ลำดับตอนที่ #36
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : ตอนที่ 36
หลังจากวันที่เรนยะเขาถูกแสงอุษาดักตบขากลับจากภารกิจลับตรวจสอบความผิดปกติของหมู่บ้านนินจาทากิงาคุเระแล้วนั้นจนถึงตอนนี้เขาก็แทบจะยังไม่ได้พักเลย
นั่นก็เพราะว่าในตอนที่เรนยะกลับมาถึงหมู่บ้านโคโนฮะนั้นเขาดันลืมตัวนั่งวิมารจนเพลินไปหน่อยก็เลยพุ่งชนเข้ากับม่านพลังที่คอยตรวจจับคนลักลอบเข้าหมู่บ้านโคโนฮะซะได้
ก็แหมยานเหาะวิมารมันเร็วเกินไปนี่นาเรนยะเขาก็เลยเบรคไม่ทันก็เลยทะลุม่านพลังเข้ามาในหมู่บ้านด้วยยานวิมารเล่นทำเอานินจาทุกคนในหมู่บ้านโคโนฮะถึงกับแตกตื่นกันยกใหญ่เพราะนึกว่าศัตรูบุกโจมตีหมู่บ้านอีกครั้ง
และด้วยเหตุนี้เองที่เรนยะโดนซึนาเดะสั่งลงโทษให้เขียนรายงานสำนึกผิดมาส่งเธอจนเขาแทบไม่ได้นอนทั้งคืนเลยด้วยซ้ำ
ก็นะในตอนนี้ตัวเขาเป็นนินจาจูนินแล้วก็ต้องทำรายงานหลังจากเสร็จภารกิจเป็นเรื่องธรรมดา
โดยเมื่อวานเรนยะได้ทำการรายงานเรื่องราวของหมู่บ้านทากิงาคุเระที่เกิดสงครามภายในเพราะการก่อกบฏของตระกูลยาโตะและเรื่องที่หมู่บ้านทากิสามารถจัดการพวกตระกูลยาโตะได้สำเร็จให้กับซึนาเดะและปู่รุ่น3ฟังซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ได้บอกเรื่องของแสงอุษาออกไป
หลังจากที่เรนยะรายงานภารกิจเสร็จแล้วเขาก็ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 50,000 เรียวแล้วก็ถูกสั่งลงโทษที่ทำให้โคโนฮะวุ่นวายอย่างที่บอกไปตอนแรก
ซึ่งในปัจจุบันตอนนี้ที่สนามฝึกเรนยะกำลังคุกเข่ากอดต้นขาของสกาฮะอยู่
เรนยะ : “ชิโชว !!! ขอร้องละช่วยสอนเรื่องนั้นให้กับผมที !!!”
เรนยะได้ร้องโวยวายออกมาขณะที่เขากำลังกอดต้นขาของสกาฮะแน่น
สกาฮะ : “ไม่ได้ !”
สกาฮะได้ตอบไปแบบเหนื่อยใจ
เรนยะ : “สอนผมเถอะนะ ชิโชว ! ขนาดคูฮูลินน์ยังได้เรียนเรื่องแบบนั้นเลยนี่นา !”
เรนยะก็ยังคงงอแงไม่เลิก
สกาฮะ : “Master ในตอนนี้ตัวของท่านนั้นยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนั้นรอให้ท่านโตกว่านี้ก่อนเถอะ”
เรนยะ : “ก็ผมอยากเรียนเรื่องนั้นนี่นา . . อยากเรียนๆๆ !!!”
ถึงสกาฮะจะปฏิเสธไปมากแค่ไหนแต่สุดท้ายแล้วเรนยะก็ยังคงคะยั้นคะยอสกาฮะอย่างต่อเนื่องจนในที่สุดสกาฮะก็ได้ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะตอบตกลงไป
สกาฮะ : “เฮ้อ ~ ก็ได้ Master ถ้าท่านอยากจะเรียนเวทย์มนต์อักษรรูนขนาดนั้นก่อนอื่นท่านจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของพวกตัวอักษรรูนทั้งหมด24ตัวอักษรเสียก่อน”
หลังจากทนความเซ้าซี้ของเรนยะมานานถึง2ชั่วโมงในที่สุดสกาฮะก็ได้ตกลงที่จะสอนเวทมนต์อักษรรูนให้แก่เรนยะโดยในตอนนี้สกาฮะเธอได้ใช้หอกเก โบลก์วาดตัวอักษรรูนขึ้นมาที่พื้นทีละตัวจนพื้นสนามฝึกมีตัวอักษรรูนทั้งหมด24ตัวอักษร
โดยสกาฮะเธอได้ทำการอธิบายความหมายของอักษรรูนทีละตัวให้แก่เรนยะฟังซึ่งเรนยะก็ทำความเข้าใจมันได้เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น
จนเมื่อสกาฮะอธิบายความหมายของตัวอักษรรูนทั้งหมดแล้วเธอก็ได้ทำการสาธิตวิธีการใช้เวทย์มนต์อักษรรูนให้เรนยะดู
สกาฮะ : “นักเวทย์รูนมักจะใช้การสลักอักษรรูนเอาไว้บนก้อนหินเพื่อความสะดวกในการใช้งานหรือการใช้พลังเวทย์ในการวาดอักษรรูนบนอากาศโดยตรงซึ่งการใช้รูนหลากหลายรูปแบบในเวลาเดียวกันก็จะสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์เวทมนต์ต่างๆขึ้นมาได้อย่างเช่นแบบนี้”
สกาฮะที่อธิบายจบแล้วก็ได้ทำการหยิบหินรูนออกมาสามก้อนโดยเธอได้ทำการปล่อยหินรูนบนมือของเธอลงพื้นก่อนที่ตัวอักษรบนหินรูนทั้งสามก้อนจะเริ่มเรืองแสงออกมา
โดยเมื่อหินรูนเรืองแสงแล้วนั้นมันก็ได้ทำการสร้างม่านบาเรียรูปทรงสี่เหลี่ยมใสๆออกมาครอบคลุมรอบตัวของสกาฮะและก็เรนยะเอาไว้
เรนยะได้ลองเปิดเกทเอาดาบออกมาลองฟันใส่ดูก็พบว่าม่านบาเรียนี้แข็งเอาเรื่องเลยที่เดียว
เคร้ง !!!
เรนยะ : “โห ~ แข็งโป้กเลยแฮะม่านบาเรียเนี่ย”
สกาฮะ : “แน่นอน Master ม่านบาเรียนี้ถูกสร้างขึ้นจากรูนต้นกำเนิดมันเลยไม่แปลกอะไรที่จะแข็งแกร่งแบบนี้”
สกาฮะได้พูดอย่างภูมิใจในเวทมนต์อักษรรูนของเธอ
เรนยะ : “งั้นผมขอลองดูหน่อยนะ”
ด้วยความคันไม้คันมือเรนยะเลยทำการหยิบมีดคุไนออกมาจากประเป๋านินจาด้านหลังก่อนที่เขาจะลงมือนั่งยองๆขีดเขียนอักษรรูนหนึ่งตัวอักษรลงบนพื้น
โดยเรนยะเขาได้เลือกเขียนอักษรรูนตัว Sun ลงไปก่อนที่เขาจะนึกถึงผลลัพธ์เวทมนต์และทำการกระตุ้นตัวอักษรรูนให้ทำงานด้วยจักระทันที
วิ้ง !!!
