ตอนที่ 69 : Error : 0x00000065 ปราสาทผีสิง
ERROR Online : Overkill
ฟรานเชสก้า
ชื่อที่เขาเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน เธอไม่เคยพูดถึงมันหรือบางทีมันอาจจะเป็นความทรงจำในอดีตที่เธอไม่อยากจะนึกถึง...
นับตั้งแต่หยกรู้เรื่องที่ผู้เล่นคนนั้นเป็นพี่สาวของคริสต์ แววตาของเธอก็เปลี่ยนไป นัยน์ตาสีดำของเธอถูกปกคลุมไปด้วยอารมณ์ที่ไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาก็สามารถรับรู้ได้เป็นอย่างดีว่า
เธอกำลังหวาดกลัวอยู่
‘วันนี้ ฉันจะไม่เข้าเกม นายก็หาอะไรทำไปก่อนเลยนาคา ไว้เราค่อยเจอกันที่ทัวร์นาเมนต์ทีเดียว’ ใบหน้าของเธอปรากฏแววกังวลอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะมาจากการที่ผู้เล่นคนดังกล่าวเป็นพี่สาวของเพื่อนร่วมชั้น หรือความจริงอันน่าวิตกที่ว่า ‘ฟรานเชสก้า’ อาจล่วงรู้ตัวตนบนโลกแห่งความจริงของเธอ
ความคิดที่ดูเหมือนจะทำให้เด็กสาวรู้สึกเย็นวาบถึงไขสันหลัง ซึ่งเขาเองก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรเธอได้นอกจากเอ่ยคำพูดบอกไปว่า
‘ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือหรืออยากได้ที่ปรึกษา ฉันก็ยินดีที่จะช่วยนะ’
เธอหัวเราะ
‘ทีตอนฉันสารภาพกลับไม่ยอมให้คำตอบ แต่พอมาตอนนี้กลับบอกว่าพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ผู้ชายแบบนายนี่แย่เป็นบ้า’
เขาชะงัก
‘เรื่องนั้น...’ นาคายืนก้มหน้ารวบรวมความคิดอยู่สักพักก่อนที่เขาจะหันกลับมาสบตากับเธอพร้อมกับพูดออกมาว่า ‘บางที...อาจจะให้คำตอบเธอได้หลังจากที่ฉัน...สะสางเรื่องอะไรต่อมิอะไรเสร็จแล้วน่ะนะ’
ไม่มีคำตอบอะไรนอกจากรอยยิ้มจางๆ ที่ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากบางของเด็กสาว
‘ฉันจะรอวันนั้นละกัน’
นาคาย้อนคิดไปถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงจากบนศีรษะที่ดังขึ้นมาว่า
“พี่ชาย คิดอะไรอยู่เหรอคะ”
คุณแมรี่ชะโงกหน้ามาสบตากับเขาจากที่ประจำของเธอด้วยความเป็นห่วง
นาคายิ้ม
“ไม่มีอะไรหรอก”
ตุ๊กตาตัวน้อยที่อยู่บนศีรษะก็ยิ้มออกมาเช่นเดียวกับเขา
“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปข้างในกันเถอะ พี่ชาย”
เบื้องหน้าคือภาพของกำแพงหินตั้งสูงตระหง่านกินพื้นที่รอบปราสาทยักษ์สีเทาอึมครึมขณะที่ตรงหน้าของเขาคือรั้วเหล็กขึ้นสนิมขนาดใหญ่
แอเรียปราสาทโดดเดี่ยวท่ามกลางผืนป่า อดีตพื้นที่เป้าหมายสุดท้ายในกิจกรรมมาราธอนที่มีชื่อว่า
ปราสาทผีสิง [The Haunted Castle]
หากถามว่าทำไมนาคาถึงมาที่ปราสาทผีสิงนี่อีกครั้ง คำตอบก็คงจะต้องย้อนความไปเล็กน้อยถึงตอนที่นาคากำลังคิดถึงเรื่องจุดเด่นของผู้เล่นระดับสูงแต่ละคน
