คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #129 : ภาคสัตว์หางพันธุกรรม ตอนที่ 43
เรนยะสงบใจของตัวเองลงเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการสร้างห้องลับใต้ดินในการเก็บร่างโคลนของสัตว์หาง
“มาขุดห้องใต้ดินกันดีกว่า”
หลังมื้ออาหารเรนยะก็ได้มาที่หลังบ้านก่อนที่จะทำการใช้คาถาดินเคลื่อนแกนโลกในการขุดโพรงขนาดใหญ่ใต้พื้นดินของตัวบ้านและเข้าไปในโพรงที่พึ่งขุดด้วยคาถามิติข่ายเทพอัสนี
เนื่องจากห้องลับใต้ดินของเรนยะนั้นไม่มีทางเข้าแบบปกติฉะนั้นวิธีเดียวที่จะเข้ามาได้ก็คือใช้การเคลื่อนย้ายด้วยคาถามิติเท่านั้นเพราะห้องลับใต้ดินแห่งนี้เรนยะคิดที่จะใช้เป็นสถานที่ทดลองบางอย่างนอกเหนือจากเป็นที่อยู่ของพวกร่างโคลนนิ่งสัตว์หางเช่นกัน
“ต่อไปก็เสริมห้องลับใต้ดินด้วยคาถาสผนึกเพื่อป้องกันจักระของสัตว์หางรั่วไหลออกไปสู่ภายนอกเท่านี้ก็เรียบร้อย”
เมื่อเตรียมห้องใต้ดินเสร็จแล้วเรนยะก็ไม่รอช้าทำการสื่อสารกับคุณเอมิยะผ่านตราเรย์จูทันที
“ทางผมเรียบร้อยแล้วครับคุณเอมิยะ”
“รับทราบ Master”
สิ้นคำตอบรับของเอมิยะภายห้องใต้ดินที่เรนยะพึ่งขุดเสร็จก็เกิดแสงสว่างจ้าก่อนที่จะปรากฏร่างเหล่าโคลนของสัตว์หางทั้ง 4 ตัวพร้อมกับวีรชนอีก 1
“เหนื่อยหน่อยนะครับ”
“ไม่เท่าไหร่หรอก Master”
เอมิยะที่เห็นว่ามันมืดเกินไปเขาจึงได้สร้างไฟฉายขึ้นมาส่อง
“ดูท่าคงต้องสร้างระบบไฟฟ้าแก่ห้องลับนี้เพิ่มซะแล้วนะ Master”
“งั้นฝากด้วยนะครับคุณเอมิยะ”
เมื่อสัตว์หางมีที่อยู่เป็นที่เป็นทางแล้วเรนยะก็ได้ทำสัญญาอัญเชิญแก่เหล่าร่างโคลนสัตว์หางเพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งานในอนาคต
ส่วนม้วนเซ็นสัญญาโลหิตนี่แต่เดิมเรนยะเตรียมเอาไว้สำหรับน้องเสือดำอย่างทีชาล่าในวันพรุ่งนี้แต่ด้วยเหตุสุดวิสัยจึงได้ใช้งานก่อนเวลาซะงั้น
“ความรู้สึกนี้มัน . .”
จู่ๆภายในอกของเรนยะก็เกิดร้อนรุ่มเขาจึงได้หลับตาตั้งสมาธิก่อนที่จะเข้ามายังโลกแห่งจิตใจของตัวเองอีกครั้ง
“เกิดอะไรขึ้น ?”
เมื่อมาถึงเรนยะก็ถามอังรีเมนยุทันที
“ดูเอาเองสิเจ้านาย”
!!!
เบื้องหน้าของเรนยะในตอนนี้นั้นได้มีจอกทองคำขนาดยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่ซึ่งตามความทรงจำของเรนยะก่อนหน้านั้นจอกศักดิ์สิทธิ์ในตัวเขามันไม่ได้มีขนาดใหญ่แบบนี้
“นี่มัน มหาจอกศักดิ์สิทธิ์ !!!”
