ตอนที่ 61 : Error : 0x00000057 ชุดสูทขุนนางโบราณ [มาร์ควิส]
ERROR Online : Overkill
“เห...ทั้งๆ ไม่ใช่อาชีพสายนักฆ่า แต่เธอก็มีทักษะล่องหนเหมือนกันนี่นา องค์หญิง”
เสียงเอ่ยชมอย่างประหลาดใจดังขึ้นมาจากภายใต้ผ้าปิดปากสีดำ ในขณะที่ทางฝั่งผู้ถูกชมเองก็เพียงแค่หัวเราะหึๆ ในลำคอออกมาเบาๆ
ทั้งสามลอบออกมาจากโรงเตี๊ยมดัสตี้แลนเทิร์นด้วยสกิลล่องหน เดินตัดผ่านฝูงชนที่ยังคงมุงอยู่ด้านหน้า แล้วจึงลัดเลาะผ่านตรอกซอยเพื่อที่จะมุ่งหน้าไปสู่ย่านค้าขายซึ่งเป็นจุดหมายต่อไป
“หึ ใช่ซี่ ใครมันจะสบายเหมือนสายอาชีพนายล่ะ” เด็กสาวแค่นเสียงหัวเราะ “ รู้ไว้ด้วยว่ากว่าจะได้สกิลล่องหนนี่มาน่ะ ฉันต้องทำเควสต่อเนื่องสุดหิน เสียเวลาไปร่วมอาทิตย์ แถมข้าวของในคลังก็ร่อยหรอเกือบครึ่ง...”
ร่างบางภายใต้ผ้าปิดตาสีขาวกำหมัดแน่นด้วยความหงุดหงิด ดูเหมือนทักษะล่องหนที่ว่าจะมีความหลังอันลึกลับบางอย่างที่ทำให้เธอไม่อยากจะย้อนกลับไปคิดถึงมันอยู่ด้วย
เห็นดังนั้นคุโระจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ นักฆ่าชุดดำเพียงแค่ยกมือลูบคางพลางหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ
Imperception [การรับรู้ที่ผิดเพี้ยน] ทักษะล่องหนเป็นหมู่คณะที่มีแม้แต่สายอาชีพนักฆ่าแบบคุโระเองก็ยังไม่มี หากจำไม่ผิดน่าจะถูกจัดอยู่ในหมวดของสาขาวิชาเวทมนตร์ในหมวดหมู่ภาพลวงตา [Illusion]
ข้อเสียมีเพียงเวลาร่ายสกิลที่นาน [5 วินาที] และการใช้งานสกิลที่ผู้รับผลจะต้องอยู่ในอาณาเขตรอบตัวผู้ใช้ [5 เมตร] แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว มันก็คือสกิลล่องหนที่สามารถลบตัวตนของผู้ใช้และผองเพื่อนให้หายไปจากสัมผัสทั้ง 5 ของคนรอบข้างได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในระยะเวลาที่นานโข [5 นาที]
คงจะไม่มีความเห็นอื่นนอกจาก ‘เวทมนตร์ที่ดี’
ซึ่งก็อาจจะชี้ตรงมาสู่คำถามที่ว่า ทำไมแม่สาวขี้หงุดหงิดคนนี้ถึงได้ต้องการทักษะระดับสูงแบบสกิลล่องหนหมู่นี่มาใช้
ลอบสังหาร? ลักลอบขโมยของ? ตามสตอล์กเกอร์คนที่ชอบ? เป็นที่รู้กันดีว่าทักษะล่องหนนั้นถือเป็นทักษะขึ้นชื่อในกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ไม่ว่าใครต่างก็อยากได้มาไว้เป็นของตน แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง นอกจากสายอาชีพนักฆ่าที่ถูกบรรจุสกิลล่องหนมาให้รวมกับสกิลหลักแล้ว เกือบทุกอาชีพจะต้องผ่านการทำเควสปลดล็อคสกิลต่อเนื่องอภิมหาโหดที่เป็นที่เลื่องลือในการบั่นทอนสติสัมปชัญญะของผู้ทำ
