ลำดับตอนที่ #42
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : ตอนที่ 42
หลังจากที่แขนต้องสาปได้ทำการบุกเข้าไปขายตรง(ยื่นข้อเสนอ)กับเทชิและเทรุมิเรียบร้อยแล้วเขาก็ได้เตรียมกับดักและก็รอเวลา Delivery ความตายแก่ยาริสะในตอนกลางคืน
ภายในค่ำคืนนั้นยาริสะได้นำหน่วยลับทุกคนกลับมาที่หมู่บ้านเพราะเขาไม่อาจค้นหาตัวของ อาคุสะ เรนยะ พบได้ซึ่งตัวของยาริสะนั้นเขาได้มุ่งหน้าไปที่ตึกของมิซึคาเงะเพื่อพบผู้อาวุโสนัมบะที่หนุนหลังเขาในการขึ้นรับตำแหน่งมิซึคาเงะรุ่นที่5ทันที
โดยเมื่อยาริสะมาถึงห้องเอกสารที่อยู่ด้านล่างของตึกแล้วนั้นเขาก็ได้เปิดประตูเข้าไปในทันที
ยาริสะ : “ท่านผู้เฒ่านัมบะ”
นัมบะได้ก้มหัวทำความเคารพชายแก่ตรงหน้าของเขาเล็กน้อย
นัมบะ : “เจ้ากลับมาแล้วหรือยาริสะแล้วเป็นยังไงบ้างเจ้าจับตัวจ้าวศาสตราวุธมาได้ไหม”
ทันทีที่ได้ยินคำถามยาริสะก็ได้ส่ายหน้าเบาก่อนจะตอบผู้เฒ่านัมบะไปว่า
ยาริสะ : “ไม่ครับท่านผู้เฒ่าดูเหมือนว่าอาคุสะ เรนยะ มันจะรู้ตัวก่อนมันก็เลยหนีไปเสียก่อนส่วนพวกลูกน้องของดันโซผมก็ติดต่อไม่ได้เลยแต่คาดว่าพวกมันทั้งสองคนคงจะถูกอาคุสะ เรนยะฆ่าตายไปแล้วละครับ”
นัมบะ : “เอาเถอะถึงมันจะหลบเราได้แต่ยังไงซะมันก็ไม่มีทางหนีพ้นแน่เพราะทางไดเมียวมีคำสั่งลงมาว่าห้ามเรือเข้าหรือออกในช่วงเวลาที่หมู่บ้านของเรายังไม่มีมิซึคาเงะรุ่นที่5เอาไว้พรุ่งนี้เจ้าค่อยออกไปตามจับมันอีกทีก็ได้”
นัมบะได้พูดออกมาอย่างสบายๆเพราะเขาเชื่อว่าเรนยะไม่มีทางหนีไปจากเงื้อมมือของพวกเขาได้
ยาริสะ : “ทราบแล้วครับ”
นัมบะ : “งั้นวันนี้พวกเราไปดื่มที่ร้านเดิมกันเถอะยาริสะตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ร้านนั้นจะเปิดแล้ววันนี้ข้าจะเลี้ยงเจ้าเอง”
ยานิสะ : “ขอบคุณครับท่านผู้เฒ่า”
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกันเสร็จแล้วพวกเขาเองก็ได้เดินไปที่ใจกลางของหมู่บ้านคิริงาคุเระเพื่อไปดื่มที่ร้านประจำของพวกเขา
----------- -------------
นัมบะกับยาริสะที่มาถึงร้านแล้วพวกเขาก็ไม่รอช้าทำการเปิดประตูเข้าร้านไปทันทีทำให้กระดิ่งที่แขวนเอาไว้กับประตูดังกริ๊งๆ
เถ้าแก่ : “ยินดีต้อนรับครับ ! อ้าว ! คุณยาริสะกับผู้เฒ่านัมบะเจ้าประจำนี่นาวันนี้จะดื่มอะไรดีครับ”
ทันทีที่ทั้งสองเปิดประตูเข้ามาพวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากเถ้าแก่ของร้านนี้ทันทีซึ่งยาริสะก็ได้สั่งเครื่องดื่มคู่กับแกล้มให้กับผู้เฒ่านัมบะตามความเคยชินเพราะว่าทั้งสองคนนี้มาที่ร้านนี้ด้วยกันบ่อยๆ
ยาริสะ : “เอาเหมือนเดิมน่ะเถ้าแก่ . . .”
เถ้าแก่ : “หืม ? วันนี้ดูคุณเหนื่อยๆนะคุณยาริสะเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
ยาริสะ : “ก็นิดหน่อยน่ะเถ้าแก่ว่าแต่ว่าแม่สาวคนนั้นเป็นใครงั้นเหรอ”
ในระหว่างที่กำลังคุยกันตามประสาคนคุ้นเคยนั้นยาริสะก็ได้เหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในชุดสาวเสิร์ฟเข้าเขาก็เลยได้ถามเถ้าแก่ไป
เถ้าแก่ : “อ้อ เธอชื่อว่ารุรุมิเป็นเด็กเสิร์ฟที่พึ่งเข้ามาทำงานวันนี้น่ะครับ”
ยาริสะ : “งั้นเหรอครับ”
หลังจากที่คุยกันอยู่พักหนึ่งเถ้าแก่ก็ได้เข้าไปหลังร้านเพื่อเตรียมกับแกล้มให้กับลูกค้าทั้งสองคนทันทีซึ่งสาวเสิร์ฟก็ได้เดินตามเข้าไปด้วยโดยมีสายตาสงสัยของยาริสะจ้องสาวเสิร์ฟคนนั้นอย่างไม่วางตาจนเขารู้สึกตัวเพราะมีมือของผู้อาวุโสนัมบะมาจับที่ไหล่ของเขา
นัมบะ : “มีอะไรหรือยาริสะหรือว่าเจ้าจะถูกใจแม่สาวคนนั้นกันละหือ ?”
นัมบะที่เห็นยาริสะจ้องมองสาวเสิร์ฟคนนั้นแบบไม่วางตาเขาก็เลยพูดแหย่ยาริสะเล่น
ยาริสะ : “ม . . ไม่ใช่แบบนั้นครับคือว่า . . ช่างมันเถอะครับผมคงจะคิดมากไปเอง”
ใช้เวลาไม่นานเมนูเครื่องดื่มและกับแกล้มที่ทั้งสองสั่งก็เสร็จเรียบร้อยโดยสาวเสิร์ฟก็ได้เป็นคนยกมาวางเอาไว้ที่โต๊ะหน้าเคาน์เตอร์ที่ทั้งสองคนนั่งอยู่โดยเธอได้ยิ้มให้กับลูกค้าทั้งสองก่อนที่เธอจะเดินเข้าครัวไป
นัมบะ : “แหมเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆเลยนะแม่หนูนั่นน่ะ”
ยาริสะ : “มาครับท่านผู้เฒ่าเดี๋ยวผมรินเหล้าให้กับท่านเอง”
ยานิสะได้ทำการยกจอกเหล้าแล้วรินให้กับผู้เฒ่านัมบะ
นัมบะ : “โอ้ ! ขอบใจๆ”
ผู้เฒ่านัมบะขอบใจยาริสะก่อนที่เขาจะยกจอกเหล้าขึ้นดื่ม
อึก !!!
