ตอนที่ 43 : Error : 0x00000039 รุ่นที่สอง
ERROR Online : Overkill
ธรรมชาติของมนุษย์ส่วนใหญ่ต้องการจะไขว่คว้าหาโอกาสที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องกับปณิธานและความฝันของแต่ละคนที่ต่างก็แตกต่างกันไป
นั่นเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในสังคม หากไม่ตั้งความฝันที่ยิ่งใหญ่ ก็ไม่มีวันจะเอื้อมถึง หากไม่มีแรงบันดาลใจ ชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกับเศษซากที่ว่างเปล่า
ความโลภเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนา เรื่องนั้นเขาเข้าใจดี เพียงแต่ความโลกของมนุษย์ ปกติแล้วจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างซับซ้อนกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นบนโลกเล็กน้อย เพราะมนุษย์นั้นไม่ว่าจะมีทรัพย์สินเงินทองมากขนาดไหน ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตสูงเพียงใด หรือว่าบรรลุความฝันทั้งหมดที่ตนเองเคยวาดฝันไว้ตั้งแต่เด็กก็ตาม
ทุกอย่าง...ไม่เคยเพียงพอ
ความต้องการของมนุษย์นั้นไม่มีที่สุด เช่นเดียวกับถังน้ำอันเต็มไปด้วยรอยรั่ว ไม่ว่าจะตักน้ำใส่เพิ่มเท่าไหร่มันก็ไม่มีทางเต็ม
บุคคลตรงหน้าคือตัวอย่างกรณีศึกษาอันสมบูรณ์แบบ ทันทีที่เฟยหลงมองเห็นอาวุธปืนของนาคา นัยน์ตาของเขาก็ส่องประกายราวกับเจอขุมสมบัติ จับจ้องไปที่ปืนเดสเปอราโดอีเกิลส์ที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างไม่ละสายตา ข้อเสนอที่เขายื่นไปถือว่าได้ผลอยู่พอตัว แน่นอนว่านาคาไม่คิดว่าอีกฝั่งจะตอบตกลงอยู่แล้ว เพราะถึงยังไงฝั่งตรงข้ามก็มีศักดิ์ศรีค้ำคอที่เป็นถึงรองหัวหน้า
ทั้งหมดที่เขาต้องการจะพิสูจน์ ก็แค่ว่าจะยั่วอีกฝั่งขึ้นหรือเปล่าก็เท่านั้น
“หมายความว่ายังไง”
หลังจากที่จ้องมองอาวุธปืนที่จำกัด 13 กระบอกในเซิร์ฟเวอร์ซึ่งถูกนาคาวางลงบนโต๊ะได้ครู่ใหญ่ เฟยหลงจึงเอ่ยถาม แน่นอนว่าเขาไม่สามารถขโมยมันจากนาคาได้จากระบบเกมที่ป้องกันการขโมยของ
“ยังต้องอธิบายอะไรอีกเหรอครับ คุณเฟยหลง ดูเหมือนคุณจะเข้าใจทุกอย่างดีแล้วไม่ใช่หรือไงครับ” นาคาพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ ทำเอามาเฟียในชุดสูทดำใบหน้าขึ้นสีด้วยความหงุดหงิด ตบโต๊ะพร้อมกับตะคอกเสียงดังว่า
“แกยังไม่รู้สถานะตัวเองอีกหรือไง ตอนนี้แกไม่มีตัวเลือกหรือหนทางต่อรองอะไรทั้งนั้น โอเค แกมีปืน แล้วยังไง คิดว่าฉันจะยอมทิ้งงานที่ได้รับ แล้วปล่อยแกเดินตัวปลิวออกจากที่นี่ไปสบายๆ แลกกับปืนแค่กระบอกเดียวน่ะ!”