‘ทำไมเธอถึงมีสกิลแบบนี้ล่ะ องค์หญิง?’ หากคุโระถามไปแบบนี้ คำตอบที่ได้ก็น่าจะเป็นแค่การเลิกคิ้วอย่างไม่ใส่ใจของอีกฝั่ง ก่อนที่จะย้อนถามประมาณว่า ‘นายเองก็มีสกิลล่องหนไม่ใช่หรือไง ถ้าอย่างนั้นก็ถามตัวเองสิว่า ทำไมนายถึงมีสกิลประเภทนี้ละ’
ก็นั่นน่ะสิ…ทำไมเธอถึงมีสกิลประเภทนี้ละ
“หึๆ” คุโระยกมือปิดปากพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
น่าคิดซะจริงว่าเธอยังมีไม้ตายก้นหีบเก็บไว้อีกเท่าไหร่
“ดูหมอนั่นไว้ แล้วอย่าเอาอย่างละนาคา เดินอยู่ดีๆ ก็หัวเราะ อาการเจ้านักฆ่านั่นเริ่มจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ละ” เสียงเหน็บดังขึ้นจากทางฝั่งอลิซ ในขณะที่คุโระเองก็เพียงแค่ยกมือขึ้นลูบศีรษะของตนแก้เขิน
นาคาเพียงแค่เดินตามเงียบๆ มาจนถึงปัจจุบัน เขาไม่ได้แสดงความเห็นอะไรนอกจากการพยักหน้าเบาๆ แล้วจึงกลับไปเดินต่ออย่างเงียบๆ เหมือนเดิม
“หมอนั่นเครียดเรื่องอะไรอยู่หรือเปล่า องค์หญิง” คุโระหันมากระซิบถามอลิซที่เดินอยู่ข้างๆ พลางลอบยกนิ้วชี้โป้งไปยังนาคาที่เดินตามอยู่ด้านหลัง
“หึ คงเบื่อคนสติไม่สมประกอบแบบนายมั้ง คุโร ฮิทสึกิ”
ใบหน้าของคุโระซีดลงอย่างเห็นได้ชัด นักฆ่าชุดดำหันหลังกลับไปด้านหลังก่อนจะทำท่าลำล่ำละลักเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา เจ้าของหน้ากากยิ้มเพียงแค่เลิกคิ้วช้าๆ ก่อนที่จะเดินผ่านคุโระไปช้าๆ ส่งผลให้นักฆ่าชุดดำได้แต่เดินคอตกต่อไปอย่างเงียบๆ
พวกเขาเดินไปในซอยได้สักพัก ก่อนที่ทางฝั่งนาคาจะเร่งฝีเท้าไปสะกิดเด็กสาวที่เดินนำทางอยู่
“อลิซ มีคำถามอยากจะถามเธอนิดหน่อยน่ะ”
“หือ ว่ามาสิ” เด็กสาวเอ่ยตอบในขณะที่เท้าทั้งสองข้างก็ขยับไปด้วย
“เกมนี้สามารถเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ [Username] ได้ไหม”
เจ้าของเรือนผมยาวสีเงินชะงักเท้า ก่อนที่จะหันกลับไปพูดกับอีกฝ่ายว่า
“คิดไงอยากเปลี่ยนชื่อตัวเองละเนี่ย ชื่อเดิมนายก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”
“ที่เธอพูดก็ถูก” ร่างสูงยืนสบตาอีกฝ่ายอยู่สักพัก ก่อนที่จะเอ่ยคำพูดออกมาว่า “มันก็แค่ลางสังหรณ์น่ะ แต่ฉันมีความรู้สึกว่าช่วงนี้มันจะปลอดภัยกว่าถ้าฉันเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่น”
“นั่น ฉันก็เห็นด้วย” เด็กสาวพยักหน้า “แต่ปัญหาก็คือไอเท็มที่ใช้เปลี่ยนน่ะ ไม่ใช่ไอเท็มประเภทที่จะหามาได้ง่ายๆ น่ะสิ”
“หืม...” นาคารับคำพลางใช้สายตาครุ่นคิด ก่อนที่ทางฝั่งนักฆ่าชุดดำที่แอบฟังอยู่ด้านหลังจะเดินเข้ามาร่วมวงด้วย