หลังจากที่ผู้เฒ่านัมบะดื่นเหล้าแล้วยาริสะก็รินเหล้าให้กับตัวเองด้วยอีกคนแต่ก่อนที่เขาจะยกจอกเหล้าขึ้นดื่มนั้นจู่ๆผู้เฒ่านัมบะก็เริ่มออกอาการแปลกๆยาริสะเลยได้ถามด้วยความเป็นห่วง
ยาริสะ : “ท่านผู้เฒ่านัมบะท่านโอเคไหมครับ”
นัมบะ : “ม . . ไม่ . . ข้าไม่เป็นอะไร . . แค่รู้สึก . . อึดอัดนิดหน่อย”
ผู้เฒ่านัมบะได้ตอบยาริสะกลับไปด้วยสภาพไม่สู้ดีซะเท่าไหร่ในตอนนี้ตัวเขาเริ่มร้อนๆและก็มีเหงื่อออกเยอะมากแถมเขายังเริ่มรู้สึกอึดอัดจนต้องถกกิโมโนออกมาเล็กน้อย
โดยสุดท้ายผู้เฒ่านัมบะก็ทนไม่ไหวเขาเริ่มแสบร้อนภายในแล้วเขาก็ร้องออกมา
อ้ากกก !!!
ร่างของผู้เฒ่านัมบะได้ล้มล้งไปที่พื้นทามกลางความตกใจของยาริสะ
ยาริสะ : “ท่านผู้เฒ่านัมบะ !!!”
เถ้าแก่ : “เกิดอะไรขึ้นครับคุณยาริสะ !!!”
เถ้าแก่ที่อยู่ในครัวพอเขาได้ยินเสียงร้องของยาริสะเขาก็เลยตกใจวิ่งออกมาจากห้องครัวหลังร้าน
ยาริสะได้ทำการจับชีพจรที่คอของผู้เฒ่านัมบะแต่เขาก็พบว่าผู้เฒ่านัมบะได้สิ้มลมหายใจไปเสียแล้วแถมสีผิวของตัวผู้เฒ่านัมบะก็เริ่มที่จะเปลี่ยนเป็นสีดำเรื่อยๆแล้ว
ยาริสะ : “บ้าเอ๊ย !!! ยาพิษ !!!”
เถ้าแก่ : “ว่าไงนะ !!!”
ยาริสะได้ลุกขึ้นไปดูที่จอกเหล้าแล้วลองดมกลิ่นดูแต่เขาก็ไม่พบความผิดปกติอะไรจนเขาได้ลองเทเหล้าลงจอกดูพอยาริสะมองดูจอกเหล้าสักพักเขาก็พบว่าเหล้าในจอกนั้นได้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำจนน่าขนลุก
ยาริสะ : “พิษอยู่ที่จอกเหล้าหรือเนี่ย !”
ยาริสะได้หันไปที่เถ้าแก่ของร้านนี้ทันทีด้วยสายตาเอาเรื่อง
เถ้าแก่ : “ม . . ไมใช่นะ . . นี่ไม่ใช่ฝีมือของผมนะคุณยาริสะ !!!”
เถ้าแก่ได้โบกมือปฏิเสธอย่างร้อนรน
ยาริสะ : (ไม่สิ . . เถ้าแก่ไม่ทำแบบนี้แน่ . . . หรือว่า !!!”)
จู่ๆยาริสะเขาก็ฉุกคิดได้ว่าจนถึงตอนนี้สาวเสิร์ฟที่ชื่อรุรุมิคนนั้นก็ยังไม่โผล่ออกมาเลยทั้งๆที่ในร้านมีเรื่องวุ่นวายขนาดนี้แท้ๆ
ยาริสะ : “นี่ ! เถ้าแก่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน !”
เถ้าแก่ : “เอ๋ ! รุรุมิเหรอเธอบอกว่าเครื่องปรุงในครัวมันหมดเธอก็เลยออกไปซื้อให้น่ะ”
จากความสงสัยแปรเปลี่ยนเป็นความมั่นใจในทันทียาริสะมั่นใจว่าคนที่วางยาพิษจะต้องเป็นสาวเสิร์ฟที่ขื่อรุรุมิอย่างแน่นอน
ยาริสะ : “เถ้าแก่ ! ผมจะตามเธอไปฝากร่างท่านผู้เฒ่านัมบะด้วย !”
เถ้าแก่ : “ด . . เดี๋ยวก่อนคุณยาริสะ !”
ยาริสะได้วิ่งออกจากร้านเพื่อตามหาสาวเสิร์ฟคนนั้นทันทีโดยไม่ฟังเถ้าแก่
ยาริสะ : “บ้าที่สุด ! ยัยผู้หญิงนั่น !”
การที่เขาปล่อยให้ผู้เฒ่านัมบะถูกฆ่าตายทั้งๆที่เขาอยู่ด้วยแท้ๆแบบนี้ยาริสะจะต้องมีคำอธิบายที่ดีพอกับพวกผู้อาวุโสที่เหลือไม่อย่างนั้นอย่าว่าแต่รักษาเก้าอี้ตำแหน่งมิซึคาเงะรุ่นที่5เลยแม้แต่หัวของเขาก็อาจจะรักษาไม่ได้ด้วยซ้ำไป
แต่ถ้ายาริสะเขาสามารถจับตัวคนร้ายที่สังหารผู้อาวุโสนัมบะได้ละก็เรื่องทุกอย่างก็จะพอแก้ไขได้ถึงยาริสะจะโดนผู้อาวุโสคนอื่นๆต่อว่าแต่เขาก็คงไม่เสียสิทธิ์ในตำแหน่งมิซึคาเงะแน่นอน
และด้วยเหตุนี้ทำให้ยาริสะได้ออกตามหาสาวเสิร์ฟที่ชื่อรุรุมิในหมู่บ้านคิริงาคุเระอย่างเอาเป็นเอาตาย
----------- -------------
สุดท้ายยาริสะเขาก็ได้เจอสาวเสิร์ฟคนนั้นพอดีซึ่งสาวเสิร์ฟอย่างรุรุมิพอเธอเห็นว่ายาริสะเห็นตัวเธอแล้วนั้นเธอก็ได้วิ่งหนีเขาในทันที
ยาริสะ : “จะหนีไปไหนยัยสารเลว !”
สาวเสิร์ฟรุรุมิได้วิ่งหนีวิ่งเข้าไปในป่าทางทิศใต้ของหมู่บ้านโดยมียาริสะวิ่งตามมาติดๆและใกล้ที่จะจับผู้หญิงตรงหน้าได้แล้ว
ยาริสะ : “แกหนีไม่พ้นหรอก !!!”
แต่ในจังหวะที่มือของยาริสะใกล้ที่จะสัมผัสโดนตัวของสาวเสิร์ฟนั้นจู่ๆเขาก็ชะงักมือด้วยเพราะสัญชาตญาณของเขาร้องเตือนถึงอันตราย
!!!
ยาริสะได้กระโดดถอยหนีผู้หญิงตรงหน้าตนออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดซึ่งผู้หญิงที่เขาไล่ล่ามาเธอก็หยุดวิ่งหนียาริสะแล้วเช่นกัน
หญิงสาวรุรุมิได้ค่อยๆหันหน้ามาทางยาริสะช้าๆก่อนที่รูปร่างของเธอจะค่อยๆเปลี่ยนกลับไปเป็นผู้หญิงผมสีม่วงผิดสีดำสวมหน้ากากกะโหลกสีขาวซึ่งเธอก็คือฮัซซันแห่งความเงียบงันหรือหนูเงียบนั่นเอง
!!!
หนูเงียบได้ทำการยื่นมือออกมาก่อนที่ปลายนิ้วของเธอจะมีหยดน้ำสีดำหยดลงพื้นทำให้พื้นดินถึงกับละลายเป็นหลุมเลยทีเดียว
ฉ่า !!!