“แต่คุณเป็นถึงรองหัวหน้าเลยไม่ใช่หรือไงครับ คุณเฟยหลง เรื่องแค่นี้ไม่เกินอำนาจของคุณอยู่แล้วนี่นา” เขาแสร้งถามด้วยความแปลกใจ
“อย่ามาเล่นลิ้น ไอ้หนู เงินสิบสามล้านกับปืนกระบอกเดียวมันเทียบกันได้ที่ไหน”
“ใช่ มันเทียบกันไมได้หรอกครับ ระหว่างเงินสิบสามล้านที่ต้องแบ่งกับสมาชิกทั้งหมดในกิลด์ กับปืนที่จะเป็นของคุณเพียงคนเดียว” นาคาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มกว่าเคย “ลองไตร่ตรองดูดีๆ ก่อนสิครับ อย่าพึ่งวู่วามหรือรีบร้อน ที่คุณต้องทำก็แค่แสร้งทำเป็นว่าคนที่คุณจับตัวมาได้หนีออกไป ด้วยเหตุผลร้อยแปดพันเก้าที่อาจจะเกิดขึ้นได้โดยไม่มีใครคาดคิด” พูดจบเขาก็ค่อยๆ ก้มศีรษะลงเพื่อแสดงความนอบน้อม แล้วจึงปล่อยเวลาให้อีกฝั่งใคร่ครวญข้อเสนอของเขาให้ดีก่อน
รอบข้างตกอยู่ในความเงียบ นิ่งสงัดจนทั้งหมดที่นาคาได้ยินภายในห้องนั้นมีเพียงแค่เสียงหัวใจของตัวเองที่เต็นตึกๆ อย่างเป็นจังหวะ ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ชายตรงหน้าเขาไม่ได้ปฏิเสธข้อตกลงของเขาในทันทีแสดงว่าเฟยหลงคนนี้เก็บมันไปพิจารณาตามที่เด็กหนุ่มคาดไว้
“ยังไงฉันก็ยอมไม่ได้หรอก”
เสียงที่ดังขึ้นของเฟยหลงเอ่ยทำลายความสงบของบรรยากาศในขณะที่เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย ก่อนจะพยักหน้ารับคำกับชายตรงหน้าช้าๆ
การกระทำที่ดูเผินๆ เหมือนนาคาเองจะรู้สึกผิดหวัง แต่อันที่จริงแล้ว สิ่งที่อยู่ภายใต้หน้ากากสีขาวกลับเป็นรอยยิ้มที่ดูไม่แตกต่างกับรอยยิ้มน่าขนลุกที่แต่งแต้มบนหน้ากากนั้นเลยแม้แต่น้อย
สมกับที่เป็นเมืองของโลกใต้ดิน ตรงตามที่อลิซบอกเลยจริงๆ แต่ไม่ใช่แค่จิตใจของ AI เท่านั้นที่ตกต่ำ แม้แต่ยูสเซอร์เองก็เหมือนกัน
ขนาดรองหัวหน้ากิลด์ที่ครอบครองแห่งตลาดใต้ดิน เมื่อถูกยื่นข้อเสนออันยากที่จะปฏิเสธ เขายังต้องนั่งคิดอยู่นานสองนาน
“ถ้าอย่างนั้น...ผมขอลองเสนออะไรหน่อยได้ไหมครับ” เสียงพูดหลุดจากปากของนาคาพร้อมกับการแสร้งถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง
“ว่ามาสิ” จากการกระทำที่ไร้เรี่ยวแรงของอีกฝั่งทำให้ดูเหมือนว่าเฟยหลงจะรู้สึกสงสารเขาอยู่พอสมควร มาเฟียหน้าบากเอ่ยปากตอบรับคำในเวลาไม่นานนัก
“เรามาเล่นพนันอะไรก็ได้กันสักเกมนึง ถ้าคุณเฟยหลงชนะ ผมจะยกปืนนี่ให้คุณฟรีๆ แต่กลับกันถ้าคุณเฟยหลงแพ้ คุณต้องบอกข้อมูลเกี่ยวกับกิลด์ของคุณ รวมไปถึงรายชื่อสมาชิกแล้วก็ตำแหน่งของทุกคนที่อยู่ในกิลด์ให้กับผมครับ”
“พูดจริงเรอะ!” มาเฟียชาวจีนเบิกตาโพลงอย่างแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ ก่อนที่ชายคนนั้นจะรู้ตัวกระแอมไอเบาๆ แล้วจึงกลับไปอยู่ในสภาพเคร่งขรึมเช่นเดิม ข้อมูลของกิลด์กับปืนที่มีเพียงสิบสามกระบอก
