ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบวีรชนข้ามโลกนินจา

    ลำดับตอนที่ #119 : ภาคสัตว์หางพันธุกรรม ตอนที่ 34

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.53K
      364
      10 ม.ค. 64

        ตูม !!!

        

        บนท้องฟ้าตอนนี้เดอิดาระกำลังลองเชิงศัตรูด้วยระเบิดดินเหนียว C1 แต่ทว่าทุกครั้งที่เขาส่งระเบิดดินเหนียวออกไปทีไรก็จะถูกลูกธนูของอีกฝ่ายสอยล่วงเป็นว่าเล่นทุกที

        

        แบบนี้คงต้องใช้ C2 ไม่สิต้อง C3 อืม ~”

        

        เดอิดาระวิเคราะห์อัตราการยิงของอีกฝ่ายก่อนที่จะตัดสินใจใช้วิชาที่รุนแรงขึ้น

        

        ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้เตรียมดินเหนียวมาเพิ่มก็คงดีอืม ~”

        

        เพราะยิ่งระเบิดรุนแรงมากเท่าไหร่เดอิดาระก็ยิ่งต้องใช้ปริมาณดินเหนียวมากขึ้นเท่านั้น

        

        คราวนี้เดอิดาระไม่ได้พกดินเหนียวมาเยอะนักเพราะงานในครั้งนี้คือจับสถิตย์ร่าง 2 หางที่อ่อนแอกับสถิตย์ร่าง 8 หางที่บาดเจ็บหนักแถมยังมีคู่หูอมตะมาเสริมด้วยอีกจึงทำให้ตอนนี้เดอิดาระนั้นมีดินเหนียวไม่มากนัก

        

        มาวัดกันเลยว่าดินเหนียวของฉันหรือลูกธนูของแกจะหมดก่อนกันอืม ~”

        

        เดอิดาระเอ่ยอย่างมั่นใจเพราะเขาเชื่อว่าลูกธนูของอีกฝ่ายจะต้องหมดก่อนดินเหนียวของเขาอย่างแน่นอน

        

        นี่ถ้าเรนยะมาได้ยินคำพูดของเดอิดาระตอนนี้เขาคงขำจนปวดท้อง

        

        คุณเอมิยะเนี่ยนะลูกธนูหมด ?

        

        ด้วยเวท Trace ของเจ้าตัวเขาสามารถจำลองสร้างลูกธนูออกมาได้เรื่อยๆไม่จำกัดถ้ายังคงมีพลังเวทจาก Master อยู่ฉะนั้นแนวคิดดังกล่าวจึงไม่สามารถใช้กับเอมิยะได้เรียกได้ว่างานนี้เดอิดาระพลาดอย่างแรง

        

        เจ้าเดอิดาระคงถ่วงเจ้ามือธนูได้อยู่

        

        ซาโซรินักเชิดหุ่นที่เห็นว่าคู่หูของตนกำลังหลอกล่อมือธนูอยู่ก็ได้หันไปส่งสายตาให้กับคู่หูอมตะ

        

        งั้นก็ลงมือกันเถอะ

        

        คาคุซึใช้โอกาสนี้วิ่งฝ่าหมอกไปกับฮิดันเพื่อล้อมกรอบมือธนูแต่ทว่าพอวิ่งไปได้ไม่นาน

        

        เปรี้ยง !!!

        

        อาชาสีดำที่แอบแฝงตัวอยู่ในหมอกได้พุ่งชนใส่คาคุซึจนกระเด็นออกไป

        

        เฮ้ย !!! คาคุซึ !!!”

        

        ฮิดันที่ถูกจับแยกกับคู่หูมองหาทั่วทุกทิศทางแต่ด้วยหมอกหนาจึงทำให้หาไม่พบ

        

        ฉัวะ !!!

        

        ในจังหวะที่กำลังสับสนนั้นเองมีดอันคมกริบก็ได้ถูกเฉือนเข้าเส้นเลือดใหญ่ที่คอของฮิดันจนเลือดพุ่ง

        

        ฮิดันใช้มือปิดปากแผลที่คอด้วยท่าทีตื่นตระหนกก่อนที่สักพักจะตัวชักกระตุกแล้วล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น

        

        แจ็คที่เห็นว่าฮิดันตายแล้วเธอก็เผยตัวออกมา

        

        เราจะชำแหละละนะ

        

        แจ็คยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเพราะความอบอุ่นจากเลือดเนื้อยามที่ชำแหละเหยื่อมันทำให้เธอเหมือนกับได้เข้าไปอยู่ในครรภ์ของมารดาอีกครั้ง

        

        แต่ในขณะที่แจ็คกำลังจะลงมือชำแหละนั้นจู่ๆฮิดันที่น่าจะตายไปแล้วในความคิดของแจ็คก็ลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกับเคียวสีแดงในมือที่เหวี่ยงใส่ลำคอของเธอ

        

        !!!

