คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : Black N Blue❖Everything started from 'force' 24
คำเตือน :: บางช่วงบางตอนมีความรุนแรง เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของตัวเกมแต่อย่างใด ฉากที่มีเนื้อหาเรท R จะไม่อัพลงเด็กดี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน |
EPISODE24
Alternative Universe 01❖Everything started from 'force'
คุกเก่าคับแคบในนรกไม่ใช่สถานที่ที่น่าอภิรมย์เท่าใดนัก
ลิเลียน่านั่งอยู่บนพื้นโดยมีโซ่ล่ามเท้าติดไว้กับลูกเหล็กที่หนักจนยึดไม่ขึ้น เธอถูกผนึกพลังเวทมนตร์เอาไว้จนกว่าจะถูกปล่อยตัว แต่หากจำวันเวลาไม่ผิด เธอโดนจับมาขังไว้ที่นี่มาเป็นเวลาหนึ่งวันกับอีกสองชั่วโมงได้แล้ว
สิ่งที่น่าตื่นเต้นอยู่บ้างคือการที่พวกปีศาจหรือเทพที่กระทำผิดมักชอบพูดแซวเธอว่า 'เป็นถึงหลานสาวขององค์ราชินีแห่งโอลิมปัส แต่ต้องมาถูกขังอยู่ในนรก น่าสมเพช'
เธอเลยจัดการสั่งให้ทานาโทสตัดลิ้นพวกปากเสียทั้งหมดมาวางไว้หน้าห้องขังของมันเอง โดยใช้สิทธิ์ 'หลานสาวขององค์ราชินีอิลูเมีย' อย่างที่พวกมันพูดกัน
กึก!
เสียงหนึ่งดังขึ้น ลิเลียน่าเลื่อนสายตาจากการมองพื้นขึ้นไปมองผู้ที่ยืนจับกรงขังของเธออยู่แล้วเห็นว่าเป็นท่านแม่ลอเรียล ท่านแม่อันนา อารัม และหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่เธอคุ้นหน้าอยู่เล็กน้อย แต่นึกไม่ออกว่าคือใคร
"เบื่อจะขังข้าแล้วหรือ" เธอดีใจที่ได้เจออารัม แต่พูดกับท่านแม่ลอเรียล
น้องสาวมองสภาพของเธออย่างเป็นห่วงแล้วมองไปทั่วบริเวณ นางยังไม่เคยลงมาเหยียบนรกด้วยซ้ำ เธอไม่อยากให้นางต้องมาเห็นอะไรไม่น่ามอง โดยเฉพาะไอ้ลิ้นพวกนั้น
"ข้าเห็นบทลงโทษที่ดีกว่าการขังเจ้าไว้ในนี้แล้ว" ท่านแม่ตอบกลับเรียบๆ ส่วนท่านแม่อันนาก็ยืนทำหน้าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ท่านแม่ลอเรียลกระทำ แต่นางไม่สามารถช่วยเธอได้เลยยืนอยู่เงียบๆ แทน
เธอยังไม่เห็นความจำเป็นในการพาอารัมลงมาให้เธอเจอเลย ที่จริงท่านแม่ไม่ควรทำแบบนั้นด้วยซ้ำ เพราะนางกีดกันเธอกับอารัมจะตายไป
"ท่านนี้คืออามาเทราสุ โอคามิ" ท่านแม่ลอเรียลแนะนำหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่เงียบๆ
ลิเลียน่าหรี่ตาลงขณะสำรวจมองใบหน้าอ่อนโยนแต่ก็เด็ดขาดจริงจัง นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้สบตากับเธอ ก่อนที่ริมฝีปากหยักสวยจะบิดเป็นรอยยิ้มส่งมาให้เธอ
"ท่านเป็นองค์ราชินีแห่งสรวงสวรรค์แห่งแดนอาทิตย์อุทัย"
"..." เธอไม่ได้ตอบอะไรนอกจากเลื่อนสายตามองชุดที่อามาเทราสุใส่ กิโมโนสีแดงสดมีลวดลายสลักสวยงาม เปลือยไหล่สองทั้งข้างให้ผู้อื่นยลโฉม แถมตรงกลางก็แหวกจนแทบเห็นร่องอก บนหน้าผากมีสลักเหมือนจันทร์เสี้ยวอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ เธออธิบายไม่ถูกว่ามันคืออะไร สำหรับเธอทุกอย่างช่างคุ้นเคยจนน่ากลัว
ทานาโทสโผล่มาจากไหนก็ไม่ทราบ เขาจัดการเปิดห้องขังให้เธอแล้วก็หายไปเมื่อหมดหน้าที่
เธอยังไม่ทันขยับ อามาเทราสุก็เดินเข้ามาในห้องขังโดยไม่มีผู้ใดห้าม ท่านแม่อันนามีสีหน้าที่ไม่ดีนัก มือเรียวจับลงที่ข้อเท้าของเธอเมื่อนางย่อตัวลงแล้วใช้ความร้อนหลอมเหลวโซ่จนเหมือนเป็นแค่เศษเหล็ก ไม่ใช่โซ่เวทมนตร์
ราชินีแห่งสวรรค์ของแดนอาทิตย์อุทัยเหรอ...
พรึ่บ!
