ตอนที่ 85 : Error : 0x00000080 ผู้เล่น...หรือมอนสเตอร์
ERROR Online : Overkill
“Jill...Potroshitel’?”
นาคาพึมพำออกมาเบาๆ ในขณะที่ดวงตาของเขาก็ยังคงจับจ้องไปที่หน้าต่างสีฟ้าที่ลอยอยู่ข้างหน้า
ชื่อทีมแบบนี้มัน ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ? น่าจะเป็นแค่การใช้ตัวอักษรโรมันเพื่อแทนเสียงที่ออกมา
“Jill”
น่าแปลกที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อแรงค์กิ้งยูสเซอร์แนวนี้มาก่อน...หรือว่าจะเป็นผู้เล่นมีชื่อเสียงเฉพาะถิ่นแบบอลิซ?
เขายืนคิดไปสักพักก่อนที่จะเหลือบสายตากลับไปมองยังตัวเลขนับจำนวนผู้เล่นที่ถูกสังหารซึ่งอยู่ข้างๆ
ปัญหาคือตัวเลขนั่น...
ตัวเลขระบุจำนวนผู้เล่นที่ถูกสังหารถึง 1,984 คนนั่น
1,984 คน ในเวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมง?
เป็นไปได้หรือไง…
ถ้าหากใช้ระเบิดหรืออาวุธทำลายล้างที่มีอาณุภาพรุนแรงก็คงจะเป็นไปได้ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นคนที่เดินในเกาะอยู่ตลอดแบบเขาก็คงจะได้ยิน แต่นอกจากดาวตกที่ตกลงมาในชั่วโมงแรก ก็ไม่มีอะไรที่ดูทรงพลังพอที่จะทำแบบนั้นได้…
นาคายืนนิ่งอยู่สักพักก่อนที่จะรู้สึกได้ถึงเวทมนตร์เคลื่อนย้าย แสงจางๆ สีฟ้าที่ค่อยๆ ออกมาจากร่างของตัวเอง และวงแหวนเวทย์ที่ปรากฏขึ้นที่บริเวณฝ่าเท้าของตนพร้อมกับเสียงของระบบที่ดังขึ้นมาว่า
“กิจกรรมจตุรอาชาแห่งวันสิ้นโลกกับสิบอาณาจักรแห่งความล่มสลายรอบที่ 1 ได้สิ้นสุดลงแล้ว ระบบจะทำการวาร์ปผู้ชนะทุกคนเข้าสู่สนามแข่งขันในรอบที่สองต่อไป”
ได้ยินดังนั้น เขายกมือขึ้นปรับหน้ากากยิ้มของตัวเองเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปทางด้านที่ผู้เล่นอันดับ 7 โยรุ โนะ ยูกินั่งอยู่แล้วจึงก้มหัวลงช้าๆ แทนคำขอบคุณที่อุตส่าห์ร่วมทีมเดินนำเขามาจนถึงตอนที่จบรอบหนึ่ง
อีกฝั่งไม่ได้เอ่ยอะไรกลับมา เธอเพียงแค่ยิ้มบางๆ ก่อนที่จะพยักหน้ากลับเช่นเดียวกัน
ถือเป็นเรื่องดี…ที่เขาได้เจอกับซามูไรคนนี้
สาเหตุที่ผู้เล่นไม่ค่อยโผล่มาในแถบที่เขาอยู่ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเธอ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะได้พบกับอีกเหตุผลที่ว่าทำไมถึงมีผู้เล่นอยู่ตามเกาะน้อยเกินกว่าที่คาด
‘ปีศาจ’ อันแสนน่าสะพรึงกลัวที่ไล่สังหารผู้เล่นไปเกือบสองพันคน
“Jill...Potroshitel’”
คือคำพูดสุดท้ายที่นาคาพึมพำออกมาก่อนที่ร่างของเขาจะค่อยๆ สลายหายไปจากอาณาเขตเกาะ ‘DIES’
---จบรอบที่ 1---
“กิจกรรมจตุรอาชาแห่งวันสิ้นโลกกับสิบอาณาจักรแห่งความล่มสลายรอบที่ 1 ได้จบลงแล้ว การแข่งขันรอบต่อไปจะเริ่มต้นในเวลา 1 ชั่วโมงให้หลัง ขอให้ผู้เล่นทุกท่านโปรดเตรียมตัว”
คือเสียงของระบบที่ดังขึ้นไปทั่วบริเวณพร้อมกับกระแสลมอ่อนๆ ที่พัดเข้ามาสู่ร่างของเขา
ทันทีที่รู้สึกตัว นาคาก็พบว่าตัวเองได้มาอยู่ในแอเรียผืนทุ่งหญ้าลาดที่ถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูง
ผืนทุ่งหญ้าลาดลงไปสู่หมู่บ้านที่อยู่ไกลราวๆ 3 กิโลเมตรกับทางเดินหินเก่าๆ ที่ทอดเป็นทางยาว แอเรียที่เต็มไปด้วยสีเขียวขจีสวยงามของธรรมชาติที่ปรากฏผู้คนยืนอยู่ประปรายไปตามพื้นที่
“ช่วงเวลาขณะนี้เป็นช่วงเวลาพักผ่อนตามอัธยาศัย และในฐานะผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้แต่เพียงผูเดียว ทาง ERROR Corporation ก็ขอแสดงความยินดีกับผู้ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 126 ทีมที่ได้รับการคัดเลือกให้เขามาภายในแอเรีย ‘หมู่บ้านในหุบเขาไร้จันทร์’ นี้”
หมายความว่าทีมของเขาผ่านเข้ารอบสินะ
“หมู่บ้านในหุบเขาไร้จันทร์...”