        

        แจ็คตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะยกมีดคู่ของเธอขึ้นมากันเอาไว้ได้ทันเวลาจึงทำให้เธอเสียหลักเล็กน้อยแต่ไม่ได้บาดเจ็บอะไร

        

        ยัยเด็กเปรตมันเจ็บนะโว้ย !!!”

        

        แจ็คที่เห็นฮิดันลุกขึ้นมาตะโกนใส่เธอแบบหยาบคายก็เริ่มหรี่ตาลงอย่างน่ากลัวเธอตัดสินใจแล้วว่าจะตัดลิ้นของฮิดันออกมาซะแล้วค่อยสับอีกฝ่ายให้เป็นชิ้นๆ

        

        ส่วนทางด้านของคาคุซึที่ถูกอาชาสีดำพุ่งชนก็ตั้งหลักได้ก่อนที่จะเงยหน้ามองเด็กชายผมแดงที่กำลังยิ้มระรื่นอยู่บนหลังม้าตรงหน้าตนพร้อมจิตสังหาร

        

        ผมสีแดงแบบนั้นคนตระกูลอุซึมากิงั้นหรือ

        

        ด้วยความเข้าใจผิดก็เลยทำให้คาคุซึหลงคิดไปว่าอเล็กซานเดอร์นั้นเป็นคนตระอุซึมากิที่รอดชีวิตมาจากสงครามครั้งก่อน

        

        และชื่ออุซึมากินั้นมันก็ได้กระตุ้นต่อมของคาคุซึเข้าอย่างจังเนื่องจากภรรยาของโฮคาเงะรุ่นแรกเองก็เป็นคนตระกูลอุซึมากิด้วยเช่นกัน

        

        ในอดีตของคาคุซึนั้นเขาได้รับภารกิจลอบสังหารโฮคาเงะรุ่นแรกมาจากผู้อาวุโสหมู่บ้านทากิงาคุเระและก็อย่างที่รู้ว่ามันเป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้เลย

        

        ผลจากความล้มเหลวครั้งนั้นของคาคุซึทำให้ตัวเขาถูกทางหมู่บ้านทากิสั่งลงโทษอย่างไม่เป็นธรรมและด้วยความโกรธแค้นคาคุซึจึงได้ทำการฆ่าเหล่าผู้อาวุโสทุกคนก่อนที่จะขโมยวิชาลับของหมู่บ้านทากิกลายเป็นนินจาถอนตัวและออกล่าเงินรางวัลในตลาดมืดเรื่อยมา

        

        หลายคนอาจจะมองว่าการที่คาคุซึรอดมาจากน้ำมือของโฮคาเงะรุ่นแรกที่เป็นเทพเจ้านินจาได้นั้นเป็นเพราะฝีมือแต่ความเป็นจริงแล้วโฮคาเงะรุ่นแรกแค่ใช้คาถาไม้ใส่แค่คาถาเดียวเจ้าตัวก็เผ่นป่าราบแล้ว

        

        แถมตัวเทพเจ้านินจาอย่างฮาชิรามะเองก็ไม่ได้สนใจที่จะไล่ตามมือสังหารเท่าไหร่นักเพราะขี้เกียจดังนั้นจะบอกว่าตัวคาคุซึเลยรอดมาได้เพราะโชคช่วยก็คงจะไม่ผิดนัก

        

        ฉะนั้นลึกๆแล้วในใจของคาคุซึการที่เขารอดมาจากน้ำมือโฮคาเงะรุ่นแรกได้มันไม่ใช่ความภาคภูมิใจแต่เป็นความอัปยศมากกว่า

        

        ดังนั้นแล้ว . . . 

        

        หัวใจของแกฉันจะใช้อย่างดีเลยไอ้หนู

        

        ฮี่ ฮี่ ~”

        

        ซึ่งคำตอบของอเล็กซานเดอร์ก็คือการดึงดาบไซปรัสของตนออกมาและควบ Bucephalus เข้าใส่คาคุซึอย่างตื่นเต้น

        

        ทางด้านของซาโซริที่พบว่ามือธนูยังไม่ถูกจัดการก็เริ่มออกอาการใจร้อนตามประสาเจ้าตัวและคิดที่จะลงมือเอง

        

        ให้ตายสิบอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ชอบรอน่ะ

        

        ตึง !!!

