ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Black N Blue (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #11 : Black N Blue❖Everything started from 'force' 11

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.พ. 63


    คำเตือน :: บางช่วงบางตอนมีความรุนแรง เนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของตัวเกมแต่อย่างใด ฉากที่มีเนื้อหาเรท R จะไม่อัพลงเด็กดี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


    Song :: Epic Music - Icarus


    EPISODE11

    Alternative Universe 01Everything started from 'force'


    "แต่ในเมื่อเจ้าสวยเช่นนี้ ข้าอาจเปลี่ยนใจมอบตำแหน่งราชินีคนใหม่ของข้าให้เจ้าก็เป็นได้"

    ลูซิเฟอร์ฝันหวานอะไรอยู่ อย่าคิดว่าลอเรียลไม่เห็นมันในสายตาเขาแล้วกัน

    เธอขยับข้อมืออีกครั้งเผื่อมันหลุด แย่หน่อยแล้วกันที่หากเขาทำเรื่องต่ำทรามเช่นนั้นกับเธอจริง เธอคงมีอารมณ์ร่วมไม่ได้

    ขยะแขยง

    "แววตาเจ้าเหมือนราชินีแห่งโอลิมเปียนมากจริงๆ" เขากล่าวไปถึงเรื่องอื่น นัยน์ตาเย็นชาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา ราวกับเขาแค่บังเอิญเป็นสิ่งไม่มีชีวิตที่เดินได้ พูดได้ "ข้าเกลียดมัน"

    "เพราะท่าน...กระทำตัวเฉกเช่นนี้" เธออยากเติมคำว่า สารเลว ลงไป แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ "ไม่แปลกหรอกเหตุใดท่านแม่ถึงทิ้งไป"

    เขาขมวดคิ้ว พึมพำออกมาให้เธอได้ยินว่า 'ปากดี'

    ลอเรียลปรับลมหายใจให้อยู่ในระดับปกติ เพราะเขาเพียงแค่ยืนพูดตรงนั้น ไม่ได้เข้ามาใกล้กว่าเดิม เพราะฉะนั้นเธอไม่ควรตื่นตระหนกให้มากนัก ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ข้างกาย เธอก็ควรดูแลตัวเองให้ได้

    หากยังทำตัวเหยาะแหยะเช่นเดิม มันคงไม่ได้อะไรขึ้นมา

    ที่นี่...ถ้าจำเป็นต้องปลดผลึกแหวนวงสุดท้าย เธอก็จะทำ

    "นายท่าน ท่านนาตาเลียมาหาขอรับ" มาลอชเดินเข้ามาในห้อง เธอใช้สายตามองเขาอย่างขุ่นเคือง อย่าคิดว่าเธอจำไม่ได้ว่าเขาทำอะไรไว้

    แต่ยังไม่ทันที่ลูซิเฟอร์ได้ขยับออกจากห้องไป ร่างบอบบางของราชินีแห่งเผ่าพันธุ์ปรสิตก็เดินเข้ามา นัยน์ตาเฉี่ยวคมเหลือบมองเธอ ก่อนหันไปมองหน้าราชาแห่งนรกภูมิเป็นอันดับถัดมา

    "เจ้าทำร้ายสหายข้า" นางกล่าวออกมาเสียงเรียบ

    "..."

    "ทำร้าย...คนรักของลูกข้า"

    "ใคร" ลูซิเฟอร์ย้อนถามกลับไป

    "ไดอาน่า" เมื่อนางตอบ มาลอชก็ทำสีหน้าเหมือนนึกขึ้นได้

    "ขออภัยแล้วกัน" ราชาแห่งนรกภูมิตอบแบบขอไปที นัยน์ตาของทั้งสองดุดันไม่แพ้กัน

    ไม่นานนักราชินีแห่งเผ่าพันธุ์ปรสิตก็ถอนหายใจแล้วผลักลูซิเฟอร์กับมาลอชให้ไปอยู่บริเวณทางออกทั้งคู่ นางกล่าวเสียงดัง

    "เจ้าออกไปซะ"

    ลูซิเฟอร์แค่นยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่ทุกอย่างบนใบหน้าเขาจะกลับสู่ความตึงเหมือนเดิม เขาทำสีหน้าราวกับว่าต่อให้เขาปล่อยเธอกับราชินีนาตาเลียให้อยู่ด้วยกัน แต่จะไม่มีใครได้ออกไปจากที่นี่ทั้งนั้น

    ไม่นานนักทั้งห้องก็เหลือเพียงแค่เราสองคน

    "ท่านมาทำอะไรที่นี่" เธอถามเป็นอย่างแรก

    "ก็มาดูเจ้าไง" และนางตอบราวกับว่าคำถามของเธอเป็นคำถามโง่ๆ "เจ้าโดนจับมา ไดอาน่าบาดเจ็บ อันนาบาดเจ็บ อิลูเมียวิ่งวุ่นจนหัวหมุน เกิดเรื่องทั้งหมดขึ้นมาข้าคงไม่นั่งเฉยอยู่ในพระราชวังหรอก"