ยาริสะ : (อึก ! พิษงั้นเรอะถ้าตอนนั้นเราไปแตะตัวเธอเข้าละก็ . . .)
เมื่อคิดได้ดังนั้นยาริสะก็นึกขอบคุณสัญชาตญาณของตนที่ผ่านการเฉียดตายมามากจนถึงกับรับรู้อันตรายได้ทำให้เขารอดจากพิษของหญิงสาวตรงหน้าได้แบบนี้
ส่วนที่หนูเงียบสามารถปลอมตัวได้นั้นนั่นก็เพราะตัวเธอมีสกิลเฉพาะตัวอย่าง
Shapeshift (infiltration specialization) C / การเปลี่ยนร่าง (ความเชี่ยวชาญด้านการแทรกซึม) ระดับ C
-ความสามารถในการปลอมตัวหรือเปลี่ยนร่างเป็นสิ่งต่างๆได้
และตามความจริงแล้วหนูเงียบเธอไม่ค่อยอยากที่จะใช้ความสามารถนี้เสียเท่าไหร่เนื่องเพราะแผลทางใจในอดีตที่เธอต้องปลอมตัวสร้างความสัมพันธ์กับเป้าหมายก่อนที่เธอจะฆ่าเขาด้วยพิษของเธอบ่อยๆแต่เพื่อ Master อย่างเรนยะแล้วเธอสามารถทำได้ทุกอย่าง
บรรยากาศตกลงในความเงียบชั่วครู่ก่อนที่ยาริสะจะทำการถามหญิงสาวตรงหน้าของตนไปว่า
ยาริสะ : “เธอเป็นใครกันแน่แล้วทำไมถึงได้ฆ่าท่านผู้เฒ่านัมบะ”
แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาก็คือความเงียบเท่านั้นและเมื่อยาริสะไม่ได้รับคำตอบเขาก็เลยคิดที่จะจับกุมหญิงสาวตรงหน้าแบบเป็นๆเพื่อสอบสวนที่มาที่ไปอีกที
แต่ในจังหวะที่ยาริสะเขาคิดจะลงมือที่ด้างข้างของหนูเงียบนั้นก็ได้มีชายสวมผ้าคลุมสีดำแถมยังใส่หน้ากากกะโหลกสีขาวเหมือนๆกันกับหนูเงียบปรากฎตัวออกมาจากความว่างเปล่าอีกหนึ่งคนซึ่งเขาคนนี้ก็คือแขนต้องสาปนั่นเอง
!!!
ยาริสะ : (มีสองคนงั้นหรือเนี่ย ! ทักษะลอบเร้นที่ขนาดเรายังไม่รู้ตัวเลยเจ้าพวกนี้ท่าจะไม่ธรรมดาเสียแล้วสิ)
แน่นอนว่าการปรากฎตัวของแขนต้องสาปนั้นสร้างความกดดันให้แก่ยาริสะอย่างมากถึงยาริสะเขาจะมั่นใจในฝีมือของตนก็ตามทีแต่ถ้าโดนลุมละก็เขาก็อาจจะเสียท่าเอาได้เหมือนกัน
แต่ก็อย่างที่บอกไปตอนแรกถ้ายาริสะหนีไปตอนนี้ละก็เขาคงไม่สามารถหาคำอธิบายเรื่องการเสียชีวิตของผู้เฒ่านัมบะกับพวกผู้อาวุโสที่เหลือได้อย่างแน่นอนและเขาก็คงไม่รอดจากโทษตายแน่ๆ
ไม่ว่าเลือกทางไหนก็ตายทั้งนั้นดังนั้นยาริสะจึงเลือกที่จะสู้กับอีกฝ่ายเมื่อยาริสะทำใจได้แล้วสายตาวิตกกังวลในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นแววตามุ่งมั่นในทันทีแต่เขาก็พบว่าหญิงสาวคนนั้นได้กระโดดหนีเข้าไปในป่าเสียแล้วทิ้งไว้เพียงชายสวมผ้าคลุมดำสวมหน้ากากกะโหลกคนเดียวเท่านั้น
แขนต้องสาป : “ไม่ต้องห่วงคนที่จะฆ่าเจ้ามีแค่ข้าคนเดียวก็เกินพอแล้ว”
แขนต้องสาปไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาได้ใช้มือซ้ายหยิบมีดสั้นของเขาขึ้นมาแล้วเข้าสู้กับยาริสะในทันที
เคร้ง !!!
ส่วนทางด้านของยาริสะนั้นเขาก็ได้ทำการหยิบคุไนขึ้นมาเข้าสู้กับแขนต้องสาปเช่นกัน
เคร้ง !!!
แขนต้องสาปได้ทำการกระโดดถอยหลังก่อนที่เขาจะปามีดสั้นของเขาเข้าใส่ยาริสะ
กิ๊ง !!!
ยาริสะได้ทำการใช้มีดคุไนของเขาปัดมีดสั้นที่แขนต้องสาปปาใส่เขาออกไป
แขนต้องสาป : “โห่ ~ งั้นแบบนี้ละ”
เมื่อแขนต้องสาปพูดเสร็จที่มือซ้ายของเขาก็ได้มีมีดสั้นในร่องนิ้วทั้งหมดสี่เล่มก่อนที่แขนต้องสาปจะลงมือปามีดสั้นพวกนั้นอีกครั้งแต่ทิศทางที่เขาปาไปนั้นคือต้นไม้รอบๆตัวซึ่งมันคนละทิศคนละทางกับที่ยาริสะอยู่เลย
ยาริสะ : “ ฮ่า ฮ่า เจ้าโง่แกปาไปที่ไหนของแกไม่ทราบ”
ยาริสะที่เห็นแบบนั้นเขาก็ได้พูดดูถูกอีกฝ่ายเพื่อหวังที่จะทำลายสมาธิแต่ภาพต่อมามันกลับทำให้ยาริสะต้องตาเบิกกว้างอย่างตกใจ
กิ๊ง !!!
เพราะมีดสั้นที่แขนต้องสาปปาออกไปนั้นมันได้ไปกระทบกับอะไรบางอย่างจนมีดพวกนั้นถูกดีดสะท้อนกลับมาเล่นงานยาริสะทันที
ถึงยาริสะจะตกใจที่จู่ๆมีดพวกนั้นก็เปลี่ยนทิศทางมาเล่นงานตัวเขาก็ตามแต่ยาริสะก็สามารถหลบมีดสั้นพวกนั้นได้ทั้งหมดอย่างเฉียดฉิว
ยาริสะ : “เมื่อกี้มันอะไรกัน”
!!!
แต่พอยาริสะได้ลองสังเกตมองดูรอบๆป่าแห่งนี้ดูดีๆแล้วนั้นเขาก็พบว่าต้นไม้รอบๆตัวของเขานั้นมีแผ่นเหล็กสีดำที่ถ้าไม่สังเกตดีๆละก็จะไม่มีทางเห็นเลยถูกผูกมัดเอาไว้ตามต้นไม้รอบๆนี่
ยาริสะ : “เข้าใจแล้ว . . แผ่นเหล็กพวกนั้นมันดีดสะท้อนมีดพวกนั้นมาหาเรานี่เอง . .”
ใช่แล้วแผ่นเหล็กสีดำพวกนี้แขนต้องสาปได้ทำการขอให้เอมิยะทำการใช้เวทย์ Trace พวกมันออกมาเพื่อนำพวกมันมาใช้ทำกับดักนั่นเอง
ฟิ้ว !!!
