ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบวีรชนข้ามโลกนินจา

    ลำดับตอนที่ #34 : ตอนที่ 34

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.72K
      1.11K
      2 ก.ย. 62

    เช้าวันนี้หมู่บ้านโคโนฮะที่หน้าตึกของโฮคาเงะได้มีผู้คนมารวมตัวกันเพื่อแสดงความยินดีเพราะว่ามีการแต่งตั้งโฮคาเงะคนใหม่หรือโฮคาเงะรุ่นที่5แล้วนั่นเอง

    แน่นอนว่าเรนยะก็ต้องมาร่วมงานด้วยเหมือนกันพอรอสักพักซึนาเดะโฮคาเงะคนใหม่เธอก็ได้ออกมาปรากฎตัวให้ทุกคนในหมู่บ้านเห็นโดยเธอได้ยืนอยู่บนตึกโฮคาเงะจ้องมองเหล่าผู้คนในหมู่บ้านด้านล่างก่อนที่เธอจะสัญญากับทุกคนในหมู่บ้านและรูปสลักของเหล่าโฮคาเงะในอดีตว่าจะดูแลปกป้องหมู่บ้านนี้ต่อไป



    เฮ !!!

    ผู้คนในหมู่บ้านโคโนฮะได้โห่ร้องแสดงความดีใจที่หมู่บ้านโคโนฮะมีโฮคาเงะรุ่นที่5แล้วและเมื่อจบงานเรนยะก็ได้ถูกโฮคาเงะคนใหม่คนนี้เรียกตัวไปพบในทันทีและเมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปเรนยะก็พบว่าภายในห้องนอกจากซึนาเดะแล้วก็ยังมีปู่รุ่น3ยืนสูบไปป์อยู่ข้างๆแถมเจ้าชิกามารุก็อยู่ที่นี่ด้วยทำให้เรนยะเดาได้ไม่ยากเลยว่าเขาถูกเรียกมาด้วยเรื่องอะไรกันแน่

    ซึนาเดะ : “ไงมาแล้วสินะอาคุสะ เรนยะ”

    ซึนาเดะเมื่อเห็นว่าเรนยะมาถึงแล้วก็ได้พูดทักพร้อมกับใช้สายตาพิจารณาเด็กผมทองตรงหน้าของเธอ

    ซึนาเดะ : (เด็กคนนี้หรือจ้าวศาสตราวุธที่เป็นนินจาที่มีขีดจำกัดสายเลือดคัดสรรคนแรกของหมู่บ้านโคโนฮะดูท่าทางตั้งแต่ที่เราจากหมู่บ้านนี้ไปจะมีนินจาอัจฉริยะเกิดขึ้นมาเยอะกว่าสมัยก่อนเสียอีกนะเนี่ย)

    เรนยะ : “ครับท่านรุ่น5”

    เรนยะได้ตอบกลับซึนาเดะไปก่อนที่จะหันไปพูดกับชิกามารุ

    เรนยะ : “ไงชิกามารุนายก็ถูกเรียกมาเหมือนกันเหรอ”

    ชิกามารุ : “เห้อ ~ น่ารำคาญ สรุปว่าเรียกพวกผมทั้งสองคนมาแบบนี้มีอะไรหรือเปล่าครับ”

    ชิกามารุก็ยังคงขี้รำคาญเหมือนเดิมตามประสาเจ้าตัวก่อนที่จะเอ่ยถามออกไปว่าเรียกเขามาเพราะอะไร

    ซึนาเดะ : “ที่ฉันเรียกพวกนายทั้งสองคนมาก็เพราะว่าพวกนายน่ะได้รับเลือกให้เลื่อนขั้นเป็นจูนินแล้วยังไงละ”

    ชิกามารุดูจะไม่ค่อยสนใจส่วนเรนยะก็ยืนยิ้มกับสิทธิพิเศษของนินจาระดับจูนินที่เขาจะได้รับ

    นินจาชั้นจูนินจะได้รับส่วนลดในการซื้อขายพวกอุปกรณ์นินจาร่วมถึงได้สิทธิ์ในการคุมทีมเพื่อปฏิบัติภารกิจระดับBขึ้นไปได้แปลว่าพวกภารกิจเก็บขยะเลี้ยงหมาพวกนี้เรนยะเขาไม่จำเป็นต้องทำอีกแล้วนั่นเอง

    เรนยะได้ยกมือถามคำถามหนึ่งออกไป

    เรนยะ : “คือว่าผมจำเป็นจะต้องใส่ชุดนินจาจูนินหนาๆแบบนั้นเหมือนกับพวกจูนินคนอื่นๆไหมครับ ?”

    เพราะถ้าต้องใส่ชุดแบบนั้นตลอดเวลาทำภารกิจเขาคงจะรู้สึกอึดอัดแน่เพราะชุดมันดูเทอะทะสำหรับเขา

    ปู่รุ่นที่ 3 : “มันก็ไม่จำเป็นต้องใส่ตลอดเวลาขนาดนั้นหรอกนะเรนยะนั่นมันก็แล้วแต่เจ้าว่าจะใส่หรือไม่ใส่แต่มีเพียงผ้าคาดหน้าผากนินจาเท่านั้นที่เจ้าต้องห้ามลืมมันโดยเด็ดขาด”

    ปู่รุ่น3ได้บอกตอบเรนยะไปทำให้เรนยะพยักหน้าเข้าใจก่อนจะยืนนิ่งฟังที่ซึนาเดะพูดต่อ

    ซึนาเดะ : “เอาละทีนี้พวกนายก็ได้กลายเป็นจูนินเรียบร้อยแล้วพอลงไปด้านล่างพวกนายก็ไปรับชุดนินจาจูนินของพวกนายที่เจ้าหน้าที่ด้านล่างได้เลย”

    เรนยะกับชิกามารุพยักหน้าก่อนที่จะขอตัวกันออกไปแต่ในจังหวะที่เรนยะหันหลังนั้นตัวเขาก็กลับถูกซึนาเดะเรียกเอาไว้เสียก่อน

    ซึนาเดะ : “เดี๋ยวก่อนเรนยะฉันยังมีธุระกับนายอีกหนึ่งเรื่อง”

    เรนยะแปลกใจนิดหน่อยก่อนจะหันกลับมาฟังธุระที่ว่า

    เรนยะ : “เรื่องอะไรหรือครับ ?”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “ถ้าจะพูดให้ถูกเป็นข้าเองที่มีธุระจะไหว้วานเจ้าเรนยะ”

    ปู่รุ่น3ได้เป็นคนพูดออกมาแทนซึนาเดะ

    ปู่รุ่นที่ 3 : “เรื่องของเรื่องก็คือวันนี้เป็นวันแต่งตั้งโฮคาเงะคนใหม่ซึ่งโดยปกติแล้วทุกๆหมู่บ้านขนาดเล็กกับขนาดกลางรอบๆจะคอยส่งของขวัญหรือส่งจดหมายแสดงความยินดีมาให้กับหมู่บ้านโคโนฮะเราเสมอแต่คราวนี้ . . .”

    ซึนาเดะ : “หมู่บ้านทากิงาคุเระ(นำ้ตก)กลับมีบางอย่างผิดปกติเพราะไม่ว่าพวกเราหมู่บ้านโคโนฮะจะส่งจดหมายผ่านเหยี่ยวส่งสารไปกี่ครั้งทางนั้นก็ไม่เคยตอบเรากลับมาสักครั้งและไม่ใช่แค่หมู่บ้านของเราเท่านั้นหมู่บ้านอื่นๆก็ไม่สามารถติดต่อกับทางทากิงาคุเระได้เลยมันแปลกตรงนี้แหละ”

    เรนยะพยักหน้าเข้าใจก่อนจะถามกลับไปว่า

    เรนยะ : “แล้วเรื่องที่จะไหว้วานผมคือ ?”

