คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prologue ♔
prologue
ทุกคนในแวดวงนักธุรกิจมือใหม่จะรู้จักเขาดี
หนุ่มมาดนิ่ง แต่หากมีความเป็นผู้นำสูง ว่าด้วยรูปร่างสูงสง่า ไหล่กว้าง ดวงตากลมโตแต่คมกริบนั้นยามมองไปทางใดก็ดูทรงเสน่ห์ไปเสียหมด นัยน์ตาสีนิลที่ถูกฉาบทับด้วยความเย็นชาเฉกเช่นบุคลิกท่าทางที่ดูดีและน่า กรงขามเสียจน ผู้คนต่างนิยามผมว่า 'เพอร์เฟ็ค' เพียงแค่เข้ามาในแวดวงธุรกิจเพียงสามปีแต่สามารถดึงยอดขายของกิจการครอบครัวที่กำลังอยู่ในขั้นวิกฤตให้กลายเป็นกิจการใหญ่ระดับประเทศ คุณคงคิดว่าไม่มีใครที่จะมีทุกอย่างครบครันเช่นนี้ ทั้งหน้าตา ความสามารถหรือแม้กระทั่งทรัพย์สิน ที่มีมากจนเรียกได้ว่ามหาเศรษฐี
แต่ความจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เก้าอี้แถวหน้าสุดภาย ในห้องทำงานส่วนตัวของประธานบริษัทปาร์คกรุ๊ปถูกจับจองโดยหญิงสาววัยกลางคน ตาโตผมยาวสวยไว้จนถึงกลางหลัง ราวกับถอดแบบมาจากผู้เป็นมารดาของคนทั้งคู่ คนทั้งคู่ก็คือเธอกับประธานบริษัทนี้นั่นเอง ซึ่งกำลังนั่งอ่านนิทานเล่มโปรดในระหว่างรอพบกับน้องชายอย่างตั้งอกตั้งใจ
อยากลองฟังนิทานเรื่องนี้ดูไหม? ฉันจะเล่าให้ฟังเอง
กาลครั้งหนึ่งเมื่อราวๆ 10 กว่าปีที่แล้ว ยังมีครอบครัวหนึ่งที่มีลูกคนโตของตระกูลผู้ไม่เอาไหนกับน้องชายตัวเล็กที่อนาคตจะต้องแบกรับภาระทุกอย่างไว้ด้วยตนเอง
"นี่ยูราลูกกำลังจะจบม.6แล้วนะ คิดไว้บ้างหรือยังว่าจะเรียนมหาลัยไหน คณะอะไร?" ผู้เป็นแม่ถามพี่สาวด้วยสีหน้าติดกังวลกับคำตอบที่จะได้รับ เนื่องจากเธอเป็นความหวังของการสืบทอดกิจการครอบครัวที่กำลังตกตํ่าถึงที่สุด และยังพ่วงตำแหน่งโดยเป็นพี่สาวคนโตของ ครอบครัวปาร์ค แต่เธอกลับเป็นคนที่ไม่เอาไหนเสียเลย..
"ยูราจะเรียนสถาปัตย์ค่ะแม่" เธอตอบเสียงเรียบแต่ฟังดูหนักแน่นที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาจากปากของเธอ
"แล้วธุรกิจที่บ้านเราใครจะดูแลล่ะยูรา? ลูกเป็นความหวังเดียวของเรานะ" แม่ตอบยูราเสียงแผ่วก่อนเธอจะนิ่งไป บรรยากาศชวนกดดันมักมีขึ้นทุกครั้งเมื่อคุยกันเรื่องการเรียนของปาร์คยูรา เสียงถอนหายใจยิ่งเป็นตัวทำให้บรรยากาศรอบๆตัวนั้นแย่ลงกว่าเดิม
ปิ๊ง!
ราวกับมีอีโมติคอน หลอดไฟติดบนหัวของปาร์คยูรา เธอดีดนิ้วดังเป๊าะ!แล้วชี้มาที่น้องชายแสนน่ารักของเธอที่กำลังนั่งดู การ์ตูนหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างสนุกสนาน
"น้องไงแม่ ใช่แล้ว!! น้องของฉัน!"
เธอตะโกนสุดเสียงเสียจนบุคคลถูกพาดพิงถึงกับหันมามองด้วยความไร้เดียงสา คนเป็นแม่ส่ายหน้าเอือมระอากับการกระทำของลูกคนโตอายุ18 ที่โยนภาระของครอบครัวไว้ให้น้องชายอายุ 10 ขวบ...
"นี่ชานยอล มาหาพี่หน่อยซิ~" เธอดัดเสียงให้เล็กและกวักมือเรียกให้เด็กน้อยเดินมานั่งข้างๆพร้อมตบเบาะ โซฟารอระหว่างที่เด็กน้อยเดินเตาะแตะไปหาอย่างว่าง่าย ก่อนจะนั่งบนโซฟายาวตัวเดียวกับยูรา
"พี่มีอะไรกับผมหรอ?"