ลิเลียน่าตัวแข็งทื่อเมื่อนางดึงเธอเข้าไปกอดโดยไม่สนใจสายตาของท่านแม่ทั้งสองและอารัม
อ้อมกอดรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนเธอหายใจแทบไม่ออก พร้อมกับที่ไหล่ของเธอสัมผัสได้ถึงหยดน้ำตาที่ตกลงมากระทบ
"เราคิดถึงเจ้าเหลือเกิน คิวบิโนะโยโกะ" เสียงหวานกระซิบข้างหู ชื่อของเธอที่หลุดออกมาจากปากของนางทำให้ภาพในหัวฉายวาบเข้ามา
ภาพของเธอที่ยังคงเป็นคิวบิโนะโยโกะกำลังใช้เวลาร่วมกับอามาเทราสุ ทั้งหัวเราะและร้องไห้ ทั้งมีความสุขและไม่มีความสุข ความทรงจำไหลย้อนกลับมาทั้งหมด
"..."
เธอเหมือนคนไร้ชีวิตไปแล้วตอนที่อามาเทราสุผละออกแล้วสบตากับเธอในระยะประชิด นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มของเธออย่างโหยหา
"เจ้าควรกลับมาเป็นคิวบิโนะโยโกะของข้า สาวน้อย"
และลิเลียน่าก็ได้ตระหนักว่า...ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตัวตนเก่าของเธอหนีใคร
"ต่อจากนี้ไปเจ้าจะไปอยู่กับนาง" ท่านแม่ลอเรียลกล่าว เธอสบตากับอารัมซึ่งมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ น้องเบือนสายตามองไปทางอื่น
หัวสมองของเธอว่างเปล่า เธอเป็นลมหมดสติจังหวะเดียวกับที่อามาเทราสุอุ้มร่างไร้เรี่ยวแรงของเธอขึ้นบนอ้อมแขนพอดี
"เหตุใดท่านแม่ถึงให้ท่านพี่ลิเลียน่าไปกับนาง" อารัมไม่รู้ตัวว่าสีหน้าของตัวเองเจ็บปวดมากขนาดไหนเมื่อสตรีนางนั้นพาพี่สาวของเธอไป แต่เธอก็ตัดสินใจหันหน้าไปถามท่านแม่ทั้งสองเพราะต้องการคำตอบ
ท่านแม่อันนาลังเลที่จะบอก นางเป็นคนเดียวที่ทราบว่าเธอคิดยังไงกับท่านพี่
"ในตอนที่ลิเลียน่ายังเป็นคิวบิโนะโยโกะ อามาเทราสุเคยจับลิเลียน่ามาเป็น 'นางสนม' ส่วนตัว เพราะไม่อยากปล่อยให้จิ้งจอกเก้าหางอาละวาดหรือกระทำเรื่องปั่นป่วนในพระราชวังของกษัตริย์มนุษย์ แม่เองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าหลังจากนั้นเหตุใดทั้งสองถึงหลงรักกัน อาจเพราะต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันเกือบทั้งวัน เป็นปีๆ"
"ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี" อารัมส่ายศีรษะ
"วันแรกที่อามาเทราสุจับลิเลียน่าไป นางบังคับให้ลิเลียน่าทำสัญญาการเป็นทาสโดยต้องลงลายมือชื่อบนกระดาษ ซึ่งหมายความว่านางเป็นเจ้าของชีวิตลิเลียน่า"
"..."
"และหากกระดาษแผ่นนั้นยังคงอยู่ มันก็จะเป็นแบบนั้นตลอดไป"
ลิเลียน่าฟื้นขึ้นมาในห้องญี่ปุ่นโบราณในสถานที่ที่เธอเองก็คุ้นเคยดี เธอขมวดคิ้วเมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นวาบของร่างกาย ก่อนพบว่าทั้งร่างกายเธอและร่างกายของอามาเทราสุที่นอนกอดเธออยู่ต่างเปลือยเปล่ากันทั้งคู่
เราสบตากันอย่างเงียบเชียบเพราะนางไม่ได้หลับ
"ท่าน...ตามมาหลอกหลอนข้าทำไม" เธอนึกคำถามนี้ได้เลยถามออกไป
ทบทวนความทรงจำที่เคยมีเราอีกครั้ง เธอเคยรักนาง และนางก็รักเธอมากเกินไปจนทำให้เธออึดอัด ตามสัญญาที่เราทำไว้ เธอควรมีเวลาได้ลงไปเดินเล่นบนโลกมนุษย์ได้อย่างน้อยวันละสองชั่วโมง แต่จู่ๆ นางก็อยากให้เธออยู่ด้วยกันตลอดเวลา มันคือเรื่องเดียวที่เธอไม่สามารถทนได้