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนแบบเฟยหลงคนนี้จะตกลงไหม
“แน่นอนครับ คุณเฟยหลง ยังไงผมไม่กล้าพูดโกหกกับคุณหรอก แถมแขนผมก็ถูกกุญแจมือคล้องอยู่แบบนี้คงทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว จริงไหมละครับ” พูดจบเขาก็ชูแขนทั้งสองที่ถูกกุญแจมือคล้องอย่างแน่นหนากับโต๊ะ
“พูดแล้วถ้าคืนคำขึ้นมาฉันซ้อมแกน่วมแน่นอน ไอ้หนู” เฟยหลงหักนิ้วกร๊อบแกร๊บเป็นสัญญาณว่าเขาพูดจริงทำจริง
เด็กหนุ่มไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากพยักหน้ารับคำอย่างยินดี
เป็นไปตามแผน
[Door-in-the-face technique] กลยุทธ์การต่อรองที่เปรียบเสมือนการ ‘’ปิดประตูใส่หน้าใครบางคนไปก่อน’ แล้วจึงค่อยเปิดทางเลือกที่พอจะรับได้ในตอนหลัง หรือก็คือการยื่นข้อเสนอที่อีกฝ่ายไม่น่าจะยอมรับได้ไปก่อน หลังจากนั้นจึงเสนอข้อเสนอที่ยอมรับง่ายกว่าเดิม
ยกตัวอย่างเช่นการที่อาจารย์สั่งให้มาเรียนพิเศษเพิ่มเติมในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์เป็นจำนวนสองเดือน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ไม่มีนักเรียนคนใดอยากจะทำตามอย่างแน่นอน ต่อมาอาจารย์จึงยื่นข้อเสนอที่สองต่อรองให้มาเรียนพิเศษอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ซึ่งจะทำให้ข้อเสนอประการหลังดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่าทางเลือกแรกอย่างชัดเจน
เพียงแต่...สำหรับสถานการณ์ของเขา เฟยหลงเกือบจะตกลงกับข้อเสนอแรกแล้วด้วยซ้ำ
“แล้วจะเล่นอะไรละ ไอ้หนู ฉันไม่มีสำรับไพ่นะ บอกไว้ก่อน” เฟยหลงพูดขึ้น
“ว้า ถ้าอย่างนั้นก็แย่เลยสิครับ” นาคาสั่นศีรษะอย่างน่าเสียดาย เพียงแต่ความจริงเขาเองก็คาดเดาไว้ว่ามันจะแบบนี้อยู่แล้ว เด็กหนุ่มยกนิ้วชี้เคาะหน้ากากตัวเองคล้ายกับกำลังใช้ความคิดไปสักพัก ก่อนจะดีดนิ้วของตัวเองเหมือนคิดอะไรออก
“ผมเคยดูในหนังรอบนึงน่ะครับ มันเป็นการพนันที่ดูน่าสนุก ใช้อุปกรณ์น้อย เข้าใจง่าย แถมยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเลยละครับ” นาคาเกริ่นนำด้วยน้ำเสียงเรียบ พร้อมกับเลื่อนดวงตาของตนไปจับจ้องที่อาวุธสีเงินในมือฝั่งตรงข้ามช้าๆ
“ไม่ทราบว่าคุณเฟยหลงรู้จักรัสเซียนรูเล็ทไหมครับ...”
“โรงหนัง? ในเกมน่ะนะ ไม่แปลกไปหน่อยเรอะ!?”
“โรงภาพยนตร์? มีก็ดีกว่าไม่มีนะ...แต่ถ้าถามว่าจะไปดูไหม คำตอบก็คือไม่ละ ชอบดูกับเพื่อนไม่ก็ครอบครัวมากกว่า แล้วก็พอดีพวกนั้นไม่ได้เล่น ERROR น่ะ”
“โรงภาพยนตร์ใน ERROR!? ผมนี่โคตรชอบเลยครัช ไปดูแน่นอน! ฟันธง!!”