“ถ้าเธอต้องการแค่ไม่ให้คนอื่นเห็นชื่อจริงเฉยๆ ละก็ ฉันมีวิธีนะ” คุโระเสนอความคิดเห็น เรียกหน้าต่างไอเท็มออกมาแล้วจึงหยิบบัตรบางอย่างยื่นให้กับเขา
“Fake Identity Card [บัตรประชาชนปลอม]” นักฆ่าชุดดำอธิบายพร้อมกับชี้ไปยังไอเท็มรูปบัตรที่นาคารับไปถือ “คุณสมบัติคือใช้ปลอมแปลงชื่อและข้อมูลของผู้เล่นได้ 24 ชั่วโมง มีเผื่อไว้สองสามอันน่ะ ยังไงถ้าอยากได้ก็เอาไปใช้ได้เลย นาคา”
“ขอบคุณครับ”
“สมกับเป็นนักฆ่าจริงๆ นะ ไอเท็มนั่นน่ะเหมาะกับอาชญากรแบบนายดีนี่นา คุโร ฮิทสึกิ”
คุโระหัวเราะเขินๆ ก่อนที่จะหันไปอธิบายกับนาคาต่อว่า “บัตรนั่นสามารถทำงานได้สองแบบคือ หนึ่งผู้ใช้จะเป็นคนใส่ข้อมูลที่จะปลอมแปลงเอง สองคือให้ตัวเกมทำการสุ่มข้อมูลเองให้ทั้งหมด ต้องการแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอเองละนะ”
นาคารับคำ ก่อนที่จะเก็บมันใส่หน้าต่างไอเท็มไป
“คุยกันเสร็จแล้วก็รีบๆ เดินต่อล่ะ ป่านนี้พวกกิลด์ไทคูนนั่นคงจะรู้ตัวแล้วว่าที่โรงเตี๊ยมไม่มีคนอยู่ รีบไปซื้อของแล้วก็ออกจากเมืองนี้ให้เร็วที่สุดดีกว่า” ฝั่งอลิซเมื่อเห็นทั้งสองคุยกันจบจึงรีบตัดบท
“อือ” นาคาพยักหน้า ในขณะที่นักฆ่าในชุดดำก็เพียงแค่ปรายยิ้มภายใต้ผ้าปิดปากบางๆ แล้วพูดออกมาว่า
“รับทราบ”
เข้าสู่ช่วงสาย บริเวณกำแพงชั้นสองที่ซึ่งถูกเรียกว่าศูนย์กลางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเรมิน่า เมืองที่ขึ้นชื่อว่านครหลวงแห่งการค้าขายถูกปกคลุมไปด้วยเหล่าฝูงชนจำนวนมากที่เดินจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก ร้านรวงตามข้างทางกางผ้าใบวางสินค้านานาชนิดเปิดโชว์พร้อมให้บรรดายูสเซอร์เลือกสรร ขณะที่บรรดาเจ้าของร้านค้าหลายคนก็ออกมาโฆษณาอยู่ที่บริเวณหน้าร้านอย่างขยันขันแข็ง
สาเหตุหลักที่เรมิน่าถูกเลือกเป็นเมืองหลวงในการซื้อขายนั้นมีหลากหลายสาเหตุ การขนส่งที่สะดวกจากการที่เป็นหนึ่งในเมืองหลักทำให้สามารถใช้บริการวาร์ปจากเมดสาวตระกูลกาแฟ ในขณะที่ทรัพยากรทางด้านมอนสเตอร์ของเมืองนี้ก็ถือว่าเข้าขั้นยอดเยี่ยม ขนาดที่ว่าถูกแนะนำจากหลายๆ ยูสเซอร์ให้เป็นเมืองที่สามารถเก็บเลเวลได้ในทุกระดับ
แต่จะพูดไปแล้ว ปัจจัยหลักที่ทำให้เมืองนี้เป็นที่โด่งดังในเรื่องการตลาด สิ่งหลักที่ทำให้เวลายูสเซอร์คิดถึงเรื่องจับจ่ายต้องคิดถึงเมืองเรมิน่าก็คือ…
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าต้องห้ามหรืออุปกรณ์หายากหรืออาวุธในตำนาน มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะสามารถหามันเจอได้อย่างง่ายดายในเมืองนี้
