเด็กๆแบบนี้
พอได้นอนเล่นสักพักผมก็เริ่มรู้สึกง่วง แม้โน๊ตบุ๊คจะเปิดอยู่ แต่ไหนๆก็ลุกไปปิดไม่ได้แล้ว ก็นอนเลยละกัน ไม่ไหวแล้ว..
"พี่ชานยอล!!! ตื่นได้แล้วฮะ นี่มันสายแล้วนะเดี๋ยวไปทำงานไม่ทันหรอก!"
"อื้อ เป็นประธานบริษัทไม่ต้องตอกบัตรเหมือนพนักงานนะครับ.." เสียงแหบพร่าตอบเบาๆ ทั้งๆที่คนตัวโตยังมุดอยู่ในกองผ้าห่มหนา ดวงตากลมเจ้าเสน่ห์ปิดลงแน่นเพราะแบคฮยอนเปิดม่านออก ทำให้แสงมันเข้ามาในห้อง
"แต่พี่ก็ควรไปเช้าๆก่อนคนอื่นเค้าไม่ใช่หรอ!! ตื่นเลย" สุดท้ายก็ยอมเด็กมัน คนตัวโตลุกไปเข้าห้องนํ้า แล้วออกมาอย่างไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ เพราะมีแค่ผ้าเช็ดตัวที่ถือติดมือเข้าไปในห้องน้ำผืนเดียว เลยพันเอวแล้วเดินอาจๆ ออกมาจากห้องนํ้าแล้วก็โดนแบคฮยอนไล่ให้กลับไปใส่เสื้อในห้อง แล้วยังบ่นขมุบขมิบหน้าแดงอีก น่ารักชะมัด..
มันเป็นแบบนี้ทุกวัน นี่ก็เข้าอาทิตที่สองแล้ว
ใช่.. มันผ่านไปสองอาทิตย์กับการใช้ชีวิตกับแบคฮยอนแต่ความรู้สึกของผมมันเร็วมากๆ เหมือนกับกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง เพราะผมอยู่กับเด็กหน่ะหรอ? ก็นะ..ช่วงนี้ก็มีแต่คนพูดว่าชานยอลเปลี่ยนไป เด็กลงบ้างละ พูดมากกว่าเดิมบ้างหล่ะ หล่อขึ้นบ้างล่ะ แต่ความรู้สึกของตัวผมเองส่วนตัวคิดว่ามันก็เหมือนเดิม..
ผมเปลี่ยนไปตรงไหนกัน?
หรือ ว่าจะอยู่กับเด็กเลยติดนิสัยหรือการพูดมาจากแบคฮยอนกันนะ ยิ่งช่วงนี้รู้สึกว่าบรรดาลูกค้าที่เข้ามาจะดูผ่อนคลายลงเวลาคุยงานกับผม จากที่เมื่อก่อนเอาแต่ทำหน้าเครียด
"พี่ชานยอล~" หลานตัวเล็กเรียกคุณอาที่กำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างขมักขะเม้น "อยากกินแซนวิชอ่า ทำให้กินหน่อย"
"ครับ เดี๋ยวรอพี่แปปนึงนะ" และดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแบคฮยอนจะดีขึ้นไปแบบก้าวกระโดดซะด้วย ก็คงเพราะคุยกันทุกวันทั้งวัน(?)ล่ะนะ
"เย้ พี่ชานยอลใจดีจัง หล่อด้วย!" น้องยิ้มตาหยี แก้มยุ้ยๆนั่นขึ้นสีแดงอ่อนๆ ปากแดงๆเปล่งเสียงเจื้อยแจ้วที่ฟังยังไงก็ไม่เบื่อ ไม่น่ารำคาณเหมือนเสียงผู้หญิงแว้ดๆด้วย ซึ่งทุกอย่างมันดูน่ารักในสายตาคนแก่กว่าตลอด
"ปากหวานนะเรา"
"ฮิๆ ~"
"ไปทำเร็วๆๆๆ แบคฮยอนหิวแล้ว" เขาเร่ง แล้วดันหลังผมให้ไปที่ห้องครัวก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ไม้กลางห้องครัว
"ฮืมมมม ~" วันนี้ รู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กดูอารมณ์ดีกว่าทุกวัน เดี๋ยวร้องเพลงเดี๋ยวเดินมาป้วนเปี้ยนแถมยังยิ้มน่ารักๆตลอดเวลา คนตัวโตก็อดแซวไม่ได้
"อารมณ์ดีจังนะ"