นานวันเข้าจากความรักก็กลายเป็นความเกลียดชัง เธออาละวาดทั่วสวรรค์และทำให้เทพองค์อื่นไม่พอใจ อามาเทราสุปกป้องเธอ
แต่เมื่อเทพพวกนั้นต้องการสงคราม เธอก็ไม่ลังเลเหมือนกัน และเมื่อมันกลายเป็นสงคราม นั่นทำให้นางปกป้องเธอไม่ได้อีกต่อไป
แต่เธอแพ้ย่อยยับเพราะพวกมันเล่นหมาหมู่
ลิเลียน่าขอความช่วยเหลือจากท่านแม่อันนาที่ตอนนั้นเป็นสหาย เธอเคยคิดว่าเธอจะไม่กลับมาหาอามาเทราสุอีก
เธอเกลียดนาง นางพังชีวิตของเธอ
"ท่านจำไม่ได้หรือว่าข้าเกลียดท่าน" เธอพยายามผลักนางให้ออกห่างไป แต่ไม่มีปฏิกริยาตอบรับนอกจากความเฉยเมย นางหลุบสายตามองเธอแล้วรั้งให้ร่างกายเราใกล้ชิดกันกว่าเดิม เสียดสีจนเธอต้องขมวดคิ้วมุ่น
"คิวบิโนะโยโกะ" อามาเทราสุพูดชื่อเก่าของเธอออกมาหนึ่งคำ
"ข้าชื่อลิเลียน่า" เธอแก้
"ก็เหมือนกัน สาวน้อย ไม่ว่าเจ้าจักชื่ออะไรเจ้าก็คือคิวบิโนะโยโกะของเรา" นางกล่าวโดยไม่สนใจสีหน้าเธอเลย และยิ่งเมื่อนางพลิกตัวขึ้นมาอยู่บนร่างของเธอ กดเธอให้ขยับไม่ได้ไปกับเตียงนอน เธอก็ยิ่งเกลียดนางมากขึ้นกว่าเดิม
"เพราะท่านเป็นเช่นนี้ไงข้าถึงหนีท่านไป" เธอหงุดหงิดจนไม่แน่ใจว่าควรทำอะไร ที่คิดอยู่ตอนนี้คือการหาทางหนีอีกรอบ
"เหรอ" นางไล้ปลายนิ้วอยู่บนหน้าท้องของเธอ
"ข้าไม่ชอบวิธีสกปรกที่ท่านใช้!" เธอยกมือขึ้น แต่นางก็ใช้มืออีกครั้งกดมือเธอลงอย่างนุ่มนวลจนอยากอาละวาดให้รู้แล้วรู้รอด
"สกปรกอะไร" อามาเทราสุขมวดคิ้ว ดวงตาอ่อนโยนของนางทำให้เธอหงุดหงิดจริงๆ เธอไม่อยากให้นางมาทำท่าเหมือนตัวเองเป็นคนดี ทั้งๆ ที่นางเพิ่งจะลากเธอกลับมาขืนใจอีกรอบ
"ข้าไม่อยากกลับมา ท่านกำลังบังคับ" เธอกัดฟันกรอด
"อืม ข้าบังคับ" นางรับคำง่ายๆ "แต่ข้ามีสิทธิ์"
"ไอ้สัญญาเฮงซวยนั่นน่าจะถูกเทพองค์อื่นทำลายหมดแล้วไม่ใช่หรือไง!"
"ยัง" นางถอนหายใจแล้วผละออกจากร่างกายเธออย่างเอื่อยเชื่อย ร่างสูงผอมเพรียวมีน้ำมีนวลเดินไปหยิบเอกสารที่ถูกเก็บอย่างดีในตู้กระจกมาโชว์อีกมุมหนึ่งของห้องให้เธอดู ลิเลียน่าหรี่ตาลง มันตั้งอยู่โดดเด่นมาก หากเธอรู้ว่าคืออันนั้นเธอคงพุ่งไปทำลายแล้ว
"หากท่านเหงาหรือต้องการความรัก ท่านยังสามารถหาคนอื่นได้" เธอกำมือแน่นขณะลุกขึ้นนั่ง มือยังกระชับผ้าห่มเพราะร่างเปลือยเปล่า
"ไม่ น่าเบื่อ" นางวางกระดาษแผ่นนั้นไว้ที่เดิม แล้วเดินกลับมายังเตียง "และจะไม่ตลอดไป"
"ท่านหมายความว่ายังไง" ลิเลียน่าชะงัก เธอถูกบังคับให้นอนราบลงไปกับเตียงอีกครั้ง การกระทำที่เชื่องช้าของนางเปลี่ยนไป ครั้งนี้ดูรุกรานมากขึ้นกว่าเดิม
มือเรียวแตะลงบนซอกขาของเธอ รุกคืบเข้ามาภายในอย่างเร่าร้อน
"เพราะเราจะแต่งงานกัน"
อีกเรื่องที่เธอเพิ่งนึกได้นอกจากการเกลียดการพูด หน้าตา การกระทำ รูปร่างของนางแล้ว เซ็กซ์ดิบเถื่อนของนางก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตกนรก...
