ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบวีรชนข้ามโลกนินจา

    ลำดับตอนที่ #82 : ภาคสัตว์หางพันธุกรรม ตอนที่ 4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.02K
      567
      18 เม.ย. 63

        คาถาคุกน้ำของเรนยะได้ถูกคลื่นเสียงคำรามของกาอาระฉีกจนกระจายหนำซ้ำเรนยะยังชะงักไปชั่วขณะเพราะเสียงคำรามนี้อีกด้วย

        

        ตูม !!!

        

        กาอาระได้เหวี่ยงแขนที่เริ่มกลายสภาพเป็นหนึ่งหางเข้าใส่ตัวของเรนยะจนเขากระเด็นไปชนกับต้นไม้หักไป 3 ต้น

        

        “อ่อก !” แรงกระแทกอันมหาศาลถึงกับทำให้เรนยะนั้นไม่อาจคงคาถาแปลงร่างเอาไว้ได้จนกลับร่างเดิมแถมเขายังสำรอกลิ่มเลือดออกมาอีกด้วย

        

        “โฮก !!!” ร่างกายของกาอาระได้เริ่มกลายสภาพอีกครั้ง

        

        ร่ายกายของเขาค่อยๆกลายเป็นก้อนทรายและขยายใหญ่ขึ้นจนในที่สุดก็กลายร่างเป็น 1 หางชูคาคุหรือภูติทรายที่มีรูปร่างคล้ายกับทานูกิแบบเต็มตัว

        

        “ฮี้ฮ่า !!! ในที่สุดไอ้หนูนั่นก็หลับทำให้เราออกมาได้เสียทีเสียงแหลมของชูคาคุได้ดังกึกก้องไปทั่วทั้งป่าจนพวกสัตว์ทั้งหลายต่างพากันวิ่งหนี

        

        เรนยะที่เห็นชูคาคุกำลังอารมณ์ดีที่ได้หลุดออกมาจากผนึกโดยที่ไม่สนใจตัวเองก็เริ่มแสดงความไม่พอใจ

        

        “ถุด !” เรนยะถ่มเลือดออกก่อนที่จะพยายามพยุงตัวลุกขึ้นยืนแต่เขาก็ต้องขมวดคิ้วเพราะอาการบาดเจ็บของเขาร้ายแรงกว่าที่คิดไว้

        

        “ซี่โครงแตกละเอียดส่วนกระดูกสันหลังร้าวแถมตับกับปอดก็มีเลือดออก . . .” พอสรุปอาการบาดเจ็บของตัวเองเสร็จเรนยะก็เริ่มใช้จักระภายในตัวซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย

        

        “Master . .” หนูเงียบเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง

        

        “ไม่เป็นไรผมยังไหวอยู่เรนยะส่ายหน้าปฏิเสธความช่วยเหลือจากเหล่า Servant ก่อนที่จะทำการรักษาตัวเองต่อ

        

        “ขอบใจแกจริงๆเจ้าทานุกิที่ทำให้ฉันตาสว่างเมื่ออาการบาดเจ็บเริ่มทุเลาลงเรนยะก็ได้พูดขอบคุณอีกฝ่ายที่ทำให้สัญชาตญาณการต่อสู้ของเขาเริ่มตื่นตัวอีกครั้ง

        

        “Master ท่านดูเหมือนวายร้ายมากเลยนะตอนนี้เสียงเอมิยะทำให้เรนยะชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะถามกลับไปว่า

        

        “จริงดิ ?” เรนยะเอียงคอประมาณว่าไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย

        

        “จริงแท้แน่นอน Master เมื่อวานท่านโดนชาวเด็กดีแย้งเรื่องนี้เอาจนความนิยมของท่านลดฮวบลงนะเอมิยะเอ่ยยืนยัน

        

        . . . สงสัยคนอ่านจะไม่ชอบความรุนแรง

        

