ตอนที่ 112 : Error : 0x00000106 แบล็คแมมบ้า ปะทะ เดธ แอดเดอร์
ERROR Online : Overkill
ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมอาณาเขตผืนหญ้าเขียวชอุ่มโล่งเบื้องหน้าบ้านไม้เก่าแก่ขนาดใหญ่ พื้นที่ๆ ถูกปกคลุมไปด้วยป่าดงดิบที่อยู่รอบด้านทำหน้าที่คล้ายกำแพงกับสภาพบรรยากาศอบอุ่นที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงแดดในตอนกลางวัน
แอเรียที่คุโระรู้จักดีในชื่อ ‘รังอสรพิษ’
เจ้าของฉายาโลงศพสีดำยืนมองบ้านไม้ประจำกิลด์ สูดอากาศรับกลิ่นลมทะเลที่โชยมาจากท้องทะเลใกล้ๆ ไปสักพักก่อนที่จะตวัดมีดสั้นประจำตัวเก็บไว้ด้านหลังพร้อมกับเรียกดาบสั้นสีแดงขึ้นมาถือไว้ประจำที่มือขวา
อาวุธที่คุโร ฮิทสึกิเลือกใช้ในยามที่เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน ดาบสั้นสีแดงประดับทับทิมบริเวณด้ามดาบ ศาสตราวุธที่ถูกจัดรูปแบบว่าเป็นอาร์ติแฟกซ์ [Artifact] หนึ่งในรูปแบบอาวุธที่เก่าแก่ที่สุดภายในเกมเช่นเดียวกับดาบบัญชาสวรรค์ [Heaven's Will] ของอัจฉริยะผู้เห็นแก่ตัว
อาวุธที่มีเพียง 1 ชิ้นกับชื่อของมันที่ถูกสลักไว้ที่กลางตัวดาบว่า
ชะตากรรมสีแดง [Red Destiny]
“มาอยู่ที่นี่อย่างที่ฉันคิดจริงๆ ด้วย คุโระ”
คือเสียงที่ดังขึ้นจากร่างที่ปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆ เจ้าของเรือนผมสีขาวโพลนที่คุโระรู้สึกได้ถึงตัวตนของอีกฝั่งนับตั้งแต่ที่หมอนี่เข้ามาในแอเรียนี้
เดธ แอดเดอร์กับอาวุธประจำตัวอย่างคูครีคู่เคลือบพิษอัมพาตที่ถูกถือหันคมไปทางด้านหลัง
“รังอสรพิษ แอเรียที่ไม่ใช่ทั้งพื้นทราย [Sand-Based Ground] ที่นายได้เปรียบหรือพื้นผิวคอนกรีต/ดินแข็ง [Solidify Earth / Concrete] ที่ฉันถนัด”
พูดพร้อมกับยักไหล่เบาๆ
“บนผืนหญ้าที่ถือเป็นคอมม่อนกราวน์ [Common Ground] คงจะต้องบอกว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการตัดสินกันซักทีว่าใครเหนือกว่ากันระหว่างฉันกับนาย เดธ”
“เห เตรียมการไว้ดีเลยนี่นา สมกับที่เป็นเพื่อนรักของฉันจริงๆ คุโระ” คือสิ่งที่เดธ แอดเดอร์ พูดออกมาด้วยรอยยิ้มน่าขนหัวลุก พร้อมกับลิ้นที่ถูกยกขึ้นเลียรอบริมฝีปาก
คุโระมองใบหน้าของอีกฝั่งไปสักพัก ก่อนที่จะเพียงแค่หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วจึงพูดต่อไปว่า
“อีกสาเหตุนึงที่ฉันเลือกรังอสรพิษเป็นที่สู้” พูดพร้อมกับตวัดดาบสั้นของตน พร้อมกับตั้งท่าเตรียมที่จะต่อสู้
“ก็เพราะเวลาที่นายแพ้ นายจะได้ไม่มีข้ออ้างอะไรด้วยละนะ”
สิ้นสุดคำพูด เท้าของคุโระก็ดีดสปริงตัวด้วยความรวดเร็วพร้อมกับร่างในชุดดำที่อันตรฐานหายไปจากแอเรีย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงแค่เสี้ยววินาทีก่อนที่คมดาบประกายแดงจะไปปรากฏขึ้นที่ข้างๆ ร่างของนักฆ่าในชุดผ้า
ภาพที่เกิดขึ้นจากร่างของคุโระที่พุ่งตัวด้วยความรวดเร็วเกินกว่าที่นัยน์ตาของมนุษย์จะสามารถมองเห็น แปรเปลี่ยนเป็นริ้วสีดำที่กลายเป็นหนึ่งเดียวกับบรรยากาศก่อนที่จะโผล่ออกมาในทัศนียภาพอีกครั้งกับดาบสีแดงที่กำลังจะถึงช่วงคอของศัตรู
เคร๊ง!!
