ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    R A V E `เด็กดื้อที่ชื่อแบคฮยอน♔ CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #6 : ทดลองเป็นคุณอาครั้งที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 58


    5
     






     

                     "พี่ชานยอลตื่น!!"

     

                อั่ก!

     

                หมอนใบใหญ่ฟาดเข้ากลางลำตัวชวนจุกแต่เช้าตรู่ ชานยอลพลิกตัวนอนบ่นงึมงำในลำคอ ตอนนี้เตียงนอนของปาร์คชานยอลกำลังถูกคุกคามโดยแบคฮยอนอย่างเต็มรูปแบบ..

     

     

                "อือ.. พี่ขอห้านาทีจริงๆ" ม้วนตัวเข้าหาผ้าห่ม ไม่วายลากเด็กน้อยให้ลงมานอนด้วยกัน เขาเลือกที่จะอ้อนมากกว่าโมโหใส่เด็กดื้อที่จู่ๆตื่นมาก็เหวี่ยงหมอนใส่เขาแบบนี้ แบคฮยอนหายใจฮึดฮัดผลักแผงอกกว้างออกแล้วนั่งปลายเตียง       


                เรื่องอ้อนนี่เก่งนัก

     

     

                "นี่..สายแล้วนะลุกขึ้นมา" เด็กดื้อหรี่ตามองผ้าห่มก้อนใหญ่กลางเตียงด้วยสายตาที่คิดว่าอาฆาตสุดๆราวกับกำลังแผ่รังสีใส่คนขี้เซา

     

     

                "อือ ตื่นแล้วๆ.." สุดท้ายก็ยอมจำนนให้เด็กน้อยขี้วีนช่วงเช้านี้ไป แบคฮยอนสะบัดก้นเดินออกจากห้องพร้อมทิ้งระเบิดลูกใหญ่ให้คนตัวโต ชานยอลเดินขยี้หัวออกมาจากห้องนอน กวาดตามองหาร่างเล็กที่มักโวยวายว่าหิวตอนเขาตื่นสาย

     

     

                "แบคฮยอนครับ.. "

     

     

                "อะไร"

     

     

     

     

                ㅠㅡㅠ

     

     

                "เป็นอะไรเรา?" น้องตอบเสียงห้วนแถมกอดอกเชิดหน้านั่งกลางห้อง เขาเดินไปนั่งข้างๆก็เขยิบออก ..อะไร ผมผิดอะไร?

     

     

                "หึ ไม่ได้เป็นอะไร" ยังนิ่ง

     

     

                "นี่ บอกพี่มา" คนพูดเริ่มขมวดคิ้ว แบคฮยอนเองก็หันหน้ากลับมามองและเขยิบตัวห่าง ปากแดงๆเชิดขึ้น

     

                "อย่ามาดุแบคฮยอนนะ! ไหน เมื่อวานใครจะจูบใครกัน ห๊า"

     

                "หือ มั่วแล้ว" น้องว่าอย่างเอาเรื่อง ชานยอลกวาดตาซ้ายขวา "แล้วใครให้กินเหล้ากันหื้อ"

     

                "พี่จงอินให้กิน"

     
     

                "โกหก" น้องกำมือแน่นแล้วสะบัดหน้าหนี ไม่รู้แหละ พี่ชานยอลไม่มีสิทดุแบคฮยอนนะ!

     
     

                "ถามพี่จงอินเลยสิ" ยังคงเถียง

     
     

                "ถามแล้วไง พี่ถึงกล้าพูดว่าแบคกำลังโกหกพี่"

     
     

                "ย๊าาา!! ปวดหัว จะไปนอนแล้ว! พี่ชานยอลจะไปไหนก็ไปเลย!"

     
     

                "นี่แบคฮยอน.."

     
     

                "ฮึ้!!!!"

     
     

                แบคฮยอนกระทืบเท้าปึงปังออกจากห้อง ชานยอลมองร่างเล็กเนือยๆแล้วลุกไปเข้าห้องนํ้า.. นอกจากไม่ยอมรับผิดยังมาโมโหใส่เขาอีก นับวันยิ่งดื้อเข้าๆ สักวันผมจะจับสั่งสอนซะให้เข็ดเลยคอยดู..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ขายาวก้าวลงจากรถยนต์คันหรูที่จอดเทียบบริษัท ถึงแบคฮยอนจะไล่ให้เขาไปไหน เขาก็ยังติดห่วงเด็กคนนั้นอยู่ดี เลยกะว่าจะเข้ามาเอาเอกสารแล้วกลับเข้าไป.. แบกงานกลับซักวันคงไม่เป็นไรหรอกนะ

     
     

                ชานยอลอาจจะถูกมองว่าละเลยหน้าที่ แต่ถ้าลองให้คนอื่นมาตกอยู่ในสภาพเดียวกับเขา เชื่อเถอะว่าจะต้องเลือกที่จะแบกงานกลับไปทำเช่นเดียวกับเขาในตอนนี้

     

     

                ไม่แคร์ความรู้สึกจริงไม่ทำงี้หร๊อก..

     

     

                "ชานยอล!"

     
     

                จงอินวิ่งหอบแฮ่กลงมาจากบันได เขาถือเอกสารและใบสมัครพนักงานลงมาล้นมือเหมือนทุกวัน ชานยอลเลิกคิ้วมอง

     
     

                "มีอะไร แล้วนี่รีบทำไม?"

     
     

                "แฮ่ก.. โอ้ะ วันนี้มี ประชุม ด่วน.."

