ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบวีรชนข้ามโลกนินจา

    ลำดับตอนที่ #105 : ภาคสัตว์หางพันธุกรรม ตอนที่ 24

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.05K
      362
      20 ก.ย. 63

    การที่ชวนนารูโตะมาด้วยเพื่อหาโอกาสเก็บรหัสพันธุกรรมของ 9 หางตอนแรกเรนยะก็คิดแค่เล่นๆเพราะแต่แรกเดิมทีเรนยะนั้นก็มีแผนเก็บรหัสพันธุกรรมของ 9 หางของตัวเองอยู่แล้ว

        

        แต่เรนยะนึกไม่ถึงเลยพวกลัทธิจาชินจะไปทำให้ค่าความโกรธของเจ้านารูโตะทะลุหลอดแบบนี้

        

        “3 หาง . . ไม่สิจากจักระที่รุนแรงขนาดนี้คงใกล้จะเข้าสู่สภาวะ 4 หางแล้ว” 

        

        “อย่างนี้คงต้องกระตุ้นกันซะหน่อยเรนยะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาก่อนที่จะแอบเตรียมคาถามิติของตนเงียบๆ

        

        . . . โทษทีนะนารูโตะแต่งานนี้ฉันคงต้องขอใช้นายหน่อยละนะเพื่อนยาก

        

        ตอนนี้นารูโตะในสภาพอาภรณ์สัตว์หางกำลังอาละวาดอย่างไม่ลืมหูลืมตาเลยทีเดียวหลังจากที่ได้เห็นพวกลัทธิจาชินกำลังลงมือสังหารเด็กสาวคนหนึ่งแถมครั้งนี้ไม่ใช่การทำพิธีกรรมใดๆเป็นการฆ่าโดยตรงด้วยอาวุธเหล็กแหลมเหมือนกับที่ใช้ทำร้ายจิไรยะ

        

        ถึงอาวุธของพวกลัทธิจาชินจะมีประสิทธิภาพการสังหารต่ำแต่ถ้าโดนเข้าที่จุดสำคัญของร่างกายก็ถึงตายได้เหมือนกัน

        

        “ย้ากกก !” นารูโตะเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วเพื่อหวังหยุดการโศกนาฏกรรมตรงหน้า

        

        ทว่าถึงตัวนารูโตะจะรวดเร็วสักแค่ไหนก็ตามแต่ดูจากระยะห่างแล้วอย่างไรก็ย่อมไม่ทันการอยู่ดี

        

        !!!

        

        ม่านตาสีแดงฉานของนารูโตะขยายออกด้วยความตกตะลึงเพราะในจังหวะที่ปลายเหล็กแหลมกำลังจะพุ่งใส่หัวใจของเด็กสาวในชั่วพริบตานั้นร่างอันแสนคุ้นเคยก็ได้ปรากฎออกมาอย่างฉับพลันแล้วรับการโจมตีแทนเด็กสาว

        

        ฉึก !!!

        

        “เรนยะ !!!” 

        

        นารูโตะได้ใช้กระสุนวงจักระซัดเข้าใส่ศัตรูเต็มใบหน้าจนร่างหมุนคว้างกระเด็นออกไปก่อนที่ตัวเขาจะเข้าไปดูอาการของเรนยะที่กำลังนอนไม่ได้สติเพราะถูกแทงทะลุอกแถมที่มุมปากเองก็มีเลือดไหลออกมาด้วย

        

        ซึ่งในสภาพนี้ไม่ว่าใครมาดูยังไงก็ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอาการสาหัสเฉียดความตาย

        

        แต่ทว่าพอนารูโตะตรวจสอบอาการของเรนยะแล้วนั้นเขาก็ต้องพบเข้ากับความจริงที่เกินจะรับได้นั่นก็เป็นเพราะ . . . 

        

        “เรนยะ !!!”

        

        “อมซอสมะเขือเทศ เอาไว้ในปากทำไมฟะ !!!”

        

        “แค่ก !!!”

        

        . . . แม่งรู้ทันอีกเล่นทำเอาสำลักซอสมะเขือเทศเลยให้ตายสิ

        

        ปกติเห็นโง่ซื่อบื้อทำไมเจ้านารูโตะวันนี้มันฉลาดจังฟะ !!!