ตัวอักษรที่เรนยะเขียนลงพื้นได้เกิดแสงสว่างจ้าขึ้นทำให้บริเวณสนามฝึกโดยรอบเกิดแสงสีเหลืองส่องสว่างจนเรนยะไม่ทันได้ตั้งตัว
!!!
สกาฮะ : (ทีเดียวก็ทำสำเร็จเลยงั้นหรือเนี่ยเรียนรู้ได้เร็วพอๆกับเซทันต้า(ชื่อจริงคูฮูลิลน์)เลยสินะตอนแรกเราก็กะจะให้เขาทำความเข้าใจเวทมนต์ธรรมดาก่อนที่จะข้ามขั้นมาเรียนเวทย์รูนต้นตำรับแบบนี้นะเนี่ย . . แต่เอาเถอะค่อยสอนเขาเพิ่มทีหลังก็ได้)
สกาฮะที่เห็นว่าเรนยะมีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนต์ที่ทรงพลังพอๆหรืออาจจะมากกว่าเซทันต้าเสียด้วยซ้ำเธอก็เลยพยักหน้าอย่างพึงพอใจเพราะว่าธรรมชาติของสกาฮะนั้นคือผู้ฝึกสอนเวลาเห็นคนมีพรสวรรค์และความตั้งใจอย่างแรงกล้าเธอก็อดไม่ได้ที่จะให้คำแนะนำกับคนๆนั้น
ซึ่งในตอนแรกนั้นสกาฮะเธอคิดว่า Master ของเธอจะต้องใช้เวลาเตรียมพื้นฐานเป็นเวลานานจนเขาเติบโตเป็นหนุ่มพอดีเขาถึงจะสามารถทำความเข้าใจกับรูนต้นตำรับแบบนี้ได้
อ้าก !!!
สกาฮะที่กำลังชม Master ของเธอในใจนั้นจู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงร้องดังขึ้นก็เลยได้สติขึ้นมามองดูก็พบว่า Master ของเธอกำลังกลิ้งร้องโหยหวนอยู่กับพื้น
เรนยะ : “โอ๊ย ! แสบตา !!! ตาบอดแล้ว !!!”
สกาฮะ : . . . . . . “เฮ้อ ~” (ยังไงก็ยังเป็นเด็กนี่นะ . . ซื่อบื้อซะจริง Master . . . แต่ก็ดูน่ารักดีนะ ฮุ ฮุ)
เนื่องจากเรนยะไม่ได้มีชุดที่ลงรูนป้องกันเอาไว้เหมือนกับสกาฮะเขาก็เลยโดนแสงจากเวทมนต์รูนที่เขาเขียนเองเข้าไปเต็มๆทำให้เขาแสบตากลิ้งอยู่กับพื้นแบบนี้
ถึงในโลกนินจาจะมีสิ่งที่เรียกว่าระเบิดแสงก็ตามแต่แสงมันก็ไม่ได้รุนแรงขนาดเวทมนต์รูนต้นตำรับแบบนี้พวกระเบิดแสงอย่างมากก็แค่บังคับให้ศัตรูปิดตาอยู่ชั่วขณะเท่านั้น
ก็นะอักษรที่เรนยะเขียนไปก็คือตัว Sun ซึ่งแปลว่าแสงสว่างของดวงอาทิตย์แถมเขายังใช้จักระกระตุ้นซะเต็มที่ผลก็เลยเป็นแบบนี้แหละนะ
----------- -------------
เรนยะได้ทำการร่ำเรียนเวทมนต์รูนกับสกาฮะจนถึงตอนบ่ายและในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับสกิลใหม่มาซึ่งอยู่ในค่าสถาะของตัวเองนั่นก็คือ
Rune Magic C++ / เวทมนตร์รูน ระดับ C++
-ความสามารถด้านเวทย์มนต์ในการใช้อักษรรูน
เรนยะที่ฝึกได้นิดหน่อยทำให้เขายังไม่เชี่ยวชาญเวทย์รูนมากนักซึ่งที่เขาใช้ได้ตอนนี้ก็มีแค่การ Enchant สิ่งของเท่านั้นเองเวทย์รูนของเขายังคงไม่ถึงขั้นใช้มันในการโจมตีหรือป้องกันได้แบบสกาฮะ
หลังจากเรนยะได้ฝึกเสร็จแล้วนั้นเขาก็ได้ถือโอกาสไปจัดการธุระที่ธนาคารของโคโนฮะทันทีซึ่งธุระที่ว่านั้นก็คือการแลกตั๋วเงินที่เขาได้รับมาจากตระกูลยาโตะนั่นเอง
โดยเรนยะได้รับเงินจากตั๋วใบนั้นทั้งหมด 20 ล้านเรียวเลยทีเดียวเรนยะเลยได้ทำการฝากเข้าบัญชีของเขาพร้อมกับเงินอีก8ล้านเรียวที่เขาลืมเอามาฝากเพราะไม่มีเวลา
ทำให้ในตอนนี้บัญชีธนาคารของเรนยะมีทรัพย์สินมากถึง106สิบล้านเลยละซึ่งพอพนักงานผู้ชายคนเดิมเห็นจำนวนเงินแล้วนั้นเขาก็ถึงกับลืมตัวเข้าไปจับมือเรนยะขึ้นมาก่อนที่จะพูดว่า
พนักงาน : “ไม่ทราบว่าเธอสนใจแต่งงานกับน้องสาวฉันไหม ?”
!!!
ที่เรนยะตกใจไม่ใช่เพราะจู่ๆก็ถูกพนักงานยกน้องสาวให้แต่เป็นเพราะตราเรย์จูที่หลังมือขวาของเขากำลังร้อนสุดๆจนเรนยะถึงกับสะดุ้ง
ซึ่งหนูเงียบและก็ไรโคพวกเธอได้ปรากฎตัวออกมายืนบังตัวของเรนยะจากพนักงานผู้ชายคนนี้ก่อนจะพูดบอกปฏิเสธไป
ไรโค : “ลูกชายคนนี้ยังไม่ถึงวัยที่จะจากแม่ไปแต่งงานหรอกนะคะต้องขอโทษด้วย”
หนูเงียบ : “ม . . ไม่ได้ Master ต้องอยู่กับฉันค่ะ”
พนักงานที่เห็นว่าจู่ๆก็มีผู้หญิงสองคนโผล่ออกมาปฏิเสธก็ทำให้เขาได้สติขึ้นมาโดยพอรู้ตัวว่าทำตัวไม่เหมาะสมพนักงานคนนี้ก็ได้ทำการขอโทษขอโพยเรนยะอย่างยกใหญ่
ซึ่งเรนยะก็เข้าใจเพราะเงินจำนวนขนาดนี้ไม่ว่าใครก็ต้องมีตาลุกวาวกันบ้างละเขาก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรและได้เดินออกมาจากธนาคารโดยมีหนูเงียบที่คอยกอดเขาแบบไม่ยอมปล่อยอยู่คนเดียว
เรนยะ “นี่ความเงียบปล่อยผมได้แล้วละนะ”
หนูเงียบได้ส่ายหน้าขณะที่เธอกำลังกอดเรนยะจากด้านหลังของเขาก่อนที่เธอจะพูดออกมาว่า
หนูเงียบ : “ไม่เอา . . . เดี๋ยว Master จะหายไป”
เรนยะได้ถอนหายใจออกมาอย่างยิ้มๆเพราะเขารู้ว่าฮัซซันแห่งความเงียบนั้นเวลาที่ Master หรือใครก็ตามที่สัมผัสตัวของเธอได้โดยที่ไม่ตายเธอจะหวงคนๆนั้นมากนั่นเอง
เรนยะ : “ไม่ต้องห่วงหรอกนะความเงียบผมไม่หายไปไหนหรอกนะผมสัญญาเลย”
เรนยะได้พูดสัญญาพร้อมกับลูบหัวปลอบหนูเงียบไปด้วย
หนูเงียบ : “งือ ~ Master ลูบอีก ~”
เรนยะ : “เอาไว้ต่อที่บ้านก็แล้วกันนะ”
หนูเงียบ : “ก็ได้ค่ะ”
หนูเงียบได้ยอมปล่อยตัว Master ของเธอก่อนที่จะเปลี่ยนสภาพเป็นร่างวิญญาณตามเดิม
เรนยะ : “เอาละกลับบ้านดีกว่าเรา”
----------- -------------
เรนยะได้เดินลึกเข้าไปทางภูเขาด้านหลังของหมู่บ้านซึ่งเป็นทางกลับบ้านใหม่ของเขา
แต่เมื่อเรนยะได้มาถึงเขาก็พบว่ามีคนมายืนรออยู่ที่หน้าบ้านของเขาแถมยังเป็นคนที่เรนยะคุ้นเคยซะด้วย
เรนยะ : “เอ๋ ! คุณริวนี่นามาทำอะไรที่นี่เหรอครับ ?”
