ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความทรงจำกับคำว่า เพื่อน
เมื่อเวลาเที่ยงเกือบบ่ายของวันที่ 17 เมษายน 2549
เราเพิ่งจะขึ้นห้องเรียนมาจากทานข้าวกลางวัน พอไปถึงโต๊ะเรียนของตัวเองก็เริ่มเปิดสมุดเล่มนึงขึ้นมา พร้อมกับเขียนข้อความลงไป...
แสงสว่างที่เคยอยู่ตรงหน้า ทำไมมันค่อยๆ มัวลงล่ะ แสงสว่างเล็กน้อยที่เคยพยายามประคับประคองไม่แสงอ่อน ทำไมตอนนี้มันค่อยๆ จาง ราวกับว่าจะหายไปเสียเฉยๆ ล่ะ
คำถามที่วนไปเวียนมา คอยถามกับตัวเองอยู่ตลอด ไม่รู้จะว่ายังไงดี ใครจะบอกคำตอบได้นะ ในเมื่อ... เรายังไม่รู้เลย นั่นสินะ จะมีใครมาตอบให้รึเปล่า
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาในแต่ละวัน ดูเหมือนๆ กันหมดเลยเนอะ แต่ทำไมเรารู้สึกว่าวันนี้... มันไม่ค่อยเหมือนวันอื่นเลย... ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง สับสนจัง ใครก็ได้ช่วยบอกที จะมีมั้ยนะ คนที่ตอบคำถามนี้ให้เราเข้าใจได้
เช้าทุกวันมักจะเริ่มอย่างสดใส คงใช่ มักจะแจ่มใส เกือบทุกคนแหละ ส่วนเราน่ะหรอ ก็ไม่ค่อยหรอก เพราะเมื่อคืนนอน ตี 1.30 น. แม่ปลุก ตี 5 แต่รถโรงเรียนมา 6.30 น. รถมาถึงโรงเรียนเร็วมาก ยังไม่ 7 โมงเลยละมั้ง ซื้อมาม่ากระป๋องกิน เข้ามาเจอหยก ก็ไม่คิดอะไร นั่งกินมาม่าไปเรื่อยๆ บีมา มิ้นมา นั่งคุยกันสนุกดี ครูให้ไปตักน้ำแข็ง 2 กระติก ไปตักกับบี กลับมานั่งคุย เพื่อนๆ กลุ่มอื่นมา จ่างมาเรานั่งเล่าเรื่องพี่โด๋ยให้ฟัง อืม... ขึ้นห้อง เรียนคอมฯ วิชาแรก วันนี้ทิพย์ไม่มานั่งเรียนไปสักพักมิ้วก็มา มาถึงก็โวยวายบ่นนู่นบ่นนี่แต่ไม่บอกให้ชัดๆ ว่าเป็นอะไร ชักจะยังไงแล้วสิ ขึ้นห้องเรียนไทย มิ้วมัวแต่นั่งทำฝรั่งเศส เรานั่งวาดรูป ส่วนจ่าง... ก็หลับ ครูสั่งงาน เราก็ดันทำน้ำเขียวหกอีก เอากระดาษทิชชู่ที่อยู่ใต้โต๊ะข้างๆมาใช้ หกเยอะไปหน่อย ไปเดินโฉบหาผ้าแถวๆ หลังห้อง ไม่เจอ ขอครูออกไปห้องน้ำ ตอนแรกกะจะหาผ้า ไม่เจอเลยนั่งล้างกระโปรงตัวเองแทน มิ้วตามออกมาถามหาผ้า ไม่มีเลยใช้ไม้ถูแทน นึกว่าจะเอามาถูที่ทำหกให้ แต่เอาไปถูที่เปียกน้ำแทน บอกให้ถูใต้โต๊ะให้หน่อย ก็ไม่มีอะไร เราไม่คิดอะไร แต่พอกลับมานั่งไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมเกลียดขี้หน้ามิ้วขึ้นมานะ ก่อนพักมิ้วยืมไวยากรณ์ฝรั่งเศส ภาษาไทยมิ้วแปลงานผิดๆ แล้วพอพักก็รีบลงไป ตอนแรก เราคิดว่า มิ้วเอาสมุดลงไปด้วย เลยไม่สนใจ นั่งบนห้องคุยเล่นกับจ่าง ถึงเวลาเดินลงไปเรียน ไปถึง ป่านกับหนึ่งแย่งที่นั่ง เลยมานั่งข้างๆ แทน จองที่ริมนอกให้ตัวเอง ไปเดินเล่นนอกห้องเจอมิ้วขอสมุดคืน มิ้วบอกไม่ได้เอาลงมา วิ่งขึ้นห้องถามจ่าง ก็ไม่เจอ พอลงมา เห็นมิ้วนั่งตรงที่เราจองไว้ เริ่มโมโหนิดๆ เข้าไปถามมิ้วเรื่องสมุดอีก
มิ้ว : อยู่บนห้องนั่นแหละ หาดีรึยัง
เรา : อืม หาแล้ว ไม่เจอ (ไม่งั้นจะถามแกหรอ)
มิ้ว : หรอ อืม... มันอยู่ในกระเป๋าเรารึเปล่า
เรา : ดูแล้ว ไม่มี
มิ้ว : ...
