ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Black N Blue (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #25 : Black N Blue❖Everything started from 'force' 24

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.06K
      48
      7 ก.พ. 63

    คำเตือน :: บางช่วงบางตอนมีความรุนแรง เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของตัวเกมแต่อย่างใด ฉากที่มีเนื้อหาเรท R จะไม่อัพลงเด็กดี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


    Song :: Faded -  Madilyn Bailey Cover


    EPISODE24

    Alternative Universe 01Everything started from 'force'


    คุกเก่าคับแคบในนรกไม่ใช่สถานที่ที่น่าอภิรมย์เท่าใดนัก

    ลิเลียน่านั่งอยู่บนพื้นโดยมีโซ่ล่ามเท้าติดไว้กับลูกเหล็กที่หนักจนยึดไม่ขึ้น เธอถูกผนึกพลังเวทมนตร์เอาไว้จนกว่าจะถูกปล่อยตัว แต่หากจำวันเวลาไม่ผิด เธอโดนจับมาขังไว้ที่นี่มาเป็นเวลาหนึ่งวันกับอีกสองชั่วโมงได้แล้ว

    สิ่งที่น่าตื่นเต้นอยู่บ้างคือการที่พวกปีศาจหรือเทพที่กระทำผิดมักชอบพูดแซวเธอว่า 'เป็นถึงหลานสาวขององค์ราชินีแห่งโอลิมปัส แต่ต้องมาถูกขังอยู่ในนรก น่าสมเพช'

    เธอเลยจัดการสั่งให้ทานาโทสตัดลิ้นพวกปากเสียทั้งหมดมาวางไว้หน้าห้องขังของมันเอง โดยใช้สิทธิ์ 'หลานสาวขององค์ราชินีอิลูเมีย' อย่างที่พวกมันพูดกัน

    กึก!

    เสียงหนึ่งดังขึ้น ลิเลียน่าเลื่อนสายตาจากการมองพื้นขึ้นไปมองผู้ที่ยืนจับกรงขังของเธออยู่แล้วเห็นว่าเป็นท่านแม่ลอเรียล ท่านแม่อันนา อารัม และหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่เธอคุ้นหน้าอยู่เล็กน้อย แต่นึกไม่ออกว่าคือใคร

    "เบื่อจะขังข้าแล้วหรือ" เธอดีใจที่ได้เจออารัม แต่พูดกับท่านแม่ลอเรียล

    น้องสาวมองสภาพของเธออย่างเป็นห่วงแล้วมองไปทั่วบริเวณ นางยังไม่เคยลงมาเหยียบนรกด้วยซ้ำ เธอไม่อยากให้นางต้องมาเห็นอะไรไม่น่ามอง โดยเฉพาะไอ้ลิ้นพวกนั้น

    "ข้าเห็นบทลงโทษที่ดีกว่าการขังเจ้าไว้ในนี้แล้ว" ท่านแม่ตอบกลับเรียบๆ ส่วนท่านแม่อันนาก็ยืนทำหน้าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ท่านแม่ลอเรียลกระทำ แต่นางไม่สามารถช่วยเธอได้เลยยืนอยู่เงียบๆ แทน

    เธอยังไม่เห็นความจำเป็นในการพาอารัมลงมาให้เธอเจอเลย ที่จริงท่านแม่ไม่ควรทำแบบนั้นด้วยซ้ำ เพราะนางกีดกันเธอกับอารัมจะตายไป

    "ท่านนี้คืออามาเทราสุ โอคามิ" ท่านแม่ลอเรียลแนะนำหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่เงียบๆ

    ลิเลียน่าหรี่ตาลงขณะสำรวจมองใบหน้าอ่อนโยนแต่ก็เด็ดขาดจริงจัง นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้สบตากับเธอ ก่อนที่ริมฝีปากหยักสวยจะบิดเป็นรอยยิ้มส่งมาให้เธอ

    "ท่านเป็นองค์ราชินีแห่งสรวงสวรรค์แห่งแดนอาทิตย์อุทัย"

    "..." เธอไม่ได้ตอบอะไรนอกจากเลื่อนสายตามองชุดที่อามาเทราสุใส่ กิโมโนสีแดงสดมีลวดลายสลักสวยงาม เปลือยไหล่สองทั้งข้างให้ผู้อื่นยลโฉม แถมตรงกลางก็แหวกจนแทบเห็นร่องอก บนหน้าผากมีสลักเหมือนจันทร์เสี้ยวอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ เธออธิบายไม่ถูกว่ามันคืออะไร สำหรับเธอทุกอย่างช่างคุ้นเคยจนน่ากลัว

    ทานาโทสโผล่มาจากไหนก็ไม่ทราบ เขาจัดการเปิดห้องขังให้เธอแล้วก็หายไปเมื่อหมดหน้าที่

    เธอยังไม่ทันขยับ อามาเทราสุก็เดินเข้ามาในห้องขังโดยไม่มีผู้ใดห้าม ท่านแม่อันนามีสีหน้าที่ไม่ดีนัก มือเรียวจับลงที่ข้อเท้าของเธอเมื่อนางย่อตัวลงแล้วใช้ความร้อนหลอมเหลวโซ่จนเหมือนเป็นแค่เศษเหล็ก ไม่ใช่โซ่เวทมนตร์

    ราชินีแห่งสวรรค์ของแดนอาทิตย์อุทัยเหรอ...

    พรึ่บ!