คือเสียงคมดาบที่ปะทะกันอย่างรุนแรงพร้อมกับร่างของคุโระที่ดีดตัวมาทางด้านหลังและเดธแอดเดอร์ที่เพียงแคยกมือขวาที่ถือคุครีอยู่ปาดไปยังแผลคมดาบแนวขวางที่ใบหน้าของตัวเอง
“เร็วขึ้นกว่าเดิมอีกนี่นา คุโระ”
“นายเองก็เหมือนกัน เดธ”
ร่างในชุดดำพูดพร้อมกับยกมือปาดโลหิตที่เริ่มไหลออกมาจากแผลบริเวณไหล่ของตน
การป้องกันของเดธแอดเดอร์ที่เกิดขึ้นมาอย่างทันท่วงที แม้ตัวคุโระจะทำการพุ่งตัวด้วยความเร็วสูง แต่หมอนี่ก็สามารถที่จะเบี่ยงคมดาบสีแดงให้ผิดเป้าหมาย ทำความเสียหายเพียงแค่เล็กน้อยบนใบหน้า ก่อนที่เดธจะตวัดคมดาบในมือด้วยระยะเวลาเพียงแค่ไม่ถึงเสี้ยวของเสี้ยววินาทีเพื่อโจมตีต่อในจังหวะที่คุโระกำลังกระโดดออกเว้นระยะห่าง
บาดแผลลึกที่บริเวณไหล่ทั้งสองข้าง กับทัศนียภาพที่เริ่มบิดเบี้ยวเล็กน้อยจากพิษอัมพาต ส่วนสำคัญของอาวุธอย่างคูครีสีดำของอีกฝั่ง
อย่างที่คิด ถ้าวัดกันเรื่องความเร็วในการโจมตี ยังไงหมอนี่ก็ได้เปรียบ
การทิ้งระยะห่างแล้วลอบโจมตีระยะไกลไปเรื่อยๆ ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากตัวคุโระเองที่เป็นสายโจมตีระยะใกล้ล้วน [Pure Melee]
“มัวแต่คิดอะไรอยู่ คุโระ”
คำพูดที่ถูกเอ่ยพร้อมกับร่างของเดธ แอดเดอร์ที่พุ่งเข้ามาประชิดด้วยความเร็ว การโจมตีที่คุโระเองไม่ได้เผลอจนลืมสังเกตแต่อย่างใด หากแต่นักฆ่าผู้นี้เองก็ต้องการที่จะให้มันเกิดขึ้นอยู่แล้ว
นัยน์ตาสีหมอกที่มองตามอยู่ตลอดสังเกตยังคมมีดที่พุ่งมาของอีกฝั่งเข้าใสทางด้านข้างซ้ายและขวาของตัวเอง การโจมตีที่โลงศพสีดำเพียงแค่ก้มตัวหลบไปด้านหน้าพร้อมกับดาบสั้นที่ถูกตวัดปาดใส่อีกฝั่งบริเวณต้นขาสองข้าง การกระทำอันรวดเร็วที่เกิดขึ้นจากใบหน้าภายใต้ผ้าปิดปากสีดำที่ยังคงเต็มไปด้วยสมาธิ ก่อนที่จะพุ่งตัวเพื่อทิ้งระยะออกห่าง
“รอให้ฉันเป็นฝ่ายเข้าไปโจมตีก่อน แล้วค่อยอาศัยจังหวะเดียวกันหลบแล้วสวนกลับ ก่อนที่จะทิ้งระยะ ไอเดียดีนี่นา คุโระ”
คือสิ่งที่เดธพูดขึ้นพร้อมกับโลหิตข้นที่ค่อยๆ ไหลลงสู่พื้นจากบาดแผลลึกบริเวณต้นขา
คุโระเพียงแค่ใช้นัยน์ตาสีหมอกจับไปที่อีกฝั่ง มองดูเดธ แอดเดอร์ที่กำลังยิ้มออกมา ก่อนที่จะเหลือบสายตาไปยังโลหิตที่ยังคงปกคลุมอยู่กับดาบสั้นชะตากรรมสีแดงของตนเอง