แขนต้องสาปได้ทำการปามีดสั้นใส่ตัวของยาริสะต่อรวมทั้งเขายังปาใส่แผ่นเหล็กตามต้นไม้เพื่อให้มีดดีดสะท้อนกับแผ่นเหล็กพุ่งใส่ตัวของยาริสะอีกด้วย
ยาริสะที่เห็นว่าขืนยังเป็นแบบี้ต่อไปเขาจะต้องแพ้แน่ๆเข้าจึงได้ทำการปามีดคุไนในมือของเขาใส่ตัวแขนต้องสาปก่อนที่เขาจะใช้โอกาสที่อีกฝ่ายหลบมีดคุไนของเขานั้นทำการผสานอินขึ้นมา
ยาริสะ : “คาถาน้ำน้ำตกพิฆาต !!!”
หลังจากที่ยาริสะผสานอินเสร็จแล้วนั้นตรงหน้าของเขาก็ได้มีคลื่นน้ำขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่บริเวณนี้จนต้นไม้ที่มีแผ่นเหล็กของแขนต้องสาปหักโค่นลงมาทั้งหมดส่วนตัวของแขนต้องสาปนั้นเนื่องจากที่เขาเสียจังหวะหลบมีดคุไนของยาริสะที่ถูกปามาจึงทำให้เขาโดนคลื่นน้ำจากคาถาน้ำตกพิฆาตเข้าไปเต็มๆ
ตู้ม !!!
หลังจากที่น้ำจากคาถานินจาได้หายไปแล้วยาริสะก็พบว่าแขนต้องสาปนั้นกำลังนอนหงายอยู่กับพื้นไร้ซึ่งการตอบสนอง
ยาริสะที่เห็นว่าจัดการกับอีกฝ่ายได้แล้วเขาก็ถอยหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนที่เขาจะเดินตรงไปยังร่างของแขนต้องสาปที่นอนอยู่ข้างหน้าทันที
โดยยาริสะต้องการจับกุมตัวของแขนต้องสาปไว้เพื่ออธิบายเรื่องการตายของผู้เฒ่านัมบะกับผู้อาวุโสคนอื่นๆนั่นเองแต่ในจังหวะที่มือของยาริสะใกล้ที่จะจับตัวของแขนต้องสาปนั้นจู่ๆก็มีเส้นลวดจำนวนมากผุดขึ้นมาจากพื้นดินรอบๆตัวของยาริสะและมัดตัวของเขาเอาไว้จนแน่นทำให้เขาขยับไม่ได้อีกด้วย
!!!
ยาริสะ : “ก . . แก . . ได้ยังไงกัน !!!”
ยาริสะเขาแถบจะไม่เชื่อสายตาของตนที่อีกฝ่ายโดนคาถาน้ำตกพิฆาตของเขาเข้าไปแล้วยังจะสามารถลุกขึ้นมาได้แบบนี้
แขนต้องสาป : “เท่านี้ก็จบกันที”
ยาริสะ : “Nani !!!”
ยังไม่ทันที่ยาริสะจะหายสงสัยแขนต้องสาปก็ได้ทำการบีบขยี้หัวใจเทียมที่อยู่ในมือของเขาทันที
โผ๊ละ !!!
ยาริสะที่ถูกมัดด้วยเส้นลวดถึงกับตาเบิกกว้างทันทีที่แขนต้องสาปได้ทำลายหัวใจเทียมในมือของเขา
ยาริสะเริ่มรู้สึกว่าดวงตาของเขาจะเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆก่อนที่ดวงตาของเขามันจะปิดสนิทแบบไม่มีมีวันลืมตาได้อีกตลอดกาล
แขนต้องสาปที่จัดการกับยาริสะได้แล้วเขาก็ได้พุ่งเข้าไปใช้แขนข้างขวาของตัวเองกระซวบหัวใจดวงจริงที่อยู่ในอกของยาริสะมาเก็บเอาไว้
ซึ่งสิ่งที่แขนต้องสาปใช้ฆ่ายาริสะนั้นก็คือโฮกุที่มีชื่อว่า
Zabaniya / ซาบานิย่า / จังหวะหัวใจลวง
ประเภท : ต่อต้านบุคคล
ระดับ : C
-ความสามารถในการสร้างหัวใจเทียมด้วย มวลอีเธอร์ (Ether Clump) ที่สะท้อนหัวใจของเป้าหมายออกมา การทำลายหัวใจนี้ก็เท่ากับหัวใจดวงจริงของเป้าหมายถูกทำลายด้วย เขายังสามารถสลับหัวใจปลอมกับหัวใจจริงของเป้าหมาย เพื่อที่เมื่อเขากินหัวใจดวงจริง เขาจะได้รับความรู้รวมถึงบุคลิกภาพของคนๆนั้นด้วยโดยการจะใช้ท่านี้เขาจะต้องปลดปล่อยแขนปีศาจที่เขาผนึกไว้เสียก่อน และเกราะหรือโล่ป้องกันนั้นไร้ความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าการโจมตีนี้ วิธีป้องกันท่านี้คือ ต้องมีมานามากพอหรือมีโชคมากพอมันเป็นคำสาปขั้นสูงที่ต้องแลกมาด้วยการขายวิญญานให้กับปีศาจ เนื่องจากเขาไม่เหมือนฮันซันคนอื่นที่มีความสามารถจากพรสวรรค์ เขานั้นจึงต้องสังเวยแขนของเขาเพื่อให้ได้ความสามารถมา ซาบานิย่านั้นเป็นชื่อของเทวทูตแห่งนรก
(ฮัซซันแทบทุกคนจะมีโฮกุที่ชื่อซาบานิย่าเสมอแต่รูปแบบกับชื่อจริงๆนั้นจะแตกต่างไปตามแต่ละคนสำหรับแขนต้องสาปนั้นเขาได้นำเอาแขนของวิญญาณร้ายนามว่า Shaytan หรือเชทานมาใส่ในแขนข้างขวาของตน)
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนั้นแขนต้องสาปก็ได้ทำการลบตัวตนเพื่อกลับไปแจ้งข่าวกับ Master ของเขาในทันที
----------- -------------
ภายในค่ำคืนนั้นยาริสะได้นำหน่วยลับทุกคนกลับมาที่หมู่บ้านเพราะเขาไม่อาจค้นหาตัวของ อาคุสะ เรนยะ พบได้ซึ่งตัวของยาริสะนั้นเขาได้มุ่งหน้าไปที่ตึกของมิซึคาเงะเพื่อพบผู้อาวุโสนัมบะที่หนุนหลังเขาในการขึ้นรับตำแหน่งมิซึคาเงะรุ่นที่5ทันที
โดยเมื่อยาริสะมาถึงห้องเอกสารที่อยู่ด้านล่างของตึกแล้วนั้นเขาก็ได้เปิดประตูเข้าไปในทันที
ยาริสะ : “ท่านผู้เฒ่านัมบะ”
นัมบะได้ก้มหัวทำความเคารพชายแก่ตรงหน้าของเขาเล็กน้อย
นัมบะ : “เจ้ากลับมาแล้วหรือยาริสะแล้วเป็นยังไงบ้างเจ้าจับตัวจ้าวศาสตราวุธมาได้ไหม”
ทันทีที่ได้ยินคำถามยาริสะก็ได้ส่ายหน้าเบาก่อนจะตอบผู้เฒ่านัมบะไปว่า