    ลิเลียน่าตัวแข็งทื่อเมื่อนางดึงเธอเข้าไปกอดโดยไม่สนใจสายตาของท่านแม่ทั้งสองและอารัม

    อ้อมกอดรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนเธอหายใจแทบไม่ออก พร้อมกับที่ไหล่ของเธอสัมผัสได้ถึงหยดน้ำตาที่ตกลงมากระทบ

    "เราคิดถึงเจ้าเหลือเกิน คิวบิโนะโยโกะ" เสียงหวานกระซิบข้างหู ชื่อของเธอที่หลุดออกมาจากปากของนางทำให้ภาพในหัวฉายวาบเข้ามา

    ภาพของเธอที่ยังคงเป็นคิวบิโนะโยโกะกำลังใช้เวลาร่วมกับอามาเทราสุ ทั้งหัวเราะและร้องไห้ ทั้งมีความสุขและไม่มีความสุข ความทรงจำไหลย้อนกลับมาทั้งหมด

    "..."

    เธอเหมือนคนไร้ชีวิตไปแล้วตอนที่อามาเทราสุผละออกแล้วสบตากับเธอในระยะประชิด นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มของเธออย่างโหยหา

    "เจ้าควรกลับมาเป็นคิวบิโนะโยโกะของข้า สาวน้อย"

    และลิเลียน่าก็ได้ตระหนักว่า...ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตัวตนเก่าของเธอหนีใคร

    "ต่อจากนี้ไปเจ้าจะไปอยู่กับนาง" ท่านแม่ลอเรียลกล่าว เธอสบตากับอารัมซึ่งมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ น้องเบือนสายตามองไปทางอื่น

    หัวสมองของเธอว่างเปล่า เธอเป็นลมหมดสติจังหวะเดียวกับที่อามาเทราสุอุ้มร่างไร้เรี่ยวแรงของเธอขึ้นบนอ้อมแขนพอดี


    "เหตุใดท่านแม่ถึงให้ท่านพี่ลิเลียน่าไปกับนาง" อารัมไม่รู้ตัวว่าสีหน้าของตัวเองเจ็บปวดมากขนาดไหนเมื่อสตรีนางนั้นพาพี่สาวของเธอไป แต่เธอก็ตัดสินใจหันหน้าไปถามท่านแม่ทั้งสองเพราะต้องการคำตอบ

    ท่านแม่อันนาลังเลที่จะบอก นางเป็นคนเดียวที่ทราบว่าเธอคิดยังไงกับท่านพี่

    "ในตอนที่ลิเลียน่ายังเป็นคิวบิโนะโยโกะ อามาเทราสุเคยจับลิเลียน่ามาเป็น 'นางสนม' ส่วนตัว เพราะไม่อยากปล่อยให้จิ้งจอกเก้าหางอาละวาดหรือกระทำเรื่องปั่นป่วนในพระราชวังของกษัตริย์มนุษย์ แม่เองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าหลังจากนั้นเหตุใดทั้งสองถึงหลงรักกัน อาจเพราะต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันเกือบทั้งวัน เป็นปีๆ"

    "ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี" อารัมส่ายศีรษะ

    "วันแรกที่อามาเทราสุจับลิเลียน่าไป นางบังคับให้ลิเลียน่าทำสัญญาการเป็นทาสโดยต้องลงลายมือชื่อบนกระดาษ ซึ่งหมายความว่านางเป็นเจ้าของชีวิตลิเลียน่า"

    "..."

    "และหากกระดาษแผ่นนั้นยังคงอยู่ มันก็จะเป็นแบบนั้นตลอดไป"


    ลิเลียน่าฟื้นขึ้นมาในห้องญี่ปุ่นโบราณในสถานที่ที่เธอเองก็คุ้นเคยดี เธอขมวดคิ้วเมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นวาบของร่างกาย ก่อนพบว่าทั้งร่างกายเธอและร่างกายของอามาเทราสุที่นอนกอดเธออยู่ต่างเปลือยเปล่ากันทั้งคู่

    เราสบตากันอย่างเงียบเชียบเพราะนางไม่ได้หลับ

    "ท่าน...ตามมาหลอกหลอนข้าทำไม" เธอนึกคำถามนี้ได้เลยถามออกไป

    ทบทวนความทรงจำที่เคยมีเราอีกครั้ง เธอเคยรักนาง และนางก็รักเธอมากเกินไปจนทำให้เธออึดอัด ตามสัญญาที่เราทำไว้ เธอควรมีเวลาได้ลงไปเดินเล่นบนโลกมนุษย์ได้อย่างน้อยวันละสองชั่วโมง แต่จู่ๆ นางก็อยากให้เธออยู่ด้วยกันตลอดเวลา มันคือเรื่องเดียวที่เธอไม่สามารถทนได้

    นานวันเข้าจากความรักก็กลายเป็นความเกลียดชัง เธออาละวาดทั่วสวรรค์และทำให้เทพองค์อื่นไม่พอใจ อามาเทราสุปกป้องเธอ

    แต่เมื่อเทพพวกนั้นต้องการสงคราม เธอก็ไม่ลังเลเหมือนกัน และเมื่อมันกลายเป็นสงคราม นั่นทำให้นางปกป้องเธอไม่ได้อีกต่อไป

    แต่เธอแพ้ย่อยยับเพราะพวกมันเล่นหมาหมู่

    ลิเลียน่าขอความช่วยเหลือจากท่านแม่อันนาที่ตอนนั้นเป็นสหาย เธอเคยคิดว่าเธอจะไม่กลับมาหาอามาเทราสุอีก