"ก็จะได้กินแซนวิชนี่ อยากกินแล่ว แง่งงง" ใบหน้าหวานงํ้างอลงภายในพริบตา โอ๋ๆ จะรีบทำเดี๋ยวนี้แหละเด็กดี.. คุณอาจำเป็นส่ายหัวแล้วรีบลงมือทำอาหารเช้าทันที
"งํ่าๆ" แบคฮยอนกัดแซนวิชตำโตแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ รีบกลืนลงคอ
"ค่อยๆกินสิเดี๋ยวก็ติดคอหรอก" ผมปรามเขาเล็กน้อย
"ก็หิวนี่ คนแถวนี้ชอบตื่นสาย"
"ขอโทษครับ ฮ่าๆ"
ยู่ปากอย่างน่ารักแล้วทานแซนวิชต่อ ไม่นานนักเราสองคนก็ทานอาหารเช้ากันจนเสร็จ ผมบอกให้น้องไปนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นส่วนผมก็เก็บจาน
'จากนักธุรกิจเป็นพ่อบ้านไปแล้วสินะ' ผมอมยิ้มน้อยๆกับความคิดตัวเอง
"ไปกันครับแบคฮยอน" มองเด็กน้อยที่นั่งดูทีวีรอกลางห้องบนโซฟา
วันนี้ เค้าแต่งตัวเป็นเสื้อยืดลายการ์ตูนน่ารักๆกับ กางเกงขาสั้นเหนือหัวเข่าโชว์ขาเล็กๆนั่น ผมหรี่ตามองเด็กน้อยที่กระโดดเหยงๆแล้ววิ่งมากอดแขนผมแน่น จะว่าหวงมันก็ไม่ใช่ จะว่าหึงก็คงไม่ใช่เนอะไม่ได้เป็นแฟนกัน งั้นเรียกว่าอะไรดี?
"ทำไมใส่ขาสั้นครับ?" เขาเอียงคอ
"งะ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยหนิ"
"เป็นสิ พี่หวง. ไปเปลี่ยนเลย"
"แต่นี่มันสายแล้วนะพี่ชานยอล"
"รอได้"
ยื่น คำขาดให้น้องก่อนจะนั่งบนโซฟา หายใจฮึดฮัด ไม่ใช่อะไรหรอกครับ วันนั้นผมเคยพาน้องไปที่บริษัทแล้วน้องใส่ขาสั้นไป พวกพนักงานก็จ้องกันตาเป็นมันจนผมก็อดหวงไม่ได้ พวกนั้นมันเฒ่าหัวงูชัดๆ อย่ามายุ่งกับแบคฮยอนของผมเชียว ไม่งั้นไล่ออกจริงๆ!
"เสร็จแล้วฮะ"
"อืม.. เห้ย!!"
หันไปมองแล้วเบิกตากว้างเมื่อเห็นกางเกงขาสั้นกว่าเดิมสวมบนต้นขาเรียว แบคฮยอนต้องการอะไรจากผม! ดูสิ จากเมื่อกี้ที่ว่าใส่สั้นอยู่แล้วแล้วคราวนี้เดินออกมากลายเป็นว่าสั้นกว่า เดิมอีก อยากบอกเขาจริงๆสั้นอย่างนี้ถอดเถอะครับ อย่าใสเลย
"ไปกันเถอะสายแล้ว นะๆ" วิ่งมาเขย่าแขนแล้วช้อนตามองอ้อนๆ พลางยํ่าเท้าไปกับพื้นห้องเร็วๆ ผมส่ายหน้า อ้าปากเตรียมบ่นแต่ดันมีสายโทรศัพท์มาแทรก
/จงอิน/
แบ คฮยอนแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผมแล้ววิ่งลงไปข้างล่าง ผมกุมขมับแล้วเดินตามออกไปอย่างจำนนพลางรับโทรศัพท์คนที่โทรมาขัดตอนที่ผมจะ บ่นน้องไปด้วย
"ฮัลโหล โทรมาทำไม?"
'แหนะ ทำเป็นโมโห มาทำงานสายยังจะอารมณ์เสียใส่กูอีกหรอ'
"กำลังไปนี่ไง"
'อืมๆ รีบๆมานะ มีแขกมาหวะ'
"ใคร"
'มาก่อน เดี๋ยวรู้เลย'
"ง่า โกรธแบคฮยอนขนาดนั้นเลยหรอ?" ผมถามในขณะที่พี่ชานยอลเอาแต่ทำหน้าเครียดตั้งแต่เดินลงมาทีหลังผมจนตอนนี้ จะถึงบริษัทแล้วก็ยังขมวดคิ้วไม่เลิก
"งื้อออ แบคฮยอนขอโทษคราวหน้าจะไม่ใส่ขาสั้นแล้ว.."
