ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบวีรชนข้ามโลกนินจา

    ลำดับตอนที่ #26 : ตอนที่ 26

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.21K
      1.36K
      5 ส.ค. 62

    หลังจากเหตุการณ์บุกจู่โจมโคโนฮะผ่านมาหนึ่งวันโฮคาเงะรุ่นที่3ได้ทำการจัดระเบียบและเริ่มซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายพร้อมทั้งประกาศวางมือจากตำแหน่งโฮคาเงะ

    ในตอนแรกที่ข่าวการสละตำแหน่งของโฮคาเงะรุ่น3กระจายไปทั่วหมู่บ้านถึงจะมีคนที่ตกใจอยู่บ้างแต่ส่วนมากก็เข้าใจเพราะรุ่นที่3ก็รักษาการณ์แทนรุ่นที่4ที่เสียชีวิตมาหลายปีแล้วแถมท่านก็ชรามากแล้วด้วยคงถึงเวลาอันสมควรที่จะส่งต่อให้รุ่นที่5เสียที

    เรื่องการหาผู้ที่เหมาะสมที่จะมารับตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นที่5กำลังเป็นที่ถกเถียงกันของพวกระดับสูงของหมู่บ้านโคโนฮะในตอนนี้

    ภายในห้องประชุมของระดับสูงของโคโนฮะมีคนอยู่4คนกำลังเสนอชื่อผู้เหมาะสมที่จะรับตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นที่5

    โดยคนทั้ง4นั้นก็คือ
    ซารุโทบิ ฮิรุเซ็น (รุ่นที่3)
    อุทาทาเนะ โคโฮรุ
    มิโตะคาโดะ โฮมุระ
    ชิมูระ ดันโซ

    ทั้ง4คนนี้ถือเป็นผู้อาวุโสที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงของหมู่บ้านโคโนฮะ

    แต่เดิมดันโซได้ถูกโฮคาเงะรุ่นที่3ลดบทบาทอำนาจทางการเมืองแถมยังถูกสั่งให้ยุบหน่วยรากไปแล้วเพราะรุ่นที่3ไม่พอใจในตัวของดันโซที่สั่งการสังหารตระกูลอุจิวะแต่เพราะตอนนี้หมู่บ้านโคโนฮะเรียกได้ว่ากำลังอยู่ในช่วงอ่อนแอทำให้รุ่นที่3จำเป็นต้องคืนอำนาจให้แก่ดันโซอีกครั้ง

    ถึงที่ผ่านๆมาปู่รุ่น3จะรู้มาตลอดว่าดันโซยังคงเก็บหน่วยรากของตนเอาไว้ไม่ยอมยุบหน่วยนี้ทิ้งตามคำสั่งและหลบซ่อนตัวอยู่ที่ชั้นใต้ดินของโคโนฮะแต่เพราะดันโซไม่ได้ทำอะไรเกินเลยเขาก็เลยยอมหลับตาข้างหนึ่งมาโดยตลอด

    โดยในการประชุมปู่รุ่น3 ได้เสนอชื่อลูกศิษย์ของเขาหนึ่งในสามนินจาในตำนานอย่าง จิไรยะ ซึ่งทั้งหมดก็เห็นชอบด้วยทำให้การประชุมจบลงได้ด้วยดีโดยระหว่างยื่นเรื่องโฮคาเงะคนใหม่ให้แก่ไดเมียวอนุมัติปู่รุ่น3ก็จะนั่งตำแหน่งต่อชั่วคราวระหว่างรอการแต่งตั้งรุ่นที่5

    แต่หลังจากที่ โคโฮรุ กับ โฮมุระออกไปกันแล้วนั้นดันโซก็ได้เรียกปู่รุ่น3เพื่อคุยกันต่ออีกเล็กน้อย

    ปู่รุ่นที่ 3 : “ยังมีอะไรอีกหรือ ดันโซ”

    ดันโซ : “เรื่องของเด็กที่ชื่อ อาคุสะ เรนยะ ฉันอยากจะให้เขาได้เข้าหน่วยราก ฉันจะฝึกให้เขาไว้ใจได้เอง”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “ไม่ได้เด็ดขาด !!! ฉันไม่อนุญาต เขาเป็นนินจาสายเลือดคัดสรรคนแรกของหมู่บ้านโคโนฮะ เป็นนินจาที่มีความสามารถพอที่จะเป็นเสาหลักได้คนหนึ่งในโคโนฮะเพราะฉะนั้นเรื่องที่จะให้เขาเข้าร่วมหน่วยรากคงจะเป็นไปไม่ได้”

    ดันโซ : “ซารุโทบิ !!! ตอนเรื่องของเด็กจิ้งจอกนั้นนายก็ปฏิเสธที่จะให้ฉันฝึกเขาพอมาตอนนี้นายยังจะขวางฉันอีกงั้นรึ”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “ฮึ่ม! ฉันคือโฮคาเงะรุ่นที่3ของโคโนฮะคำพูดของฉันถือเป็นที่สุด !!!”

    ดันโซ : . . . “ก็ได้แต่ถ้า อาคุสะ เรนยะตอบรับคำเชิญของฉันเองนายจะมาห้ามไม่ได้หรอกนะ ซารุโทบิ”

    ดันโซได้เปิดประตูออกจากห้องประชุมไปทิ้งให้ปู่รุ่น3กำลังทำหน้าเคร่งเครียดอยู่คนเดียวในห้อง

    ----------- -------------

    ในห้องผู้ป่วยพิเศษในหมู่บ้านโคโนฮะ

    หลังจากหลับไปหนึ่งวันเต็มบนเตียงผู้ป่วยเรนยะได้ฟื้นขึ้นมาแล้วแต่เขากลับยังรู้สึกเจ็บที่อักขระสาปที่ไหล่ขวาของตนอยู่แต่ก็ยังเป็นความเจ็บที่ตัวของเขายังทนได้ออกจะรู้สึกน่ารำคาญเสียมากกว่าด้วยซ้ำ

    พวกหน่วยอันบุที่เห็นว่า เรนยะฟื้นขึ้นมาแล้วนั้นก็ได้รีบไปรายงานท่านรุ่นที่3ทันที

    เรนยะได้นั่งสำรวจหน้าจอระบบของตนก็พบว่าเขาไม่ได้รับอะไรเลยเพราะในเหตุการณ์เมื่อวานนี้ตัวเขาไม่ได้ฆ่าใครเลยสักคนทำให้เรนยะไม่ได้รับตั๋วเลยแม้แต่ใบเดียว