     
     

                "กับใคร?"

     
     

                "บริษัทข้างๆนี่ไง! เขาบอกว่าต้องวันนี้จริงๆ"

     
     

                "..."

     

                "มึง.. เอ่อ บอสว่างป้ะละ ไม่ว่างเดี๋ยวจะแคนเซิลให้" พอเห็นสีหน้าลำบากใจของเพื่อนตัวโต จงอินทำท่าล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง แต่..

     

                "เอาเอกสารประชุมมา"

     

     

     

     

     

     

     

     

                ก็แล้วประชุมมันแบกกลับคอนโดฯได้ที่ไหนละครับ.. ?

     

     
     

     

     

     

     

     


     

     

     

                "เฮ้อ.."

     
     

                ตอนนี้เวลาสองทุ่มกว่า

     
     

                เข็มสีแดงของนาฬิกายังคงหมุนวนตามหน้าที่ของมันไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่กำลังทำหน้าที่ของผู้บริหารตั้งแต่เช้าจรดเย็น.. ไม่สินี่คํ่าแล้ว

     
     

                "ชานยอล.. มึงพักก่อนเหอะ ของคุณซอนมุลไว้พรุ่งนี้ก็ได้เว้ย"

     
     

                "ไม่เป็นไรหรอก ใกล้เสร็จแล้ว.."

     
     

                "เอ๊ะไอนี่ บอกว่าพักก็พักสิ เดี๋ยวโบก"

     
     

                ชานยอลเงยหน้ามองเพื่อนร่างโปร่งที่มักจะพูดตักเตือนเวลาเขาโหมงานหนักๆ จงอินกลอกตาซ้ายขวาเบื่อหน่ายความดื้อรั้นและนั่งลงบนเก้าอี้อีกฝั่งของโต๊ะเมื่อเห็นว่าชานยอลไม่สนใจคำขู่เลยแม้แต่น้อย

    จงอินจัดการเก็บเอกสารบนโต๊ะทั้งหมด เหลือเพียงแค่อันที่ชานยอลกำลังอ่านอยู่เพียงอันเดียว เป็นการกระทำเชิงบังคับว่า

     
     

                ..เขาควรพักได้แล้ว

     
     

                "เอาไว้พรุ่งนี้.. วันนี้งานเยอะจะตายห่า กลับคอนโดไปได้ละมึงอะ"

     
     

                "เหอ อีกแปปนึงดิ"

     
     

                "มึงแปปมาจะสิบรอบละ! กลับบ้านไปหาเด็กมึงไป๊" ชานยอลฟังจงอินบ่น เขาชะงักไปชั่วครู่แล้วเบิกตาโพลง ปากอิ่มพึมพำประโยคเมื่อครู่ของเพื่อน..

     
     

                "คอนโดฯ"

     
     

                "..."

     
     

                "น้อง.."

     
     

           "อะไรมึง?"

     
     

                "แบคฮยอน.."

     
     

                "ทำไม?"

     
     

                "กูกลับละ"

     

                "เอ่า เชี่ย.. เออ ๆ กลับดี ๆ นะเว้ย" ชานยอฃเอ่ยลาจงอินลวกๆและทิ้งเอกสารไว้ที่โต๊ะทำงาน ขายาวๆก้าวตามทางเดิน คิ้วหนาขมวดฉับเมื่อนึกถึงความผิดพลาดของตนเองที่พลาดซํ้าแล้วซํ้าอีก มือหนาดึงประตูรถออก เขาแทบจะเหยียบจนมิดไมล์เมื่อก้มลงมองหน้าปัดนาฬิกาบอกเวลาว่า..

     

     

     











     

     

                20.47

     

     







     

     

     

                "จะกินข้าวรึยังนะ.."

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     


     

     

                โครกกกกก..

     
     

                เสียงเอนไซม์ที่กำลังกัดกินกระเพาะดังไม่ขาดสาย แบคฮยอนนั่งเบะปากกุมท้องกลางห้อง ข้างๆตัวมีถุงขนมและถ้วยบะหมี่วางกระจัดกระจายอยู่

     
     

                หิวจะแย่แล้ว..

     
     

                ถึงแบคฮยอนจะกินขนมหรือบะหมี่เยอะแค่ไหนมันก็ไม่อิ่มอยู่ดี เพราะมันช่วยเขาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น.. กินจนตัวบวมอืดก็ไม่อิ่ม แบคฮยอนคิดแล้วเตะขาบนอากาศ พาลนึกไปถึงหน้าเจ้าของคอนโดฯนี้แล้วถีบขาแรงกว่าเดิม..

    นึกถึงหน้าพี่ชานยอลแล้วมันหมั่นไส้ !!!!

     
     

                ดูสิออกจากบ้านตั้งแต่เช้าสายจนนี่มันสองทุ่มจะสามทุ่มแล้วยังไม่กลับคอนโดฯ ทั้งๆที่ปกติกลับเร็วกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา ..ฮึ่ย คอยดูนะ จะไม่คุยด้วยวันนึงเลย!!

     
     

                มือเรียวคว้าเอารีโมทมาเปิดทีวีดับอารมณ์คุกรุ่น กวาดมือข้าง ๆ ตัวหาขนมขบเคี้ยวกินรอระหว่างรอชานยอลกลับมาทำกับข้าวให้กิน

     
     

                "โอ้ยยยย เบื่อ ๆๆๆๆ" แบคฮยอนหลุดโวยวาย ยิ่งเขานั่งเฉยๆยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้า ความคิดในหัวมันฟุ้งซ่านปนกันเละเทะไปหมด

     

                "ย้ากกกกกกกกก!!!!!" ทึ้งหัวตัวเองแล้วล้มตัวนอนแผ่หลา เหลือบตามองนาฬิกาเป็นระยะๆ และเข็มสีแดงยังเดินต่อไปเรื่อยๆจนน่าปวดหัว..