นาคาทวนคำช้าๆ ก่อนที่จะลองหันซ้ายหันขวาสำรวจโดยรอบแล้วจึงเหลือบไปสะดุดเข้ากับป้ายบอกทางทำจากไม้ที่ถูกปักอยู่ข้างๆ
‘[Village in Moonless Moutain : East Side]’
คือตัวอักษรสีน้ำตาลซีดๆ ที่ถูกเขียนอยู่บนแผ่นไม้ เขายืนมองมันไปสักพักก่อนที่จะได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากเหนือศีรษะของตนว่า
“พี่ชาย ดูหมู่บ้านนั่นสิ มีตึกแปลกๆ ด้วยละ”
“ตึกแปลกๆ?”
สายตาของเขาเหลือบกลับไปยังตำแหน่งหมู่บ้านดังกล่าวที่อยู่สุดปลายถนน ไล่สายตาสังเกตไปสักพักก่อนที่จะไปสะดุดกับภาพของสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของหมู่บ้าน
สิ่งก่อสร้างที่มีสภาพเป็นลานหินทรงกลมที่ถูกห้อมล้อมด้วยอัฒจันทร์ครึ่งวงกลมขนาดใหญ่
ภาพที่ทำเอานาคาต้องหรี่ตาลงช้าๆ พร้อมกับคำพูดที่เขาหลุดพึมพำออกมาจากปากว่า
“แอมฟิเธียเตอร์…?”
“เฮ้ๆ ได้ยินกันหรือยัง ข่าวใหม่ล่าสุดหลังจากกิจกรรมเพิ่งจบน่ะ”
“ข่าวใหม่...อ้อ ที่ว่าผู้เล่นสกอร์ฆ่าเยอะสุดอันดับ 1 ของกิจกรรมเป็นคนที่ไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อนน่ะนะ?”
“ใช่ เห็นว่าชื่อ จิลล์จากทีมโปรโทชิเทลอะไรสักอย่าง”
“ก็แค่ผู้เล่นที่ฆ่าคนเยอะที่สุดไม่ใช่หรือไง ทำไมตื่นตูมกันจัง”
“เรื่องจำนวนน่ะสิ...เห็นว่าเธอฆ่าเพลเยอร์บนเกาะไปทั้งหมด 1,984 คนน่ะ เกือบครึ่งของผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดน่ะนะ”
“1,984 คน!?”