ในข้อจำกัดที่ว่าหากมีเงินมากพอ
“นายอยากได้เสื้อผ้าแบบไหนละ นาคา” เสียงแรกดังขึ้นจากสาวน้อยร่างบางที่ยืนสำรวจเสื้อผ้าอยู่ใกล้ๆ
ขณะนี้ทั้งสามได้เข้ามาสู่ร้านคล็อธ โคลท์ติ้ง แอนด์บียอนด์ [Cloth Clothing and beyond] ร้านค้าชื่อดังที่เป็นที่เลื่องลือในกลุ่มยูสเซอร์จากการที่เป็นร้านขายอุปกรณ์สวมใส่ร้านแรกและร้านเดียวที่คิดค้นอุปกรณ์สวมใส่ได้มากที่สุดถึง 20,000 ชนิด
“ยังไม่รู้เหมือนกันน่ะ” ทางด้านเจ้าของชุดเสื้อกันหนาวสีขาวตอบกลับ ร้านดังกล่าวเป็นร้านค้าที่มีขนาดใหญ่ไม่ต่างอะไรกับห้างสรรพสินค้า ในขณะที่แต่ละโซนภายในร้านก็นั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้านานาชนิดจนทำเอาคนที่ไม่ค่อยสนใจทางด้านแฟชั่นอย่างนาคาถึงกับเลือกไม่ถูกเหมือนกัน
แผนกที่พวกเขาอยู่ตอนนี้คือบริเวณขายเสื้อผ้าหนังที่ไม่ได้อัดแน่นไปด้วยผู้คนเหมือนโซนอื่น ร่างในชุดเสื้อกันหนาวสีขาวเดินสำรวจเสื้อหนังเปิดหน้าต่างเช็คความสามารถของมันอยู่สักพัก ก่อนที่จะเอ่ยคำพูดไปว่า “บางทีน่าจะดูไปที่ความสามารถเป็นหลักน่ะนะ เรื่องรูปแบบ...ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่อยู่แล้ว”
ต้องขอบคุณคุโระที่เป็นฝ่ายอาสาดูต้นทางให้เพื่อที่เขาจะได้สามารถเดินเลือกดูสินค้าได้อย่างไม่ต้องกังวล ในขณะที่ทางด้านอลิซก็เป็นฝ่ายอาสาจะตามนาคามาเพื่อให้ข้อมูล
“นายรู้แล้วสินะว่าไอเท็มสวมใส่น่ะ โดยปกติจะถูกแบ่งระดับความหายากเป็นสี่ประเภทคือธรรมดา [Normal] แรร์ [Rare] ยูนีค [Unique] แล้วก็ระดับตำนาน [Legendary] น่ะ”
“อื้อ” นาคาพยักหงึกๆ ก่อนที่จะรู้สึกสะกิดใจกับอะไรบางอย่าง สะกิดเด็กสาวที่อยู่ด้านข้าง แล้วจึงชี้ไปยังหน้ากากยิ้มที่ตัวเองใส่อยู่พร้อมกับเอ่ยถามออกมาว่า “แล้วอย่าง อุปกรณ์ต้องสาป [Cursed Item] ที่ฉันใส่อยู่นี่ละ”
เธอยิ้ม “นั่นน่ะถือเป็นข้อยกเว้น อุปกรณ์ต้องสาปน่ะไม่มีการแบ่งระดับความหายาก แล้วก็ถือว่าเป็นของสวมใส่ชนิดพิเศษที่แยกออกมาต่างหากเลยนั่นแหละ”
“งั้นเองสินะ” นาคารับคำ เขายืนเคาะหน้ากากคิดอะไรไปสักพัก ก่อนจะรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่เริ่มขยับบริเวณศีรษะของตัวเองพร้อมกับเสียงหาวที่ดังออกมา
“คุณแมรี่...หลับสบายมากเลยค่ะ” เจ้าตุ๊กตาตัวน้อยที่อาศัยบริเวณศีรษะของนาคาเป็นเตียงนอนเอ่ยพร้อมกับกับยกมือปิดปากหาว เธอค่อยๆ ทรงตัวลุกขึ้นช้าๆ ก่อนที่จะเริ่มทำการกายบริหารโดยการยืนเท้าเอวพร้อมกับบิดศีรษะไปมา
“อื้อ อรุณสวัสดิ์” นาคาเอ่ยคำพูดกับอีกฝ่าย ในขณะที่ทางฝั่งยูสเซอร์เจ้าหญิงแห่งหนามเองก็ได้แต่เลิกคิ้วขึ้นช้าๆ ก่อนจะอธิบายต่อ