    "แต่ก็มีคนขอให้ท่านมา ใช่หรือไม่" ลอเรียลลองเชิง

    "ก็ใช่" นางไม่ปฏิเสธ "ไวโอเล็ตขอให้ข้ามาดูเจ้า กระชับอีกว่าให้อยู่ใกล้เจ้าเอาไว้ หากเจ้ายังไม่ปลอดภัยก็ห้ามกลับพระราชวังเด็ดขาด"

    น่าสงสาร โดนลูกไล่ออกจากบ้าน

    ราชินีนาตาเลียเป็นคนสวยและดูเย่อหยิ่งเกินกว่าจะจมปรักกับใครสักคนได้

    วินาทีแรกที่เธอเห็นนางมากับน้าเตียวเสี้ยน เธอก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน แต่เธอก็เลิกสนใจเพราะหันไปสนใจไวโอเล็ตกับแวนไฮล์ที่ทั้งสองพามาเล่นกับเธอแทน

    นางเดินมานั่งปลายเตียง ก่อนใช้พลังตัดโซ่ที่คล้องมือเธอให้ขาดสะบั้นลง แต่ตัวล็อคที่ข้อมือยังอยู่

    "นอนพักผ่อนเสีย" นางกล่าว "ข้าจะดูแลความปลอดภัยให้"

    เธอพยักหน้าโดยไม่มีปากเสียง ถึงนางจะเข้ามาในนรกได้ง่ายๆ คุยกับลูซิเฟอร์ราวกับเป็นสหายกันมาก่อน แต่เธอก็ทราบว่าเธอควรเชื่อใจนาง นางไม่มีวันทรยศเธอแน่

    มารดาของเธอเคยเล่าให้ฟังว่า...มารดาเป็นเพื่อนเล่นกับนางตั้งแต่นางเพิ่งหัดเดินได้ปีสองปี สอนเรื่องราวต่างๆ ให้นาง คอยดูแลความปลอดภัยให้เท่าที่ทำได้ และจากวันนั้นจนถึงทุกวันนี้ ทั้งสองก็ยังเป็นสหายสนิทกัน

    ถึงแม้อายุจะห่างกันหลายร้อยปีเลยก็ตาม

    เป็นความสัมพันธ์ที่ดูน่าอิจฉาดี

    ลอเรียลขยับร่างกายของตัวเองให้นอนลง แต่สองสามชั่วโมงต่อจากนั้นเธอก็ทำเพียงแค่นั่งมองแผ่นหลังของราชินีนาตาเลียเนื่องจากไม่อยากหลับ

    จากความรู้สึก อีกไม่กี่ชั่วโมงบนโลกจะมืดค่ำแล้ว

    อันนาเจ็บหนักขนาดนั้น นางมาช่วยเธอไม่ได้แน่ แต่มันก็เป็นเรื่องดี

    ไม่อยากให้มาเจ็บตัวเพิ่ม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคิดถึง

    นางเป็นอีกคนหนึ่งที่เธอคิดถึงเทียบเท่ากับมารดาและราชินี เธอกำผ้าปูที่นอนแน่นแล้วหลับตาลงในที่สุด

    ซึ่งไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนั้นเธอก็ถูกปลุกให้ตื่น เพราะเกิดอะไรบางอย่างขึ้นที่นี่

    อะไรบางอย่างควบคุมเธอไว้ ขยับตัวไม่ได้เลย...


    อันนาลงมานรกภูมิด้วยความวิตกกังวล ท่านอิลูเมียกับท่านวีร่าไม่ได้ถามถึงมือของเธอว่ามันเป็นอะไร ทั้งสองอาจพอคาดเดาได้คร่าวๆ แล้ว

    ผู้ที่ลงมากับพวกเราสามคนมีอาธีน่า เทพีแห่งสติปัญหาและสงคราม กับแอรีสที่เป็นเทพแห่งสงครามเช่นเดียวกัน แถมเขายังเป็นพี่ชายต่างสายเลือดของลอเรียลอีกด้วย

    ท่านอิลูเมียกับท่านวีร่ายืนอยู่ด้วยกัน กำลังกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง จับใจความได้ประมาณว่าราชินีแห่งเผ่าพันธุ์โบราณเองก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน

    เธอกำธนูของตัวเองแน่น ตอนนี้เรายืนอยู่หน้าพระราชวังสีดำทมิฬ แต่เพราะที่นี่ไม่มีประตู ทำให้สามารถมองทะลุไปยังห้องโถงใหญ่ได้ในทันที และเธอก็เห็นลูซิเฟอร์นั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมศัตรูเก่าของเธอ