    เรนยะ : “เห้อ ~ นำ้ตาจิไหลเจ็บตัวแถมยังไม่ได้อะไรอีกได้แต่ความสะใจล้วนๆ”

    เรนยะที่ว่างๆเลยลองคุยกับหนูเงียบผ่านตราเรย์จูเพราะว่ามีหน่วยอันบุคอยเฝ้าอยู่

    เรนยะ : (ความเงียบแขนต้องสาปเรื่องที่ผมให้พวกนายไปสืบได้เรื่องว่ายังไงบ้าง)

    แขนต้องสาป : (Master พวกข้าไปสืบมาแล้วดันโซไม่ได้เกี่ยวข้องกับแผนบุกหมู่บ้านนี้ด้วยแต่อย่างใดครับ)


    เรนยะ : (แล้วทำไมพวกหน่วยรากถึงไม่เคลื่อนไหวตอนที่หมู่บ้านถูกโจมตีกันละ)


    หนูเงียบ : (หลังจากที่ดันโซได้ยินเรื่องที่โคโนฮะถูบุกโจมตีมันก็ได้ออกคำสั่งไม่ให้คนในหน่วยรากออกไปปกป้องโคโนฮะเพราะมันไม่อยากจะเสียกองกำลังของมันไปค่ะ Master และพอรุ่นที่3ถามเรื่องนี้ดันโซก็ได้อ้างว่าได้ให้หน่วยรากของตนเฝ้าระวังหมู่บ้านอื่นที่อาจจะโจมตีโคโนฮะค่ะ)

    เรนยะ : (หึ ! ก็สมกับเป็นเจ้าแก่นั้นละนะแล้วหลังจากที่ฉันหลับไปมีอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง)

    หนูเงียบ : (หลังจากเหตุการณ์สงบลงแล้วก็ได้มีการประชุมหาโฮคาเงะรุ่นที่5ค่ะ Master ซึ่งเหล่าผู้อาวุโสได้เลือก จิไรยะ เป็นโฮคาเงะรุ่นที่5 และอีกเรื่องดันโซได้เสนอขอตัวท่านให้เข้าร่วมหน่วยรากแต่ก็ถูกรุ่นที่3ปฏิเสธไปแต่เขาก็ได้ตกลงกับรุ่นที่3ว่าถ้าท่านเข้าหน่วยรากด้วยตัวเองรุ่นที่3ก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามได้ค่ะ Master)

    เรนยะ : (เหอะ ! ฝันไปเถอะฉันไม่เข้าร่วมกับมันแน่เจ้าแก่นี่มันร้ายจะตายไป)

    ระหว่างที่เรนยะกำลังคุยกับ Servant ของตนนั้นจู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้นโดยมีปู่รุ่น3เข้ามาถามไถ่อาการด้วยความเป็นห่วง

    ปู่รุ่นที่ 3 : “เรนยะเจ้าเป็นยังไงบ้าง”

    เรนยะ : “ผมสบายดีครับแค่เจ็บแผลนิดหน่อย”

    เรนยะได้จับที่รอยอักขระสาปที่ไหล่ข้างขวาของตนเพราะยังคงรู้สึกเจ็บๆอยู่

    ปู่รุ่นที่ 3 : (โดนฝากอักขระอย่างที่คิดสินะแถมยังเป็นอักขระหยินหยางอีก) “เรนยะข้าจะให้คนมาช่วยผนึกมันให้เพราะฉะนั้นช่วงนี้เจ้าก็หยุดพักไปก่อนอย่าพึ่งใช้จักระไม่งั้นอาการมันจะกำเริบเอาได้”

    เรนยะ : “มันก็ไม่เจ็บมากขนาดนั้นหรอกครับแถมตอนนี้ผมก็หายแล้วด้วยผมขอกลับบ้านเลยได้ไหมครับปู่”

    ปู่รุ่น3ได้พยักหน้าตกลงเพราะอักขระสาปนี้ไม่อาจรักษาได้ถึงอยู่โรงพยาบาลต่อไปมันก็ไม่มีประโยชน์

    เรนยะ : “แล้วพวกเพื่อนๆผมพวกเขาปลอดภัยไหมครับปู่ทำไมไม่เห็นพวกเขามาเยี่ยมผมเลยละ”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงพวกเขาทุกคนปลอดภัยดีส่วนที่ไม่มีใครมาเยี่ยมเพราะข้าเป็นคนสั่งให้ไม่ให้ใครเข้าเยี่ยมเองแหละเพื่อความปลอดภัยของเจ้าละนะ”

    เรนยะ : “เห้อ ~ โล่งอกไปที”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “อืม ~ กลับบ้านไปพักผ่อนก่อนแล้วพรุ่งนี้ข้าจะเรียกตัวเจ้าอีกทีเพราะข้ามีเรื่องมากมายที่อยากจะถามเจ้า อีกสักพักหมอก็คงมาบอกให้เจ้าออกจากโรงพยาบาลได้ส่วนตัวข้าในตอนนี้คงต้องขอตัวไปจัดการธุระในหมู่บ้านต่อก่อนละนะ”

    และแล้วปู่รุ่น3ก็ได้จากไปโดยทิ้งหน่วยอันบุคอยดูแลเรนยะ 2 คนซึ่งเรนยะก็รู้ได้เพราะหนูเงียบได้บอกกับเขา

    เรนยะได้รอประมาณ 3นาทีคุณหมอก็ได้เข้ามาถอดสายน้ำเกลือให้และบอกเรนยะว่าเขาสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

    เรนยะได้ใช้สกิลลบตัวตนหายตัวไปในทันทีทำให้หน่วยลับจนปัญญาที่จะไล่ตามต่อทำได้แค่กลับไปรายงานโฮคาเงะรุ่นที่3เท่านั้น

    ----------- -------------

    ภายในป่านอกหมูบ้านโคโนฮะเรนยะได้ปรากฎตัวขึ้นหลังจากออกห่างจากหมู่บ้านมาได้พอประมาณ

    ไรโคได้โผล่ออกมากอดเรนยะด้วยความเป็นห่วงซึ่งเธอถึงกับร้องไห้โห่เลยทีเดียวแถมยังขอโทษที่เธอปกป้อง Masters ของเธอได้ไม่ดีพอทำเรนยะได้รับบาดเจ็บ

    เรนยะก็ได้บอกไปว่าเขาไม่เป็นอะไรและกอดปลอบคุณแม่ไรโคจนเธอหยุดร้องไห้สำเร็จซึ่งก็ใช้เวลานานพอดูกว่าเธอจะหยุดร้องไห้แถมยังต้องมาคอยลูบหัวหนูเงียบที่งอนเขาอีกที่ไม่ยอมใช้ตราเรย์จูเรียกเธอมาช่วย