“เอาเป็นว่านั่นก็คือทั้งหมด สำหรับค่าสถานะหรือสกิลที่ติดมาก็จะแบ่งไปตามระดับความหายากของอาวุธนั่นแหละ...ที่ฉันอยากจะถามก็คือ นายต้องการอุปกรณ์ระดับความหายากขนาดไหน เรื่องเงินน่ะไม่มีปัญหา เดี๋ยวให้ยืมก่อนได้” อลิซพูดสรุป
“กำลังคุยเรื่องอุปกรณ์สวมใส่กันอยู่เหรอคะ” ทางฝั่งคุณแมรี่ที่ในขณะนี้กำลังทำการกายบริหารโดยการยืนหมุนไหล่เอ่ยถาม
“อือ” ทางฝั่งเด็กสาวผู้ยืนอยู่ข้างๆ เป็นฝ่ายเอ่ยตอบ ก่อนที่เธอจะหันลงมาสบตากับนาคา “ว่าไง อยากได้แบบไหนละนาคา”
ทางฝั่งนาคาไม่ได้ตอบอะไรกลับไปในทันที พูดตามตรงเขาย่อมต้องอยากได้ของที่ดีที่สุดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าการรบกวนเพื่อนสาวคนนี้ด้วยการยืมเงินเพื่อใช้ซื้อของนั้นก็เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะทำเหมือนกัน
“หรือจะเอาอาวุธกับอุปกรณ์สวมใส่ที่มีไปขาย…แต่ถ้าแบบนั้นก็น่าจะเสียเวลามากขึ้นอีก” นาคาพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่ทางฝั่งอลิซก็ไม่ได้รีบเร่งอะไร เขายืนครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนที่ทางฝั่งตุ๊กตาคุณแมรี่ที่กำลังทำกายบริหารโดยการกระโดดตบอยู่บนศีรษะของนาคาจะเป็นฝ่ายออกความเห็นขึ้นมาว่า
“ถ้าต้องการชุดเอาไว้ใส่ละก็ ที่บ้านตุ๊กตาก็มีนะคะ”
“บ้านตุ๊กตา?”
“ดันเจี้ยนนั่น..มีอุปกรณ์สวมใส่ให้ด้วยหรือไง” อลิซเลิกคิ้วถาม
“ใช่ค่ะ” คุณแมรี่รับคำในขณะที่กำลังกระโดดตบอย่างเป็นจังหวะ
“แต่ดันเจี้ยนนั่นอยู่ไกลมาก...ถ้าจำไม่ผิดจะต้องเสียเวลาเดินทางจากเรมิน่าไปร่วมสามชั่วโมง แถมยังคนละทางกับกรีนฟอเรสต์อีก”
“ไม่ต้องกลัวจะเสียเวลาหรอกค่ะ” ตุ๊กตาตัวเล็กตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ถ้าพี่ชายอยากได้ จะให้คุณแมรี่เอามาให้ตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ”
“ตอนนี้?” อลิซหรี่ตา ในขณะที่คุณแมรี่ก็เพียงแค่ยิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย ตุ๊กตาผมบลอนด์ค่อยๆ หยุดทำกายบริหาร ก่อนที่จะทำการกระโดดตีตังกาลงไปที่พื้นภายในร้าน กางแขนทั้งสองข้างออกพร้อมกับลงจอดอย่างงดงาม แล้วจึงชะเง้อไปมองยังใบหน้าของอลิซ พร้อมกับพูดว่า
“ค่ะ ตอนนี้เลย”
สิ้นสุดคำพูดคุณแมรี่ก็เรียกอาวุธประจำตัวที่มีรูปร่างเป็นมีดขนาดจิ๋วขึ้นมา ก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างของเธอตวัดมันผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว
ฟึ่บ!