มหาจอกหรือที่เรียกว่า Great Holy Grail คือจอกศักดิ์สิทธิ์ที่สะสมเวทมนตร์มาเป็นระยะเวลานานจนมีขนาดใหญ่ขึ้นมันสามารถดลบันดาลได้ทุกคำขออย่างแท้จริง
ถึงจอกศักดิ์สิทธิ์จะดลบันดาลได้ทุกคำขอเหมือนกันทว่าที่จริงแล้วขอบเขตของมันขึ้นอยู่กับปริมาณเวทมนตร์ของจอกศักดิ์สิทธิ์ต่างหาก
ถ้าเรนยะขอให้มนุษยชาติเป็นอมตะด้วยจอกศักดิ์สิทธิ์คำขอนี้จะไม่ได้รับการตอบสนองเนื่องจากจอกศักดิ์สิทธิ์นั้นมีอำนาจไม่เพียงพอซึ่งผิดกับมหาจอกที่สามารถตอบสนองคำขอที่ครอบคลุมผู้คนทั้งโลกได้
ทำไมจู่ๆจอกมันถึงใหญ่ขึ้นได้กัน ?
“นายปิดบังอะไรฉันอยู่รึเปล่า”
เรนยะหันไปมองอังรีเมนยุด้วยสายตากดดัน
“มันก็ไม่ใช่ความลับอะไรหรอกนะ ~”
“ตอบมาซะ !”
“ก็ได้ๆ”
อังรีเมนยุได้อธิบายว่ากระบวนการที่เรนยะมายังโลกนี้ได้ทำให้ร่างกายดังเดิมของเขาสลายไปเนื่องจากร่างของคนธรรมดาไม่อาจทนผลกระทบในการข้ามมิติได้นั่นจึงทำให้เรนยะมายังโลกนี้ในฐานะของดวงวิญญาณที่ไร้ซึ่งร่างกายและอนุสติ
ฉะนั้นอังรีเมนยุจึงได้ใช้จอกศักดิ์สิทธิ์สร้างร่างกายใหม่ให้แก่เรนยะโดยจอกศักดิ์สิทธิ์ก็ได้เลือกสำเนาร่างกายที่ดีที่สุดให้ซึ่งต้นแบบร่างกายของเรนยะก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกเสียจากราชาวีรชนอย่าง กิลกาเมซ
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรนยะนั้นมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับป๋าตู้ทองแบบที่เห็นกัน
“งั้นก็หมายความว่าร่างกายนี้คือการก่อร่างของโคลนดำที่เป็นดังคำสาปจากจอกศักดิ์สิทธิ์โดยมีสำเนาของราชาวีรชนเป็นต้นแบบงั้นสินะ”
“แม่นแล้ว ~”
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงคนที่ทำให้จอกศักดิ์สิทธิ์ปนเปื้อนอย่างอังรีเมนยุก็คงไม่ต่างจากพ่อผู้ให้กำเนิดตัวเรนยะเท่าไหร่นัก
“ถึงว่าทำไมพิษของฮัซซันถึงไม่ส่งผลกระทบกับฉัน”
ก็ร่างกายนี้มันโคตรพ่อโคตรแม่ของคำสาปชนิดที่ว่ายาพิษยังอายเลยนี่นะ
“พอรู้แล้วมันน่าคลื่นไส้ชะมัด . .”
ในอีกทางหนึ่งตัวเรนยะกับจอกศักดิ์สิทธิ์ก็เปรียบเสมือนแม่ลูกที่เชื่อมต่อกัน
จึงไม่แปลกที่เมื่อเรนยะแข็งแกร่งขึ้นเครื่องบรรลุความปรารถนาอย่างจอกศักดิ์สิทธิ์เองก็ยิ่งเพิ่มพูนอำนาจของปาฏิหาริย์ของมันด้วยเช่นเดียวกัน
“แบบนี้ก็แปลว่าตอนนี้ฉันสามารถใช้งานจอกศักดิ์สิทธิ์เพื่อบรรลุความปรารถนาได้แล้วสินะ”
“ใช่แต่ตอนนี้มหาจอกยังสะสมพลังไม่เพียงพอถ้าใช่งานมันตอนนี้มันก็จะกลับไปเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาตามเดิม”
เรนยะเกิดความลังเลในตอนนี้ถ้าเขาอยากบรรลุความเป็นอมตะหนทางที่จอกศักดิ์สิทธิ์จะดลบันดาลให้ก็คงไม่พ้นเปลี่ยนร่างกายของเขาให้เป็นจิตวิญญาณแบบเดียวกับพวก Servant ที่ไม่มีขีดจำกัดด้านอายุขัย
แต่ในอีกทางหนึ่งเรนยะก็จะไม่สามารถพัฒนาขีดความสามารถของตัวเองได้อีกแล้วเช่นกันแถมในสถานะของจิตวิญญาณเองก็ใช่ว่าจะเป็นอมตะจริงๆเพราะยังสามารถโดนฆ่าหรือจับผนึกได้
ซึ่งมันไม่ใช่ชีวิตนิรันดร์ที่สมบูรณ์แบบจริงๆ
“น่าเสียดาย . .”
