ตอนที่ 39 : Error : 0x00000035 กษัตริย์แห่งโทรล
ERROR Online : Overkill
โทรล สัตว์ประหลาดในเทพนิยาย อสุรกายในปกรณัมของชาวนอร์ส พวกมันมีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่มีร่างกายที่สูงใหญ่กว่าหลายเท่า มีนิสัยดุร้าย ไร้อารยธรรม และที่สำคัญคือพวกมันเห็นมนุษย์เป็นศัตรู
สถานการณ์ที่กลุ่มของนาคากำลังเผชิญอยู่นั้นถือว่าเสี่ยงพอตัวจากสภาพของชั้นสามที่มืดมิดเกินกว่านัยน์ตาของมนุษย์จะสามารถมองเห็นอะไร รวมไปถึงการที่ทั้งสามคนอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างอันตรายจากการที่ถูกมองเห็นอยู่ฝั่งเดียว
อีกทั้งข้อมูลที่จำกัด นอกจากจำนวนที่คุณคุโระเป็นคนบอกแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถมองเห็นอะไรนอกจากความมืดมิดที่อยู่เบื้องหน้าเลยแม้แต่น้อย
“ให้ฉันเปิดสกิล ‘Eagle Eye’ ไหม”
“ไม่ต้องหรอก ถ้าตรงตามที่คุโร ฮิทสึกิบอกจริงๆ แล้วโทรลจำนวนมากยังคงดูทีท่าเรา ไม่รีบเข้าโจมตีอยู่แบบนี้ อีกสักพัก...คงจะมีอะไรเกิดขึ้น”
ใช่ นาคาเองก็รู้สึกว่ามันแปลกเหมือนกัน สภาพที่พวกเขาเสียเปรียบเต็มประตูแต่พวกโทรลที่อยู่ในเงามืดพวกนี้กลับไม่รีบเข้าโจมตีแต่กลับปล่อยเวลาอันมีค่าให้ผ่านไป ราวกับว่าพวกมันกำลังรอคอยอะไรบางอย่างอยู่
ความมืดที่เข้าปกคลุมทั่วทั้งชั้นยิ่งทำให้ยากแก่การตอบโต้ จะเคลื่อนไหวอะไรก็ลำบาก แถมหากผลีผลามขึ้นมาก็อาจจะสุ่มเสี่ยงไปถึงชีวิตอีก
“ยินดีต้อนรับท่านนักเดินทางทั้งสาม” จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนก็ดังขึ้นมาจากเงามืด เรียกความสนใจจากทั้งสามคนให้หันไปทางนั้น
พรึ่บ!
ในช่วงเวลาเดียวกันแสงไฟจากคบเพลิงโดยรอบในบริเวณสถานที่แห่งนั้นก็ถูกจุดขึ้นพร้อมๆ กัน เผยให้เห็นถึงสภาพถ้ำขนาดใหญ่พร้อมกับร่างของอสุรกายในชุดเกราะที่กำลังยืนหันมาที่พวกเขาเป็นสายตาเดียว
ทว่า จุดที่สายตาของทั้งนาคา อลิซ และคุโระกำลังมองอยู่ไม่ใช่พวกโทรลในชุดเกราะที่อยู่รอบข้าง แต่มันคือภาพของโทรลยักษ์ตาเดียวในชุดคลุมยาวที่บนศีรษะถูกประดับด้วยมงกุฎสีทอง ยืนถือคทาอัญมณีสีแดงในมือพร้อมกับก้าวเท้าพาร่างใหญ่ของมันมาหาพวกเขา
“ข้าชื่อ รอนโด กษัตริย์แห่งชาวโทรล [Rondo, The King of Troll] และที่พวกท่านกำลังยืนอยู่คือปราสาทของข้า…”
บรรยากาศรอบข้างดูตึงเครียด สถานการณ์ที่พวกเขาอยู่ถือว่าย่ำแย่สุดๆ มันก็จริง แต่ไม่รู้ทำไมทั้งเขา อลิซและคุโระต่างก็กำลังก้มหน้ากัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกอัดอั้นบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดออกมาได้