     
     

                แต่ก.. แต่ก.. แต่ก..

    ..

     

                "โอ้ยยยย! พี่ชานยอลกลับมาซักทีสิ แบคฮยอนหิวแล้วนะ!" แบคฮยอนตีมือลงกับโซฟา เขามองไปที่ประตูแทบทุกๆนาที กระทั่ง..

     







     






     

                

     

                ขายาวๆก้าวตามทางเดินมายังลิฟท์แล้วกดไปยังชั้นบนสุดของคอนโดที่เป็นที่อยู่ของเขากับเด็กดื้อคนหนึ่ง สูทสีเข้มถูกถอดและพาดบนท่อนแขนยาว มือหนากลัดกระดุมอกสองเม็กระบายความร้อนมันโดยการจับปกเสื้อตีให้มีลม เหงื่อกาฬไหลจนชุ่มกลุ่มผมและแผ่นหลัง

     

     

                ติ๊งง!

     

     

     

                ทันทีที่ประตูเปิดเขารีบสาวเท้าเดินไปยังห้องของเขา เพียงแค่ไขกุญแจเข้าไปสิ่งแรกที่รู้สึกคือซากเปลือกขนมที่กระจัดกระจายเกลื่อนพื้นไปหมด ชานยอลย่อตัวลงเก็บขยะนั่นทีละชิ้น เขาลอบมองก้อนผ้าห่มที่โซฟาหน้าทีวีแล้วส่ายหน้าเนือยๆ โดยไม่รู้ว่าคนใต้ผ้าห่มนั้นลุ้นแค่ไหน.. .

     

     

                พอเก็บขยะจนเสร็จก็ไม่รอช้าที่จะลงมือทำอาหาร เขาเดินไปล้างมือและพับแขนเสื้อขึ้นในห้องครัว แขนยาวเปิดตู้เย็นที่เมื่อก่อนเคยมีแต่กระป๋องเบียร์เกลื่อนกลาดบัดนี้เต็มไปด้วยของสดไว้สำหรับทำให้เด็กดื้อทาน ทั้งประหยัดเงินขึ้นแถมสะอาดกว่าซื้อเขาเป็นไหน ๆ .. เพราะพี่ชานยอลคนนี้ทำอาหารอย่างตั้งใจสุด ๆ อย่าได้หวังจะเจอสิ่งแปลกปลอมในอาหารเลย!

     

     

                 แขนยาวๆจับสิ่งของต่างๆคล่องแคล่วชำนาญ มือก็ล้างผักไปตาก็คอยลอบมองคนที่นอนในห้อง กลัวว่าเขาจะทำกับข้าวเสียงดังจนทำให้ตื่น.. แต่กลับผิดคาด

     

     

     

                เมื่อได้ยินเสียงเดินลากเท้าไปมาข้างหลัง..

     

     

     

                เดาได้ไม่ยากว่าตอนนี้คงกำลังยืนมองเขาอยู่แน่นอน.. เมื่อกี๊แกล้งนอนสินะไอเด็กแสบ เขากดยิ้มจนแกมข้างๆบุ๋มลึกลงไป เตรียมเปิดกระทะทำข้าวผัดอย่างที่หวังไว้ นอกจากจะได้ยินเสียงลากเท้าไปมาแล้วชานยอลยังได้ยินเด็กนั่นพึมพำอีก ว่า ทำอะไรกินหน่ะ.. พึมพำสียงดังขนาดนั้นพูดออกมาเลยเถอะคนดี..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                 แบคฮยอนกำลังค่อยๆเดินย่องเข้าไปด้านหลังพ่อครัวตัวสูง

     

     

                "ทำอะไรกินน่ะ!" บ่นพึมพำกับตัวเองและชะโงกหน้ามองไปในครัว พี่ชานยอลกำลังผัดอะไรสักอย่าง อาจจะเป็นเมนูง่ายๆอย่างไข่เจียว ผัดกิมจิอะไรทำนองนั้น เพราะนี่ก็คํ่าแล้วแถมอีกคนน่าจะทำงานมาหนักทั้งวัน ทำอาหารจัดเต็มก็คงทุ่มเทแรงกายเกินไป

     

     

                ยิ่งแก่ ๆ อยู่เดี๋ยวตายพอดี ㅠㅡㅠ

     

     

                เขาช่างใจคิดแล้วว่าจะเลิกแกล้งแล้วเดินไปกอดหรือหอมพี่ชานยอลสักหน่อย ..แต่อีกใจก็กลัวโดนดุที่กินเหล้านั่นอีก ปากเล็กเบะลงอย่างชั่งใจ

     

     

     

                เอาวะ..

     

     

                แบคฮยอนค่อยๆเดินไปในห้องครัวเบาๆ มือเรียวเอื้อมไปหวังคว้าชายเสื้อเชิ้ตแต่ก็ชะงักไว้เมื่อมีความคิดแทรกเข้ามาอีก

     

     

                พี่ชานยอลจะงอนแบคฮยอนเรื่องเมื่อเข้านี้ด้วยหรือปล่าวนะ?

     

     

                กับข้าวนี่ทำกินเองรึปล่าว?

