ตอนที่ 16 : Error : 0x00000012 อดีตที่จางหาย
ERROR Online : Overkill
“เธอเรียนที่นี่งั้นเหรอ” นัยน์ตาสีดำจับจ้องไปที่สาวน้อยในชุดกระโปรงยาววันพีซสีขาวซึ่งกำลังนั่งกินคุ๊กกี้ช็อคโกแลตชิพในจานเงียบๆ อยู่บนโต๊ะรับรองแขกฝั่งตรงข้าม หลังจากที่บังเอิญเจอกันที่ด้านล่างตลอดจนระหว่างขึ้นลิฟท์มาถึงศูนย์ภาษา ‘Trilingual’ ชั้นบนมาเธอก็เงียบมาโดยตลอด
ใบหน้าเรียวที่มีเลือดฝาดเล็กน้อยกับดวงตาสีดำของเธอดูคุ้นเคย ขณะที่แว่นสายตาสีแดงนั่นนาคาก็สามารถยืนยันได้ว่าเขาเคยเห็นมันมาก่อน เพียงแต่น่าแปลกที่ไม่ว่าจะนึกย้อนกลับไปเท่าไหร่ เขาก็ไม่สามารถที่จะหาคำตอบได้ว่าเธอเป็นใคร
เพียงแต่ดูเหมือนว่า ‘อลิซ’ จะไม่มีเจตนาที่จะร่วมบทสนทนากับเขา เธอเอาแต่นั่งกินคุ๊กกี้ในโซนของว่างเงียบๆ ก่อนที่จะยกแก้วใส่นมที่อยู่ข้างๆ ขึ้นดื่มอึกๆ
นาคาถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่เขาจะลองเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงอีกฝ่ายดูโดยการเอ่ยคำพูดไปในลักษณะยั่วโมโหเล็กน้อยว่า
“เห หรือว่าเธอจะเป็นพวกที่ชอบเก็บตัวในโลกจริง แต่พออยู่ในอีกโลกนึงแบบในเกมก็เปลี่ยนกลายเป็นคนละคนกัน คนเรานี่รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ นะเนี่ย ฉันไม่รู้ว่าเด็กที่เรียบร้อยแบบเธอจะ...”
ตึง!
แก้วกระจกในมือของเธอกระแทกกับโต๊ะไม้เสียงดัง ‘อลิซ’ มองมาทางนาคาด้วยแววตาเย็นเฉียบก่อนที่เธอจะค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ แล้วจึงเดินอ้อมโต๊ะมายืนกอดอกอยู่ข้างหน้า
“ใช่ ฉันเรียนที่นี่ แต่นายคงจะจำฉันไม่ได้สินะ”
นาคาหรี่ตา
“มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ใช่หรือไง กับการจำเด็กที่เรียนที่ศูนย์เรียนพิเศษที่เดียวกันไม่ได้น่ะ”
เธอหัวเราะ ก่อนที่ ‘อลิซ’ จะพูดต่อไปว่า
“นายรู้รึเปล่าว่านอกจากเรื่องนั้นแล้ว ฉันยังเรียนโรงเรียนเดียวกับนายด้วย พ่ออัจฉริยะ”
คำพูดดังกล่าวทำเอาดวงตาของนาคากระตุกเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะตอบไปด้วยน้ำเสียงที่เริ่มตะกุกตะกักว่า
“ล...ลองคิดดูสิ โรงเรียนเรามีนักเรียนตั้งเท่าไหร่ การจำนักเรียนหนึ่งในพันกว่าคนไม่ได้ ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง”
เธอเงียบ ‘อลิซ’ ยืนนิ่งไปสักพักก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“ถ้าอย่างนั้น นายคิดว่ามันแปลกไหม...ที่นายจำเพื่อนร่วมห้องตัวเองแบบฉันไม่ได้น่ะ”
นาคาเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง เด็กหนุ่มเลื่อนมือที่กำลังสั่นกึกๆ ขึ้นมากระชับแว่นสายตาของตัวเองช้าๆ ก่อนที่เขาจะพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ยังคงเต็มไปด้วยความประหลาดใจออกมาว่า
“เธอ...เรียนห้องเดียวกับฉัน?”