กษัตริย์แห่งโทรลกับปราสาทท่อน้ำใต้ดิน…
นี่มันเรื่องตลกพรรค์ไหนกันแน่
ดูเหมือนมันจะรู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติกับนักเดินทางกลุ่มนี้ ราชันย์แห่งชนชาวโทรลจึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า “ไม่ทราบว่าพวกท่านเป็นอะไรไปอย่างนั้นหรือ”
ทั้งการที่โทรลสามารถพูดภาษาเดียวกับมนุษย์ นอกเหนือไปจากนั้นยังเป็นคำพูดสุภาพที่ดูเป็นผู้ดีมีมารยาท รวมไปถึงการใส่เสื้อผ้าที่ดูมีสง่าราศี อารยธรรมที่ดูเจริญเกินกว่าที่พวกมันควรจะเป็น
โทรล [Troll] ...สัตว์ประหลาดที่ขึ้นชื่อในเรื่องความโง่เขลาเบาปัญญา จนถูกนำมาใช้เป็นคำล้อเลียนเหล่าผู้คนที่ทำตัวไร้เหตุผลและไม่ใช่แค่นั้น ที่พวกเขากำลังเจออยู่นี่คือสุดยอดแห่งโทรล
กษัตริย์แห่งโทรล!!
“ไม่มีอะไรหรอก ท่านหัวหน้าเผ่า แค่ก...แค่ก” คุโระตอบด้วยน้ำเสียงซีเรียสที่พยายามจะกลบเสียงหัวเราะเต็มที่ แต่ก็ดูไม่ได้ผลจากการยกมือกุมปาก
“ข้าไม่ใช่หัวหน้าเผ่า ข้าคือกษัตริย์” เสียงของคุโระถูกเอ่ยขัดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงบ่งบอกความไม่พอใจที่ดังขึ้นมาจากโทรลยักษ์ในชุดคลุม
“เอาละ มาเข้าเรื่องของเรากันก่อน ไม่ทราบว่าท่านนักเดินทางมายังอาณาจักรของข้าด้วยสาเหตุใดกันหรือ” ราชาโทรลเอ่ยถาม
อลิซยืนกลั้นหัวเราะไอแค่กๆ ไปสักพักก่อนที่เธอจะตอบกลับไปว่า “พวกเราต้องการจะไปคาสิโนชั้นสี่”
“เกรงว่าจะไม่ได้น่ะสิ ท่านนักเดินทาง” องค์ราชาแห่งชาวโทรลตอบกลับ “ช่วงหลังๆ มานี่มีพวกนักเดินหลายคนเข้ามาเข่นฆ่าพวกข้าไปตั้งเยอะ แถมยังฝากรอยแผลไว้ให้ข้าซะด้วยสิ” พูดจบก็ชี้ไปที่แผลบากเป็นทางยาวบริเวณดวงตาข้างซ้ายที่มืดบอดของมัน
เธอเพียงแค่พยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเลื่อนนัยน์ตาสีแดงข้างเดียวของตนไปสบกับโทรลตนหน้า แล้วจึงเอ่ยถามไปว่า
“ต้องการอะไรละ”
มันยิ้มกลับอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะไล่สายตาสำรวจนักเดินทางทั้งสามสักครู่หนึ่งแล้วจึงวกกลับมายังร่างของเด็กสาวตรงหน้าอีกครั้งพร้อมกับเอ่ยออกมาว่า
“ปกติ ข้าก็เป็นพวกไม่ชอบใช้กำลังในการหาทางออกอยู่แล้ว มีแต่สัตว์ชั้นต่ำเท่านั้นแหละที่จะทำแบบนั้น จริงไหมพวกท่านทั้งสาม” โทรลยักษ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
นั่นก็ถูก...
เห็นผู้ฟังทั้งสามคนพยักหน้าเห็นด้วย กษัตริย์แห่งโทรลจึงพูดต่อไปทันทีว่า
“ท่านละ 1,000,000 ซิล สำหรับค่าผ่านทางไปชั้นสี่”
“...”