    สุดท้ายพอ Servant ทั้งสองพอใจแล้วนั้นเรนยะก็ได้บอกให้พวกเขาช่วยเฝ้าระวังรอบตัวเขาถ้ามีใครใกล้ๆก็เตือนผ่านตราเรย์จูได้เลย

    หลังจากที่สั่งงานเสร็จแล้วเรนยะก็ได้ทำการลองใช้จักระดูก็พบว่าทุกครั้งที่เขาใช้คาถามันจะทำให้อาการเจ็บปวดของอักขระสาปเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทำให้เรนยะรู้สึกเซ็งเพราะเขาอุตส่าห์นึกการประสานธาตุเจ๋งๆได้แล้วแท้ๆ

    ในตอนแรกเรนยะตั้งใจจะลองค้นหาสมบัติที่มีคุณสมบัติต่อต้านคำสาปมาลองใช้สักชิ้นแต่เขาก็นึกไม่ออกว่าจะใช้อะไรดี


    นั่งคิดอยู่นานสุดท้ายเรนยะก็ได้ปิ้งไอเดียหนึ่งขึ้นมาเขาไม่รอช้าได้เปลี่ยนโฮกุของตนไปเป็น Knight of Owner เหมือนเดิมและเริ่มทำสิ่งที่เขาคิดทันที

    เรนยะได้ใช้ฝ่ามือของเขาจับที่อักขระสาปทันทีควันสีดำได้ไหลออกมาจากฝ่ามือของเรนยะและไหลเข้าไปในอักขระสาปทันที

    ผ่านไปสักพักเรนยะก็เหมือนจะรู้สึกว่าอักขระสาปได้เริ่มต่อต้านโฮกุของเขาและเหมือนว่าเรนยะจะรู้สึกอะไรบางอย่างในตราอักขระสาปได้เรนยะไม่รอช้าเขาได้ควบคุมโฮกุและดึงสิ่งนั้นออกมาทันที

    ฟุบ !!! ฟ่อ !!!

    สิ่งที่เรนยะดึงออกมาได้นั้นก็คืองูขาวที่เป็นเจตจำนงของโอโรจิมารุนั้นเองโดยเรนยะได้โยนงูตัวนั้นทิ้งไปทันทีและปามีดคุไนปักงูตัวนั้นจนแน่นิ่ง

    เรนยะ : “หึ ! น่าขยะแขยงชะมัด”

    หลังจากเรนยะได้กำจัดเจตจำนงของโอโรจิมารุไปแล้วนั้นเขาก็ได้ลองใช้โฮกุควบคุมอักขระสาปและฝังเจตจำนงของตัวเขาเองลงไปแทน

    หลังจากเจตจำนงของเรนยะได้เข้าไปในอักขระสาปแล้วเขาก็ให้คำสาปแสดงผลออกมา

    ฟู่ว ~

    อักขระได้เริ่มลามไปทั่วตัวของเรนยะทำให้ตัวเขาในตอนนี้ดูน่ากลัวแปลกๆ



    เรนยะได้ลองเปิดกางเกงของตนดูก็พบว่าอักขระมันลามไปถึงตรงส่วนนั้นเลยทีเดียว(ที่ต้นขาพอดีใส่ขายาว)

    เรนยะได้ลองเปิดหน้าต่างสถานะของตนออกมาดูก็พบว่าตัวเขาได้สกิลใหม่มาด้วย

    ชื่อ อาคุสะ เรนยะ
    เผ่าพันธุ์ : มนุษย์ครึ่งเทพสายเลือดเข้มข้น
    STR พละกำลัง : D+>>B+
    DFFความแข็งแกร่ง : D++>>B++
    AGIความว่องไว : D++>>B++ (สวมแหวน+1ระดับอยู่)
    MAGจักระ : B++
    LUCโชค : C+
    NP : Knight of Owner / อัศวินจักไม่สิ้นชีพขณะที่มือเปล่าประเภท : ต่อต้านบุคคล
    ระดับ : A++
    -ความสามารถในการเปลี่ยนสิ่งของที่ตนจับให้กลายเป็นสมบัติวีรชน ซึ่งสิ่งของที่ถูกจับนั้นจะมีระดับเท่ากับสมบัติวีรชนระดับ D และเมื่อจับอาวุธจะได้รับความสามารถในการใช้อาวุธชิ้นนั้นอย่างชำนาญ สิ่งที่จับจะกลายเป็นสีดำและแม้ว่าจะปล่อยมือจากสิ่งที่จับไปแล้ว มันก็จะยังคงเป็นของตนอยู่ระยะเวลาหนึ่งรวมทั้งคาถานินจาด้วย

    สกิล

    Independent Action A(Max) / ความเป็นอิสระระดับ A(สูงสุด)
    -ทำให้สามารถลดการใช้จักระได้ครึ่งหนึ่งและทำให้จักระฟื้นฟูเร็วมาก

    Golden Rule A(Max) / กฎแห่งทองคำ ระดับ A(สูงสุด)
    -เกิดมาเพื่อเป็นเศรษฐี ปัญหาเรื่องเงินไม่มีทางเกิดขึ้น

    Eye of the Mind(True) B /ตาแห่งดวงจิต(แท้) ระดับ B
    -ทำให้อ่านการเคลื่อนไหวล่วงหน้าของศัตรูได้และถ้าใช้จักระร่วมกับสกิลนี้จะสามารถมองทะลุภาพลวงตาได้

    Clairvoyance B / เนตรพันลี้ ระดับ B
    -สามารถมองเห็นเป้าหมายในระยะไกลหรือสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วๆได้ สามารถเห็นที่ซ่อนตัวของศัตรูได้และมองเห็นอนาคตล่วงหน้าได้ 1 นาที (เฉพาะในการต่อสู้)

    Hawk Eye B+ / ตาเหยี่ยว ระดับ B+
    -สามารถมองศัตรูจากมุมมองด้านบนเหมือนเหยี่ยวได้ใช้คู่กับ สกิลเนตรพันลี้ หรือ ตาแห่งดวงจิต ได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสกิล

    Territory of concealment A+(max) / อาณาเขต แห่ง การปกปิด ระดับ A+(สูงสุด)
    -ทำให้ตนเองและ Servant ได้รับสกิล Presence Concealment A+(Max) / การปกปิดตัวตน ระดับ A+(สูงสุด) ทำให้สามารถลบตัวตนออกไปอย่างสมบูรณ์ทั้งกลิ่นอายและจิตสังหารแต่ถ้าเริ่มโจมตีเมื่อไหร่สกิลนี้จะถูกยกเลิกทันที

