ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบวีรชนข้ามโลกนินจา

    ลำดับตอนที่ #63 : ภาค 12 นินจาองครักษ์ ตอนที่ 20

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.97K
      554
      19 ม.ค. 63

    หลังจากที่อเล็กซานเดอร์ปรากฎตัวมาแบบเหนือความคาดหมายเรนยะก็ได้ถอนหายใจออกมาให้กับนิสัย Servant ของตัวเองก่อนที่จะกวักมือเรียกอเล็กซานเดอร์ให้มาหาตนด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย

        

        “หืม ? อะไรเหรอครับ Master” อเล็กซานเดอร์ได้ลงจากหลังม้าทันทีที่เห็นว่าเรนยะกำลังเรียกตนเองอยู่

        

        เมื่ออเล็กซานเดอร์วิ่งมาหยุดตรงหน้าแล้วเรนยะก็ได้ยกมือขึ้นสัมผัสที่หัวของอเล็กซานเดอร์

        

        “ฮี่ ฮี่ Master ผมเก่งใช่ไหมล่า ~” เจ้าโชตะหัวแดงได้ยืดอกภูมิใจเนื่องจากเห็นว่าเรนยะกำลังจะลูบหัวชมเชยตนเอง

        

        แต่แทนที่เรนยะจะลูบหัวชมเชยดังที่อเล็กซานเดอร์คิดเรนยะกลับออกแรงบีบหัวของอเล็กซานเดอร์ให้มาจ้องตาของตนด้วยรอยยิ้มอันมืดครึ้ม

        

        “ไงเจ้าตัวแสบปราสาทไดเมียวที่กลายเป็นซากนี่ฝีมือของเอ็งใช่ไหม อเล็ก ~ คุง ~” เรนยะได้เริ่มสอบปากคำ

        

        “ ผม ไม่เห็นรู้เรื่องเลยนะแต่มีหรือที่อเล็กซานเดอร์จะยอมรับผิด

        

        เรนยะได้พิจารณาท่าทีมีพิรุธของ Servant ตนเองที่ไม่กล้าสบตากับตัวเองแถมยังพูดตะกุกตะกักเท่านั้นยังไม่พอหลังตอบคำถามเสร็จหมอนี่ยังผิวปากกลบเกลื่อนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกด้วย

        

        . . . โกหกโครตจะไม่เก่ง

        

        “บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าสารภาพตอนนี้จะลดโทษให้กึ่งหนึ่งเรนยะได้เตือน Servant ของตนเป็นครั้งสุดท้าย

        

        แต่ถึงจะได้คำเตือนสุดท้ายของเรนยะอเล็กซานเดอร์ก็ยังคงผิวปากอารมณ์ประมาณว่าตรูไม่เกี่ยวลูกเดียว

        

        “ด้วยตราเรย์จูนี้ข้าขอสั่งให้อเล็กซานเดอร์ห้ามโกหกด้วยเหตุนี้ตราเรย์จูที่หลังมือของเรนยะจึงได้หายไปหนึ่งขีด

        

        . . . ถึงตราเรย์จูจะไม่ควรมาใช้กับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้แต่แล้วยังไงล่ะเดี๋ยวตอนเช้าตราเรย์จูมันก็กลับมา 3 ขีดเท่าเดิมแล้วเพราะงั้นเรนยะจึงใช้มันอย่างไม่นึกเสียดายอะไร

        

        “ใช้เรย์จูแบบนี้ Master ขี้โกงนี่ !” แน่นอนว่า Servant ไม่อาจขัดขืนคำสั่งจากตราเรย์จูได้ทำให้หลังจากนั้นอเล็กซานเดอร์ก็รับสารภาพทุกอย่างอย่างหมดเปลือกจึงได้ถูกเรนยะใช้มือสับหัวทำโทษไป 1 ที

        

        “คราวหลังอย่าทำอะไรสุดโต่งแบบนี้อีกนะ เข้าใจไหมเรนยะได้หันไปจ้องส่งสายตาให้กับ Bucephalus ม้าสีดำของอเล็กซานเดอร์ด้วยว่าคอยเบรคๆเจ้านายแกมั่ง

        

        “เข้าใจแล้วครับ Master” หลังถูกทำโทษแถมบ่นเล็กน้อยเสร็จอเล็กซานเดอร์ก็ได้กลายสภาพเป็นร่างวิญญาณหายไป

        

        หลังจากอเล็กซานเดอร์กลับไปเป็นวิญญาณตามติดแล้วเรนยะก็ได้เดินเข้าไปดูเซงาว่าที่ถูกกระทืบจมดินไป

        

        “ฮึ ! ลอกคราบหนีสินะแต่สิ่งที่เหลือคือคราบตะขาบเท่านั้นทำให้เรนยะมองหารอบๆ

        

        ซ้าย ขวา บน ไม่มี งั้นก็เหลือแค่ข้างล่าง !!!