อลิซ นาคาและคุโระหันมามองหน้ากันสักครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นกุมหน้าผากอย่างพร้อมเพรียงกันทั้งสามคน
พัฒนาการที่ยิ่งใหญ่อีกก้าวในวงการของมนุษย์คือการกำหนดวัตถุสื่อกลางที่ใช้ในการค้าขาย เงินตราที่ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ทำให้ระบบเศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง แตกต่างจากในสมัยอดีตที่ใช้สิ่งของแลกเปลี่ยนกับสิ่งของที่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันอย่างชัดเจน
ความยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติในครั้งนั้นได้แผ่ขยายมาถึงอาณาจักรแห่งชนชาวโทรลแล้วหรือ!
“ค่าผ่านทางสินะ” เป็นทางฝั่งคุโระที่เอ่ยพูดขึ้นมา
“ใช่แล้ว ท่านนักเดินทาง” มันพยักหน้าเนิบๆ “ไม่เสียแรงที่เป็นเผ่าพันธุ์ที่เปี่ยมไปด้วยปัญญา พวกท่านสามารถเข้าใจความหมายของการเจรจาที่ข้าต้องการสื่อได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ”
การเอาพรรคพวกจำนวนมากมาล้อม ยื่นข้อเสนอให้จ่ายเงินค่าผ่านทางจำนวนมหาศาล
ความหมายของการกระทำแบบนี้ไม่ว่าใครก็คงจะรู้ความนัยแฝงเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า
ส่งเงินทั้งหมดมาเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว
“เสียใจด้วยนะ พวกเราไม่มีเงินจำนวนมากขนาดนั้นหรอก”
ดูเหมือนมันก็คาดหวังคำตอบเช่นนี้อยู่แล้ว กษัตริย์ตาเดียวไม่ตอบอะไรกลับ โทรลยักษ์หันไปประกาศอะไรบางอย่างกับพรรคพวกตัวเอง ก่อนที่จะหันกลับมาหาพวกเขาพร้อมกับสายตาของเหล่าโทรลนับพันที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดพร้อมที่จะเข้ารุมฉีกกระชากเหยื่ออันโชคร้ายสามรายที่หลงเข้ามาในรังของพวกมัน
“ถ้าพวกท่านไม่จ่าย ก็อย่าหวังว่าจะได้ผ่านอาณาจักรของข้าไป”
มันยืนใช้ดวงตาวาวโรจน์จากแสงไฟจ้องมาที่พวกเขาอย่างค...โทรลที่เหนือกว่า ราวกับว่าทั้งสามเป็นเพียงมนุษย์ตัวกระจ้อยไร้ซึ่งพลังที่พวกมันสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย
“และแน่นอนว่าหากไม่มีจริงๆ ข้าก็คงต้องเก็บค่าผ่านทาง...เป็นชีวิตของพวกท่านทั้งสามแทน”
แม้ปากจะพูดไปอีกอย่าง แต่ใจจริงดูท่ามันคงจะต้องการให้เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทันทีที่คำประกาศิตของกษัตริย์แห่งชาวโทรลถูกเอ่ยจนจบ เหล่าทหารโทรลเกราะก็เริ่มย่ำเท้าตึงๆ พร้อมกับโห่ร้องดังกึกก้องไปทั่วถ้ำ
“ว่าไงละเจ้าหญิง มีไอเดียอะไรดีๆไหม” คุโระกระซิบกับอลิซที่ยืนอยู่ข้างๆ