    พวกมันส่งรอยยิ้มมาให้เธออย่างสมเพช

    อาจเพราะการต่อสู้เมื่อกลางวันเธอน่วมไปทั้งตัว

    ครั้งนี้มันเลยคิดว่าการเอาชนะเธอมันคงง่ายกว่าเดิม

    ไม่หรอก ไม่มีทาง

    อันนามาพร้อมกับพลังใหม่และมีไพ่ตายสองใบอยู่ในมือ ไพ่ตายสองใบที่ว่า...ทำให้หากเธอไม่ได้ลอเรียลกลับไป มันก็จะไม่ได้ลอเรียลเหมือนกัน

    ท่านอิลูเมียเป็นคนเข้าไปเจรจาก่อน ประกบซ้ายขวาด้วยอาธีน่าและแอรีส ส่วนท่านวีร่ากับเธอถูกสั่งให้ยืนรออยู่ตรงนี้

    แต่เพราะประสาทสัมผัสที่ไว เธอก็ยังได้ยินคำพูดของทั้งสองอยู่ดี

    "ส่งตัวลอเรียลคืนมาให้ข้า" ราชินีประกาศเจตนารมณ์ของตนเอง

    "เจ้าคิดอันใดอยู่ถึงนำกองกำลังอันน้อยนิดของเจ้ามาถึงดินแดนของข้า" ลูซิเฟอร์กล่าวคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง "สองสงคราม หนึ่งจันทรา และอีกหนึ่งราชินี คิดว่าเพียงเท่านี้สามารถเอาชนะข้าได้หรือ"

    เขาละเว้นการพูดถึงท่านวีร่าเอาไว้

    "มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้าที่ต้องมาสนใจกำลังพลของเรา" ราชินีแสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยวออกมาแวบหนึ่ง แต่มันก็เท่านั้น เพราะนางกลับสู่สีหน้าปกติได้ในเวลาต่อมา "บุตรีของข้าอยู่ที่ไหน เอานางออกมา และเรามาสู้กันแบบยุติธรรมดีกว่า ข้าให้สิทธิเจ้าเลือกว่าอยากสู้กับผู้ใด"

    "..."

    "ยกเว้นเพียงสองคนคือวีร่ากับอันนา"

    "ท่านอิลูเมีย!" อันนาส่งเสียงเรียกออกไป เธอไม่อยากยืนดูอยู่เฉยๆ

    แต่นางเพียงแค่ยกมือห้ามไว้โดยไม่หันมามอง ถือว่าการตัดสินใจของนางเด็ดขาดในตัวมันเองแล้ว

    หากการคาดเดาของเธอถูก ยังไงอาธีน่ากับแอรีสก็ไม่สามารถสู้ลูซิเฟอร์ได้หรอก มีเพียงท่านอิลูเมียเท่านั้นที่อาจพอสูสีอยู่บ้าง

    ส่วนท่านวีร่า เธอไม่เคยเห็นพลังของนาง ไม่แน่ใจว่ามันเป็นพลังแบบใดกันแน่

    "ก็น่าสนใจ" ลูซิเฟอร์กล่าว เขายกขาขึ้นไขว่ห้าง

    นัยน์ตาสีแดงเลือดของเขาสบตากับเธอเข้า ระยะห่างที่มากกว่าสิบเมตรไม่ได้ทำให้ความน่าขนลุกของเขาจางไปเลย

    "ข้าเลือกอันนา" เสียงนั้นหลุดออกมาริมฝีปากเรียวได้รูป

    "ข้าบอกว่าเจ้าไม่สามารถเลือกนางได้ไง!" ท่านอิลูเมียพยายามห้าม

    เธอสูดลมหายใจลึกเต็มอกแล้วก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นอกมั่นใจ สะกดความกลัวของตัวเองไว้แล้วมองหน้ามาลอช ไล่เรียงไปยังโจ๊กเกอร์ เซฟิส และพระแม่กาลี เขาจะส่งใครมาสู้กับเธอ

    "อันนา ข้าขอสั่งห้ามไม่ให้เจ้า..." ราชินีหันมา

    "ข้าขอร้อง" เธอสบตากับนาง

    ไม่ใช่ไม่เจียมตัว แต่เธอมั่นใจพอสมควรว่าต้องสู้ได้

    "คู่ต่อสู้ของเจ้าคือ..." เขาหันไปมองโถงทางเดินเล็กซึ่งเป็นทางเดินแยกไป ก่อนที่ร่างของคนคนนั้นจะปรากฏตัวขึ้นพร้อมราชินีเผ่าพันธุ์ปรสิต

    ท่านนาตาเลียมีสีหน้าเคร่งเครียดขณะพยายามพูดอะไรบางอย่างกับลอเรียลที่มีดวงตาเหม่อลอย