หลังจากผ่านการอยู่กับอามาเทราสุมาสามวันด้วยกัน วันนี้เป็นวันแรกที่นางให้เธอออกมานั่งตำหนักของนาง ระหว่างที่นางกำลังนั่งคอยอยู่บนบัลลังก์และปล่อยให้เทพองค์อื่นเอาเรื่องต่างๆ มาทูล
ร่างกายภายใต้ชุดกิโมโนมิดชิดของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงอย่างน่ารังเกียจ ตั้งแต่ลำคอยาวลงมาถึงต้นขาทั้งสองข้าง ตลอดสามวันที่ต้องอยู่บนเตียง ร่างกายเธอบอบช้ำจริงๆ
"องค์ราชินี ท่านไอริมาขอพบขอรับ" มีเทพหนุ่มองค์หนึ่งเข้ามากราบทูลต่ออามาเทราสุ เธอหันไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา
หากให้เปรียบเปรยว่านางดูสูงศักดิ์ก็ไม่ถูกนัก นางมีรัศมีแบบนั้นจริง แต่ชุดที่นางใส่เป็นชุดนินจาธรรมดากับหน้ากากปกปิดใบหน้าท่อนล่าง นัยน์ตาเฉี่ยวคมเหลือบมองเธอเล็กน้อย
"มีอันใดหรือมังกรน้อย" คำกล่าวของอามาเทราสุทำให้เธอแอบขมวดคิ้ว
เธอมองอายุของพวกเทพ มังกร หรือใครสักคนที่มีอายุเกินร้อยปีออก และท่านไอริคนนี้ก็ไม่ใช่ 'มังกรน้อย' อย่างที่เทพีสุริยันกล่าวเสียเท่าไหร่
"ท่านแม่โอริวไม่ว่างมารายงานต่อท่านด้วยตนเอง" เสียงของท่านไอรินุ่มนวล แต่ก็แฝงแววสุขุมเคร่งขรึม นางยื่นกระดาษที่ดูสำคัญให้อามาเทราสุ "สิ่งนี้คือรายงานของสวรรค์ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา"
"ลำบากหน่อยนะ" อามาเทราสุยิ้มอ่อนโยน นางเหลือบมามองเธอเล็กน้อยตอนพูดประโยคต่อมา "แล้วเจ้ามีลูกหรือยัง กับสตรีที่ชื่อบัตเตอร์ฟลาย"
"ลูกเหรอ" ท่านไอริขมวดคิ้ว เงียบไปสักพักก่อนตอบ "ข้ากับบัตเตอร์ฟลายเห็นตรงกันว่าเราไม่อยากมีลูก เพราะนางมีความสุขดีกับการฝึกสอนการต่อสู้รูปแบบมนุษย์ให้แก่มังกรเด็กๆ ในเผ่าพันธ์มากกว่า"
"..." เธอได้ยินอามาเทราสุพึมพำว่า 'ก็เป็นสิ่งที่ดี'
"แล้วเหตุใดท่านถึงถามข้าเช่นนั้น องค์ราชินี ท่านอยากมีลูกหรือ"
"ก็ไม่แน่" เทพีสุริยันยิ้มกว้าง ดูเบิกบานและอารมณ์ดีจนเธอหงุดหงิด เธอเกลียดสิ่งที่เป็นความสุขของนางจริงๆ โดยเฉพาะคำพูดต่อมาพร้อมกับสายตาที่พยักเพยิดมาที่เธอ "กับนาง"
ท่านไอริหันมาแล้วโค้งให้เธอเล็กน้อย นัยน์ตาคมกริบพิจารณาใบหน้าของเธอ
ลิเลียน่ามองสายตาของนางอย่างไม่เข้าใจ
"ท่านเกี่ยวพันกับท่านอิลูเมียหรือ ท่านหญิง..." คำพูดของนางจุดประกายความสว่างไสวให้แก่เธอ หวังเพียงสักนิดว่าหากนางรู้จักกับท่านอิลูเมีย เธอคงได้กลับบ้าน
"ข้าเป็นหลานของท่านอิลูเมีย" คำพูดของเธอทำให้นางยกมือขึ้นเกาแก้ม
"ท่านหญิงคือลูกสาวของท่านลอเรียลหรือท่านลินดิสหรือ พอดีข้าไม่ได้ติดต่อกับทางนั้นนานแล้ว ก็เลย..."
"ลอเรียล" ริมฝีปากของเธอสั่นเมื่อต้องพูดชื่อของท่านแม่ "ข้าเป็นลูกของท่านแม่ลอเรียล"
อามาเทราสุไม่ได้พูดอะไรระหว่างรับฟังพวกเราสองคนคุยกัน นางแค่ยกมือขึ้นเท้าคางเอาไว้แล้วมองตรงมาอย่างสบายอารมณ์ อมยิ้มเอ็นดูบนริมฝีปากทำให้สะบัดหน้าหนีกลับมาแทบไม่ทัน
"สงสัยข้าต้องไปเยี่ยมเยือนท่านอิลูเมียเสียหน่อย" ท่านไอริพยักหน้า
"งั้นให้ข้าไป..." เธอกำลังเสนอตัวจะไปด้วย
"เจ้าไปเถอะ ไอริ" อามาเทราสุขัด นัยน์ตาของนางจับจ้องเธอไม่วางตา เห็นทะลุปรุโปร่งถึงความคิดข้างใน "ข้ามีธุระกับแม่ตัวน้อยเสียหน่อย"
ท่านไอริเลิกคิ้วแล้วมองเธอสลับกับอามาเทราสุ สักพักก็เดินออกไป
"อะไรของท่าน" เธอลุกขึ้นยืนอย่างฉุนเฉียวเมื่ออามาเทราสุลงมาจากบัลลังก์
"ข้าสิต้องถามว่าอะไรของเจ้า" นางถือวิสาสะจับข้อมือเธอไว้
"ข้าทำอะไร" เธอถลึงตาแล้วพยายามข้อมือออก
"พยายามหนีข้าอีกรอบไง ที่เจ้ากำลังทำอยู่" อามาเทราสุไม่เปิดโอกาสให้เธอได้โต้เถียงเรื่องนี้กับนางอีก นางดึงเธอให้ออกจากตำหนักแล้วเดินเบี่ยงไปอีกทาง เธอใจไม่ดีเพราะทราบว่าทางนั้นมันนำไปที่ไหน
"ท่านจะพาข้าไปไหน" แต่เธอก็ยังถาม
"เรือนนอน"
"..."
