ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบวีรชนข้ามโลกนินจา

    ลำดับตอนที่ #60 : ภาค 12 นินจาองครักษ์ ตอนที่ 17

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.22K
      579
      1 ม.ค. 63

    หลังม่านควันที่เกิดจากศาสตราวุธในคลังสมบัติเริ่มจางหายภาพที่ปรากฏในสายตาของเรนยะนั้นก็คือร่างไร้ชีวิตของเซงาว่าที่ตามตัวถูกเสียบด้วยเหล่าสมบัติวีรชนมากมายจนแทบจะกลายเป็นเม่นอยู่แล้ว

        

        “ไม่ทันหรือเนี่ย . . .” ที่เรนยะบอกว่าไม่ทันนั้นก็เป็นเพราะว่าหลอดยาที่มือของเซงาว่านั้นมันได้ว่างเปล่าไปเสียแล้ว

        

        . . . ซึ่งนั่นก็หมายความว่าตัวยานั่นได้เข้าสู่ร่างกายของเซงาว่าไปแล้วนั่นเอง

        

        ต่อมาแรงกดดันจากจักระอันมหาศาลก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างที่แน่นิ่งของเซงาว่า

        

        “อึก ! แรงกดดันนี่มันยิ่งกว่าระดับคาเงะซะอีก !” จักระที่กระหายเลือดอีกทั้งยังน่าขนลุกได้ถาโถมเข้าใส่ตัวของเรนยะจนเขาต้องถอยออกมาตั้งหลักตามสัญชาตญาณ

        

        “Master ให้ข้าช่วยจัดการให้เอาไหม ?” สกาฮะได้เสนอตัวที่จะจัดการเรื่องนี้ให้เพราะด้วยประสบการณ์การต่อสู้ของเธอนั้นมันทำให้เธอรู้ได้ในทันทีว่าศัตรูคราวนี้มันเกินกำลัง Master ของเธอ

        

        แต่คำถามของสกาฮะนั้นกลับไร้ซึ่งคำตอบเพราะตอนนี้เรนยะนั้นกำลังดีใจจนเนื้อเต้นไม่ได้สนใจคำพูดของสกาฮะเลยสักนิดที่เป็นแบบนี้อาจจะเป็นเพราะสายเลือดเทพในตัวของเรนยะก็เป็นได้ที่ทำให้เลือดภายในตัวของเขามันรู้สึกเดือดพล่านเวลาที่เจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งแบบนี้

        

        “เฮ้อ ! ให้ตายสิ Master” สกาฮะที่เห็น Master ของตนเป็นแบบนี้ก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเพราะนิสัยเลือดเดือดแบบนี้มันช่างเหมือนกับเซทันต้าจริงๆ

        

        เซทันต้าหรือคูฮูลิลน์ลูกศิษย์ของเธอนั้นก็เกือบตายเพราะนิสัยแบบนี้หลายครั้งอยู่เหมือนกันแต่ก็เพราะแบบนั้นจึงทำให้ตัวเซทันต้าพัฒนายิ่งขึ้นเพราะโค่นผู้แข็งแกร่งเรื่อยมา

        

        ฉะนั้นในครั้งนี้สกาฮะจึงได้ตัดสินใจที่จะไม่สอดมือเข้าไปยุ่งเพื่อจะได้ไม่เป็นการขัดขวางความก้าวหน้าของเรนยะ

        

        . . . เอาไว้สถานการณ์คับขันจริงๆเธอค่อยยื่นมือเข้าไปช่วยก็แล้วกัน

        

        “โฮกกก !!!” ทันทีที่เซงาว่าลุกขึ้นมาเขาก็ได้ปล่อยเสียงคำรามที่ไม่น่าจะใช่เสียงของมนุษย์ออกมาจนเรนยะต้องเอาเอานิ้วอุดหูเอาไว้

        

        ร่างกายของเซงาว่าเริ่มสั่นกระตุกพร้อมกับแขนซ้ายที่ขาดไปมีตะขาบเลื้อยออกมาขดตัวกันจนเป็นแขนยักษ์

        

        “เปิดก่อนได้เปรียบ !” เรนยะได้เปิดเกทสีทองยิงอาวุธที่เป็นสมบัติวีรชนระดับ A เข้าใส่ตัวเซงาว่าเพื่อเป็นการลองเชิง

        

        แต่เซงาว่าก็ได้ทำการยกแขนซ้ายที่เป็นก้อนตะขาบขึ้นมาป้องกันอาวุธระดับ A จากคลังสมบัติได้อย่างไร้รอยขีดข่วน

        

        “แข็งอะไรแบบนี้ !!!” เรนยะแทบจะไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากระดองของตะขาบมันจะแข็งได้ถึงขนาดนี้

        

        ขนาดสมบัติวีรชนระดับ A ยังสร้างแผลให้กับอีกฝ่ายไม่ได้งานนี้นับว่าไม่ง่ายเสียแล้ว

        

        เซงาว่าได้พุ่งฝ่าดงอาวุธที่เรนยะยิงออกมาจากคลังสมบัติด้วยความรวดเร็วเกินกว่าที่เรนยะจะอ่านทางออกได้ทำให้เรนยะต้องยกมือขวาขึ้นมาตั้งการ์ดป้องกันการโจมตีนี้ ตูม !!!