โลงศพสีดำมีความเร็วที่ยากจะหาใครเทียบ เจ้าหญิงแห่งมหนามมีเวทมนตร์และอาวุธที่หลากหลาย ขณะที่สิ่งที่พอจะเรียกว่าเป็นจุดเด่นของเขากลับมีเพียงแค่ศิลปะป้องกันตัวที่เคยเรียนมา ปืนทั้งสองกระบอกกับตุ๊กตาเด็กผู้หญิงที่นั่งเล่นอยู่บนศีรษะของเขา
มัน...ยังไม่เพียงพอ
เขายังมีอะไร...ที่มันทรงพลังมากยิ่งกว่านี้
แม้การเผาแอเรียป่าดงดิบที่ใหญ่ที่สุดในเกมแบบกรีนฟอเรสต์ที่ทำให้ค่าสถานะของเขาขึ้นมาแตะระดับเดียวกันกับผู้เล่นระดับสูง แต่บางสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากผู้เล่นพวกนั้นคือเจ้าสิ่งที่ถูกเรียกว่า สกิล เวทมนตร์ ท่าไม้ตายหรืออะไรก็ตามแต่ที่ใช้ในการพิชิตศัตรูโดยที่อีกฝ่ายคาดไม่ถึง
บางอย่าง...ที่สามารถพังทลายความหวังที่อยู่ในแววตาของคู่ต่อสู้ให้หายไป
บางอย่าง...ที่อยู่ในการครอบครองของนาคามาตั้งแต่กิจกรรมมาราธอนครั้งนั้น
นัยน์ตาสีดำของนาคาเหลือบไปยังเครื่องประดับสีเงินที่บริเวณนิ้วของเขา ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ก้าวเข้าไปเบื้องหน้าสู่แอเรีย ‘ปราสาทผีสิง’
ปีศาจผู้มีศักดิ์เป็นมอนสเตอร์ระดับบอส หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงโลหิตผู้ซึ่งถูกจัดประเภทให้อยู่ในหมวด ‘ฆาตกรต่อเนื่องในตำนาน’
“เข้าไปข้างในกันเถอะ คุณแมรี่” เจ้าของร่างในชุดสูทขุนนางเก่าพูด ก่อนที่ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงที่อยู่บนหัวของเขาจะตอบกลับมาเช่นกันว่า
“ค่ะ พี่ชาย”
ฟรานเชสก้า
เจ้าของเรือนผมบลอนด์ทองสว่าง หญิงสาววัยแรกรุ่นผู้มีหน้าตาและท่วงท่าที่สง่างามราวกับเจ้าหญิง กับภาพรอยยิ้มอันสว่างไสวของเธอที่อยู่ในชุดเดรสฟูฟ่องสีน้ำตาลทองของชาวตะวันตก
รอยยิ้ม...ที่เธอยังคงจำมันได้ติดตา
ฟรานเชสก้า
หัวหน้ากิลด์ผู้เปี่ยมไปด้วยความสามารถและทักษะที่พร้อมจะสร้างความตื่นตะลึงยามที่เธอเข้าต่อสู้ ผู้เล่นที่เป็นดังพี่สาวคอยให้คำปรึกษาและคอยช่วยอลิซตลอดในยามที่เธอเป็นสมาชิกกิลด์ ‘วันเดอร์แลนด์’
ชื่อที่ในอดีต...อลิซเคยตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้พบเธอในทุกวันยามที่เข้าไปในเกม
ฟรานเชสก้า
ตัวตนที่ใกล้เคียงกับคำว่า ‘พี่สาว’ มากที่สุด และนอกจากนั้นเธอยังเป็นคนเพียงคนเดียวที่เด็กสาวสามารถที่จะพูดเต็มปากได้ว่า
ผู้เล่นที่มีชื่อว่าฟรานเชสก้า...เป็นตัวตนที่เธอ ‘เกรงกลัว’ มากที่สุด
“อีกไม่นานก็จะถึงบ้านฉันแล้วละ ราชินีร้อยศพ” เสียงพูดดังขึ้นมาจากลูกครึ่งผมบลอนด์น้ำตาลที่นำเธอเดินผ่านประตูรั้วเหล็กดัดสีทองขนาดใหญ่ ผ่านสนามหญ้ากว้างและสระว่ายน้ำที่ตั้งอยู่ข้างๆ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่คฤหาสน์สองชั้นสไตล์โมเดิร์นที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้า
