คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Story 01 - Intro }}}. What is 'MY' Nursery !?
Story 01 – Headmaster VS Prentice
Intro
}}}. What is ‘MY’ Nursery !?
...
นี่...ถ้าเกิดมีเวทย์มนตร์ที่จะสามารถทำให้ย้อนกลับไปได้ล่ะก็
เธอจะย้อนกลับไปหรือเปล่า?
แต่ว่านะ...ต่อให้เธออยากจะย้อนกลับไปแค่ไหน
ฉันก็จะไม่มีวันยอม
เพราะว่าความเห็นแก่ตัวของฉัน
กำลังกรีดร้องว่าไม่อยากสูญเสียใครไปอีกแล้ว
เพราะงั้นนะ
.
.
.
...เธอต้องอยู่กับฉัน
...
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดดดดดดดดด
เสียงลากยาวก่อนที่จะหายไปของเครื่องวัดชีพจร กลิ่นของยาฆ่าเชื้อที่แรงจนแสบจมูก หรือแม้กระทั่งดวงตาที่จับจ้องไปยังร่างตรงหน้า ไม่ว่ามันจะผ่านไปนานเท่าไร มันก็ยังคงติดอยู่ในส่วนลึกของความทรงจำเสมอ ...วันที่สูญเสียคนสำคัญที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวไป
งานศพของคุณพ่อบังเกิดเกล้าที่จะจากไปทั้งทีแทนที่จะทิ้งมรดกอะไรไว้ให้ลูกหลาน แต่สิ่งที่ได้รับมากลับเป็นใบแจ้งหนี้ติดตัวแดงเป็นพรืดที่เห็นแล้วความดันจะขึ้นเอาเสียง่ายๆ กับอาคารหลังเก่าที่ดันเผลอไปสัญญาว่าจะคอยดูแลให้หลังจากที่ท่านจากไป ทำให้ซาบิออส ริเควสซ่า ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่แม้อายุจะปาเข้าไป 29 ปีแต่ก็ยังครองรางวัลคนโสfแห่งปี(?)มาได้ต้องถอนหายใจเฮือก
แม้ว่าเขาจะอายุเฉียดเลข 3 เข้าไปทุกที แต่ทุกวันนี้เจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหาใครมาเป็นคู่ชีวิต วันๆก็เอาแต่โหมงานหนักตลอด แต่เหมือนเป็นความลำเอียงของพระเจ้าอย่างไรอย่างไรอย่างนั้น เพราะถึงมันจะโหมงานหนักแต่มันก็ยังคงความหล่อเหลาเอาไว้ได้อย่างน่าอิจฉา
ซาบิออสเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผู้ซึ่งใช้ชีวิตอยู่หลังแว่นตากรอบบางที่ดูเหมือนจะเป็นโลโก้ประจำตัวของเจ้าตัวไปแล้ว เขามีเส้นผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำตัดสั้นสไลด์ จมูกโด่งสัน ประกอบกับริมฝีปากหนาได้รูปและดวงตาคมสีเปลือกไม้ เรียกได้ว่าเขาเป็นผู้ที่หล่อตลอดแม้กระทั่งตอนนั่งขี้(?)