    เธอเกลียดนาง นางพังชีวิตของเธอ

    "ท่านจำไม่ได้หรือว่าข้าเกลียดท่าน" เธอพยายามผลักนางให้ออกห่างไป แต่ไม่มีปฏิกริยาตอบรับนอกจากความเฉยเมย นางหลุบสายตามองเธอแล้วรั้งให้ร่างกายเราใกล้ชิดกันกว่าเดิม เสียดสีจนเธอต้องขมวดคิ้วมุ่น

    "คิวบิโนะโยโกะ" อามาเทราสุพูดชื่อเก่าของเธอออกมาหนึ่งคำ

    "ข้าชื่อลิเลียน่า" เธอแก้

    "ก็เหมือนกัน สาวน้อย ไม่ว่าเจ้าจักชื่ออะไรเจ้าก็คือคิวบิโนะโยโกะของเรา" นางกล่าวโดยไม่สนใจสีหน้าเธอเลย และยิ่งเมื่อนางพลิกตัวขึ้นมาอยู่บนร่างของเธอ กดเธอให้ขยับไม่ได้ไปกับเตียงนอน เธอก็ยิ่งเกลียดนางมากขึ้นกว่าเดิม

    "เพราะท่านเป็นเช่นนี้ไงข้าถึงหนีท่านไป" เธอหงุดหงิดจนไม่แน่ใจว่าควรทำอะไร ที่คิดอยู่ตอนนี้คือการหาทางหนีอีกรอบ

    "เหรอ" นางไล้ปลายนิ้วอยู่บนหน้าท้องของเธอ

    "ข้าไม่ชอบวิธีสกปรกที่ท่านใช้!" เธอยกมือขึ้น แต่นางก็ใช้มืออีกครั้งกดมือเธอลงอย่างนุ่มนวลจนอยากอาละวาดให้รู้แล้วรู้รอด

    "สกปรกอะไร" อามาเทราสุขมวดคิ้ว ดวงตาอ่อนโยนของนางทำให้เธอหงุดหงิดจริงๆ เธอไม่อยากให้นางมาทำท่าเหมือนตัวเองเป็นคนดี ทั้งๆ ที่นางเพิ่งจะลากเธอกลับมาขืนใจอีกรอบ

    "ข้าไม่อยากกลับมา ท่านกำลังบังคับ" เธอกัดฟันกรอด

    "อืม ข้าบังคับ" นางรับคำง่ายๆ "แต่ข้ามีสิทธิ์"

    "ไอ้สัญญาเฮงซวยนั่นน่าจะถูกเทพองค์อื่นทำลายหมดแล้วไม่ใช่หรือไง!"

    "ยัง" นางถอนหายใจแล้วผละออกจากร่างกายเธออย่างเอื่อยเชื่อย ร่างสูงผอมเพรียวมีน้ำมีนวลเดินไปหยิบเอกสารที่ถูกเก็บอย่างดีในตู้กระจกมาโชว์อีกมุมหนึ่งของห้องให้เธอดู ลิเลียน่าหรี่ตาลง มันตั้งอยู่โดดเด่นมาก หากเธอรู้ว่าคืออันนั้นเธอคงพุ่งไปทำลายแล้ว

    "หากท่านเหงาหรือต้องการความรัก ท่านยังสามารถหาคนอื่นได้" เธอกำมือแน่นขณะลุกขึ้นนั่ง มือยังกระชับผ้าห่มเพราะร่างเปลือยเปล่า

    "ไม่ น่าเบื่อ" นางวางกระดาษแผ่นนั้นไว้ที่เดิม แล้วเดินกลับมายังเตียง "และจะไม่ตลอดไป"

    "ท่านหมายความว่ายังไง" ลิเลียน่าชะงัก เธอถูกบังคับให้นอนราบลงไปกับเตียงอีกครั้ง การกระทำที่เชื่องช้าของนางเปลี่ยนไป ครั้งนี้ดูรุกรานมากขึ้นกว่าเดิม

    มือเรียวแตะลงบนซอกขาของเธอ รุกคืบเข้ามาภายในอย่างเร่าร้อน

    "เพราะเราจะแต่งงานกัน"

    อีกเรื่องที่เธอเพิ่งนึกได้นอกจากการเกลียดการพูด หน้าตา การกระทำ รูปร่างของนางแล้ว เซ็กซ์ดิบเถื่อนของนางก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตกนรก...


    หลังจากผ่านการอยู่กับอามาเทราสุมาสามวันด้วยกัน วันนี้เป็นวันแรกที่นางให้เธอออกมานั่งตำหนักของนาง ระหว่างที่นางกำลังนั่งคอยอยู่บนบัลลังก์และปล่อยให้เทพองค์อื่นเอาเรื่องต่างๆ มาทูล

    ร่างกายภายใต้ชุดกิโมโนมิดชิดของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงอย่างน่ารังเกียจ ตั้งแต่ลำคอยาวลงมาถึงต้นขาทั้งสองข้าง ตลอดสามวันที่ต้องอยู่บนเตียง ร่างกายเธอบอบช้ำจริงๆ

    "องค์ราชินี ท่านไอริมาขอพบขอรับ" มีเทพหนุ่มองค์หนึ่งเข้ามากราบทูลต่ออามาเทราสุ เธอหันไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา

    หากให้เปรียบเปรยว่านางดูสูงศักดิ์ก็ไม่ถูกนัก นางมีรัศมีแบบนั้นจริง แต่ชุดที่นางใส่เป็นชุดนินจาธรรมดากับหน้ากากปกปิดใบหน้าท่อนล่าง นัยน์ตาเฉี่ยวคมเหลือบมองเธอเล็กน้อย

    "มีอันใดหรือมังกรน้อย" คำกล่าวของอามาเทราสุทำให้เธอแอบขมวดคิ้ว

    เธอมองอายุของพวกเทพ มังกร หรือใครสักคนที่มีอายุเกินร้อยปีออก และท่านไอริคนนี้ก็ไม่ใช่ 'มังกรน้อย' อย่างที่เทพีสุริยันกล่าวเสียเท่าไหร่

    "ท่านแม่โอริวไม่ว่างมารายงานต่อท่านด้วยตนเอง" เสียงของท่านไอรินุ่มนวล แต่ก็แฝงแววสุขุมเคร่งขรึม นางยื่นกระดาษที่ดูสำคัญให้อามาเทราสุ "สิ่งนี้คือรายงานของสวรรค์ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา"

    "ลำบากหน่อยนะ" อามาเทราสุยิ้มอ่อนโยน นางเหลือบมามองเธอเล็กน้อยตอนพูดประโยคต่อมา "แล้วเจ้ามีลูกหรือยัง กับสตรีที่ชื่อบัตเตอร์ฟลาย"

    "ลูกเหรอ" ท่านไอริขมวดคิ้ว เงียบไปสักพักก่อนตอบ "ข้ากับบัตเตอร์ฟลายเห็นตรงกันว่าเราไม่อยากมีลูก เพราะนางมีความสุขดีกับการฝึกสอนการต่อสู้รูปแบบมนุษย์ให้แก่มังกรเด็กๆ ในเผ่าพันธ์มากกว่า"

    "..." เธอได้ยินอามาเทราสุพึมพำว่า 'ก็เป็นสิ่งที่ดี'

    "แล้วเหตุใดท่านถึงถามข้าเช่นนั้น องค์ราชินี ท่านอยากมีลูกหรือ"

    "ก็ไม่แน่" เทพีสุริยันยิ้มกว้าง ดูเบิกบานและอารมณ์ดีจนเธอหงุดหงิด เธอเกลียดสิ่งที่เป็นความสุขของนางจริงๆ โดยเฉพาะคำพูดต่อมาพร้อมกับสายตาที่พยักเพยิดมาที่เธอ "กับนาง"

    ท่านไอริหันมาแล้วโค้งให้เธอเล็กน้อย นัยน์ตาคมกริบพิจารณาใบหน้าของเธอ

    ลิเลียน่ามองสายตาของนางอย่างไม่เข้าใจ

    "ท่านเกี่ยวพันกับท่านอิลูเมียหรือ ท่านหญิง..." คำพูดของนางจุดประกายความสว่างไสวให้แก่เธอ หวังเพียงสักนิดว่าหากนางรู้จักกับท่านอิลูเมีย เธอคงได้กลับบ้าน

    "ข้าเป็นหลานของท่านอิลูเมีย" คำพูดของเธอทำให้นางยกมือขึ้นเกาแก้ม

    "ท่านหญิงคือลูกสาวของท่านลอเรียลหรือท่านลินดิสหรือ พอดีข้าไม่ได้ติดต่อกับทางนั้นนานแล้ว ก็เลย..."

    "ลอเรียล" ริมฝีปากของเธอสั่นเมื่อต้องพูดชื่อของท่านแม่ "ข้าเป็นลูกของท่านแม่ลอเรียล"

    อามาเทราสุไม่ได้พูดอะไรระหว่างรับฟังพวกเราสองคนคุยกัน นางแค่ยกมือขึ้นเท้าคางเอาไว้แล้วมองตรงมาอย่างสบายอารมณ์ อมยิ้มเอ็นดูบนริมฝีปากทำให้สะบัดหน้าหนีกลับมาแทบไม่ทัน

    "สงสัยข้าต้องไปเยี่ยมเยือนท่านอิลูเมียเสียหน่อย" ท่านไอริพยักหน้า

    "งั้นให้ข้าไป..." เธอกำลังเสนอตัวจะไปด้วย

    "เจ้าไปเถอะ ไอริ" อามาเทราสุขัด นัยน์ตาของนางจับจ้องเธอไม่วางตา เห็นทะลุปรุโปร่งถึงความคิดข้างใน "ข้ามีธุระกับแม่ตัวน้อยเสียหน่อย"

    ท่านไอริเลิกคิ้วแล้วมองเธอสลับกับอามาเทราสุ สักพักก็เดินออกไป

    "อะไรของท่าน" เธอลุกขึ้นยืนอย่างฉุนเฉียวเมื่ออามาเทราสุลงมาจากบัลลังก์

    "ข้าสิต้องถามว่าอะไรของเจ้า" นางถือวิสาสะจับข้อมือเธอไว้

    "ข้าทำอะไร" เธอถลึงตาแล้วพยายามข้อมือออก

    "พยายามหนีข้าอีกรอบไง ที่เจ้ากำลังทำอยู่" อามาเทราสุไม่เปิดโอกาสให้เธอได้โต้เถียงเรื่องนี้กับนางอีก นางดึงเธอให้ออกจากตำหนักแล้วเดินเบี่ยงไปอีกทาง เธอใจไม่ดีเพราะทราบว่าทางนั้นมันนำไปที่ไหน

    "ท่านจะพาข้าไปไหน" แต่เธอก็ยังถาม

    "เรือนนอน"

    "..."