        

        แต่พอซาโซริก้าวเท้าไปได้แค่ครึ่งก้าวก็ต้องหยุดชะงักเนื่องจากเบื้องหน้าเขาตอนนี้ได้มีหอกสีแดงถูกปามาปักขวางทางเขาเอาไว้

        

        บังเอิญจังนะตัวเราเองก็ไม่ชอบรอเหมือนกัน

        

        หญิงสาวเรือนผมสีม่วงเข้มยาวสลวยถึงเอวสวมชุดรัดรูปสีดำใบหน้างดงามกับแววตาสีแดงสดที่ดูเรียบเฉยได้ปรากฏตัวออกมาเบื้องหน้าของซาโซริ

        

        หอกสีแดงที่ปักตั้งตรงที่พื้นได้บินกลับสู่มือขวาของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของตรงหน้าสัญชาตญาณของซาโซริรับรู้ได้ในทันทีเธอคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา

        

        !!!

        

        เธอคือ . .”

        

        น้ำเสียงของซาโซริขาดห้วงเพราะเขานึกออกในที่สุดว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่หัวหน้าขึ้นบัญชีเป็นหนึ่งในบุคคลอันตรายของทางองค์กร

        

        สกาฮะ ราชินีดินแดนแห่งเงา !!!

        

        เบื่อหน่ายการรอไม่ใช่หรือ ?”

        

        สกาฮะควงหอกในมืออย่างชำนาญตั้งท่ารับมือ

        

        งั้นเราจะเป็นเพื่อนแก้เบื่อให้เอง

        

        เรียกได้ว่างานนี้ซาโซริคงจะเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดแล้วเพราะศัตรูของเขาในครั้งนี้เธอมีฉายาว่าหอกสังหารเทพเจ้าเลยทีเดียว

        

        . . . ก็หวังว่าซาโซริจะมีหุ่นมากพอรับมือกับสกาฮะละนะ

        

        ทางด้านของหมู่บ้านคุโมะงาคุเระ

        

         . . แกเป็นใคร ?!”

        

        นิอิ ยูกิโตะร่างสถิตย์ของ 2 หางที่ตอนนี้ถูกตรึงติดกับกำแพงด้วย Black key 3 ชิ้นถามอย่างตื่นตระหนกเนื่องจากเธอพบว่าไม่อาจระดมจักระของสัตว์หางได้ตามปกติ

        

        ตั้งแต่ที่ได้เป็นร่างสถิตย์นี่นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอพ่ายแพ้อย่างหมดรูปแบบนี้ !!!

        

        จู่ๆบาทหลวงประหลาดคนนี้ก็บุกเข้ามาในห้องรักษาท่านไรคาเงะพวกหน่วยลับกับพวกแพทย์เองก็ยังไม่ทันจะโต้ตอบอะไรก็ถูกทำให้หมดสติด้วยคาถาลวงตาของอีกฝ่ายเสียแล้ว

        

        ส่วนตัวเธอเองที่หลุดจากคาถาหลวงตามาได้เพราะสองหางช่วยเรียกสติก็ยังคงตอบสนองช้าไปเพราะกว่าที่จะทันทำอะไรบาทหลวงก็ได้ปาดาบยาวตรึงร่างของเธอเอาไว้กับกำแพงจนหมดท่าไปอย่างรวดเร็ว

        

        ตอนนี้ยูกิโตะเธอสับสนไปหมด

        

        บาทหลวงคนนี้เป็นใคร ?

        

        ทำไมอาวุธของอีกฝ่ายถึงสะกดจักระสัตว์หางได้ ?

        

        อีกฝ่ายต้องการอะไรถึงบุกเข้ามาหาไรคาเงะ ?

        

        และที่สำคัญ

        

        ลุงชุดเขียวในภาพลวงตาเป็นใครแล้วจะร้องเพลงอะไรให้เธอฟัง ? 

        

        แค่มาเยี่ยมลูกแกะที่น่าสงสารน่ะไม่ต้องสนใจหรอก

        

        เรนยะในคราบบาทหลวงได้หยิบ Genetic Dream ออกมาจากช่องเก็บของแล้วกดใช้งานกับยูกิโตะทันทีด้วย Black key จึงทำให้เรนยะสามารถเข้าไปในพื้นที่ผนึกภายในตัวของยูกิโตะแล้วเก็บพันธุกรรมสองหางมาได้แบบไม่ยากเย็น

        

        บี !!! ฟื้นสิ บี !!! โธ่เว้ย !!!”