        

        เอาเถอะในเมื่อโดนจับไต๋แล้วก็ช่างๆมันก็แล้วกัน

        

        “เปล่าแค่ฝึกแกล้งตายน่ะ” 

        

        เรนยะผงาดตัวขึ้นมาแบบผีไทยก่อนที่จะทำการเช็ดซอสมะเขือเทศที่มุมปากพร้อมกับปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าตัวเองราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

        

        “แล้วมาฝึกทำบ้าอะไรตอนนี้เล่า !!!” 

        

        และก็ดูเหมือนว่าเพราะเรนยะนารูโตะก็เลยเริ่มใจเย็นลงผนึก 9 หางก็เลยกลับมาเสถียรอีกครั้งทำให้อาภรณ์สัตว์หางหายไป

        

        “เฮ้อ ~” 

        

        เรนยะที่เห็นแบบนั้นก็แอบรู้สึกเสียดายเพราะเขาพลาดโอกาสทองในการเก็บพันธุกรรมของ 9 หางไปเสียแล้ว

        

        “จ้ากกก !!!” 

        

        “โวยวายอะไรเล่านารูโตะ ?”

        

        จู่ๆเจ้านารูโตะก็โหวกเหวกโวยวายออกมาจนเรนยะต้องเอานิ้วมือมาอุดหูตัวเอง

        

        “ . . นายโดนแทงทะลุหัวใจเลยไม่ใช่หรือไงเรนยะ !”

        

        นารูโตะยกมือชี้ที่เหล็กแหลมที่ตอนนี้กำลังปักทะลุกลางหน้าอกของเรนยะอย่างสั่นๆ

        

        ซึ่งเรนยะก็ก้มหน้ามองสภาพของตัวเองเล็กน้อยก่อนที่จะทำการดึงเหล็กแหลมออกด้วยสีหน้าเฉยๆไร้ซึ่งความเจ็บปวดใดๆแต่ที่น่าทึ่งจริงๆก็คือหลังจากที่เรนยะดึงอาวุธออกไปแล้วบาดแผลของเขาก็เริ่มสมานตัวด้วยความรวดเร็วจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

        

        !!!

        

        สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้นั้นทำให้ทุกคนที่นี่ตกตะลึงอย่างมากไม่เว้นแม้แต่พวกลัทธิจาชินเอง

        

        ช่างเป็นพลังฟื้นตัวที่น่ากลัวจริงๆ !!!

        

        “หึ หึ หึ

        

        เรนยะที่เห็นทุกสายตามองมาที่ตัวเขาก็หัวเราะออกมาโดยเฉพาะนารูโตะที่ถึงกับทำหน้าตาเอ๋อจนออกนอกหน้า

        

        “ตกใจอะไรขนาดนั้นก็แค่เคลื่อนย้ายอวัยวะภายในร่างกายก็เท่านั้นเอง

        

        ในจังหวะที่เรนยะเข้าไปรับการโจมตีนั้นเขาก็ได้ทำการย้ายตำแหน่งหัวใจเอาไว้นานแล้วนั่นจึงทำให้การโจมตีเมื่อครู่ไม่สามารถฆ่าเขาได้อย่างที่เห็น

        

        “เลิกเล่นกันแค่นี้แหละ” 

        

        เรนยะคิดเอาไว้แต่แรกอยู่แล้วว่าจิไรยะจะต้องบุกเข้ามาช่วยตัวประกันตรงๆดังนั้นเขาจึงได้เตรียมคาถามิติของตนมาตลอดการต่อสู้

        

        และตอนนี้คาถาของเขาก็พร้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว !

        

        “ข่ายเทพอัสนีขั้นที่ 2 !”

        

        สิ้งเสียงของเรนยะพวกตัวประกันที่ถูกจับมาทุกคนก็ถูกเรนยะใช้คาถามิติเคลื่อนย้ายออกไปจากถ้ำรวมถึงตัวนารูโตะกับจิไรยะด้วยเช่นกัน

        

        !!!

        

        “เท่านี้ก็ไม่มีใครมาเกะกะแล้วละนะ ~” 

        

        เรนยะยืดเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อนที่สายตาของเขาจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นสายตาของสิงโตที่กำลังจ้องมองเหยื่อ

        

        “ช่างมีพลังชีวิตที่มหาศาลจริงๆ

        

        ชายแก่ที่ต่อกรกับจิไรยะได้เอ่ยชมเชยไม่ได้สนใจสายตาของเรนยะแม้แต่น้อย

        

        “ว่ายังไงเจ้าหนูสนใจมานับถือท่านเทพจาชินไหม ?”