เด็กสาวแสยะยิ้ม
“ใช่ ฉันเรียนห้องเดียวกับนายมาตั้งแต่ ม.ต้นแล้ว”
คำพูดของเธอเอานาคาแทบจะกระเด็นตกเก้าอี้ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เลื่อนมือขึ้นมากุมที่ใบหน้าของตนด้วยความรู้สึกผิด
ราวกับเรื่องตลกร้ายที่เขาจำใบหน้าของเพื่อนร่วมชั้นแบบเธอไม่ได้
ราวกับเรื่องตลกร้ายที่จนถึงเมื่อครู่ ตัวตนของเธอเป็นสิ่งที่แม้เขาจะพยายามนึกเท่าไหร่เขาก็นึกมันไม่ออก
ภาพจางๆ ในอดีตที่ ณ บัดนี้มันกลับช่างชัดเจนจนเขาอยากจะย้อนกลับไปชกหน้าตัวเองที่หลงลืมมันไปได้
ไม่แปลกที่ทำไมเธอถึงบอกว่าเขา ‘ความจำสั้น’ หรือแม้แต่การที่เธอพุ่งเข้ามาชกจากตอนที่เขาบอกว่าเธอเป็นลุงแก่ๆ
“ฉัน...ขอโทษที่จำเธอไม่ได้ อลิซ”
ทว่า แทนที่เธอจะรับคำขอโทษเขาอย่างปกติ เด็กสาวกลับเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิด ก่อนที่จะล้วงมือไปในกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือในมือ เลื่อนนิ้วกดมันไปสักพักก่อนที่จะยื่นภาพบางอย่างมาให้เขาดู
ภาพที่ทำให้เขาต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอีกครั้ง
มันเป็นรูปถ่ายรวมหลังจากการแข่งขันโอลิมปิกคณิตศาสตร์ [IMO] ที่ประเทศจีนเมื่อสองปีก่อนจบลง รูปของตัวเขาในตอนมัธยมต้นที่กำลังยืนถือเหรียญทองกับเพื่อนนักเรียนจำนวนมาก
เพื่อนนักเรียน...ที่หนึ่งในนั้นคือสาวน้อยในกรอบแว่นสีแดงที่กำลังยืนถือเหรียญสีทองเช่นเดียวกับเขาอยู่ที่อีกมุมของภาพถ่าย
“ค่อยๆ นึกก็ได้ ฉันไม่รีบหรอก”
คำพูดกึ่งประชดของเธอทำเอานาคาได้แต่ฝืนยิ้มออกมาบางๆ
ใช่ นอกจากที่ ‘อลิซ’ จะเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขาแล้ว
เธอยังเป็นอดีตเด็กนักเรียนที่เข้าแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิกเช่นเดียวกับเขาด้วย
ความทรงจำที่ราวกับถูกลบล้างไปจากสมอง ไม่ใช่ว่าเขาจำมันไม่ได้ แต่คงจะต้องพูดว่า ‘เขาเลือกที่จะไม่จำมัน’ ตั้งแต่แรก
“ปีนั้นเป็นปีที่คำถามข้อสุดท้ายยากที่สุดนับตั้งแต่มีการจัด IMO ขณะที่คะแนนขั้นต่ำในการได้เหรียญทองปีนั้นก็คือ 26 จาก 42 คะแนน น้อยที่สุดตั้งแต่มีการจัด IMO เช่นกัน”
เธอเว้นวรรคเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดต่อว่า
“ผู้ชนะเหรียญทองมีทั้งหมด 39 คน แต่นายเป็นเพียงคนเดียวที่ได้เพอร์เฟ็คสกอร์ 42 คะแนนเต็ม นอกจากนั้นยังทำลายสถิติของ ‘Noam Elkies’ ผู้ชนะเหรียญทองโอลิมปิกที่อายุน้อยที่สุด [14 ปี] ด้วยอายุเพียงแค่ 13 ปี”
นาคาเลิกคิ้วขึ้นช้าๆ ก่อนที่เขาจะตอบไปว่า
“ข้อมูลแน่นเหมือนกันนี่”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเด็กสาว
“แน่นอน ไม่มีใครชอบความพ่ายแพ้อยู่แล้ว ถึงฉันจะได้เหรียญทองเหมือนกับนาย นาคา แต่การที่นายเป็นคนเดียวที่ได้เพอร์เฟ็คสกอร์มันทำฉันเจ็บใจมากถึงขนาดที่ฉันลงทุนนั่งหาข้อมูลเกี่ยวกับนายเป็นวันๆ หลังจากที่กลับถึงบ้านเลยน่ะนะ”
คำพูดดังกล่าวทำเอาเขาอดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้
“ฮะๆ เธอนี่ ดูเป็นคนที่ไม่ชอบความพ่ายแพ้จริงๆ เลยนะ”
‘อลิซ’ ยักไหล่เบาๆ ก่อนที่เธอจะเดินกลับไปนั่งที่เก่าพร้อมกับ หยิบคุ๊กกี้ช็อคโกแลตขึ้นใส่ปากเคี้ยวหยับๆ เช่นเคย
“ตั้งแต่วันที่นายไปซื้อเกมนั่น ฉันก็พอจะเดาออกว่าอีกไม่นานนายก็ต้องเข้าเกม...แต่การที่นายได้เป็น ERROR User ก็เหนือความคาดหมายมากกว่าที่คิดละนะ" เธอพูด หลังจากที่กลืนคุ๊กกี้ลงไปในลำคอพร้อมกับหยิบแก้วใส่นมขึ้นดื่มเสร็จ
ทั้งสองเงียบไปสักพักก่อนจะเป็นฝ่ายเธอที่พูดออกมาว่า
“หยาดทิพย์ นีรนารา” เธอพูด เลื่อนดวงตามาสบกับที่ใบหน้าของเขา
“นายจะเรียกฉันว่าหยกก็ได้”
เขาพยักหน้า ก่อนที่จะแนะนำตัวออกไปเช่นกันว่า
“นาคา ไพศาลธารา” เขาพูดพลางกระชับแว่นสายตาของตัวเองเบาๆ
“คนส่วนใหญ่เรียกฉันว่านาคา เพราะงั้นเธอก็เรียกฉันว่านาคาก็ได้”
เธอค่อยๆ วางแก้วในมือลงช้าๆ
“ยินดีที่ได้รู้จัก นาคา”
เขาพยักหน้า
“ยินดีที่ได้รู้จักกับเธอเช่นกัน หยก”
“Hey boy, anybody home?