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับการโจมตีเมื่อครู่ การหลบอีกฝั่งและสวนกลับที่กระทำขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ สร้างความเสียหายสำคัญให้กับเดธไปยังบริเวณต้นขาเพื่อลดความเร็ว
ความเสียหายสำคัญที่เกิดขึ้น...เช่นเดียวกับบาดแผลทางยาวของคมมีดคูคริคู่ที่ปรากฏอยู่บนหลังของคุโระในขณะนี้
ไม่มีจุดบอดอย่างที่คิด เดธแอดเดอร์กับความสามารถในการป้องกันและการโจมตีสวนกลับที่สามารถเกิดขึ้นได้รอบตัว
ความเร็วในการโจมตีที่ฉับไวยิ่งกว่าสายฟ้าฟาด รวดเร็วเสียยิ่งกว่าที่การเคลื่อนที่ของอสรพิษที่เร็วที่สุดในเอเชียอย่างคุโร ฮิทสึกิจะสามารถโจมตีและทิ้งห่างออกจากระยะได้ทัน
ร่างในชุดรัดรูปสีดำสำลักเอาโลหิตสีเข้มออกมาจากพิษบาดแผล จังหวะเดียวกันกับที่เดธ ผู้ที่กำลังยืนเลียโลหิตที่ติดอยู่กับสันดาบคูครีจะพูดขึ้นมาว่า
“ท่าทางดูไม่ค่อยดีเลยนะ แถมความเร็วของนายเองก็ลดลงจากเดิมมาเยอะแล้วไม่ใช่หรือไง...” เดธ แอดเดอร์พูดพร้อมกับตวัดคูครีขึ้นไปในท่วงท่าพร้อมโจมตี เช่นเดียวกับร่างที่ค่อยๆ ก้มตัวลงช้าๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็...ถึงเวลาที่ฉันจะเอาจริงซักทีละ คุโระ”
เสียงพูดดังขึ้นพร้อมกับการเอ่ยทักษะประจำตัวของเดธแอดเดอร์ออกมาว่า
Lurking Death on the Sand
[ความตายที่ซ่อนเร้นบนผืนทราย]
คือเสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างของเดธแอดเดอร์ที่ค่อยๆ จางหายไปในอากาศกลายเเป็นละอองทรายที่ถูกกลืนกินไปกับชั้นบรรยากาศ จังหวะเดียวกันกับที่หมอกทรายบางๆ จะเริ่มค่อยๆ กระจายเข้าสู่ตัวอาณาเขตจากตำแหน่งที่เดธแอดเดอร์เคยยืนอยู่
ดวงตาสีหมอกที่เบิกกว้าง ร่างของคุโระชะงักเพียงชั่วขณะก่อนที่นักฆ่าชุดดำจะรีบเรียกใช้สกิลอย่างฉับพลันว่า
Black Mamba’s Vision [ทัศนวิสัยของแบล็คแมมบ้า]
“ถึงกับต้องเรียกใช้สกิล เห แสดงว่านายเองก็เอาจริงแล้วสินะ คุโระ”
คำพูดที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างของเดธแอดเดอร์ที่อยู่ด้านข้างของคุโระ จังหวะเดียวกันกับสีขาวของดวงตาที่ถูกเปลี่ยนไปดำทะมึนทั้งหมด การเปลี่ยนสภาพของสกิลที่เกิดขึ้นจากปฎิกิริยาตอบสนองด้วยความรวดเร็ว
หากแต่มันก็ยังไม่ฉับไวพอที่จะป้องกันการโจมตีของอีกฝั่งที่กำลังจะมาถึงในขณะนี้
ฉั่วะ!