    "ข้าคิดว่าเราต้องปรับความเข้าใจกันเสียหน่อย"


    อารัมเดินทางมาถึงแดนอาทิตย์อุทัยตอนเวลาเกือบเย็น เธอมองสำรวจสวรรค์ของที่นี่ ก่อนพบว่ามันค่อนข้างใหญ่มาก ใหญ่กว่าโอลิมปัสเกือบสองเท่าตัว เพราะบนสวรรค์ไม่ได้สงวนให้เทพอยู่เท่านั้น สัตว์วิเศษมากมายต่างก็อาศัยกันอยู่คนละส่วน

    แต่เธอไม่ได้มาเพื่อสำรวจ เธอมาหาท่านอามาเทราสุ เพื่อขอเข้าพบลิเลียน่า

    หลังจากที่แจ้งเรื่องไปกับเทพที่มีหน้าที่ทูลต่อท่านอามาเทราสุ เธอยืนรออยู่สักพักหนึ่งก่อนที่เขาจะตอบว่าให้ไปหายังเรือนนอน แล้วชี้ทางให้เธอ เธอเลยต้องเดินตามหาเรือนนอนที่ว่านั่นเอง

    ว่าแต่ทั้งสองทำอะไรกันอยู่ที่เรือนนอน

    ความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเรื่องนั้นทำให้อารัมหน้าตึง...

    แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเธอต้องข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ เมื่อมาถึงเรือนนอนก็มีหญิงรับใช้สองคนพาเธอไปยังส่วนห้องนอนของท่านอามาเทราสุ

    เจ้าของเรือนนอนเพิ่งเดินออกมา ท่าทางดูมีความสุขแปลกๆ

    เธอก้มหัวเล็กน้อยเป็นการทักทาย

    เมื่อท่านอามาเทราสุเดินจากไปอีกทาง เธอมองประตูบานนั้นอย่างชั่งใจ

    "ลิเลียน่า?" อารัมส่งเสียงเรียกชื่อพี่สาว

    ไร้เสียงตอบรับในคราแรก ก่อนที่เสียงแหบแห้งหนึ่งจะดังขึ้น

    "อารัมเหรอ..."

    "ขอเข้าไปนะเพคะ" เธอไม่แน่ใจว่านางทำอะไรอยู่ แต่เสียงของนางฟังดูไร้เรี่ยวแรงจนอดเป็นห่วงไม่ได้

    "ไม่!!" เสียงตะโกนของลิเลียน่าทำให้เธอสะดุ้งด้วยความตกใจ แต่ไม่ทันแล้ว เธอดันประตูให้เปิดออกก่อนพบว่าพี่สาวนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ร่างกายถูกคลุมด้วยชุดกิโมโนแบบลวกๆ นางขดตัวอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็ก และเมื่อเราสบตากัน...นางก็หันไปทางอื่นแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น "อย่ามอง...ดะ ได้โปรด อารัม"

    "ลิเลียน่า เกิดอะไรขึ้น!" เธอพรวดพราดเข้าไปหานาง ในใจเป็นห่วงจนร้อนรน ก่อนที่สายตาจะหลุบเห็นรอยแดงตามตัวของนาง แดงจ้ำและสีสดจนดูเหมือนกับว่าช้ำเลือด

    ดวงตาสีฟ้าใสแดงก่ำจากการร้องไห้ นางไม่สบตาเธอ

    "..." ไม่มีเสียงตอบนอกจากการสะอื้นอย่างหนักหน่วง

    "ท่านพี่...ไม่ต้องร้องไห้" เธอคิดคำปลอบใจที่ดีกว่านี้ไม่ออก แขนโอบร่างปวกเปียกไว้ในอ้อมแขน เมื่อเห็นน้ำตาของนางหัวใจก็เจ็บแปรบ

    ร่างกายของลิเลียน่าร้อนราวกับมีไฟกองใหญ่เผาไหม้อยู่ตลอดเวลา นางไม่สบายหนัก

    อามาเทราสุ...เธอไม่อภัยให้แน่

    "ลิเลียน่า ท่านนอนก่อน ข้าจะเรียกองค์ราชินีมารับท่าน" อารัมกระซิบ เธอพยุงให้นางไปนอนที่เตียง แต่นางกลับส่ายศีรษะรัวๆ เล็บจิกลงมาบนผิวเนื้อเธออย่างคนที่หวาดกลัวสุดขีด

    เธอชะงัก ไม่สนความเจ็บปวดของตัวเอง จนสุดท้ายก็สวมใส่กิโมโนให้คลุมร่างกายเปลือยเปล่าให้เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    เธอนั่งลงบนพื้นห้องแล้วประคองให้นางนอนลงบนตัก นางหายใจระรวยรินเมื่อหลับตาพริ้มลง

    องค์ราชินีเคยสอนให้อารัมสื่อสารทางจิตมาก่อน มันเป็นการส่งกระแสจิตเข้าไปในประสาทรับรู้ของผู้อื่น และเมื่อผู้นั้นตอบรับกระแสจิตของเรา เราก็จะสนทนากันได้

    ไม่นานนักองค์ราชินีก็ตอบรับ

    'มีอันใด อารัม'

    'องค์ราชินี ท่านช่วยมารับลิเลียน่าหน่อยได้หรือไม่ ข้าคิดว่านางบาดเจ็บหนัก'

    'เกิดอะไรขึ้น?'