    หัวใจอันนากระตุกวูบอีกครั้งเมื่อทราบว่าลูซิเฟอร์คิดอะไรอยู่

    "ลอเรียล" เขาต่อจนจบประโยค

    พริบตานั้นราชินีก็จับไหล่เธอไว้ ขณะเดียวกันลอเรียลก็ก้าวมาหยุดอยู่ตรงกันข้ามกับเธอ ห่างออกไปหลายเมตร เธอเห็นลูซิเฟอร์พึมพำอะไรบางอย่างอยู่ และเด็กสาวก็มีท่าทีแปลกไปพร้อมกับพระราชวังที่สั่นสะเทือน

    นี่มันเหมือนกับตอนนั้นเลย ตอนที่ร่างปีศาจถูกเผยออกมา

    อันนายกมือขึ้นบังใบหน้าไว้ เธอหรี่ตาลงเมื่อลมรุนแรงถูกพัดมาเมื่อลอเรียลสะบัดตัว

    ก่อนที่รูปลักษณ์ภายนอกของนางจะเปลี่ยนไป เส้นผมสีบลอนด์ทองกลายเป็นสีชมพูโทนม่วง ใบหน้าของนางดูดีและร้ายกาจขึ้นกว่าเดิม ปีกที่ปรากฏขึ้นมามีสีชมพูอมส้ม ชุดที่ใส่เป็นชุดสีขาวที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี

    ชุดเทพโบราณ...

    ชุดเช่นนั้นเธอกับท่านอิลูเมียก็เคยใส่ เมื่อนานมาแล้ว ในพิธีสำคัญและยิ่งใหญ่เท่านั้น

    ส่วนใต้ดวงตาคู่นั้นกับแขนขวา มีอะไรบางอย่างที่เสริมให้ทุกอย่างดูน่ากลัวขึ้น

    มันเหมือนตราประทับสีแดง

    "หากอันนาชนะ พวกเจ้าจะได้ลอเรียลคืนไป ส่วนหากลอเรียลชนะ นางต้องอยู่เป็นราชินีให้ข้าที่นี่" ลูซิเฟอร์พูดอย่างสบายอกสบายใจ

    "อะไรนะ" อันนาทวนอย่างไม่เชื่อหู เธอได้ยินอะไรผิดไปรึเปล่า

    'ไม่...พวกเขายังไม่ได้ผูกพันธะสัญญาโบราณกัน' เสียงพราวเสน่ห์ดังขึ้นในหูของเธอ ทำให้เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก

    ก่อนเพ่งสังเกตแหวนวงสุดท้ายที่ยังสวมอยู่บนนิ้วของลอเรียล มันไม่แตกสลายไปอย่างที่ควรเป็น

    ท่านนาตาเลียเดินมาหาเรา พวกมาลอชไม่กล้าโจมตีราชินีเผ่าพันธุ์ปรสิต

    อันนาแกะมือท่านอิลูเมียออกจากไหล่ของเธอ

    "เข้ามาเลย" เธอพูดกับลอเรียล ขณะเล็งธนูไปยังหัวใจของนาง

    'ข้าพอจะสามารถเอาชนะลอเรียลได้โดยมิต้องใช้สิ่งนั้นหรือไม่' เธอถามในหัวให้ผู้ที่อยู่กับเธอได้ยิน และนิกซ์ก็ตอบกลับมา

    'ไม่ได้หรอก'

    เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า...หลังจากพระเจ้าบอกว่ามีคนรอเธออยู่หน้าทางออกสถานที่นั้น เมื่อออกไปก็พบว่าเป็นนิกซ์ นางกล่าวว่านางจะอยู่กับเธอ เนื่องจากอยากไปช่วยลอเรียลเหมือนกัน เพียงแต่พลังที่ใช้คงสภาพร่างกายของนางไว้ใกล้จะหมดลงแล้ว

    เป็นเหตุให้ช่วงหลังทั้งนิกซ์และเฮเมร่าต่างก็ไม่ค่อยปรากฏตัวด้วยกันทั้งคู่

    นิกซ์อาศัยอยู่ในที่ที่มืดมิด นางใช้พลังความมืดที่มือซ้ายของเธอเป็นตัวกลางในการเข้ามาอยู่ในร่างกายของเธอ

    อันนาเป็นแค่ภาชนะเท่านั้น ยังไงพลังของนิกซ์ก็ไม่ได้อยู่ที่เธอ

    หากนิกซ์ต้องการจะปรากฏกายออกมา ก็ต้องใช้พลังของเธอเองในการคงสภาพร่างกายนางไว้

    กลับสู่สถานการณ์ปัจจุบัน ลอเรียลใช้นัยน์ตาไร้ชีวิตมองเธอ ก่อนที่ร่างเล็กกว่าจะพุ่งเข้าใส่เธออย่างไม่กลัวเกรง ทำให้อันนาต้องกระโดดหลบขึ้นไปบนอากาศ ม้วนตัวหนึ่งครั้งตามสัญชาตญาณแล้วปล่อยลูกธนูที่ห่อหุ้มด้วยพลังเวทออกไป