ชายที่มายืนรอหน้าบ้านของเรนยะเขาก็คือริวเจ้าของธุรกิจใต้ดินของเมืองซากะนั่นเอง
ริว : “อ้าว ! ที่แท้เธอออกไปข้างนอกพึ่งจะกลับมาเหรอเนี่ย”
เรนยะ : “มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับคุณริว ?”
เรนยะนั้นเชื่อว่าริวจะต้องไม่ได้แค่มาเยี่ยมตัวของเขาแน่ๆ
ริว : “ฉันมาเตือนเธอน่ะ”
เรนยะ : “เตือน ? เตือนผมเรื่องอะไรเหรอครับ”
ริว : “เมื่อวานนี้ที่ตลาดมืดมีคนมาตั้งค่าหัวของเธอน่ะสิ”
เรนยะที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกแปลกใจอยู่นิดหน่อยก่อนจะถามริวกลับไปว่า
เรนยะ : “เอ๋ ~ นี่ผมมีค่าหัวในตลาดมืดแล้วเหรอเนี่ยแล้วค่าหัวของผมราคาเท่าไหร่ละครับ”
ริว : “สูงเอาเรื่องเลยละ 40 ล้านเรียวสำหรับจับเป็นกับ 38 ล้านเรียวสำหรับจับตาย”
!!!
เรนยะ : “เฮ้ย ! ทำไมมันสูงขนาดนี้ละเนี่ย !!!”
ริว : “ก็ใช่น่ะสิฉันถึงได้มาเตือนเธอเอาไว้ก่อนเพราะถึงยังไงเธอก็เป็นเด็กคนหนึ่งเงินจำนวนขนาดนี้คงล่อตาล่อใจเจ้าพวกนักล่าฆ่าหัวแน่ๆ”
เรนยะที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเพราะต่อจากนี้คงจะมีคนเข้ามาลองของกับเขากันเยอะอย่างแน่นอนซึ่งเรนยะเขาอยากที่จะรู้เสียเหลือเกินว่าใครมันดันอุตริมาตั้งค่าหัวของเขาซะสูงลิ่วแบบนี้
เรนยะ : “ว่าแต่คุณริวพอที่จะรู้ไหมว่าเป็นฝีมือของใครที่ตั้งค่าหัวผมในตลาดมืดน่ะครับ”
ริว : “ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่ได้ยินมาว่ามีหลายฝ่ายที่ร่วมลงขันตั้งค่าหัวของเธอ . . แต่ว่านะเท่าที่ฉันรู้ก็มีแค่สองคนที่กำหนดเงื่อนไขในการจับเป็นตัวของเธอเท่านั้นเอง”
เรนยะ : “ใครกันครับ ?”
เรนยะได้ถามริวเพราะความอยากรู้แต่คำตอบของริวดันมีชื่อที่เขาค่อนข้างที่จะคุ้นเคยเลยละ
ริว : “คนแรกคือไดเมียวของแคว้นคุสะโนะคุนิและอีกคนก็คือโอโรจิมารุน่ะ”
เรนยะ : “เฮ้อ ~ ขอบคุณมากนะคุณริวที่บอก ว่าแต่คุณจะเข้าบ้านของผมก่อนไหมครับ ?”
ริวได้ส่ายหน้าก่อนที่จะบอกกับเรนยะว่า
ริว : “ไม่ละที่ฉันมาวันนี้ก็เพื่อที่จะมาทำธุระที่โคโนฮะเท่านั้นก็เลยถือโอกาสมาบอกข่าวให้กับเธอด้วยเลยไงเพราะถึงยังไงเธอก็ช่วยฉันเอาไว้ตั้งเยอะนี่นา”
เรนยะ : “ถ้างั้นเดินทางปลอดภัยนะครับ”
ริวได้พยักหน้าให้เรนยะก่อนที่เขาจะจากไป
เรนยะ : (ไดเมียวแคว้นคุสะอีกแล้วเหรอดูท่าจะอยากได้ตัวเราซะยิ่งกว่าโอโรจิมารุอีกนะเนี่ยเอาไว้ค่อยคิดบัญชีเจ้าสองคนนี้ทีหลังก็แล้วกัน)
ถึงเรนยะจะรับรู้ว่าตัวเองมีค่าหัวแล้วก็ตามแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรมากนักแต่เขาแค่ขี้เกียจที่จะจัดการกับพวกนักล่าฆ่าหัวที่หิวเงินเสียมากกว่า
เรนยะได้เดินเข้าบ้านของตนไปพักผ่อนตามปกติจนเวลาก็ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งวัน
----------- -------------
เช้าวันต่อมา
ในวันนี้เรนยะก็ยังคงฝึกการสลักอักษรรูนต่อจากเมื่อวานซึ่งเขาก็ได้ลองทำการใช้พลังจักระในการสลักรูนเสริมพลังให้กับเสื้อผ้าของเขาดู
โดยเวทย์รูนที่สลักบนเสื้อผ้านั้นมีผลดังนี้ ซ่อมแซมตัวเอง, ป้องกันเวทมนต์คาถา , ทำความสะอาดตัวเอง แค่สามอย่างนี้เท่านั้นซึ่งกว่ามันจะสำเร็จเรนยะก็สลักรูนพลาดไปอยู่หลายครั้งอยู่เหมือนกันเพราะเรนยะเขายังไม่ค่อยชำนาญเวทมนต์อักษรรูนมากนัก
และแน่นอนว่าเรนยะได้ทำการสลักอักษรรูนบนมีดคุไนของเขาด้วยโดยมีมีดคุไนระเบิด , มีดคุไนระเบิดแสง ที่เขาสลักเอาไว้ใช้ตามสถานการณ์
แต่ดูเหมือนว่าวันนี้เรนยะเขาจะสลักรูนเพลินเกินไปหน่อยพอรู้ตัวอีกทีก็พบว่าบ้านทั้งหลังนั้นถูกเขาสลักอักษรรูนจนทั่วเสียแล้ว
เรนยะ : “บ้านของเรากลายเป็นปราการเหล็กไปซะแล้วสิเนี่ย”
บ้านที่คอยทำความสะอาดตัวเองแถมยังซ่อมแซมตัวเองได้หนำซ้ำยังป้องกันคาถานินจาได้อีกด้วยเรนยะมั่นใจเลยว่าตอนที่เพนมาบุกหมู่บ้านโคโนฮะบ้านของเขาจะเป็นสถานที่เดียวที่ยังคงปลอดภัยจากสุดยอดข่ายเทพพิชิตฟ้าของเพน
จนถึงตอนนี้เรนยะก็เริ่มที่จะว่างขึ้นมาแล้วแถมยังว่างแบบจริงๆจังๆเสียด้วยเขาก็เลยตัดสินใจใช้สิทธ์สุ่มประจำวันที่มีอยู่7ครั้งทันที
เรนยะ : (อย่าเกลืออีกนะโว้ย)
แสงแห่งการหมุนกาชาได้เริ่มสว่างขึ้นเผยให้เห็นการ์ดทีละใบโดยการ์ดที่เรนยะได้มีดังนี้
การ์ดExpระดับ 5 ดาว(สีทอง)
Hellfire of Wisdom x 5
การ์ดสกืลระดับ 5 ดาว(สีทอง)
Charm A (Max) / เสน่ห์ ระดับ A (สูงสุด)
-ทำให้ผู้คนรู้สึกเอ็นดูหลงใหลและได้รับความเสียหายจากเพศตรงข้ามน้อยลง
แต่การ์ดใบสุดท้ายมันดันเป็นการ์ดวีรชนเสียอย่างนั้น
!!!