    Protection from Arrow A(Max) / การป้องกันจากลูกศร ระดับ A(สูงสุด)
    -ป้องกันการโจมตีจากอาวุธระยะไกลทุกชนิดได้ (เฉพาะอาวุธ)

    Divinity A / ความเป็นเทพ ระดับ A
    -ความเป็นเทพจะทำให้ ความเสียหายที่ตนได้รับลดลงครึ่งหนึ่งทั้งยังป้องกันการโจมตีจากคาถาลวงตาทั้งหมดและการโจมตีของตัวเองจะมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าปกติ

    Instinct A(Max) / สัญชาตญาณ ระดับ A(สูงสุด)
    -สามารถรับรู้อันตรายได้ล่วงหน้าถึงแม้ว่าการรับรู้อย่างการมองเห็นหรือการได้ยินจะถูกรบกวน

    Charisma A / ความน่านับถือ ระดับ A
    -สามารถพูดปลุกใจเหล่าผู้คนและทำให้เป็นที่น่านับถือและถ้าพูดให้กำลังใจผู้คนที่กำลังตกอยู่ในคาถาลวงตาจะทำให้หลุดจากคาถาลวงตาได้

    Mad Enhancement E / ความบ้าคลั่งขาดสติ ระดับ E
    -เพิ่มสเตตัสทั้งหมดยกเว้นค่า Luck และ Mana หนึ่งระดับแลกกับความกระหายเลือดเมื่ออยู่ในสภาวะของอักขระสาป (เปิดใช้งานอยู่)

    ----------- -------------

    เรนยะ : “ไอ้ความกระหายเลือดเล็กๆน้อยๆนี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราเลยแม้แต่น้อยแต่เจตจำนงของตัวเรายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะใช้อักขระขั้นที่2กับ3ที่เป็นขั้นสมบูรณ์ได้สินะเนี่ยแต่แค่นี้ก็คงเกินพอแล้วละนะ”

    หลังจากพอใจแล้วเรนยะก็ได้ยกเลิกการใช้อักขระสาปทำให้ค่าสถานะของเขากลับไปเป็น ระดับ D เหมือนเดิม

    เรนยะได้เริ่มฝึกประสานคุณสมบัติธาตุทั้งสามอีกครั้งโดยกว่าตัวเขาจะฝึกสำเร็จก็ถึงเวลาตอนเย็นเสียแล้ว

    เรนยะที่เห็นว่าท้องฟ้ากลายเป็นสีส้มแล้วนั้นก็ได้ใช้สกิลลบตัวตนแล้วรีบกลับโคโนฮะทันทีเพราะถ้าเขาหายไปนานเดี๋ยวจะถูกสงสัยเอาได้

    โดยหลังจากเข้ามาในหมู่บ้านแล้วเรนยะก็ได้พบกับ เหล่าเพื่อนร่วมทีมของเขาครบเลยทั้ง อาจารย์เอรินะ อินามิ มากิ และคารินเป็นตัวแถม

    โดยเรนยะได้ปลดสกิลลบตัวตนแล้วเดินเข้าไปทักทั้ง4คนทันที

    เรนยะ : “ไงพวกเธอทุกคนปลอดภัยดีสินะ”

    !!!

    อินามิ : เรนยะ !!!

    มากิ / คาริน : เรนยะคุง !!!

    เอรินะ : เจ้าตัวแสบ !!!

    ทั้ง4คนได้วิ่งเข้ามาหาเรนยะด้วยความดีใจทำให้เรนยะถึงกับอมยิ้มในมิตรภาพของพวกเขาแต่พอพวกสาวๆเข้ามาถึงตัวเขาแล้วนั้นคำพูดแรกของพวกเธอนั้นหาได้ใช่คำถามความห่วงใยใดๆแต่เป็น

    4สาว : “เลี้ยงเนื้อย่างพวกเราซะดีๆ !!!”

    เรนยะ : “ห๊ะ !!!”

    ----------- -------------

    ในร้านเนื้อย่างพวกสาวๆได้สั่งอาหารกันไม่ยั้งชนิดที่ว่ากะจะกินกันให้อิ่มยันพรุ่งนี้

    อินามิ : “เอาเนื้อสันใน 7 ที่ค่ะ”

    คาริน : “เอาเนื้อขาแกะ 6 ที่ค่ะ”

    มากิ : “เอาชุดผักแบบพิเศษ 1 ชุดค่ะ”

    เอรินะ : “ส่วนฉันเอาเนื้อ A5 3 แล้วก็เบียร์สดอีกหนึ่ง”

    เรนยะ : (โอ๊ย ~ แต่ละอย่างแพงๆทั้งนั้นโดยเฉพาะเนื้อแกะให้ตายสิยัยพวกนี้เนี่ย)

    พนักงาน : “แล้วคุณผู้ชายจะรับอะไรดีครับ”

    เรนยะ : “ของผมเอาเป็นเนื้อหมัก 3ที่กับชาร้อนก็แล้วกันครับ”

    หลังจากสั่งอาหารรอบแรกกันเรียบร้อยแล้วทุกคนก็ได้ถามอาการของเรนยะทั้นทีเพราะตอนที่พวกเธอทุกคนไปเยี่ยมก็ได้ถูกหน่วยอันบุเข้ามาห้ามเอาไว้โดยบอกว่าเพื่อความปลอดภัยของเขาโฮคาเงะเลยสั่งให้งดการเยี่ยมไปก่อน

    เรนยะ : “ผมสบายดีครับไม่ต้องเป็นห่วง”

    เอรินะ : “ตอนแรกที่ฉันได้ยินว่าเธอไปช่วยท่านโฮคาเงะสู้กับโอโรจิมารุฉันน่ะตกใจมากเลยนะเจ้าตัวแสบให้ตายสิเธอนี่ชอบทำอะไรอันตรายแบบนี้ทุกทีเลยนะ”

    เรนยะ : “แหม ~ ก็ผมอยากช่วยปู่เขานี่ครับ”

    เอรินะ : “เห้อ ~ ช่างเถอะ แล้วโฮคาเงะได้คุยอะไรกับนายบ้างละ หืม ?”

