คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #119 : ภาคสัตว์หางพันธุกรรม ตอนที่ 34
ตูม !!!
บนท้องฟ้าตอนนี้เดอิดาระกำลังลองเชิงศัตรูด้วยระเบิดดินเหนียว C1 แต่ทว่าทุกครั้งที่เขาส่งระเบิดดินเหนียวออกไปทีไรก็จะถูกลูกธนูของอีกฝ่ายสอยล่วงเป็นว่าเล่นทุกที
“แบบนี้คงต้องใช้ C2 ไม่สิต้อง C3 อืม ~”
เดอิดาระวิเคราะห์อัตราการยิงของอีกฝ่ายก่อนที่จะตัดสินใจใช้วิชาที่รุนแรงขึ้น
“ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้เตรียมดินเหนียวมาเพิ่มก็คงดีอืม ~”
เพราะยิ่งระเบิดรุนแรงมากเท่าไหร่เดอิดาระก็ยิ่งต้องใช้ปริมาณดินเหนียวมากขึ้นเท่านั้น
คราวนี้เดอิดาระไม่ได้พกดินเหนียวมาเยอะนักเพราะงานในครั้งนี้คือจับสถิตย์ร่าง 2 หางที่อ่อนแอกับสถิตย์ร่าง 8 หางที่บาดเจ็บหนักแถมยังมีคู่หูอมตะมาเสริมด้วยอีกจึงทำให้ตอนนี้เดอิดาระนั้นมีดินเหนียวไม่มากนัก
“มาวัดกันเลยว่าดินเหนียวของฉันหรือลูกธนูของแกจะหมดก่อนกันอืม ~”
เดอิดาระเอ่ยอย่างมั่นใจเพราะเขาเชื่อว่าลูกธนูของอีกฝ่ายจะต้องหมดก่อนดินเหนียวของเขาอย่างแน่นอน
นี่ถ้าเรนยะมาได้ยินคำพูดของเดอิดาระตอนนี้เขาคงขำจนปวดท้อง
คุณเอมิยะเนี่ยนะลูกธนูหมด ?
ด้วยเวท Trace ของเจ้าตัวเขาสามารถจำลองสร้างลูกธนูออกมาได้เรื่อยๆไม่จำกัดถ้ายังคงมีพลังเวทจาก Master อยู่ฉะนั้นแนวคิดดังกล่าวจึงไม่สามารถใช้กับเอมิยะได้เรียกได้ว่างานนี้เดอิดาระพลาดอย่างแรง
“เจ้าเดอิดาระคงถ่วงเจ้ามือธนูได้อยู่”
ซาโซรินักเชิดหุ่นที่เห็นว่าคู่หูของตนกำลังหลอกล่อมือธนูอยู่ก็ได้หันไปส่งสายตาให้กับคู่หูอมตะ
“งั้นก็ลงมือกันเถอะ”
คาคุซึใช้โอกาสนี้วิ่งฝ่าหมอกไปกับฮิดันเพื่อล้อมกรอบมือธนูแต่ทว่าพอวิ่งไปได้ไม่นาน
เปรี้ยง !!!
อาชาสีดำที่แอบแฝงตัวอยู่ในหมอกได้พุ่งชนใส่คาคุซึจนกระเด็นออกไป
“เฮ้ย !!! คาคุซึ !!!”
ฮิดันที่ถูกจับแยกกับคู่หูมองหาทั่วทุกทิศทางแต่ด้วยหมอกหนาจึงทำให้หาไม่พบ
ฉัวะ !!!
ในจังหวะที่กำลังสับสนนั้นเองมีดอันคมกริบก็ได้ถูกเฉือนเข้าเส้นเลือดใหญ่ที่คอของฮิดันจนเลือดพุ่ง
ฮิดันใช้มือปิดปากแผลที่คอด้วยท่าทีตื่นตระหนกก่อนที่สักพักจะตัวชักกระตุกแล้วล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น
แจ็คที่เห็นว่าฮิดันตายแล้วเธอก็เผยตัวออกมา
“เราจะชำแหละละนะ”
แจ็คยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเพราะความอบอุ่นจากเลือดเนื้อยามที่ชำแหละเหยื่อมันทำให้เธอเหมือนกับได้เข้าไปอยู่ในครรภ์ของมารดาอีกครั้ง
แต่ในขณะที่แจ็คกำลังจะลงมือชำแหละนั้นจู่ๆฮิดันที่น่าจะตายไปแล้วในความคิดของแจ็คก็ลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกับเคียวสีแดงในมือที่เหวี่ยงใส่ลำคอของเธอ
!!!