     

     

                งอนแล้วจะง้อยังไง?

     

     

     

                ออตอคเคคคค๊

     

     

     

                หมับ!

     

     
     

                ยังมโนในหัวไม่จบ พี่ชานยอลคนดีก็หันขวับมามองแล้วจับแก้มเขาแน่น ปากกยักยกยิ้มจนข้างแก้มบุ๋มลงไป ชานยอลมองเขาแล้วยิ้มแป้นทำเอาโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

     
     

                "ตื่นแล้วหรอ" เขาปิดแก๊ซแล้วหันมองเด็กน้อยหน้าหงอย แบคฮยอนพยักหน้าแล้วเงยหน้า ชานยอลเลิกคิ้วเป็นเชิงตั้งคำถาม

     
     

                "ทำหน้าแบบนั้นมีอะไร"

     
     

                "โกรธแบคฮยอนมั้ยอ่าาาา ~ อย่าโกรธแบคฮยอนเลยนะะ"

     
     

                "เห ใครบอกว่าพี่โกรธเรา" ชานยอลกอดอกหลวมๆ

     
     

                "ก็แบคฮยอนไล่พี่ออกไปเมื่อเช้า จะไม่โกรธหน่อยหรอ?"

     
     

                แบคฮยอนเอียงคอถามน่ารัก อันที่จริงเขาไม่ได้โกรธอะไรแบคฮยอนหรอกแต่ไอการกระทำของแบคฮยอนนี่ไม่ต่างอะไรจากคำว่าร้อนตัวซักนิด ใครบอกกันว่าเขาโกรธ.. เมื่อเช้านี้ต้องเรียกว่ามึนซะมากกว่าที่อยู่ๆเจ้าเด็กนี่ลุกขึ้นมาเหวี่ยงวีนใส่แถมไล่ออกจากห้องของเขาเองซะงั้น

     

     

     

                แต่มันก็อดแกล้งไม่ได้ละน่า..

     

     

     

                "พูดงี้นี่คืออยากให้โกรธว่างั้นสิ.."

     
     

                "ก็ไม่ อ๋าา คือก็.. เมื่อเช้ามัน มันโมโหอะ!! ใช่! แบคฮยอนโมโหค้างจากเมื่อวานไงที่เห็นพี่กับผู้หญิงคนอื่นไง! แฮะๆ"

     
     

                "โมโหค้างคืน มันมีแบบนี้ด้วยหรอ?" เขาล่ะอยากจะหัวเราะดังๆ มีที่ไหนโมโหครึ่งนึง อีกครึ่งนึงค่อยมาโมโหต่ออีกวัน สกิลการแถแบคฮยอนนี่ระดับสิบเลยจริงๆ.. สีข้างนี่คงจะถลอกหมดแล้วมั้งครับ

     
     

                "มีสิ อย่าโกรธแบคฮยอนเลยนะ น้าาาา~ " เด็กดื้อว่าพลางยํ่าเท้าลงกับพื้น ร่างสูงแกล้งหันหลังทำกับข้าวต่อไม่สนใจคนข้างหลัง ปากหยักยิ้มกว้างแล้วส่ายหัวให้เด็กดื้อที่ยืนใจแป้วอยู่ข้างหลัง ในใจอยากจะกระชากคนตัวสูงมาแล้วตีเข่าให้หายหมั่นไส้ แต่ในเมื่องอนอยู่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นกอดเอวพอ ตีเข่าจะดูโหดร้ายเกินไป..

     
     

                "นี่พี่ชานยอล อย่างอนสิ คราวหน้าแบคฮยอนจะไม่ทำแบบนี้แล้วย้าา สัญญาเลย" หัวเล็กๆกดเข้ากับแผ่นหลังกว้าง แนบแก้มกับหลังเหมือนหมากำลังถูกทอดทิ้ง

     

                แต่ขณะที่แบคฮยอนกำลังหงอยอยู่แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะอีกฝ่ายถึงรู้ว่าตัวเองโดนแกล้งเข้าให้ เขาแกะมือออกจากเอวหวังตีหลังหากถูกกดมือลงทีาเดิมแถมแน่นกว่าเดิมจนแทบทุกส่วนแนบไปกับแผ่นหลังกว้าง

     

                "ทำตัวน่ารักตั้งแต่แรกก็ไม่งอนแล้ว" เขาใช้ตะหลิวกวาดข้าวผัดกิมจิลงบนจานกระเบื้อง ปากหยักยังคงอมยิ้มตลอดเวลาและค่อยๆแกะมือนุ่มอย่างทะนุถนอม

     

                "นี่ โมโหเรื่องอะไรบอกได้มั้ย?" เขาทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ไม้แล้วจัดทรงผมให้เด็กน้อยซึ่งถึงยืนอยู่แต่สูงกว่าเขาไม่มากนัก

     

                "ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องที่พี่ชานยอลจูบกับคุณชานมีนั่นแหละมั้ง"

     

                "หึง?"

     

                "นี่ ๆๆ หยุดเลย!! ทำไมแบคฮยอนต้องหึงล่ะ? หลงตัวเองชัดๆ โวะ~" เด็กดื้อกลอกตามีพิรุส เขี่ยข้าวในจานไปมา ชานยอลหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้งและชวนมากินข้าวแทนที่จะก่อสงครามกันอีกครั้งเพราะความขี้หึงของอีกคน

    พอถึงโต๊ะอาหารแบคฮยอนก็ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น น้องตักข้าวผัดคำโตเข้าปากเคี้ยวหยุบๆ แก้มกลมๆยืดออกดูน่าหยิกเชียว..