“ผู้หญิงคนนั้น...อยู่บ้านสินะ”
น่าประหลาดที่เธอเลือกที่จะมาที่นี่ ผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นคนสุดท้ายในโลกที่เธออยากจะเห็นหน้า บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอต้องการจะตัดขาดความสัมพันธ์กับอดีตหัวหน้ากิลด์ของเธอให้เด็ดขาด
หรือไม่ก็บางที...เธออาจจะยังรู้สึกมีเยื่อใยกับผู้หญิงคนนั้นอยู่ก็เป็นได้
คริสต์พยักหน้าให้กับเธอโดยที่ใบหน้ายังคงมองจับไปที่ภาพของคฤหาสน์หลังใหญ่เบื้องหน้า
“เธอก็อยู่ที่บ้านมาตลอดนั่นแหละ”
คำพูดที่ถูกแฝงด้วยอารมณ์ขมขื่นลึกๆ ของลูกครึ่งอเมริกันทำเอาเด็กสาวได้แต่หรี่ตาลงช้าๆ ก่อนที่คริสต์จะหันหน้ามายิ้มให้กับเธอพร้อมกับพูดออกมาว่า
“เข้าไปข้างในบ้านกันเถอะ พี่ฟรานคงจะมีเรื่องอยากคุยกับเธอเยอะพอสมควรเลยละ”
คำตอบมีเพียงแค่การพยักหน้าเบาๆ ของหยก ก่อนที่เด็กสาวเจ้าของกรอบแว่นสีแดงจะค่อยๆ ก้าวเท้าเดินตามหลังคริสต์ไปเงียบๆ
“ท่าไม้ตายใหม่เหรอครับ?”
“ใช่ พี่เร็คท์เป็นคนสอนให้ฉันเองละ” คำตอบถูกเอ่ยพร้อมกับเสียงหัวเราะฮี่ๆ ของเด็กสาวที่กำลังยืนเท้าเอวอยู่ข้างหน้าพิรุณอย่างอารมณ์ดี
“...ผมว่ามันดูจะเป็นไม้ตายที่อันตรายพอสมควรนะครับ ให้พวกที่ใช้กล้ามเนื้อคิดแทนสมองแบบคุณเร็คท์สอนน่ะ”
น้ำหวานที่อยู่ในชุดเสื้อฮูดนักกีฬาสีน้ำเงินเข้มกับกางเกงยีนส์ฟอกสีเทากำลังยืนคุยกับเขาภายในจัตุรัสภายในเมืองซัฟเฟอร์โอเอซิส แอเรียพื้นที่อุดมสมบูรณ์ท่ามกลางทะเลทรายที่เพิ่งจะพ้นสภาพจากการเป็นพื้นที่อพยพได้ไม่นานมานี้จากการที่กิลด์ ‘นักดูดาว’ [Stargazer] ของเขาทำการขับไล่ลิซาร์ดแมนออกไป
“ก็ฉันให้นายสอนก็ไม่ได้นี่นา พิรุณ อาวุธหลักนายคือดาบใช่ไหมละ คุณเร็คท์น่ะเน้นศิลปะการต่อสู้ระยะประชิดเหมือนกับฉัน เพราะงั้นการให้เขาช่วยก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด” สาวน้อยเพื่อนร่วมชั้นจบประโยคด้วยการหันมายิ้มชูสองนิ้วให้กับเขา
หนุ่มน้อยหัวยุ่งได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“เวลาอยู่ในเกมช่วยเรียกผมว่าวรุณด้วยครับ ผมเองก็จะเรียกน้ำหวานว่า ซีรัป [Syrup] ตามชื่อในเกมเหมือนกันครับ”
“เอ้อ ฉันลืมไปเลย โทษทีๆ พิรุณ” น้ำหวานหรือซีรัปยกมือลูบศีรษะตัวเองพร้อมกับหัวเราะแก้เขิน
ไม่ทันขาดคำ เธอก็เรียกชื่อจริงของเขาอีกแล้ว
วรุณได้แต่ยกมือกุมขมับ ก่อนที่เขาจะลองเอ่ยถามกลับไปว่า
“ว่าแต่ท่าไม้ตายนั่น...เป็นท่าแบบไหนเหรอครับ”
คำถามเรียกให้รอยยิ้มของเด็กสาวกว้างขึ้นอีกก่อนที่เธอจะเลื่อนมือมาจับที่ไหล่ของเขา พร้อมกับหัวเราะหึๆ ออกมา
“มันเป็นท่าไม้ตายที่สุดยอดขนาดคุณเร็คท์ยังได้แต่พยักหน้าอย่างภูมิใจตอนที่ฉันทำมันได้เลยนะ!”