    'ข้าจะเล่าให้ฟังเมื่อเรากลับไปยังโอลิมปัส'

    ไม่มีเสียงตอบรับอะไรอีก การสื่อสารทางจิตถูกตัดขาด เธอถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นลูบศีรษะของลิเลียน่า ช่วงเวลาสามวันที่เราไม่ได้เจอหน้ากัน เธอได้สนทนากับท่านแม่อันนาและท่านไวโอเล็ตในหลายๆ เรื่องที่เกี่ยวกับพี่สาว

    อีกสองวันที่จะมาถึงเป็นวันรับปริญญาของลิเลียน่าในอีกโลก เธอเลยถูกใช้ให้มาตามพี่สาวกลับไปก่อน เพราะนางต้องไป

    ไม่มีใครเห็นด้วยกับท่านแม่ลอเรียล ไม่มีใครที่ทราบจริงๆ ว่าท่านแม่ลอเรียลคิดสิ่งใดอยู่

    อารัมพูดอะไรออกมาไม่ได้สักคำเมื่อเห็นความทรมานของลิเลียน่า คำต่างๆ จุกอยู่ในลำคอ สิ่งที่เธอทำได้จริงๆ คือการอยู่ข้างกายนางเท่านั้น และเธอสาบานว่าเธอไม่มีทางไปไหนจนกว่านางจะดีขึ้น

    ไม่นานนักองค์ราชินีก็โผล่มาพร้อมกับท่านแม่ของท่านไวโอเล็ต

    "เกิดอะไรขึ้น" เสียงเกรี้ยวกราดขององค์ราชินีแห่งเผ่าพันธ์ปรสิตดังขึ้น นางตรงเข้ามาแล้วประคองลิเลียน่าให้ลุกขึ้นนั่ง หากท่านไวโอเล็ตมองลิเลียน่าว่าเป็นลูก มันคงไม่แปลกที่นางจะมองลิเลียน่าเป็นหลานเหมือนกัน มือเรียววาดสัญลักษณ์ขึ้นมาบนอากาศ ก่อนที่อากาศจะแหวกออกเป็นทางผ่าน "แวนไฮล์!!"

    "ขอรับท่านนาตาเลีย!" เสียงชายหนุ่มดังขึ้นอย่างตื่นตระหนก ไม่นานร่างสูงใหญ่ก็เดินผ่านทางผ่านเข้ามาหาเรา นัยน์ตางุนงงของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเห็นสภาพลิเลียน่า

    ไม่มีใครจำเป็นต้องพูดอะไรด้วยซ้ำ เขาอุ้มร่างของลิเลียน่าขึ้นจากพื้นแล้วเดินผ่านเข้าไปในทางผ่านอีกครั้ง เธอเดินผ่านเข้าไปคนสุดท้ายก่อนที่ทางผ่านจะปิด

    "เรียกมะกังก้ามา" ท่านนาตาเลียเป็นผู้ออกคำสั่ง "แวน เจ้าพาลิเลียน่าไปยังห้องนอนเสียก่อน ไว้ข้าตามไปดูอาการ"

    "ขอรับ" ชายหนุ่มรับคำก่อนพาลิเลียน่าจากไป แวบหนึ่งที่เธอเห็นว่าดวงตาสีฟ้าใสลืมขึ้นมาแล้วเหลือบมองเธอ

    อารัมอยากตามไปใจจะขาด แต่สุดท้ายเธอก็ต้องนั่งลงบนโซฟาเพื่อคุยกับองค์ราชินีทั้งสอง

    "เล่ามาว่ามันเกิดอะไรขึ้น" องค์ราชินีอิลูเมียเป็นผู้ถาม ใบหน้าสวยเคร่งเครียด

    "ท่านแม่ลอเรียลส่งลิเลียน่าไปอยู่กับองค์ราชินีแห่งแดนอาทิตย์อุทัย อามาเทราสุ โอคามิ เพราะในอดีตกาลนั้นทั้งสองเคยเป็น..." เธออึกอัก พยายามนึกคำอะไรสักอย่างมาอธิบายความสัมพันธ์เก่าของทั้งสอง แต่ท่านนาตาเลียก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

    "สัญญาทาสใช่หรือไม่"

    เธอพยักหน้าตอบรับคำพูดนั้น

    "เจ้าทราบหรือนาตาเลีย" องค์ราชินีอิลูเมียหันไปถาม

    "ทราบ เคยได้ยินข่าวลืออยู่หนาหู กล่าวกันว่าครานั้นอามาเทราสุเคยหลงใหลคิวบิโนะโยโกะมาก เพราะนางจิ้งจอกสาวมีมนต์เสน่ห์บางอย่างอยู่รอบตัวตลอดเวลา แต่ข้าไม่อาจบอกได้ว่ามันคือความรักจริงหรือไม่ ว่ากันว่า...เมื่อไหร่ก็ตามที่คิวบิโนะโยโกะพยายามที่จะหนีไปจากอามาเทราสุ อามาเทราสุจะทราบเสมอ"

    "..."

    "เคยมีครั้งหนึ่งที่เทพบนสวรรค์นั้นกล่าวกันว่าร่องรอยบนตัวของคิวบิโนะโยโกะเยอะขึ้นทุกวัน ยิ่งพยศ ยิ่งได้รับผลตอบแทนที่หนักหนาขึ้นไปตามกัน"

    "..."