        

        “อึก !” เรนยะที่ถูกแขนซ้ายอัดใส่เขาก็ถึงกับกระเด็นไปตามแรงต่อยของเซงาว่าเลยทีเดียว

        

        “หนักอะไรแบบนี้ขนาดเราป้องกันแล้วแท้ๆในตอนนี้แขนขวาของเรนยะที่ใช้รับการโจมตีนั้นถึงกับบวมช้ำเขียวช้ำม่วง ห้อยต่องแต่งเรียกได้ว่าหมดสภาพเลยแหละ

        

        “Master !!!” หนูเงียบกับไรโคที่เห็นแขนขวาที่หมดสภาพของเรนยะก็ได้ร้องออกมาอย่างตื่นตระหนกถ้าไม่ติดว่าสกาฮะคอยห้ามเอาไว้พวกเธอทั้ง 2 คนคงจะปรากฎร่างเนื้อเข้าช่วยเหลือเรนยะไปแล้ว

        

        “ผมยังไหว . . ไม่ต้องห่วงหรอกครับเรนยะได้ถอนหายใจครั้งหนึ่งก่อนที่เขาจะใช้จักระภายในตัวของตนเร่งกระบวนการฟื้นสภาพอาการบาดเจ็บที่แขนขวาของตัวเอง

        

        ทำให้แขนข้างขวาที่หมดสภาพไปแล้วของเรนยะเริ่มถูกฟื้นฟูขึ้นด้วยความรวดเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

        

        “เฮ้อ ~ รักษาอาการบาดเจ็บใช้จักระเยอะเอาเรื่องเลยแฮะเรนยะคิดว่าถ้าเป็นไปได้หลังจากนี้พยายามอย่าโดนโจมตีจะดีกว่า

        

        “โฮกก !!!” เซงาว่าไม่รอให้เรนยะได้พักทำการพุ่งเข้ามาโจมตีเรนยะอีกครั้ง

        

        แต่ในครั้งนี้เรนยะนั้นได้ทำการหลบทุกการโจมตีของเซงาว่าก่อนที่จะทำการสวนกลับอีกฝ่ายด้วยการหมุนตัวหลบหมัดของเซงาว่าก่อนที่จะใช้แรงหมุนตัวหลบนั้นศอกเข้าที่กลางลำตัวอีกฝ่ายอย่างรุนแรง ตูม !

        

        “ไม่สะเทือนเลยแฮะเซงาว่าที่ถูกศอกกลางลำตัวนั้นได้ทำการจู่โจมเรนยะต่อราวกับไม่รับรู้ความเจ็บปวด

        

        เรนยะได้ใช้ฝ่ามือของตนปัดป้องหมัดของเซงาว่าก่อนที่จะใช้จังหวะนั้นเตะเจาะยางจนเซงาว่าเกิดอาการเซ

        

        เรนยะได้ใช้โอกาสที่ตัวเซงาว่าเซนั้นกระโดดขึ้นเกาะหลังของเซงาว่าแล้วชักดาบร้อยขาออกมาเตรียมลงมือแทงใส่ที่หัวแต่เซงาว่าก็ได้ทำการจับกระชากเสื้อของเรนยะทุ่งลงกับพื้นก่อนที่มันจะยกแขนทั้ง 2 ข้างเตรียมทุมใส่ซ้ำเรนยะ

        

        เรนยะได้กลิ้งตัวหลบการทุ่มของเซงาว่าก่อนที่เขาจะแทงดาบสวนกลับอีกฝ่ายไป

        

        แต่เซงาว่าก็ได้ใช้แขนตะขาบข้างซ้ายจับดาบร้อยขาเอาไว้ได้ก่อนที่จะออกแรงบีบใบดาบร้อยขาจนแตกละเอียด

        

        “โธ่เว้ย !!!” เรนยะได้กระโดดถีบเซงาว่าก่อนที่จะใช้แรงถีบนั้นส่งตัวถอยออกมาตั้งหลักอีกที

        

        “คาถาแยกร่างไม้ !!!” ร่างแยกทั้ง 44 ร่างที่ถูกเรียกออกมาด้วยคาถาไม้ต่างเข้าโรมรันเซงาว่าด้วยกระบวนท่า

        

        ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าร่างแยกพวกนั้นอย่างมากก็ทำได้แค่ถ่วงเวลาสัตว์ประหลาดอย่างเซงาว่าเท่านั้น

        

        แต่การถ่วงเวลาก็เป็นสิ่งที่เรนยะต้องการทำตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

        

        . . . ถ่วงเวลาเพื่อที่จะเตรียมไม้ตายที่จะใช้โค่นอีกฝ่ายให้สิ้นซาก !!!