“แหงอยู่แล้วครับ ก็เขาเป็นคนคิดนี่นา”
“หึๆ เดี๋ยวนายก็จะได้เห็นเองแหละ พิรุณ ในกิจกรรมทัวร์นาเมนต์ชิงอันดับสิบวันพรุ่งนี้ รับรองว่านายจะต้องตะลึงกับมันแน่นอนเลยละ” เธอพูดด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจจนทำเอาวรุณอดยิ้มให้กับเธอไม่ได้
เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มจางๆ ว่า
“ผมก็หวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นครับ”
นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว สิ่งที่เขาหวังมากที่สุดก็คือขอให้ทัวร์นาเมนต์ชิงอันดับสิบที่ว่าดำเนินไปได้ด้วยดี
ขอแค่มัน...ไม่เกิดเหตุการณ์ผิดปกติที่เขาไม่ทันคาดคิดขึ้น
เท่านั้นก็พอ
“ไอริน เธอสนใจจะไปดูงานทัวร์นาเมนต์วันพรุ่งนี้ใช่ไหม”
“ค่า พี่แซ็ค” ไอรินหันมาพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มอันใสซื่อ ก่อนที่ทางฝั่งแมวสาวในร่างมนุษย์จะทำการเอ่ยแทรกขึ้นมาว่า
“กลัวอะไรหรือไง” หญิงสาวผู้มีเรือนผมสีขาวสลับน้ำตาลหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เธอจะเดินมากอดคอเขาจากทางด้านหลังพร้อมกับเอ่ยคำพูดออกมาด้วยรอยยิ้มกวนๆ ว่า
“ไม่ต้องห่วงไปหรอก ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะปกป้องนายเอง แซ็ค” แมวสาวในร่างมนุษย์เอ่ยเสียงเข้ม พร้อมกับขยิบตาขวาสีเขียวของเธอให้กับเขาอย่างอารมณ์ดี
บทสนทนาที่เริ่มขึ้นภายในวิลล่าหรูส่วนตัวริมชายหาดของโรงแรมชั้นหนึ่ง ‘อเดบารัน’ ภายในเมืองท่าแอตแลนด์กับภาพของเด็กผู้หญิงผมบลอนด์หน้าตาน่าเอ็นดูที่กำลังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นไม้ลามิเนตเคลือบเงา ขณะที่เขาเองก็กำลังนั่งกุมขมับอยู่บนเตียงนอนคิงไซส์โดยมีหญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาสองสีกำลังนั่งกอดคออยู่ข้างหลัง
“บางที...ทัวร์นาเมนต์นี้อาจจะเสี่ยงเกินไป”
“นั่นน่ะทัวร์นาเมนต์ชิงแรงค์กิ้งอันดับ 4 กับอันดับ 10 ไม่ใช่หรือไง มันก็ต้องเสี่ยงอยู่แล้ว พ่อเชอร์ล็อค”
บางที AI ในเกมนี้ก็ทำเอาเขาอยากจะลองทำเอกสารยื่นฟ้องร้องเจ้าของเกมนี่ซักที
“ฉันหมายถึงบางอย่างที่มันเสี่ยงเกินกว่าที่จะพาไอรินไปด้วยน่ะ”
ดวงตาสีเงินถูกปกคลุมไปด้วยความวิตกกังวล ก่อนที่คิตตี้จะค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากของเธอเข้ามากระซิบที่ข้างหู