แสงสีทองได้ส่องสว่างออกมาปรากฏภาพของของการ์ดวีรชน Class Acher สีทอง
โดยการ์ดค่อยๆเผยให้เห็นตัวของวีรชนออกมาซึ่งเขาคนนี้ก็คือ
Servant Class Acher
Emiya shiro (Acher) / เอมิยะ ชิโร่ / ชื่อเล่น คุณแม่ , เอมี่ , ม๊ามี๊เอมิยะ
การ์ดวีรชนได้ตกลงที่พื้นก่อนจะปรากฎตัวของวีรชนคนนี้ออกมาก่อนที่เขาจะพูดทักทาย Master อย่างเรนยะ
เอมิยะ : “Servant Acher ได้ตอบรับคำอัญเชิญของท่านแล้ว”
เรนยะ : “สวัสดีครับ นักรบเอมิยะ . . ไหนๆคุณก็ตอบรับการอัญเชิญของผมแล้วทั้งทีก็ขอสั่งงานชิ้นแรกกับคุณเลยก็แล้วกัน . . แถมเป็นเรื่องที่คุณถนัดมากซะด้วย”
พอเรนยะได้ทักทายกับเอมิยะแล้วก็ได้ลงมือมอบหมายงานชิ้นแรกให้กับเอมิยะทันที
เอมิยะ : (หึ . . คงจะเป็นงานฆ่าคนแบบเดิมๆสินะ) “ว่ามาได้เลย Master”
เอมิยะได้ตอบกลับเรนยะด้วยความเบื่อหน่ายเพราะเรื่องที่ตัวเขาถนัดก็คงจะไม่พ้นการฆ่าอย่างที่ตัวเขาเคยทำมาตลอดตั้งแต่ที่เขาทำสัญญากับอารยาแล้วกลายเป็น Counter Guardian
แต่คำสั่งของเรนยะกลับกลายเป็นว่า
เรนยะ : “ทำข้าวให้ผมทานหน่อยสิ”
เรนยะได้พูดไปน้ำลายไหลไปเลยทีเดียวเพราะเขาเห็นมาตั้งแต่โลกเก่าแล้วว่าอาหารของเอมิยะมันน่าอร่อยอย่างมาก
เอมิยะ : “ห๊ะ !!!”
เอมิยะถึงกับสับสนเพราะปกติเวลาเขาถูกอัญเชิญมาส่วนมากเขามักจะได้งานสังหารแทบทุกครั้งซึ่งเอมิยะพึ่งจะเคยเจอกับ Master ที่สั่งเขาทำอาหารให้เป็นคนแรกแบบนี้
----------- -------------
เรนยะที่ได้ลิ้มลองอาหารของเอมิยะแล้วนั้นก็ถึงกับตัวลอยนั่งตีพุงอยู่บนโต๊ะกินข้าวเลยละ
เรนยะ : “ขอบคุณสำหรับอาหารครับ”
บอกเลยว่าอาหารของเอมิยะสุดยอดคุณแม่ผู้นี้อร่อยอย่าบอกใครเชียว
เรนยะ : (ในเมื่อเรามีคุณแม่สองคนแล้วแบบนี้ปัญหาเรื่องปากท้องเราก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้วละนะ ฮิ ฮิ)
ในตอนนี้เรนยะกำลังนั่งมองเอมิยะที่กำลังเก็บพวกจานชามไปล้างอยู่พร้อมกับคิดไปด้วยว่าจะให้เอมิยะลองไปเปิดร้านอาหารในหมู่บ้านโคโนฮะดูเพื่อหารายได้เข้ากระเป๋า
เอมิยะที่เหมือนจะรู้ว่าเรนยะคิดอะไรอยู่เขาก็เลยได้พูดดักเอาไว้ก่อน
เอมิยะ : “ขอร้องละ Master ให้งานอื่นกับข้าเถอะ”
เรนยะ : “แหม ~ ตอนคุณทำอาหารคุณก็ดูมีความสุขกับมันดีนี่นาก็กะว่าจะให้คุณไปเปิดร้านอาหารดูสักหน่อย เอ๊ ~ หรือว่าให้คุณช่วย ก๊อปปี้อาวุธเพื่อเอาไปขายเก็งกำไรดีน๊า ~”
เรนยะได้พูดแหย่เอมิยะไปตามนิสัยขี้แกล้งของเขาจนเอมิยะถอนหายใจออกมา
เรนยะ : “ฮะ ฮะ ฮะ เอาน่าคุณเอมิยะผมแค่ล้อเล่นเอง . . เอาเป็นว่าผมชื่ออาคุสะ เรนยะจากนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
เอมิยะ : “อ่า ฝากตัวด้วย Master”
เอมิยะได้ยิ้มออกมาในรอบหลายปีเขารู้สึกเหมือนกับได้พักผ่อนหลังจากที่ทำหน้าที่ Counter Guardian มานานจนเขาแทบจะจดจำการทำอาหารของเขาไม่ได้อีกแล้วด้วยซ้ำ
เอมิยะ : (แบบนี้ก็ไม่เลวละนะ)
----------- -------------
นั่นก็เพราะว่าในตอนที่เรนยะกลับมาถึงหมู่บ้านโคโนฮะนั้นเขาดันลืมตัวนั่งวิมารจนเพลินไปหน่อยก็เลยพุ่งชนเข้ากับม่านพลังที่คอยตรวจจับคนลักลอบเข้าหมู่บ้านโคโนฮะซะได้
ก็แหมยานเหาะวิมารมันเร็วเกินไปนี่นาเรนยะเขาก็เลยเบรคไม่ทันก็เลยทะลุม่านพลังเข้ามาในหมู่บ้านด้วยยานวิมารเล่นทำเอานินจาทุกคนในหมู่บ้านโคโนฮะถึงกับแตกตื่นกันยกใหญ่เพราะนึกว่าศัตรูบุกโจมตีหมู่บ้านอีกครั้ง
และด้วยเหตุนี้เองที่เรนยะโดนซึนาเดะสั่งลงโทษให้เขียนรายงานสำนึกผิดมาส่งเธอจนเขาแทบไม่ได้นอนทั้งคืนเลยด้วยซ้ำ
ก็นะในตอนนี้ตัวเขาเป็นนินจาจูนินแล้วก็ต้องทำรายงานหลังจากเสร็จภารกิจเป็นเรื่องธรรมดา
โดยเมื่อวานเรนยะได้ทำการรายงานเรื่องราวของหมู่บ้านทากิงาคุเระที่เกิดสงครามภายในเพราะการก่อกบฏของตระกูลยาโตะและเรื่องที่หมู่บ้านทากิสามารถจัดการพวกตระกูลยาโตะได้สำเร็จให้กับซึนาเดะและปู่รุ่น3ฟังซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ได้บอกเรื่องของแสงอุษาออกไป
หลังจากที่เรนยะรายงานภารกิจเสร็จแล้วเขาก็ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 50,000 เรียวแล้วก็ถูกสั่งลงโทษที่ทำให้โคโนฮะวุ่นวายอย่างที่บอกไปตอนแรก
ซึ่งในปัจจุบันตอนนี้ที่สนามฝึกเรนยะกำลังคุกเข่ากอดต้นขาของสกาฮะอยู่
เรนยะ : “ชิโชว !!! ขอร้องละช่วยสอนเรื่องนั้นให้กับผมที !!!”