     

                "ค่อยๆกินสิ เดี๋ยวก็ติดคอกันพอดี"

     

                "อ้ออิ๋วอะ(ก็หิวอะ)" เด็กดื้อยกนํ้าขึ้นดื่มอึกใหญ่ ใบหน้าหวานสะบัดซ้ายทีขวาทีเมื่อรู้สึกกระปี้กระเป่ามากขึ้น ชานยอลที่พึ่งทานได้ไม่ถึงครึ่งเงยหน้ามองเด็กกินจุซึ่งทานหมดจานเรียบร้อยแล้ว

     

                "กินจุแบบนี้พี่จะเลี้ยงเราไหวหรือเปล่าเนี่ย ฮื้อ" ร่างสูงเอ่ยแซวแล้วตักข้าวคำต่อไปเข้าปาก

     
     

                "ไหวสิ แบคฮยอนเลี้ยงง่ายจะตาย"

     
     

                "ง่ายตรงไหน นี่ดื้อจะตาย"

     
     

                "ไม่ดื้อ!!"

     
     

                "เถียงอีก"

     
     

                "เปล่าเถียงซักหน่อย" สะบัดหน้าออกแล้วยัดช้อนเข้าปาก ชานยอลส่ายหน้ากับตัวเอง นี่ขนาดบอกว่าไม่ดื้อไม่เถียงยังขนาดนี้.. แล้วถ้าดื้อขึ้นมามากๆเขาไม่ตายเลยหรือยังไงกัน...

     

     

     

     

     





     

                วันต่อมา..

     

                ครืดดดดด

     
     

                "ฮัลโหลชานยอล.. เอกสารบริษัทคุณพาอึม? เออ..รอในห้องทำงาน เดี๋ยวกูเอาไปให้"

     
     

                ปั่ก..

     
     

                ครืดดดดด

     

                "สวัสดีครับ บริษัทปาร์คกรุ๊ปครับ ผมเลขาคิมจงอินครับ.. อ้อ คุณชอนซานี่เอง.. พรุ่งนี้ตอนบ่ายโมงหรอครับ.. ขอบคุณมากครับ"

     
     

                ปั่ก

     

                ครืดดดดด

     
     

                "สวัสดีครับ บริษัทปาร์คกรุ๊ปครับ ใช่ครับ.. อาคุณฮวางนี่เอง ผมแสดงความยินดีด้วยนะครับ.. อะไรนะครับ? ชั้นบี?"

     
     

                "..."

     
     

                "เดี๋ยวผมให้คนลงไปรับนะครับ ขอบคุณสำหรับดอกไม้มากนะครับ สวัสดีครับ"

     
     

                ครืดดดดด

     
     

                "สวัสดีครับบริษัทปาร์คกรุ๊.. ย๊า คยองซู?"

     
     

                "...."

     
     

                "โทรเข้าเบอร์บริษัทพี่ทำไม? วันหลังโทรเข้าโทรศัพท์ของพี่สิ.. เลิกเรียนพิเศษแล้วหรอ? พี่จะไปรับเดี๋ยวนี้ล่ะ"

    แบคฮยอนที่นั่งฟังอยู่นานทำตาโต จงอินหันมามองในขณะเก็บของให้เป็นระเบียบ เขาเลิกคิ้ว

     

                "มีอะไรห้ะไอ้เด็กนี่ มองอยู่นั่นแหละ"

     
     

                "คุยโทรศัพท์ทั้งวันพี่ไม่เบื่อหรอ"

     
     

                "เบื่อดิ แต่ก็น้อยกว่านั่งจ้องตัวเลขอ่ะ" พี่จงอินลุกขึ้นยืดมือสองข้างขึ้นเหนือหัวบิดตัวซ้ายขวา

     
     

                "นั่นจะไปไหน?"

     
     

                "ไปรับหลาน เดี๋ยวกลับมา ฝากเอาเอกสารอันนี้ให้ชานยอลหน่อย.. ไปละ" พี่จงอินบอก เขาคว้าเอกสารที่ชานยอลสั่งมายัดใส่ในมือแล้วโบกมือลา

     
     

                "อะไรของเขาวะ" ปากบ่นไป แต่ในหัวกลับเก็บประโยคนึงมาคิด.. เออ มันก็จริงของพี่จงอินนะ จ้องตัวเลขนานๆน่าเบื่อกว่าการที่ต้องคอยรับโทรศัพท์เยอะเลย..


     

     

     

                จะว่าไป

     

     

     



     

                โทรศัพท์..

     




     

     

                ฉับพลันดวงตาเรียวรีเลื่อนมองไปที่ห้องทำงานของชายหนุ่มและฉีกยิ้มกว้าง ก้าวขาสั้นๆของตัวเองไป จุดหมายมีสองอย่างคือ..

     

     

     

     

     

     

                แผนการขอโทรศัพท์..
     

     

                กับเอาเอกสารเข้าไปให้..

     

     

     

     

     

     


     

     

     

                ซึ่งมันเอนเอียงไปทางไหนค่อนข้างจะชัดเจนนะ..