คมมีดถูกเฉือนเข้าบริเวณต้นแขนซ้ายของคุโระที่ถูกเลื่อนมากัน ก่อนที่มันจะถูกตวัดฟันอีกสองครั้งที่ไหล่และมือซ้ายของนักฆ่าชุดดำต่อด้วยความรวดเร็ว
ใบหน้าของคุโระบิดเบี้ยวเล็กน้อยจากความเจ็บปวด ก่อนที่เจ้าของชุดดำจะดีดตัวทิ้งระยะห่างโดยที่มือข้างขวาของเขาจะไม่ลืมปาดอาวุธโจมตีสวนอีกฝั่งส่งผลให้ค่าความเสียหายคริติคอลเด้งออกมา
“ยังโจมตีสวนฉันทันได้อีกรึไง” เดธพูด ร่างของนักฆ่าชุดเกล็ดงูปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับยกคมมีดประจำตัวสีดำขึ้นมาสูดกลิ่นจากโลหิตข้นที่ไหลชุ่มอยู่บนคูครีของตัวเอง
“อา นายนี่สุดยอดไปเลย คุโระ~” เดธ แอดเดอร์เอ่ยด้วยรอยยิ้มน่าขนลุกดังเดิมก่อนที่เขาจะเลียริมฝีปากของตัวเองราวกับเด็กตัวเล็กๆ ที่ตั้งหน้าตาตั้งตารอคอยจะได้กินของอร่อย
เพียงแต่ในกรณีนี้มันคือตัวคุโร ฮิทสึกิเองที่อาจจะถูก ‘กิน’ โดยอีกฝั่ง
“ไม่ว่าจะเป็นครั้งไหน นายก็เป็นคู่ต่อสู้ที่ทำให้ฉันต้องออกแรงเต็มที่ตลอดเลยนะ เดธ”
เหงื่อเริ่มไหลปกคลุมใบหน้า ขณะที่ดวงตาสีหมอกก็เริ่มพร่าลงจากพิษบนตัวอาวุธของอีกฝั่ง
“นายเองก็ยังเป็น ‘เหยื่อ’ ที่น่าอร่อยมากที่สุดเหมือนเดิมเลย คุโระ”
คำพูดจากใจจริงที่อธิบายตัวตนของอีกฝั่งได้อย่างชัดเจนที่สุดกับมุมมองของเดธแอดเดอร์ต่อสิ่งมีชีวิตทุกประเภทที่ถูกปักตรึงคำนิยามไว้ด้วยคำเดียว
ไม่ว่าจะผู้เล่นที่แข็งแกร่ง ผู้เล่นที่อ่อนแอ ผู้เล่นใหม่หรือผู้เล่นมากประสบการณ์
นักดาบ นักเวทย์ ปีศาจ เทพเจ้าหรือแม้แต่จอมมารที่ต้องการจะทำลายล้างโลก
สำหรับหมอนี่ ไม่ว่าอีกฝั่งจะเป็นอะไร ไม่ว่าตัวตนของอีกฝั่งจะเป็นบุคคลในระดับตำนานหรือว่าจะเป็นขอทานที่ถูกมองว่าไร้ค่าจากสังคม
ทุกคนต่างก็เท่าเทียมกันหมดในความคิดของเดธ แอดเดอร์
ในสายตาของเดธ เหยื่อที่แข็งแกร่ง เหยื่อที่อ่อนแอ เหยื่อที่รวดเร็ว เหยื่อที่เชื่องช้า
ไม่ว่าจะมีนิยามอะไรมาต่อท้ายหรือนำหน้า
‘เหยื่อ’ ก็ยังเป็นสิ่งที่มีขึ้นเพื่อให้ ‘เดธ แอดเดอร์’ ล่าอยู่ดี
“นายจำตอนที่ฉันเจอกับนายครั้งแรกได้หรือเปล่า คุโระ”
“จะให้ลืมได้ยังไง ผู้เล่นใหม่ที่เพิ่งเข้ากิลด์เป็นวันแรกแต่ก็เดินดุ่มๆ เข้ามาขอท้าดวลแบบนั้นน่ะ”
จะว่าไปตั้งแต่ตอนที่เจอหมอนี่เป็นครั้งแรกแล้ว คุโระก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างไปจากคนอื่นภายในแววตา
นัยน์ตาสีเหลืองอ่อนที่ดูราวกับสัตว์เลือดเย็น กับความกระหายเลือดที่แฝงลึกไปถึงภายในสัญชาติญาณของอีกฝั่ง
ตัวตนที่ถูกสรรสร้างขึ้นจากพระผู้เป็นเจ้าเพื่อให้กลายเป็นผู้ล่าที่แท้จริง
“ฉันเองก็ถูกใจนายมาตั้งแต่ตอนนั้นเหมือนกันคุโระ”
คือสิ่งที่เดธพูด ขณะที่คุโระเองก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่นักฆ่าชุดดำจะตวัดดาบสั้นสีแดงขึ้นมาถือในรูปแบบคมด้านหลังที่มือขวา
“นายรู้จักดาบที่ฉันถืออยู่นี่มากแค่ไหน เดธ”
คือคำถามที่ถูกเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดในการต่อสู้
นักฆ่าในชุดเกล็ดงูหรี่ตาลงเล็กน้อยด้วยความแปลกใจอยู่สักครู่กับความรู้สึกรอบตัวคุโระที่เปลี่ยนไป ก่อนที่เขาจะตอบออกมาว่า
“ชะตากรรมสีแดง ดาบสั้นที่นายจะใช้แต่ในเวลาเอาจริงกับคนอื่น...”
