Elf land แดนเอลฟ์

สวัสดีชาวโลกและชาวเด็กดีชาวเน็ตเวิร์กโซเชี่ยลทั้งหลาย
 

     ไดค์แอบไปซุ่มตัวเขียนนิยายมาล่ะเป็นประมาณว่าเกี่ยวกับเอลฟ์อ่ะน้าแรงบันดาลใจที่ได้มาก็คือการดู SAO ตอนนั้นไดค์คิดเลยว่าไม่น่าดูการ์ตูนเรื่องนี้เลย มันสร้างแรงบันดาลในการเขียนนิยายทั้งๆที่ตัวเองก็มีนิยายท่วมหัวอยู่แล้วแท้ๆ (ไม่เชื่อไปดูในหน้า Writer ของไรท์ดิ T^T) และเรื่องเป็นเรื่องที่อยากลองเอาชื่อนักเขียนตัวเองใส่ดูตัวเอกก็เลยชื่อ "ไดค์ซี" ถ้ารู้จักมีเลิฟรี่ด้วยนะที่ใช่ชื่อว่า Fairy_sky อ่ะ เพื่อนไรท์เอง โปรเจคนี้มีอยู่ในเฟสบุ๊คล่ะแต่อัพช้านี่ไรท์เขียนจบเล่มนึงตามที่คิดพอดีก็เลยเอามาลงเด้อ ผิดตรงไหนบอกด้วยน้า เบลอๆ ฮ่าฮ่าฮ่า
บอกก่อนนะว่าไม่ได้ก็อปใครมา ไม่ได้ขโมยไอเดียใครด้วย นี่คือต้นฉบับถ้าพบผู้เลียนแบบช่วยแจ้งไรท์หน่อย ไรท์จะไปทวงคืน(และอาจมีหนักกว่านั้น)
*กฎสามข้อไม่ยากอยากให้ทำจ้า*
    
เป็นแฟนคลับแล้วห้ามทิ้ง เม้นท์ได้ไม่ว่าตำหนิติเตียนเชิญแต่ห้ามด่า -*-
(คำเตือน ทนอ่านไปประมาณ3-4 ตอนจะสนุก)

เผ่าเอลฟ์มีทั้งหมด 8 เผ่า
ดิน ไม้ ไฟ น้ำ ลม แสง มืด ดาร์คเอลฟ์

แบ่งเป็น 4 เล่ม
เล่ม 1 พรสวรรค์รวมตัว(เสร็จและจบแล้ว)
เล่ม 2 แสงสว่างกลางโลกมืด
เล่ม 3 คริสตัลมายา
เล่ม 4 เปลี่ยนโลก
 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

บทนำ

          เรื่องราวของเอลฟ์นั้นมีมากมายหลากหลายแต่ที่ฉันรู้ คือเอลฟ์นั้นแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 ธาตุด้วยกันและยังเป็นการแบ่งผ่าพันธ์กันอีกด้วย แต่เดิมดินแดนแห่งนี้ไม่ได้มีธรรมชาติสวยงามและอากาศบริสุทธิ์แต่เดิมคือที่แห้งแล้ง เทพเจ้าหนักใจมากกับที่ดินผืนนี้ในขณะที่กำลังตรวจสอบดินแดนแห่งนี้อยู่นั้น ท่านก็ได้พบกับความแปลกประหลาดซึ่งแม้แต่ตัวท่านเองก็ไม่คิดว่าจะมีปฏิหารย์เช่นนี้ได้ นั่นคือสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 สิ่ง

1.ต้นอ่อนของต้นไม้งอกเงยโผล่พ้นพื้นดินพยายามรับแสงแดด

2.ดินบริเวณนั้นกลายเป็นดินร่วนที่เพาะปลูกได้

3.ใกล้ๆ กันนั้นมีลำธารที่ใสสะอาดราวกับน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่รายรอบผืนดินร่วนซุย