     


     



     

                "จงอินเอาเอกสารคุณพาอึมมาให้หน่อยดิ ..ตอนนี้เลยนะ.. อ่า โอเค ขอบใจมาก" ชานยอลวางโทรศัพท์ลงที่เดิมแล้วไล่กวาดสายตามองเอกสารอย่างเคร่งเครียด ก็นี่มันยังมีเอกสารตั้งมากมายที่ยังเหลืออีกเป็นกองพะเนินบนโต๊ะ.. หัวผมจะระเบิดอยู่แล้วจริงๆนะครับ

     

                ช่วงนี้อยากหาเรื่องลาหยุดแต่เหมือนฟ้าไม่เป็นใจซักเท่าไหร่เพราะช่วงนี้มี แต่งานเข้าและเข้าทีเข้าไม่หยุด มือหนาดึงแว่นสายตากรอบหนาออกวางกลางโต๊ะ ยกมือขึ้นนวดสันจมูกคลายอาการตึงเครียด

     

                ปัง!!

     

                "พี่ชานยอลคนหล่ออออ น้องเอาเอกสารมาให้ ~"

     

                เด็กคนนั้นเปิดประตูแล้ววิ่งพรวดพราดเข้ามาแล้วพูดใส่ชานยอลเสียงดัง ในมือถือเอกสารที่เขาฝากจงอินเดินมาให้พร้อมด้วยอาการดี๊ด๊าเกินเหตุ ชานยอลเอนหลังพิงพนักเก้าอี้หนังแล้วเลิกคิ้วในสรรพนามที่ถูกเรียกนั่น.. ร้อยวันพันปีไม่เคยจะพูด อยู่ๆวันนี้มาชมหล่อ ?

     

                "อะนี่เอกสารของพี่ชานยอลคนหล่อม๊ากกกกกก"

     

                "วันนี้พี่หล่อจริงๆนะให้ตายสิ"

     

                "อ่า ไม่สิ พี่หล่อทุกวันเลยนี่หน่า"

     

                "หล่อมากนี่ ..โอ้ะ หล่อจนแสบตาเลย"

     

                แบคฮยอนยื่นเอกสารให้แล้วเท้าแขนลงกับโต๊ะกระจกของชานยอล สายตาขี้เล่นมองทั่วใบหน้าคนแก่กว่าแล้วชื่นชมอย่างออกหน้าออกตาจนคนถูกชม หัวเราะเบาๆ พอจบประโยคสุดท้ายเจ้าตัวก็ยกมือเบ็กๆขึ้นปิดตาตัวเองข้างนึงแล้วยิ้มหวาน ให้เขา

     

                "อยากได้อะไรพูดแบบนี้"

     

                "แหม.. รู้อีกเนอะ"

     

                "พูดขนาดนี้ก็ต้องการให้รู้ไม่ใช่รึไง"

     

                "ก็ใช่นะ คิคิ" หมุนตัวไปมาอย่างน่ารัก แบคฮยอนลากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วกระแทกก้นนั่งลงดังปั่ก "นี่ปัจจัย5ของวัยรุ่นยุคนี้คืออะไร?"

     

                "อะไรล่ะ"

     

                "แบคถามพี่ชานยอลไง~"

     

                "อืม.. โทรศัพท์งั้นหรอ?"

     

                "ใช่ ๆ คิก~"

     

                "อ่า พี่ลืมไปเลย.." แบคฮยอนยิ้มแป้น ชานยอลอยากจะซื้อให้ตั้งนานแล้วล่ะ แต่งานมันทั้งเยอะและสุมแบบนี้ทำให้เขาไม่สามารถออกไปไหนได้เลย ที่จริงเขาทิ้งงานไว้ให้จงอินทำก็ได้ แต่หน้าที่ควรมาก่อนเรื่องส่วนตัวเสมอจริงมั้ยครับ..

     

                "อยากได้รุ่นไหนอะ แต่พี่ไม่ว่างไปกับจงอินได้มั้ย?"

     

                แบคฮยอนหุบยิ้มทันทีแล้วส่ายหน้าพรืด เขาอยากซื้อโทรศัพท์ก็จริง เขาก็อยากไปกับพี่ชานยอลเหมือนกัน ไปเดินงุ้งงิ้งๆกันไง ฮือ ไปกับพี่จงอินก็ตบถีบกันตายพอดีเซ่ ฮือ

     

                "งานพี่เยอะจนขยับไม่ได้แล้วแบคฮยอนอ่า"

     

                "แค่ครึ่งวัน..นะพี่ชานยอล"

     

                พ่อนักธุรกิจถึงกับนวดสันจมูกพลางใช้ความคิดไปด้วย แบคฮยอนหน้าหงอยลงทันทีที่รู้ตัวว่าทำตัวเป็นภาระ อ่าๆ ไปกับพี่จงอินก็ได้นะ พี่ชานยอลอย่าทำหน้างั้นสิ ;___;

     

                "อ๋า ไปกับพี่จงอินก็ได้ เอามือออก ๆ"

     

                "พี่กำลังคิดอยู่ว่าวันไหนบ้างที่ว่าง"

     

                "จริงนะ!!"