ทันทีที่คมมีดตวัดผ่านอากาศ รอยแหวกสีดำที่ดูไม่ต่างอะไรไปจากช่องว่างระหว่างมิติก็ปรากฏขึ้น เห็นดังนั้นคุณแมรี่จึงหันมาก้มหน้าให้นาคาช้าๆ ก่อนที่จะกระโดดเข้าไปข้างใน เธอส่งเสียงกุกกักผ่านช่องว่างดังกล่าวสักพักก่อนที่จะกลับออกมาพร้อมกับชุดสูทเสื้อและกางเกงสีดำเก่าๆ ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหยากไย่
“นี่ค่ะ ชุดที่คุณแมรี่บอก”
แน่นอนว่าทั้งนาคาและอลิซต่างก็กำลังตกอยู่ในสภาพอาการตะลึงงัน ทั้งสองยืนนิ่งไปสักพักก่อนจะเป็นฝ่ายนาคาที่หัวเราะออกมาเบาๆ
“ทักษะน่าสนใจใช้ได้นี่” เขาพูดพร้อมกับก้มตัวลงไปลูบหัวตุ๊กตาผมบลอนด์ช้าๆ “ขอบคุณมาก คุณแมรี่”
เจ้าตุ๊กตาตัวน้อยไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากก้มหัวอย่างเขินๆ
“แล้วแต่ชุดสูทนั่น มีความสามารถยังไงบ้างละ” ทางฝั่งอลิซที่ยืนอยู่ข้างๆ เมื่อตั้งสติได้จึงเอ่ยถาม
“ขอเปิดหน้าต่างอุปกรณ์สวมใส่เช็คดูก่อนละกัน”
Equipment Window (หน้าต่างอุปกรณ์สวมใส่)
ชื่ออุปกรณ์สวมใส่ (Equipment Name) : ชุดสูทขุนนางโบราณ [มาร์ควิส] (Ancient Noble’s Suit [Marquess])
ระดับความหายาก (Equipment Level) : Legendary (ระดับตำนาน)
พลังป้องกัน (Defense) : 100+??
หักลบความเสียหาย (Damage reduction) : 20%
โบนัสพลังชีวิต (Bonus Hp) : 5,000
คำอธิบาย (Description) : ชุดสูทของขุนนางเก่าในอดีต เครื่องแต่งกายอย่างเป็นทางการของมาร์ควิสผู้มีศักดิ์เป็นหลานคนโปรดของราชินี บุรุษผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องหน้าตา ไหวพริบและความฉลาด ช่างน่าเสียดายที่ชีวิตของเขากลับต้องจมอยู่กับความเกลียดชังในตัวพี่น้องร่วมตระกูลที่จัดฉากสังหารภรรยาและลูกสาวผู้เป็นที่รัก
[ไอเท็มพิเศษ สงวนสิทธิ์สำหรับผู้ครอบครองดันเจี้ยนบ้านตุ๊กตาเท่านั้น]
[Exclusive item, only the owner of A Doll’s House can equip this item]
สกิลติดอุปกรณ์ (Equipment Skills)