ร่างในชุดรัดรูปสีดำพยักหน้า
“ความสามารถของมันอย่างแรก นายเองก็น่าจะรู้แล้วใช่ไหม เดธ”
คำพูดที่ถูกเอ่ยพร้อมกับการพยักหน้าช้าๆ ของเดธ แอดเดอร์
“การโจมตีของอาวุธนั่นจะติดคริติคอลทุกครั้งสินะ...คุโระ”
โลงศพสีดำพยักหน้า พร้อมกับคมดาบที่ถูกเปลี่ยนท่าทางให้อยู่ในสแตนซ์หรือการยืนของนักฆ่าที่ใช้การหันคมไปยังด้านหลังแทน
“ทีนี้ก็เข้าสู่คำถามต่อไป การโจมตีระหว่างฉันกับนายเกิดขึ้นไปทั้งหมดกี่ครั้งแล้ว เดธ”
คราวนี้ทางฝั่งเดธแอดเดอร์ได้แต่หรี่คิ้วตัวเองอย่างงงๆ ก่อนที่จะตอบไปตามความจริงว่า
“นายก็รู้ ฉันจำเรื่องแบบนั้นไม่ได้หรอกคุโระ”
คือคำตอบของอีกฝั่ง ซึ่งคุโระเองก็พอจะเดาออกได้อยู่แล้ว ร่างในชุดดำเพียงแค่ยืนนิ่งสบตากับเดธแอดเดอร์ไปสักพัก ก่อนจะพูดออกไปว่า
“การโจมตีครั้งต่อไปของฉันจะเป็นการโจมตีครั้งสุดท้าย”
เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับดาบสั้นที่ถูกกระชับให้แน่นขึ้นไปอีก ภาพที่เริ่มลายตากับอาการหอบหายใจและเหงื่อที่ไหลชุ่มไปทั่วร่างนั้นบ่งบอกว่าตัวคุโระเองคงจะเหลือเวลาไม่มาก นักฆ่าชุดดำยืนรวบรวมสมาธิอยู่สักพัก ก่อนที่จะพูดทิ้งท้ายไว้เพียงแค่ว่า
“และนั่น...จะเป็นการโจมตีที่จะจบชีวิตของนาย เดธ”
สิ้นสุดคำพูดร่างของคุโระก็หายไปจากทัศนียภาพ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ร่างของเดธเองก็เริ่มจางหายไปกับสายลมทิ้งไว้เพียงแค่ละอองทรายกับรอยยิ้มของเขาที่ค่อยๆ เลือนหายไปในอากาศ
เหตุการณ์เพียงชั่วระยะเวลาไม่ถึงวินาทีของผู้ใช้ความเร็วทั้งสอง เดธแอดเดอร์และแบล็คแมมบ้า ศึกระหว่างทั้งสองอสรพิษที่กำลังจะมาถึงจุดจบจากการโจมตีครั้งสุุดท้ายที่จะตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะ
ฉึก!