4.สายลมที่รุนแรงแปรเปลี่ยนเป็นลมที่แสนอ่อนโยนพายพัดผ่านต้นอ่อน อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น

5.แมลงร้ายผุดขึ้นจากดินแล้วไฟดวงน้อยๆ ลุกโชนเผาแมลงร้ายที่หวังจะกินต้นอ่อน

6.แดดที่จัดจ้านกลับหายไปและความมืดยามรัตติกาลพร้อมดวงจันทร์ปรากฎขึ้น

พระเจ้าได้นั่งดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างอัศจรรย์และหลังจากนั้นสิ่งมหัศจรรย์ที่ 7 ก็บังเกิด

7. ความสว่างไสวและอบอุ่นของพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าทำให้ต้นอ่อนแข็งแรงและเติบโต

 พระเจ้าเห็นเช่นนั้นจึงได้มอบชีวิตให้กับสิ่งอัศจรรย์เหล่านั้นก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิตที่ผูกพันกับเทพเจ้ามีลักษณะหูแหลมและสง่างามสมกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าสร้างขึ้นท่านได้เรียกสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นว่า “เอลฟ์” และทั้ง 7 ก็ได้อาศัยอยู่ร่วมกันโดยพระเจ้าเป็นคนแบ่งที่อยู่อาศัยให้พวกเอลฟ์อยู่อย่างสงบสุขเว้นเสียแต่ว่าตอนที่พระเจ้าสร้างสิ่งมีชีวิต เจ้าแมลงร้ายที่ยังเหลืออยู่ได้รับพรไปด้วย แต่เพราะมันถูกไฟเผาร่างเอลฟ์จึงเป็นสีดำคล้ำและได้ชื่อว่า “ดาร์คเอลฟ์” ซึ่งมีอุปนิสัยโหดร้าย ป่าเถื่อน ทารุณและความอยากในกามจึงเป็นศัตรูกับเอลฟ์ทั้ง 7 เผ่าที่ต้องการความสงบสุขนั่นเอง

แต่พระเจ้าก็ยังคงเชื่อในสักวันว่าดาร์คเอลฟ์จะต้องมีความดีอยู่บ้างจึงแบ่งที่อยู่อาศัยทางทิศใต้ให้ นอกจากนี้ยังช่วยขยายเผ่าพันธ์ให้เหมือนกันกับเผ่าอื่นๆ แต่ดาร์คเอลฟ์ก็ยังคงเป็นดาร์คเอลฟ์อยู่วันยังค่ำ

แต่นั่นก็เป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้วมีบันทึกอยู่ในห้องสมุดของเอลฟ์ทั่วไปไม่มีอะไรบอกว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่บอกว่าเป็นเรื่องจริงเห็นจะมีแค่พวกเราชาวเอลฟ์นั่นเอง

ตุบ

“เฮ้อ อ่านกี่รอบก็ไม่เห็นจะเข้าใจสักทีแฮะว่าทำไมพระเจ้าถึงต้องช่วยดาร์คเอลฟ์ด้วยทั้งๆที่ต้องการจะกินต้นอ่อนซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในที่ดินแห้งแล้งที่ไม่น่าจะมีต้นอ่อนสีเขียวเกิดขึ้นได้”

เด็กสาวผมเงินปิดหนังสือเล่มหนาพลางมัดผมของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะดูกระจกบนโต๊ะหนังสือ ดวงตาและผมสีเงินแวววาวกับเสื้อผ้าที่เป็นสีขาวเสียส่วนใหญ่ทำให้คนที่ดูกระจกยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะลุกจากเก้าอี้แล้วหยิบดาบสีเงินมาคาดเอวไว้ เปิดประตูล็อคกุญแจ

เมื่อออกมาข้างนอกก็พบกับผู้คนมากมายถ้าพูดให้ถูกก็ชาวเอลฟ์นั่นเอง ตึกรามบ้านช่องทำจากหินอ่อนซึ่งมีสีขาวเสียส่วนใหญ่ เธอเดินไปตามถนนพลางพึมพำคนเดียว