     

                "มะรืนนี้ว่างมั้ง เดี๋ยวพี่บอกอีกทีนะ"

     

                "เย้~"

     

                แบคฮยอนที่กำลังเอื้อมมือไปแกะมืออีกคนออกค้างกลางอากาศแล้วลุกขึ้นกระโดด เหยงๆ ชานยอลยิ้มบางๆแล้วหยิบแว่นสายตามาสวมก่อนจะเริ่มเคลียงานต่อ ส่วนเจ้าตัวเล็กเมื่อได้ของสมใจอยากก็นั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมในห้องทำงาน

     

                เวลาของวันค่อยๆล่วงเลยไปเรื่อยๆ ชานยอลลอบมองเด็กดื้อเป็นระยะๆแล้วเผยยิ้ม แบคฮยอนนี่เป็นเด็กคนแรกเลยที่เขาขอนิยาม.. ว่าอยู่ที่ไหนก็หลับได้และเปลี่ยนอารมณ์เร็วที่สุด

     

                หลับซะแล้ว ชานยอลคิด เขามองเด็กน้อยบนโซฟาแล้วหันมองนาฬิกาบนฝาผนังห้อง ตอนนี้ก็เริ่มจะเย็นแล้ว ผมควรรีบหอบงานที่เหลือไปทำต่อที่ห้อง เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นคงไม่มีใครทำกับข้าวให้แบคฮยอนกินแล้วเดี๋ยวโมโหอีก..

     

                "แบคฮยอน.. แบคฮยอน"

     

                ชานยอลเขย่าตัวเด็กน้อยเบาๆ แบคฮยอนส่งเสียงไม่พอใจที่มีคนมารบกวน ร่างบางพลิกตัวหนี หันหลังให้เขาแล้วกอดหมอนที่โซฟาไว้เต็มอก

     

                ร่างสูงจัดการเดินไปเก็บงานที่ค้างลงกระเป๋าใส่เอกสารแล้วพาดสูทลงที่แขนตัว เอง เขาหันไปมองเด็กน้อนที่นอนที่เดิมอีกทีแล้วตะโกนเสียงดัง

     

                "แบคฮยอนพี่กลับบ้านแล้วนะ!"

     

                "หื้ออออ!!!"

     

                เจ้าตัวเล็กดีดตัวผึงแล้วหันซ้ายหันขวาทำหน้างงใส่ผมก่อนจะบ่นอุบอิบแล้วลุก ขึ้นมาอย่างว่าง่าย ผมยิ้มใส่แล้วเดินนำออกมา จงอินนั่งหลับคาโต๊ะ ในมือมันยังถือโทรศัพท์ทิ้งไว้ เขาเลยใช้ขาเตะขาโต๊ะไปทีนึง

     

                จงอินสะดุ้งมองหน้าผมแล้วโบกมือหยอยๆใส่ มันปิดปากหาวหวอดไม่ต่างกับคนตัวเล็กที่เดินตามเขาออกมา รอบตัวเขานี่มันมีแต่คนขี้เซาจริง ๆ.. บางทีมันอาจจะรวมผมด้วยก็ได้นะ ผมพาแบคฮยอนเดินลงมาตามทางจนเด็กน้อยพูดประโยคแรกหลังจากตื่นนอน

     

                "พี่ชานยอลแบคนอนต่อได้มั้ย?"

     

                "นอนได้..แต่นอนเยอะไม่ดีนะ"

     

                "..."

     

                "พอนอนมากเกินไปมันจะทำให้เป็นโรคโลหิตจางได้แถมยังเป็นโรคหยุดหายใจตอนหลับ ได้ด้วยนะ แบคต้องทานผักผลไม้สิ ทานวิตามินแล้วก็ต้องตื่นเช้าให้เป็นนิสัยด้วยรู้มั้ย"

     

                "ถ้าแบคหยุดหายใจพี่ก็ผายปอดแบคสิ"

     

                "ตลก นี่ก็จะนอนอย่างเดียวเลย"

     

                "ก็ง่วงอ่ะ..โห่ยยย พี่ชานยอลคนขี้บ่นนน"

     

                "บ่นเพราะเป็นห่วงหรอกเด็กนี่.."

     

                "พอๆเลิกบ่นได้แล้วหน่า"

     

                "โถ่ เด็กน้อย" ผมเขกหัวไปหนึ่งทีข้อหาทำตัวน่าหมั่นไส้ แบคฮยอนยิ้มยีฟันน่ารักแล้วเดินตามมาเงียบๆ พอถึงรถก็รีบเปิดประตูกระโดดขึ้นนั่งทันที

     

                ชานยอลเดินอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วขึ้นนั่งตาม แบคฮยอนนั่งหันซ้ายหันขวาตลอดทางก่อนเขาจะสะกิดยิกให้หันไปดูอะไรสักอย่าง

     

                "พี่ชานยอลๆ นี่มันใกล้จะเปิดเทอมยังอะ"

     

                "หือ อีกสองอาทิตย์ ทำไมหรอ"

     

                "แล้วแบคจะเรียนที่ไหนเล่า"

     

                "พี่ดูไว้เรียบร้อยแล้ว สมัครอะไรเรียบร้อยแล้วด้วย เหลือแต่ชุดนักเรียนแค่นั้น"

     

                "ไปทำมาตอนไหนหน่ะ"

     

                ประโยคสุดท้ายเด็กเตี้ยบ่นพึมพำแล้วเงยหน้ามายิ้มใส่ ชานยอลยิ้มรับแล้วหันหน้าไปมองถนนต่อ ใช้เวลาประมาณสิบนาทีก็กลับมาถึงคอนโด คุณอาจำเป็นเปิดประตูรถลงมาแล้วเดินอ้อมไปรอแบคฮยอนที่ค่อยๆตะกายลงจากรถ

     

                เขาผลักประตูข้างคนขับปิดและล้อคทันทีที่แบคฮยอนลงมา คว้าข้อมือเล็กมาจับแล้วจูงกันเดินขึ้นลิฟท์ ตลอดทางมีแต่เสียงหาวหวอดๆจับเสียงอืออาของแบคฮยอน

     