“นายอยู่เฉยๆ ไปก็พอคุโร ฮิทสึกิ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” เด็กสาวตอบปัดๆ เธอเรียกหน้าต่างไอเท็มอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะกดใช้ไอเท็มบางอย่างแล้วจึงค่อยๆ ขยับปากเรียกใช้สกิลเสียงเงียบ ก่อนจะเลื่อนหน้าต่างที่เป็นผลพวงจากสกิลขึ้นมาทาบไปที่นัยน์ตาสีทับทิมของตัวเองที่กำลังจ้องตรงไปที่กษัตริย์แห่งโทรลผู้กำลังยืนโบกมือให้กับชนชาวโทรลอย่างไม่สนใจพวกทั้งสามคนเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าพลาดขึ้นมา ฉันโทษนายนะ คุโร ฮิทสึกิ”
“อือ...หา” นักฆ่าชุดเลิกคิ้วอย่างงงๆ ก่อนที่จะได้ยินเสียงเรียกใช้สกิลดังขึ้นมาจากทางด้านเด็กสาวคนข้างๆ ว่า
Witchcraft VII : Sincere Brainwashing [ศาสตร์แห่งแม่มดระดับ 7 : การล้างสมองด้วยความบริสุทธิ์ใจ]
ฉับพลันร่างของกษัตริย์แห่งโทรลที่กำลังชูมือโห่ร้องให้กับพรรคพวกเพื่อนพ้องร่วมเผ่าพันธุ์ของตนก็หยุดชะงักกึก อสุรกายตนนั้นยืนคอตกไปสักพัก ก่อนจะเลื่อนหน้าของมันขึ้นมาสบตากับบรรดาพวกพ้องของตัวเองอีกครั้งด้วยสายตาที่เลื่อนลอย
พวกมันยืนหันหน้ามองกันอย่างงงๆ ได้สักพัก เสียงก็ถูกเอ่ยออกมาจากปากของราชาโทรลรอนโดอย่างสุขุมนุ่มลึกว่า
“ข้าเข้าใจ...ข้าเข้าใจดีว่าพวกเราต้องการเงินเพื่อไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเหล่าโทรล แต่การสร้างเวรกรรมกับเพื่อนร่วมโลกโดยการขู่เข็ญบังคับให้ส่งเงินแก่พวกเราเป็นค่าผ่านทางนั้นเป็นการพัฒนาที่ไม่จีรังยั่งยืน หากบรรดามนุษย์เกิดอาฆาตแค้นพวกเราแล้วพาพรรคพวกมาทำศึกสงครามกับเราแล้วไซร้ วัฏจักรแห่งความเคียดแค้นนี่คงต้องดำเนินต่อไปเป็นแน่แท้มิใช่หรืออย่างไร”
โทรลบางตัวเริ่มยกมือปิดปากหาวหวอดอย่างเซ็งๆ ก่อนที่มันจะโดนโบกศีรษะโดยพลพรรคหมู่มากที่ดูจะซาบซึ้งไปกับคำปราศรัยที่เปลี่ยนไปได้อย่างชัดเจนของท่านผู้นำ ในขณะที่ทางด้านนาคาและคุโระต่างก็ยืนอึ้งอ้าปากค้างไปตามๆ กันกับท่าทีคล้ายคนบรรลุสัจธรรมอะไรบางอย่างของโทรลยักษ์ตัวนี้
“ที่พวกท่านต้องการคือสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไม่ใช่หรือไงกัน!! พวกเราชาวโทรลไม่สมควรจะฆ่าแกงทุกชีวิตด้วยความป่าเถื่อน สัตว์โลกที่เต็มไปด้วยสติปัญญาแบบชาวโทรลควรจะใช้การเจรจาและการประนีประนอมเพื่อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขต่างหาก!! นับตั้งแต่นี้ไป ข้าขอประกาศเจตนารมณ์ของผู้นำว่า พวกเราจะเลิกตั้งตนเป็นศัตรูกับมนุษย์ตลอดไป!!!”