แจ็คตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะยกมีดคู่ของเธอขึ้นมากันเอาไว้ได้ทันเวลาจึงทำให้เธอเสียหลักเล็กน้อยแต่ไม่ได้บาดเจ็บอะไร
“ยัยเด็กเปรตมันเจ็บนะโว้ย !!!”
แจ็คที่เห็นฮิดันลุกขึ้นมาตะโกนใส่เธอแบบหยาบคายก็เริ่มหรี่ตาลงอย่างน่ากลัวเธอตัดสินใจแล้วว่าจะตัดลิ้นของฮิดันออกมาซะแล้วค่อยสับอีกฝ่ายให้เป็นชิ้นๆ
ส่วนทางด้านของคาคุซึที่ถูกอาชาสีดำพุ่งชนก็ตั้งหลักได้ก่อนที่จะเงยหน้ามองเด็กชายผมแดงที่กำลังยิ้มระรื่นอยู่บนหลังม้าตรงหน้าตนพร้อมจิตสังหาร
“ผมสีแดงแบบนั้นคนตระกูลอุซึมากิงั้นหรือ”
ด้วยความเข้าใจผิดก็เลยทำให้คาคุซึหลงคิดไปว่าอเล็กซานเดอร์นั้นเป็นคนตระอุซึมากิที่รอดชีวิตมาจากสงครามครั้งก่อน
และชื่ออุซึมากินั้นมันก็ได้กระตุ้นต่อมของคาคุซึเข้าอย่างจังเนื่องจากภรรยาของโฮคาเงะรุ่นแรกเองก็เป็นคนตระกูลอุซึมากิด้วยเช่นกัน
ในอดีตของคาคุซึนั้นเขาได้รับภารกิจลอบสังหารโฮคาเงะรุ่นแรกมาจากผู้อาวุโสหมู่บ้านทากิงาคุเระและก็อย่างที่รู้ว่ามันเป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้เลย
ผลจากความล้มเหลวครั้งนั้นของคาคุซึทำให้ตัวเขาถูกทางหมู่บ้านทากิสั่งลงโทษอย่างไม่เป็นธรรมและด้วยความโกรธแค้นคาคุซึจึงได้ทำการฆ่าเหล่าผู้อาวุโสทุกคนก่อนที่จะขโมยวิชาลับของหมู่บ้านทากิกลายเป็นนินจาถอนตัวและออกล่าเงินรางวัลในตลาดมืดเรื่อยมา
หลายคนอาจจะมองว่าการที่คาคุซึรอดมาจากน้ำมือของโฮคาเงะรุ่นแรกที่เป็นเทพเจ้านินจาได้นั้นเป็นเพราะฝีมือแต่ความเป็นจริงแล้วโฮคาเงะรุ่นแรกแค่ใช้คาถาไม้ใส่แค่คาถาเดียวเจ้าตัวก็เผ่นป่าราบแล้ว
แถมตัวเทพเจ้านินจาอย่างฮาชิรามะเองก็ไม่ได้สนใจที่จะไล่ตามมือสังหารเท่าไหร่นักเพราะขี้เกียจดังนั้นจะบอกว่าตัวคาคุซึเลยรอดมาได้เพราะโชคช่วยก็คงจะไม่ผิดนัก
ฉะนั้นลึกๆแล้วในใจของคาคุซึการที่เขารอดมาจากน้ำมือโฮคาเงะรุ่นแรกได้มันไม่ใช่ความภาคภูมิใจแต่เป็นความอัปยศมากกว่า
ดังนั้นแล้ว . . .
“หัวใจของแกฉันจะใช้อย่างดีเลยไอ้หนู”
“ฮี่ ฮี่ ~”
ซึ่งคำตอบของอเล็กซานเดอร์ก็คือการดึงดาบไซปรัสของตนออกมาและควบ Bucephalus เข้าใส่คาคุซึอย่างตื่นเต้น
ทางด้านของซาโซริที่พบว่ามือธนูยังไม่ถูกจัดการก็เริ่มออกอาการใจร้อนตามประสาเจ้าตัวและคิดที่จะลงมือเอง
“ให้ตายสิบอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ชอบรอน่ะ”
ตึง !!!