ชายหนุ่มถอดแว่นตาออก พร้อมกับนวดที่ระหว่างคิ้วเบาๆ นี่ก็ผ่านมาได้ 1 อาทิตย์แล้วสำหรับงานศพของคุณพ่อที่เสียไปด้วยโรคหัวใจ ตอนนี้เขาเลยตัวคนเดียวโดยแท้จริง ญาติที่ไหนก็ไม่มี แถมยังมีหนี้ตัวแดงยาวเป็นพรืดกับบรรดาเด็กบ้าที่อยู่ที่อาคารหลังเก่าซึ่งคุณพ่อใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการสร้างมันขึ้นมา
แล้วไอ้คนที่เป็นแค่อาจารย์ในมหาวิทยาลัยเอกชนเล็กๆอย่างกระผมจะไปหาเงินมาปลดหนี้ได้จากที่ไหนล่ะครับ!? ไหนจะค่าอาหารการกินของเด็กอีกสิบกว่าชีวิตที่เนิร์สเซอร์รี่อีก จะทิ้งก็ดูจะไร้มนุษยธรรมเกินไป สุดท้ายเขาเลยต้องมานั่งกลุ้มอยู่คนเดียวแบบนี้ไงล่ะ
ชายหนุ่มเก็บข้าวเก็บของในห้องทำงานของตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ตัวเองไม่มีสอนแล้ว เป้าหมายต่อไปคืออาคารหลังเล็กที่ตัวเองเพิ่งได้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของมันมาไม่ถึงเดือน
ตอนนี้ก็เป็นเวลาคล้อยบ่ายแล้ว คาดว่าเด็กๆไม่กี่ชีวิตที่อยู่ที่นั้นคงนอนกลางวันกันอยู่ หรือไม่ก็ป่วนกันไปตามเรื่องตามราว ถึงแม้ว่าคุณพ่อของเขาจะเรียกที่นั่นว่าเป็นเนิร์สเซอร์รี่ก็ตาม แต่ในสายตาของเขาที่นั่นมันไม่ต่างจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเสียเท่าไร เพราะเนิร์สเซอร์รี่mujสมควรจะมีแต่เด็กอายุอย่างมากก็ไม่เกิน 6 ขวบ มันกลับรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดมาจนถึงอายุ 15 เลยนี่สิ!!!
ในช่วงแรกๆที่รับเอาเจ้าอาคารหลังเล็กแถมเด็กอีกสิบกว่าชีวิตมาดูแล เขาก็ออกจะกังวลนิดหน่อย เพราะตัวเองก็มีงานต้องทำเช่นกัน แถมที่นั่นก็ไม่มีผู้ใหญ่ซักคน แต่พอมาถึงตอนนี้ซาบิออสก็เริ่มวางใจ เขาอดคิดไม่ได้ว่าเด็กๆนี่ดูถูกไม่ได้จริงๆเชียว โดยเฉพาะเจ้าเด็กแก่แดดที่ปีนี้ก็จะอายุครบ 15 แล้ว เลยทำตัวเป็นพี่ใหญ่คอยดูแลเด็กคนอื่นตลอด
...จะว่าไป เหมือนของในตู้เย็นจะหมดแล้วนี่น่า...แวะไปซื้อหน่อยดีกว่าแฮะ
ชายหนุ่มเดินคิดนู้นคิดนี่ไปเรื่อย ส่วนเรื่องที่คิดก็ไม่พ้นไปจากหัวข้อสภาพความเป็นอยู่ของเงินในกระเป๋าที่ปกติแค่คนเดียวยังแทบไม่พอยาไส้(?) คราวนี้มีเพิ่มมาอีกเป็นสิบชีวิต คาดว่าได้กินแกลบชัวร์
หลังจากที่หยิบนู้นหยิบนี่ที่คิดว่าจำเป็นต้องใช้ใส่ตะกร้าแล้ว เขาก็เดินไปคิดเงินแล้วเดินกลับออกจากซุปเปอร์ด้วยหัวใจห่อเหี่ยว(?)เพราะเงินในกระเป๋าแทบจะหายไปทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ
“คิกๆ...อุ๊ ฮะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ!!!”