คือบทสนทนาของเพลเยอร์สองคนในชุดหนังคล่องแคล่วของนักเดินทางที่เขาเดินผ่าน หรือถ้าหากให้เขาพูดตามจริงแล้ว เรื่องดังกล่าวก็คือบทสนทนาที่ผู้เล่นแทบทั้งหมดทุกคนที่ยืนอยู่ข้างทางตามทางเดินหินที่เขาเดินผ่านกำลังคุยกัน
‘เหลือเชื่อเป็นบ้า...ประหลาดสุดๆ...เรื่องแบบนั้นเป็นไปได้หรือไง!’ คือคำพูดที่ผู้เล่นจำนวนมากเอ่ย ขณะที่ปฏิกิริยาตอบรับต่อมาของพวกนั้นจะเป็นการเอ่ยปากเรียกหน้าต่างสีฟ้าขึ้นมา พร้อมกับดวงตาที่ค่อยๆ เบิกกว้างช้าๆ
การสังหารผู้เล่นกว่า 1,984 ภายในเวลา 4 ชั่วโมง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเองก็อยากที่จะรู้จักตัวตนของผู้เล่นที่แข็งแกร่งราวกับปีศาจผู้นั้น
อาชีพ...อาวุธที่ใช้ในการสังหาร...ทักษะในการต่อสู้...เวทมนตร์ที่ถนัด...ความสามารถในการต่อสู้
หากเป็นไปได้ เขาก็อยากรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวของผู้เล่นที่มีชื่อว่า Jill คนนั้น เพื่อที่จะได้สรุปได้สักทีว่า
อะไรทำให้ยูสเซอร์ในเกมนี้...แข็งแกร่งได้ถึงขนาดนั้น
สองเท้าพาเขาเดินลงจากเนินสูงบนทางเดินหิน ผ่านสองข้างทางที่มีสภาพเป็นทุ่งหญ้าลาดชันกับพุ่มไม้เล็กๆ ขึ้นประปรายลงมาสู่ในแถบที่ราบด้านล่างบริเวณข้างหมู่บ้าน
น่าแปลกที่ยังไม่มีเพื่อนร่วมทีมคนไหนติดต่อมาหาเขา ทั้งอลิซ คุณคุโระรวมไปถึงลิลลี่ แม่มดวิปลาส...หรือว่าทั้งสามคนกำลังยุ่งๆ กันอยู่?
เขาคิด ก่อนที่จะเหลือบมองไปตามสองข้างทาง
จำนวนผู้เล่นที่เดินไปมาเริ่มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มากไปจนทำให้อึดอัด เขาเดินไปตามเส้นทางสักพักก่อนที่จะเหลือบไปมองยังสภาพของบ้านเรือนรอบด้าน
หลังคามุงกระเบื้อง ผนังสีขาวคล้ำๆ กับสภาพที่ดูโบราณแต่ก็ยังคงปรากฏเค้าโครงของสิ่งก่อสร้างในยุคปัจจุบัน
สถาปัตยกรรมกรีก...แต่จากรูปทรงของแอมฟิเธียเตอร์แล้ว น่าจะเป็นยุคโรมัน?
“ทาง ERROR Corporation ขอประกาศว่า พื้นที่ ‘หมู่บ้านในหุบเขาไร้จันทร์’ แห่งนี้เป็น ‘พื้นที่ปลอดภัย’ ทุกท่านที่เข้ารอบสามารถเข้าใช้บริการโรงแรม ภัตตาคาร ผับบาร์ รวมไปถึงร้านค้าประเภทบริการอื่นๆ ที่หมู่บ้านในหุบเขาไร้จันทร์แห่งนี้ได้โดยไม่เสียค่าบริการ และสุดท้าย ผู้เล่นทุกท่านจะได้รับส่วนลด 50% ในการซื้ออุปกรณ์สวมใส่รวมไปถึงน้ำยาเสริมพลังและไอเท็มอื่นๆ ที่มีวางขายอยู่ภายในหมู่บ้าน นี่คือประกาศสุดท้ายจากผู้จัดกิจกรรม ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับเวลาพัก”
เสียงของระบบดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงเฮอย่างดีใจของผู้เล่นจำนวนมากจากทั่วทุกสารทิศที่ดังขึ้นมาแทบจะพร้อมๆ กัน
ใช้บริการร้านค้าประเภทบริการฟรี...กับส่วนลด 50% กับไอเท็มที่วางขายอยู่ในแอเรีย
ก็เป็นสิทธิพิเศษที่ดูดีเหมือนกัน
นาคาคิดพลางยกนิ้วชี้ขึ้นเคาะหน้ากากยิ้มของตัวเองเบาๆ
ยาเสริมพลัง...น่าจะไม่จำเป็นต้องซื้อ
อุปกรณ์สวมใส่...เขาน่าจะมีพร้อมหมดแล้ว แต่ไปลองดูก็ไม่เสียหาย
ปัญหาน่าจะอยู่ที่ผู้เล่นจำนวนมากที่น่าจะกรูกันไปซื้อสินค้าจากร้านขายของ จากสภาพการณ์รอบด้านที่เขาสังเกตอยู่ตลอด เห็นได้ชัดว่ายูสเซอร์รอบด้านเขาหลายคน ทันทีที่ได้ยินประกาศดังกล่าวก็ตะโกนออกมาด้วยความดีใจพร้อมกับรีบวิ่งหน้าตั้งเข้าไปในหมู่บ้านทันที
ถ้าอย่างนั้นก็ไปหาอะไรอย่างอื่นทำรอเวลา ก่อนที่จะค่อยไปเลือกดูของในช่วงที่ตอนพักใกล้จะจบ?