    ซึนาเดะ : “นี่เป็นภารกิจลับที่จะมอบหมายให้นายทำเพียงคนเดียวซึ่งนั่นก็คือตรวจสอบความผิดปกติของหมู่บ้านนินจาทากิงาคุเงะเมื่อทราบสาเหตุความผิดปกติแล้วก็ให้รีบกลับมารายงานกับฉันทันที”

    เมื่อพูดจบซึนาเดะก็ได้มอบคำภีร์เล่มสีแดงที่มีตัวอักษรคำว่า ลับ ยื่นมอบให้กับเรนยะซึ่งเรนยะก็ได้รับมันเอามาเก็บที่กระเป๋านินจาด้านหลังของเขาทันทีก่อนจะตอบกลับไปว่า

    เรนยะ : “ทราบแล้วครับงั้นผมไปก่อนนะ”

    หลังจากที่รู้เนื้อหาของภาระกิจแล้วเรนยะก็ได้ขอตัวออกมาจากห้องโฮคาเงะแล้วลงมารับชุดนินจาโจนินของตน



    โดยชุดจูนินสีเขียวนี้เรนยะได้ทำการเก็บมันเอาไว้ในคำภีร์เก็บของของตนเพราะชุดมันไม่ค่อยจะเหมาะกับตัวเขาเสียเท่าไหร่

    เรนยะที่ออกมาจากตึกโฮคาเงะแล้วเขาก็ได้มุ่งหน้าไปที่ประตูทางออกของหมู่บ้านโคโนฮะทันที

    เมื่อเรนยะมาถึงก็ได้นำคำภีร์สีแดงที่ซึนาเดะมอบให้ออกมาแสดงให้คนเฝ้าประตูดูและเมื่อนินจาที่เฝ้าประตูเห็นตัวอักษรคำว่า ลับ ก็ได้ปล่อยให้เรนยะผ่านออกไปได้ในทันทีโดยที่ไม่ต้องลงบันทึกอะไรเพราะว่านี่เป็นภารกิจลับที่โฮคาเงะมอบหมายให้โดยตรง

    พอเรนยะออกมาจากหมู่บ้านแล้วก็ได้มุ่งหน้าขึ้นเหนือเดินทางไปที่แคว้นทากิโนะคุนิ(แคว้นน้ำตก)อันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านนินจาทากิงาคุเระทันทีโดยระหว่างการเดินทางเรนยะก็ได้ขบคิดไปด้วยว่า

    เรนยะ : (ไม่น่าเชื่อเลยว่าทางหมู่บ้านทากิจะถึงกับกล้าแข็งข้อกับหมู่บ้านโคโนฮะเพียงเพราะสูญเสียนินจาสายเลือดคัดสรรอย่างชินเรนไปเพียงคนเดียวแบบนี้ . . มันดูไม่คุ้มเสียเลยนะ)

    ถึงเรนยะจะคิดแบบนั้นแต่ยังไงซะเขาก็ยังไม่อาจฟันธงได้แน่ชัดนักมีแต่ต้องเข้าไปสืบข้อเท็จจริงด้วยตัวเองเท่านั้น

    ----------- -------------

    เรนยะใช้เวลาเพียงไม่นานก็ได้เดินทางมาถึงทางเข้าแคว้นทากิโนะคุนิแล้วและตอนนี้เรนยะก็กำลังคิดหนักว่าหมู่บ้านนินจาทากิงาคุเระมันอยู่ตรงส่วนไหนของแคว้นกันแน่จะให้เขาเดินไปถามพวกชาวเมืองโต้งๆเลยมันก็คงจะดูไม่ดี

    เรนยะ : “วุ่นวายแน่ไอ้งานสืบข้อมูลเนี่ย . . ช่วยไม่ได้แฮะลองหาดูด้วยตัวเองก่อนก็แล้วกัน”

    เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นเรนยะก็ได้ใช้สกิลลบตัวตนเดินสำรวจรอบๆแคว้นทากิดูแต่มองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเสียทีจนสุดท้ายเขาก็ได้ขึ้นไปบนที่สูงแล้วลองใช้สกิลเนตรพันลี้กับตาเหยี่ยวมองหานินจาทากิสักคนจากมุมสูง

    เอ๊ะ !!!

    มองหาอยู่สักพักในที่สุดเรนยะก็ได้พบกับเด็กชายคนหนึ่งที่มีผ้าคาดหน้าผากตรานินจาของหมู่บ้านทากิ

    แต่พอได้ลองมองสังเกตเด็กชายคนนั้นดูด้วยเนตรพันลี้แล้วเขาก็พบว่าเด็กคนนี้ดูเหมือนว่ากำลังวิตกกังวลอะไรบางอย่างและกำลังรีบร้อนมุ่งหน้าไปที่ไหนสักที่

    เรนยะที่เห็นแบบนั้นก็ได้เฝ้ามองเด็กชายคนนั้นเพื่อดูว่าเขากำลังจะไปที่ไหนกันแน่ถึงได้ดูรีบร้อนขนาดนั้นนักจนสุดท้ายเด็กชายคนนั้นก็ได้มุ่งหน้าไปที่ภูเขานำ้ตกแห่งหนึ่งซึ่งเด็กคนนั้นก็เดินผ่านม่านน้ำตกเข้าไปและหายไปเลย

    และนั่นมันก็ทำให้เรนยะกระจ่างเสียทีว่าทางเข้าหมู่บ้านทากิมันอยู่ที่ไหนกันแน่

    เรนยะที่รู้สถานที่แล้วก็ได้มุ่งหน้าไปที่ภูเขานำ้ตกแห่งนั้นทันที

    เรนยะ : (ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเราถึงหาไม่เจอที่แท้หมู่บ้านนินจามันซ่อนอยู่หลังน้ำตกตรงนั้นนี่เอง)

    เรนยะถึงกับส่ายหน้าอย่างอ่อนใจเพราะเจ้าแคว้นนี้มันดันเล่นมีภูเขานำ้ตกตั้ง7แห่งจะหาหมู่บ้านนินจาทากิไม่เจอก็ไม่แปลกอะไรสำหรับเขา

    เมื่อเรนยะมาถึงหน้าน้ำตกแล้วเขาก็ไม่รอช้าทำการเก้าเดินเข้าไปในม่านน้ำตกตรงหน้าเขาทันที

    ซ่า !!!

    เอ๋ !!!

    แต่เรนยะกลับพบว่าตัวเขาที่เดินฝ่าผ่านม่านน้ำตกไปแล้วได้เดินย้อนกลับออกมาจากม่านน้ำตกเสียอย่างงั้น

    ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นได้สร้างความงุนงงให้กับเรนยะมากก่อนที่ตัวเขาจะฉุกคิดได้

    เรนยะ : (ขนาดตัวเราที่ต่อต้านภาพลวงตาได้ทุกชนิดยังเข้าไปไม่ได้แบบนี้คงเป็นคาถาเขตแดนอย่างงั้นสินะงานนี้ท่าจะยากแล้วสิเนี่ย)

    สำหรับคาถาเขตแดนจะเป็นวิชาที่ต้องใช้สิ่งของบางอย่างเป็นสื่อในการส่งพลังจักระจากธรรมชาติไปล่อเลี้ยงเขตแดนนั้นๆอย่างพวกยันต์หรือรูปสลักเพื่อเป็นการคงรูปร่างของเขตแดนให้ทำงานและซ่อมแซมตัวเองอย่างอัตโนมัติ

    ซึ่งวิธีการทำลายเขตแดนนั้นมีอยู่สองวิธี

    วิธีแรกคือการทำลายสิ่งของที่เป็นสื่อคอยส่งจักระล่อเลี้ยงคาถาเขตแดน

    ส่วนวิธีที่สองคือใช้การโจมตีที่รุนแรงโจมตีเข้าใส่คาถาเขตแดงจนกว่ามันจะพังหรือทำให้เกิดช่องว่างและฉวยโอกาสเข้าไป

    ถ้าไม่นับเจ้าเซ็ตซึแห่งแสงอุษาที่สามารถมุดดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระก็มีเพียงสองวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถผ่านเข้าไปข้างในได้

    ในตอนนี้เรนยะกำลังคิดหนักเพราะถ้ามีคาถาเขตแดนแบบนี้ Servant ของเขาก็ไม่สามารถผ่านไปได้เหมือนกันต่อให้ใช้ร่างวิญญาณก็ตามที

    เรนยะ : “งั้นก็ช่วยไม่ได้แฮะคงจะแอบเข้าไปแบบเงียบๆไม่ได้เสียแล้วสิ”

    เรนยะได้ยกเลิกสกิลลบตัวตนโผล่ออกมาและเริ่มผสานอินโจมตีใส่ม่านน้ำตกทันที

    เรนยะ : “คาถาไม้ มังกรไม้ !!!”

    โฮ๊ก !!!



    หลังผสานอินเสร็จมังกรไม้ขนาดใหญ่ก็ได้โผล่ออกมาจากพื้นดินหนึ่งตัวแล้วมังกรไม้ตัวนี้ก็ได้ทำการพุ่งเข้าใส่ม่านน้ำตกทันที

    ตู้ม !!! ซ่า !!!