ยาริสะ : “ไม่ครับท่านผู้เฒ่าดูเหมือนว่าอาคุสะ เรนยะ มันจะรู้ตัวก่อนมันก็เลยหนีไปเสียก่อนส่วนพวกลูกน้องของดันโซผมก็ติดต่อไม่ได้เลยแต่คาดว่าพวกมันทั้งสองคนคงจะถูกอาคุสะ เรนยะฆ่าตายไปแล้วละครับ”
นัมบะ : “เอาเถอะถึงมันจะหลบเราได้แต่ยังไงซะมันก็ไม่มีทางหนีพ้นแน่เพราะทางไดเมียวมีคำสั่งลงมาว่าห้ามเรือเข้าหรือออกในช่วงเวลาที่หมู่บ้านของเรายังไม่มีมิซึคาเงะรุ่นที่5เอาไว้พรุ่งนี้เจ้าค่อยออกไปตามจับมันอีกทีก็ได้”
นัมบะได้พูดออกมาอย่างสบายๆเพราะเขาเชื่อว่าเรนยะไม่มีทางหนีไปจากเงื้อมมือของพวกเขาได้
ยาริสะ : “ทราบแล้วครับ”
นัมบะ : “งั้นวันนี้พวกเราไปดื่มที่ร้านเดิมกันเถอะยาริสะตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ร้านนั้นจะเปิดแล้ววันนี้ข้าจะเลี้ยงเจ้าเอง”
ยานิสะ : “ขอบคุณครับท่านผู้เฒ่า”
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกันเสร็จแล้วพวกเขาเองก็ได้เดินไปที่ใจกลางของหมู่บ้านคิริงาคุเระเพื่อไปดื่มที่ร้านประจำของพวกเขา
----------- -------------
นัมบะกับยาริสะที่มาถึงร้านแล้วพวกเขาก็ไม่รอช้าทำการเปิดประตูเข้าร้านไปทันทีทำให้กระดิ่งที่แขวนเอาไว้กับประตูดังกริ๊งๆ
เถ้าแก่ : “ยินดีต้อนรับครับ ! อ้าว ! คุณยาริสะกับผู้เฒ่านัมบะเจ้าประจำนี่นาวันนี้จะดื่มอะไรดีครับ”
ทันทีที่ทั้งสองเปิดประตูเข้ามาพวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากเถ้าแก่ของร้านนี้ทันทีซึ่งยาริสะก็ได้สั่งเครื่องดื่มคู่กับแกล้มให้กับผู้เฒ่านัมบะตามความเคยชินเพราะว่าทั้งสองคนนี้มาที่ร้านนี้ด้วยกันบ่อยๆ
ยาริสะ : “เอาเหมือนเดิมน่ะเถ้าแก่ . . .”
เถ้าแก่ : “หืม ? วันนี้ดูคุณเหนื่อยๆนะคุณยาริสะเป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
ยาริสะ : “ก็นิดหน่อยน่ะเถ้าแก่ว่าแต่ว่าแม่สาวคนนั้นเป็นใครงั้นเหรอ”
ในระหว่างที่กำลังคุยกันตามประสาคนคุ้นเคยนั้นยาริสะก็ได้เหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในชุดสาวเสิร์ฟเข้าเขาก็เลยได้ถามเถ้าแก่ไป
เถ้าแก่ : “อ้อ เธอชื่อว่ารุรุมิเป็นเด็กเสิร์ฟที่พึ่งเข้ามาทำงานวันนี้น่ะครับ”
ยาริสะ : “งั้นเหรอครับ”
หลังจากที่คุยกันอยู่พักหนึ่งเถ้าแก่ก็ได้เข้าไปหลังร้านเพื่อเตรียมกับแกล้มให้กับลูกค้าทั้งสองคนทันทีซึ่งสาวเสิร์ฟก็ได้เดินตามเข้าไปด้วยโดยมีสายตาสงสัยของยาริสะจ้องสาวเสิร์ฟคนนั้นอย่างไม่วางตาจนเขารู้สึกตัวเพราะมีมือของผู้อาวุโสนัมบะมาจับที่ไหล่ของเขา
นัมบะ : “มีอะไรหรือยาริสะหรือว่าเจ้าจะถูกใจแม่สาวคนนั้นกันละหือ ?”
นัมบะที่เห็นยาริสะจ้องมองสาวเสิร์ฟคนนั้นแบบไม่วางตาเขาก็เลยพูดแหย่ยาริสะเล่น
ยาริสะ : “ม . . ไม่ใช่แบบนั้นครับคือว่า . . ช่างมันเถอะครับผมคงจะคิดมากไปเอง”
ใช้เวลาไม่นานเมนูเครื่องดื่มและกับแกล้มที่ทั้งสองสั่งก็เสร็จเรียบร้อยโดยสาวเสิร์ฟก็ได้เป็นคนยกมาวางเอาไว้ที่โต๊ะหน้าเคาน์เตอร์ที่ทั้งสองคนนั่งอยู่โดยเธอได้ยิ้มให้กับลูกค้าทั้งสองก่อนที่เธอจะเดินเข้าครัวไป
นัมบะ : “แหมเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆเลยนะแม่หนูนั่นน่ะ”
ยาริสะ : “มาครับท่านผู้เฒ่าเดี๋ยวผมรินเหล้าให้กับท่านเอง”
ยานิสะได้ทำการยกจอกเหล้าแล้วรินให้กับผู้เฒ่านัมบะ
นัมบะ : “โอ้ ! ขอบใจๆ”
ผู้เฒ่านัมบะขอบใจยาริสะก่อนที่เขาจะยกจอกเหล้าขึ้นดื่ม
อึก !!!
หลังจากที่ผู้เฒ่านัมบะดื่นเหล้าแล้วยาริสะก็รินเหล้าให้กับตัวเองด้วยอีกคนแต่ก่อนที่เขาจะยกจอกเหล้าขึ้นดื่มนั้นจู่ๆผู้เฒ่านัมบะก็เริ่มออกอาการแปลกๆยาริสะเลยได้ถามด้วยความเป็นห่วง
ยาริสะ : “ท่านผู้เฒ่านัมบะท่านโอเคไหมครับ”
นัมบะ : “ม . . ไม่ . . ข้าไม่เป็นอะไร . . แค่รู้สึก . . อึดอัดนิดหน่อย”
ผู้เฒ่านัมบะได้ตอบยาริสะกลับไปด้วยสภาพไม่สู้ดีซะเท่าไหร่ในตอนนี้ตัวเขาเริ่มร้อนๆและก็มีเหงื่อออกเยอะมากแถมเขายังเริ่มรู้สึกอึดอัดจนต้องถกกิโมโนออกมาเล็กน้อย
โดยสุดท้ายผู้เฒ่านัมบะก็ทนไม่ไหวเขาเริ่มแสบร้อนภายในแล้วเขาก็ร้องออกมา
อ้ากกก !!!
ร่างของผู้เฒ่านัมบะได้ล้มล้งไปที่พื้นทามกลางความตกใจของยาริสะ
ยาริสะ : “ท่านผู้เฒ่านัมบะ !!!”
เถ้าแก่ : “เกิดอะไรขึ้นครับคุณยาริสะ !!!”
เถ้าแก่ที่อยู่ในครัวพอเขาได้ยินเสียงร้องของยาริสะเขาก็เลยตกใจวิ่งออกมาจากห้องครัวหลังร้าน
ยาริสะได้ทำการจับชีพจรที่คอของผู้เฒ่านัมบะแต่เขาก็พบว่าผู้เฒ่านัมบะได้สิ้มลมหายใจไปเสียแล้วแถมสีผิวของตัวผู้เฒ่านัมบะก็เริ่มที่จะเปลี่ยนเป็นสีดำเรื่อยๆแล้ว
ยาริสะ : “บ้าเอ๊ย !!! ยาพิษ !!!”