        “งั้นจะลองเจรจากับเจ้าทานุกินั่นดูก็แล้วกันเรนยะหวังว่าวิธีนี้จะพอกู้ความนิยมของตนคืนมาได้บ้างไม่มากก็น้อยละนะ

        

        “เฮ้ !!!” เรนยะใช้สองมือป้องปากแทนโทรโข่งเพื่อเรียกชูคาคุให้มาสนใจตน

        

        “หือ ?” ชูคาคุได้หันไปตามเสียงจนได้พบกับเด็กหนุ่มผมสีทองคนหนึ่งเข้า

        

        “ไอ้หนูเรียกข้าต้องการอะไรไม่ทราบชูคาคุได้ใช้สายตาที่เหมือนมองขยะชิ้นหนึ่งจ้องมองมนุษย์ตัวจ้อยตรงหน้า

        

        แถมชูคาคุยังปลดปล่อยแรงกดดันจักระอันมหาศาลเพื่อข่มขู่เรนยะอีกด้วย

        

        . . . นี่เฮียทานูกิแกเกลียดมนุษย์ถึงขั้นไหนกันละเนี่ย

        

        “ขอ สัมผัส  หน่อย สิ” 

        

        เรนยะพูดเน้นย้ำทีละคำจนชูคาคุรู้สึกขนลุก

        

        “สัมผัสนี่แทนไปไอ้กร๊วกเอ้ย !!!” ชูคาคุตอบเรนยะด้วยการเหวี่ยงกำปั้นเข้าใส่เพราะหลงนึกว่าเรนยะพูดกวนประสาทตัวเอง

        

        เรนยะได้ใช้ข่ายเทพอัสนีเพื่อหลบการโจมตีนี้ไปโผล่ด้านหลังชูคาคุ

        

        “เห็นยัง ? ขอดีๆแล้วก็ไม่ให้สุดท้ายก็ต้องซัดกับมันก่อนอยู่ดีเรนยะเกาหัวเซ็งๆพร้อมบอกผลลัพธ์แก่เอมิยะ

        

        “Master ข้าว่าปัญหามันอยู่ที่วิธีขอของท่านมากกว่าเอมิยะพูดอย่างเหนื่อยใจกับวิธีสื่อสารของ Master ตัวเอง

        

        “ตายซะไอ้มนุษย์ !” คราวนี้ชูคาคุได้ปล่อยทรายออกมาเป็นบริเวณกว้างเพื่อดักจับตัวของเรนยะ

        

        “คราวนี้จะได้เอาจริงเสียทีว่าเสร็จเรนยะก็ได้ทำการเปิด Gate of Babylon จนทั่วทั้งท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีทองในตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรอีกแล้ว

        

        อาวุธระดับสูงมากมายได้ถูกยิงเข้าใส่ชูคาคุจนมันถอยร่น

        

        “เจ็บๆๆ เจ็บโว้ย !!!” ในตอนแรกที่เห็นอาวุธชูคาคุก็นึกดูถูกว่าของแค่นั้นไม่มีทางทำอะไรเขาได้แน่

        

        แต่เจ้าทานูกิคงจะนึกไม่ถึงหรอกว่าพวกอาวุธภายในคลังสมบัติทุกชิ้นนั้นมันเป็นของวิเศษที่มีอำนาจสร้างความเจ็บปวดให้แกตัวมันเองได้แบบนี้

        

        “ว่ายังไงจะยอมแพ้ได้รึยัง !” เรนยะตะโกนถามอีกฝ่ายไป

        

        “อย่าได้ใจไปนะเจ้าหนู !!!” จะให้สัตว์หางที่ทรงพลังอย่างมันยอมแพ้ต่อมนุษย์เนี่ยนะฝันไปเถอะ !