1. Hatred [Passive] คำอธิบายสกิล เกลียด! ข้าเกลียด! ข้าเกลียด!
2. Revenge [Active] คำอธิบายสกิล แค้น! แก้แค้น! ข้าจะแก้แค้น!
“หืม ไอเท็มระดับตำนานเลยสินะ” อลิซที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดอย่างทึ่งๆ “แต่คำอธิบายนั่น...อย่างกับอาวุธต้องสาปเลยไม่ใช่หรือไง”
เสื้อคลุมสีดำเต็มไปด้วยฝุ่น ตัวผ้าบริเวณเสื้อและบริเวณกางเกงนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยโทรมเสื่อมตามกาลเวลา ในขณะที่เสื้อกั๊กสีดำด้านในปรากฏรอยคราบโลหิตสีแดงจางๆ บริเวณอกเสื้อ นาคาเลื่อนสายตาสำรวจชุดดังกล่าวไปสักพักก่อนที่ทางฝั่งอลิซจะเอ่ยคำพูดขึ้นมาว่า
“ชุดสูทนี่เป็นอุปกรณ์สวมใส่ประเภทเสื้อผ้าเต็มตัว [Full Clothing]” อลิซออกความเห็น “เสื้อกันหนาวที่นายใส่อยู่ เป็นอุปกรณ์ประเภทเสื้อผ้าส่วนบน [Torso] น่ะนะ”
นาคาพยักหน้า กางเกงที่เขาใส่นั้นเป็นกางเกงขายาวที่ติดตัวมาตั้งแต่เริ่ม ดังนั้นก็น่าจะถือเป็นทางเลือกที่ประหยัดเวลาพอสมควร รวมไปถึงค่าสถานะของชุดสูทนั้นเองก็ถือว่าอยู่ในขั้นที่ดี
รวมไปถึงสกิลที่มีคำอธิบายน่าสนใจแบบสองสกิลนั่นอีก
“โอเค งั้นก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวขอแวะซื้อรองเท้าอีกซักคู่ก็น่าจะพอแล้วละ” หลังจากที่เอ่ยคำสั่งสวมใส่กับชุดสูทขุนนางโบราณเสร็จเรียบร้อย ร่างในเสื้อสูทสีดำเก่าที่ดูไม่ต่างอะไรไปจากผีร้ายในปราสาทผีสิงก็เอ่ยคำพูดกับสาวน้อยผ้าปิดตาสีขาวคนข้างๆ
“นายมีรองเท้าวิ่งของลุงเฟเรนแล้วไม่ใช่หรือไง”
เขาหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วจึงตอบกลับไปว่า
“รองเท้าวิ่งน่ะ...มันไม่เข้ากับชุดสูทไม่ใช่หรือไง”
“ร....รองเท้าหนังสีดำระดับแรร์ หนึ่งคู่ ร...รวมทั้งหมด 10,000 ซิลค่ะ” พนักงานแคชเชียร์ผู้ยืนสั่นเป็นเจ้าเข้าเอ่ยตะกุกตะกุกทันทีเมื่อเห็นสภาพของลูกค้าชายเบื้องหน้า
ภาพของร่างสูงในชุดสูทโบราณที่ราวกับหลุดออกมาจากหนังผียุคโบราณ ในขณะที่บริเวณใบหน้าของผู้เล่นคนนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหน้ากากยิ้มสีขาวซีด ไม่ต้องพูดถึงเจ้าตุ๊กตาเด็กผู้หญิงที่นั่งจดจ้องมาที่ใบหน้าของเธอราวกับว่ามันกำลังจับตามองเธออยู่ทุกท่วงท่า
“ครับ” นาคา
อลิซที่ยืนมองดูอยู่ไกลๆ ได้แต่ถอนหายใจอย่างอ่อนแรง เด็กสาวยกมือขึ้นกุมขมับของตัวเองอยู่สักพักก่อนที่เธอจะก้าวเท้าออกมาจากร้าน เดินมายืนรอด้านนอกปล่อยให้เพื่อนร่วมชั้นของเธอจัดการซื้อสินค้าด้วยตัวเอง
จะว่าไปแล้วก็ร่วมสองปีแล้วนับตั้งแต่ที่เธอเริ่มเล่น ERROR Online จุดประสงค์หลักที่ควรจะเป็นการหาความสนุก ในขณะที่ได้กลายมาเป็นการพัฒนาเพื่อนร่วมชั้นของเธอเองเสียแล้ว