"ข้าคิดว่าเราต้องปรับความเข้าใจกันเสียหน่อย"
อารัมเดินทางมาถึงแดนอาทิตย์อุทัยตอนเวลาเกือบเย็น เธอมองสำรวจสวรรค์ของที่นี่ ก่อนพบว่ามันค่อนข้างใหญ่มาก ใหญ่กว่าโอลิมปัสเกือบสองเท่าตัว เพราะบนสวรรค์ไม่ได้สงวนให้เทพอยู่เท่านั้น สัตว์วิเศษมากมายต่างก็อาศัยกันอยู่คนละส่วน
แต่เธอไม่ได้มาเพื่อสำรวจ เธอมาหาท่านอามาเทราสุ เพื่อขอเข้าพบลิเลียน่า
หลังจากที่แจ้งเรื่องไปกับเทพที่มีหน้าที่ทูลต่อท่านอามาเทราสุ เธอยืนรออยู่สักพักหนึ่งก่อนที่เขาจะตอบว่าให้ไปหายังเรือนนอน แล้วชี้ทางให้เธอ เธอเลยต้องเดินตามหาเรือนนอนที่ว่านั่นเอง
ว่าแต่ทั้งสองทำอะไรกันอยู่ที่เรือนนอน
ความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเรื่องนั้นทำให้อารัมหน้าตึง...
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามเธอต้องข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ เมื่อมาถึงเรือนนอนก็มีหญิงรับใช้สองคนพาเธอไปยังส่วนห้องนอนของท่านอามาเทราสุ
เจ้าของเรือนนอนเพิ่งเดินออกมา ท่าทางดูมีความสุขแปลกๆ
เธอก้มหัวเล็กน้อยเป็นการทักทาย
เมื่อท่านอามาเทราสุเดินจากไปอีกทาง เธอมองประตูบานนั้นอย่างชั่งใจ
"ลิเลียน่า?" อารัมส่งเสียงเรียกชื่อพี่สาว
ไร้เสียงตอบรับในคราแรก ก่อนที่เสียงแหบแห้งหนึ่งจะดังขึ้น
"อารัมเหรอ..."
"ขอเข้าไปนะเพคะ" เธอไม่แน่ใจว่านางทำอะไรอยู่ แต่เสียงของนางฟังดูไร้เรี่ยวแรงจนอดเป็นห่วงไม่ได้
"ไม่!!" เสียงตะโกนของลิเลียน่าทำให้เธอสะดุ้งด้วยความตกใจ แต่ไม่ทันแล้ว เธอดันประตูให้เปิดออกก่อนพบว่าพี่สาวนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ร่างกายถูกคลุมด้วยชุดกิโมโนแบบลวกๆ นางขดตัวอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็ก และเมื่อเราสบตากัน...นางก็หันไปทางอื่นแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น "อย่ามอง...ดะ ได้โปรด อารัม"
"ลิเลียน่า เกิดอะไรขึ้น!" เธอพรวดพราดเข้าไปหานาง ในใจเป็นห่วงจนร้อนรน ก่อนที่สายตาจะหลุบเห็นรอยแดงตามตัวของนาง แดงจ้ำและสีสดจนดูเหมือนกับว่าช้ำเลือด
ดวงตาสีฟ้าใสแดงก่ำจากการร้องไห้ นางไม่สบตาเธอ
"..." ไม่มีเสียงตอบนอกจากการสะอื้นอย่างหนักหน่วง
"ท่านพี่...ไม่ต้องร้องไห้" เธอคิดคำปลอบใจที่ดีกว่านี้ไม่ออก แขนโอบร่างปวกเปียกไว้ในอ้อมแขน เมื่อเห็นน้ำตาของนางหัวใจก็เจ็บแปรบ
ร่างกายของลิเลียน่าร้อนราวกับมีไฟกองใหญ่เผาไหม้อยู่ตลอดเวลา นางไม่สบายหนัก
อามาเทราสุ...เธอไม่อภัยให้แน่
"ลิเลียน่า ท่านนอนก่อน ข้าจะเรียกองค์ราชินีมารับท่าน" อารัมกระซิบ เธอพยุงให้นางไปนอนที่เตียง แต่นางกลับส่ายศีรษะรัวๆ เล็บจิกลงมาบนผิวเนื้อเธออย่างคนที่หวาดกลัวสุดขีด
เธอชะงัก ไม่สนความเจ็บปวดของตัวเอง จนสุดท้ายก็สวมใส่กิโมโนให้คลุมร่างกายเปลือยเปล่าให้เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เธอนั่งลงบนพื้นห้องแล้วประคองให้นางนอนลงบนตัก นางหายใจระรวยรินเมื่อหลับตาพริ้มลง
องค์ราชินีเคยสอนให้อารัมสื่อสารทางจิตมาก่อน มันเป็นการส่งกระแสจิตเข้าไปในประสาทรับรู้ของผู้อื่น และเมื่อผู้นั้นตอบรับกระแสจิตของเรา เราก็จะสนทนากันได้
ไม่นานนักองค์ราชินีก็ตอบรับ
'มีอันใด อารัม'
'องค์ราชินี ท่านช่วยมารับลิเลียน่าหน่อยได้หรือไม่ ข้าคิดว่านางบาดเจ็บหนัก'
'เกิดอะไรขึ้น?'