เถ้าแก่ : “ว่าไงนะ !!!”
ยาริสะได้ลุกขึ้นไปดูที่จอกเหล้าแล้วลองดมกลิ่นดูแต่เขาก็ไม่พบความผิดปกติอะไรจนเขาได้ลองเทเหล้าลงจอกดูพอยาริสะมองดูจอกเหล้าสักพักเขาก็พบว่าเหล้าในจอกนั้นได้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำจนน่าขนลุก
ยาริสะ : “พิษอยู่ที่จอกเหล้าหรือเนี่ย !”
ยาริสะได้หันไปที่เถ้าแก่ของร้านนี้ทันทีด้วยสายตาเอาเรื่อง
เถ้าแก่ : “ม . . ไมใช่นะ . . นี่ไม่ใช่ฝีมือของผมนะคุณยาริสะ !!!”
เถ้าแก่ได้โบกมือปฏิเสธอย่างร้อนรน
ยาริสะ : (ไม่สิ . . เถ้าแก่ไม่ทำแบบนี้แน่ . . . หรือว่า !!!”)
จู่ๆยาริสะเขาก็ฉุกคิดได้ว่าจนถึงตอนนี้สาวเสิร์ฟที่ชื่อรุรุมิคนนั้นก็ยังไม่โผล่ออกมาเลยทั้งๆที่ในร้านมีเรื่องวุ่นวายขนาดนี้แท้ๆ
ยาริสะ : “นี่ ! เถ้าแก่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน !”
เถ้าแก่ : “เอ๋ ! รุรุมิเหรอเธอบอกว่าเครื่องปรุงในครัวมันหมดเธอก็เลยออกไปซื้อให้น่ะ”
จากความสงสัยแปรเปลี่ยนเป็นความมั่นใจในทันทียาริสะมั่นใจว่าคนที่วางยาพิษจะต้องเป็นสาวเสิร์ฟที่ขื่อรุรุมิอย่างแน่นอน
ยาริสะ : “เถ้าแก่ ! ผมจะตามเธอไปฝากร่างท่านผู้เฒ่านัมบะด้วย !”
เถ้าแก่ : “ด . . เดี๋ยวก่อนคุณยาริสะ !”
ยาริสะได้วิ่งออกจากร้านเพื่อตามหาสาวเสิร์ฟคนนั้นทันทีโดยไม่ฟังเถ้าแก่
ยาริสะ : “บ้าที่สุด ! ยัยผู้หญิงนั่น !”
การที่เขาปล่อยให้ผู้เฒ่านัมบะถูกฆ่าตายทั้งๆที่เขาอยู่ด้วยแท้ๆแบบนี้ยาริสะจะต้องมีคำอธิบายที่ดีพอกับพวกผู้อาวุโสที่เหลือไม่อย่างนั้นอย่าว่าแต่รักษาเก้าอี้ตำแหน่งมิซึคาเงะรุ่นที่5เลยแม้แต่หัวของเขาก็อาจจะรักษาไม่ได้ด้วยซ้ำไป
แต่ถ้ายาริสะเขาสามารถจับตัวคนร้ายที่สังหารผู้อาวุโสนัมบะได้ละก็เรื่องทุกอย่างก็จะพอแก้ไขได้ถึงยาริสะจะโดนผู้อาวุโสคนอื่นๆต่อว่าแต่เขาก็คงไม่เสียสิทธิ์ในตำแหน่งมิซึคาเงะแน่นอน
และด้วยเหตุนี้ทำให้ยาริสะได้ออกตามหาสาวเสิร์ฟที่ชื่อรุรุมิในหมู่บ้านคิริงาคุเระอย่างเอาเป็นเอาตาย
----------- -------------
สุดท้ายยาริสะเขาก็ได้เจอสาวเสิร์ฟคนนั้นพอดีซึ่งสาวเสิร์ฟอย่างรุรุมิพอเธอเห็นว่ายาริสะเห็นตัวเธอแล้วนั้นเธอก็ได้วิ่งหนีเขาในทันที
ยาริสะ : “จะหนีไปไหนยัยสารเลว !”
สาวเสิร์ฟรุรุมิได้วิ่งหนีวิ่งเข้าไปในป่าทางทิศใต้ของหมู่บ้านโดยมียาริสะวิ่งตามมาติดๆและใกล้ที่จะจับผู้หญิงตรงหน้าได้แล้ว
ยาริสะ : “แกหนีไม่พ้นหรอก !!!”
แต่ในจังหวะที่มือของยาริสะใกล้ที่จะสัมผัสโดนตัวของสาวเสิร์ฟนั้นจู่ๆเขาก็ชะงักมือด้วยเพราะสัญชาตญาณของเขาร้องเตือนถึงอันตราย
!!!
ยาริสะได้กระโดดถอยหนีผู้หญิงตรงหน้าตนออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดซึ่งผู้หญิงที่เขาไล่ล่ามาเธอก็หยุดวิ่งหนียาริสะแล้วเช่นกัน
หญิงสาวรุรุมิได้ค่อยๆหันหน้ามาทางยาริสะช้าๆก่อนที่รูปร่างของเธอจะค่อยๆเปลี่ยนกลับไปเป็นผู้หญิงผมสีม่วงผิดสีดำสวมหน้ากากกะโหลกสีขาวซึ่งเธอก็คือฮัซซันแห่งความเงียบงันหรือหนูเงียบนั่นเอง
!!!
หนูเงียบได้ทำการยื่นมือออกมาก่อนที่ปลายนิ้วของเธอจะมีหยดน้ำสีดำหยดลงพื้นทำให้พื้นดินถึงกับละลายเป็นหลุมเลยทีเดียว
ฉ่า !!!
ยาริสะ : (อึก ! พิษงั้นเรอะถ้าตอนนั้นเราไปแตะตัวเธอเข้าละก็ . . .)
เมื่อคิดได้ดังนั้นยาริสะก็นึกขอบคุณสัญชาตญาณของตนที่ผ่านการเฉียดตายมามากจนถึงกับรับรู้อันตรายได้ทำให้เขารอดจากพิษของหญิงสาวตรงหน้าได้แบบนี้
ส่วนที่หนูเงียบสามารถปลอมตัวได้นั้นนั่นก็เพราะตัวเธอมีสกิลเฉพาะตัวอย่าง
Shapeshift (infiltration specialization) C / การเปลี่ยนร่าง (ความเชี่ยวชาญด้านการแทรกซึม) ระดับ C
-ความสามารถในการปลอมตัวหรือเปลี่ยนร่างเป็นสิ่งต่างๆได้
และตามความจริงแล้วหนูเงียบเธอไม่ค่อยอยากที่จะใช้ความสามารถนี้เสียเท่าไหร่เนื่องเพราะแผลทางใจในอดีตที่เธอต้องปลอมตัวสร้างความสัมพันธ์กับเป้าหมายก่อนที่เธอจะฆ่าเขาด้วยพิษของเธอบ่อยๆแต่เพื่อ Master อย่างเรนยะแล้วเธอสามารถทำได้ทุกอย่าง
บรรยากาศตกลงในความเงียบชั่วครู่ก่อนที่ยาริสะจะทำการถามหญิงสาวตรงหน้าของตนไปว่า
ยาริสะ : “เธอเป็นใครกันแน่แล้วทำไมถึงได้ฆ่าท่านผู้เฒ่านัมบะ”
แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาก็คือความเงียบเท่านั้นและเมื่อยาริสะไม่ได้รับคำตอบเขาก็เลยคิดที่จะจับกุมหญิงสาวตรงหน้าแบบเป็นๆเพื่อสอบสวนที่มาที่ไปอีกที
แต่ในจังหวะที่ยาริสะเขาคิดจะลงมือที่ด้างข้างของหนูเงียบนั้นก็ได้มีชายสวมผ้าคลุมสีดำแถมยังใส่หน้ากากกะโหลกสีขาวเหมือนๆกันกับหนูเงียบปรากฎตัวออกมาจากความว่างเปล่าอีกหนึ่งคนซึ่งเขาคนนี้ก็คือแขนต้องสาปนั่นเอง
!!!