คือเสียงที่ดังออกมาก่อนที่ร่างของใครบางคนจะปรากฏขึ้นบนอากาศ ชุดสีดำของนักฆ่าที่ปรากฏชัดเด่นหรากับดาบสั้นในมือสีแดงที่เต็มไปด้วยโลหิต
ร่างของโลงศพสีดำที่ค่อยๆ ร่วงหล่นลงไปกับพื้นพร้อมกับบาดแผลลึกจากของมีคมที่ฟันตวัดเข้ากับสีข้างทั้งสองด้านกินลึกไปจนถึงซี่โครงที่ปรากฏรอยกระดูกสีขาวโพลนขึ้นมาให้เห็น
ศึกตัดสินที่ได้จบลงไปในเวลาไม่กี่วินาที เหตุการณ์ที่ไม่มีผู้เล่นธรรมดาคนไหนสามารถจะมองตามทันได้กับความเร็วที่เหนือมนุษย์ของทั้งสองอสรพิษ
เกิด...อะไรขึ้นกันแน่
ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว
เดธแอดเดอร์ในทักษะพรางตัว ‘ความตายที่ซ้อนเร้น’ เหลือบมองไปยังร่างของคุโระที่เขาเห็นเป็นเพียงแค่เงาสีดำพุ่งมาที่ตัวเอง
การโจมตีครั้งสุดท้ายของคุโระที่หมอนั่นพูดไว้กับเขา คมดาบสีแดงที่ถูกตวัดพุ่งออกมาจากร่างที่ตัดอากาศเป็นริ้วตรงมายังตัวเขา
ภาพที่เกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วอึกใจก่อนที่ร่างดังกล่าวจะจางหายไปกับดวงตาที่เบิกขึ้นกว้างของเดธแอดเดอร์
นี่มัน...
Mirage Effect
ทริกพื้นฐานของสายอาชีพนักฆ่า ทักษะระดับกลางกับการทิ้งภาพติดตากลับด้านโดยใช้การเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วเหนือการมองเห็น ทิ้งร่างของตัวเองเพื่อให้อีกฝั่งสับสนก่อนที่จะปรากฏตัวออกมาอีกด้านเพื่อที่จะทำการสังหาร
ร่างของอีกฝั่งที่ปรากฏขึ้นมาจากด้านหลังกับความรู้สึกสัมผัสที่เดธสามารถรู้สึกได้จากแรงสั่นสะเทือนของละอองทรายที่อยู่รอบๆ ตัว คงจะต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกกับตัวของคุโระ นับแต่ที่ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันมา
การโจมตีครั้งสุดท้ายที่คุโระพูดออกมาซะดิบดีนั่นน่ะ
มันช่างเป็นอะไรที่...
น่าผิดหวังซะจริงๆ
คูครีคู่ถูกตวัดไปเข้ากับสีข้างของอีกฝั่งด้วยความรวดเร็ว กับการโจมตีที่เกิดขึ้นในเศษเสี้ยวของวินาทีของเดธแอดเดอร์ การโจมตีที่แม้แต่เขาก็คาดเดาไว้แล้วว่าอีกฝั่งไม่มีทางที่จะหลบมันได้
ทว่า…
น่าประหลาด มันไม่ใช่ว่าหมอนี่จะสามารถหลบการโจมตีของเขาได้ หรือจะพูดไปแล้วภาพที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าของเดธ แอดเดอร์มันก็ตรงตามที่เขาคิดไว้โดยส่วนใหญ่
เพียงแต่…
การโจมตีที่พุ่งเข้าไปทำความเสียหายกับสีข้างของคุโระอย่างรุนแรง การสวนกลับที่เดธ แอดเดอร์เดาว่าแม้แต่คุโระเองก็ไม่มีทางที่จะคาดถึงแต่สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้ากลับเป็นนัยน์ตาสีหมอกที่ไร้ซึ่งความแปลกใจราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่อีกฝั่งคาดคิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดขึ้น
กับการรับการโจมตีซึ่งหน้าที่เป็นอะไรที่ขัดกับหลักของอาชีพนักฆ่าอย่างสุดโต่ง
ไม่ใช่ว่าจะหลบไม่ได้ จากสายตาที่ยังคงเต็มไปด้วยสมาธิของฝั่งตรงข้ามที่กำลังจับตรงมาที่ใบหน้าของเดธอยู่ในขณะนี้
คุโระ...หมอนี่เลือกที่จะไม่หลบมันตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือไง
“คำตอบของคำถามเมื่อกี้จนถึงตอนนี้ก็คือ”
คือคำพูดที่ดังขึ้นมาทำลายความคิดจากริมฝีปากของคุโระ พร้อมกับคมดาบสีแดงที่พุ่งตรงมีที่ลำคอของเดธแอดเดอร์
คมดาบ...ที่ถูกเพิ่มจำนวนของมันขึ้นจากหนึ่งเป็นสอง ดาบสีแดงที่กำลังเปล่งประกายเข้มราวกับสัตว์ร้ายกระหายเลือด บนทั้งมือซ้ายและมือขวาของคุโระที่พุ่งตรงมาที่ตัวเดธด้วยความรวดเร็ว
“สิบสองครั้ง”
ฉั่วะ!