“นั่นหมายความว่า นายเป็นห่วงหนูไอรินมากเกินไปไม่ใช่หรือไง” แมวสาวในร่างมนุษย์พูดก่อนที่จะคลายมือของเธอออกจากคอของเขา แล้วจึงเขยิบตัวมานั่งบนเตียงข้างๆ ก่อนที่จะเอ่ยคำพูดออกมาว่า
“หนูไอรินน่ะไม่ใช่เด็กๆ แล้วอีกอย่างเธอก็มีฉันกับทอมมี่อยู่ แถมใช่ว่าพวกเราจะลงไปเล่นด้วยสักหน่อย ต่อให้มันเกิดอะไรขึ้นก็คงไม่กระทบกับคนดูมากเท่าไหร่หรอก”
น้ำเสียงของคิตตี้นุ่มนวลกว่าเคย แมวสาวชูนิ้วโป้งให้กับเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะค่อยๆ เดินไปช้อนร่างของไอรินด้วยฝ่ามือพร้อมกับเอ่ยคำพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงขึ้นมาว่า
“ไปเล่นทะเลกันเถอะ หนูไอริน”
ซึ่งทางด้านเด็กผู้หญิงผมสั้นตัวน้อยก็เพียงแค่หันมาส่งรอยยิ้มที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูให้กับเธอ ก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ค่า พี่คิตตี้”
ลึกไปในเขตทะเลของเวสต์โคสต์ บนเกาะร้างห่างไกลผู้คนที่บรรดายูสเซอร์ไม่อยากจะย่างกราย ปรากฏภาพของพื้นที่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยป่าดงดิบ แอเรียอันโดดเดี่ยวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมอนสเตอร์ประเภทงูพิษ อาณาเขตที่เป็นที่เลื่องลือกันในหมู่ผู้เล่นเป็นอย่างดีในชื่อของ ‘รังอสรพิษคลั่ง’...กับสถานที่เพียงแห่งเดียวในเกาะแห่งนี้ที่ยังคงมีร่องรอยของมนุษย์หลงเหลือ
บ้านไม้เก่าแก่หลังใหญ่ใจกลางเกาะที่ถูกตั้งอยู่บนอาณาเขตทุ่งหญ้า
ทุ่งหญ้าที่ ‘โลงศพสีดำ’และ ‘งูหางกระดิ่ง’ กำลังยืนสนทนากันอยู่ในขณะนี้
“เอ๋ คุโระจังจะเข้าร่วมงานสี่จตุรอาชาแห่งวันสิ้นโลกกับสิบอาณาจักรแห่งความล่มสลายอย่างนั้นเหรอ ทั้งๆ ที่เป็นคนทิ้งอันดับแรงค์กิ้งเองน่ะนะ!?”
“ก็ประมาณนั้น ว่าแต่เธอเองก็สนใจทัวร์นาเมนต์นั่นด้วยหรือไง ยายเบล”
“นั่นสินะ พี่สาวเองก็สนใจในทัวร์นาเมนต์นั่นเหมือนกัน เธอสนใจจะร่วมทีมกับพี่สาวไหมล่ะ คุโระจัง~” คำตอบดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มตาหยีของหญิงสาวเจ้าของที่คาดผมรูปกระดิ่ง
“ไม่ละ พอดีฉันมีเพื่อนร่วมทีมอยู่แล้วน่ะ” คุโร ฮิทสึกิโบกมือปฏิเสธ ทางฝั่งงูหางกระดิ่งก็เพียงแค่หันหน้ามาทำแก้มป่องก่อนที่จะรัวหมัดของเธอใส่คุโระเบาๆ
“คุโระจังใจร้าย~”
นักฆ่าเจ้าของชุดรัดรูปสีดำยักไหล่ ก่อนที่เสียงๆ หนึ่งจะดังขึ้นมาว่า
“ทั้งสองคนกำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ?”