สิ้นเสียงพูด มวลมหาประชาโทรลจำนวนมากก็พากันโห่ร้องด้วยเสียงดังกึกก้องยิ่งกว่าครั้งไหนๆ พวกมันพากันชูมือขึ้นแล้วตะโกนขับขานชื่อรอนโดกษัตริย์ของพวกมันด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในตัวของท่านผู้นำ
“รอดตัวไปนะครั้งนี้ คุโร ฮิทสึกิ”
“ฝีมือเธองั้นเหรอ เจ้าหญิง” คุโระหันไปกระซิบกับอลิซด้วยแววตาทึ่งๆ ในขณะที่เด็กสาวก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับ เธอเพียงแค่เดินมุ่งหน้าไปหากษัตริย์แห่งโทรลที่ไร้ซึ่งความเป็นศัตรูอย่างในตอนแรก
การกระทำที่ทำเอาคุโระได้แต่แอบยกลิ้นขึ้นเลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ
วิเศษ...วิเศษจริงๆ
เจ้าหญิงแห่งหนาม...ที่แม้กระทั่งสกิลในการควบคุมมอนสเตอร์ระดับสูงเธอก็ยังมีไว้ในครอบครอง
เธอ...จะต้องเป็น ‘ของสะสม’ ที่วิเศษที่สุดอย่างแน่นอน
คณะเดินทางทั้งสามถูกนำเคลื่อนขบวนผ่านถ้ำของโทรลโดยกษัตริย์ผู้เต็มไปด้วยความเป็นมิตร และสายตาที่ดู...เลื่อนลอยผิดปกติ แต่แน่นอนว่าไม่มีใครพูดออกไปเนื่องจากไม่ต้องการให้โทรลตนไหนรู้สึกตัวว่าราชาของมันกำลังตกอยู่ภายใต้การควบคุมของแม่มดอลิซคนนี้ที่กำลังชักใยอยู่เบื้องหลัง
เจ้าหล่อนเองก็ไมได้เอ่ยอะไรออกมานอกจากเดินตามหัวหน้าโทรลต้อยๆ ในขณะที่ตัวเองก็กำลังทัศนศึกษาสภาพความเป็นอยู่ของโทรลภายในดันเจี้ยนท่อน้ำเขาวงกตชั้นสามไปเรื่อยๆ
“นี่คือห้องซ้อมรบ ทหารชาวโทรลส่วนมากจะซ้อมรบกันที่นี่” รอนโดเอ่ยเมื่อนำพวกเขาไปถึงห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ภายในมีราวแขวนที่เต็มไปด้วยอาวุธจำนวนมากอย่างเช่นหอก ขวาน ดาบ กระบอง ในขณะที่ตัวห้องถูกแบ่งเป็นสี่ส่วน ซึ่งจะมีลานสี่เหลี่ยมคล้ายลานประลองแบ่งกันเป็นส่วนๆ ไป
ถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีระบบระเบียบมากพอสมควร นาคาคิดในใจ จากที่เขามองสังเกตโดยรอบ ชุมชนของพวกนี้ค่อนข้างสงบสุข และไร้ซึ่งภัยคุกคามอะไรนอกจากผู้เล่น...ที่ค่อนข้างจะหาเรื่องเผ่าพันธุ์นี้ได้ลำบากเล็กน้อยเนื่องจากทางเข้าชั้นสามมีแค่ทางเดียวนอกจากนั้นยังเป็นหลุมที่ต้องกระโดดลงมาอีก
ป้อมปราการที่สามารถเข้าได้ทางเดียว...มิน่าล่ะพวกโทรลนี่ถึงสามารถพัฒนาตัวเองได้ขนาดนี้
ผู้นำของมันพาพวกเขาสำรวจอาณาจักรใต้ดินไปสักพัก จึงพาทั้งสามมุ่งหน้าไปสู่ทางเข้าชั้นที่สี่ที่เป็นจุดมุ่งหมายต่อไปของคณะเดินทาง พวกเขามาหยุดยืนอยู่ตรงปลายสุดของถ้ำ บริเวณบันไดหินอ่อนขัดมันทอดลงสู่เบื้องล่างที่ดูหรูหราขัดกับสภาพของชั้นสามที่เป็นเพียงแค่ถ้ำใต้ดินธรรมดาๆ
ตามที่คุณคุโระเล่าไว้ ดันเจี้ยนชั้นที่สี่ของท่อระบายน้ำแห่งเมืองเรมิน่านั้นพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นของคาสิโน ดังนั้นการตกแต่งที่เกินพอดีในแถบปลายสุดของชั้นสามนี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคาสิโนเช่นกัน