พูดไปแล้วก็น่าตลก เพราะเหตุผลที่ทำให้เธอต้องมาเล่นเกมนี้น่ะ
มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับความคิดที่ว่าต้องการจะหาความสนุกเลยสักนิด
เธอยืนปล่อยความคิดล่องลอยอยู่ในหัวได้สักพัก จู่ๆ หน้าต่างสีฟ้าก็เด้งขึ้นพร้อมกับคำขออนุญาตเปิดหน้าต่างสนทนาที่มาจากนักฆ่าชุดดำผู้ซึ่งเป็นฝ่ายดูต้นทางอยู่ เห็นดังนั้นเธอจึงรีบเอื้อมมือไปกดที่ตกลงที่หน้าต่างดังกล่าวทันที
“มีอะไรละ คุโรฮิทสึกิ”
“คือ...ฉันมีข่าวร้าย ข่าวร้ายกว่า แล้วก็ข่าวร้ายที่สุดมาให้เธอน่ะ จะเลือกข่าวไหนก่อนดี องค์หญิง” ปลายสายเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะแห้งๆ
เด็กสาวยกมือกุมขมับ ถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามควบคุมอารมณ์เต็มที่ “งั้นก็เอาข่าวร้ายมาก่อน”
“กิลด์ไทคูนรู้แล้วว่าเธอกับนาคาอยู่ที่ร้านคล็อธ โคลท์ติ้ง แอนด์บียอนด์ และกำลังจะตรงไปที่นั่น คาดว่าน่าจะถึงในอีกห้านาที”
“หืม งั้นก็ไม่น่าจะเป็นอะไรมากเพราะยังไงนาคาก็ซื้อของเสร็จแล้ว พวกเราน่าจะออกไปทัน” เด็กสาวพูด ก่อนที่จะสะกิดใจถึงสิ่งที่คุโระพูดดักไว้ก่อนหน้า “แล้วข่าวร้ายกว่าละ”
“นั่นน่ะก็คือพวกกิลด์ ไทคูนปิดล้อมทางออกในเมืองแห่งนี้ไว้หมดแล้วน่ะสิ”
“พวกนั้นจะปิดไปทำไม ถึงยังไงฉันก็มีลูกแก้ว…” คำพูดของเธอหยุดลงหลังจากที่เด็กสาวตระหนักได้ถึงกฏที่รวมอยู่ในแพทซ์ใหม่
ลูกแก้ววาร์ป...ขัดกับหลักเสมือนจริงของผู้ให้บริการคนใหม่อย่างรูนการ์ด จึงถูกบรรจุเงื่อนไขใหม่ลงไปว่าลูกแก้ววาร์ปนั้นจะสามารถกดใช้ได้ก็ต่อเมื่ออยู่ห่างกับ AI พนักงานเก็บของไม่เกิน 10 เมตร
อลิซยืนคิดหนักก่อนที่เธอจะเอ่ยปากถามอีกฝั่งเป็นครั้งสุดท้ายว่า
“แล้ว...ข่าวร้ายที่สุดละ”
เสียงถอนหายใจดังขึ้นมาจากปลายสาย ดูเหมือนว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่แม้แต่คุโร ฮิทสึกิเองก็ลำบากใจในการพูดมันอยู่พอสมควร ความเงียบปกคลุมอยู่สักพัก ก่อนที่เสียงพูดจะถูกเอ่ยผ่านหน้าต่างสนทนาออกมาว่า
“ลิลลี่ แม่มดวิปลาส [Lily, the Wicked Witch] แรงค์กิ้งยูสเซอร์อันดับ 4 ก็รู้ว่านาคาอยู่ที่ร้านนั้นแล้วเหมือนกัน”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มันคือความซวยระดับตำนานสินะ55+
ยิ่งถ้านาคามีเทียนกับแส้นะ
ลิลลี่คงยอมมอบกายให้อย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง
ขอแค่โดนเทียนรนแส้เฆี่ยนพอ
พูดแล้วซี๊ด อยากทำบ้าง
ชอบเรื่องนี้มาก ชอบที่สุด
นาคาชักน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆแล้ว