    ม่านน้ำตกถึงกับแตกกระจายและมังกรไม้ตัวนั้นยังสามารถสร้างรอยแยกขนาดใหญ่ให้กับเขตแดนที่ม่านน้ำตกได้อีกด้วย

    เรนยะที่เห็นช่องว่างก็ไม่รอช้าเขาได้ทำการกระโดดเข้าไปในรอยแยกนั้นและผ่านเข้ามาข้างในม่านน้ำตกได้สำเร็จและเมื่อเรนยะมองกลับไปยังรอยแยกที่ตนผ่านมานั้นเขาก็พบว่ารอยแยกของเขตแดนค่อยๆถูกซ่อมแซมอย่างอัตโนมัติจนรอยแยกนั้นได้หายไปไม่เหลือร่องรอยอะไรอีกเลย

    เรนยะ : “เฮ้อ ~ ปานนี้เจ้าพวกนินจาทากิคงจะรู้ตัวกันแล้วละมั้งเนี่ยถึงเราจะออมพลังของคาถาไม้เมื่อกี้นี้ก็เถอะ . . ช่วยไม่ได้แฮะลุยๆให้มันจบๆไปก็แล้วกัน”

    เรนยะได้ใช้สกิลลบตัวตนอีกครั้งก่อนจะมุ่งหน้าเดินลึกเข้าไปในถ้ำที่ซ่อนอยู่หลังม่านน้ำตกนี้ต่อไป

    ----------- -------------

    ภายในถ้ำนั้นมีคบไฟที่ถูกจุดเอาไว้ติดตามผนังถ้ำโดยภายในถ้ำนั้นเป็นเส้นทางตรงเท่านั้น

    เรนยะค่อยๆเดินตรงไปตามทางเรื่อยๆเพราะเขาต้องระวังพวกกับดักเพราะถึงเขาจะใช้สกิลลบตัวตนทำให้ไม่มีใครสามารถมองเห็นเขาได้ก็ตามแต่ว่าถ้าเรนยะไปเดินชนอะไรเข้าก็อาจจะถูกจับได้เหมือนกันรวมถึงกับดักต่างๆก็ด้วย

    เดินตามทางไปได้ไม่นานเรนยะก็เห็นแสงที่ปลายถ้ำแห่งนี้เสียทีและเมื่อเขาเดินพ้นจากถ้ำน้ำตกแล้วก็ได้มาโผล่ที่ป่าแห่งหนึ่งแต่เรนยะกลับพบว่าเบื้องหน้าของเขามีร่างของเด็กชายที่เข้ามาที่ม่านน้ำตกก่อนเขาในตอนแรกนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น

    เรนยะที่เห็นแบบนั้นก็ได้เข้าไปตรวจสอบดูทันทีและเมื่อเรนยะใช้นิ้วลองวัดชีพจรเด็กชายคนนี้ดูก็พบว่าเขาได้เสียชีวิตไปแล้วแถมตัวของเด็กคนนี้ก็ยังอุ่นๆอยู่แสดงว่าพึ่งจะถูกฆ่าตายได้ไม่นาน

    เรนยะ : (ไม่มีบาดแผลภายนอกทำให้ไม่รู้สาเหตุการตายแต่ดูจากที่เด็กคนนี้รีบร้อนในตอนแรกและที่ไม่มีใครมาตรวจสอบม่านน้ำตกที่ถูกเราโจมตีแถมยังเด็กคนนี้ที่ถูกฆ่าตายในหมู่บ้านนี่อีกก็คิดได้อย่างเดียวแล้วว่าตอนนี้หมู่บ้านทากิกำลังถูกบุกโจมตีอยู่)

    เรนยะที่สรุปได้แบบนั้นก็ได้เดินเลาะพงหญ้าเข้าไปลึกขึ้นจนในที่สุดเขาก็พบกับหมู่บ้านนินจาทากิเสียทีแต่ว่าภายในหมู่บ้านทากินั้นกลับมีสภาพเละเทะบ้านเรือนพังเสียหายแถมมีเสียงกรีดร้องและกลิ่นของเลือดที่ลอยโชยตามลมมาจากหมู่บ้านอีกด้วย

    !!!

    เรนยะ : (โห ~ สภาพหมู่บ้านพังเละเทะเลยแหะใครกันนะที่สามารถฝ่าเขตแดนที่ม่านน้ำตกมาได้แถมยังบุกโจมตีหมู่บ้านทากิจนเละได้ขนาดนี้)

    เรนยะได้ใช้เนตรพันลี้กับตาเหยี่ยวมองสำรวจหมู่บ้านทากิดูก็พบเข้ากับนินจาสองคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่แต่ที่เรนยะรู้สึกสนใจก็เพราะว่านินจาทั้งสองคนนี้ที่กำลังห้ำหั่นเอาชีวิตกันนั้นดันเป็นนินจาหมู่บ้านทากิเหมือนกันเสียอย่างงั้น

    ----------- -------------

    เพล้ง !!! ชิ้ง !!! ปึ้ง !!! ตูม !!!

    เสียงการต่อสู้ของนินจาทากิทั้งสองที่เข้าปะทะกันนั้นได้ดังสนั่นแต่ดูเหมือนว่านินจาทากิที่ใช้คุไนสู้กับอีกคนที่ใช้มือเปล่าจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่

    นินจาทากิ : “พวกแกตระกูลยาโตะคิดที่จะก่อกบฏงั้นเรอะ”

    ยาโตะ : “ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!! นี่เรียกว่าการปฏิวัติต่างหากเจ้าพวกอ่อนแอหมู่บ้านทากิแห่งนี้พวกเราตระกูลยาโตะจะเป็นผู้ปกครองเอง”

    นินจาทากิ : “แกทำไม่สำเร็จหรอก คุณชิบุกิ ต้องไม่ปล่อยพวกแกแน่”

    ยาโตะ : “เหอะ ! เห่าอยู่ได้น่ารำคาญแกน่ะรีบๆตายไปได้แล้วเจ้าสวะ”

    นินจาทากิ : “ฝันไปเถอะ !!! เจ้ากบฏ ย้ากกก !!!”

    ----------- -------------

    เรนยะ : (อย่างนี้นี่เองพวกตระกูลยาโตะได้ก่อการกบฏทำให้หมู่บ้านทากิเกิดสงครามภายในขึ้นสินะแถมด้วยทางเข้าหมู่บ้านที่ถูกซ่อนซะมิดชิดแบบนี้ก็ไม่แปลกละนะที่จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้)

    ในที่สุดเรนยะก็ได้เข้าใจต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เสียที

    เรนยะ : (ดูท่าทางพวกตระกูลยาโตะจะวางแผนกันมาอย่างดีเลยแฮะถึงขนาดสู้กับหมู่บ้านที่เป็นองค์กรนินจาได้แบบนี้แสดงว่าพวกมันคงจะเริ่มวางแผนกันมานานแล้วสินะ)

    ถูกอย่างที่เรนยะคิดพวกตระกูลยาโตะได้วางแผนที่จะยึดหมู่บ้านทากินี้มานานแล้วโดยพวกมันกะว่าจะเริ่มโจมตีตอนที่หมู่บ้านได้จัดงานฉลองให้กับยาโตะ ชินเรนจากการที่เขาสามารถสอบจูนินได้สำเร็จ

    แต่เพราะชินเรนถูกเรนยะเล่นงานกลับมาจนหมดสภาพทำให้แผนการนี้ต้องล่มไม่เป็นท่าแถมหนำซ้ำเส้นชีพจรจักระของ ยาโตะ ชินเรนยังมาพิการอีก

    เรียกได้ว่านอกจากแผนการของตระกูลยาโตะจะล่มแล้วพวกตระกูลยาโตะยังสูญเสียนินจาอัจฉริยะเปี่ยมพรสวรรค์อย่างยาโตะ ชินเรนไปด้วยทำให้ทางตระกูลยาโตะจำต้องเลื่อนแผนการกบฏนี้เอาไว้ก่อน

    จนเมื่อ3วันที่แล้วทางหมู่บ้านทากิได้ยินข่าวมาว่าไดเมียวของฮิโนะคุนิได้คัดเลือกผู้เหมาะสมที่จะมาเป็นโฮคาเงะรุ่นที่5ได้แล้วทำให้ทางหมู่บ้านทากิจำต้องให้นินจาชั้นสูงหลายคนคุ้มกันของขวัญและเดินทางไปส่งมอบให้กับทางโคโนฮะเพื่อเป็นการผูกสัมพันธไมตรี

    จนพวกตระกูลยาโตะได้ทราบเรื่องนี้เข้าและเห็นว่านี่เป็นโอกาสดีที่พวกนินจาชั้นสูงของหมู่บ้านหลายคนไม่อยู่ภายในหมู่บ้านทากิพวกมันจึงได้เริ่มทำการก่อการกบฏขึ้น

    ซึ่งพวกนินจาชั้นสูงของทากิที่ออกจากหมู่บ้านไปส่งของขวัญให้กับโคโนฮะพอเดินทางไปหมู่บ้านโคโนฮะได้เกินครึ่งทางแล้วพวกเขาก็ได้ทราบข่าวการก่อกบฏของตระกูลยาโตะทำให้พวกเขาได้รีบทยอยกันกลับหมู่บ้านของพวกเขาทันที