        

        แต่ยังไม่ทันที่เรนยะจะได้ลงมือเซงาว่าในร่างตะขาบยักษ์ก็ได้พุ่งทะลุพื้นดินออกมาเข้าจู่โจมเรนยะจากทางด้านหลัง

        

        “คาถาไฟบอลเพลิงยักษ์ !” เรนยะได้ผสานอินหันไปพ่นไฟสวนใส่เซงาว่าที่กำลังพุ่งเข้ามาโจมตีตน

        

        “เปล่าประโยชน์ ! เปล่าประโยชน์ ! เปล่าประโยชน์ !!!” เซงาว่าได้ทำการหักหลบคาถาไฟของเรนยะด้วยความรวดเร็วที่ขนาดเรนยะยังต้องแปลกใจ

        

        “เร็วมาก !!!” เรนยะได้ทำการเสริมจักระเอาไว้ที่ขาก่อนที่จะทำการกระโดดขึ้นฟ้าเพื่อหลบร่างของเซงาว่าที่ใกล้จะพุ่งเข้าหาตัวเอง

        

        แต่เซงาว่าก็ใช้ความเร็วของตัวเองพุ่งขึ้นตามเรนยะไป

        

        “กลางอากาศแบบนี้แกหลบไม่พ้นแน่ !!!” เซงาว่าได้พุ่งเข้าใส่เรนยะด้วยความได้ใจ

        

        “งี่ ~ เง่าเรนยะได้แลบลิ้นล้อเลียนใส่ก่อนที่เขาจะเปิดเกทสีทองออกมาที่ใต้เท้าของตัวเอง

        

        ซึ่งเรนยะก็ได้ใช้อาวุธที่อยู่ในมิติคลังสมบัติเป็นฐานเหยียบเพื่อเคลื่อนไหวกลางอากาศหลบหลีกซงาว่าได้อย่างสบายๆ

        

        และเมื่อเรนยะลงพื้นอย่างปลอดภัยแล้วก็ได้เริ่มวิเคราะห์อีกฝ่าย

        

        “ความเร็วมากกว่าเดิมแถมดูจากรูปร่างที่กลายเป็นสัตว์ประเภทพวกกระดองพลังป้องกันกับพลังโจมตีก็คงเพิ่มขึ้นไม่ต่างกันเรนยะได้พึมพำเสียงเบาก่อนที่เขาจะหลบเซงาว่าพร้อมทั้งยิงอาวุธระดับ A ในคลังสมบัติสวนกลับอีกฝ่ายไปแต่ด้วยความแข็งของกระดองจึงทำให้เซงาว่าแทบจะไม่ได้รับความเสียหายถึงแก่ชีวิตเลยแถมบาดแผลที่เกิดจากอาวุธระดับ A ยังถูกฟื้นฟูอีกด้วย

        

        “พลังฟื้นตัวน่ากลัวไม่เบาโดยเฉพาะความเร็วนั่นเห็นทีแบบนี้คงจะมีแต่ . . หืม ?” แต่ในจังหวะที่กำลังวิเคราะห์นั้นเรนยะก็ได้สังเกตเห็นว่าในตอนที่ทำการโจมตีเซงาว่าในร่างตะขาบยักษ์ด้วยอาวุธในคลังสมบัติในช่วงเสี้ยวพริบตานั้นมันได้มีพังผืดยื่นออกมาปกป้องส่วนใบหน้าของเซงาว่าด้วย !

        

        “ใบหน้านั่นคงจะเป็นจุดอ่อนสินะเรนยะได้เหลือบมองดาบร้อยขาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะตัดสินใจชักมันออกมา

        

        “คงจะรู้ตัวแล้วสินะแต่โอกาสชนะของแกมันก็ยังเท่ากับศูนย์อยู่ดีเซงาว่าที่เห็นว่าเรนยะรู้จุดอ่อนของตัวเองแล้วก็เลยเพิ่มการระวังตัวขึ้นด้วยการที่ร่างสุดท้ายมีจุดอ่อนแบบนี้จึงทำให้เซงาว่าถึงได้บอกในตอนแรกว่าตัวยานี้มันยังไม่สมบูรณ์

        

        “งั้นมาลองกันสักตั้งถึงดาบร้อยขาจะหักไปแล้วแต่เรนยะก็ยังมองเห็นโอกาสชนะอยู่

        