เรนยะได้ร้องโวยวายออกมาขณะที่เขากำลังกอดต้นขาของสกาฮะแน่น
สกาฮะ : “ไม่ได้ !”
สกาฮะได้ตอบไปแบบเหนื่อยใจ
เรนยะ : “สอนผมเถอะนะ ชิโชว ! ขนาดคูฮูลินน์ยังได้เรียนเรื่องแบบนั้นเลยนี่นา !”
เรนยะก็ยังคงงอแงไม่เลิก
สกาฮะ : “Master ในตอนนี้ตัวของท่านนั้นยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องนั้นรอให้ท่านโตกว่านี้ก่อนเถอะ”
เรนยะ : “ก็ผมอยากเรียนเรื่องนั้นนี่นา . . อยากเรียนๆๆ !!!”
ถึงสกาฮะจะปฏิเสธไปมากแค่ไหนแต่สุดท้ายแล้วเรนยะก็ยังคงคะยั้นคะยอสกาฮะอย่างต่อเนื่องจนในที่สุดสกาฮะก็ได้ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะตอบตกลงไป
สกาฮะ : “เฮ้อ ~ ก็ได้ Master ถ้าท่านอยากจะเรียนเวทย์มนต์อักษรรูนขนาดนั้นก่อนอื่นท่านจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของพวกตัวอักษรรูนทั้งหมด24ตัวอักษรเสียก่อน”
หลังจากทนความเซ้าซี้ของเรนยะมานานถึง2ชั่วโมงในที่สุดสกาฮะก็ได้ตกลงที่จะสอนเวทมนต์อักษรรูนให้แก่เรนยะโดยในตอนนี้สกาฮะเธอได้ใช้หอกเก โบลก์วาดตัวอักษรรูนขึ้นมาที่พื้นทีละตัวจนพื้นสนามฝึกมีตัวอักษรรูนทั้งหมด24ตัวอักษร
โดยสกาฮะเธอได้ทำการอธิบายความหมายของอักษรรูนทีละตัวให้แก่เรนยะฟังซึ่งเรนยะก็ทำความเข้าใจมันได้เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น
จนเมื่อสกาฮะอธิบายความหมายของตัวอักษรรูนทั้งหมดแล้วเธอก็ได้ทำการสาธิตวิธีการใช้เวทย์มนต์อักษรรูนให้เรนยะดู
สกาฮะ : “นักเวทย์รูนมักจะใช้การสลักอักษรรูนเอาไว้บนก้อนหินเพื่อความสะดวกในการใช้งานหรือการใช้พลังเวทย์ในการวาดอักษรรูนบนอากาศโดยตรงซึ่งการใช้รูนหลากหลายรูปแบบในเวลาเดียวกันก็จะสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์เวทมนต์ต่างๆขึ้นมาได้อย่างเช่นแบบนี้”
สกาฮะที่อธิบายจบแล้วก็ได้ทำการหยิบหินรูนออกมาสามก้อนโดยเธอได้ทำการปล่อยหินรูนบนมือของเธอลงพื้นก่อนที่ตัวอักษรบนหินรูนทั้งสามก้อนจะเริ่มเรืองแสงออกมา
โดยเมื่อหินรูนเรืองแสงแล้วนั้นมันก็ได้ทำการสร้างม่านบาเรียรูปทรงสี่เหลี่ยมใสๆออกมาครอบคลุมรอบตัวของสกาฮะและก็เรนยะเอาไว้
เรนยะได้ลองเปิดเกทเอาดาบออกมาลองฟันใส่ดูก็พบว่าม่านบาเรียนี้แข็งเอาเรื่องเลยที่เดียว
เคร้ง !!!
เรนยะ : “โห ~ แข็งโป้กเลยแฮะม่านบาเรียเนี่ย”
สกาฮะ : “แน่นอน Master ม่านบาเรียนี้ถูกสร้างขึ้นจากรูนต้นกำเนิดมันเลยไม่แปลกอะไรที่จะแข็งแกร่งแบบนี้”
สกาฮะได้พูดอย่างภูมิใจในเวทมนต์อักษรรูนของเธอ
เรนยะ : “งั้นผมขอลองดูหน่อยนะ”
ด้วยความคันไม้คันมือเรนยะเลยทำการหยิบมีดคุไนออกมาจากประเป๋านินจาด้านหลังก่อนที่เขาจะลงมือนั่งยองๆขีดเขียนอักษรรูนหนึ่งตัวอักษรลงบนพื้น
โดยเรนยะเขาได้เลือกเขียนอักษรรูนตัว Sun ลงไปก่อนที่เขาจะนึกถึงผลลัพธ์เวทมนต์และทำการกระตุ้นตัวอักษรรูนให้ทำงานด้วยจักระทันที
วิ้ง !!!
ตัวอักษรที่เรนยะเขียนลงพื้นได้เกิดแสงสว่างจ้าขึ้นทำให้บริเวณสนามฝึกโดยรอบเกิดแสงสีเหลืองส่องสว่างจนเรนยะไม่ทันได้ตั้งตัว
!!!