        

        ชูคาคุได้ทำการเปลี่ยนร่างตัวเองให้กลายเป็นทรายแล้วเคลื่อนที่ออกห่างจากตัวเรนยะ

        

        โดยเป้าหมายของชูคาคุนั้นก็คือการล่อเรนยะเข้าไปในแคว้นคาเสะโนะคุนิที่เต็มไปด้วยทะเลทรายเพื่อเพิ่มความได้เปรียบแก่ตัวเอง

        

        “จะหนีไปไหน !” พอเห็นอีกฝ่ายคิดจะหนีเรนยะก็ได้เคลื่อนไหวตามไปในทันที

        

        การไล่ล่าของเรนยะค่อนข้างจะลำบากเล็กน้อยเนื่องจากชูคาคุนั้นได้เปลี่ยนตัวเองเป็นพายุทรายทำให้เรนยะสกัดอีกฝ่ายได้ยาก

        

        “สมแล้วที่เป็นทานูกิเจ้าเล่ห์นักนะพอเห็นทิศทางของอีกฝ่ายเรนยะก็พอจะเดาเป้าหมายของทานูกิตัวนี้ได้

        

        เรนยะได้ทำการรวบรวมจักระที่มือเพื่อสร้างเป็นเมล็ดต้นไม้เรืองแสงก่อนที่จะปาดักหน้ากลุ่มทรายของชูคาคุพร้อมทั้งผสานอินกระตุ้นเมล็ดเหล่านั้นทันที

        

        “จนแตกหน่อพฤกษาแสง !!!” เมล็ดได้เริ่มเติบโตเป็นพฤกษาแสงอันแหลมคมโดยเรนยะได้ทำการควบคุมให้พฤกษาแสงก่อตัวเป็นกำแพงปิดกั้นทางหนีของชูคาคุ

        

        !!!

        

        “บัดซบนี่มันคาถาไม้ของเจ้าเซนจูนั่น !!!” ชูคาคุกล่าวอย่างตกใจต่อคาถาไม้ตรงหน้าที่รำ่ลือกันว่าเคยปราบปรามสัตว์หางแทบทุกตัวมาแล้ว

        

        ถึงรูปแบบและความรู้สึกของคาถานี้จะแตกต่างกันตรงที่คาถาไม้คราวนี้มีธาตุสายฟ้าเพิ่มเข้ามาก็ตามแต่นี่ย่อมเป็นคาถาไม้ของตระกูลเซนจูแน่ๆ

        

        กลุ่มทรายได้ก่อตัวรวมเป็นชูคาคุตามเดิมก่อนที่มันจะหันไปถามเรนยะที่กำลังไล่ล่ามันว่า

        

        “ไอ้หนูแกเป็นคนตระกูลเซนจูสินะ ?” 

        

        “เปล่าชื่อของฉันคืออาคุสะ เรนยะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเซนจู ฮาชิรามะหรอกนะเรนยะสับสนกับท่าทีของชูคาคุเล็กน้อย

        

        พอได้รับคำตอบตัวชูคาคุก็นิ่งค้างไปจนเกิดเป็นความเงียบระหว่างทั้งสอง

        

        “ไม่หนีต่อแล้วหรือไง ?” เรนยะถามอย่างงุนงง

        

        อะไรของเจ้าทานุกิตัวนี้กันเนี่ย

        

        “แกจะมาจับฉันงั้นหรือ ?” ชูคาคุกล่าวถาม

        

        “เปล่าหรอกฉันก็แค่อยากบันทึกสิ่งมีชีวิตแปลกๆอย่างพวกพวกนายทุกตัวก็เท่านั้นเรนยะบอกความต้องการของตัวเองออกไป

        

        พอได้ฟังคำตอบชูคาคุก็มองเรนยะราวกับมองตัวประหลาด

        

        เพราะตั้งแต่มันถือกำเนิดในยุคของเซียนหกวิถีนี่นับเป็นครั้งแรกที่มันได้พบกับมนุษย์ที่ต้องการจะทำความเข้าใจสัตว์หางอย่างมัน