    แต่มันก็เด้งออกมาเนื่องจากไม่สามารถทะลุเกราะป้องกันที่ลอเรียลสร้างขึ้นมาได้ พริบตานั้นนางก็ขยับขึ้นมาอยู่ด้านหลังเธอ ใช้ปลายเท้าเหยียบลงตรงกลางหลังและทำให้เธอพุ่งตัวลงไปกระแทกพื้นดินอย่างรุนแรง

    เปรี๊ยะ!

    เสียงพื้นหินอ่อนแตกกระจาย อันนายันตัวลุกขึ้นเมื่อลอเรียลเปิดช่องให้โดยการถอยกลับไป ราวกับนางยังอยากเล่นกับเธอไปเรื่อยๆ

    เธอยกมือขึ้นกุมหน้าท้องของตัวเองที่เลือดเริ่มไหลซึมออกมาอีกครั้ง ก่อนใช้มือปัดเศษหินที่แตกออกไปจากร่างกาย กลัวแผลสกปรกไปมากกว่านี้

    'ข้าว่าเจ้าต้องใช้ก่อนที่ร่างกายเจ้าจักรับไม่ไหว' เสียงนิกซ์ดังขึ้นชี้แนะ เป็นจังหวะเดียวกับที่ลอเรียลพุ่งเข้ามาอีกครั้ง 'ถึงเจ้าจะเป็นคนถึกรับมือรับเท้าเมียได้ แต่หนักมากๆ อาจถึงตาย'

    'ข้าทราบ' เธอตอบนิกซ์แล้วเอี้ยวตัวหลบฝ่ามือของลอเรียลที่กำลังจับตัวเธอไว้

    ดีหน่อยที่นางยังไม่ได้เรียนการร่ายเวทมาจากท่านอิลูเมีย ไม่อย่างนั้นหากเธอโดนเข้าไปสักบทคงตายก่อนแน่

    อันนาใช้จังหวะที่นางเผลอคว้าแขนของนางไว้ด้วยมือซ้าย ปล่อยให้พลังความมืดกลืนกินแขนของนางไปเล็กน้อย แต่แค่เล็กน้อยนั้นก็มากพอแล้วที่จะปล่อยให้นิกซ์แทรกซึมไปควบคุมร่างกายนั้นไว้

    เสียงกรีดร้องดังขึ้นเมื่อสองคนในร่างเดียวพยายามแย่งการควบคุม

    แต่ลอเรียลที่ถูกควบคุมไว้ไม่สามารถเอาชนะเทพีแห่งความมืดได้ ลูซิเฟอร์หน้าเปลี่ยนสีเมื่อเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของลอเรียลได้อีกต่อไป

    "ทุกอย่างมันเปลี่ยนแล้ว" เธอเค้นเสียงออกไปอย่างยากลำบากเมื่อพูดกับราชาแห่งนรกภูมิ

    เธอส่งสายตาที่มีความหมายว่า 'ข้าขอโทษ' ไปหาท่านอิลูเมีย

    "ในนามของเทพีแห่งจันทรา อาร์เทมีส ข้าขอลงนามในพันธสัญญาเลือด"

    เธอกล่าวและมองหน้าลอเรียลไปด้วย

    "ข้าขอรับ ลอเรียล เป็นคู่ชีวิตตลอดกาล ชีวิตข้าจักผูกพันอยู่กับนาง เลือดเนื้อของข้าจักเป็นเลือดเนื้อของนางชั่วกาลกัลป์"

    ลอเรียลที่ถูกนิกซ์ควบคุมอยู่สาวเท้าเข้ามาใกล้เธอแล้วเอ่ยคำพูดออกมา

    "ในนามของ ลอเรียล ข้าขอลงนามในพันธสัญญาเลือด" นัยน์ตาที่เปลี่ยนสีไปคู่นั้นสบตากับเธอ "ข้าขอรับ อาร์เทมีส เป็นคู่ชีวิตตลอดกาล ชีวิตของข้าจักผูกพันอยู่กับนาง เลือดเนื้อของข้าจักเป็นเลือดเนื้อของนางชั่วกาลกัลป์"

    เธอใช้ความคมของหัวธนูกรีดแขนตัวเองจนเป็นรอยยาว ก่อนปล่อยให้เลือดสีทองหลั่งลงไปบนพื้น ลอเรียลเองก็ทำแบบเดียวกับเธอ