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมโลกแห่งจิตใจของเรนยะถึงได้ดำมืดแบบนี้เพราะสีดำเหล่านี้ก็คือคำสาปที่เป็นดังเปลือกที่บดบังโลกแห่งจิตใจที่แท้จริงของเขานั่นเอง
ในอีกนัยหนึ่งถ้าเรนยะสามารถฉีกกระชากเปลือกนี้ทิ้งไปได้เขาจะได้พบกับแก่นแท้ของตัวเอง !!!
ถ้าเรนยะค้นหาแก่นแท้ของตัวเองได้ความแข็งแกร่งของเขาย่อมพุ่งทะยานอย่างแน่นอนเพราะขนาดเอมิยะ ชิโร่ที่เป็นจอมเวทชั้นสามที่แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีคุณสมบัติของจอมเวทหลังจากค้นพบว่าแก่นแท้ของตัวเองนั้นคือดาบเจ้าตัวก็ถึงขั้นสามารถเปิดใช้Reality Marble ที่เป็นศาสตร์เวทต้องห้ามที่มนุษย์ไม่อาจครอบครองได้ในรูปแบบของ Unlimited Blade Wokes จนเอาชนะราชาวีรชนอย่างกิลกาเมซในสงครามแจกศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 5 มาได้ในที่สุด
“นายเคยบอกว่าอยากทำสัญญาเป็น Servant ของฉันงั้นสินะ”
“ใช่”
“ฉันตกลง”
เมื่อเรนยะตกลงที่จะทำสัญญาอังรีเมนยุก็แอบแสยะยิ้มออกมาในใจเพราะเท่านี้ตัวเขาก็สามารถออกไปข้างนอกได้แล้ว
ส่วนที่เรนยะตกลงนั้นก็ไม่ใช่อะไรนอกเสียจากต้องการกันตัวอังรีเมนยุให้อยู่ห่างจากมหาจอกเพราะความไม่ไว้ใจ
ถึงอังรีเมนยุจะเคยบอกว่าเจ้าตัวไม่อาจใช้งานจอกศักดิ์สิทธิ์ได้แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดจะเป็นความจริงเพราะเรนยะไม่สามารถมองออกได้
หมอนี่อาจจะรอเวลาที่มหาจอกศักดิ์สิทธิ์สะสมพลังเพื่อบรรลุความปรารถนาบางอย่างก็เป็นได้
ตราเรย์จูที่หลังมือของเรนยะเรืองแสงซึ่งกระบวนการทำสัญญาราบรื่นดีในตอนนี้อังรีเมนยุก็เป็น Servant ของเรนยะเรียบร้อยแล้ว
“ในที่สุดก็ยอมรับพ่อแล้วสินะลูกชาย”
ชิ้ง !!!
เพียงพริบตาที่อังรีเมนยุเอ่ยออกมาเขาก็พบว่าเรนยะได้จ่อดาบมาที่หอหอยของเขาเสียแล้ว
“ฉันไม่ใช่ลูกของแกจำใส่สมองเอาไว้ด้วย Avenger”
“แค่ล้อเล่นเองน่า Master”
เห็นท่าทางยอมแพ้ของอีกฝ่ายเรนยะก็ถอนดาบออกก่อนที่จะออกจากโลกแห่งจิตใจของตัวเอง
“Master ?”
ภายนอกเอมิยะที่เห็นเรนยะนิ่งไปก็เลยเอ่ยเรียกก่อนที่จะสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ
!!!
โดยไม่ทันได้ตั้งตัวก็มีบางสิ่งปรากฎออกมาจากเงาของเรนยะแล้วตะครุบขึ้นคร่อมร่างของเอมิยะเอาไว้
“อังรีเมนยุ !!!”
“ไงไม่เจอกันนานนะเอมิยะ ชิโร่”
(ลง)
กว่ามันจะออกมาได้หมดค่า Friend Point ไปตั้งเท่าไหร่เห็นใจ Master นักสะสมอย่างเราบ้างสิเจ้าอังรีเมนยุ (มันออกมาซะที)
ความคิดเห็น