'ข้าจะเล่าให้ฟังเมื่อเรากลับไปยังโอลิมปัส'
ไม่มีเสียงตอบรับอะไรอีก การสื่อสารทางจิตถูกตัดขาด เธอถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นลูบศีรษะของลิเลียน่า ช่วงเวลาสามวันที่เราไม่ได้เจอหน้ากัน เธอได้สนทนากับท่านแม่อันนาและท่านไวโอเล็ตในหลายๆ เรื่องที่เกี่ยวกับพี่สาว
อีกสองวันที่จะมาถึงเป็นวันรับปริญญาของลิเลียน่าในอีกโลก เธอเลยถูกใช้ให้มาตามพี่สาวกลับไปก่อน เพราะนางต้องไป
ไม่มีใครเห็นด้วยกับท่านแม่ลอเรียล ไม่มีใครที่ทราบจริงๆ ว่าท่านแม่ลอเรียลคิดสิ่งใดอยู่
อารัมพูดอะไรออกมาไม่ได้สักคำเมื่อเห็นความทรมานของลิเลียน่า คำต่างๆ จุกอยู่ในลำคอ สิ่งที่เธอทำได้จริงๆ คือการอยู่ข้างกายนางเท่านั้น และเธอสาบานว่าเธอไม่มีทางไปไหนจนกว่านางจะดีขึ้น
ไม่นานนักองค์ราชินีก็โผล่มาพร้อมกับท่านแม่ของท่านไวโอเล็ต
"เกิดอะไรขึ้น" เสียงเกรี้ยวกราดขององค์ราชินีแห่งเผ่าพันธ์ปรสิตดังขึ้น นางตรงเข้ามาแล้วประคองลิเลียน่าให้ลุกขึ้นนั่ง หากท่านไวโอเล็ตมองลิเลียน่าว่าเป็นลูก มันคงไม่แปลกที่นางจะมองลิเลียน่าเป็นหลานเหมือนกัน มือเรียววาดสัญลักษณ์ขึ้นมาบนอากาศ ก่อนที่อากาศจะแหวกออกเป็นทางผ่าน "แวนไฮล์!!"
"ขอรับท่านนาตาเลีย!" เสียงชายหนุ่มดังขึ้นอย่างตื่นตระหนก ไม่นานร่างสูงใหญ่ก็เดินผ่านทางผ่านเข้ามาหาเรา นัยน์ตางุนงงของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเห็นสภาพลิเลียน่า
ไม่มีใครจำเป็นต้องพูดอะไรด้วยซ้ำ เขาอุ้มร่างของลิเลียน่าขึ้นจากพื้นแล้วเดินผ่านเข้าไปในทางผ่านอีกครั้ง เธอเดินผ่านเข้าไปคนสุดท้ายก่อนที่ทางผ่านจะปิด
"เรียกมะกังก้ามา" ท่านนาตาเลียเป็นผู้ออกคำสั่ง "แวน เจ้าพาลิเลียน่าไปยังห้องนอนเสียก่อน ไว้ข้าตามไปดูอาการ"
"ขอรับ" ชายหนุ่มรับคำก่อนพาลิเลียน่าจากไป แวบหนึ่งที่เธอเห็นว่าดวงตาสีฟ้าใสลืมขึ้นมาแล้วเหลือบมองเธอ
อารัมอยากตามไปใจจะขาด แต่สุดท้ายเธอก็ต้องนั่งลงบนโซฟาเพื่อคุยกับองค์ราชินีทั้งสอง
"เล่ามาว่ามันเกิดอะไรขึ้น" องค์ราชินีอิลูเมียเป็นผู้ถาม ใบหน้าสวยเคร่งเครียด
"ท่านแม่ลอเรียลส่งลิเลียน่าไปอยู่กับองค์ราชินีแห่งแดนอาทิตย์อุทัย อามาเทราสุ โอคามิ เพราะในอดีตกาลนั้นทั้งสองเคยเป็น..." เธออึกอัก พยายามนึกคำอะไรสักอย่างมาอธิบายความสัมพันธ์เก่าของทั้งสอง แต่ท่านนาตาเลียก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
"สัญญาทาสใช่หรือไม่"
เธอพยักหน้าตอบรับคำพูดนั้น
"เจ้าทราบหรือนาตาเลีย" องค์ราชินีอิลูเมียหันไปถาม
"ทราบ เคยได้ยินข่าวลืออยู่หนาหู กล่าวกันว่าครานั้นอามาเทราสุเคยหลงใหลคิวบิโนะโยโกะมาก เพราะนางจิ้งจอกสาวมีมนต์เสน่ห์บางอย่างอยู่รอบตัวตลอดเวลา แต่ข้าไม่อาจบอกได้ว่ามันคือความรักจริงหรือไม่ ว่ากันว่า...เมื่อไหร่ก็ตามที่คิวบิโนะโยโกะพยายามที่จะหนีไปจากอามาเทราสุ อามาเทราสุจะทราบเสมอ"
"..."
"เคยมีครั้งหนึ่งที่เทพบนสวรรค์นั้นกล่าวกันว่าร่องรอยบนตัวของคิวบิโนะโยโกะเยอะขึ้นทุกวัน ยิ่งพยศ ยิ่งได้รับผลตอบแทนที่หนักหนาขึ้นไปตามกัน"
"..."