        เรนยะได้พุ่งเข้าใส่เซงาว่าตรงๆพร้อมกับดาบร้อยขาในมือหวังเข้าประชิดโดยงานนี้เรนยะตัดสินใจทุ่มสุดตัวด้วยการใช้จักระทั้งหมดเสริมความเร็วของตัวเอง

        

        ซึ่งทันทีที่เห็นแบบนั้นเซงาว่าก็เลยได้ทำการพ่นน้ำกรดโจมตีใส่เรนยะ

        

        แต่ด้วยตาแห่งดวงจิตกับเนตรพันลี้จึงทำให้เรนยะสามารถหลบน้ำกรดได้อย่างไม่ยากเย็นก่อนที่เขาจะทำการกระโดดพร้อมกับง้างดาบร้อยขาเตรียมที่จะแทงเข้าใส่ส่วนที่เป็นใบหน้าของเซงาว่า

        

        “ฝันไปเถอะ !!!” เซงาว่าได้ใช้เขี้ยวตะขาบของตนงับใบดาบร้อยขาเอาไว้ทำให้ดาบร้อยขาที่แตกหักถูกหยุดเอาไว้ใกล้กับใบหน้าที่เป็นจุดอ่อนของเซงาว่าอย่างเฉียดฉิว

        

        “น่าเสียดายนะถ้าดาบแกยังดีอยู่การโจมตีนี้คงจะฆ่าฉันได้ไปแล้วถึงจะพูดอย่างมีชัยแต่เซงาว่าก็แอบเสียวสันหลังอยู่เหมือนกันเพราะการเคลื่อนไหวของเรนยะนั้นเร็วอย่างมากเล่นทำเอาเซงาว่าเกือบป้องกันไม่ทันเลยทีเดียว

        

        “ไม่หรอกมันจบแล้วต่างหากเรนยะได้จับดาบร้อยขาด้วยมือทั้งสองข้างก่อนที่จะทำการส่งจักระเข้าไปในตัวดาบ

        

        เซงาว่า : “!!!” 

        

        ทันทีที่เรนยะส่งจักระใส่ดาบร้อยขาจึงทำให้ใบดาบที่แตกหักนั้นปรากฎใบมีดสายฟ้ายืดออกมาแทงใส่ที่จุดอ่อนกลางหน้าผากของเซงาว่า

        

        ฉึก !!!

        

        “ฉัน . . .” เซงาว่าที่ถูกแทงใส่ใบหน้าที่เป็นจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวพยายามที่จะพูดอะไรบางอย่าง

        

        “คุณน่ะไม่สมบูรณ์แบบหรอก . . .” เรนยะได้ถอนดาบออกมาแล้วกระโดดลงพื้นพร้อมทั้งมองเซงาว่าด้วยสีหน้าซับซ้อน

        

        ร่างตะขาบของเซงาว่าเริ่มเกิดไอร้อนขึ้นก่อนที่ร่างยักษ์นั้นจะล่วงลงพื้นขยับไม่ได้เพราะดาบจักระสายฟ้าที่เรนยะใช้โจมตีในทีสุดท้าย

        

        ร่างตะขาบของเซงาว่าเริ่มเกิดการละลายขึ้นอย่างช้าๆแต่เซงาว่าก็ยังคงคงพยายามคืบคลานเข้าหาเรนยะ

        

        “อึก ! เลือดเป็นกรดงั้นรึเรนยะที่ได้กลิ่นแสบจมูกได้ถอยห่างจากร่างตะขาบยักษ์

        

        “Master !!!” เสียงเรียกของเอมิยะทำให้เรนยะหันไปมองทางหลังคาด้านบน

        

        เอมิยะไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาได้ทำการถีบกล่องบางอย่างส่งลงไปให้กับเรนยะ

        

        “ใช้เจ้านี่จัดการมันเลย Master !” เอมิยะพูดทิ้งท้ายก่อนที่เขาจะจากไปเพราะได้ยินเสียงโลลิร้องขอความช่วยเหลือจากที่ไหนสักแห่งภายในเมืองหลวง

        

        “รีบไปไหนของเขากันนะ . . ว่าแต่ในกล่องนี้มันมีอะไรหว่า ?” เรนยะเกาหัวอย่าง งงๆ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเปิดกล่องออกมาซึ่งภายในกล่องนั้นมันก็คือ . . .

        

        

        

        . . . เฮ้ยๆ!!! ส่งอะไรมาปรึกษากันบ้างสิ !!!

        

        (ลงจ้า)

        

        

        

        ฝันดีครับ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×