แต่พอซาโซริก้าวเท้าไปได้แค่ครึ่งก้าวก็ต้องหยุดชะงักเนื่องจากเบื้องหน้าเขาตอนนี้ได้มีหอกสีแดงถูกปามาปักขวางทางเขาเอาไว้
“บังเอิญจังนะตัวเราเองก็ไม่ชอบรอเหมือนกัน”
หญิงสาวเรือนผมสีม่วงเข้มยาวสลวยถึงเอวสวมชุดรัดรูปสีดำใบหน้างดงามกับแววตาสีแดงสดที่ดูเรียบเฉยได้ปรากฏตัวออกมาเบื้องหน้าของซาโซริ
หอกสีแดงที่ปักตั้งตรงที่พื้นได้บินกลับสู่มือขวาของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของตรงหน้าสัญชาตญาณของซาโซริรับรู้ได้ในทันทีเธอคนนี้ไม่ใช่ธรรมดา
!!!
“เธอคือ . .”
น้ำเสียงของซาโซริขาดห้วงเพราะเขานึกออกในที่สุดว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่หัวหน้าขึ้นบัญชีเป็นหนึ่งในบุคคลอันตรายของทางองค์กร
สกาฮะ ราชินีดินแดนแห่งเงา !!!
“เบื่อหน่ายการรอไม่ใช่หรือ ?”
สกาฮะควงหอกในมืออย่างชำนาญตั้งท่ารับมือ
“งั้นเราจะเป็นเพื่อนแก้เบื่อให้เอง”
เรียกได้ว่างานนี้ซาโซริคงจะเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดแล้วเพราะศัตรูของเขาในครั้งนี้เธอมีฉายาว่าหอกสังหารเทพเจ้าเลยทีเดียว
. . . ก็หวังว่าซาโซริจะมีหุ่นมากพอรับมือกับสกาฮะละนะ
ทางด้านของหมู่บ้านคุโมะงาคุเระ
“ก . . แกเป็นใคร ?!”
นิอิ ยูกิโตะร่างสถิตย์ของ 2 หางที่ตอนนี้ถูกตรึงติดกับกำแพงด้วย Black key 3 ชิ้นถามอย่างตื่นตระหนกเนื่องจากเธอพบว่าไม่อาจระดมจักระของสัตว์หางได้ตามปกติ
ตั้งแต่ที่ได้เป็นร่างสถิตย์นี่นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอพ่ายแพ้อย่างหมดรูปแบบนี้ !!!
จู่ๆบาทหลวงประหลาดคนนี้ก็บุกเข้ามาในห้องรักษาท่านไรคาเงะพวกหน่วยลับกับพวกแพทย์เองก็ยังไม่ทันจะโต้ตอบอะไรก็ถูกทำให้หมดสติด้วยคาถาลวงตาของอีกฝ่ายเสียแล้ว
ส่วนตัวเธอเองที่หลุดจากคาถาหลวงตามาได้เพราะสองหางช่วยเรียกสติก็ยังคงตอบสนองช้าไปเพราะกว่าที่จะทันทำอะไรบาทหลวงก็ได้ปาดาบยาวตรึงร่างของเธอเอาไว้กับกำแพงจนหมดท่าไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ยูกิโตะเธอสับสนไปหมด
บาทหลวงคนนี้เป็นใคร ?
ทำไมอาวุธของอีกฝ่ายถึงสะกดจักระสัตว์หางได้ ?
อีกฝ่ายต้องการอะไรถึงบุกเข้ามาหาไรคาเงะ ?
และที่สำคัญ
ลุงชุดเขียวในภาพลวงตาเป็นใครแล้วจะร้องเพลงอะไรให้เธอฟัง ?
“แค่มาเยี่ยมลูกแกะที่น่าสงสารน่ะไม่ต้องสนใจหรอก”
เรนยะในคราบบาทหลวงได้หยิบ Genetic Dream ออกมาจากช่องเก็บของแล้วกดใช้งานกับยูกิโตะทันทีด้วย Black key จึงทำให้เรนยะสามารถเข้าไปในพื้นที่ผนึกภายในตัวของยูกิโตะแล้วเก็บพันธุกรรมสองหางมาได้แบบไม่ยากเย็น
“บี !!! ฟื้นสิ บี !!! โธ่เว้ย !!!”