เวลาหนึ่งชั่วโมง...จะว่าเร็วมันก็เร็ว จะว่าช้ามันก็ช้า
นาคาคิดพลางค่อยเงยหน้าขึ้นช้าๆ ก่อนที่จะพูดกับเจ้าตุ๊กตาที่อยู่บนศีรษะตัวเองว่า
“ถ้างั้นก็ไปสำรวจตึกแปลกๆ กันดีกว่า คุณแมรี่”
และก็เช่นเคย สิ่งที่เจ้าตุ๊กตาตัวดังกล่าวทำก็คือการชะเง้อหน้าลงมาฉีกยิ้มบานให้กับเขา ก่อนที่จะพูดเสียงใสออกมาว่า
“โอเคค่ะ พี่ชาย”
แอมฟิเธียเตอร์...
โรงละครหินกลางแจ้งทรงครึ่งวงกลม
สถาปัตยกรรมที่มีจุดกำเนิดมาจากยุคกรีกโบราณ
สิ่งก่อสร้างที่เขาเคยเห็นมาก่อนในอดีต แตกต่างกันที่ภาพที่เขาเคยเห็นในโลกแห่งความจริงนั้นมันมีสภาพเป็นเพียงแค่ซากปรักหักพัง..
ไม่ใช่โรงละครที่ยังคงสภาพเดิมของมันแบบนี้
กึก...กึก
สองเท้าพาเขามาหยุดอยู่ที่ช่องทางเข้าด้านหลังอัฒจันทร์ครึ่งวงกลม ร่างภายใต้หน้ากากยิ้มแหงนหน้าขึ้นมองด้านหลังของอัฒจันทร์ที่เต็มไปด้วยหน้าต่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าปลายโค้งทรงเดียวกับโคลอสเซียม
พื้นที่รอบด้านโรงละครมีสภาพเป็นลานหินเรียบสีขาว ตำแหน่งที่โรงละครอยู่คือใจกลางของหมู่บ้าน ทิ้งระยะห่างเล็กน้อยจากเขตชุมชน
บรรยากาศรอบข้างในตอนเที่ยงของลานหินด้านหลังโรงละครนั้นเงียบจนน่าตกใจ น่าประหลาดที่ไม่มีผู้เล่นคนไหนเดินมาแถวนี้ บางทีอาจจะเป็นเพราะประกาศเมื่อครู่ที่ทำให้ผู้เล่นจำนวนมากเลือกที่จะสนใจกับร้านขายสินค้าหรือบริการแถบนี้มากกว่าที่จะมาเดินสำรวจแบบเขา
จากข้อมูลในตอนแรกที่ระบบประกาศบ่งบอกทีมที่เข้ารอบมีทั้งหมด 126 ทีมแสดงว่าน่าจะมีผู้เล่นอย่างต่ำ 504 คนที่อยู่ในแอเรียนี้ ถ้าไม่นับรวมผู้เล่นที่รอดชีวิตแต่สมาชิกในทีมเสียชีวิตจนตกรอบ
ตึก...