สกาฮะ : (ทีเดียวก็ทำสำเร็จเลยงั้นหรือเนี่ยเรียนรู้ได้เร็วพอๆกับเซทันต้า(ชื่อจริงคูฮูลิลน์)เลยสินะตอนแรกเราก็กะจะให้เขาทำความเข้าใจเวทมนต์ธรรมดาก่อนที่จะข้ามขั้นมาเรียนเวทย์รูนต้นตำรับแบบนี้นะเนี่ย . . แต่เอาเถอะค่อยสอนเขาเพิ่มทีหลังก็ได้)
สกาฮะที่เห็นว่าเรนยะมีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนต์ที่ทรงพลังพอๆหรืออาจจะมากกว่าเซทันต้าเสียด้วยซ้ำเธอก็เลยพยักหน้าอย่างพึงพอใจเพราะว่าธรรมชาติของสกาฮะนั้นคือผู้ฝึกสอนเวลาเห็นคนมีพรสวรรค์และความตั้งใจอย่างแรงกล้าเธอก็อดไม่ได้ที่จะให้คำแนะนำกับคนๆนั้น
ซึ่งในตอนแรกนั้นสกาฮะเธอคิดว่า Master ของเธอจะต้องใช้เวลาเตรียมพื้นฐานเป็นเวลานานจนเขาเติบโตเป็นหนุ่มพอดีเขาถึงจะสามารถทำความเข้าใจกับรูนต้นตำรับแบบนี้ได้
อ้าก !!!
สกาฮะที่กำลังชม Master ของเธอในใจนั้นจู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงร้องดังขึ้นก็เลยได้สติขึ้นมามองดูก็พบว่า Master ของเธอกำลังกลิ้งร้องโหยหวนอยู่กับพื้น
เรนยะ : “โอ๊ย ! แสบตา !!! ตาบอดแล้ว !!!”
สกาฮะ : . . . . . . “เฮ้อ ~” (ยังไงก็ยังเป็นเด็กนี่นะ . . ซื่อบื้อซะจริง Master . . . แต่ก็ดูน่ารักดีนะ ฮุ ฮุ)
เนื่องจากเรนยะไม่ได้มีชุดที่ลงรูนป้องกันเอาไว้เหมือนกับสกาฮะเขาก็เลยโดนแสงจากเวทมนต์รูนที่เขาเขียนเองเข้าไปเต็มๆทำให้เขาแสบตากลิ้งอยู่กับพื้นแบบนี้
ถึงในโลกนินจาจะมีสิ่งที่เรียกว่าระเบิดแสงก็ตามแต่แสงมันก็ไม่ได้รุนแรงขนาดเวทมนต์รูนต้นตำรับแบบนี้พวกระเบิดแสงอย่างมากก็แค่บังคับให้ศัตรูปิดตาอยู่ชั่วขณะเท่านั้น
ก็นะอักษรที่เรนยะเขียนไปก็คือตัว Sun ซึ่งแปลว่าแสงสว่างของดวงอาทิตย์แถมเขายังใช้จักระกระตุ้นซะเต็มที่ผลก็เลยเป็นแบบนี้แหละนะ
----------- -------------
เรนยะได้ทำการร่ำเรียนเวทมนต์รูนกับสกาฮะจนถึงตอนบ่ายและในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับสกิลใหม่มาซึ่งอยู่ในค่าสถาะของตัวเองนั่นก็คือ
Rune Magic C++ / เวทมนตร์รูน ระดับ C++
-ความสามารถด้านเวทย์มนต์ในการใช้อักษรรูน
เรนยะที่ฝึกได้นิดหน่อยทำให้เขายังไม่เชี่ยวชาญเวทย์รูนมากนักซึ่งที่เขาใช้ได้ตอนนี้ก็มีแค่การ Enchant สิ่งของเท่านั้นเองเวทย์รูนของเขายังคงไม่ถึงขั้นใช้มันในการโจมตีหรือป้องกันได้แบบสกาฮะ
หลังจากเรนยะได้ฝึกเสร็จแล้วนั้นเขาก็ได้ถือโอกาสไปจัดการธุระที่ธนาคารของโคโนฮะทันทีซึ่งธุระที่ว่านั้นก็คือการแลกตั๋วเงินที่เขาได้รับมาจากตระกูลยาโตะนั่นเอง
โดยเรนยะได้รับเงินจากตั๋วใบนั้นทั้งหมด 20 ล้านเรียวเลยทีเดียวเรนยะเลยได้ทำการฝากเข้าบัญชีของเขาพร้อมกับเงินอีก8ล้านเรียวที่เขาลืมเอามาฝากเพราะไม่มีเวลา
ทำให้ในตอนนี้บัญชีธนาคารของเรนยะมีทรัพย์สินมากถึง106สิบล้านเลยละซึ่งพอพนักงานผู้ชายคนเดิมเห็นจำนวนเงินแล้วนั้นเขาก็ถึงกับลืมตัวเข้าไปจับมือเรนยะขึ้นมาก่อนที่จะพูดว่า
พนักงาน : “ไม่ทราบว่าเธอสนใจแต่งงานกับน้องสาวฉันไหม ?”
!!!
ที่เรนยะตกใจไม่ใช่เพราะจู่ๆก็ถูกพนักงานยกน้องสาวให้แต่เป็นเพราะตราเรย์จูที่หลังมือขวาของเขากำลังร้อนสุดๆจนเรนยะถึงกับสะดุ้ง
ซึ่งหนูเงียบและก็ไรโคพวกเธอได้ปรากฎตัวออกมายืนบังตัวของเรนยะจากพนักงานผู้ชายคนนี้ก่อนจะพูดบอกปฏิเสธไป
ไรโค : “ลูกชายคนนี้ยังไม่ถึงวัยที่จะจากแม่ไปแต่งงานหรอกนะคะต้องขอโทษด้วย”
หนูเงียบ : “ม . . ไม่ได้ Master ต้องอยู่กับฉันค่ะ”
พนักงานที่เห็นว่าจู่ๆก็มีผู้หญิงสองคนโผล่ออกมาปฏิเสธก็ทำให้เขาได้สติขึ้นมาโดยพอรู้ตัวว่าทำตัวไม่เหมาะสมพนักงานคนนี้ก็ได้ทำการขอโทษขอโพยเรนยะอย่างยกใหญ่
ซึ่งเรนยะก็เข้าใจเพราะเงินจำนวนขนาดนี้ไม่ว่าใครก็ต้องมีตาลุกวาวกันบ้างละเขาก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรและได้เดินออกมาจากธนาคารโดยมีหนูเงียบที่คอยกอดเขาแบบไม่ยอมปล่อยอยู่คนเดียว
เรนยะ “นี่ความเงียบปล่อยผมได้แล้วละนะ”
หนูเงียบได้ส่ายหน้าขณะที่เธอกำลังกอดเรนยะจากด้านหลังของเขาก่อนที่เธอจะพูดออกมาว่า
หนูเงียบ : “ไม่เอา . . . เดี๋ยว Master จะหายไป”
เรนยะได้ถอนหายใจออกมาอย่างยิ้มๆเพราะเขารู้ว่าฮัซซันแห่งความเงียบนั้นเวลาที่ Master หรือใครก็ตามที่สัมผัสตัวของเธอได้โดยที่ไม่ตายเธอจะหวงคนๆนั้นมากนั่นเอง
เรนยะ : “ไม่ต้องห่วงหรอกนะความเงียบผมไม่หายไปไหนหรอกนะผมสัญญาเลย”
เรนยะได้พูดสัญญาพร้อมกับลูบหัวปลอบหนูเงียบไปด้วย
หนูเงียบ : “งือ ~ Master ลูบอีก ~”
เรนยะ : “เอาไว้ต่อที่บ้านก็แล้วกันนะ”
หนูเงียบ : “ก็ได้ค่ะ”
หนูเงียบได้ยอมปล่อยตัว Master ของเธอก่อนที่จะเปลี่ยนสภาพเป็นร่างวิญญาณตามเดิม
เรนยะ : “เอาละกลับบ้านดีกว่าเรา”
----------- -------------
เรนยะได้เดินลึกเข้าไปทางภูเขาด้านหลังของหมู่บ้านซึ่งเป็นทางกลับบ้านใหม่ของเขา
แต่เมื่อเรนยะได้มาถึงเขาก็พบว่ามีคนมายืนรออยู่ที่หน้าบ้านของเขาแถมยังเป็นคนที่เรนยะคุ้นเคยซะด้วย
เรนยะ : “เอ๋ ! คุณริวนี่นามาทำอะไรที่นี่เหรอครับ ?”