    เรนยะ : “ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับแค่พรุ่งนี้เขาจะเรียกผมอีกทีน่ะ”

    เอรินะ : “งั้นหรือ . . . เรนยะต่อจากนี้เธอต้องระวังตัวแล้วนะข่าวที่ว่าเธอเป็นนินจาสายเลือดคัดสรรได้กระจายไปทั่วโลกนินจาเรียบร้อยแล้วเพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้ต่อไปต้องระวังตัวให้มากๆรู้ไหม”

    เรนยะ : “ไม่ต้องห่วงหรอกครับผมไม่เสียท่าให้ใครง่ายๆหรอกนะ”

    เอรินะ : “จ้าๆ พ่อจ้าวศาสตราวุธ สุดเก่ง”

    หลังจากคุยกันเรียบร้อยแล้ว ทั้ง4สาวก็ได้ลงมือทานและสั่งอาหารเพิ่มกันแบบไม่ยั้งซึ่งเรนยะนั้นตัวเขาอิ่มตั้งแต่ ชุดแรกแล้วเขาเลยต้องมองดู4สาวฟาดเนื้อย่างราคาแพงไปจานแล้วจานเล่าโดยเฉพาะคารินนั้นเธอกินเยอะที่สุดช่างสมเป็นตระกูลอุซึมากิจริงๆ

    เรนยะ : (คุณพนักงานครับคุณจูงวัวเข้ามาเลยก็ได้นะครับ ยัย4คนนี้ไปตายอดตายอยากมาจากไหนเนี่ย !)

    พอพวกสาวๆอิ่มกันแล้วนั้นเรนยะก็ต้องไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์

    พนักงาน : “ทั้งหมด 86,075 เรียวครับ”

    เรนยะ : (ค่าเจ็บตัวเกินครึ่งแสนเลยแหะสงสัยพรุ่งนี้เราต้องไปเบิกเงินเพิ่มซะแล้วสิเนี่ย)

    ถึงเรนยะจะมีเงินเยอะก็จริงแต่พอเห็นจำนวนเงินที่ใช้ไปมันก็ทำให้เขาก็รู้สึกปวดใจอยู่เหมือนกัน

    เรนยะได้จ่ายเงินให้พนักงานไปตามจำนวนเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วเรนยะก็ได้บอกลากับทุกคนเพราะตอนนี้มันก็เริ่มจะดึกมากแล้วเดี๋ยวไรโคจะไม่พอใจเอาที่เขานอนดึก

    เรนยะได้เดินกลับมาถึงห้องของเขาเรียบร้อยแต่ขณะที่กำลังไขกุญแจห้องจู่ๆหนูเงียบก็ได้บอกว่ามีคนแอบจับตาดูเขาอยู่ตรงตึกฝั่งตรงข้าม

    เรนยะเลยใช้เนตรพันลี้กับตาเหยี่ยวมองดูจากมุมมองด้านบนก็พบว่าคนที่แอบดูเขาคือหน่วยลับ2คนแต่พอเรนยะสังเกตทั้งสองคนดีๆแล้วนั้น

    เรนยะ : (หน่วยลับที่ใส่เสื้อกั้กตัวเล็กสีดำมีแถบขาดสีแดงใช้ดาบทันโตะ<ดาบสั้น>สองคนนั่นคงจะเป็นหน่วยรากสินะ)



    เรนยะได้ไขกุญแจเข้าห้องของเขาไปทำเหมือนว่าไม่รู้ตัวที่ถูกจับตามองแต่ความจริงแล้วเขาก็ยังคงมองหน่วยลับสองคนนั้นด้วยตาเหยี่ยวไม่คาดสายตา

    เรนยะ : แขนต้องสาปนายคอยเฝ้าเจ้าสองคนนั้นเอาไว้ถ้าพวกมันทำอะไรแปลกๆก็จัดการได้เลย

    แขนต้องสาป : (ครับ Master)

    เรนยะ : (เจ้าพวกนั้นคงถูกดันโซสั่งให้มาจับตาดูเราสินะคงจะไม่มีอะไรมากหรอกมั้ง)

    เรนยะได้อาบน้ำแล้วก็เข้านอนทันทีโดยคืนนี้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นตามที่เรนยะคาดเอาไว้

    ----------- -------------

    ในตอนเช้าเรนยะได้ตื่นขึ้นมาทำกิจวัตรตามปกติโดยในขณะที่เรนยะกำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่นั้นจู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูจากหน้าบ้านของเขา

    ก๊อกๆ

    เรนยะ : “เอ๋ ปู่รุ่น3มาเรียกแล้วเหรอนี่มันเช้าตรู่อยู่เลยนะ”

    เรนยะไม่ได้คิดอะไรมากเลยได้เดินไปเปิดประตูแต่คนที่เขาได้พบนั้นไม่ใช่หน่วยลับของปู่รุ่น3ที่มาเรียกเขาแต่เป็น ชิมูระ ดันโซ ที่มาพร้อมกับหน่วยรากสองคน

    เรนยะ : (เจ้าแก่นี่เองเหรอ) “เอ่อ . . คุณตาเป็นใครเหรอครับนี่มันยังเช้าอยู่เลยนะ”

    ราก 1 : “ไอ้หนูอย่าเสียมารยาทกับท่านดันโซท่านเป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้านโคโนฮะ”

    ดันโซได้ยกมือห้ามรากคนนั้นเอาไว้ก่อนที่จะเอ่ยปาก

    ดันโซ : “ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม อาคุสะ เรนยะ”

    เรนยะ : “เชิญครับ”(พวกแกต่างหากที่เสียมารยาทมาเคาะห้องชาวบ้านเขาแล้วยังมาทำเบ่งอีก)


    ถึงจะเรนยะจะแอบด่าเจ้าแก่ตรงหน้าในใจแต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงยิ้มแย้มและพูดเชิญคนทั้งสามเข้ามาในบ้าน


    ดันโซและรากทั้งสองคนได้เดินเข้ามานั่งที่ห้องรับแขกทันทีหลังจากได้รับอนุญาต

    เรนยะ : “แล้วสรุปพวกคุณมาทำอะไรที่บ้านผมตอนเช้าตรู่แบบนี้ละครับ”

    ดันโซ : “อาคุสะ เรนยะ เธออยากเข้าร่วมหน่วยลับไหม ?”

    เรนยะ : (หึ มาหลอกเด็กหรือยังไงหน่วยลับบ้าบออะไรกัน) “เอ่อ . . . ผมว่ามันคงจะไม่เหมาะหรอกนะครับ”

    ราก 1 : “นี่แกท่านดันโซอุตส่าห์มาชวนแกทั้งทีมีอะไรที่ไม่เหมาะสมกัน ห๊ะ !!!”

