คำชื่นชมนักเขียน และเสียงเล็กๆในเช้าวันหนึ่ง
เมื่อก่อน สมัยที่ยังหัวอ่อนและไม่ได้หันมา “เขียน” อย่างเต็มที่
ผมมักจะชื่นชมผู้ที่เขียนหนังสือขายได้เสมอ ว่าเป็นคนเก่ง
ทว่า... นี่อาจเป็นความคิดที่ผิด
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่มีคนมาเยี่ยมพ่อกับแม่ที่บ้าน
ผมยังคงย่ำไปตามความฝัน
ด้วยการร้อยเรียงตัวอักษรให้เป็นเรื่องราว
ระหว่างนั้นเอง หัวข้อสนทนาของพวกผู้ใหญ่ก็เปลี่ยนไป
กลายเป็นเรื่องลูกๆ แล้วก็โยงมาที่ว่า ผมเป็นกรรมกรตัวหนังสือ
ผมไม่รู้เลยครับ ว่าในสายตาของผู้ใหญ่ท่านนั้น
มองเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร หากคำพูดกึ่งชมที่บอกว่า
เขียนหนังสือเป็นเล่มได้นี่เก่ง ทำให้ผมฉุกคิดบางอย่างขึ้นมา
เป็นความคิดที่ผมลืมไปแล้ว ตั้งแต่ย้ายฝั่งจากคนอ่านมาเป็นคนเขียน!
![[:e475:]](http://source.un-no.com/resource/source/emoticon/wanwan/1775465359.gif)
ผมย่ำเท้ามาตามเส้นทางที่ขรุขระด้วยความรู้สึกสนุกกับมัน
ซึ่งถ้าหากว่าไปแล้ว ก็เป็นอารมณ์ที่ถูกต้องของคนที่จะขีดๆ เขียนๆ
ดึงโลกในความคิดมาวางไว้ บนแผ่นกระดาษ
และบ่อยครั้งที่ผมก็เตลิดไปกับมัน ด้วยความเมามัน
ปราศจากการคำนึงว่า หลายสิ่งหลายอย่าง เป็นเรื่องที่ไม่ควร
นึกในใจแค่ว่า เราเขียนออกไปให้แรง ให้มันส์
ให้คนอ่านชอบก็พอ
ความคิดของผมตอนนั้นไม่ผิด แต่ไม่รอบคอบ
เพราะการที่เราเขียนอะไรก็ตาม... สักอย่าง
แล้วเผยแพร่สู่สาธารณะ นั่นคือ
เราได้ถ่ายโอนความคิดออกสู่สังคม
ย่อมมีผู้เสพ และมีคนซึมซับไปบ้าง ไม่มากก็น้อย
ถ้าหากเราเขียนค่านิยมผิดๆ ออกไป ผลเสียหายทางด้าน
มันสมองและความคิดที่เกิดแก่ผู้อื่นจะตามมา
ถ้าเป็นอย่างนั้น... ในฐานะนักเขียน เมื่อมีคนมาชื่นชมว่า
เขียนดี เขียนเก่ง จะภูมิใจได้ไหม
ภูมิใจไหม ที่งานของเราไม่สร้างสรรค์แล้วยังทำลายอีก
ดูเหมือน เส้นทางแห่งฝันนี้ จะไม่ใช่
ดินแดนแห่งความพร่ำเพ้ออย่างเดียวเสียแล้ว
ยังเป็นดินแดนที่ต้องการจรรยาบรรณ
และความรับผิดชอบของผู้ที่ก้าวเข้ามาด้วย
ผมเคยคุยเล่นๆ กับเพื่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้
เพื่อนถามผม (ในเวอร์ชั่นหยาบคายเล็กน้อยถึงปานกลาง) ว่า
จะอะไรกันนักหนา งานเขียนบางอย่าง เช่น นิยาย เรื่องสั้น
ก็ต้องการแค่ความบันเทิง
ผมบอกเขาว่า เขายังไม่เข้าใจ
สิ่งที่ผมพูดไม่ได้หมายถึงให้ทุกคนหันมาเขียน
งานวิชาการหนักอึ้ง หรือเรื่องหนักๆ อ่านยากกันหมด
จะเขียนเรื่องรักเบาๆ หรือจะเขียนเรื่องสนุกเฮฮายังไงก็ได้
ผมแค่ตั้งคำถามว่า ก่อนที่นักเขียนแต่ละคน
จะลงมือรังสรรค์ผลงาน ได้ใคร่ครวญก่อนหรือเปล่า
ว่ามันสร้างค่านิยมผิดๆ หรือส่งยาพิษให้แก่คนอ่านหรือไม่
อย่าคิดว่าเขามีวิจารณญาณมากพอ มีภูมิคุ้มกันดี
อำนาจแห่งตัวหนังสือมันมีมนต์วิเศษมากกว่าที่คิด
เพื่อนผมจะเข้าใจหรือเปล่า ข้อนี้ไม่อาจรู้ได้
แต่เขายังยืนยันคำเดิมว่า ใครอยากเขียนอะไรก็เขียน
ถ้ามันไม่ทำให้ติดคุก
ผมเหนื่อยที่จะพูด ผมจึงหยุดแค่ตรงนั้น...
บางทีผมอาจจะไม่เปิดใจให้กว้างเอง
![[:e455:]](http://source.un-no.com/resource/source/emoticon/wanwan/1775465338.gif)
แม้แต่ครูบาอาจารย์ยังชื่นชมว่า เด็กๆ สมัยนี้เก่งขึ้น
เขียนหนังสือกันได้เป็นเล่มๆ ครูยังทำไม่ได้เลย
โธ่... ครูครับ ผมอายจัง เวลามีใครมาชม
ผมอาจจะเก่งที่เขียนได้ แต่ไม่รู้ว่า
งานเขียนของผมนั้นน่าชื่นชมหรือเปล่า
สมัยที่ผมยังเป็นแค่นักอ่าน ผมก็เคยคิดแบบนั้น
แต่ตอนนี้ เหมือนผมคิดผิด
เรื่องบางเรื่องนั้นไม่ต่างจากการยื่นมีดที่คนอ่าน
ที่ขาดการคิดวิเคราะห์เอาไปเฉือนตัวเอง
หนังสือแบบนั้น จะให้คนอื่นผมยังไม่ให้เลยครับ
ผมอยากเอาไปเผามากกว่า
นักเขียนบางคนก็น่าชื่นชมจริงๆ
แต่บางคนก็ห่างไกลจากความน่าชื่นชมลิบลับ...
เรื่องนี้ไม่มีสาระครับ ผมแค่เล่าให้ฟัง
ว่าผมคิดอะไรในเช้าวันหนึ่ง
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น