    "คิดว่ายิ่งรุนแรง ความรู้สึกก็ยิ่งเหือดหาย ไม่ใช่เพียงคิวบิโนะโยโกะ แต่เป็นอามาเทราสุด้วย"

    "แสดงว่าอามาเทราสุทราบใช่หรือไม่ว่าเราเอาลิเลียน่าออกมา และนางก็ยังปล่อยให้พวกเราทำแบบนั้น" องค์ราชินียกมือขึ้นกอดอก "ข้าหวังว่ามันคงไม่ใช่หลุมพรางที่จะก่อสงครามโดยข้ออ้างว่าเราเอาสตรีของนางออกมาหรอก"

    อารัมเม้มริมฝีปาก ท่านแม่อันนาสอนเธอเสมอว่าสงครามไม่ใช่เรื่องตลก ไม่ใช่สิ่งที่ควรปล่อยให้มันเกิดขึ้น

    "ข้าไม่ทราบว่านางคิดอันใดอยู่ นางเป็นคนที่มักจะยิ้มตลอดเวลา" ท่านนาตาเลียส่ายศีรษะ "ไม่มีผู้ใดรู้ว่าใต้รอยยิ้มนั้น...แฝงอะไรไว้"

    ฟังดูคุ้นๆ...เหมือนท่านแม่ลอเรียลไม่มีผิด

    แตกต่างตรงที่ว่า ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง กับ ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดเวลา

    "อารัม" องค์ราชินีอิลูเมียหันมาหา ความโกรธสุ่มอยู่ในดวงตาของนาง "อยู่ที่นี่กับลิเลียน่า คอยดูแลพี่สาวไว้ให้ดี เราจะรักษาแผลภายนอกให้หายแล้วส่งลิเลียน่าไปรับสิ่งที่เรียกว่าปริญญา หลังจากนั้นเป็นการตัดสินใจของลิเลียน่าว่าจะกลับมาหรือไม่กลับ แต่ข้าคงไม่แปลกใจหากนางเลือกที่จะไม่กลับ"

    "..."

    "เพราะแม่แบบลอเรียล เป็นข้าข้าก็คงไม่อยากอยู่ใกล้เท่าใดนัก" ว่าจบองค์ราชินีก็ลุกขึ้นยืนแล้วหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่

    "อิลูเมียไม่ค่อยโกรธนักหรอก" ท่านนาตาเลียกระซิบ "เพราะนางทราบดีว่าเวลานางโกรธ นางจะเป็นยังไง แล้วมันหมายความว่าอันใด ทราบหรือไม่"

    "ข้าไม่ทราบ" เธอตอบไปตามตรง

    "มันหมายความว่าแม่ของเจ้าแย่แน่ๆ" นางพูดจบก็ลุกขึ้นยืน นัยน์ตาสีเขียวมรกตพยักหน้าเรียกให้เธอเดินตามนางไป ก่อนพบว่านางพาเธอมายังห้องนอนของลิเลียน่า "ไวโอเล็ตกับไดอาน่าอยู่ที่เกาะที่ห่างออกไป พวกนางจะมาที่นี่ในวันรุ่งขึ้น ข้าอยากให้เจ้าดูแลลิเลียน่าไปก่อนอย่างที่อิลูเมียว่า"

    "ข้าทราบดี ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจัดการที่เหลือเอง" อารัมกล่าวขณะมองภาพที่ท่านมะกังก้าผู้ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหมอยามือหนึ่งของโลกปีศาจกำลังป้อนยามากมายให้แก่ลิเลียน่าโดยมีท่านแวนไฮล์นั่งเฝ้าอยู่อีกมุมหนึ่ง

    "เจ้าทราบหรือไม่ ว่าทุกคนที่นี่รักพี่สาวของเจ้ามาก" น้ำเสียงที่ท่านนาตาเลียใช้พูดกับเธอมีความห่างเหิน "แต่นางไม่ได้ต้องการความรักจากผู้ใดนอกจากแม่ของนาง"

    "ข้าทราบ" เธอตอบได้แต่ประโยคพวกนี้ ไม่กล้าพูดอะไรไม่เข้าหูองค์ราชินีเผ่าพันธ์ปรสิต

    ลิเลียน่าเป็นคนรักครอบครัว รักมาก แต่ครอบครัวของเราบีบบังคับให้นางไม่รักมาตั้งแต่ต้นแล้ว

    ตั้งแต่ส่งไปอยู่กับผู้อื่น

    ตั้งแต่ต้องไปร่ำเรียนในโลกที่ไม่คุ้นเคย

    ตั้งแต่ความห่างเหินที่ท่านแม่ลอเรียลแสดงใส่

    แต่ที่แปลกคือท่านแม่ลอเรียล...