    ดันโซได้ยกมือห้ามอีกครั้งแล้วเริ่มชักชวน(หลอกเด็ก)เรนยะต่อทันที

    ดันโซ : “คนมีพรสวรรค์แบบเธอถ้าได้เข้าหน่วยลับละก็เธอจะได้รับทรัพยากรและอุปกรณ์การฝึกที่ทำให้เธอพัฒนาฝีมือมากขึ้นกว่าเดิมนะฉันว่ามันก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่จริงไหม”

    เรนยะ : “ขอโทษด้วยครับหน่วยลับมันไม่เหมาะกับตัวผมจริงๆ”

    ราก 2 : “แก !!!”

    ก๊อกๆ


    ในจังหวะที่นินจารากด้างข้างดันโซแสดงความไม่พอใจก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นเรนยะจึงได้ขอตัวไปดูมาใครมาอีก


    เรนยะ : “ขอตัวสักครู่ครับ”(อะไรนักหนาฟ่ะเนี่ยนี่มันตอนเช้าตรู่นะเฟ้ย !)

    เรนยะได้เดินไปเปิดประตูโดยมีดันโซตามมาด้วยและได้พบกับเอรินะและก็คาคาชิตรงหน้าประตูแต่เมื่อเรนยะกำลังจะเชิญทั้งสองเข้ามาจู่ๆคาคาชิก็พูดกับที่ดันโซด้านหลังเรนยะทันทีว่า

    คาคาชิ : “ท่านโฮคาเงะมีคำสั่งเรียกคงต้องขอพาตัวของเขาไปก่อนนะครับ”

    เอรินะ : “มานี่เร็วเข้า”

    เอรินะไม่พูดพร่ำทำเพลงดึงตัวของเรนยะออกมาทันทีทิ้งดันโซที่ทำหน้านิ่งเฉยเอาไว้ที่ประตูบ้านกับหน่วยรากอีกสองคน

    ราก 1 : “แบบนี้จะดีหรือครับท่านดันโซ”

    ราก 2 : “ในเมื่อใช้งานมันไม่ได้พวกเราก็ควรจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลมนะครับท่านดันโซ”

    ดันโซ : . . . “ไม่ . . ในตอนนี้เรายังไม่จำเป็นต้องรีบ”

    ----------- -------------

    บนหลังคาบ้านช่อง คาคาชิ เอรินะและก็เรนยะได้กำลังเดินทางไปที่สำนักงานโฮคาเงะผ่านทางหลังคาโดยระหว่างการเดินทางเอรินะได้ถามคำถามเรนยะ

    เอรินะ : “นี่ดันโซพูดอะไรกับเธอบ้าง”

    เรนยะ : “เขาเชิญผมเข้าร่วมหน่วยลับน่ะครับ”

    คาคาชิ : “เหมือนกันกับฉันสมัยก่อนสินะ”

    เอรินะ : “แล้วเธอตอบตกลงไปหรือเปล่า”

    เอรินะเริ่มจะหวั่นใจเพราะนินจาแทบทุกคนมีความใฝ่ฝันในการเข้าร่วมหน่วยลับหรืออันบุกันทั้งนั้นถ้าเกิดเรนยะตอบตกลงออกไปละก็ . . .

    เรนยะ : “หน่วยลับมันไม่เหมาะกับตัวผมหรอกครับผมก็เลยตอบปฏิเสธเขาไปน่ะ”

    เอรินะ : “เห้อ ! ดีแล้วละจากนี้ไปเธอต้องระวังชายคนนั้นให้ดีอย่าไปตกลงอะไรกับเขาง่ายๆเด็ดขาดเลยนะ”

    เรนยะ : “ ครับ ~ เข้าใจแล้ว ครับ ~”

    ทั้งสามได้เดินทางมาถึงสำนักงานโฮคาเงะเรียบร้อยคาคาชิได้เคาะประตูขออนุญาตเพื่อเข้าพบโฮคาเงะ

    ก๊อกๆ

    คาคาชิ : “ขออนุญาตครับ”

    คาคาชิได้เปิดประตูเข้าไปเรนยะก็พบว่าปู่รุ่น3กำลังนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ก่อนปู่แกจะหันไปถามทั้งสองคนว่า

    ปู่รุ่นที่ 3 : “เป็นยังไงบ้าง”

    คาคาชิ : “ทันเวลาครับ”

    เอรินะ : “เขายังไม่ได้ตอบตกลงแถมยังปฏิเสธคำชวนด้วยค่ะ”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “ดีแล้วละไม่นึกว่าดันโซจะลงมือเร็วขนาดนี้”


    ปู่รุ่น3ถึงกับถอนหายใจโล่งอกที่เรนยะยังไม่ถูกดันโซเอาตัวไป


    เรนยะ : “สรุปแล้วนี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ยปู่คนๆนั้นไม่ใช่หน่วยลับที่ปู่ส่งมาเชิญผมหรอกเหรอ ?”

    ถึงเรนยะจะรู้อยู่แล้วแต่ก็ต้องแกล้งถามไปก่อนเพื่อไม่ให้ผิดวิสัย

    ปู่รุ่นที่ 3 : “พวกเขาคือหน่วยลับที่ไม่ขึ้นตรงกับโฮคาเงะอย่างฉันภารกิจส่วนมากจะเน้นไล่ล่าสังหารและทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของโคโนฮะ”

    เรนยะ : “เห๋ ~ แปลว่าเขามาหลอกผมสินะครับ”

    เอรินะ : “โชคดีที่นายไม่ได้ตอบตกลงไปนะเจ้าตัวแสบ”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “เอาเถอะก็ดีแล้วละนะที่ตอบปฏิเสธไป คาคาชิช่วยผนึกอักขระสาปให้กับเรนยะเขาทีสิ”

    คาคาชิ : “ครับ”

    เรนยะ : “ไม่จำเป็นหรอกครับ”

    ???

    เรนยะไม่ปล่อยให้ทุกคนสงสัยนานนักเขาก็ได้เปิดใช้งานอักขระสาปทันทีทำให้อักขระลามไปทั่วตัวของเรนยะ

    !!!