                "เข้าไปนอนก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ทำมื้อเย็นไว้ให้" พอถึงห้องเขาก็เอาเสื้อสูทพาดหลังเก้าอี้แล้วเดินเข้าครัวทันที แบคฮยอนจู่ๆก็นึกรู้สึกผิดขึ้นมาเลยเดินเข้าไปในห้องครัวบ้าง

     

                "ไม่นอนอะ.. พี่ชานยอลไม่เหนื่อยหรอ?" ถามเสียงเบาแล้วเอาคางเกยโต๊ะทานข้าวไว้ มองแผ่นหลังคนเป็นอาชั่วคราวที่ขยับก้มๆเงยๆหยิบจับผักและอุปกรณ์ทำอาหาร อย่างชำนาญ

     

                "เรื่องไหนละ พี่เหนื่อยหลายเรื่องมากเลย ฮ่ะๆ"

     

                "เรื่องแบคอะ.."

     

                "....."

     

                "แบคอยู่แล้วเหมือนเป็นตัวภาระไงๆก็ไม่รู้อะ แบบ ต้องให้พี่คอยบ่นคอยดูแลไปทุกเรื่องขนาดนี้อะ"

     

                "ไม่หรอกอย่าคิดแบบนั้นสิ"

     

                "งืออออ ก็มันน่าคิดป้ะละ"

     

                "พี่ทำเพราะเต็มใจทำ ถ้าพี่คิดว่าเราเป็นภาระคงเอาไปคืนให้ยูรานานแล้วล่ะ"

     

                เขาพูดติดตลกส่วนแบคฮยอนก็นั่งหัวเราะเบาๆมองคนตัวสูงทำอาหารให้ นี่มันเป็นภาพที่ผู้หญิงทุกคนต้องใฝ่ฝันกันแน่นอนที่สามีจะทำกับข้าวให้กิน ..ถึงตอนนี้จะเป็นแค่อนาคตสามีก็เถอะ หึหึ *ยิ้มอ่อน*

     

                "วันนี้ทำอะไรให้กินอ่ะะ"

     

                "จาจังมยอนอะ กินได้มั้ย?"

     

                "กินได้ดิ มีอะไรให้ช่วยมั้ย ฮึ้"

     

                "นั่งไปเฉยๆนั่นแหละ มาหั่นผักเดี๋ยวก็มีดบาด"

     

                "โห่ ดูถูกกันชัดๆ" ถึงแบคฮยอนจะเถียงกลับแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคือความจริง จับมีดยังไงทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยขึ้นชื่อว่าแบคฮยอนเป็นศัตรูกับเครื่องครัวทุกชนิดก็ว่าได้..

     

                หลานตัวแสบนั่งดูคุณอาทำจาจังมยอนให้กินอยู่สักพักก็นึกอะไรได้ แบคฮยอนวิ่งดุ้กดิ้กไปหาตู้เย็นแล้วหยิบเหยือกนํ้ามาเทนํ้าใส่แก้ว ชานยอลหันมองตามเสียงกระทบของแก้วแล้วหันกลับไม่ได้สนใจจนความรู้สึกเย็นๆ ทาบบนปากเขานั่นแหละ

     

                "กินนํ้าแมะ"

     

                ถึงรู้ว่าแบคฮยอนเทนํ้าให้กิน

     

                "อื้อ ป้อนหน่อยมือไม่ว่าง"

     

                "ก้มลงมาสิ ป้อนไม่ถึง"

     

                "เตี้ย.."

     

                "กินเองไป๊ตาแก่"

     

                เขาน้อมหน้าลงมาหาแก้วนํ้าแล้วงับขอบแก้วดื่มนํ้าเร็วๆเพราะกลัวแบคฮยอน เมื่อยแขน ถ้าเขาไม่ก้มลงมาเจ้าเด็กนี่คงลากเก้าอี้มาต่อขาแล้วป้อนเขาแน่ๆ ถ้ายืนกับพื้นคงชูสุดแขนไม่ต้องคุยกันพอดี

     

                "ขอบคุณค้าบบบน้องแบคฮยอนนน"

     

                "ไม่เป็นไรค้าบบพี่ชานยอลลล"

     

                แบคฮยอนล้อเลียนเสียงแล้วย่นจมูก เดินเอาแก้วนํ้าไปเก็บแล้วนั่งที่เดิม ชานยอลที่ทำมื้อเย็นเสร็จแล้วก็เดินไปนั่งบ้าง ถ้าเกิดว่าหยุดเวลาแค่ตรงนี้ได้คงจะดีไม่น้อย.. ชานยอลคิด

     

     

     

                เพราะตั้งแต่เขาเกิดมา แบคฮยอนเนี่ยแหละที่ทำให้เขาอบอุ่นเขามากที่สุดแม้จะอยู่ด้วยกันแค่ช่วงสั้นๆก็ตามที

     

     TBC.

     
     

    _________________________________________________

    เฟบมันหายไปไหน20คนกันนะ ช่วยไรท์หาที 
    55555555555555555555555555
    โอ้ยเรียนเช้าถึงเย็นทุกวันไม่มีวันหยุด
    จะตายแล้วเฟ้ยยยยยยย

    #ฟิครชบ

     เฟบมันหายไปไหน20คนกันนะ ช่วยไรท์หาที 
    55555555555555555555555555
    โอ้ยเรียนเช้าถึงเย็นทุกวันไม่มีวันหยุด
    จะตายแล้วเฟ้ยยยยยยย

    #ฟิครชบ

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×