Red Destiny : The Thirteenth Death
[ชะตากรรมสีแดง : ความตายครั้งที่ 13]
นี่มัน...ชาโดว์ เวพ่อน [Shadow Weapon]
ทักษะขั้นสูงของนักฆ่าสายเงา ความสามารถที่จะจำลองความสามารถทุกอย่างของอาวุธในมือหลัก [Main-Hand] การเสกสร้างอาวุธเงาที่มีความสามารถแบบเดียวกันหมดขึ้นมาถือยังมือรอง [Off-Hand] ทำให้ตัวเองกลายเป็นผู้ใช้อาวุธสองมือ [Dual-Wielder]
ความคิด...ที่เกิดขึ้นในหัวพร้อมกับทัศนียภาพของรังอสรพิษเริ่มเอียงลงช้าๆ ก่อนที่ ‘เขา’ จะค่อยๆ ตกลงสู่พื้น พร้อมกับโลหิตที่ไหลทะลักออกมาจากปากและบริเวณลำคอ
เช่นเดียวกับเปลือกตาที่เริ่มหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ
ให้ตายสิ...
คือความคิดสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ในหัว พร้อมกับสติที่เริ่มหลุดลอยหายไปของเดธ
อาณาเขตที่เริ่มเปลี่ยนสภาพจากผืนหญ้ากลายเป็นความหนาวเหน็บที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนที่มันจะหลงเหลือไว้เพียงแค่ความมืดกลืนกินทุกสิ่ง
นายนี่มัน...สุดยอด...อย่าง...ที่คิด...จริงๆ…
คุโระ...
“แฮ่ก...แฮ่ก”
คือเสียงหอบหายใจที่ดังขึ้นจากร่างของคุโระที่เต็มไปด้วยบาดแผลสาหัส ร่างในชุดดำในสภาพร่อแร่กับอาการสำลักโลหิตร้อนสีดำออกมาจากลำคอที่บ่งบอกว่าการต่อสู้เมื่อกี้กินแรงของตนเองมากกว่าที่คิด
คุโร ฮิทสึกิคิดพลางเหลือบสายตาไปมองดูอาวุธภายในมือของตนเอง
ใช้ยากกว่าที่คิด...แต่ก็คุ้มค่ากับความเสี่ยง
อาวุธระดับอาร์ติแฟกซ์ที่มีทักษะติดตัวเน้นไปที่การโจมตีแบบคริติคอล
ชะตากรรมสีแดง [Red Destiny]
กับความสามารถติดอาวุธอันแรก การการันตีการติดคริติคอลว่ามันจะสามารถสร้างความเสียหายได้ขั้นต่ำคือสองเท่าของพลังโจมตีแน่นอน
ส่วนทักษะประจำอาวุธอันที่สองที่เป็นประเด็นหลักในการทำให้ ‘ความตายครั้งที่ 13’ ร้ายแรงมากจนถึงขั้นที่สามารถจะทำการปลิดชีพผู้เล่นระดับสูงหรือแม้แต่แรงค์กิ้งยูสเซอร์ได้ภายในครั้งเดียว
ความตายสีชาด [Death in Red]
ทักษะติดอาวุธที่ทำให้การคริติคอลสามารถที่จะซ้อนทับกันได้อย่างไม่จำกัด [Allows Critical Stacking]
หรือก็คือ หากอัตราคริติคอลของคุโระเกิน 100% มันจะถูกปัดไปเป็นอัตราคริติคอลลำดับที่ 2 [2nd Sequence Critical Stacks] และลำดับที่ 3 [3rd Sequence Critical Stacks] ลำดับที่ 4 [4th Sequence Critical Stacks] ต่อไปเรื่อยๆ
อธิบายง่ายๆ ก็คือหากคุโระมีอัตราคริติคอล 200% หมายความว่าทุกการโจมตีของคุโระจะออกมาเป็นความเสียหายสี่เท่าของการโจมตีปกติ [2 เท่าคูณกับ 2 เท่า]