    เอรินะ : “นี่ . . เธอ”

    คาคาชิ : “ควบคุมมันได้งั้นหรือ”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “แล้วมันมีผลกระทบอะไรกับตัวเจ้าบ้างละเรนยะ”

    เรนยะ : “ก็ความกระหายเลือดนิดหน่อยครับแต่ความกระหายเลือดแค่นี้มันเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับผม”


    ปู่รุ่น3ได้ถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดกับเรนยะว่า


    ปู่รุ่นที่ 3 : “เรนยะที่ข้าเรียกเจ้ามาในวันนี้เพราะว่าข้าอยากจะเตือนเจ้าเรื่องของดันโซและนอกจากนี้ข้ากะจะให้คาคาชิช่วยผนึกอักขระสาปให้เจ้าแต่มันก็คงไม่จำเป็นแล้วละนะแล้วอย่างสุดท้ายข้าเรียกเจ้ามาเพื่อรับรางวัลละนะแต่เพราะตอนนี้ทางโคโนฮะต้องใช้เงินทุนในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายทำให้ไม่อาจมอบเงินเป็นรางวัลแก่เจ้าได้ข้าก็เลยอยากจะถามว่าเจ้ามีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษไหม”

    เรนยะ : “ปู่มีพวกม้วนคำภีร์คาถาไม้เก็บเอาไว้บ้างรึเปล่าครับ”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “ไอ้มีมันก็มีอยู่หรอกแต่เจ้า . . . หรือว่าเจ้าสามารถใช้คาถาไม้ได้รึเรนยะ !!!”

    เรนยะได้ยิ้มแล้วแบมือออกมาแล้วแสดงการหลอมรวมของดินกับนำ้เกิดเป็นต้นไม้ต้นเล็กๆขึ้นบนฝ่ามือทำให้ทุกคนในห้องตกใจกันมาก

    !!!

    คาคาชิ : “ไม่น่าเชื่อว่านอกจากจะใช้คาถานำ้แข็งได้แล้วเธอยังจะใช้คาถาไม้ได้อีก”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ”

    ตั้งแต่ที่เซนจู ฮาชิรามะหรือโฮคาเงะรุ่นแรกได้เสียชีวิตลงทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหมู่บ้านโคโนฮะได้ถดถอยลงอย่างเห็นได้ชัดการตายของท่านรุ่นแรกทำให้หมู่บ้านอื่นเห็นโอกาสจึงบุกโจมตีโคโนฮะจนเกิดเป็นสงครามโลกนินจาครั้งที่3แต่ในสงครามครั้งนั้นชื่อเสียงของโฮคาเงะรุ่นที่4ก็ได้เริ่มโด่งดังขึ้นจนหมู่บ้านนินจาอื่นไม่กล้าทำสงครามด้วยทำให้เกิดสนธิสัญญาสงบศึกขึ้นมาแต่สุดท้ายรุ่นที่4ก็ได้เสียชีวิตลงในเหตุการณ์จิ้งจอกเก้าหางอาละวาดเมื่อ12ปีก่อน

    การตายของรุ่นที่4ทำให้หมู่บ้านถดถอยลงอีกครั้งแต่เพราะสนธิสัญญาที่ทุกหมู่บ้านลงนามเอาไว้ทำให้สงครามดำเนินในรูปแบบการสอบจูนินแทนแต่พอเกิดเหตุการณ์ที่หมู่บ้านซึนะฉีกสัญญาบุกจู่โจมหมู่บ้านโคโนฮะในครั้งนี้มันจึงทำให้ปู่รุ่น3รู้สึกกังวลว่าหมู่บ้านอื่นก็อาจจะฉีกสนธิสัญญาสงบศึกด้วยเหมือนกัน

    เพราะแบบนั้นรุ่นที่3จึงดีใจมากที่เห็นเรนยะสามารถใช้คาถาไม้ได้เพราะตั้งแต่รุ่นแรกตายไปเขาก็ไม่เคยได้เห็นคาถาไม้อีกเลยเพราะที่โฮคาเงะรุ่นแรกถูกขนานนามว่าเทพเจ้านินจาก็เป็นเพราะคาถาไม้ของท่านนั้นเอง

    เอรินะ : “ท่านโฮคาเงะค่ะแบบนี้ . . .”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “อืมคงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับละนะถึงตอนนี้ตัวของเขาจะเป็นที่รู้จักในชื่อ จ้าวศาสตราวุธ แล้วก็ตามแต่ถ้าเกิดมีข่าวว่าเขาสามารถใช้คาถาไม้ได้อีกมันอาจจะทำให้เขาเป็นอันตรายได้”

    คาคาชิ : “พวกนินจาหมู่บ้านอื่นคงไม่ยอมอยู่เฉยแน่นอนถ้าเกิดว่าเรื่องนี้หลุดออกไปพวกมันจะต้องหาทางกำจัดเด็กคนนี้ก่อนที่เขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นเสี้ยนหนามของพวกมันเป็นแน่”

    เรนยะ : “ก็ผมเคยบอกไปแล้วนี่ครับว่าผมใช้ทุกคาถาได้ถ้าผมตั้งใจจะฝึกจริงๆละก็นะแถมตอนนี้ผมได้ขีดจำกัดสายเลือดที่เหนือกว่าคาถาไม้มาเรียบร้อยแล้วด้วยละครับ”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “โฮ่ ~ มันคืออะไรงั้นหรือเรนยะ”

    เรนยะได้เพิ่มคุณสมบัติธาตุสายฟ้าใส่ต้นไม้บนฝ่ามือทำให้รูปร่างของต้นไม้เปลี่ยนไปจากเดิมโดยใบไม้ได้หายไปและต้มไม้ทั้งต้นได้เรืองแสงสีฟ้าออกมาแถมกิ่งก้านก็มีความแหลมคมราวกับว่าสามารถเจาะทะลวงได้ทุกสิ่ง



    ทุกคนสามารถสัมผัสได้ทันทีว่าคาถาไม้แบบใหม่นี้มันไม่ธรรมดา

    คาคาชิ : “นี่มันคาถาอะไรกัน !”