เสียงหัวเราะแปลกๆ(?)เหมือนคนหัวเราะกำลังใกล้ขาดใจตายห่านเต็มที่ดังออกมาจากเนิร์สเซอร์รี่ ทั้งๆที่ตอนนี้เป็นเวลาคล้อยบ่ายซึ่งมันสมควรจะเป็นเวลาที่อาคารหลังนี้เงียบสงบเพราะเด็กๆนอนกลางวันกันอยู่สิ! ถึงบางคนมันจะไม่ได้นอนแต่ก็ไม่น่าจะมีใครที่หัวเราะแบบจะเป็นจะตายดังออกมาแบบนี้นี่น่า
คิดได้ดังนั้นมือหนาก็กระชับถุงพลาสติกที่ใส่ของหนักอึ้งเอาไว้แน่น ดวงตาหลังแว่นกรอบบางฉายแววเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นราวกับมันจะไปออกรบ(???) ก่อนที่เขาจะค่อยๆสาวเท้าเข้าไปในอาคารหลังเก่า น่าแปลกที่วันนี้ไม่มีเด็กๆวิ่งเล่นไปมาอย่างเคย นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มก้าวขาเร็วขึ้นอีกจนกระทั่งไปจนถึงห้องในสุดของชั้นล่าง จุดที่คาดว่าเสียงหัวเราะจะดังขึ้น
เขากลืนน้ำลายอย่างฟืดคอเมื่อเห็นว่าบานประตูนั้นกำลังจะเปิดออก จนกระทั่งเห็นว่ามีร่างที่สูงเกินเด็ก(?)ออกมาจากห้อง แขนแกร่งที่รอจังหวะอยู่ก็เหวี่ยงถุงพลาสติกหนักอึ้งไปกระแทกร่างนั้นเข้าทันที!!!
ตุ้บ...!
เสียงเหมือนอะไรบางอย่างตกลงสู่พื้น พร้อมความเงียบราวติดสตั้นท์ไป 3 วิ(?) ก่อนที่ดวงตาสีเข้มจะเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าอะไรที่สิ่งที่ตัวเองฟาดลงไปเต็มๆ
ที่ตรงนั้นมีร่างบางของเด็กสาวคนหนึ่งร่วงลงไปกองกับพื้น เส้นผมสีฟ้าอมเขียวเป็นลอนนั้อยๆแผ่สยายออกเต็มบริเวณ เธอกำลังหลับตาพริ้มราวกับกำลังมีความสุขเสียเต็มประดา(?) ทั้งๆที่เลือด(กำเดา)ยังไหลออกมาไม่ขาดสาย
...เวร!!! ตายรึเปล่าวะครับ!?
>T A L K<
เย่ห์(?)ในที่สุดอินโทรของสตอรี่แรกก็คลอดแล้ว (ความจริงคือแต่งอินโทรของสตอรี่ 2 เสร็จไปเมื่อวันก่อนด้วยความที่สายเลือดวายมันเอ่อล้น(???))
ก่อนอื่นต้องขอชี้แจ้งกันเบาๆ(?) ว่าเรื่องนี้มันจะไล่เรียงกันไปเป็นสตอรี่เริ่มจากของเฮ้ดมาสฯ เบบี้ซิทฯ บิ๊กบราฯ แล้วจบที่ บอส นะฮร่ะ =w= เพราะอิไรท์นางนี้ไม่มีความสามารถมากพอจะแต่ง 4 สตอรี่ไปพร้อมๆกันได้(?)
สำหรับช่วงเวลาอาจจะมีคาบเกี่ยวกันอยู่บ้าง โดยรวมแล้วสตอรี่หนึ่งไม่น่าจะเกิน 15 ตอนนะฮร่ะ =w= เพราะงั้นโดยรวมสรุปได้ว่า 1 สตอรี่มีตัวเอก 2 คน อีก 6 คนที่ติดบทหลักบทอื่นก็จะมาเป็นตปก.ที่โผล่มาเป็นช่วงๆในสตอรี่นี้ นอกจากนั้นยังมีตปก.กิตติมศักดิ์อีก 4 รายที่จะโผล่มาในบทเฉพาะๆ อ่ะคึคึคึ(?)
สุดท้ายตอนนี้...ขออภัยในความสั้นและกาก(?) ภาษาไม่สวยเพราะไม่ได้เกลา(#โดนตบ) คำผิดอาจมีบ้างตามความเหมาะสม(???) โปรดใช้จักรยานและแว่นตา(?)ในการรับชม และสำหรับสตอรี่นี้...อาจจะมีปวดตับปวดไตย์(?)กันบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะไม่มี(?)เพราะอิไรท์นี่ไม่ถนัดเรื่องปวดตับ(???)
ความคิดเห็น