เมื่อนำมาใช้กับทักษะความตายครั้งที่ 13 ที่เป็นการเพิ่มอัตราคริติคอลของการโจมตีครั้งที่ 13 จากทั้งสองฝ่ายตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น [13th hit from both side since fight started] ขึ้นอีก 1,300% ทำให้ความเสียหายดังกล่าวเป็นความเสียหายที่มากเสียจนไม่อาจจะมียูสเซอร์คนไหนต้านทานได้
ยิ่งเมื่อรวมกับทักษะชาโดว์เวพ่อนที่ถูกใช้จำลองอาวุธแล้ว หมายความว่าหากคุโระสามารถที่จะโจมตีครั้งที่สิบสามด้วยอาวุธทั้งสองชิ้นได้สำเร็จ การโจมตีที่เกิดขึ้นในจังหวะเดียวกันนั้นจะนับเป็นการโจมตีครั้งที่ 13 ทั้งคู่
ถึงจะเป็นทักษะที่เสี่ยง แต่หากสามารถทำตามเงื่อนไขได้แม้จะเป็นผู้เล่นอย่างอัจฉริยะผู้เห็นแก่ตัว หรือเควินผู้พิชิตสวรรค์ หรือไม่ก็แม้แต่สัตว์ประหลาดน่ากลัวที่สุดในทวีปเอ็นโทร่า
คุโระก็สามารถที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้หากการโจมตีครั้งที่ 13 ถูกเป้าหมาย
“ขอพักสักหน่อย...แล้วกัน”
เสียงพูดเอ่ยออกมาอย่างอ่อนแรงพร้อมกับเปลือกตาที่ค่อยๆ ปิดลงช้าๆ เสียงหอบหายใจที่ดังขึ้นมาจากร่างในชุดรัดรูปสีดำแผ่วเบาขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่คำพูดทิ้งท่ายจะถูกเอ่ยภายใต้ผ้าปิดปากสีดำว่า
“ฝากที่เหลือด้วย...นาคา...เจ้าหญิง...ยูริ”
บันทึกข้อมูลลับ [Secret Data Entry]
สมาชิกกิลด์อสรพิษ [The Serpent's Member]
User : เดธ [ฺDeath]
Alias : เดธ แอดเดอร์ [Death Adder]
Class : ??? Level : 139
Evaluation [ประเมินความสามารถ]
Strength : A Agility : EX----
Endurance : B Range : D
Ability : A+ Magic : E--
Luck : C+ Growth Potential : ??
Forte [ความถนัด] : Sand Dweller [ผู้อาศัยบนผืนทราย] “Faster Than a Blink of an Eye” Attack Speed [ความเร็วในการโจมตีที่ “ยิ่งกว่าการกระพริบตา”] Ambush [ซุ่มโจมตี] “Apex” Predator [นักล่าผู้ยืนอยู่บน “จุดสูงสุด” ของห่วงโซ่อาหาร]
Weakness [จุดอ่อน] : “Mediocre” Equipment [อุปกรณ์สวมใส่ระดับ “ธรรมดาๆ”]
หากท่านใดชื่นชอบผลงาน ทางไรท์เตอร์ก็อยากจะเชิญชวนช่วยเข้าไปกดไลค์เพจด้านล่างด้วยนะครับ
หรือหากไม่สะดวกก็สามารถคอมเมนท์หรือกดติดตามในหน้านิยายแทนกำลังใจได้ครับผม
https://www.facebook.com/ERROR.Online
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อย่างที่สองคือเดธน่าจะสนใจความสามารถด้านความเร็วของตัวเองมากกว่าครับ เพราะฉะนั้นชุดสะท้อนที่เดาว่าน่าจะไม่เพิ่มค่าความเร็ว
เขาน่าจะไม่สน
#คูต่อไปปปป
#สู้ๆนะไรท์~
รู้ผลแล้วววว หนึ่งคู่~