"คิดว่ายิ่งรุนแรง ความรู้สึกก็ยิ่งเหือดหาย ไม่ใช่เพียงคิวบิโนะโยโกะ แต่เป็นอามาเทราสุด้วย"
"แสดงว่าอามาเทราสุทราบใช่หรือไม่ว่าเราเอาลิเลียน่าออกมา และนางก็ยังปล่อยให้พวกเราทำแบบนั้น" องค์ราชินียกมือขึ้นกอดอก "ข้าหวังว่ามันคงไม่ใช่หลุมพรางที่จะก่อสงครามโดยข้ออ้างว่าเราเอาสตรีของนางออกมาหรอก"
อารัมเม้มริมฝีปาก ท่านแม่อันนาสอนเธอเสมอว่าสงครามไม่ใช่เรื่องตลก ไม่ใช่สิ่งที่ควรปล่อยให้มันเกิดขึ้น
"ข้าไม่ทราบว่านางคิดอันใดอยู่ นางเป็นคนที่มักจะยิ้มตลอดเวลา" ท่านนาตาเลียส่ายศีรษะ "ไม่มีผู้ใดรู้ว่าใต้รอยยิ้มนั้น...แฝงอะไรไว้"
ฟังดูคุ้นๆ...เหมือนท่านแม่ลอเรียลไม่มีผิด
แตกต่างตรงที่ว่า ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง กับ ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดเวลา
"อารัม" องค์ราชินีอิลูเมียหันมาหา ความโกรธสุ่มอยู่ในดวงตาของนาง "อยู่ที่นี่กับลิเลียน่า คอยดูแลพี่สาวไว้ให้ดี เราจะรักษาแผลภายนอกให้หายแล้วส่งลิเลียน่าไปรับสิ่งที่เรียกว่าปริญญา หลังจากนั้นเป็นการตัดสินใจของลิเลียน่าว่าจะกลับมาหรือไม่กลับ แต่ข้าคงไม่แปลกใจหากนางเลือกที่จะไม่กลับ"
"..."
"เพราะแม่แบบลอเรียล เป็นข้าข้าก็คงไม่อยากอยู่ใกล้เท่าใดนัก" ว่าจบองค์ราชินีก็ลุกขึ้นยืนแล้วหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่
"อิลูเมียไม่ค่อยโกรธนักหรอก" ท่านนาตาเลียกระซิบ "เพราะนางทราบดีว่าเวลานางโกรธ นางจะเป็นยังไง แล้วมันหมายความว่าอันใด ทราบหรือไม่"
"ข้าไม่ทราบ" เธอตอบไปตามตรง
"มันหมายความว่าแม่ของเจ้าแย่แน่ๆ" นางพูดจบก็ลุกขึ้นยืน นัยน์ตาสีเขียวมรกตพยักหน้าเรียกให้เธอเดินตามนางไป ก่อนพบว่านางพาเธอมายังห้องนอนของลิเลียน่า "ไวโอเล็ตกับไดอาน่าอยู่ที่เกาะที่ห่างออกไป พวกนางจะมาที่นี่ในวันรุ่งขึ้น ข้าอยากให้เจ้าดูแลลิเลียน่าไปก่อนอย่างที่อิลูเมียว่า"
"ข้าทราบดี ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจัดการที่เหลือเอง" อารัมกล่าวขณะมองภาพที่ท่านมะกังก้าผู้ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหมอยามือหนึ่งของโลกปีศาจกำลังป้อนยามากมายให้แก่ลิเลียน่าโดยมีท่านแวนไฮล์นั่งเฝ้าอยู่อีกมุมหนึ่ง
"เจ้าทราบหรือไม่ ว่าทุกคนที่นี่รักพี่สาวของเจ้ามาก" น้ำเสียงที่ท่านนาตาเลียใช้พูดกับเธอมีความห่างเหิน "แต่นางไม่ได้ต้องการความรักจากผู้ใดนอกจากแม่ของนาง"
"ข้าทราบ" เธอตอบได้แต่ประโยคพวกนี้ ไม่กล้าพูดอะไรไม่เข้าหูองค์ราชินีเผ่าพันธ์ปรสิต
ลิเลียน่าเป็นคนรักครอบครัว รักมาก แต่ครอบครัวของเราบีบบังคับให้นางไม่รักมาตั้งแต่ต้นแล้ว
ตั้งแต่ส่งไปอยู่กับผู้อื่น
ตั้งแต่ต้องไปร่ำเรียนในโลกที่ไม่คุ้นเคย
ตั้งแต่ความห่างเหินที่ท่านแม่ลอเรียลแสดงใส่
แต่ที่แปลกคือท่านแม่ลอเรียล...