ยาริสะ : (มีสองคนงั้นหรือเนี่ย ! ทักษะลอบเร้นที่ขนาดเรายังไม่รู้ตัวเลยเจ้าพวกนี้ท่าจะไม่ธรรมดาเสียแล้วสิ)
แน่นอนว่าการปรากฎตัวของแขนต้องสาปนั้นสร้างความกดดันให้แก่ยาริสะอย่างมากถึงยาริสะเขาจะมั่นใจในฝีมือของตนก็ตามทีแต่ถ้าโดนลุมละก็เขาก็อาจจะเสียท่าเอาได้เหมือนกัน
แต่ก็อย่างที่บอกไปตอนแรกถ้ายาริสะหนีไปตอนนี้ละก็เขาคงไม่สามารถหาคำอธิบายเรื่องการเสียชีวิตของผู้เฒ่านัมบะกับพวกผู้อาวุโสที่เหลือได้อย่างแน่นอนและเขาก็คงไม่รอดจากโทษตายแน่ๆ
ไม่ว่าเลือกทางไหนก็ตายทั้งนั้นดังนั้นยาริสะจึงเลือกที่จะสู้กับอีกฝ่ายเมื่อยาริสะทำใจได้แล้วสายตาวิตกกังวลในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นแววตามุ่งมั่นในทันทีแต่เขาก็พบว่าหญิงสาวคนนั้นได้กระโดดหนีเข้าไปในป่าเสียแล้วทิ้งไว้เพียงชายสวมผ้าคลุมดำสวมหน้ากากกะโหลกคนเดียวเท่านั้น
แขนต้องสาป : “ไม่ต้องห่วงคนที่จะฆ่าเจ้ามีแค่ข้าคนเดียวก็เกินพอแล้ว”
แขนต้องสาปไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาได้ใช้มือซ้ายหยิบมีดสั้นของเขาขึ้นมาแล้วเข้าสู้กับยาริสะในทันที
เคร้ง !!!
ส่วนทางด้านของยาริสะนั้นเขาก็ได้ทำการหยิบคุไนขึ้นมาเข้าสู้กับแขนต้องสาปเช่นกัน
เคร้ง !!!
แขนต้องสาปได้ทำการกระโดดถอยหลังก่อนที่เขาจะปามีดสั้นของเขาเข้าใส่ยาริสะ
กิ๊ง !!!
ยาริสะได้ทำการใช้มีดคุไนของเขาปัดมีดสั้นที่แขนต้องสาปปาใส่เขาออกไป
แขนต้องสาป : “โห่ ~ งั้นแบบนี้ละ”
เมื่อแขนต้องสาปพูดเสร็จที่มือซ้ายของเขาก็ได้มีมีดสั้นในร่องนิ้วทั้งหมดสี่เล่มก่อนที่แขนต้องสาปจะลงมือปามีดสั้นพวกนั้นอีกครั้งแต่ทิศทางที่เขาปาไปนั้นคือต้นไม้รอบๆตัวซึ่งมันคนละทิศคนละทางกับที่ยาริสะอยู่เลย
ยาริสะ : “ ฮ่า ฮ่า เจ้าโง่แกปาไปที่ไหนของแกไม่ทราบ”
ยาริสะที่เห็นแบบนั้นเขาก็ได้พูดดูถูกอีกฝ่ายเพื่อหวังที่จะทำลายสมาธิแต่ภาพต่อมามันกลับทำให้ยาริสะต้องตาเบิกกว้างอย่างตกใจ
กิ๊ง !!!
เพราะมีดสั้นที่แขนต้องสาปปาออกไปนั้นมันได้ไปกระทบกับอะไรบางอย่างจนมีดพวกนั้นถูกดีดสะท้อนกลับมาเล่นงานยาริสะทันที
ถึงยาริสะจะตกใจที่จู่ๆมีดพวกนั้นก็เปลี่ยนทิศทางมาเล่นงานตัวเขาก็ตามแต่ยาริสะก็สามารถหลบมีดสั้นพวกนั้นได้ทั้งหมดอย่างเฉียดฉิว
ยาริสะ : “เมื่อกี้มันอะไรกัน”
!!!
แต่พอยาริสะได้ลองสังเกตมองดูรอบๆป่าแห่งนี้ดูดีๆแล้วนั้นเขาก็พบว่าต้นไม้รอบๆตัวของเขานั้นมีแผ่นเหล็กสีดำที่ถ้าไม่สังเกตดีๆละก็จะไม่มีทางเห็นเลยถูกผูกมัดเอาไว้ตามต้นไม้รอบๆนี่
ยาริสะ : “เข้าใจแล้ว . . แผ่นเหล็กพวกนั้นมันดีดสะท้อนมีดพวกนั้นมาหาเรานี่เอง . .”
ใช่แล้วแผ่นเหล็กสีดำพวกนี้แขนต้องสาปได้ทำการขอให้เอมิยะทำการใช้เวทย์ Trace พวกมันออกมาเพื่อนำพวกมันมาใช้ทำกับดักนั่นเอง
ฟิ้ว !!!
แขนต้องสาปได้ทำการปามีดสั้นใส่ตัวของยาริสะต่อรวมทั้งเขายังปาใส่แผ่นเหล็กตามต้นไม้เพื่อให้มีดดีดสะท้อนกับแผ่นเหล็กพุ่งใส่ตัวของยาริสะอีกด้วย
ยาริสะที่เห็นว่าขืนยังเป็นแบบี้ต่อไปเขาจะต้องแพ้แน่ๆเข้าจึงได้ทำการปามีดคุไนในมือของเขาใส่ตัวแขนต้องสาปก่อนที่เขาจะใช้โอกาสที่อีกฝ่ายหลบมีดคุไนของเขานั้นทำการผสานอินขึ้นมา
ยาริสะ : “คาถาน้ำน้ำตกพิฆาต !!!”
หลังจากที่ยาริสะผสานอินเสร็จแล้วนั้นตรงหน้าของเขาก็ได้มีคลื่นน้ำขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่บริเวณนี้จนต้นไม้ที่มีแผ่นเหล็กของแขนต้องสาปหักโค่นลงมาทั้งหมดส่วนตัวของแขนต้องสาปนั้นเนื่องจากที่เขาเสียจังหวะหลบมีดคุไนของยาริสะที่ถูกปามาจึงทำให้เขาโดนคลื่นน้ำจากคาถาน้ำตกพิฆาตเข้าไปเต็มๆ
ตู้ม !!!