    แต่เมื่อพวกเขากลับมามันก็สายไปเสียแล้วพวกตระกูลยาโตะได้ยึดหมู่บ้านทากิงาคุเระสำเร็จทำให้เกิดการต่อสู้กันของนินจาทากิที่ต้องการยึดหมู่บ้านทากิคืนกับตระกูลกบฏอย่างยาโตะนั่นเอง

    ในตอนแรกเรนยะที่รู้เรื่องทุกอย่างแล้วนั้นก็ได้เตรียมที่จะกลับไปรายงานเรื่องนี้ที่โคโนฮะแล้วก็จบภารกิจลับของตนเสียทีเพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของหมู่บ้านทากิทำให้เขาไม่อยากจะสอดมือเข้าไปยุ่งเสียเท่าไหร่

    แต่พอเรนยะได้คบคิดดีๆแล้วเจ้าพวกตระกูลยาโตะมันก็เคยมาหาเรื่องเขาอยู่เหมือนกันถ้าเกิดว่าพวกมันปฏิวัติสำเร็จแล้วสามารถยึดหมู่บ้านทากินี้ได้เป้าหมายต่อไปของพวกมันก็คือการล้างแค้นตัวเขาอย่างแน่นอนทำให้ในที่สุดเรนยะก็ได้ตัดสินใจบางอย่างได้

    เรนยะ : (อืม ~ ช่วยไม่ได้ . . ดูจากที่พวกยาโตะเคยมาลอบสังหารเราก็บ่งบอกได้แล้วว่าเจ้าพวกนี้จะไม่ยอมเลิกลาแน่ๆรีบกำจัดพวกมันก่อนที่จะมาสร้างปัญหาให้กับเราในอนาคตดีกว่า)

    เมื่อเรนยะได้ตัดสินใจแล้วก็ได้ทำการเรียกหอกเก โบลก์ออกมาและมุ่งหน้าไปที่ตระกูลยาโตะทันที

    ----------- -------------

    ที่ใจกลางของหมู่บ้านทากิ

    มีชายร่างใหญ่คนหนึ่งกำลังออกคำสั่งกองกำลังของเขาบุกยึดตึกที่ทำการเก็บคัมภีร์คาถานินจาของหมู่บ้านทากิอยู่

    ? : “บุกเข้าไป !!! พวกมันทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอกยึดที่นี่ให้ได้เพื่อตระกูลยาโตะของพวกเรา !!!”

    เฮ !!!

    พวกนินจายาโตะที่ได้รับคำสั่งก็รู้สึกฮึกเหิมบุกกดดันม่านพลังที่ปกป้องตึกนี้เอาไว้ทันที

    ตึ้ง !!! ตึ้ง !!!

    แต่ก็มีนินจายาโตะที่ดูสูงอายุคนหนึ่งเข้ามาคุกเข่ารายงานเรื่องบางอย่างกับชายร่างใหญ่ที่ออกคำสั่งเมื่อกี้นี้

    ดารุมะ : “ท่านโคฮาดะครับพวกเรากลุ่มที่2ได้ทำการยึดที่เก็บเสบียงอาหารของหมู่บ้านทากิแห่งนี้เรียบร้อยแล้วครับ

    โคฮาดะ : “ดีมากท่านผู้เฒ่าดารุมะเท่านี้ก็เหลือเพียงที่แห่งนี้ที่เดียวเท่านั้นถ้าพวกเรายึดที่นี่ได้สำเร็จหมู่บ้านทากิก็จะเป็นของเราตระกูลยาโตะ”

    สองคนนี้ก็คือยาโตะ โคฮาดะผู้นำตระกูลยาโตะคนปัจจุบันหรือพ่อแท้ๆของยาโตะ ชินเรนส่วนผู้เฒ่ายาโตะ ดารุมะนั้นเป็นหนึ่งในสามผู้อาวุโสแห่งตระกูลยาโตะโดยแผนการกบฏที่เกิดขึ้นภายในหมู่บ้านทากิเป็นแผนการของพวกเขานั่นเอง

    แต่ในระหว่างที่พวกเขาทั้งสองกำลังยิ้มยินดีที่สามารถทำการกบฏสำเร็จนั้นจู่ๆก็มีนินจายาโตะคนหนึ่งที่มีสีหน้าหวาดกลัววิ่งเข้ามาคุกเข่ารายงานทั้งสองคนว่า

    ยาโตะ : “ร . . . รายงาน !!! ตอนนี้ที่ตระกูลของพวกเราถูกบุกโจมตีแถมผู้อาวุโสทั้งสองคนที่ปกป้องตระกูลก็ถูกฆ่าตายแล้วครับ !!!”

    !!!

    โคฮาดะ : “ว่าไงนะ !!! เจ้าพวกทากิคนอื่นๆมันฉวยโอกาสบุกตระกูลของข้างั้นหรือ !!!”

    ดารุมะ : “แล้วที่เจ้าบอกว่าผู้อาวุโสทั้งสองถูกฆ่าตายแล้วหมายว่ายังไงกัน !!!”

    ทั้งสองคนดูจะตกใจกับข่าวที่พวกเขาได้รับแต่คำพูดต่อมาก็ทำให้พวกเขาทั้งสองแทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ฟัง

    ยาโตะ : “ม . . ไม่ใช่พวกนินจาทากิครับ . . คนที่บุกโจมตีตระกูลพวกเราคือเด็กผมทองคนหนึ่งที่ใช้หอกสีแดง . . เจ้าเด็กนั่นมันได้ฆ่าผู้อาวุโสทั้งสองท่านแล้วก็จับตัวนายน้อยไปครับ”

    !!!

    โคฮาดะ : “นี่แกจะบอกว่าตระกูลยาโตะของข้าถูกเด็กเมื่อวานซืนคนเดียวบุกถล่มแถมพวกแกยังไม่มีปัญญาที่จะปกป้องลูกชายของข้าได้อย่างนั้นเรอะ ห๊า !!!!”

    เปรี๊ยะ !!! ครืน !!!

    เสียงคำรามแห่งความโกรธของโคฮาดะทำให้พื้นดินที่เขายืนอยู่ถูกแรงกดดันจากจักระระดับคาเงะของเขาแตกเป็นใยแมงมุมเลย

    ส่วนนินจายาโตะที่มารายงานเรื่องนี้เมื่อถูกแรงกดดันของผู้นำตระกูลอย่างโคฮาดะเข้าไปก็ถึงกับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

    ดารุมะ : “ท่านโคฮาดะได้โปรดสงบสติอารมณ์ของท่านลงก่อนเถอะครับฟังจากที่เจ้านี่เล่ามาเจ้าเด็กผมทองคนนั้นได้ทำการจับตัวนายน้อยชิเรนไปแบบนี้พวกเราก็คงจะหายห่วงเรื่องความปลอดภัยของนายน้อยไปได้เรื่องหนึ่งเพราะถ้าเจ้าเด็กนั่นอยากจะฆ่านายน้อยมันคงจะไม่ทำอะไรยุ่งยากอย่างการจับตัวไปแบบนี้หรอกครับ”

    คำพูดของผู้อาวุโสอย่างดารุมะทำให้ความโกรธของโคฮาดะลดน้อยลงได้อย่างเห็นได้ชัด

    โคฮาดะ : “ฮึ่ม ! ท่านดารุมะพูดแบบนี้แปลว่าที่เจ้าเด็กผมทองคนนั้นมันจับตัวลูกชายของข้าไปเพราะต้องการเรียกร้องอะไรบางอย่างจากข้าสินะ”

    ดารุมะ : “ใช่แล้วครับถ้าข้าเดาไม่ผิด . . นี่ ! เจ้าเด็กผมทองคนนั้นมันได้บอกข้อเรียกร้องอะไรกับพวกแกหรือเปล่า”

    หลังจากที่ดารุมะตอบรับคำของโคฮาดะแล้วนั้นก็ได้หันมาถามนินจายาโตะที่นำข่าวนี้มาบอกต่อในทันทีซึ่งเจ้ายาโตะคนนี้พอถูกถามก็ได้รีบตอบดารุมะไปว่า

    ยาโตะ : “ค . . ครับ ! เจ้าเด็กนั่นมันได้บอกก่อนไปว่าถ้าอยากได้ตัวของนายน้อยคืนก็ให้มาบอกกับท่านผู้นำว่าให้นำคนในตระกูลพวกเราทุกคนไปเจอกับมันที่ป่าทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านทากิครับต . . แต่ว่าพวกเราก็ได้ส่งคนลอบติดตามไปด้วยแล้วแต่เจ้าเด็กนั่นมันร้ายกาจมากผมก . . ก็เลยมารายงานเรื่องนี้ให้กับพวกท่านทั้งสองก่อนครับ”

    โคฮาดะ : “เหอะ ! แค่เด็กคนเดียวมันจะแน่สักแค่ไหนกันเชียวที่ผู้อาวุโสทั้งสองพลาดท่าถูกฆ่าเพราะเจ้าเด็กนั่นโจมตีตอนที่พวกอาวุโสทั้งสองไม่ทันได้ใช้เกราะดำละสิท่า”