"พี่จะให้ยอลช่วยอะไรหน่อยนะ"
"??"
"ช่วยเรียนบริหารแทนพี่หน่อยสิ.."เด็กน้อยเอียงคอเล็กน้อย เหมือนมีเครื่องหมายคำถามอยู่เต็มหน้า ในหัวมีแต่คำว่าบริหารคืออะไร?
"นะๆๆ ช่วยพี่หน่อยนะครับเด็กดี น้าาาา~"
เธอกอดร่างท้วมของน้องชายเต็มอก ด้วยความที่ว่า ปาร์ค ชานยอล เป็นเด็กที่ติดพี่สาวอยู่แล้ว ยิ่งโดนอ้อนมันก็เลยยอมเธอไปใหญ่ น้องชายชั่งใจชั่วครู่ในหัวคิดเพียงแค่ว่า ถ้าเขาช่วยพี่สาวพี่สาวต้องรักเขามากขึ้นแน่ๆ ทำให้เด็กตัวป้อมพยักหน้าเล็กๆ ก่อนเธอจะโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจจนบรรดาคนรับใช้และมารดาถึงกับสะดุ้งเฮือก
"เห็นมั้ยแม่! น้องจะเรียนบริหารธุรกิจแทนยูรา เพราะฉะนั้น ยูราก็สามารถเรียนสถาปัตย์ได้ตามชอบแล้ว!"
"เฮ้อ เอาเข้าไป จะเรียนอะไรก็เรียนเถอะ แม่ไม่ขัดแกแล้วลูกสาว.." เธอปรบมือแปะๆแล้ววางน้องชายแสนน่ารักลงกับพื้นพร้อมจุ๊บเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู
แต่แทนที่เธอจะรักเด็กน้อยมากขึ้นตามความคิดขิงเด็กอายุ10ขวบ.. เธอกลับค่อยๆหายออกไปจากบ้าน นานวันเข้า นานวันเข้า.. จนไม่เห็นหน้าอีกเลย ถ้าให้พูดก็คือ หนีออกไปแล้วนั่นเอง แต่เพราะสาเหตุอะไรนั้นน้องชายก็ยังไม่รู้ จนกระทั่งสองปีต่อมา..
มันเหมือนตลกร้าย
"คุณว่ายังไงนะ ยูราท้องงั้นหรอ!!"
เด็กน้อยที่กำลังนั่งทำการบ้านอย่างขมักขะเม้นหันมองตามเสียงเมื่อได้ยินชื่อของพี่สาว.. แต่เดี๋ยวนะ ท้องงั้นหรอ? เด็ก น้อยค่อยๆแง้มประตูห้องส่วนตัวแล้วย่องไปดูตรงระเบียงชั้นสองก็ตกใจเมื่อ เห็นพี่สาวตัวเล็กมีหน้าท้องยื่นออกมาเล็กน้อย พร้อมกับคุณแม่และคุณพ่อที่ทำหน้าเครียดอยู่ไม่ห่าง
"จะบ้าหรือไง ยูรา แกยังเรียนไม่จบนะ! ! อย่าล้อเล่นกับแม่นะ!"
".........."
"นอกจากไม่สงสารตัวเอง แกยังไม่สงสารครอบครัว น้อง หรือแม้กระทั้งชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ฉันอุส่าใจอ่อนให้เรียนตามชอบ แล้วนี่มันอะไร!! ตอบมาสิว่ามันคืออะไร!!
"หนูขอโทษค่ะ... หนูจะไม่มาให้เห็นหน้าอีก แต่หนูขอพูดอะไรกับชานยอลก่อนได้มั้ย?" นํ้าเสียงขอเธอสั่นเครือขึ้นเรื่อยๆแล้วช้อนตามองมาที่ชั้นสองของบ้านซึ่งมีร่างเล็กๆของน้องชายกำลังมองมาที่เธอเหมือนกัน
พี่ยูราร้องไห้ทำไม? เขาได้แต่คิด
"พึ่งสำนึกได้หรอว่าไม่ควรมาเหยียบที่นี่! แล้วชานยอลน่ะ อย่าหวังจะได้คุยด้วยนะ แค่นี้น้องชายของแกก็แปดเปื้อนมามากพอแล้ว ออกไปซะ!"
"แต่แม่คะมันสำคัญมากจริงๆ.. "
"ถ้าแกจะพูดเรื่องนั้นก็หยุดพูดเดี๋ยวนี้ แล้วไสหัวออกไปซะ!!"
"แต่ แม่คะซักวันชานยอลก็ต้องรู้!!!"
เพี๊ยะ..!!!
“เด็กนั่นจะไม่มีทางรู้แน่นอน..”
TBC.
_________________________________________________
สวัสดีผู้คนที่หลงเข้ามาในฟิคของเรานะคะ 55555555
เรื่องนี้เฮฮาๆค่ะ ดราม่าหายากเพราะแต่งไม่เป็น 5555
สกรีมแท็ก #ฟิครชบ
ความคิดเห็น