หลังจากที่น้ำจากคาถานินจาได้หายไปแล้วยาริสะก็พบว่าแขนต้องสาปนั้นกำลังนอนหงายอยู่กับพื้นไร้ซึ่งการตอบสนอง
ยาริสะที่เห็นว่าจัดการกับอีกฝ่ายได้แล้วเขาก็ถอยหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนที่เขาจะเดินตรงไปยังร่างของแขนต้องสาปที่นอนอยู่ข้างหน้าทันที
โดยยาริสะต้องการจับกุมตัวของแขนต้องสาปไว้เพื่ออธิบายเรื่องการตายของผู้เฒ่านัมบะกับผู้อาวุโสคนอื่นๆนั่นเองแต่ในจังหวะที่มือของยาริสะใกล้ที่จะจับตัวของแขนต้องสาปนั้นจู่ๆก็มีเส้นลวดจำนวนมากผุดขึ้นมาจากพื้นดินรอบๆตัวของยาริสะและมัดตัวของเขาเอาไว้จนแน่นทำให้เขาขยับไม่ได้อีกด้วย
!!!
ยาริสะ : “ก . . แก . . ได้ยังไงกัน !!!”
ยาริสะเขาแถบจะไม่เชื่อสายตาของตนที่อีกฝ่ายโดนคาถาน้ำตกพิฆาตของเขาเข้าไปแล้วยังจะสามารถลุกขึ้นมาได้แบบนี้
แขนต้องสาป : “เท่านี้ก็จบกันที”
แขนต้องสาปที่เห็นว่าอีกฝ่ายติดกับดักเส้นลวดของตนแล้วก็ได้ทำการลุกขึ้นมาก่อนที่เขาจะทำการแกะห่อผ้าที่มัดมันเอาไว้กับแขนขวาของตนออกมา
แขนต้องสาป : “โฮกุ ! Zabaniya !!!”
แขนข้างขวาที่ดูยาวผิดรูปของแขนต้องสาปได้เรืองแสงสีแดงเข้มออกมาก่อนที่แขนนั้นจะพุ่งเข้าใส่ตัวของยาริสะบริเวณหัวใจของเขาทันที
ยาริสะที่ถูกมัดด้วยเส้นลวดจำนวนมากนั้นไม่อาจหนีการโจมตีนี้พ้นทำให้เขาโดยโฮกุของแขนต้องสาปเข้าไปเต็มๆแต่ยาริสะก็กลับพบว่าเขายังปลอดภัยดีอยู่ทั้งที่โดนมือแม่นาคของอีกฝ่ายเข้าไปแล้ว
ยาริสะ : “นี่แกเล่นอะไรของแกเมื่อกี้นี้มันอะไรกันแน่ !!!”
แขนต้องสาปที่ได้ยินอีกฝ่ายถามก็ไม่ตอบแต่กลับยกมือข้างขวาของเขาขึ้นมาก่อนที่ภายในมือของแขนต้องสาปนั้นจะมีหัวใจเทียมที่เต้นตุบๆอยู่ในกำมือของเขา
แขนต้องสาป : “โฮกุ ! Zabaniya !!!”
แขนข้างขวาที่ดูยาวผิดรูปของแขนต้องสาปได้เรืองแสงสีแดงเข้มออกมาก่อนที่แขนนั้นจะพุ่งเข้าใส่ตัวของยาริสะบริเวณหัวใจของเขาทันที
ยาริสะที่ถูกมัดด้วยเส้นลวดจำนวนมากนั้นไม่อาจหนีการโจมตีนี้พ้นทำให้เขาโดยโฮกุของแขนต้องสาปเข้าไปเต็มๆแต่ยาริสะก็กลับพบว่าเขายังปลอดภัยดีอยู่ทั้งที่โดนมือแม่นาคของอีกฝ่ายเข้าไปแล้ว
ยาริสะ : “นี่แกเล่นอะไรของแกเมื่อกี้นี้มันอะไรกันแน่ !!!”
แขนต้องสาปที่ได้ยินอีกฝ่ายถามก็ไม่ตอบแต่กลับยกมือข้างขวาของเขาขึ้นมาก่อนที่ภายในมือของแขนต้องสาปนั้นจะมีหัวใจเทียมที่เต้นตุบๆอยู่ในกำมือของเขา
แขนต้องสาป : “เจ้าน่ะตายไปแล้ว !!!”
ยาริสะ : “Nani !!!”
ยังไม่ทันที่ยาริสะจะหายสงสัยแขนต้องสาปก็ได้ทำการบีบขยี้หัวใจเทียมที่อยู่ในมือของเขาทันที
โผ๊ละ !!!
ยาริสะที่ถูกมัดด้วยเส้นลวดถึงกับตาเบิกกว้างทันทีที่แขนต้องสาปได้ทำลายหัวใจเทียมในมือของเขา
ยาริสะเริ่มรู้สึกว่าดวงตาของเขาจะเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆก่อนที่ดวงตาของเขามันจะปิดสนิทแบบไม่มีมีวันลืมตาได้อีกตลอดกาล
แขนต้องสาปที่จัดการกับยาริสะได้แล้วเขาก็ได้พุ่งเข้าไปใช้แขนข้างขวาของตัวเองกระซวบหัวใจดวงจริงที่อยู่ในอกของยาริสะมาเก็บเอาไว้
ซึ่งสิ่งที่แขนต้องสาปใช้ฆ่ายาริสะนั้นก็คือโฮกุที่มีชื่อว่า
Zabaniya / ซาบานิย่า / จังหวะหัวใจลวง
ประเภท : ต่อต้านบุคคล
ระดับ : C
-ความสามารถในการสร้างหัวใจเทียมด้วย มวลอีเธอร์ (Ether Clump) ที่สะท้อนหัวใจของเป้าหมายออกมา การทำลายหัวใจนี้ก็เท่ากับหัวใจดวงจริงของเป้าหมายถูกทำลายด้วย เขายังสามารถสลับหัวใจปลอมกับหัวใจจริงของเป้าหมาย เพื่อที่เมื่อเขากินหัวใจดวงจริง เขาจะได้รับความรู้รวมถึงบุคลิกภาพของคนๆนั้นด้วยโดยการจะใช้ท่านี้เขาจะต้องปลดปล่อยแขนปีศาจที่เขาผนึกไว้เสียก่อน และเกราะหรือโล่ป้องกันนั้นไร้ความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าการโจมตีนี้ วิธีป้องกันท่านี้คือ ต้องมีมานามากพอหรือมีโชคมากพอมันเป็นคำสาปขั้นสูงที่ต้องแลกมาด้วยการขายวิญญานให้กับปีศาจ เนื่องจากเขาไม่เหมือนฮันซันคนอื่นที่มีความสามารถจากพรสวรรค์ เขานั้นจึงต้องสังเวยแขนของเขาเพื่อให้ได้ความสามารถมา ซาบานิย่านั้นเป็นชื่อของเทวทูตแห่งนรก
(ฮัซซันแทบทุกคนจะมีโฮกุที่ชื่อซาบานิย่าเสมอแต่รูปแบบกับชื่อจริงๆนั้นจะแตกต่างไปตามแต่ละคนสำหรับแขนต้องสาปนั้นเขาได้นำเอาแขนของวิญญาณร้ายนามว่า Shaytan หรือเชทานมาใส่ในแขนข้างขวาของตน)
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนั้นแขนต้องสาปก็ได้ทำการลบตัวตนเพื่อกลับไปแจ้งข่าวกับ Master ของเขาในทันที
----------- -------------
(แขนต้องสาป : “ข้ามีบทแล้วโว้ย Master !!!)
True Wallet 0830743639
ค่าน้ำชา ขอบคุณผู้ติดตามด้วยครับ
True Wallet 0830743639
ค่าน้ำชา ขอบคุณผู้ติดตามด้วยครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น