    ดารุมะ : “ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นี่ครับท่านโคฮาดะก็ตระกูลยาโตะของพวกเราใกล้จะชนะอยู่แล้วก็ไม่แปลกที่พวกผู้อาวุโสทั้งสองคนนั้นจะชะล่าใจไม่ใช้เกราะดำป้องกันการลอบโจมตีตลอดเวลาแบบนั้นน่ะครับแต่อย่างไรก็ตามพวกเราก็ควรจะรีบไปช่วยนายน้อยกันก่อนยังไงซะหมู่บ้านนี้ก็ตกเป็นของพวกเราอยู่แล้วละครับ”

    ถึงการสูญเสียผู้อาวุโสทั้งสองคนจะน่าเศร้าแต่ตอนนี้พวกเขากำลังจะยึดครองหมู่บ้านทากิได้สำเร็จแล้วเรื่องนี้ต่างหากที่สำคัญเพราะเมื่อยึดหมู่บ้านนี้สำเร็จพวกเขาจะสร้างผู้อาวุโสอีกกี่คนก็ได้ด้วยทรัพยากรที่พวกเขาจะได้รับต่อจากนี้

    แต่ว่านินจายาโตะคนนี้ก็ได้รีบปฏิเสธสิ่งที่พวกเขาทั้งสองคนคิดในทันที

    ยาโตะ : “ม . . ไม่ใช่แบบนั้นครับท่านผู้นำเจ้าเด็กนั่นมันบุกเข้ามาตรงๆเลยครับไม่ได้ลอบโจมตีผู้อาวุโสทั้งสองอย่างที่พวกท่านคิดแถมเจ้าเด็กนั่นยังสามารถทำลายเกราะดำของพวกผู้อาวุโสทั้งสองคนได้อย่างง่ายๆเลยพ . . พวกผู้อาวุโสทั้งสองถ . . ถูกเจ้าเด็กนั่นฆ่าตายเพียงแค่พริบตาเดียวเองครับ”

    !!!

    ดารุมะ : “เจ้าว่าอะไรนะ !!! จริงงั้นรึที่เจ้าเด็กนั่นสามารถทำลายเกราะดำของตระกูลเราที่ป้องกันได้แม้กระทั่งคาถานินจาระดับ A น่ะ !!!

    โคฮาดะ : “ไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วแบบนี้ นี่ !!! พวกแกที่ปะทะกับเจ้าเด็กนั่นคงได้ข้อมูลวิชาของมันมาด้วยใช่ไหมเจ้าเด็กนั่นมันใช้คาถาแบบไหนรีบบอกข้ามา !!!”

    ทั้งสองคนที่รู้ว่าเจ้าเด็มผมทองที่บุกตระกูลของพวกเขาสามารถทำลายเกราะของพวกเขาได้ก็เริ่มรู้สึกเครียดและวิตกเพราะคาถาที่รุนแรงพอจะฆ่าผู้ที่ใช้วิชาขีดจำกัดสายเลือดเกราะดำอย่างพวกเขาได้จะต้องเป็นคาถานินจาระดับ S เท่านั้น

    ยาโตะ : “ม . . ไม่ครับ . . เจ้าเด็กนั่นใช้แค่หอกสีแดงในการสังหารผู้อาวุโสทั้งสองคนที่เฝ้าตระกูลอยู่ด้วยการต่อสู้ซึ่งๆหน้ากระบวนหอกของมันร้ายกาจอย่างมากนอกจากผู้อาวุโสแล้วพวกเราก็ถูกจัดการไปหลายคนเหมือนกันครับท่านผู้นำ”

    !!!

    ทั้งโคฮาดะและดารุมะถึงกับตกใจและแทบไม่เชื่อที่เกราะดำที่แข็งแกร่งของพวกเขาจะถูกอาวุธหอกทำลายได้ง่ายๆแบบนี้ก็แสดงให้เห็นว่าเจ้าเด็กนั่นสามารถใช้หอกที่มีพลังโจมตีได้ทัดเทียมคาถานินจาระดับ S เลยน่ะสิแบบนี้มันถือว่าเป็นภัยกับตระกูลของพวกเขาชัดๆพวกเขาคงจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้เสียแล้ว

    เมื่อคิดได้ดังนั้นดารุมะกับโคฮาดะก็ได้หันมามองตากันก่อนจะพยักหน้าตกลงกันเป็นอันบอกว่าทั้งคู่เห็นด้วย

    เมื่อตกลงกันได้แล้วโคฮาดะก็ได้เริ่มออกคำสั่งทันที

    โคฮาดะ : “พวกเจ้าทุกคนจงฟัง !!! ลูกชายของข้าได้ถูกศัตรูคนหนึ่งจับตัวไป !!! พวกเจ้าจงมุ่งหน้าไปที่ป่าทางทิศตะวันออกซะไปจัดการคนที่กล้าท้าทายตระกูลของพวกเรา !!!”

    เฮ !!!

    โคฮาดะได้ยกเลิกการโจมตีตึกที่เป็นที่เก็บคำภีร์คาถานินจาของหมู่บ้านทากิชั่วคราวแล้วนำนินจายาโตะของตนมุ่งหน้าไปที่ป่าทางทิศตะวันออกเพื่อช่วยเหลือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาในทันที

    ----------- -------------

    ทางป่าทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านทากิ

    ในตอนนี้เรนยะได้นำตัวของยาโตะ ชินเรนที่หมดสติมามัดติดเอาไว้กับต้นไม้โดยสถานที่ตรงนี้เป็นป่าโล่งที่มีต้นไม้ต้นนี้เพียงต้นเดียวและเบื้องหลังของเรนยะก็มีร่างของนินจาตระกูลยาโตะที่แอบตามเขามานอนสิ้นใจอยู่ที่พื้นตามทางโดยที่ร่างกายของทุกคนนั้นมีรูถูกหอกแทงทะลุหัวใจทุกคน



    ตั้งแต่ที่เรนยะตั้งใจจะจัดการกับพวกตระกูลยาโตะเขาก็ได้บุกเข้าไปที่ตระกูลของพวกมันทันทีและด้วยหอกเก โบลก์เล่มนี้เรนยะก็ได้ใช้มันแทงหัวใจของทุกคนที่มาขวางทางของเขาอย่างสนุกมือเพราะหอกเก โบลก์นั้นกินจักระของเขาในการปลดปล่อยโฮกุน้อยมากๆทำให้เรนยะใช้มันแทงหัวใจพวกนินจายาโตะได้อย่างไม่พลาดเป้าช่างสมชื่อกับหอกเก โบลก์เสียจริงไล่กระซวกหัวใจชาวบ้านเขารัวๆ

    ในตอนนี้เรนยะทำได้เพียงแค่รอให้ผู้นำตระกูลยาโตะมาถึงตามที่เขาได้บอกกับพวกคนที่เหลือรอดในตระกูลว่าให้ไปแจ้งข่าวกับผู้นำตระกูลของพวกมันซะเท่านั้น

    และรอไม่นานเรนยะก็ได้เห็นว่ามีกลุ่มคนจำนวน 70กว่าคนกำลังมุ่งหน้ามาทางที่ที่เขาอยู่ด้วยเนตรพันลี้กับตาเหยี่ยว

    เรนยะได้ปักหอกเก โบลก์เอาไว้กับพื้นยืนรอต้อนรับพวกตระกูลยาโตะที่กำลังใกล้จะมาถึงในไม่ช้านี้

    เมื่อโคฮาดะได้นำคนตระกูลของตนมาถึงที่ป่าทางทิศตะวันออกโดยระหว่างทางที่มาเขาก็พบว่าตามทางที่กำลังมุ่งหน้าไปช่วยลูกชายของเขาก็มีคนของตระกูลเขานอนเป็นศพตามพื้นโดยทุกร่างนั้นได้ถูกแทงเข้าที่หัวใจจนหน้าอกทะลุเป็นรูทุกคนนั่นทำให้ผู้นำตระกูลอย่างเขาถึงกับหวาดกลัวและก็รู้สึกโกรธในเวลาเดียวกัน

    และเมื่อเดินมาถึงโคฮาดะก็ได้เห็นลูกชายของเขาชินเรนได้ถูกจับมัดเอาไว้กับต้นไม้และด้านหน้าของลูกชายของเขาก็ได้มีเด็กผู้ชายผมสีทองตามที่ได้รับรายงานมาทำให้โคฮาดะเปิดปากเจรจาแกมขู่ทันที

    โคฮาดะ : “ไอ้หนู ! แกรู้ตัวไหมว่าแกกำลังทำอะไรอยู่ !!! รีบๆปล่อยตัวลูกชายของข้าซะบางทีข้าอาจจะไว้ชีวิตแกก็ได้นะ”

    เรนยะที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้ยิ้มกลับไปให้อีกฝ่ายก่อนจะทำการแนะนำตัวของเขาให้อีกฝ่ายได้รับรู้

    เรนยะ : “แหม ~ เจรจาได้ห่วยแตกมากเลยนะครับเนี่ยเอาเป็นว่ายินดีที่ได้รู้จักนะครับชื่อของผมคือ อาคุสะ เรนยะเป็นนินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะและก็เป็นผมเองนี่แหละที่เป็นคนทำให้ลูกชายของคุณ ยาโตะ ชินเรนต้องเส้นจักระพิการแบบนี้น่ะ”

    !!!