"ลอเรียลเป็นคนรักครอบครัว แม่ยืนยันด้วยเกียรติของแม่ได้เลย อารัม"
ก็ท่านแม่อันนาบอกเธอแบบนั้น
เมื่อทุกคนในห้องทยอยออกไป ก็เหลือเพียงแค่เธอที่ต้องทาสมุนไพรลงตามจุดต่างๆ ของร่างกายลิเลียน่า ตรงที่เป็นแผลน่ากลัวช้ำเลือดพวกนั้น ท่านมะกังก้าบอกว่าแผลทั้งหมดของลิเลียน่าจะหายหมดภายในคืนนี้ เนื่องมาจากยาที่ให้กิน ยาที่เธอต้องทาให้ เมื่อรวมกับประสิทธิภาพการฟื้นฟูของจิ้งจอกเก้าหาง
ต่อให้เป็นแผลร้ายแรงกว่านี้ก็สามารถหายได้
ส่วนเรื่องไข้...ก็พยายามรักษาสุดความสามารถ
"ท่านพี่ น้องขออนุญาต" เธอกระซิบเบาๆ ขณะถอดชุดกิโมโนออกจากร่างของลิเลียน่าที่นอนนิ่งไม่ไหวติง นางรู้สึกตัวและได้ยิน แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
อารัมใช้มือป้ายยาสมุนไพรก่อนบรรจงทาไปตามร่องรอยตามตัวของนางอย่างเบามือ มีบ้างที่นางส่งเสียงครางแผ่วๆ ออกมาเพราะความเจ็บปวด เรือนร่างนางไม่ควรเป็นปัญหากับเธอ เพราะเธอไม่เคยคิดอะไรแบบนั้น
แต่เมื่อต้องเลื่อนไปทาแถวช่วงขา กลับมีรอยอยู่ที่ต้นขาด้านใน
เธอสูดลมหายใจ แล้วเลื่อนมือเข้าไป แตะยาลงบนรอยช้ำ
แต่ทำได้ไม่เสร็จก็ต้องผละออก...
อารัมพุ่งพรวดออกไปหน้าห้อง เธอทรุดตัวลงนั่งหลังบานประตูปิดลง
เธอแค้นอามาเทราสุจนอยากจะร้องไห้ เผลอกัดปากจนเลือดซึมออกมา
เธอไม่อยากสูญเสียลิเลียน่าไปให้คนพรรค์นั้น ไม่สิ...
อารัมไม่อยากเสียพี่สาวให้ใครทั้งนั้น
อารัมหายไปไหน...
ลิเลียน่าพยายามหาน้องสาวในความมืด เธอลืมตาไม่ขึ้น และไม่มีแรงมากพอจะส่งเสียงอะไร แต่เธอได้ยินเสียงย่ำเท้าของนางที่เดินออกไปจากห้อง
เธอกลัว...เธออยากให้น้องอยู่ข้างๆ เธอตอนนี้
ฟุบ...
มีมือข้างหนึ่งจับมือเธอไว้ในความมืด เธอบีบมือข้างนั้นไว้แน่นขณะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นแปลกประหลาดที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกาย และในอีกขณะหนึ่ง...หากจมูกของเธอยังใช้การได้ดี เหมือนว่าเธอได้กลิ่นเลือดลอยจางมา
เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นที่แตะลงบนความชอกช้ำของตัวเองอย่างเชื่องช้า ไล่ทาไปเรื่อยๆ ไม่มีการรุกล้ำ ไม่มีความติดขัด มีแต่มั่นคง ราบเรียบ และสงบนิ่ง
ริมฝีปากอุ่นกดแนบบนหน้าผากของเธอ
ก่อนที่ทุกอย่างจะจางหายไป...
ลอเรียลนั่งลงระหว่างให้เพย์น่าทำแผลที่หน้าท้องให้ และปล่อยให้นางกลบปิดแผลไหม้ที่บางส่วนของร่างกาย เธอหลับตาลงขณะย้อนนึกกลับไป
'ข้าไม่เคยมีพี่สาวเลย'
'เหรอ? แล้วอยากให้คนอย่างข้าเป็นพี่สาวให้เจ้าหรือไง'
'ย่อมได้ หากท่านต้องการ'
'...'
'แต่เป็นความลับนะ ไม่ต้องบอกใคร เพราะเราคงไม่เจอกันบ่อยนัก กลับมาเจอกันอีกครั้งท่านคงลืมเลือนข้าไปหมดแล้ว'
ได้ยินเสียงหัวเราะ หึ ในลำคอเบาๆ นัยน์ตาสีเทากับผมสีขาวบริสุทธิ์ขับใบหน้าให้ดูโดดเด่นในความทรงจำ
'งั้นมาดูกัน ว่าน้องสาวอย่างเจ้าจะพาข้าออกไปจากตรงนี้ได้หรือไม่'
เธอจะทำมันไปได้อีกนานแค่ไหนกันนะ...
"ขอบคุณท่านมากเพย์น่า ท่านดีกับข้าเสมอเลย" เธอกล่าวขอบคุณแก่ผู้ที่รักษาแผลให้ นางบ่นอะไรอีกนิดๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับการดูแลบาดแผล แต่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาฟัง เพราะเธอเห็นอันนากำลังเดินออกมาจากในเงามืด
"ลอเรียล ท่านอิลูเมียขอพบเจ้า" สีหน้านางเรียบเฉย แต่แววตาดูกังวล
"อื้อ" เธอพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า
...เก็บงำทุกอย่างไว้ภายใต้สีหน้านิ่งสนิท
**อามาเทราสุ เป็นเทพีแห่งดวงอาทิตย์ของตำนานแดนอาทิตย์อุทัย (ญี่ปุ่น) หากไม่นับบิดาของอามาเทราสุ (แต่คนส่วนมากก็ไม่นับ) อามาเทราสุเลยเปรียบดั่งราชินีที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของสวรรค์
ความคิดเห็น