        

        มนุษย์ที่มันเจอมาตลอดช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมาบ้างก็ต้องการกำจัดมันเพราะมันเป็นปีศาจ บ้างก็ต้องการจับมันผนึกลงในสถิตย์ร่างเพื่อใช้เป็นอาวุธสงคราม

        

        หนำซ้ำในตอนที่ถูกผนึกในสถิตย์ร่างมันก็พบเห็นแต่ด้านมืดของมนุษย์ทั้งการกลั่นแกล้งและการที่สถิตย์ร่างถูกมองเป็นตัวน่ารังเกียจทำให้อารมณ์ความรู้สึกด้านลบของสถิตย์ร่างเหล่านั้นก็ได้ถูกส่งตรงมาที่มัน

        

        ดังนั้นความรู้สึกที่ชูคาคุมีต่อมนุษย์จึงมีเพียงแค่ความเกลียดชังเท่านั้น

        

        แต่พอมันได้ฟังคำพูดพร้อมกับพิจารณาเรนยะดีๆอีกครั้งมันก็ต้องประหลาดใจหลายๆอย่าง

        

        หนึ่งคือมนุษย์คนนี้มีนิสัยแตกต่างจากมนุษย์ที่มันรู้จัก

        

        สองคือกลิ่นอายของมนุษย์คนนี้นั้นแตกต่างจากมนุษย์ทั้วไปอย่างเห็นได้ชัดกลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์ที่เรนยะปล่อยออกมาแบบไม่รู้ตัวมันให้ความรู้สึกคิดถึงอย่างน่าประหลาด

        

        ส่วนข้อสามสัตว์หางมีความสามารถสัมผัสกับอารมณ์ของมนุษย์ได้ดังนั้นมันจึงแยกแยะได้ว่าใครพูดจริงใครพูดโกหกซึ่งน่าแปลกที่มนุษย์คนนี้ไม่มีท่าทีโกหกเลยแม้แต่น้อย

        

        มันราวกับว่าตอนนี้ชูคาคุกำลังพูดคุยกับตาแก่เซียนหกวิถีผู้ให้กำเนิดไม่มีผิด

        

        “คิดจะทำความเข้าใจสัตว์หางอย่างฉันงั้นเรอะชูคาคุถามอีกครั้ง

        

        “ก็ประมาณนั้นละนะ แฮะๆเรนยะตอบเลี่ยงๆขืนบอกไปว่าจะทำการโคลนนิ่งสร้างสัตว์หางทุกตัวเพื่อไขว่คว้าพลังอำนาจมีหวังได้เปิดศึกกันอีกรอบแหงๆ

        

        “หึ ! ครั้งนี้จะยอมให้ก็ได้สำนึกขอบคุณกันซะด้วยละเจ้ามนุษย์ที่ได้ทำความรู้จักกับข้าสัตว์หางผู้หล่อเหลาคนนี้ชูคาคุเชิดหน้าอย่างถือดีถึงมันจะแอบดีใจลึกๆก็เถอะ

        

        “จ้าๆเรนยะตอบอย่างขอไปทีก่อนที่เขาจะเข้าไปใกล้ๆอีกฝ่ายแล้วนำ Genetic Dream ขึ้นมาสัมผัสไปที่ท้องของชูคาคุพร้อมกับกดปุ่มที่ไม่ว่าใครๆก็รู้จัก

        

        

        

        . . . ใช้ง่ายดีแฮะ

        

        เมื่อกดปุ่ม Ctrl C ลูกบาศก์ Genetic Dream ก็เริ่มสแกนร่างอันใหญ่โตของชูคาคุ

        

        ถึงชูคาคุจะสงสัยและสนใจลูกบาศก์ในมือของเรนยะก็ตามแต่มันก็เลือกที่จะยืนอยู่เฉยๆและเฝ้าดูการกระทำของมนุษย์ตรงหน้า