    เลือดของเราสองคนรวมกันเป็นหนึ่งเดียว มันไหลเวียนเป็นวงกลม ก่อนที่วงกลมนั้นจะเรืองแสงขึ้นมาห่อหุ้มร่างกายเราเอาไว้ มันซึบซาบเข้ามาในผิวหนังของเราแล้วก็หายไป

    อันนารับร่างลอเรียลที่สลบไปเพราะความเจ็บปวดเอาไว้

    และนิกซ์ก็ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมๆ กับเฮเมร่า

    "ข้าแฝงตัวอยู่ในแหวนของนางมาได้สักพักแล้ว" เฮเมร่าชี้ไปที่ลอเรียล

    ทำให้เธอเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างได้มากขึ้น เมื่อสักครู่นิกซ์อาจรับรู้ได้ถึงพลังของเฮเมร่าในร่างของลอเรียล นางเลยใช้พลังของลอเรียลคงสภาพร่างกายเฮเมร่าไว้

    ทำให้ทั้งสองสามารถออกมาอยู่ในโลกภายนอกด้วยกันได้

    อันนาหลุบสายตาลงมองใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดของคนรัก

    พันธสัญญาเลือดนั้น...จะผูกชีวิตของเราสองคนเอาไว้ด้วยกัน หากมีคนใดคนหนึ่งเจ็บปวด อีกคนก็จะเจ็บตามไปด้วย นางอาจเจ็บเช่นเดียวกับที่เธอเจ็บแผลเลยสลบไป แต่คงจริงอย่างที่นิกซ์ว่า เธอถึกกว่าเทพองค์อื่น

    เช่นเดียวกัน หากมีใครคนหนึ่งตาย อีกคนก็จะตายด้วย

    พันธสัญญาต้องห้ามอันนี้เป็นตัวถ่วงมากในเวลาที่ต้องสู้รบ...มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ทำมัน และเธอคิดว่าเธอโง่พอ

    ลูซิเฟอร์ลุกขึ้นยืน เขามองเราอย่างเย็นชา

    "พาลอเรียลไปซะ" นิกซ์พูดกับเธอโดยไม่หันมามอง แต่ริมฝีปากสวยเหยียดขึ้นเป็นรอยยิ้มน่าขนลุก "ลองถล่มนรกสักนิดก็ไม่มีปัญหา"

    อันนาช้อนตัวลอเรียลขึ้นไว้ในอ้อมแขน ท่านอิลูเมียมองเธอแล้วพยักหน้าให้เป็นเชิงบอกว่าให้เธอไปได้เลย ที่เหลือจัดการต่อเอง

    นิกซ์กับเฮเมร่ายืนเคียงคู่กันอยู่ข้างหน้า ท่านอิลูเมียกับท่านนาตาเลียเตรียมตัวที่จะสู้ด้วยเช่นกัน ท่านทั้งสองกลับคืนสู่ร่างที่แท้จริง ส่วนอาธีน่ากับแอรีสเหมือนถูกสั่งให้คุ้มกันท่านวีร่าไว้จนกว่าการต่อสู้นี้จะจบ

    อันนาพาร่างของลอเรียลกลับมาในห้องนอนของเธอ จากที่นี่...ลูซิเฟอร์ไม่มีวันควบคุมนางได้อีก เธอวางร่างอ่อนปวกเปียกไว้บนเตียง รอยยิ้มเล็กๆ เผยขึ้นมาบนริมฝีปาก

    "ปลอดภัยแล้วนะ" เธอกระซิบแล้วลูบหัวนางอย่างแผ่วเบา

    หน้าห้องปรากฏร่างของหมอยาขึ้น มะกังก้ามองสภาพของเธอหัวจรดเท้า เขาถูกสั่งจากท่านอิลูเมียให้เตรียมตัวเมื่อเธอกลับมา เพื่อที่จะรักษาแผลของเธอได้ทันท่วงที

    "ท่านควรทำแผล" เขากล่าวแล้วเดินเข้ามาในห้อง ยื่นถาดที่ใส่ยากับน้ำมาให้เธอ

    "นี่อะไร" เธอรับมันมาถือไว้

    "ยาระงับความเจ็บปวด" เขาอธิบาย ว่ากันตามตรงอันนาก็เริ่มชินกับความเจ็บปวดแล้ว "อีกอันเป็นยาสมานแผล ท่านควรกินทั้งสองติดต่อกันไปสักระยะหนึ่งเพื่อให้มั่นใจว่าหายดีแล้ว"

    เธอควรทำทุกอย่างเพื่อลอเรียล ไม่อยากให้นางพบเจอกับความเจ็บปวดที่มีต้นเหตุมาจากสภาพร่างกายของเธอ