เราเข้าไปนั่งข้างๆถัดจากมิ้ว นั่งอย่างเงียบๆ วาดรูปในสมุด เรารู้ตัวดีว่าเรากำลัง...โกรธ... ใช่ เป็นมากด้วยล่ะ เราพาลกับของรอบๆ ตัว มิ้วพูดขึ้นมาเรื่อยๆ เราไม่ฟังเท่าไหร่ แล้วก็สะดุดกับประโยคนึง
มิ้ว : โอ๊ย แกอย่างี่เง่านักเลย มันไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไรนี่ ต่อให้หายจริง เดี๋ยวเราทำให้ใหม่ก็ได้
ความคิดหยุดชะงัก... ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไร... สมุดไวยากรณ์หายแต่เธอกลับบอกว่า ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสงั้นหรอ บอกจะทำให้ใหม่ ครูต้องตรวจลายมืออีก บ้ารึเปล่า แล้วที่เราจดคำอ่านส่วนตัวไว้ในนั้นละ จะให้มันกลับมายังไง พูดง่ายเนอะ...
มิ้วขอครูขึ้นไปหยิบของ ลงมาเอาสมุดส่งให้ แล้วบ่นใส่เราอีก...
เพื่อน...มันหมายความว่ายังไงกันแน่นะ คำนี้น่ะ
ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไร... รู้มั้ย ประโยคนี้ มันเสียดแทงหัวใจเรา นี่หรอ...คำพูดที่จะใช้ปลอบใจคนที่เธอเรียกว่า เพื่อน ไม่เคยรู้ละสิ คำนี้น่ะ เราให้ความสำคัญแค่ไหน ไม่รู้ละสิว่า ที่เธอพูดน่ะ มันเหมือนเป็นดาบที่คอยฟาดฟันเรา ให้ค่อยๆ ถอยตกลงไปในหลุม หลุมที่เราคิดว่า เราเคยลงไปแล้วครั้งหนึ่ง อยากให้เราลงไปในนั้นอีกหรอ ลงน่ะลงได้นะ แต่เราไม่มั่นใจเลยว่าจะขึ้นมาได้อีกรึเปล่า
เพื่อน ที่เรามอบให้เธอเมื่อวันวาน เราชักจะไม่แน่แล้วสิ เราคิดถูกแล้วหรอที่มอบคำๆ นี้ให้เธอ แสงสว่างมันช่างริบหรี่นัก จะมีใครมาเติมเชื้อ ให้มันลุกขึ้นมาอีกรึเปล่า
ช่วยทำให้เรามั่นใจหน่อยสิว่า เราคิดไม่ผิดที่มอบสิ่งสำคัญนี้ให้เธอ
เราไม่รู้ใจตัวเองเหมือนกัน ว่าจะรอได้ถึงเมื่อไหร่ แผลที่เธอเป็นคนสร้างเรากำลังรอนะ รอให้เธอมาเยียวยามัน ก่อนที่มันจะเป็นเพียงแผลเป็นให้เราติดไปในความทรงจำอันเลวร้าย...