ชายที่มายืนรอหน้าบ้านของเรนยะเขาก็คือริวเจ้าของธุรกิจใต้ดินของเมืองซากะนั่นเอง
ริว : “อ้าว ! ที่แท้เธอออกไปข้างนอกพึ่งจะกลับมาเหรอเนี่ย”
เรนยะ : “มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับคุณริว ?”
เรนยะนั้นเชื่อว่าริวจะต้องไม่ได้แค่มาเยี่ยมตัวของเขาแน่ๆ
ริว : “ฉันมาเตือนเธอน่ะ”
เรนยะ : “เตือน ? เตือนผมเรื่องอะไรเหรอครับ”
ริว : “เมื่อวานนี้ที่ตลาดมืดมีคนมาตั้งค่าหัวของเธอน่ะสิ”
เรนยะที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกแปลกใจอยู่นิดหน่อยก่อนจะถามริวกลับไปว่า
เรนยะ : “เอ๋ ~ นี่ผมมีค่าหัวในตลาดมืดแล้วเหรอเนี่ยแล้วค่าหัวของผมราคาเท่าไหร่ละครับ”
ริว : “สูงเอาเรื่องเลยละ 40 ล้านเรียวสำหรับจับเป็นกับ 38 ล้านเรียวสำหรับจับตาย”
!!!
เรนยะ : “เฮ้ย ! ทำไมมันสูงขนาดนี้ละเนี่ย !!!”
ริว : “ก็ใช่น่ะสิฉันถึงได้มาเตือนเธอเอาไว้ก่อนเพราะถึงยังไงเธอก็เป็นเด็กคนหนึ่งเงินจำนวนขนาดนี้คงล่อตาล่อใจเจ้าพวกนักล่าฆ่าหัวแน่ๆ”
เรนยะที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเพราะต่อจากนี้คงจะมีคนเข้ามาลองของกับเขากันเยอะอย่างแน่นอนซึ่งเรนยะเขาอยากที่จะรู้เสียเหลือเกินว่าใครมันดันอุตริมาตั้งค่าหัวของเขาซะสูงลิ่วแบบนี้
เรนยะ : “ว่าแต่คุณริวพอที่จะรู้ไหมว่าเป็นฝีมือของใครที่ตั้งค่าหัวผมในตลาดมืดน่ะครับ”
ริว : “ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันแต่ได้ยินมาว่ามีหลายฝ่ายที่ร่วมลงขันตั้งค่าหัวของเธอ . . แต่ว่านะเท่าที่ฉันรู้ก็มีแค่สองคนที่กำหนดเงื่อนไขในการจับเป็นตัวของเธอเท่านั้นเอง”
เรนยะ : “ใครกันครับ ?”
เรนยะได้ถามริวเพราะความอยากรู้แต่คำตอบของริวดันมีชื่อที่เขาค่อนข้างที่จะคุ้นเคยเลยละ
ริว : “คนแรกคือไดเมียวของแคว้นคุสะโนะคุนิและอีกคนก็คือโอโรจิมารุน่ะ”
เรนยะ : “เฮ้อ ~ ขอบคุณมากนะคุณริวที่บอก ว่าแต่คุณจะเข้าบ้านของผมก่อนไหมครับ ?”
ริวได้ส่ายหน้าก่อนที่จะบอกกับเรนยะว่า
ริว : “ไม่ละที่ฉันมาวันนี้ก็เพื่อที่จะมาทำธุระที่โคโนฮะเท่านั้นก็เลยถือโอกาสมาบอกข่าวให้กับเธอด้วยเลยไงเพราะถึงยังไงเธอก็ช่วยฉันเอาไว้ตั้งเยอะนี่นา”
เรนยะ : “ถ้างั้นเดินทางปลอดภัยนะครับ”
ริวได้พยักหน้าให้เรนยะก่อนที่เขาจะจากไป
เรนยะ : (ไดเมียวแคว้นคุสะอีกแล้วเหรอดูท่าจะอยากได้ตัวเราซะยิ่งกว่าโอโรจิมารุอีกนะเนี่ยเอาไว้ค่อยคิดบัญชีเจ้าสองคนนี้ทีหลังก็แล้วกัน)
ถึงเรนยะจะรับรู้ว่าตัวเองมีค่าหัวแล้วก็ตามแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรมากนักแต่เขาแค่ขี้เกียจที่จะจัดการกับพวกนักล่าฆ่าหัวที่หิวเงินเสียมากกว่า
เรนยะได้เดินเข้าบ้านของตนไปพักผ่อนตามปกติจนเวลาก็ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งวัน
----------- -------------
เช้าวันต่อมา
ในวันนี้เรนยะก็ยังคงฝึกการสลักอักษรรูนต่อจากเมื่อวานซึ่งเขาก็ได้ลองทำการใช้พลังจักระในการสลักรูนเสริมพลังให้กับเสื้อผ้าของเขาดู
โดยเวทย์รูนที่สลักบนเสื้อผ้านั้นมีผลดังนี้ ซ่อมแซมตัวเอง, ป้องกันเวทมนต์คาถา , ทำความสะอาดตัวเอง แค่สามอย่างนี้เท่านั้นซึ่งกว่ามันจะสำเร็จเรนยะก็สลักรูนพลาดไปอยู่หลายครั้งอยู่เหมือนกันเพราะเรนยะเขายังไม่ค่อยชำนาญเวทมนต์อักษรรูนมากนัก
และแน่นอนว่าเรนยะได้ทำการสลักอักษรรูนบนมีดคุไนของเขาด้วยโดยมีมีดคุไนระเบิด , มีดคุไนระเบิดแสง ที่เขาสลักเอาไว้ใช้ตามสถานการณ์
แต่ดูเหมือนว่าวันนี้เรนยะเขาจะสลักรูนเพลินเกินไปหน่อยพอรู้ตัวอีกทีก็พบว่าบ้านทั้งหลังนั้นถูกเขาสลักอักษรรูนจนทั่วเสียแล้ว
เรนยะ : “บ้านของเรากลายเป็นปราการเหล็กไปซะแล้วสิเนี่ย”
บ้านที่คอยทำความสะอาดตัวเองแถมยังซ่อมแซมตัวเองได้หนำซ้ำยังป้องกันคาถานินจาได้อีกด้วยเรนยะมั่นใจเลยว่าตอนที่เพนมาบุกหมู่บ้านโคโนฮะบ้านของเขาจะเป็นสถานที่เดียวที่ยังคงปลอดภัยจากสุดยอดข่ายเทพพิชิตฟ้าของเพน
จนถึงตอนนี้เรนยะก็เริ่มที่จะว่างขึ้นมาแล้วแถมยังว่างแบบจริงๆจังๆเสียด้วยเขาก็เลยตัดสินใจใช้สิทธ์สุ่มประจำวันที่มีอยู่7ครั้งทันที
เรนยะ : (อย่าเกลืออีกนะโว้ย)
แสงแห่งการหมุนกาชาได้เริ่มสว่างขึ้นเผยให้เห็นการ์ดทีละใบโดยการ์ดที่เรนยะได้มีดังนี้
การ์ดExpระดับ 5 ดาว(สีทอง)
Hellfire of Wisdom x 5
การ์ดสกืลระดับ 5 ดาว(สีทอง)
Charm A (Max) / เสน่ห์ ระดับ A (สูงสุด)
-ทำให้ผู้คนรู้สึกเอ็นดูหลงใหลและได้รับความเสียหายจากเพศตรงข้ามน้อยลง
แต่การ์ดใบสุดท้ายมันดันเป็นการ์ดวีรชนเสียอย่างนั้น
!!!