คือความเห็นของยูสเซอร์ต่อโรงภาพยนตร์ภายใน ERROR Online ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกพิลึกที่อยู่ดีๆก็มีโรงภาพยนตร์เข้ามาตั้งอยู่ในเกมซะอย่างนั้น ในขณะที่หลายๆ คนก็เห็นด้วยเนื่องมาจากความสะดวกสบายที่ทำให้ไม่ต้องออกไปจากเกมก็สามารถดูหนังที่ตนอยากดู
ท่ามกลางเสียงทะเลาะเบาะแว้งของผู้เล่น โรงภาพยนตร์ก็ถูกดำเนินการสร้างไปเรื่อยๆ จนเสร็จ และสิ่งที่น่าแปลกใจก็คือไม่นานหลังจากที่เปิดให้ผู้เล่นเข้าไปรับชม เสียงก่นด่าก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โรงภาพยนตร์แทบทั้งหมดในคาสิโนก็คับคั่งไปด้วยผู้คนแทบจะทุกช่วงเวลาซึ่งก็มาจากสิทธิพิเศษที่โรงภาพยนตร์ที่นี่นำเสนอนั้นแสนจะเย้ายวนใจ
ตารางฉายหนังหลายเรื่องที่เร็วกว่าโลกแห่งความจริงถึงหนึ่งสัปดาห์ จนทำให้เหล่าผู้คนจำนวนมากสนใจที่จะมาดูหนังในเกม หรือแม้กระทั่งพวกแฟนพันธุ์แท้ภาพยนตร์ที่ซื้อ ERROR เพื่อที่จะได้รับชมหนังที่ตนเองชอบก่อนล่วงหน้าเลยก็มี ถือว่าเป็นการเดินเกมที่ชาญฉลาดของ ERROR Corporation ค่าลิขสิทธิ์ที่จ่ายให้เจ้าของหนังแทบจะทวีคูณออกดอกออกผลอย่างรวดเร็ว แถมผู้เล่นที่เข้าเกมมาเพื่อดูหนังส่วนมากหลังจากที่ได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินจากหนังแล้ว บางคนก็อยากเลียนแบบพระเอกหนังบ้างอะไรบ้าง เข้าไปผจญภัยภายในเกมต่อเลยก็มี
ส่วนประเภทของหนัง? แน่นอนว่าหนังยอดนิยมที่ผู้บริหารเกมซื้อลิขสิทธิ์มาเปิดฉายย่อมเป็นแนวแฟนตาซีอย่างไม่ต้องสืบ
“...”
ภายในโรงภาพยนตร์หมายเลข 8 อันเป็นสถานที่นัดพบ อลิซ คุโระและเฮย์กะได้เข้ามาถึงในบริเวณหน้าปากทางออกเยื้องกับจอภาพยนตร์เรียบร้อยตามข้อมูลที่ได้รับว่าให้เข้าประตูข้างจอ เพียงแต่วินาทีที่ทั้งสามเดินมาถึงด้านใน ก็พบว่าด้านในโรงหนังนั้นเต็มไปด้วยกลุ่มคนในชุดสูทสีดำที่กำลังนั่งเรียงรายอยู่เต็มพื้นที่พร้อมกับจ้องเขม็งมาที่ตัวพวกเขาด้วยสายตาที่แสดงถึงความเป็นศัตรูอย่างดีเยี่ยม
“...เยอะจริงๆ” คือคำพูดพนักงานบริษัทที่กำลังกระดกแก้วชามะนาวดื่มอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“นั่นสิ พี่เฮย์กะ” คุโระตอบ
หากสายตาของคุโณะไม่ผิดพลาดอะไร ศัตรูทั้งหมดที่ซื้อตั๋วเข้ามาในโรงภาพยนตร์แห่งนี้มีประมาณสองร้อยที่นั่งและเป็นยูสเซอร์ระดับกลางไปถึงสูงปนเปกันไป
“ยินดีต้อนรับ ผู้มีเกียรติทั้งสาม”
ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังก้องขึ้นมากจากแถบที่นั่ง ส่งผลให้อลิซและคุโระเปลี่ยนความสนใจไปมองยังร่างของใครบางคนที่ค่อยๆ ทรงตัวออกมาจากที่นั่งในโรงภาพยนตร์
ภาพของหญิงสาวผมดำเกลียวในชุดขนสัตว์สีดำเช่นเดียวกับสีผม ที่นิ้วมือของหล่อนเต็มไปด้วยแหวนเพชร ในขณะที่รอบคอก็ประดับประดาไปด้วยไอเท็มตกแต่งแพรวพราวเต็มตัวอย่างกับร้านเครื่องอัญมณีเคลื่อนที่ ดวงตาสีมรกตเชิดมองอย่างดูมีราศี เจ้าหล่อนคลี่พัดขนนกขึ้นมาบังใบหน้าของตนเล็กน้อยจากนั้นจึงก้าวตรงมาที่พวกเธอด้วยความสง่างาม
ตรวจพบบุคคลแปลกประหลาดหนึ่งราย...