ร่างในชุดสูทเก่าภายใต้หน้ากากยิ้มยืนมองโรงละครทรงครึ่งวงกลมไปได้ชั่วขณะ ก่อนที่นาคาจะได้ยินเสียงกระทบเบาๆ ของฝีเท้าหนึ่งคู่จากบริเวณดาดฟ้าของอัฒจันทร์ ส่งผลให้เขาต้องเงยศีรษะขึ้นไป
มันคือภาพของเด็กผู้หญิงในเสื้อโค๊ทขนมิ้งค์ยาวสีเทา คนที่กำลังยืนถือหมวกทรงสูงของเธอด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมกับก้มหน้าใช้ดวงตาสีเงินของเธอลงมาจับมาที่เขาด้วยแววตาเรียบสนิท
นาคาหรี่ตาช้าๆ ระยะห่างระหว่างเธอที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าด้านหลังของอัฒจันทร์กับเขาอยู่บนลานหินนั้นน่าจะอยู่ที่ราวๆ 100 เมตร เพียงแต่ถึงแม้เธอจะไม่มีอาวุธในมือ แม้เด็กผู้หญิงคนนั้นจะเพียงแค่ยืนนิ่งถือหมวกทรงสูงในมือพลางจ้องมองมาที่เขาด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ
เขากลับรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติในตัวเธอ บางอย่างที่ทำให้สัญชาติญาณเตือนภัยในตัวเขาเอาแต่กู่ร้องเสียงดังออกมาว่า
‘อันตราย’
“พี่ชาย…”
คือคำพูดของคุณแมรี่ที่จู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืนจากบนศีรษะของเขา ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ลอยตัวลงมาอยู่ที่ข้างๆ เขาช้าๆ
นาคาเลิกคิ้ว ขณะที่นัยน์ตาสีดำของเด็กหนุ่มเองก็ยังคงจับจ้องไปยังร่างของเด็กผู้หญิงที่มองตรงมาที่เขาอยู่เช่นเดิม
“เด็กผู้หญิงคนนั้น” คุณแมรี่เอ่ยปากพูด ก่อนที่เจ้าตุ๊กตาตัวน้อยจะยกนิ้วชี้ขึ้นไปยังร่างที่มองตรงมายังพวกเขา
“เธอ...น่าจะเป็นพวกเดียวกันกับคุณแมรี่ค่ะ”
สิ้นสุดคำพูด ดวงตาสีดำของนาคาก็มองเห็นได้ถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนจากเด็กผู้หญิงเจ้าของเสื้อโค๊ทขนมิงค์
หมวกทรงสูง...ที่ถูกจับขึ้นสวมใส่บนศีรษะ
กับใบหน้า...ที่ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปคล้ายๆ กับรอยยิ้ม
และร่างของเธอที่ค่อยๆ หายไปจากวิสัยทัศน์ของเขา
นาคาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางความสับสนพรั่งพรูเข้ามาภายในจิตใจ
เธอเป็นใคร? ทำไมร่างของเธอถึงจู่ๆ ก็หายไปกับสายลมได้? ทักษะประเภทล่องหน? แล้วที่คุณแมรี่บอกว่าเป็นพวกเดียวกันกับเธอนั่นล่ะ
พวกเดียวกันกับคุณคุณแมรี่...
“เจอกันสักที คุณหน้ากากยิ้ม”
คือเสียงกระซิบของเด็กผู้หญิงที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นมาที่ข้างหูของเขา คำพูดที่เรียกขนในกายของนาคาให้ลุกขึ้นชันไม่ต่างอะไรกับในยามที่เขาเผชิญหน้ากับคุณแมรี่ครั้งแรก...จะมีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างกันก็คือแทนที่จะเป็นตุ๊กตาที่ยืนถือมีดจ่อหลังของเขา ครั้งนี้มันกลับเป็นเด็กผู้หญิงแปลกหน้าที่กำลังยืนกำกรรไกรของเธอจ่อมาที่คอของเขา
“เธอ...เป็นใคร”
เขาพูด เหลือบตามองยังมือเรียวเล็กข้างขวาของเธอที่กำลังจับกรรไกร ก่อนที่จะเลื่อนสายตาไปมองยังคุณแมรี่ที่ลอยอยู่ข้างๆ เขา พร้อมกับบุ้ยปากส่งสัญญาณให้เจ้าตุ๊กตาตัวน้อยอ้อมไปข้างหลังของเด็กผู้หญิงคนนั้น เพื่อหาช่องว่าง