เราเพิ่งจะขึ้นห้องเรียนมาจากทานข้าวกลางวัน พอไปถึงโต๊ะเรียนของตัวเองก็เริ่มเปิดสมุดเล่มนึงขึ้นมา พร้อมกับเขียนข้อความลงไป...
แสงสว่างที่เคยอยู่ตรงหน้า ทำไมมันค่อยๆ มัวลงล่ะ แสงสว่างเล็กน้อยที่เคยพยายามประคับประคองไม่แสงอ่อน ทำไมตอนนี้มันค่อยๆ จาง ราวกับว่าจะหายไปเสียเฉยๆ ล่ะ
คำถามที่วนไปเวียนมา คอยถามกับตัวเองอยู่ตลอด ไม่รู้จะว่ายังไงดี ใครจะบอกคำตอบได้นะ ในเมื่อ... เรายังไม่รู้เลย นั่นสินะ จะมีใครมาตอบให้รึเปล่า
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาในแต่ละวัน ดูเหมือนๆ กันหมดเลยเนอะ แต่ทำไมเรารู้สึกว่าวันนี้... มันไม่ค่อยเหมือนวันอื่นเลย... ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง สับสนจัง ใครก็ได้ช่วยบอกที จะมีมั้ยนะ คนที่ตอบคำถามนี้ให้เราเข้าใจได้
เช้าทุกวันมักจะเริ่มอย่างสดใส คงใช่ มักจะแจ่มใส เกือบทุกคนแหละ ส่วนเราน่ะหรอ ก็ไม่ค่อยหรอก เพราะเมื่อคืนนอน ตี 1.30 น. แม่ปลุก ตี 5 แต่รถโรงเรียนมา 6.30 น. รถมาถึงโรงเรียนเร็วมาก ยังไม่ 7 โมงเลยละมั้ง ซื้อมาม่ากระป๋องกิน เข้ามาเจอหยก ก็ไม่คิดอะไร นั่งกินมาม่าไปเรื่อยๆ บีมา มิ้นมา นั่งคุยกันสนุกดี ครูให้ไปตักน้ำแข็ง 2 กระติก ไปตักกับบี กลับมานั่งคุย เพื่อนๆ กลุ่มอื่นมา จ่างมาเรานั่งเล่าเรื่องพี่โด๋ยให้ฟัง อืม... ขึ้นห้อง เรียนคอมฯ วิชาแรก วันนี้ทิพย์ไม่มานั่งเรียนไปสักพักมิ้วก็มา มาถึงก็โวยวายบ่นนู่นบ่นนี่แต่ไม่บอกให้ชัดๆ ว่าเป็นอะไร ชักจะยังไงแล้วสิ ขึ้นห้องเรียนไทย มิ้วมัวแต่นั่งทำฝรั่งเศส เรานั่งวาดรูป ส่วนจ่าง... ก็หลับ ครูสั่งงาน เราก็ดันทำน้ำเขียวหกอีก เอากระดาษทิชชู่ที่อยู่ใต้โต๊ะข้างๆมาใช้ หกเยอะไปหน่อย ไปเดินโฉบหาผ้าแถวๆ หลังห้อง ไม่เจอ ขอครูออกไปห้องน้ำ ตอนแรกกะจะหาผ้า ไม่เจอเลยนั่งล้างกระโปรงตัวเองแทน มิ้วตามออกมาถามหาผ้า ไม่มีเลยใช้ไม้ถูแทน นึกว่าจะเอามาถูที่ทำหกให้ แต่เอาไปถูที่เปียกน้ำแทน บอกให้ถูใต้โต๊ะให้หน่อย ก็ไม่มีอะไร เราไม่คิดอะไร แต่พอกลับมานั่งไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมเกลียดขี้หน้ามิ้วขึ้นมานะ ก่อนพักมิ้วยืมไวยากรณ์ฝรั่งเศส ภาษาไทยมิ้วแปลงานผิดๆ แล้วพอพักก็รีบลงไป ตอนแรก เราคิดว่า มิ้วเอาสมุดลงไปด้วย เลยไม่สนใจ นั่งบนห้องคุยเล่นกับจ่าง ถึงเวลาเดินลงไปเรียน ไปถึง ป่านกับหนึ่งแย่งที่นั่ง เลยมานั่งข้างๆ แทน จองที่ริมนอกให้ตัวเอง ไปเดินเล่นนอกห้องเจอมิ้วขอสมุดคืน มิ้วบอกไม่ได้เอาลงมา วิ่งขึ้นห้องถามจ่าง ก็ไม่เจอ พอลงมา เห็นมิ้วนั่งตรงที่เราจองไว้ เริ่มโมโหนิดๆ เข้าไปถามมิ้วเรื่องสมุดอีก
มิ้ว : อยู่บนห้องนั่นแหละ หาดีรึยัง
เรา : อืม หาแล้ว ไม่เจอ (ไม่งั้นจะถามแกหรอ)
มิ้ว : หรอ อืม... มันอยู่ในกระเป๋าเรารึเปล่า
เรา : ดูแล้ว ไม่มี
มิ้ว : ...