    "ขอบคุณท่านมาก" เธอกล่าวแล้วกลืนยาทั้งสองเม็ดลงคอ ตามด้วยกินน้ำ เมื่อทุกอย่างกลับสู่ความเงียบสงบ เธอก็พบว่าความสบายใจแทรกซึมเข้ามาทีละเล็กทีละน้อย ถึงแม้ในความสงบจะสัมผัสได้ว่าผู้ที่อยู่ด้านล่างยังสู้อยู่ก็เถอะ

    แต่อีกไม่นานคงกลับขึ้นมาพร้อมชัยชนะ

    เธอขึ้นไปนั่งเคียงข้างลอเรียล เอนตัวพิงหัวเตียงเอาไว้แล้วก็หลับไปทั้งสภาพนั้น


    ห้าวันมาแล้วหลังจากที่เหตุการณ์ทุกอย่างสงบลง ทั้งอันนาและลอเรียลไม่ค่อยได้คุยกันเลย อันนาคิดว่าคงเพราะนางกำลังยุ่ง

    นางถูกท่านอิลูเมียสั่งให้ไปเรียนหนังสือกับอาธีน่าในยามกลางวันแทนการลงไปวิ่งเล่นเบื้องล่าง เธอเห็นด้วยว่านางโตพอที่จะศึกษาเรื่องต่างๆ แล้ว

    อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือวันนี้เป็นวันเกิดของลอเรียล เธอเลยกะไปพบหน้านางสักหน่อย เธอคิดในแง่ดีว่านางคงไม่ได้โกรธเธอหรอกที่เธอทำพันธสัญญาเลือดโดยผละการ

    แต่ทุกอย่างมันก็ต้องพิสูจน์อยู่ดี

    เธอเดินเข้าห้องของตัวเองเพื่อไปเตรียมตัวโดยการเปลี่ยนเสื้อผ้า หากจะให้ใส่ชุดล่าสัตว์ไปหาลอเรียลเนื่องในโอกาสพิเศษมันคงแปลก

    สิ่งที่พบคือลอเรียลนั่งรออยู่ในห้องของเธอ ทั้งๆ ที่เวลานี้นางน่าจะเพิ่งเลิกเรียนกับอาธีน่า

    "ข้ารอท่านอยู่พอดีเลย" นางพูดแล้วส่งรอยยิ้มหวานบาดใจมาให้ ร่างเล็กลุกขึ้นยืนแล้วก้าวมาหาเธอ ใช้แขนกอดเอวเธอไว้จนสัมผัสได้ถึงผิวกายนุ่มนิ่มน่าสัมผัส "วันนี้วันดี ท่านว่าไหม"

    เมื่อไหร่ก็ตามที่ลอเรียลแสดงท่าทางเช่นนี้ นางกำลังขออะไรบางอย่างจากเธอ

    "ใช่ วันนี้คือวันดี" เธอกระซิบตอบแล้วโอบเอวลอเรียลไว้

    "..." นางยิ้มกว้างขึ้น

    "แล้วเจ้าต้องการสิ่งใด"

    "ท่านเห็นดีงามหรือไม่ว่าเราควรผูกพันธสัญญาด้ายแดงกันได้แล้ว" นางยิ้มกริ่มอย่างเจ้าเล่ห์ "ในเมื่อท่านกับข้าก็รักกันแล้ว ทำไมเราต้องรออีกเล่า"

    "แก่แดด" เธอก้มลงไปกระซิบใกล้ใบหูของนาง

    นางฉวยโอกาสเหนี่ยวรั้งต้นคอเธอไว้

    "แค่กับท่านเท่านั้น" ลอเรียลกระซิบแล้วกดริมฝีปากจูบเธอเบาๆ ร่างเล็กรั้งให้เธอล้มลงไปบนเตียงด้วยกัน

    "'งั้น...แค่ครั้งเดียว" เธอกระซิบแล้วใช้มือปลดเปลื้องชุดที่นางใส่อยู่ออกไป

    หลังจากที่นางเปลือย นางก็อาสาจะถอดชุดของเธอออก ร่างเล็กขึ้นมาคร่อมอยู่ด้านบน ดันให้เธอแนบสนิทไปกับเตียงแล้วพยายามคุมเกมด้วยตัวเอง

    ไม่ปฏิเสธหรอกว่าอันนาก็ชอบลอเรียลที่เป็นพญาแมวยั่วสวาทแบบนี้

    สิ่งที่พูดออกไปก็กลายเป็นว่าหลอกตัวเอง ครั้งเดียวเหรอ?