[เฮ้ ไอ้หนู มีใครอยู่บ้านไหม?]”
คำพูดที่ดังขึ้นพร้อมกับมือที่โบกไปโบกมาของ Mr. Tony ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้สอนเรียกสติให้เขากลับมาอยู่กับตัวจากอาการเหม่อลอยไปถึงเรื่องเพื่อนร่วมชั้นที่ยังคงติดในหัวของเขามาจนถึงห้องเรียน
นาคาสบตากับชายผิวสีร่างยักษ์ที่กำลังยืนถลึงตามองเขา ก่อนที่จะก้มหน้ารับผิดพร้อมกับพูดออกไปว่า
“Sorry, Mr.Tony .”
[ขอโทษครับ มิสเตอร์โทนี่]
อาจารย์โทนี่ยืนนิ่งไปสักพัก ก่อนที่ครูชาวต่างชาติจะหัวเราะ ‘Ha ha ha’ ออกมาเสียงดัง พร้อมกับก้มหน้ามาสบตากับเขา เลื่อนมือมาจับที่ไหล่ช้าๆ พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมว่า
“You know boy? In my country we used to strap a slacker kid into a chair, blindfolded him and left him in a room full of cockroaches for 1 night to adjust his behavior.
[รู้ไหมไอ้หนู ประเทศของฉันในอดีต พวกเราเคยจับเด็กขี้เกียจมัดติดกับเก้าอี้ ปิดตาเขาแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ในห้องที่มีแต่แมลงสาปไว้ 1 คืนเพื่อเปลี่ยนแปลงความประพฤติน่ะ]
ดวงตาของนาคากระตุกเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะพูดด้วยใบหน้าเจื่อนๆ ว่า
“Would you mind telling me where is your country sir? (so that I won't be going there.)
[ช่วยบอกได้ไหมครับว่านั่นคือประเทศไหน] (จะได้ไม่ไป)”
“Kek, you’re just an ignorance kid not knowing that, everybody love to go to my country and it’s the most beautiful country in the world! Even the pope wanted to spent his retirement days in my country, you know?
[หึ ไม่รู้ได้ยังไงไอ้หนู ประเทศของฉันน่ะเป็นประเทศที่สวยงามที่สุดในโลก ประเทศที่ทุกคนต่างก็อยากไป! ขนาดโป๊ปยังอยากใช้เวลาหลังเกษียณที่ประเทศของฉันเลยรู้ไหม]”
นาคาหรี่ตาลงอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
“Where is that again?
[นั่นประเทศไหนนะครับ]”
มิสเตอร์โทนี่ฉีกยิ้มยิงฟันสีขาวสว่าง ก่อนที่จะเอ่ยปากออกมาเสียงดังด้วยความภาคภูมิใจว่า
“Uganda!
[ยูกันดาไงล่ะ!]”
นาคาไม่ได้พูดอะไรต่อ เด็กหนุ่มเพียงแค่ยกนิ้วกลางดันแว่นสายตาตัวเองช้าๆ ก่อนที่จะชี้นิ้วไปที่นาฬิกาแขวนที่บอกเวลาบ่ายสอง แล้วจึงหยิบเป้สีดำของตัวเองขึ้นพาดไหล่พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า
“It’s 2 o’clock now so...goodbye and see you next week Mr. Tony.
[นี่ก็เวลาบ่ายสองแล้ว ก็...เจอกันอาทิตย์หน้าครับ มิสเตอร์โทนี่]”
พูดจบนาคาก็เดินออกจากประตู ทิ้งไว้แต่ชายผิวดำร่างยักษ์ที่พึมพำกับตัวเองว่า
“That kid sure is a slacker huh?