        

        ซึ่งเรนยะเองก็ยืนฟังชายแก่ที่น่าจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มลัทธิจาชินนิ่งๆไม่ได้ตอบอะไร

        

        “อย่างที่เธอเห็นว่าท่านจาชินนั้นมอบความเป็นอมตะให้แก่พวกเราได้

        

        “แน่นอนว่า . . .”

        

        “หุ . .”

        

        “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า !” 

        

        ทว่าชายแก่ยังไม่ทันจะพูดเสร็จเรนยะก็กลับหัวเราะออกมาด้วยความขำขันจนถึงขั้นน้ำตาเล็ด

        

        “มีอะไรน่าขำกันเจ้าหนู ?” 

        

        ชายแก่เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจตัวเขาอุตส่าห์อ้าแขนต้อนรับแท้ๆแต่เด็กตรงหน้ากลับหัวเราะเยาะราวกับดูถูกตัวเขาแบบนี้

        

        “พูดไม่ดูสารรูปตัวเองเลยนะตาเฒ่า

        

        “แกเรียกสิ่งนี้ว่าความอมตะงั้นรึ . . ?” 

        

        เรนยะยกหัวที่ถูกตัดขาดของลัทธิจาชินขึ้นมาชูถามอีกฝ่ายซึ่งหัวที่เรนยะยกขึ้นมานั้นก็ดูเหมือนจะไม่ปลื้มกับการกระทำนี้สักเท่าไหร่นัก

        

        “พวกแกฆ่าไม่ตายก็จริงแต่ว่านะ . .”

        

        เรนยะโยนหัวในมือทิ้งราวกับเศษขยะก่อนที่จะมองชายแก่อย่างเย่อหยิ่ง

        

        “สุดท้ายพวกแกก็ยังไม่อาจหนีสิ่งที่เรียกว่ากาลเวลาไปได้อยู่ดีนั่นแหละ

        

        ชายแก่ตรงหน้าเขานับเป็นหลักฐานอย่างดีถึงอีกฝ่ายจะฆ่าไม่ตายก็จริงแต่ก็ไม่อาจหลีกหนีอายุขัยไปได้

        

        . . . อยู่ไปนานวันเข้าด้วยความอมตะแบบนั้นสุดท้ายก็คงไม่พ้นต้องนับเวลาถอยหลังกลายเป็นมัมมี่เหี่ยวๆ

        

        แบบนั้นมันจะไปต่างอะไรกับศพเน่าๆกัน !!!

        

        “เข้าใจหรือยังตาเฒ่า ?”

        

        “ว่าความอมตะของพวกแกน่ะสำหรับในสายตาของฉันแล้วมันก็แค่ . .”

        

        “ของไม่สมประกอบ ดีๆนี่เอง

        

        และเมื่อสิ้นคำของเรนยะสีหน้าของเขาก็เริ่มแปรเปลี่ยนจากความขบขันเป็นความโกรธ

        

        “และโทษฐานที่บังอาจมาเสนอของไม่สมประกอบพรรค์นั้นกับฉันคนนี้ . . .”

        

        “ฉันจะทำให้พวกแกร่วมถึงความเชื่อโง่ๆนั่น หายไปเอง !!!”

        

        เรนยะทำการผสานฝ่ามือรวบรวมจักระเอาไว้ก่อนที่จะคำรามออกมาด้วยความโกรธเนื่องจากเขาไม่ได้รับสิ่งที่ตนต้องการ

        

        “คาถาธุลีแยกพิภพบรรพกาล !!!”

        

        !!!

        

        เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเหล่าสาวกลัทธิจาชินนับ 10 ก็สลายหายไปไม่เหลือแต่ฝุ่นจะมีเพียงก็แต่ชายแก่ที่เป็นตัวหัวหน้าที่รอดตายไปได้อย่างเฉียดฉิว

        

        เรียกได้ว่าชายแก่รอดตายได้เพราะประสบการณ์ล้วนๆทว่าถึงจะรอดมาได้ก็ตามแต่ตอนนี้ตัวชายแก่นั้นก็ไม่ได้มีความคิดที่จะสู้กับเรนยะอีกต่อไปแล้ว

        

        “ไม่จริงบ้าชัดๆ !”