    หลังจากที่เรนยะได้แนะนำตัวแล้วโคฮาดะกับทุกคนในตระกูลที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกตกใจกันมากที่ศัตรูที่ทำให้ตระกูลยาโตะของพวกเขาต้องสูญเสียนินจาสายเลือดคัดสรรคนแรกอย่างชินเรนไปกลับมาปรากฎตัวที่หมู่บ้านทากิแบบไม่คาดคิดแบบนี้

    แก !!!

    กล้ามากนะ !!!

    ฆ่ามันเลยท่านผู้นำ !!!

    เสียงแห่งความโกรธแค้นของทุกคนในตระกูลยาโตะได้ดังขึ้นมาอย่างไม่ขาดสายทำให้โคฮาดะตะโกนออกมาเพื่อทำให้ทุกคนสงบลงก่อนเพราะเขามีเรื่องอยากจะคุยกับเจ้าเด็กตรงหน้าก่อน

    โคฮาดะ : “เงียบ !!!”

    เมื่อถูกผู้นำสั่งให้เงียบนินจายาโตะคนอื่นๆก็ระงับความโกรธของพวกเขาทันทีและเมื่อเห็นว่าคนตระกูลของตนเริ่มเงียบกันแล้วก็ได้ทำการพูดกับเด็กผมทองตรงหน้าทันที

    โคฮาดะ : “ดี ! . . ดีมาก !!! ที่แกกล้ามาหาฉันถึงที่นี่แกคงจะเตรียมใจตายไว้แล้วสินะเจ้าเด็กบ้า !!!”

    เรนยะ : “ก็ไม่รู้สินะว่าใครจะตายกันแน่แต่พวกคุณน่ะไม่มีปัญญาทำอะไรผมได้หรอกนะศพที่เรียงรายตามพื้นที่พวกคุณเห็นก็ถือเป็นหลักฐานจากการกระทำของผมแล้วนี่ผมน่ะไม่ได้เอาแต่เห่าแบบพวกคุณหรอกนะ”

    กรอด !!!

    นินจาตระกูลยาโตะทุกคนที่ได้ยินเรนยะพูดดูถูกพวกเขาก็ได้กัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจเรนยะที่เห็นแบบนั้นก็ได้ทำการพูดเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก

    เรนยะ : “พวกคุณจงโทษตัวเองเสียเถอะที่ไม่ยอมจบเรื่องระหว่างเราทั้งที่มันเป็นการประลองที่พวกคุณเห็นชอบและยินยอมที่จะให้เจ้าชินเรนของพวกคุณเข้าสอบจูนินในหมู่บ้านโคโนฮะแท้ๆถึงแบบนั้นพวกคุณก็ยังคงกัดผมไม่ปล่อยเพราะฉะนั้นผมจะขอประกาศเอาไว้ตรงนี้เลยว่าตระกูลยาโตะของพวกคุณจะต้องสูญสิ้นเผ่าพันธุ์วันนี้นี่แหละ”

    ด้วยคำพูดของของเรนยะในที่สุดโคฮาดะก็ได้หมดความอดทนในที่สุด

    โคฮาดะ : “ฆ่า ! ฆ่าไอ้เด็กบ้านั่นให้ได้ !!!”

    โอ้ !!!

    เมื่อได้รับคำสั่งนินจาตระกูลยาโตะทุกคนก็ได้ปลดปล่อยความโกรธของพวกเขาออกมาแล้วทำการสร้างชั้นเกราะสีดำขึ้นมาป้องกันทั่วทั้งร่ากายของพวกเขาก่อนที่จะวิ่งเข้าใส่เพื่อฆ่าเด็กผมทองตรงหน้าที่กล้าพูดว่าจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตระกูลยาโตะของพวกเขา

    เรนยะที่เห็นว่าพวกยาโตะตรงหน้าเริ่มบุกเข้ามาหาเขาแล้วก็ได้ทำการผสานอินด้วยมือซ้ายมือเดียวทันทีและเมื่อผสานอินเสร็จแล้วที่ฝ่ามือข้างซ้ายของเรนยะก็ได้มีเมล็ดต้นไม้เรืองแสงสีฟ้าอยู่สี่เม็ด



    เมื่อคาถาพร้อมแล้วเรนยะก็ได้ทำการลงมือปาเมล็ดเรืองแสงนี้เข้าใส่พื้นดินเบื้องหน้าของเขาที่พวกนินจายาโตะกำลังจะเก้าเท้ามาถึง

    และเมื่อพวกนินจายาโตะได้เข้าถึงระยะของคาถาแล้วเรนยะก็ได้ทำการใช้อิน ชวด กระตุ้นการเติบโตของพฤษาแสงคาถาที่ร้ายกาจที่สุดของเขาในตอนนี้ทันที

    เรนยะ : “จงขยายกิ่งก้าน พฤษาแสง !!!”

    ครึ่ก !!! ครึ่ก !!!(เสียงต้นไม้โผล่จากพื้น)

    ตู้ม !!!


    เมล็ดของต้นพฤษาแสงที่เรนยะโยนออกไปเมื่อมันถูกกระตุ้นด้วยคาถาของเขาเมล็ดก็ได้เริ่มแตกหน่อและกิ่งก้านก็เติบโตงอกงามอย่างรวดเร็ว



    และกิ่งไม้อันแหลมคมของพฤษาแสงต้นนี้ก็ได้ทำการเจาะทะลุเกราะของพวกนินจาตระกูลยาโตะแถมยังเสียบเข้าเนื้อของพวกมันจนตกตายไปนับ40คนเลยทีเดียว

    อ้ากก !!!

    อัก !!!

    ช . . ช่วยด้วย !!!

    ผู้อาวุโสดารุมะก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีทั้ง40คนที่ได้ลิ้มรสความร้ายกาจของพฤษาแสงสายเลือดคัดสรรใหม่นี้ของเรนยะเช่นเดียวกัน

    ซึ่งผู้อาวุโสดารุมะพบว่าเมื่อตัวของเขาถูกกิ่งไม้อันแหลมคมจากพฤษาแสงนี้แทงเข้าที่หัวไหล่กิ่งไม้เรืองแสงนี้มันก็ได้ทำการสูบจักระจากตัวของเขาออกไปอย่างรวดเร็วทำให้เรี่ยวแรงของเขาหดหายและเท่านั้นยังไม่พอเจ้ากิ่งไม้นี่มันยังทำการปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาทำให้ตัวของเขาไม่สามารถขยับได้ราวกับเป็นอัมพาต

    ดารุมะ : (ค . . คาถาบ้าอะไรกัน . . จ . . เจาะทะลวงเกราะดำของพวกเราได้ง่ายๆ บ . . แบบนี้เชียวหรือ !!!)

    นี่คือห้วงความคิดสุดท้ายของผู้อาวุโสดารุมะก่อนที่เขาจะถูกต้นพฤษาแสงสูบจักระและพลังชีวิตจนร่างกายเหือดแห้งตายไป

    ส่วนเรนยะที่เห็นว่าพฤษาแสงของเขาสามารถจัดการกับศัตรูได้เกินครึ่งก็รู้สึกพึงพอใจกับสายเลือดคัดสรรใหม่นี้ที่เขาเป็นผู้สร้างมันขึ้นมาแต่ว่า

    เรนยะ : (วิชานี้กินจักระของเราไป60เปอร์เซ็นต์เลยแฮะ . . แต่ว่านะ หึ หึ)

    ครึ่ก !!!!