    ไม่มีทางซะหรอก


    ขณะเดียวกัน

    วีร่านอนอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าระหว่างรอให้อิลูเมียอาบน้ำเสร็จ ทั้งๆ ที่ตอนแรกจะอาบด้วยกันก็ได้แต่นางดันปฏิเสธ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคืนนี้มาอารมณ์ไหน เธอไม่เคยตามทันหรอก

    ไม่นานนักอิลูเมียก็เดินออกมา หยดน้ำเกาะอยู่ตามเรือนร่างสวยงาม แล้วนางก็โถมตัวลงมาบดเบียดเธอในสภาพเดียวกัน

    มันกลายเป็นเรื่องปกติไปสำหรับการนอนในเปลือยเปล่าแล้วกอดกันยามค่ำคืน เพราะลอเรียลเองก็ย้ายไปอยู่ห้องนอนของตัวเอง

    ไม่แน่อาจแวะไปนอนห้องอันนาบ้าง แต่เธอปล่อยให้ลูกมีชีวิตเป็นของตัวเองไปแล้ว ถึงจะไม่ไว้ใจอันนาในตอนแรกเนื่องจากเห็นว่าเป็นคนเจ้าชู้ในระดับนึง

    แต่ก็โอเคขึ้นเมื่ออิลูเมียบอกให้เธอทราบว่าอันนามีพรจากราชาแห่งทวยเทพ หรือก็คือบิดาของนางว่านางจะสามารถผูกพันธสัญญาด้ายแดงกับคนที่คู่ควรเท่านั้น

    เพราะหากไม่เช่นนั้นตอนนั้นที่นางลงไปเกลือกกลั้วกับมนุษย์ คงจะมีด้ายแดงไปแล้ว

    "วีร่า" อิลูเมียกระซิบเรียกเธอขณะแนบแก้มของตัวเองบนเนินอกเธอ

    "หืม" เธอตอบรับแล้ววางมือบนแผ่นหลังของนาง

    "ข้ารู้สึกว่าข้าอยาก..." นางเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง ทำให้เธอย่นคิ้วอย่างสงสัย "ข้าอยากมีลูกอีกคน"

    ประโยคนั้นทำให้วีร่าไม่เชื่อหูของตัวเอง หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับลอเรียล นางยังอยากมีลูกอีกคนได้อีกหรือ

    "จริงๆ นะ" แล้วนางก็ไถแก้มกับเนินอกเธอ เลื่อนจมูกมาซุกอยู่ที่ซอกคอแล้วสูดดมกลิ่นของเธอราวกับกำลังอ้อนเจ้าของไม่มีผิด "ข้าอยากให้เจ้าอุ้มท้องลูกของเราอีกสักคน ได้หรือไม่วีร่า"

    "..." เธอเงียบ ไม่ยอมตอบแล้วพลิกตัวหันไปทางอื่น

    "นะ...ข้าให้เจ้าตั้งชื่อคนนี้ก็ได้" อิลูเมียตามมากอดเธอจากด้านหลัง ร่างกายเราแนบสนิทกัน ก่อนที่นางจะยกศีรษะขึ้นมาวางบนแขนของเธอ มือเรียวซุกซนอยู่แถวหน้าท้อง "เห็นใจข้าหน่อย"

    "..."

    "วีร่า" อิลูเมียเริ่มออกอาการงอแงเล็กๆ ที่เธอไม่สนใจ

    "เจ้ายังปวดหัวไม่พออีกหรือ" เธอพลิกหันกลับไปแล้วประคองใบหน้านางไว้ให้สบตากัน "ตอบข้า"

    "ข้ามั่นใจว่าจะไม่มีใครมาหาเรื่องนางอีก ทุกอย่างจบอยู่ที่ลอเรียลแล้ว" นางใช้วงแขนกักร่างของเธอไว้ แต่ประโยคที่นางใช้เรียกลูกทำให้เธอขมวดคิ้วอีกครั้ง "เชื่อข้าสิ"

    "เจ้าอยากมีลูกสาวอีกแล้วหรือ" เธอถาม

    "ก็ข้ามีลูกชายสองคนแล้ว อยากมีลูกสาวสองคนบ้างจะผิดอันใด"

    "ก็...ไม่ผิดหรอก" วีร่าเริ่มใจอ่อนจนได้

    อิลูเมียจูบเธออย่างแผ่วเบาบนริมฝีปาก

    "เจ้าตั้งชื่อให้นางหรือยัง"

    "ก็..."

    "..."

    "หากเจ้ายืนยันว่าอยากให้ข้าท้องลูกสาวอีกสักคน ข้าจักตั้งชื่อนางว่า 'ลินดิส' "

    "งั้นไปกันเถอะ" อิลูเมียเหนี่ยวรั้งเธอให้ลุกขึ้นยืน เธอค่อนข้างตั้งตัวไม่ติดกับการทำอะไรบุ่มบ่ามของนาง เลยถามกลับไปอย่างตะกุกตะกักว่า

    "ปะ... ไปไหน"

    แล้วนางก็ส่งยิ้มที่เธอหลงรักมันจนหมดใจมาให้

    "กลับมิติของเรา ข้าอยากอยู่กับเจ้าแค่สองคน"





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×