"พี่ไม่ได้โกรธเราเรื่องนั้นซะหน่อย."
"จริงนะ!!"
"แต่" พูดขัดก่อนจะหันมามองผมเล็กน้อย
"ไม่ได้โกรธแต่ยังไม่ได้เคลียร์" พี่ชานยอลขมวดคิ้วเข้มเป็นปมแน่น เขามองหน้าผมไล่ลงไปเรื่อยๆจนถึงต้นขาด้วยสายตาอ่านยาก
เจ้าเล่ห์!
"ช่ะ.. ช่างมันเถอะน่า ถึงแล้วเนี่ยลงกัน!" ผมชวนเขาลงจากรถ ขืนไม่ลงแล้วโดนสกินชิพนี่ทำไงละ ฮือ ถึงพี่ชานยอลจะหล่อขนาดไหนผมก็หวงตัวนะเว้ย!
"ครับๆ"
เขาเอื้อม มาปลดเบลท์ให้พอเห็นผมนั่งนิ่ง จมูกผมแทบจะโดนแก้มพี่อยู่แล้วนะ อ่อยหรอ พี่ชานยอลขี้อ่อยอะน้องแบคจะไม่ทน แถมทำหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อีก อะไร นั่นมันอะไร!!
"หืม หน้าพี่มีอะไรติดหรือปล่าว?"
"ไม่.. ไม่มีๆๆๆ" ผมหลับตาแน่นเลย โอ้ย จู่ๆจะหันมาทำไม หันกลับไปเลยอีคนแก่ขี้อ่อย ฮือออ
"ก็ ดูเราจ้องเข้าสิ" เสียงเขาค่อยๆห่างออกไปก่อนผมจะตะเกียกตะกายลงจากรถหรู เขาลงจากรถแล้วเดินนำผมไปที่ห้องทำงานแล้วกลับมาทำหน้าเครียดเหมือนเดิมส่วน ผมก็มานั่งเล่นในห้องทำงานพี่ชานยอลทุกวันเพราะตอนนี้ปิดเทอมหน่ะสิ อีกอย่างอยู่ห้องคนเดียวเหงาจะตาย
ผมเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวแล้ว นั่งเล่นไปเรื่อยส่วนพี่ชานยอลก็ทำงานตามปกติ แต่แปลกที่วันนี้ปกติพี่จงอินจะต้องเอาขนมหรือกาแฟมาให้พี่ชานยอล แต่นี่มันเลยมาจะครึ่งชั่วโมงแล้วทำไมยังไม่มา?
"แล้ววันนี้พี่จงอินไม่มาหรอฮะ" เขาเงยหน้าจากกองงานมามองผม
"ช่างมันเถอะอีกแปปเดียว เดี๋ยวคงมา.."
ปึงๆๆๆๆ!!!
"เข้า ไม่ได้นะครับ!" ผมกับพี่ชานยอลสะดุ้งหันไปทางประตูห้องทำงานพร้อมกัน ได้ยินเสียงพี่จงอินตะโกนดังลั่นและเสียงเคาะประตูรัวๆแถมยังแรงซะจนกรอบใส่ ชื่อประธานที่ประตูร่วงลงกับพื้น ก่อนประตูเจ้ากรรมจะถูกถีบเข้ามาด้วยเรียวขาเล็กๆที่สวมส้นสูงสีแดงแปร๊ด!
"ปล่อยมือสกปรกของแกจากแขนของฉันซะไอ้เลขากระจอก! !"
ก่อนพี่ชานยอลจะลุกพรวดจนของร่วงกระจัดกระจายลงพื้น..
"ยอนฮวา!!"
หญิง สาวหุ่นเพรียว ผมสีดำสนิทยาวถึงกลางหลังและสวมเครื่องประดับบ่งบอกถึงความไฮโซของเธอ ดวงตาสวยเฉี่ยวกรีดอายไลน์เนอร์เพิ่มเสน่ห์อีกเป็นเท่าตัวยืนจังก้าเท้า สะเอวที่หน้าประตูโดยมีพี่จงอินคอยรั้งแขนของเธอเอาไว้ข้างหนึ่ง
หญิง สาวมองไปที่ร่างสูงก่อนจะปลายตามามองคนตัวเล็กที่นั่งนิ่งๆอยู่ที่เดิมไม่ กล้าขยับ สายตาที่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรมองแบคฮยอนอย่างเย้ยหยั่น ไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าซํ้าไปซํ้ามาแล้วยิ้มเยาะออกมา
"นี่ใครคะ?"