    ฉับพลันที่เรนยะคิดเสร็จที่พื้นดินข้างเท้าขวาของเขาก็ได้มีต้นพฤษาแสงต้นเล็กๆโผล่ขึ้นมาในระดับเอวของเขาทันที

    เรนยะได้ทำการจับเข้าที่ต้นพฤษาแสงต้นเล็กนี้และทันที่ที่มือของเขาได้สัมผัสกับต้นพฤษาแสงมันก็ได้ทำการส่งมอบจักระที่สูบมาจากร่างของพวกนินจายาโตะให้กับเรนยะทันที

    ใช่แล้วต้นพฤษาแสงนี้ของเรนยะมันมีความสามารถในการดูดจักระและพลังชีวิตของเหยื่อมาเพิ่มให้กับตัวของเขาเองได้ทำให้เรนยะสามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บรวมถึงฟื้นฟูจักระได้อย่างไม่มีสิ้นสุดนั่นเอง(ถ้าต้นไม้มันได้สังหารศัตรูนะ)

    เมื่อเรนยะได้รับจักระจากต้นพฤษาแสงจนเต็ม100เปอร์เซ็นต์แล้วเขาก็ได้ปล่อยมือจากต้นพฤษาแสงต้นเล็กทันทีและทำการดึงหอกเก โบลก์ที่เขาปักพื้นขึ้นมาควงหนึ่งรอบก่อนที่จะทำการส่งจักระเข้าไปในหอกเก โบลก์จนตัวหอกเรืองแสงสีแดงออกมาก่อนที่เรนยะจะทำการกระโดดขึ้นฟ้าแล้วทำการขานชื่อของหอกแล้วปามันออกไปใส่พวกนินจายาโตะที่เหลือทันที

    เรนยะ : “จงเผยคมเขี้ยวของเจ้าออกมาซะ เก โบลก์ !!!”

    หอกเก โบลก์ที่เรนยะได้ปาออกไปได้แตกแขนงคมหอกจำนวนมากออกมาพุ่งเข้าใส่เหล่านินจายาโตะอีก30คนที่เหลือในทันที



    ตู้ม !!!



    แรงระเบิดจากหอกเก โบลก์ที่รุนแรงทำให้บริเวณป่าโดยรอบมีแต่ฝุ่นดำที่เกิดจากแรงระเบิดของหอกเก โบลก์จนบดบังการมองเห็นของเรนยะ

    แต่เมื่อควันได้จางลงแล้วเรนยะก็พบว่าในบรรดาซากศพที่ถูกหอกเก โบลก์แทงเป็นรูพรุนแถมยังถูกระเบิดจากการที่เขาใส่จักระเข้าไปอย่างเต็มพิกัดฉีกร่างเป็นชิ้นๆก็ยังคงมีผู้โชคดีที่สามารถรอดชีวิตมาได้เพียงคนเดียวนั่นก็คือผู้นำแห่งตระกูลยาโตะ ยาโตะ โคฮาดะ คนนี้นี่เอง

    เรนยะ : “ให้ตายสิพับผ่าเจ้านี่ยังจะหน้าด้านรอดอยู่อีกเหรอเนี่ย ! คนเขียนนี่ก็ช่างลากให้เรื่องมันยาวแท้ๆเขียนยาวขนาดนี้เดี๋ยวพวกคนอ่านก็อ่านกันตาแฉะตายห่ากันพอดี”

    แต่ถึงจะบอกว่ามันรอดมาได้แต่ก็ในสภาพที่แขนข้างขวาของมันได้หายไปแล้วแถมตามตัวของมันก็ยังมีบาดแผลฉกรรจ์อยู่หลายจุดเรียกได้ว่าเลือดอาบตัวเลยละ

    โคฮาดะ : “แฮ่ก แฮ่ก ! ม . . ไม่จริงข้าไม่เชื่อ !!!”

    โคฮาดะที่เห็นว่าคนในตระกูลของเขาทุกคนถูกฆ่าตายจนหมดก็แทบจะเป็นบ้าเพราะไม่อาจจะยอมรับความจริงตรงหน้าของเขาได้

    เรนยะที่เริ่มจะรำคาญอยากจะกลับไปหมู่บ้านโคโนฮะเต็มแก่แล้วก็ได้ทำการเรียกหอกเก โบลก์ที่แตกตัวเสียบอยู่ที่ศพของพวกนินจายาโตะกลับมารวมกันเป็นหอกเก โบลก์หนึ่งเล่มที่มือของเขาก่อนที่จะทำการขานชื่อของหอกแล้าปาออกไปทันที

    เรนยะ : “เก โบลก์ !!!”

    ฉึก !!!

    โคฮาดะ : “อัก !!! “

    โคฮาดะที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้ไม่ทันระวังสุดท้ายแล้วเขาก็ได้ถูกหอกเก โบลก์ที่เรนยะปามาเสียบทะลุหัวใจของเขาตกตายไปอย่างไม่ยินยอม

    เรนยะ : “เฮ้อ ! จบซะที”

    แต่เจ้าชินเรนที่ถูกเรนยะจับมัดเอาไว้กับต้นไม้ก็ได้ตื่นขึ้นมาเห็นฉากที่พ่อของมันถูกหอกสีแดงปาใส่จนทะลุหัวใจพอดีมันจึงได้ร้องตะโกนออกมาด้วยความเสียใจว่า

    ชินเรน : “ท่านพ่อ !!!”

    เรนยะที่ถึงกับเกือบจะลืมเจ้าชินเรนมันซะเสียสนิทก็ได้ทำการเรียกหอกเก โบลก์บินกลับมาที่มือของเขาก่อนที่จะคิดในใจอย่างหงุดหงิดว่า

    เรนยะ : (วันนี้เราแทงไปกี่ศพแล้วฟ่ะ ชักจะเบื่อแล้วนะเฟ้ย !!!)

    เจ้าชินเรนที่พยายามดิ้นให้หลุดจากเชือกแต่ก็ดิ้นไม่หลุดเสียทีมันก็ได้บังเอิญไปเจอเข้ากับร่างของผู้อาวุโสดารุมะที่ร่างกายเหือดแห้งถูกเสียบเอาไว้บนต้นไม้ประหลาดที่เรืองแสงสีฟ้าและพอมันได้มองรอบๆตัวของมันดีๆก็พบว่าทุกคนในตระกูลของมันบ้างก็ถูกแทงทะลุหัวใจบ้างก็ถูกกิ่งไม้แทงทะลุร่างแห้งเหือดอยู่บนต้นไม้บ้างก็กลายเศษเนื้อตามพื้นทำให้มันถึงกลับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว



    จนมีเสียงและคำพูดที่ชินเรนไม่มีวันลืมเรียกตัวของเขาดังขึ้น


    เรนยะ : “ไง . . ตื่นแล้วเหรอคุณสายเลือดคัดสรร”

    !!!

    ชินเรน : “ก . . แก ! นี่เป็นฝีมือของแกใช่ไหมไอ้บัดซบ !!!”

    ชิ้ง !!!

    ไม่รอฟังให้อีกฝ่ายด่าให้เสียเวลาเรนยะได้ทำการใช้หอกเก โบลก์ของเขาตวัดใช้คมหอกเชือดหลอดลมของชินเรนที่ถูกมัดติดกับต้นไม้เลือดกระฉูดจนมันหายใจไม่ออกเลือดท่วมปอดตายไป

    ติ้ง !!!

    เรนยะที่จัดการกับพวกตระกูลยาโตะจนหมดแล้วก็ได้ทำการเปิดระบบวีรชนของเขาขึ้นมาเช็คว่าตัวของเขาได้ตั๋วมากี่ใบ

    โดยเรนยะสามารถสรุปยอดตั๋วที่ได้รับด้งนี้

    -โคฮาดะ(ผู้นำตระกูลยาโตะ) 5ใบ (สายเลือด+คาเงะ)
    -ชินเรน 5ใบ (สายเลือดคัดสรร+จูนิน)
    -ดารุมะกับผู้อาวุโสทั้ง2คนรวมเป็น3คน 12ใบ (คนละ4ใบ)
    -นินจายาโตะขีดจำกัดสายเลือด(ลูกกระจ๊อก) 95คน
    (โดยมีนินจาที่เฝ้าตระกูล15คนที่โดนเรนยะเก็บไปพร้อมกับผู้อาวุโสทั้งสองตอนที่เขาบุกเข้าไปจับตัวเจ้าชินเรนที่ตระกูลยาโตะและ10คนที่แอบไล่ตามมาส่วนอีก70คนที่เหลือก็มาพร้อมกับผู้นำตระกูล) 285ใบ (คนละ3ใบ)

    สรุปว่าศึกเลือดล้างตระกูลในครั้งนี้เรนยะได้เล่นไล่แทงพวกตระกูลใหญ่อย่างพวกตระกูลยาโตะแห่งหมู่บ้านทากิด้วยหอกเก โบลก์ จนสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ทำให้ตัวเขาได้รับตั๋วมามากถึง307ใบถ้ารวมกับตั๋วที่เขามีอยู่แล้วก็หมายความว่าในตอนนี้เรนยะมีตั๋วมากถึง327เลยทีเดียว

    เรนยะ : “เฮ้อ ! อีก30คนที่เราฆ่าไปตอนบุกตระกูลยาโตะเป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่นินจาสินะเราก็เลยไม่ได้รับตั๋วแบบนี้”