“แต่ก็ช่างมันเถอะ จะยังไงซะพวกเราก็เกิดมาอยู่แล้วนี่แค่กำจัดดาร์คเอลฟ์ให้หมดไปก็สิ้นเรื่อง ไม่ต้องปวดกบาลคิดให้สมองทำงานหนักจนเออเร่อ”

ระหว่างทางก็เจอกับเอลฟ์มากมายบางคนใช้ลมจับปลาในน้ำบ้างก็ซักผ้าบ้างก็เลี้ยงสัตว์ซึ่งล้วนแต่เป็นงานและการหาเลี้ยงชีพตัวเอง แต่เธอใช้วิธีหาเงินได้ง่ายกว่านั้น

เด็กสาวยังคงเดินต่อไปจนถึงกระดานบอร์ดซึ่งมีเอลฟ์ยืนเลือกอยู่หลายคน บางคนก็ลังเลเล็กน้อยก่อนจึงกระดาษบนนั้นออกมาก็ไม่แปลกเพราะนี่คือ Mission board ซึ่งจะมีภารกิจว่าจ้างต่างๆ ให้ทำมากมายนับว่าเป็นแหล่งหาเงินที่ดีของเด็กสาว

เด็กสาวผมเงินเดินเข้าไปหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งเป็นภารกิจตามหาวัตถุดิบหายากในแดนไฟเพื่อเอามาทำอาวุธไว้ใช้ต่อสู้กับพวกดาร์คเอลฟ์นั่นเอง

เธอเดินไปที่โต๊ะใก้ลๆกับบอร์ดแล้วเขียนชื่อตัวเองกับภารกิจที่รับไปทำอย่างคล่องแคล่วด้วยลายมือที่หวัดนิดหน่อยก่อนจะส่งให้เจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่ เขารับไปพิจารณาก่อนจะส่งยิ้มแหยๆ ให้

“ขอให้โชคดีล่ะกันน่ะ ‘ไดค์ซี’ เธอ เนี่ยเป็นเด็กผู้หญิงเสียเปล่าชอบรับแต่ภารกิจยากๆแถมยังเป็นภารกิจอันตรายอีกด้วย”

“ก็ช่วยไม่ได้นี่นากระดูกของหมูไฟมันหายากแถมยังเป็นสัตว์ร้ายค่าจ้างก็เลยแพงไปด้วย อยากได้เงินเยอะๆนายก็ลองเปลี่ยนไปทำงานเป็นนักว่าจ้างบ้างสิ เฟล”

“ฉันไม่เถียงเธอล่ะรีบไปทำงานเถอะฉันก็ลืมไปเหมือนกันว่าเธอทำภารกิจมาเยอะแล้ว แต่ปีนี้เธอก็อายุ 18แล้วน่ะไม่คิดจะหาความรักบ้างหรือไง? ”

“ไม่สน ไปทำงานก่อนล่ะกัน”

ไดค์ซีหมุนตัวพลางวิ่งไปที่ริมผาก่อนจะกระโดดลงมากลางอากาศแล้วปีกสีเงินก็ปรากฎขึ้นที่หลังทำให้เธอบินได้มันคือปีกของเอลฟ์นั่นเอง

เฟลนั่งเท้าคางอย่างเบื่อหน่ายเขาก็อยากจะทำภารกิจอยู่หรอกถ้าเขามีผมและนัยตาสีเงินแบบเธอแต่เขามีสีเทา ในเผ่าลมคนที่มีผมและนัยตาสีเงินจะได้รับพลังและปัญญาอันวิเศษหรือที่เรียกกันว่า “พรสววรค์”

ไดค์ซีบินมุ่งหน้าไปทิศตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าไฟ

และการผจญภัยก็เริ่มต้นขึ้นด้วยเหตุนี้เอง