    "ลอเรียลเป็นคนรักครอบครัว แม่ยืนยันด้วยเกียรติของแม่ได้เลย อารัม"

    ก็ท่านแม่อันนาบอกเธอแบบนั้น

    เมื่อทุกคนในห้องทยอยออกไป ก็เหลือเพียงแค่เธอที่ต้องทาสมุนไพรลงตามจุดต่างๆ ของร่างกายลิเลียน่า ตรงที่เป็นแผลน่ากลัวช้ำเลือดพวกนั้น ท่านมะกังก้าบอกว่าแผลทั้งหมดของลิเลียน่าจะหายหมดภายในคืนนี้ เนื่องมาจากยาที่ให้กิน ยาที่เธอต้องทาให้ เมื่อรวมกับประสิทธิภาพการฟื้นฟูของจิ้งจอกเก้าหาง

    ต่อให้เป็นแผลร้ายแรงกว่านี้ก็สามารถหายได้

    ส่วนเรื่องไข้...ก็พยายามรักษาสุดความสามารถ

    "ท่านพี่ น้องขออนุญาต" เธอกระซิบเบาๆ ขณะถอดชุดกิโมโนออกจากร่างของลิเลียน่าที่นอนนิ่งไม่ไหวติง นางรู้สึกตัวและได้ยิน แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา

    อารัมใช้มือป้ายยาสมุนไพรก่อนบรรจงทาไปตามร่องรอยตามตัวของนางอย่างเบามือ มีบ้างที่นางส่งเสียงครางแผ่วๆ ออกมาเพราะความเจ็บปวด เรือนร่างนางไม่ควรเป็นปัญหากับเธอ เพราะเธอไม่เคยคิดอะไรแบบนั้น

    แต่เมื่อต้องเลื่อนไปทาแถวช่วงขา กลับมีรอยอยู่ที่ต้นขาด้านใน

    เธอสูดลมหายใจ แล้วเลื่อนมือเข้าไป แตะยาลงบนรอยช้ำ

    แต่ทำได้ไม่เสร็จก็ต้องผละออก...

    อารัมพุ่งพรวดออกไปหน้าห้อง เธอทรุดตัวลงนั่งหลังบานประตูปิดลง

    เธอแค้นอามาเทราสุจนอยากจะร้องไห้ เผลอกัดปากจนเลือดซึมออกมา

    เธอไม่อยากสูญเสียลิเลียน่าไปให้คนพรรค์นั้น ไม่สิ...

    อารัมไม่อยากเสียพี่สาวให้ใครทั้งนั้น


    อารัมหายไปไหน...

    ลิเลียน่าพยายามหาน้องสาวในความมืด เธอลืมตาไม่ขึ้น และไม่มีแรงมากพอจะส่งเสียงอะไร แต่เธอได้ยินเสียงย่ำเท้าของนางที่เดินออกไปจากห้อง

    เธอกลัว...เธออยากให้น้องอยู่ข้างๆ เธอตอนนี้

    ฟุบ...

    มีมือข้างหนึ่งจับมือเธอไว้ในความมืด เธอบีบมือข้างนั้นไว้แน่นขณะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นแปลกประหลาดที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกาย และในอีกขณะหนึ่ง...หากจมูกของเธอยังใช้การได้ดี เหมือนว่าเธอได้กลิ่นเลือดลอยจางมา

    เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นที่แตะลงบนความชอกช้ำของตัวเองอย่างเชื่องช้า ไล่ทาไปเรื่อยๆ ไม่มีการรุกล้ำ ไม่มีความติดขัด มีแต่มั่นคง ราบเรียบ และสงบนิ่ง

    ริมฝีปากอุ่นกดแนบบนหน้าผากของเธอ

    ก่อนที่ทุกอย่างจะจางหายไป...


    ลอเรียลนั่งลงระหว่างให้เพย์น่าทำแผลที่หน้าท้องให้ และปล่อยให้นางกลบปิดแผลไหม้ที่บางส่วนของร่างกาย เธอหลับตาลงขณะย้อนนึกกลับไป

    'ข้าไม่เคยมีพี่สาวเลย'

    'เหรอ? แล้วอยากให้คนอย่างข้าเป็นพี่สาวให้เจ้าหรือไง'

    'ย่อมได้ หากท่านต้องการ'

    '...'

    'แต่เป็นความลับนะ ไม่ต้องบอกใคร เพราะเราคงไม่เจอกันบ่อยนัก กลับมาเจอกันอีกครั้งท่านคงลืมเลือนข้าไปหมดแล้ว'

    ได้ยินเสียงหัวเราะ หึ ในลำคอเบาๆ นัยน์ตาสีเทากับผมสีขาวบริสุทธิ์ขับใบหน้าให้ดูโดดเด่นในความทรงจำ

    'งั้นมาดูกัน ว่าน้องสาวอย่างเจ้าจะพาข้าออกไปจากตรงนี้ได้หรือไม่'

    เธอจะทำมันไปได้อีกนานแค่ไหนกันนะ...

    "ขอบคุณท่านมากเพย์น่า ท่านดีกับข้าเสมอเลย" เธอกล่าวขอบคุณแก่ผู้ที่รักษาแผลให้ นางบ่นอะไรอีกนิดๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับการดูแลบาดแผล แต่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาฟัง เพราะเธอเห็นอันนากำลังเดินออกมาจากในเงามืด

    "ลอเรียล ท่านอิลูเมียขอพบเจ้า" สีหน้านางเรียบเฉย แต่แววตาดูกังวล

    "อื้อ" เธอพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า

    ...เก็บงำทุกอย่างไว้ภายใต้สีหน้านิ่งสนิท


    **อามาเทราสุ เป็นเทพีแห่งดวงอาทิตย์ของตำนานแดนอาทิตย์อุทัย (ญี่ปุ่น) หากไม่นับบิดาของอามาเทราสุ (แต่คนส่วนมากก็ไม่นับ) อามาเทราสุเลยเปรียบดั่งราชินีที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของสวรรค์







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×