แปดหางที่เห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีจึงคิดที่จะควบคุมร่างของบีเพื่อออกไปรับมือกับศัตรู
“อยู่เฉยๆเถอะน่า”
แต่มีหรือที่เรนยะจะไม่สังเกตเห็นการกระทำของ 8 หาง Black key ที่เหลืออีก 3 ชิ้นในมือจึงได้บินไปปักใส่ร่างของบีบนเตียงผู้ป่วยทำให้จักระสีแดงเข้มของแปดหางบนร่างของบีสงบลง
หลังเก็บพันธุกรรม 2 หางเสร็จเรนยะก็ได้ทำการใช้คาถาลวงตาส่งยูกิโตะไปฟังเพลงลุงชุดเขียวให้จบอัลบั้มอีกครั้งก่อนที่จะตรงไปเก็บพันธุกรรม 8 หางต่อแบบสบายๆ
น่าเสียดายที่บีนั้นหมดสติอยู่แล้วเจ้าตัวก็เลยอดฟังเพลงลุงไป(รอดตัวไป)
ดูอย่างยูกิโตะตอนนี้สิตั้งแต่ที่โดนคาถาลวงตาไปคิ้วเจ้าหล่อนก็ขมวดไม่หยุดเชียว(คงทรมานแหละ)สงสัยจะลึกซึ้งในความหมายของเพลงคืนความ สุก (ย่าง ทอด ว่ากันไป)
แถมจากที่เรนยะตรวจอาการของบีดูแล้วอีกไม่นานเจ้าตัวก็คงฟื้นขึ้นมาร้องแร็พได้อย่างปกติคงต้องบอกว่าอึดตายยากสมกับเป็นสถิตย์ร่างแล้วละนะ
“เท่านี้ก็ได้ 2 หาง กับ 8 หางมาเรียบร้อย”
“ต่อไปก็ . .”
เรนยะหันไปมองทางไรคาเงะที่เป็นเป้าหมายหลักในครั้งนี้
“ถ้าอาการบาดเจ็บแค่นี้ยาวิเศษในคลังสมบัติก็รักษาได้สบายละนะ”
ถึงความจริงแล้วเขาอยากจะลองรักษาไรคาเงะด้วยตัวเองเพื่อเป็นการฝึกฝนและพัฒนาวิชานินจาแพทย์ก็จริงแต่ติดตรงที่ว่าตอนนี้เขาติดนัดทดสอบฮานาบิจังอยู่เรนยะก็เลยตัดสินใจใช้ยาวิเศษในคลังสมบัติแทน
“เท่านี้ก็เรียบร้อย”
ต้องบอกว่าสมแล้วที่เป็นยาวิเศษจากคลังสมบัติบาบิโลนตอนนี้ลมหายใจของไรคาเงะเริ่มคงที่แล้วแถมบาดแผลเองก็เริ่มสมานจนหายดีผิดจากเมื่อครู่ที่กำลังจะตายแหล่ไม่ตายแหล่เลยทีเดียว
“ไปกันเถอะครับไรโคเราหมดธุระที่นี่แล้ว”
หลังจากให้ยากับไรคาเงะเสร็จแล้วเรนยะก็ได้ออกเดินทางไปที่แคว้นคุสะโนคุนิเพื่อรอชมเรื่องสนุกส่วนแปดหางกับสองหางที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบพอเรนยะถอน Black key ออกก็ไม่คิดจะเคลื่อนไหวอะไร
ในเมื่ออีกฝ่ายมารักษาไรคาเงะแล้วจากไปเฉยๆโดยที่ไม่ทำอันตรายใดๆต่อร่างสถิตย์ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องแกว่งเท้าหาเสี้ยนกับคนที่แข็งแกร่งแบบนี้ส่วนอาการบาดเจ็บของร่างสถิตย์ที่เกิดจากอาวุธอีกฝ่ายก็ไม่ได้หนักหนาอะไรด้วยจักระสัตว์หางที่กลับมาเสถียรไม่นานบาดแผลก็สมานตัวดีในที่สุด
(ลง)
เจ้าหญิงสายเลือดแท้โฉมใหม่ !!! (ไม่ใช่ป้าสายเลือดแท้อีกต่อไปแล้ว)
ความคิดเห็น