อลิซกับคุโระหันมามองหน้ากันด้วยสายตานิ่งสนิท ในขณะที่เฮย์กะยังคงดื่มชามะนาวต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่ใส่ใจ
ตึก...ตัก
ตึก...ตัก
ตึก...ตัก
แต่ละก้าวของเธอช่างยาวนานราวกับชั่วกัลปาวสาน หลังจากที่ผ่านไปร่วมนาที ในที่สุดร่างของหญิงสาวคนนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าของพวกเธอส่งผลให้คุโระและอลิซถึงกับลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเบาๆ
กว่าจะถึง...ช่วยบอกทีเถอะว่าเจ๊จะมาเดินแฟชั่นโชว์หรือมาเล่นเกม
“ดิฉันชื่อเหมยอี้ หัวหน้ากิลด์ไทคูน รุ่นที่ 2 ขอสวัสดีแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญมายังโรงภาพยนตร์แห่งนี้” แต่ละคำออกมาจากริมฝีปากงามอย่างเชื่องช้า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดของเธอหันมาสบตากับคณะของแขกรับเชิญอย่างมั่นคง “ถ้าจำไม่ผิดพวกคุณสองคนคือโลงศพสีดำกับเจ้าหญิงแห่งหนาม” ระหว่างพูดเธอก็หันมาหาทั้งสองซึ่งก็พยักหน้ารับคำตามระเบียบ ก่อนที่จะมาหยุดยังร่างของชายขอบตาคล้ำในชุดพนักงานบริษัทที่กำลังดื่มชามะนาวอยู่ “ส่วนอีกคนหนึ่ง...”
“ไม่สำคัญอะไรหรอก ฉันมาดูหนังน่ะ” พูดจบเฮย์กะก็เดินไปแทรกตัวเข้ากับเก้าอี้ว่างภายในโรงภาพยนตร์กลมกลืนกับกลุ่มคนดูชุดดำที่หันมามองสมาชิกแก๊งคนใหม่อย่างงงๆ
“อย่าสนใจพี่เขาเลย” คุโระพูด ยกมือเกาศีรษะแกรกๆ ก่อนจะพยายามเปลี่ยนเรื่องโดยการพูดถึงกิลด์ของอีกฝ่ายตามที่เขาได้ยินชื่อเสียงมาว่า
“ยินดีที่ได้รู้จัก กิลด์ไทคูน ผู้ปกครองตลาดมืดของเมืองเรมิน่า...”
เจ้าของธุรกิจผิดกฏหมายนานาชนิดในเรมิน่า ขึ้นชื่อด้านความโหดร้าย และยังเป็นกิลด์อันดับต้นๆที่มีสมาชิกมากที่สุดของทวีปเอเชีย มากเสียจนมีข่าวร่ำลือกันว่าหากให้สมาชิกกิลด์ทั้งหมดของกิลด์นี้เดินสวนสนามพร้อมกันอาจจะเกิดภัยพิบัติอย่างเช่นแผ่นดินไหวขึ้นมาก็เป็นได้
“ดิฉันเองก็ยินดีที่ได้พบกับคุณเป็นครั้งแรกเช่นกัน โลงศพสีดำ” เหมยอี้ว่าด้วยรอยยิ้ม
สรุปว่าตัวการหลักในการลักพาตัวคือกิลด์ไทคูน ค่อนข้างน่าตกใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเหนือความคาดหมาย ถึงอย่างไรก็เปลี่ยนรูปลักษณ์นาคาก็ไม่มีทางทำได้สมบูรณ์แบบ ดังนั้นความลับจะแตกช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
“แล้วยูสเซอร์ที่เธอจับตัวไป อยู่ที่ไหน” ทางฝั่งอลิซที่ยืนเงียบมาสักพักเอ่ยถาม
หัวหน้ากิลด์ไทคูนรุ่นที่ 2 ขยับยิ้มพราย ก่อนจะหันมามองยังเด็กสาวในผ้าปิดตาที่ยืนกอดอกมองหน้าเธออยู่
“ใช่...ใช่ งดงามสมคำร่ำลือจริงๆ เจ้าหญิงแห่งหนาม” เหมยอี้พูด นัยน์ตาสีเขียวใสจับจ้องไปยังร่างของสาวน้อยเบื้องหน้า
คำพูดของเหมยอี้ทำเอาอลิซหรี่ดวงตาสีแดงเข้มอย่างไม่ไว้วางใจ เธอไม่ได้ตอบสนองอะไรกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดขึ้นมา ก่อนจะย้ำคำถามไปอีกครั้ง
“ยูสเซอร์ที่เธอจับไปอยู่ที่ไหน”