[เด็กนั่น...เป็นเด็กขี้เกียจสินะ]”
“จบคลาสแล้วสินะ”
คำพูดถูกเอ่ยขึ้นจากสาวน้อยในชุดกระโปรงยาวซึ่งยืนพิงผนังรอเขาอยู่ที่ทางออกจากห้องเรียนส่วนตัว เธอเดินมาใกล้ๆ เขาก่อนที่จะเหลือบสายตาเข้าไปเห็นยังชื่ออาจารย์เจ้าของคลาสนาคาที่ถูกเขียนอยู่หน้าห้อง
“คอร์สเรียนตัวต่อตัวกับ...มิสเตอร์โทนี่!?” เธอชะงักถอยหลังไปเล็กน้อยทันทีที่เอ่ยชื่อของอาจารย์ผิวหมึก ก่อนที่เด็กสาวจะหันกลับมาสบตากับเขาช้าๆ พร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เริ่มแฝงความนับถือเล็กน้อย
“นายนี่น่ากลัวเป็นบ้า”
นาคาหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามเธอว่า
“ว่าแต่ หลังจากนี้เธอว่างไหม หยก ฉันมีเรื่องที่อยากจะคุยกับเธอเยอะพอสมควรเลยละ”
เธอส่ายหน้าช้าๆ
“ฉันมีธุระน่ะ”
ใบหน้าของนาคาปรากฏแววผิดหวังขึ้นเล็กน้อย
“อย่างนั้น...เองสินะ”
หยกพยักหน้า เธอพูดต่อว่า
“แล้วก็อีกเรื่อง วันนี้ฉันเล่นเกมไม่ได้...ที่ฉันรอบอกนายก็คือสองเรื่องนั่นแหละ”
นาคาพยักหน้ารับ ทั้งสองยืนเงียบไปสักพักก่อนที่ทางฝั่งเด็กสาวกรอบแว่นสีแดงจะทำท่าเหมือนคิดอะไรออก
“อ้อ ฉันลืมไป จริงๆ แล้วยังมีอีกเรื่อง” พูดจบเธอก็ล้วงมือไปในกระเป๋าเป้ด้านหลัง ก่อนที่จะหยิบมือถือของเธอขึ้นมาช้าๆ
“ขอเบอร์โทรศัพท์ของนายไว้หน่อย เผื่อมีเรื่องติดต่อ ยังไงเราก็เพื่อนร่วมชั้นกันอยู่แล้ว จริงไหม นาคา”
คำพูดหน้าตายของเธอทำเอานาคาอดหัวเราะออกมาเบาๆ อีกครั้งไม่ได้
“ฮะๆ เธอนี่ เป็นคนน่าสนใจดีนะ”
“นายเองก็น่าสนใจเหมือนกันนั่นแหละ”
เด็กหนุ่มยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่จะบอกเบอร์โทรศัพท์ของเขาให้กับเธอไป
“เม็มชื่อเอาเป็น ‘จักรพรรดิผู้สูงส่งที่ไม่เคยหันมามองสามัญชน’ หรือ ‘อัจฉริยะผู้จำชื่อเพื่อนร่วมชั้นไม่ได้’ ดีนะ นายช่วยฉันคิดหน่อยสิ นาคา”
“ฉันว่าเอาเป็น ‘ราชาผู้เอาชนะคณิตศาสตร์โอลิมปิกจากสาวน้อยชาวบ้านผู้น่าสงสาร’ ก็ดีเหมือนกันนะ”
เธอยักไหล่พลางมองตรงมาที่เขาด้วยใบหน้ายิ้มๆ
“สุดท้ายก็...ฉันฝากของในเกมให้นาย ลองไปเช็คกับ AI ร้านฝากของประจำหมู่บ้านดู หาไม่ยากหรอก” พูดจบเธอก็หันหลังโบกมือลาพร้อมพูดออกมาว่า
“ไว้เจอกันใหม่ พ่ออัจฉริยะ”
“อื้อ ไว้เจอกันใหม่ หยก”
คำพูดหลุดออกมาจากริมฝีปากพร้อมกับร่างของเธอที่ค่อยๆ เดินลับหายไป
นาคาถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่จะเดินตรงไปยังโซนของว่างพร้อมกับพึมพำกับตัวเองว่า
“ดื่มกาแฟสักหน่อยละกัน...”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

Anyway! I'm loving this series so far and your English is pretty good. How long have you been studying it?
and last but not least...
ตูจะพูดอังกฤษทำไมฟะเนี่ย :v
นั่นสินะครับ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าจะพูดอังกฤษทำไม :3