เราเข้าไปนั่งข้างๆถัดจากมิ้ว นั่งอย่างเงียบๆ วาดรูปในสมุด เรารู้ตัวดีว่าเรากำลัง...โกรธ... ใช่ เป็นมากด้วยล่ะ เราพาลกับของรอบๆ ตัว มิ้วพูดขึ้นมาเรื่อยๆ เราไม่ฟังเท่าไหร่ แล้วก็สะดุดกับประโยคนึง
มิ้ว : โอ๊ย แกอย่างี่เง่านักเลย มันไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไรนี่ ต่อให้หายจริง เดี๋ยวเราทำให้ใหม่ก็ได้
ความคิดหยุดชะงัก... ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไร... สมุดไวยากรณ์หายแต่เธอกลับบอกว่า ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสงั้นหรอ บอกจะทำให้ใหม่ ครูต้องตรวจลายมืออีก บ้ารึเปล่า แล้วที่เราจดคำอ่านส่วนตัวไว้ในนั้นละ จะให้มันกลับมายังไง พูดง่ายเนอะ...
มิ้วขอครูขึ้นไปหยิบของ ลงมาเอาสมุดส่งให้ แล้วบ่นใส่เราอีก...
เพื่อน...มันหมายความว่ายังไงกันแน่นะ คำนี้น่ะ
ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไร... รู้มั้ย ประโยคนี้ มันเสียดแทงหัวใจเรา นี่หรอ...คำพูดที่จะใช้ปลอบใจคนที่เธอเรียกว่า เพื่อน ไม่เคยรู้ละสิ คำนี้น่ะ เราให้ความสำคัญแค่ไหน ไม่รู้ละสิว่า ที่เธอพูดน่ะ มันเหมือนเป็นดาบที่คอยฟาดฟันเรา ให้ค่อยๆ ถอยตกลงไปในหลุม หลุมที่เราคิดว่า เราเคยลงไปแล้วครั้งหนึ่ง อยากให้เราลงไปในนั้นอีกหรอ ลงน่ะลงได้นะ แต่เราไม่มั่นใจเลยว่าจะขึ้นมาได้อีกรึเปล่า
เพื่อน ที่เรามอบให้เธอเมื่อวันวาน เราชักจะไม่แน่แล้วสิ เราคิดถูกแล้วหรอที่มอบคำๆ นี้ให้เธอ แสงสว่างมันช่างริบหรี่นัก จะมีใครมาเติมเชื้อ ให้มันลุกขึ้นมาอีกรึเปล่า
ช่วยทำให้เรามั่นใจหน่อยสิว่า เราคิดไม่ผิดที่มอบสิ่งสำคัญนี้ให้เธอ
เราไม่รู้ใจตัวเองเหมือนกัน ว่าจะรอได้ถึงเมื่อไหร่ แผลที่เธอเป็นคนสร้างเรากำลังรอนะ รอให้เธอมาเยียวยามัน ก่อนที่มันจะเป็นเพียงแผลเป็นให้เราติดไปในความทรงจำอันเลวร้าย...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น