“ถ้าเป็นคุณ ฉันจะไม่สั่งให้ ‘ตำนานประจำเมือง’ นั่น เข้ามาแอบโจมตีขนาบฉันหรอกนะ” คือสิ่งที่เด็กผู้หญิงคนนั้นเอ่ยขัดขึ้นมาทันที
เขาชะงัก “ความรู้สึกไวเหมือนกันนี่”
หรือคงจะต้องบอกว่าไวเกินไป...แถมเรื่องข้อมูลที่รู้จักว่าคุณแมรี่เป็นบอสประจำดันเจี้ยนในระดับ ‘ตำนานประจำเมือง’ นั่นอีก
“ฉันไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กันกับคุณหรอก” เธอพูด ก่อนที่จะค่อยๆ ลดกรรไกรของเธอออกจากลำคอของเขาช้าๆ พร้อมกับหันไปพูดกับร่างในชุดเดรสที่แดงที่เพิ่งจะปรากฏขึ้นที่ลานหินห่างไปราวๆ 10 เมตรว่า “ไม่เห็นต้องทำหน้าตาแบบนั้นเลย คุณ ‘เคาท์เตสโชกเลือด’ ฉันไม่ได้มาเพื่อที่นี่เพื่อที่จะต่อสู้กับพวกคุณหรอก”
ได้ยินดังนั้นนาคาก็เลิกคิ้วขึ้นช้าๆ ก่อนที่เขาจะลองเหลือบไปจึงพบกับร่างของเคาท์เตสชุดแดงที่กำลังยืนมองตรงมาที่เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาด้วยแววตาเป็นศัตรู ก่อนที่ร่างของเธอจะค่อยๆ จางหายไปช้าๆ
“ประกาศจาก ERROR Corporation บอกว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย...ต่อให้ต้องการจะ ‘ต่อสู้’ มันก็เป็นไปไม่ได้ไม่ใช่หรือไง” นาคาเอ่ยพูดพร้อมกับใช้ดวงตาสีดำสนิทภายใต้หน้ากากยิ้มเลื่อนลงมาจับยังร่างเล็กในชุดคลุมยาวมิงค์โค๊ทของเธอ
“นั่นก็ถูก”
คำตอบคือการพยักหน้า ก่อนที่เธอจะพูดต่อว่า
“แต่นั่นน่ะเป็นข้อจำกัดเฉพาะ ‘ผู้เล่น’ แบบคุณเท่านั้นแหละ คุณหน้ากากยิ้ม”
เขาเลิกคิ้วขึ้นช้าๆ
“พูดแบบนี้ จะบอกว่าเธอเองก็ไม่ใช่ผู้เล่นหรือไง”
หมายความว่าเธอเป็น NPC ประจำเมือง? ไม่น่าจะใช่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จำเป็นจะต้องเพิ่มตัวละครที่มีลักษณะแบบเธออยู่ในหมู่บ้านในเขตพักผ่อนแบบนี้
“นั่น...คุณหน้ากากยิ้ม ฉันคงจะต้องบอกว่ามันเป็นคำพูดที่ทั้งถูกต้อง...และไม่ถูกต้องในประโยคเดียวกัน”
“หมายความว่ายังไง เขาหรี่ตาภาม”
“ฉันไม่ใช่ ‘ผู้เล่น’ แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็มีศักดิ์เป็น ‘ผู้เล่น’...เช่นเดียวกันกับที่ฉันก็มีศักดิ์เป็น ‘มอนสเตอร์ระดับบอส’ แต่ฉันเองก็ไม่ใช่ ‘มอนสเตอร์ระดับบอส’ เช่นเดียวกัน”
คำพูดของเธอส่งผลให้เขาค่อยๆ เลิกคิ้วขึ้นช้าๆ ก่อนที่อีกฝั่งจะเรียกหน้าต่างไอเท็มสีฟ้าออกมา แล้วจึงกดปุ่มเรียกบางอย่างขึ้นมาถือในมือก่อนที่จะยื่นมันมาให้เขา
“ฉันชื่อจิลล์ คุณหน้ากากยิ้ม”
คือคำพูดที่ดังขึ้นพร้อมกับดวงตาสีเงินที่เงยขึ้นมาสบตา...และมีดศัลยกรรมที่เปรอะเปื้อนเลือดอยู่ในมือ
มีดสีเงินที่มีรูปร่างของมันเหมือนกับอาวุธของ ‘ฆาตกรต่อเนื่องในตำนาน’ คนที่นาคาเผชิญหน้าเมื่อตอนที่เขาอยู่ในดันเจี้ยนคณะละครสัตว์คนตาย
นักฆ่าที่มีโซนสังหารอยู่ในเขตสลัมของลอนดอนตะวันออก ปีศาจแห่งไวท์ชาเปลผู้ซึ่งยังไม่มีใครล่วงรู้ตัวจริงจวบจนถึงปัจจุบัน
ฆาตกรต่อเนื่อง...ที่นักประวัติศาสตร์ต่างก็ต้องการจะล่วงรู้ตัวจริงมากที่สุดในโลก
“จิลล์...เดอะ ริปเปอร์
บันทึกข้อมูล [Data Entry]
Potroshitel [потрошитель] : N. (คำนาม) Russian for the Ripper [ภาษารัสเซียสำหรับ Ripper]
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

#ชิ้ง????อย่าทำหนูเลยค่าาาาา~