เหมยอี้ยืนถือพัด สะบัดมันอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้ารับคำอลิซช้าๆ
“เด็กหนุ่มคนนั้นอยู่ในห้องรับรองของเรา”
“แล้วหมอนั่นปลอดภัยไหม”
ครั้งนี้เหมยอี้ไม่ได้พูดอะไรกลับทันที หล่อนสะบัดพัดในมือปิด แล้วจึงเอ่ยถามกับเด็กสาวตรงหน้าไปว่า
“คนสำคัญของเธอหรือไง เจ้าหญิงแห่งหนาม”
“ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องถาม”
“ช่วยข้ามเรื่องจิปาถะไปเลยได้ไหม ท่านหัวหน้ากิลด์ไทคูนรู่นที่สอง” คุโระพูดขัด ก่อนที่จะยกมือขึ้นกุมใบหน้าของตนช้าๆ ด้วยแววตาที่เริ่มกระตุกเล็กน้อย “เอาเป็นว่าต้องการอะไรก็บอกมาเลย เรื่องมันจะได้จบๆไป”
ใบหน้าของเหมยอี้หันกลับมาจ้องยังร่างของแรงค์กิ้งยูสเซอร์อันดับสิบ หญิงสาวเชิดหน้ามองตรงมาที่คุโระ ก่อนจะยกพัดที่ปิดอยู่ชี้มาที่ตัวเธอเอง
“หนุ่มน้อยคนนั้นจะปลอดภัยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำสั่งของดิฉัน”
“โฮ่ หมายความว่า พวกเราต้องทำตามที่เธอสั่ง ไม่อย่างนั้นเธอก็จะทรมานหมอนั่นสินะ”
คำพูดของคุโระเรียกรอยยิ้มขึ้นมาประดับที่ใบหน้าขาวผ่องของเธอ
“ก็เป็นไปได้ โลงศพสีดำ”
คำพูดถูกกล่าวจบ เหมยอี้ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของอีกฝ่ายจากนัยน์ตาสีมรกตของเธอในทันที ร่างในชุดดำที่กำลังยกมือขึ้นจับที่ใบหน้าของตัวเองอยู่ค่อยๆ เอียงคอหัวเราะออกมาเบาๆ ยืนตัวสั่นกึกๆ จ้องเขม็งตรงไปที่เหมยอี้ด้วยแววตาที่แสดงถึงความเป็นศัตรูชัดเจน ก่อนที่คุโระจะค่อยๆ ก้าวเท้าตรงไปข้างหน้าพร้อมกับยื่นใบหน้าที่กำลังสั่นของตนเข้าไปพูดเสียงสั่นที่ข้างหูของเหมยอี้ว่า
“ถ้าเธอ...กล้าลงมือ....กับของๆ ฉันละก็”
พูดจบคุโระก็ค่อยๆ เอื้อมมือไปดึงผ้าปิดปากของตนเองลง ก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าที่ดูบิดเบี้ยวอย่างที่นักฆ่าชุดดำคนนี้ไม่เคยแสดงออกมาก่อนว่า
“มัน...ไม่จบแค่ชีวิตของเธอหรอกนะ ท่านรุ่นที่สอง”
บันทึกข้อมูลลับ [Secret Data Entry]
หัวหน้ากิลด์ไทคูน [President of Tycoon]
User : เหมยอี้ [Mei Yi]
Alias : หัวหน้ากิลด์ไทคูน [President of Tycoon]
Class : เจ้าแม่มาเฟีย [Godmother] Level : 87
Evaluation [ประเมินความสามารถ]
Strength : D+ Agility : D
Endurance : C- Range : C
Ability : C Magic : D
Luck : B Growth Potential : C+
Forte [จุดเด่น] : เป็นที่รักของลูกน้อง [Beloved Leader] ขยันขันแข็ง [Work Hard] ต้องการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด [Eager to develop]
Weakness [จุดอ่อน] : อ่อนไหวมากเกินไป [Too Sensitive] นักตัดสินใจที่แย่ [Bad Decision Maker]
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คุโระนี่มันคุโระจริงๆ5555
ก็ยังแพ้กษัตริย์แห่งโทรลเลยครับ หรือคงจะต้องบอกว่า กษัตริย์แห่งโทรลเก่งกว่าหลายขุมดี
(น่าสงสารเธอนะ)
ภาคนิยายอยู่ซะอีก แต่ก็สนุกดีนะ