แต่มันไม่ได้สิ้นสุดที่ชั้นต่อไป ท่อระบายใต้ดินแห่งนี้มีมากถึงสิบชั้น แต่พวกเขาเองก็ไมได้ตั้งใจจะลุยครบทุกชั้นเช่นกัน เป้าหมายหลักคือให้นาคาเก็บเลเวลในชั้นต้นๆ และมุ่งหน้าไปยังคาสิโนเพื่อหาคนรู้จักของคุโระเท่านั้น
“นาคา นายลงบันไดนี่ไปก่อนเลยเดี๋ยวพวกฉันจะตามไปทีหลัง” ยืนมองดูพื้นด้านล่างอยู่สักพัก อลิซหันมาเอ่ยกับเขา
นาคาไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป เขาเพียงแค่พยักหน้ารับช้าๆ ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปตามที่สั่ง
ตึก...ตัก ตึก...ตัก
เสียงฝีเท้าของนาคาเหยียบลงบนบันไดหินอ่อนดังตามจังหวะ ไกลขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะลับหายไปในที่สุด
“หมอนั่นไปแล้วสินะ” ร่างในชุดนักฆ่าสีดำหันมาถามกับอลิซ
“อือ” เธอพยักหน้า
ทั้งอลิซและคุโระยืนนิ่งสนิทท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบงันของชั้นสาม ทั้งสองต่างยืนตั้งสมาธิไม่ขยับไปไหนคล้ายกับว่ากำลังรอสัญญาณเริ่มต้นของบางสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
บางสิ่ง...ที่ดังขึ้นมาจากทางด้านกษัตริย์แห่งโทรลผู้ยืนเหม่อลอยอยู่ข้างๆทั้งสอง
Sincere Brainwashing สิ้นสุดระยะเวลาการใช้งาน
บันทึกข้อมูลลับ [Secret Data Entry]
Boss Monster [มอนสเตอร์ระดับบอส]
Name : รอนโด [Rondo]
Alias : กษัตริย์แห่งโทรล [King of trolls]
Level : 79
Difficulty : B+
Category : บอสประจำชั้น [Floor Boss]
Evaluation [ประเมินความสามารถ]
Strength : B- Agility : C+
Endurance : C+ Range : D
Ability : B+ Magic : C+
Luck : D+ Growth Potential : A+
Forte : นักต่อรองที่ดีเยี่ยม [Great Negotiator] หัวก้าวหน้า [Progressive Thinking] หัวหน้าที่มีวิสัยทัศน์ [Leader with vision]
Weakness : คิดมาก [Think too much]
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ตอนแรกแอบสงสารโทรลน้า
แต่ก็ ......
สุดท้ายก็ใช้สกิลไม่ได้จบสินะ แย่จังอลิซ
Free! ภาคสองกำลังจะมาเดือนกรกฎานี้แล้วค่ะ^^ //กล้าม กล้าม กล้าม และกล้าม =w=
ปล. เดี๋ยวสิ ถ้าอลิซเป็นของสะสมที่วิเศษทีสุดแล้วนาคคุงฉันล่ะหา???? แค่นาคคุงยังไม่เติมทรูเทพเท่านั้นเองนะ เชอะ หรือว่าคุโระจะเป็นลิซซี่(ชื่่่อนี้ป่ะวะ) ยัยแม่มดอะไรนั่นที่เล่น2ยูสเซอร์ แล้วเป็นคนประกาศจับนาคคุงเอง แล้วก็เข้ามาตีซี้? แล้วเดี๋ยวสิ เหมือนบทนาคคุงจะน้อยลงนะคะ แถมช่วงนี้ไรต์อวยอลิซเป็นพิเศษด้วย...
ฮ่าๆๆ ผมฮาตอนเรย์มีบทตลอดทั้งเรื่องเลยละครับ
ยิ่งตอนหัดว่ายน้ำนี่ทำเอาหัวเราะท้องแข็งจนแทบจะสำลักตายเลยทีเดียว
ปล.ผมไม่คิดย่านิดหน่อยนะท่าน.. ผมว่าเรย์รั่วสุดเลยนะนั่น...
อนิเมะครับผม
เกี่ยวกับการว่ายน้ำอะครับ แต่เป็นเรื่องที่ผู้ชายปกติส่วนใหญ่น่าจะไม่ชอบดูกันนะครับ