        

        อ่าห์ ~

        

        Genetic Dream ในมือของเรนยะได้ส่งเสียงอันเป็นสัญญาณว่าการคัดลอกสิ่งมีชีวิตตรงหน้าเสร็จสิ้นแล้ว

        

        “เรียบร้อยแล้วละ 1 หางถึงเสียงตอนสแกนเสร็จจะดูแปลกๆไปหน่อยก็เถอะแต่การทำงานไม่มีปัญหาก็ถือว่าโอเคแล้วละนะ

        

        “ชูคาคุ . .” 

        

        “อะไรนะไม่ยินเลย ?” เรนยะเอ่ยถามอีกครั้งเนื่องจากอีกฝ่ายพูดเสียงเบาจนเกินไป

        

        “ชูคาคุเฟ้ยชื่อของข้าน่ะ !!!” จู่ๆก็ถูกสัตว์หางตะโกนกรอกหูเอาแบบนี้ทำเอาแก้วหูของเรนยะเกือบกระเด็นออกมาเลยทีเดียว

        

        “โอ๊ย ~ หูฉันเรนยะเขย่าหัวจูนสมองตัวเองอยู่พักใหญ่เลยกว่าจะหายมึน

        

        เรนยะแอบตกใจเล็กน้อยว่าทำไมชูคาคุถึงได้เชื่อใจบอกชื่อกับเขาแบบนี้ทั้งๆที่เมื่อครู่ยังลงไม้ลงมือกันอยู่เลย

        

        ชูคาคุควบคุมยกทรายตรงจุดที่เรนยะยืนอยู่ให้สูงขึ้นมาประจันหน้ากับตัวเองก่อนที่มันจะก้มหน้าให้เรนยะเล็กน้อย

        

        “อะไรอีกละสงสัยได้ไม่นานคำตอบก็ได้ออกมา

        

        เพราะว่าทรายตรงกลางหน้าผากของชูคาคุนั้นค่อยๆแยกออกจนทำให้เรนยะมองเห็นร่างของกาอาระที่กำลังสลบอยู่ตรงกลางหน้าผาก

        

        “ปลุกหมอนี่สิคำพูดของชูคาคุนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่เรนยะเป็นอย่างมาก

        

        “ไม่ใช่ว่านายอยากเป็นอิสระหรอกเรอะ ?” เรนยะถามชูคาคุด้วยความฉงนเขาไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่าชูคาคุเกิดชอบกาอาระขึ้นมา

        

        “ใครบ้างละจะไม่อยากเป็นอิสระแต่ว่านะ . . .”

        

        ชูคาคุหลับตาเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะพูดต่อว่า

        

        “ข้าน่ะรู้ตัวดีว่าอีกไม่นานเจ้ากาอาระก็จะได้สติและพอถึงตอนนั้นข้าก็ต้องกลับไปถูกผนึกอยู่ดี” 

        

        สำหรับชูคาคุเขารู้ตัวดีว่าการออกมาครั้งนี้ของเขานั้นมันก็แค่ชั่วคราวการฆ่ากาอาระที่เป็นสถิตย์ร่างนั้นมันไม่ช่วยอะไรเลยก็แค่ทำให้เขาตายไปด้วยกันเท่านั้น

        

        ถึงสัตว์หางจะตายก็ตามแต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานก็จะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง

        

        ถ้าถามว่างั้นทำไมไม่ตายไปเลยละพอฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ก็จะได้เป็นอิสระ

        

        ก็ขอให้รู้ไว้เลยว่าสัตว์หางเองก็มีอารมณ์ความรู้สึกไม่ต่างจากมนุษย์อย่างเราเหมือนกันและมันไม่มีใครชอบความเจ็บปวดเวลาตายกันหรอกนะ

        