    เอรินะ : “นี่เธอสร้างสายเลือดรูปแบบใหม่ขึ้นมาหรือเนี่ย !”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “อืม ~ แม้แต่ข้าก็ไม่เคยเห็นแต่จากที่ดูแล้วคาถาไม้นี่คงเป็นขีดจำกัดสายเลือดแบบใหม่แน่ๆ”

    เรนยะ : “ผมเรียกมันว่า พฤษาแสง เป็นการนำคุณสมบัติธาตุสายฟ้าหลอมรวมเข้ากับคาถาไม้อีกทีผมแอบฝึกสำเร็จโดยบังเอิญเมื่อวานนี้เองครับ”

    ปู่รุ่นที่ 3 : “ข้าเข้าใจแล้วพวกคำภีร์คาถาไม้ข้าได้เก็บมันเอาไว้ในห้องลับของข้าเดี๋ยวข้าจะให้เอรินะนำมามอบให้กับเจ้าอีกทีหนึ่งนะเรนยะ”

    เรนยะ : “ครับปู่”


    ปู่รุ่นที่ 3 : “งั้นคำถามสุดท้ายผู้หญิงคนนั้นที่สู้กับท่านรุ่นที่1และรุ่นที่2เธอเป็นใครกันแน่เรนยะ”


    คาคาชิเองก็อยากรู้เช่นกันว่าผู้หญิงคนนั้นที่แข็งแกร่งถึงขนาดสู้กับโฮคาเงะรุ่นก่อนทั้งสองได้นั้นเป็นใครกันแน่เช่นเดียวกันกับเอรินะที่อยากรู้เหมือนกันเพราะเธอก็ได้ยินเรื่องนี้มาจากคาคาชิ


    เรนยะ : “เธอเป็น . . จะว่ายังไงดีละก็ . .คล้ายๆกับคาถาอัญเชิญของผมน่ะครับ”


    ปู่รุ่นที่ 3 : “หมายความว่ายังไงที่ว่าคล้ายคาถาอัญเชิญน่ะเรนยะ”


    เรนยะ : “ไรโคช่วยออกมาหน่อยสิครับ


    หลังจากที่เรนยะเอ่ยเรียก ไรโคเธอก็ได้โผล่ออกมาจากอากาศข้างๆตัวของเรนยะทันทีสร้างความตกใจให้แก่ทั้งสามคนมาก


    !!!


    คาคาชิ : (เธอปรากฎตัวออกมาดื้อๆโดยที่เราและท่านโฮคาเงะไม่รู้ตัวเลยหรือเนี่ยแถมเด็กนี่ยังไม่ได้ประสานอินใช้คาถาอัญเชิญด้วยซ้ำ)


    เอรินะ : (นี่สินะผู้หญิงปริศนาที่พวกหน่วยลับลือกันว่าเธอแข็งแกร่งถึงขนาดรับมือกับสองโฮคาเงะได้)


    ปู่รุ่นที่ 3 : (ย . . . ย . . ใหญ่มาก)


    ปู่รุ่น3สมเป็นอาจารย์ของตัวลามกอย่างจิไรยะจริงๆจ้องดึ๋งๆของไรโคตาไม่กระพริบเลยทีเดียว


    เรนยะ : (เห้ยๆ มองตรงไหนอยู่น่ะแล้วนั้นเลือดกำเดาไหลแล้วนะปู่ . . .)


    ไรโค : “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะตัวฉันมีชื่อว่า มินาโมโตะ ไรโค ขอบคุณที่คอยดูแล Master มาตลอดนะคะ”


    เอรินะ : “นี่ . . เธอทำสัญญาอัญเชิญกับมนุษย์งั้นหรือเนี่ย !”


    เรนยะ : “จะว่าแบบนั้นก็ได้แต่ผมกับไรโคอยู่กันเหมือนแม่ลูกเสียมากกว่าน่ะโดยเธอจะคอยอยู่ข้างๆตัวผมเสมอและอีกอย่างเธอไม่ใช่มนุษย์แท้ๆหรอกนะครับ”


    คาคาชิ : “หมายความว่ายังไงที่บอกว่าเธอไม่ใช่มนุษย์แท้ๆน่ะ”


    เอรินะ : “ดูยังไงเธอก็เป็นมนุษย์ปกตินี่นา เรนยะ”


    เรนยะ : “เธอเป็นลูกครึ่งยักษ์น่ะครับ”


    !!!


    ทุกคนดูจะตกใจมากที่หญิงสาวคนนี้เป็นเผ่ายักษ์ต้องรู้ก่อนนะว่าสัตว์อัญเชิญที่มีสติปัญญาถึงขนาดสามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้นั้นนับว่าหาได้ยากมากในโลกนินจาแห่งนี้


    เรนยะ : “นี่ปู่ผมขออนุญาตให้ไรโคอาศัยอยู่ในโคโนฮะด้วยได้ไหมครับ”


    ปู่รุ่นที่ 3 : “ ด . . ได้สิเดี๋ยวข้าจะแจ้งให้นินจาทุกคนทราบเรื่องของเธอเองเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง”


    ไรโค : “ขอบคุณมากนะคะท่านโฮคาเงะ ฮุ ฮุ ทีนี้ก็จะได้นอนกอดเด็กน่ารักคนนี้โดยไม่ต้องหลบซ่อนตัวเสียที”


    ปู่รุ่น3ที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าแบบว่าอิจฉาเรนยะสุดๆที่มีคุณแม่สุดเซ็กซี่คอยเอาอกเอาใจแบบนี้


    เรนยะ : “แต่ว่าชุดเกราะของคุณไรโคมันเด่นสะดุดตาเกินไปเดี๋ยวพวกเราไปซื้อเสื้อผ้ากันนะครับไรโค”


    ไรโค : “ข้าจะรอนะคะ Master”


    หลังจากพูดคุยกันเรียบร้อยแล้วไรโคเธอก็ได้กลายเป็นร่างวิญญาณตามเดิมหายตัวไปต่อหน้าทั้งสามคน


    คาคาชิ : (หายไปแล้วสัมผัสอะไรไม่ได้เลย)


    คาคาชิถึงกับทึ่งในตัวของไรโคที่สามารถลบร่องรอยได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้


    เอรินะ : “นี่เจ้าตัวแสบนอกจากเหนือจากนี้เธอยังมีความสามารถอะไรซ่อนอยู่อีกไหม ?”

    หลังจากเอรินะถามคำถามนี้ทั้งปู่รุ่น3และก็คาคาชิถึงกับตั้งตารอฟังคำตอบของเรนยะอย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว

    เรนยะได้ยิ้มออกมาก่อนจะเปิดเกทตรงหน้าของตนเป็นคำตอบ

    ทั้งสามคนเห็นว่าตรงหน้าเรนยะได้มีประตูมิติสีทองโผล่ออกมาและจู่ๆประตูมิติก็มีพวกสมบัติแก้วแหวนทองคำไหลออกมาจากประตูมิติจำนวนมากจนสมบัติเต็มห้องของสำนักงานโฮคาเงะเลยทีเดียว

    !!!

    เอรินะ : “น . . นี่มัน”

    ทั้งสามได้หันไปมองเรนยะซึ่งเรนยะก็ยิ้มให้ทั้งสามก่อนจะบอกไปว่า

    เรนยะ : “ผมรวยครับ”



    (แต่ไรท์จน)


    True Wallet 0830743639

     ขอบคุณผู้ติดตามและผู้สนับสนุนด้วยครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×