เจ้าของเสียงคือชายหนุ่มรูปงามเจ้าของผมสั้นสีทองสว่างที่เพิ่งเปิดประตูออกมาจากบ้านไม้ ร่างสูงยืนโบกมือให้คุโระและเบลช้าๆ
“หวัดดี แลนซ์”
“สวัสดีค่ะ บอส”
ทั้งสองหันไปกล่าวทักทายบุรุษผมทอง ก่อนที่คุโระจะเป็นฝ่ายเอ่ยตอบออกไปว่า
“เรื่องทัวร์นาเมนต์ชิงอันดับ 4 กับ 10 น่ะ นายคงจะไม่สนใจอยู่แล้วใช่ไหมละแลนซ์”
ผู้ถูกเรียกว่าแลนซ์หัวเราะออกมาเบาๆ
“นั่นสินะ ถ้าจัดที่มิดแลนด์ชูวาเลียร์จริงๆ คงต้องขอบาย แต่แหม...คิดๆ ไปแล้วผมอยากให้เขามาจัดที่เกาะนี้จังแฮะ”
คำพูดกึ่งเล่นกึ่งจริงของแลนซ์ทำเอาคุโระได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงลำคอไปอย่างเกร็งๆ
โกลเด้น แลนซ์เฮด [Golden Lancehead] หัวหน้ากิลด์อสรพิษคนปัจจุบันที่ช่างแข็งแกร่งจนน่าหวาดกลัว ความสามารถที่อาจจะพูดได้ว่าต่อให้ทั้งผู้พิชิตสวรรค์และอัจฉริยะผู้เห็นแก่ตัวมารุมปีศาจคนนี้พร้อมกันแล้วละก็
แลนซ์คงจะเอาชนะพวกนั้นได้อย่างสบายๆ...โดยมีข้อจำกัดว่าให้ทั้งสองคนมาต่อสู้กันบนเกาะนี้น่ะนะ
“ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก คุโระ ถึงยังไงตอนนี้ก็ยังไม่ใช่เวลาที่กิลด์ของเราจะต้องเคลื่อนไหว” แลนซ์พูด “ยังไงก็ขอให้ทั้งสองคนสนุกกับงานทัวร์นาเมนต์วันพรุ่งนี้ละกัน”
“ขอบคุณค่ะ บอส”
งูหางกระดิ่งให้กับผู้เป็นหัวหน้า ขณะที่คุโระก็เพียงแค่พยักหน้าช้าๆ ก่อนที่จะตอบกลับไปว่า
“รับทราบ แลนซ์”
บนเส้นทางที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน ท่ามกลางเวลาที่ดำเนินไปเรื่อยๆ วันสุดท้ายก่อนหน้าทัวร์หน้าเมนต์ก็ค่อยๆ จบลงช้าๆ
“เฮ่อ...”
เสียงถอนหายใจดังขึ้นมาจากร่างสูงในชุดขุนนางเก่าที่ยืนอยู่ ณ ประตูทางออกภายในห้องทรมานของปราสาทผีสิงที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
ง่ายกว่าที่คิด...
เท่านี้ เขาก็ครอบครอง ‘พลัง’ ที่เพียงพอจะเอาชนะแรงค์กิ้งยูสเซอร์ได้
“จะว่าไปแล้ว...ผมควรจะเรียกคุณว่าอะไรดีครับ” เขาพูดพร้อมกับหันกลับไปทางด้านหลัง ตรงไปสู่เงาสีดำของสุภาพสตรีในชุดเดรสสีแดงเข้มที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังเครื่องทรมานสาวพรหมจรรย์เหล็ก
คำตอบมีเพียงแค่การผายมือช้าๆ
“งั้นก็...ฝากตัวด้วยละครับ”
เขาเอ่ยกลับ ยืนนิ่งอยู่สักพักแล้วจึงก้มศีรษะให้อีกฝั่งลงช้าๆ พร้อมกับพูดออกมาว่า
“อลิซาเบธ”
บันทึกข้อมูลลับ [Secret Data Entry]
ผู้เล่นที่ผิดพลาด [ERROR User]
User : นาคา [Naga]
Alias : -
Level : 40 Class : Overkill
Evaluation [ประเมินความสามารถ]
Strength : C+ Agility : B-
Endurance : D+ Range : B+
Ability : A- Magic : D+
Luck : F Growth Potential : EX
Forte [จุดแข็ง] : Calculation [การคำนวณ] Situational Analysis [การวิเคราะห์สถานการณ์] Sadistic Personality Disorder [ซาดิสม์]
Weakness [จุดอ่อน] : Negative thinking [มองโลกในแง่ลบ] Childhood Trauma [ความชอกช้ำทางจิตใจในสมัยเด็ก]
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นาคาไปถล่มพวกนั้นให้เละเลยนะ หมั่นไส้มากกก
ชอบนางมาก ราชานีร้อยศพคุนบอกชอบได้หน้าตายมาก=3=
ชอบคุณที่แต่งให้อ่านนะค่ะ #แแบเป็นนักอ่านเงามานาน อิอิ ^^=