        และถึงชูคาคุจะเป็นอิสระจริงๆสุดท้ายก็คงไม่พ้นต้องมาถูกพวกนินจาหมู่บ้านซึนะไล่ล่าแล้วจับผนึกอีกครั้งอยู่ดี

        

        “ยังไงซะการที่ข้าได้เจอและพูดคุยกับมนุษย์แบบแกก็ถือว่าคุ้มมากแล้วน้ำเสียงของชูคาคุเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ทั้งน่าเศร้าและน่าคิดถึงในเวลาเดียวกัน

        

        ราวกับได้ย้อนเวลากลับไปในตอนที่พวกสัตว์หางทุกตนนั่งล้อมวงตาแก่เซียนหกวิถีอีกครั้ง

        

        “สักวันจะมีมนุษย์ที่พวกเจ้าเหล่าสัตว์หางเชื่อใจได้อย่างแน่นอนนี่คือคำสั่งเสียของเซียนหกวิถีผู้ให้กำเนิดเหล่าสัตว์หาง

        

        “งั้นไม่เกรงใจละนะในเมื่อเรื่องมันง่ายขนาดนี้แล้วเรนยะก็ย่อมไม่ปล่อยผ่านไปให้โง่เขากำหมัดต่อยเข้าหน้าของกาอาระไปเต็มหน้าอีกฝ่ายทันที

        

        ผัวะ !!!

        

        พอถูกกำปั้นของเรนยะเข้าไปกาอาระก็เริ่มได้สติทำให้ชูคาคุถูกส่งกลับผนึกอีกครั้ง

        

        ร่างของกาอาระได้ล่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงแต่เรนยะก็ได้พุ่งเข้าไปอุ้มร่างของกาอาระเอาไว้ในท่าอุ้มเจ้าสาวก่อนที่จะพาลงพื้นทรายอย่างปลอดภัย

        

        ถึงกาอาระจะได้สติแล้วก็ตามแต่เปลือกตาของเขามันหนักจนแทบจะลืมไม่ขึ้นทำให้มองเห็นหน้าของเรนยะไม่ชัด

        

        “นายเป็นใครกันแน่ . .” เสียงอ่อนแรงของกาอาระถามบุคคลที่กำลังอุ้นตนอยู่

        

        “โทษทีวะฉันไม่ได้ชอบผู้ชายว่าเสร็จก็ปล่อยร่างของกาอาระลงพื้นดังโครม !

        

        “อึก !” กาอาระที่ถูกปล่อยลงพื้นกระทันหันก็ร้องจุกออกมา

        

        “ส่วนนี่พี่สาวของนายฉันคืนให้เรนยะเปิดคลังสมบัติก่อนที่ร่างของเทมาริที่ถูกจับมัดในเงื่อนกระดองเต่าจะปรากฏขึ้นบนอ้อมแขนของเรนยะ

        

        เรนยะค่อยๆวางร่างของเทมาริที่กำลังสลบอยู่อย่างเบามือลงนอนข้างๆกาอาระ

        

        “ลาก่อนกาอาระเจ้าแห่งทะเลทราย . . และก็ลาก่อนชูคาคุประโยคหลังเรนยะเอ่ยอย่างแผ่วเบา

        

        กล่าวลาเสร็จเรนยะก็หันหลังเดินโบกมือจากไปทันทีทิ้งให้กาอาระนอนหอบหมดสภาพอยู่แบบนั้นกับเทมาริผู้เป็นพี่สาว

        

        (ลงจ้า)

        

        


        กิล : นี่เอนคิดูเจ้ารู้ไหมว่าฮัดชิ้ว !!!


        กิล : เออเมื่อครู่ข้าไม่ได้ตะโกนใส่เจ้านะข้าแค่จามเองออกมาเถอะเพื่อน


        เอน : หลบหลังชิดูริตัวสั่นระริก


        

        ฮัดชิ้ว !!! สงสัยเอนคิดูกลัวติดโรค


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×