เธอ ถามเสียงแข็ง เชิดหน้าชี้นิ้วไปที่แบคฮยอน ค่อยๆส่งรอยยิ้มอาบยาพิษไปให้ชานยอลโดยที่คนตัวโตทำหน้าเหนื่อยหน่ายราวกับ ว่ามันเป็นเรื่องน่าเบื่อ
"ไม่เห็นจะเกี่ยวกับคุณนิ่ยอนฮวา" คนคัวโตยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
"จะไม่เกี่ยวได้ไงฉันเป็นแฟนคุณนะคะ!!!!"
"แฟนเก่าอะดิไม่ว่า"
กริบ..
ประโยค สุดท้ายจงอินเป็นคนพูดขัดขึ้น ชานยอลอมยิ้มเล็กน้อยจนลักยิ้มบุ๋มลงอีกตามเคย ส่วนแบคฮยอนก็ไม่มีปฏิกริยาอะไรทั้งสิ้นตั้งแต่เธอเดินเข้ามาแถมยังอึ้งด้วยซํ้าว่าเธอคือแฟนเก่า
ไม่น่าเชื่อว่าพี่ชานยอลเคยมีแฟนเป็นมนุษย์ฉีดโบท็อกซ์
"ความจำ เสื่อมหรอยอนฮวา เราเลิกกันแล้วนะ" จบประโยคประธารบริษัทิตัวโตก็ส่งสายตาเย็นชาให้เธอที่ยืนดิ้นพลาดๆเป็นปลา ขาดนํ้าแล้วหยิบของรอบๆตัวมาปาลงพื้น
แต่บังเอิญหรือตั้งใจก็ไม่รู้ปาพลาดไปโดนหลานตัวเล็กที่นั่งสงบเสงี่ยมมานาน..
ปั่ก!!
หนังสือ เล่มหนาถูกเขวี้ยงกระแทกหัวเล็กๆจนหัวชนกำแพงข้างหลังโซฟาลั่นห้อง ชานยอลรีบวิ่งมาจับหัวเล็กๆที่ถูกกระแทกอย่างทะนุถนอม เธอยืนอยู่นิ่งๆแล้วแสยะยิ้มมองก่อนจะสะบัดตัวเดินออกไป
"คราวหน้าหนักกว่านี้แน่!"
"โอ้ย.." เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลตามหางคิ้วสวย คุณอาชานยอลยิ่งดูตกใจเข้าไปใหญ่ก่อนจะพาเด็กน้อยไปทำแผล
อา คงเจ็บน่าดู..
"โอ้ย!"
"เจ็บ หรอ ขอโทษครับ.." แบคฮยอนส่ายหัวแล้วจิ้มหน้าผากของชานยอลจึ้กๆ คนตัวเล็ดขมวดคิ้วแน่น หายใจเข้าลึกๆแล้วถามข้อข้องใจของตนเองออกมา..
"เค้าคือแฟนพี่ชานยอลหรอฮะ.."
"แฟนเก่าครับ เลิกกันนานแล้ว"
"อ้อ.. อืม" หัวกลมๆขยับรับคำเบาๆ แล้วแอบอมยิ้มเล็กน้อย ชานยอลแอบมองคนตัวเล็กที่หางคิ้วแตกแต่ยังยิ้มได้ก็ยีหัวอย่างเอ็นดูแต่หารู้ไม่ว่าเด็กน้อยกำลังคิดอะไรอยู่
เลิกกันแล้วสินะ ถ้างั้น
แบคฮยอนก็มีสิทธิในตัวพี่ชานยอลได้หน่ะสิ ใช่มั้ย? :)
TBC.
_________________________________________________
บ่องตงเรื่องนี้แบคขี้อ่อย พอๆกับคุณอานะคะ
55555555555555
คุณอาก็ร้ายคุณหลานก็ดื้อ ขอบคุณทุกคนที่อ่าน เฟบ คอมเม้นจากจจริงๆค่ะ
#นอนอ่อย
สกรีมแท็ก#ฟิครชบ ♡
ความคิดเห็น