        

        แปดหางที่เห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีจึงคิดที่จะควบคุมร่างของบีเพื่อออกไปรับมือกับศัตรู

        

        อยู่เฉยๆเถอะน่า

        

        แต่มีหรือที่เรนยะจะไม่สังเกตเห็นการกระทำของ 8 หาง Black key ที่เหลืออีก 3 ชิ้นในมือจึงได้บินไปปักใส่ร่างของบีบนเตียงผู้ป่วยทำให้จักระสีแดงเข้มของแปดหางบนร่างของบีสงบลง

        

        หลังเก็บพันธุกรรม 2 หางเสร็จเรนยะก็ได้ทำการใช้คาถาลวงตาส่งยูกิโตะไปฟังเพลงลุงชุดเขียวให้จบอัลบั้มอีกครั้งก่อนที่จะตรงไปเก็บพันธุกรรม 8 หางต่อแบบสบายๆ

        

        น่าเสียดายที่บีนั้นหมดสติอยู่แล้วเจ้าตัวก็เลยอดฟังเพลงลุงไป(รอดตัวไป)

        

        ดูอย่างยูกิโตะตอนนี้สิตั้งแต่ที่โดนคาถาลวงตาไปคิ้วเจ้าหล่อนก็ขมวดไม่หยุดเชียว(คงทรมานแหละ)สงสัยจะลึกซึ้งในความหมายของเพลงคืนความ สุก (ย่าง ทอด ว่ากันไป)

        

        แถมจากที่เรนยะตรวจอาการของบีดูแล้วอีกไม่นานเจ้าตัวก็คงฟื้นขึ้นมาร้องแร็พได้อย่างปกติคงต้องบอกว่าอึดตายยากสมกับเป็นสถิตย์ร่างแล้วละนะ

        

        เท่านี้ก็ได้ 2 หาง กับ 8 หางมาเรียบร้อย

        

        ต่อไปก็ . .”

        

        เรนยะหันไปมองทางไรคาเงะที่เป็นเป้าหมายหลักในครั้งนี้

        

        ถ้าอาการบาดเจ็บแค่นี้ยาวิเศษในคลังสมบัติก็รักษาได้สบายละนะ

        

        ถึงความจริงแล้วเขาอยากจะลองรักษาไรคาเงะด้วยตัวเองเพื่อเป็นการฝึกฝนและพัฒนาวิชานินจาแพทย์ก็จริงแต่ติดตรงที่ว่าตอนนี้เขาติดนัดทดสอบฮานาบิจังอยู่เรนยะก็เลยตัดสินใจใช้ยาวิเศษในคลังสมบัติแทน

        

        เท่านี้ก็เรียบร้อย

        

        ต้องบอกว่าสมแล้วที่เป็นยาวิเศษจากคลังสมบัติบาบิโลนตอนนี้ลมหายใจของไรคาเงะเริ่มคงที่แล้วแถมบาดแผลเองก็เริ่มสมานจนหายดีผิดจากเมื่อครู่ที่กำลังจะตายแหล่ไม่ตายแหล่เลยทีเดียว

        

        ไปกันเถอะครับไรโคเราหมดธุระที่นี่แล้ว

        

        หลังจากให้ยากับไรคาเงะเสร็จแล้วเรนยะก็ได้ออกเดินทางไปที่แคว้นคุสะโนคุนิเพื่อรอชมเรื่องสนุกส่วนแปดหางกับสองหางที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบพอเรนยะถอน Black key ออกก็ไม่คิดจะเคลื่อนไหวอะไร

        

        ในเมื่ออีกฝ่ายมารักษาไรคาเงะแล้วจากไปเฉยๆโดยที่ไม่ทำอันตรายใดๆต่อร่างสถิตย์ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องแกว่งเท้าหาเสี้ยนกับคนที่แข็งแกร่งแบบนี้ส่วนอาการบาดเจ็บของร่างสถิตย์ที่เกิดจากอาวุธอีกฝ่ายก็ไม่ได้หนักหนาอะไรด้วยจักระสัตว์หางที่กลับมาเสถียรไม่นานบาดแผลก็สมานตัวดีในที่สุด

        

        (ลง)

        

        

        

        เจ้าหญิงสายเลือดแท้โฉมใหม่ !!! (ไม่ใช่ป้าสายเลือดแท้อีกต่อไปแล้ว)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×