แสงสีทองได้ส่องสว่างออกมาปรากฏภาพของของการ์ดวีรชน Class Acher สีทอง
โดยการ์ดค่อยๆเผยให้เห็นตัวของวีรชนออกมาซึ่งเขาคนนี้ก็คือ
Servant Class Acher
Emiya shiro (Acher) / เอมิยะ ชิโร่ / ชื่อเล่น คุณแม่ , เอมี่ , ม๊ามี๊เอมิยะ
การ์ดวีรชนได้ตกลงที่พื้นก่อนจะปรากฎตัวของวีรชนคนนี้ออกมาก่อนที่เขาจะพูดทักทาย Master อย่างเรนยะ
เอมิยะ : “Servant Acher ได้ตอบรับคำอัญเชิญของท่านแล้ว”
เรนยะ : “สวัสดีครับ นักรบเอมิยะ . . ไหนๆคุณก็ตอบรับการอัญเชิญของผมแล้วทั้งทีก็ขอสั่งงานชิ้นแรกกับคุณเลยก็แล้วกัน . . แถมเป็นเรื่องที่คุณถนัดมากซะด้วย”
พอเรนยะได้ทักทายกับเอมิยะแล้วก็ได้ลงมือมอบหมายงานชิ้นแรกให้กับเอมิยะทันที
เอมิยะ : (หึ . . คงจะเป็นงานฆ่าคนแบบเดิมๆสินะ) “ว่ามาได้เลย Master”
เอมิยะได้ตอบกลับเรนยะด้วยความเบื่อหน่ายเพราะเรื่องที่ตัวเขาถนัดก็คงจะไม่พ้นการฆ่าอย่างที่ตัวเขาเคยทำมาตลอดตั้งแต่ที่เขาทำสัญญากับอารยาแล้วกลายเป็น Counter Guardian
แต่คำสั่งของเรนยะกลับกลายเป็นว่า
เรนยะ : “ทำข้าวให้ผมทานหน่อยสิ”
เรนยะได้พูดไปน้ำลายไหลไปเลยทีเดียวเพราะเขาเห็นมาตั้งแต่โลกเก่าแล้วว่าอาหารของเอมิยะมันน่าอร่อยอย่างมาก
เอมิยะ : “ห๊ะ !!!”
เอมิยะถึงกับสับสนเพราะปกติเวลาเขาถูกอัญเชิญมาส่วนมากเขามักจะได้งานสังหารแทบทุกครั้งซึ่งเอมิยะพึ่งจะเคยเจอกับ Master ที่สั่งเขาทำอาหารให้เป็นคนแรกแบบนี้
----------- -------------
เรนยะที่ได้ลิ้มลองอาหารของเอมิยะแล้วนั้นก็ถึงกับตัวลอยนั่งตีพุงอยู่บนโต๊ะกินข้าวเลยละ
เรนยะ : “ขอบคุณสำหรับอาหารครับ”
บอกเลยว่าอาหารของเอมิยะสุดยอดคุณแม่ผู้นี้อร่อยอย่าบอกใครเชียว
เรนยะ : (ในเมื่อเรามีคุณแม่สองคนแล้วแบบนี้ปัญหาเรื่องปากท้องเราก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้วละนะ ฮิ ฮิ)
ในตอนนี้เรนยะกำลังนั่งมองเอมิยะที่กำลังเก็บพวกจานชามไปล้างอยู่พร้อมกับคิดไปด้วยว่าจะให้เอมิยะลองไปเปิดร้านอาหารในหมู่บ้านโคโนฮะดูเพื่อหารายได้เข้ากระเป๋า
เอมิยะที่เหมือนจะรู้ว่าเรนยะคิดอะไรอยู่เขาก็เลยได้พูดดักเอาไว้ก่อน
เอมิยะ : “ขอร้องละ Master ให้งานอื่นกับข้าเถอะ”
เรนยะ : “แหม ~ ตอนคุณทำอาหารคุณก็ดูมีความสุขกับมันดีนี่นาก็กะว่าจะให้คุณไปเปิดร้านอาหารดูสักหน่อย เอ๊ ~ หรือว่าให้คุณช่วย ก๊อปปี้อาวุธเพื่อเอาไปขายเก็งกำไรดีน๊า ~”
เรนยะได้พูดแหย่เอมิยะไปตามนิสัยขี้แกล้งของเขาจนเอมิยะถอนหายใจออกมา
เรนยะ : “ฮะ ฮะ ฮะ เอาน่าคุณเอมิยะผมแค่ล้อเล่นเอง . . เอาเป็นว่าผมชื่ออาคุสะ เรนยะจากนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
เอมิยะ : “อ่า ฝากตัวด้วย Master”
เอมิยะได้ยิ้มออกมาในรอบหลายปีเขารู้สึกเหมือนกับได้พักผ่อนหลังจากที่ทำหน้าที่ Counter Guardian มานานจนเขาแทบจะจดจำการทำอาหารของเขาไม่ได้อีกแล้วด้วยซ้ำ
เอมิยะ : (แบบนี้ก็ไม่เลวละนะ)
หลังจากที่ทำความสะอาดเครื่องครัวเสร็จแล้วเอมิยะเขาก็ได้กลายสภาพเป็นร่างวิญญาณหายไปทันทีซึ่งดูจากนิสัยของเอมิยะอาเชอร์แล้วเรนยะเดาได้ไม่ยากเลยว่าพ่อนักธนูคนนี้กำลังออกไปสำรวจบริเวณรอบๆหมู่บ้านซึ่งเรนยะก็ไม่ได้ว่าอะไร
เรนยะได้นำการ์ดสกิลที่ได้มาติดตั้งใส่ตัวพร้อมกับการ์ด Exp ทั้ง5ใบมาอัพค่าสถานะของเขา
โดยเรนยะได้เลือกอัพค่า MAG กับค่า LUC ทำให้ค่าสถานะของเขาเพิ่มขึ้นมาดังนี้
MAGจักระ : B++>>A
LUCโชค : C+>>B
เรนยะ : “เท่านี้ก็เรียบร้อย”
และแล้วเรนยะก็ได้นอนเอกเขนกในบ้านแสนสุขของเขาเพราะว่าวันนี้ยังไม่มีภารกิจเข้ามาวันนี้ก็เลยถือว่าเป็นวันพักผ่อนของเขานั่นเอง
----------- -------------
(แม่คนที่สองมาแล้วจ้า !)
True Wallet 0830743639
ค่าน้ำชา ขอบคุณผู้ติดตามด้วยครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น