        

        เมื่อร่างแยกไม้ตนสุดท้ายถูกจัดการลงเซงาว่าก็ได้พุ่งเป้ามาหาเรนยะตัวจริงต่อในทันที

        

        เซงาว่าได้คำรามพร้อมกับวิ่งเข้าใส่เรนยะ

        

        “นั่นแหละมาใกล้ๆป๊ะป๋านี่มาเรนยะที่เตรียมทุกอย่างพร้อมสรรพแล้วเขาก็ได้รอจังหวะที่เซงาว่าจะวิ่งเข้ามาในจุดที่เขาได้เตรียมเอาไว้

        

        และทันทีที่เซงาว่าก้าวเท้าเข้าสู่กับดักแล้วเรนยะก็ได้สะบัดมือกระตุ้นการทำงานของหินอักษรรูนที่เขาได้วางเอาไว้รอบบริเวณนี้

        

        “จงมอดไหม้เสีย คนยักษ์แห่งพฤกษา Wicker Man !!!” เมื่อสิ้นคำของเรนยะหุ่นไม้ขนาดยักษ์ก็ปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของเซงาว่า

        

        “นี่มัน !!!” สกาฮะที่เฝ้าดูอยู่นั้นเธอถึงกับทึ่งในพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ของเรนยะอย่างมาก

        

        เธอไม่นึกเลยว่า Master ของเธอจะสามารถใช้เวทมนตร์ที่มีความรุนแรงเทียบเท่ากับสมบัติวีรชนได้แบบนี้แถมเจ้า Wicker Man ที่เรนยะใช้นั้นยังเป็นท่าของเซทันต้าลูกศิษย์ของเธออีกด้วย

        

        แบบนี้ก็เท่ากับว่าเรนยะนั้นสามารถใช้โฮกุได้มากกว่าที่ทางระบบจำกัดให้ติดตั้งเอาได้แค่ 1 ชิ้นนับว่าสิ่งที่เรนยะทำนั้นเป็นการเก้าข้ามขีดจำกัดอย่างแท้จริง !!!

        

        แต่เดิม Wicker Man นั้นเป็นโฮกุหรือสมบัติวีรชนของคูฮูลิลน์ใน Class Caster ซึ่งเป็นโฮกุประเภทต่อต้านกองทัพระดับ B โดยโฮกุชิ้นนี้จะเรียกหุ่นไม้ยักษ์ออกมาจับศัตรูเป้าหมายขังเอาไว้ในกรงส่วนลำตัวของมันก่อนที่จะจุดไฟแผดเผาย่างสดศัตรูที่ถูกขังอยู่ภายในตัว

        

        แน่นอนว่าเปลวไฟที่เกิดจากเวทมนตร์อักษรรูนย่อมมีความรุนแรงมากกว่าเปลวไฟทั่วๆไปอยู่แล้วแถมยังมีหุ่มไม้ยักษ์ที่เกิดจากการผสมผสานเวทมนตร์รูนเป็นเชื้อเพลิงอีก

        

        . . . โดนขนาดนี้ไม่ตายก็ให้มันรู้ไป

        

        ทันทีที่ถูกจับขังเซงาว่าก็ได้พยายามที่จะพังกรงไม้ออกมาแต่กรงไม้นั้นไม่ได้สะเทือนเลยสักนิด



        

        “จบกันที คาถาไม้กำเนิดม่านพฤกษา !!!” เมื่อถูกขังอยู่ในตัวหุ่นไม้ต่อให้ดิ้นรนแค่ไหนมันก็เปล่าประโยชน์และก็เพื่อความแน่ใจเรนยะจึงได้เสริมคาถาไม้เข้าไปในโฮกุชิ้นนี้ด้วย

        

        แสงของเปลวไฟได้เริ่มประทุขึ้นแผดเผาหุ่นไม้จนลุกเป็นไฟซึ่งกระบวนการนี้เป็นไปอย่างยาวนานโดยมีเรนยะยืนมองหุ่นไม้อย่างไม่คลาดสายตา

        

        (ลงจ้า)

        

        


        เราคงต้องยอมรับความจริงสินะ . . . เอาไว้รอปีหน้าละกัน (หรือมีตู้แก้ตัวอีกครั้งกันนะ)

        

        สวัสดีปีใหม่ทุกคน ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×