    ความจริงแล้วคนในตระกูลยาโตะนั้นมีสมาชิกครอบครัวอยู่ทั้งหมดจำนวน130คนซึ่งเรนยะก็ได้ทำการสังหารทุกๆคนในตระกูลยาโตะจนหมดไม่มีใครรอดสักคนเพราะเขาจำเป็นจะต้องตัดไฟแต่ต้นลมถ้าปล่อยให้คนหนึ่งหนีรอดไปมันอาจจะสร้างปัญหาให้กับเขาในอนาคตก็ได้

    เรนยะได้ทำการยกเลิกคาถาพฤษาแสงของเขาทำให้ต้นไม้เรืองแสงค่อยๆย่อยสลายหายไปทำให้พวกศพแห้งกรังที่แขวนอยู่บนต้นไม้ล่นลงมาที่พื้น

    ก่อนที่เรนยะจะใช้สกิลลบตัวตนเพื่อเข้าไปที่ตึกใจกลางของหมู่บ้านทากิที่เป็นสถานที่เก็บคำภีร์วิชานินจาของหมู่บ้านเอาไว้

    เรนยะ : (ถ้าเราจำไม่ผิดเจ้าคาคุสึแห่งแสงอุษาก็ฝึกคาถาต้องห้ามที่แย่งชิงหัวใจของศัตรูมาต่อชีวิตให้กับตัวเองก่อนออกจากหมู่บ้านทากิแห่งนี้สินะเราลองไปหาดูก่อนดีกว่าเผื่อว่าจะเจอ)

    เรนยะที่ตามหาชีวิตอมตะเพื่อเอาชนะความตายซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของเขาตั้งแต่โลกเก่าแล้วทำให้เรนยะอยากจะลองศึกษาวิชาEarth Grudge Fearกับวิชาควักหัวใจของคาคุสึดูแต่เขาจะไม่ฝึกมันหรอกเขาแค่อยากจะรู้วิชานี้เฉยๆเผื่อว่าเขาจะสามารถดัดแปลวิชานี้ได้ก็เท่านั้น

    เมื่อเรนยะมาถึงตึกที่เก็บวิชานินจาของหมู่บ้านแล้วเขาก็ได้ทำการหาวิชาที่ว่าในทันทีแต่เขาก็พบว่าวิชาที่ตึกนี้มีก็แค่วิชานินจาระดับ B ทั่วๆไปเท่านั้นทำเอาเรนยะค่อนข้างที่จะอารมณ์เสียเลยทีเดียว

    เรนยะ : (บัดซบเอ้ย !!! อย่างที่คิดไม่มีวิชาEarth Grudge Fear แบบที่เจ้าคาคุซึมันใช้จริงๆหรือเนี่ยน่าเสียดายชะมัด)

    เนื่องจากในสมัยก่อนคาคุซึเขาได้รับภารกิจในการลอบสังหารเซนจูฮาชิรามะหรือโฮคาเงะรุ่นที่หนึ่งของโคโนฮะมาจากหมู่บ้านทากิแห่งนี้แต่แน่นอนว่าการลอบสังหารเทพเจ้านินจานั้นเป็นงานที่โครตจะยากทำให้คาคุซึทำภารกิจนี้ไม่สำเร็จทว่าบทลงโทษของหมู่บ้านทากิสำหรับคนที่ทำภารกิจล้มเหลวก็ไม่ใช่เบาๆ

    ซึ่งนั้นก็เป็นเหตุผลที่คาคุซึได้ทำการถอนตัวหนีออกจากหมู่บ้านนินจาทากิงาคุเระแต่ก่อนที่เขาจะทำการหลบหนีนั้นเขาก็ได้ทำการสังหารผู้อาวุโสของหมู่บ้านนี้ด้วยความเคียดแค้นก่อนจะจากมาพร้อมกับความลับของวิชานินจาต้องห้ามของหมู่บ้านอย่าง earth grudge fear (ใครแปลได้ก็ลองแปลเป็นไทยให้ดูหน่อย)

    เรนยะ : (เอาเถอะไม่มีก็ไม่มีเอาเป็นว่าเรารีบกลับก่อนดีกว่าอยู่นานไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรแถมถ้าโดนเจอตัวเข้าเดี๋ยวมันจะแย่ไปกันใหญ่ไอ้เราก็ยิ่งไม่ชอบเรื่องยุ่งยากอยู่ด้วย)

    เมื่อเรนยะได้เสร็จสิ้นธุระที่หมู่บ้านทากิแห่งนี้แล้วเขาก็ได้ทำการออกมาทันทีเพราะเดี๋ยวพวกนินจาทากิคนอื่นๆที่ยังเหลือรอดก็คงจะมาเก็บกวาดที่เหลือกันเองโดยเรนยะก็ได้นำตั๋วขึ้นเงินมาจากตระกูลยาโตะด้วยใบหนึ่งโดยเรนยะถือว่ามันเป็นค่าทำขวัญสำหรับเขาเรนยะไม่ได้งกเงินแต่อย่างใด

    หลังจากที่เรนยะจากไปได้ไม่นานพวกนินจาทากิที่เหลือก็ได้ทำการสำรวจที่เกิดเหตุทำให้พวกเขาค่อนข้างจะตกใจและก็สงสัยอยู่พอสมควรว่าพวกกบฏอย่างพวกตระกูลยาโตะถูกฆ่าตายได้ยังไงและเป็นฝีมือของใครกันแน่

    ----------- -------------

    เมื่อเรนยะได้ออกมาจากถ้ำน้ำตกแล้วนั้นเขาก็ได้รีบเดินทางกลับหมู่บ้านโคโนฮะในทันที

    โดยเรนยะเขาได้ใช้การกระโดดขึ้นต้นไม้เดินทางตามแบบฉบับของนินจาแต่เมื่อเรนยะเดินทางออกมาจากแคว้นทากิโนะคุนิได้สักระยะหนึ่งแล้วจู่ๆสัญชาตญาณของเขาก็ได้ร้องเตือนถึงอันตรายจากด้านซ้ายมือของเขา

    ทำให้เรนยะที่กำลังกระโดดเดินทางผ่านต้นไม้ได้ทำการกระโดดหลบออกมาทันที

    ฉึก !!!


    (แท่งเหล็กแบบนี้แหละหารูปยากมากเอาแบบนี้ไปละกันเรนยะไม่ได้โดนแทงนะ)


    เรนยะที่หลบออกมาได้เขาก็พบว่าสิ่งที่โจมตีตัวของเขานั้นก็คือแท่งเหล็กสีดำนั่นเอง

    เซตซึ : “ไง . . เจ้าหนู”

    !!!



    จู่ๆก็มีตัวประหลาดครึ่งขาวครึ่งดำโผล่ออกมาทักทายตัวของเรนยะจากลำต้นของต้นไม้ข้างๆทำให้เขาที่ยืนอยู่ที่กิ่งไม้ตกใจกระโดดหลบออกมาอีกครั้งพร้อมกับปาระเบิดควันใส่อำพรางเพื่อป้องกันการจู่โจมทีเผลอก่อนจะลงมาตั้งหลักที่พื้นดินด้านล่าง

    ภายในม่านควันด้านหน้าของเรนยะมีเสียงก้าวเดินของฝีเท้าดังออกมาอย่างชัดเจนจนเมื่อเจ้าของเสียงฝีเท้าได้เก้าออกมาจากม่านควันเผยให้เห็นตัวชัดๆแล้วนั้นมันก็ทำให้เรนยะถึงกับแอบสบถออกมาในใจเลยทีเดียว



    เรนยะ : (บัดซบ !!! ทำไมพวกมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน !!!)

    ในตอนนี้ไม่รู้ว่าเรนยะเขาคิดไปเองหรือเปล่าว่าในตอนนี้ในสายตาของเขามีตัวเลือกปรากฎขึ้นมาให้เขาเลือกอย่างกับในเกมส์เลยทีเดียว



    ท่านพบกับpainในป่า

    ท่านจะเลือกข้อไหน


    >>>[สู้]

    [หนี]

    [ขอเข้าแก๊ง]

    [สวดมนต์อ้อนวอน]

    [ปาเงินใส่]

    [เสี่ยงกดกาชา]

    [หนูเงียบจ๋า แขนต้องสาปจ๋า แม่จ๋า อาจารย์จ๋าทุกคนช่วยผมด้วย !!!]


    เรนยะ : . . . . . . (เอาไงกับโปเกมอนตัวนี้ดีฟ่ะเรา)


    ----------- -------------


    (ตอนเด็กๆยอมรับว่าไม่เข้าใจมุขนี้แต่พอโตขึ้นมาเท่านั้นแหละเล่นเอาตัวเราคิดขึ้นมาเลยว่ามุข *** อะไรเนี่ย !!!)


    True Wallet 0830743639
    ค่าน้ำอัดลม ขอบคุณผู้ติดตามด้วยครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×