        

        ในตอนนี้สายตาของชายแก่นั้นมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเพราะเพียงแค่คาถาเดียวสาวกทุกคนก็ร่างสลายไปจนหมดไม่เหลือแม้แต่ซากใดๆ

        

        ชายแก่ได้หันหลังวิ่งไปที่แท่นพิธีซึ่งเรนยะที่เห็นว่าชายแก่ยังไม่ตายเขาก็ได้หยิบปืน Thompson Arms contender ออกมาเล็งไปที่ชายแก่ก่อนที่จะลั่นไกยิงออกไป

        

        ปัง !!!

        

        กระสุนได้ระเบิดแขนข้างซ้ายของชายแก่จนขาดกระจุยแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นตัวชายแก่เองก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปจนถึงแท่นพิธีได้สำเร็จ

        

        ซึ่งทันทีที่ไปถึงตัวชายแก่ก็ได้ทำการกดสวิตช์กลไกบางอย่างที่แท่นพิธีจนทำให้ภายในถ้ำเกิดแรงสั่นจนเริ่มถล่ม

        

        “ชิ ! นึกไม่ถึงเลยว่าในถ้ำจะมีกลไกแบบนี้” 

        

        ตอนนี้เรนยะที่เสียจักระไปจากการใช้คาถาใหญ่ทั้ง 2 คาถาจึงทำได้เพียงมองชายแก่หนีจากไปด้วยเส้นทางลับเท่านั้น

        

        “Master จะให้ข้าตามไปไหม ?”

        

        แขนต้องสาปเอ่ยถามขอเพียงแค่เรนยะสั่งเขาก็พร้อมจะไล่ล่าอีกฝ่ายทันที

        

        “ไม่จำเป็นหรอกผมจำออร่าของตาเฒ่านั่นได้แล้วยังไงมันก็หนีผมไม่พ้นอยู่ดี

        

        เรนยะหันหลังเดินกลับไปทางเดิมที่เข้ามาทันทีเนื่องจากถ้ำนี้ได้ถล่มลงมาแล้ว

        

        “Master . .” 

        

        หนูเงียบที่เห็นเรนยะรู้สึกผิดหวังในใจเธอก็พยายามจะพูดปลอบแต่สุดท้ายก็ถูกสกาฮะส่ายหน้าห้ามเอาไว้เสียก่อน

        

        ซึ่งหนูเงียบก็ยอมทำตามที่สกาฮะบอกถึงตอนแรกเธอจะไม่เต็มใจนักก็ตามแต่ในตอนนี้เธอควรปล่อยให้ Master อยู่เงียบๆคนเดียวไปก่อนคงดีที่สุดแล้ว

        

        . . . เพราะความปรารถนาที่ไม่เป็นไปตามที่หวังสำหรับเรนยะแล้วมันเจ็บปวดเกินกว่าจะพรรณนาเป็นคำพูดได้

        

        “เรนยะทางนี้ !”

        

        เรนยะที่เดินพ้นออกมาจากถ้ำแล้วนั้นเขาก็ได้เห็นนารูโตะที่กำลังยืนโบกมือเรียกตัวเขาข้างๆจิไรยะซึ่งพวกตัวประกันที่รอดชีวิตมาได้นั้นก็อยู่ด้วยเช่นกัน

        

        “เป็นยังไงบ้าง ?” จิไรยะได้ถามสถานการณ์

        

        “ตาเฒ่านั่นมันหนีไปได้ . .” เรนยะตอบเสียงนิ่งๆ

        

        “งั้น . .”

        

        “วันนี้ผมเหนื่อยแล้วฝากที่เหลือด้วยนะ ลาก่อน

        

        จิไรยะยังไม่ทันจะอ้าปากถามรายละเอียดที่เหลือเรนยะก็ชิงเอ่ยลาแล้วหายตัวไปด้วยคาถามิติทันทีทิ้งให้สองศิษย์อาจารย์อย่างนารูโตะกับจิไรยะจัดการกับเรื่องที่เหลือ

        

        “เอาไงต่อดีเซียนลามก ?”

        

        “ช่างมันเถอะ

        

        นารูโตะมองดูเหล่าผู้รอดชีวิตด้านหลังตนพลางถามผู้เป็นอาจารย์ซึ่งจิไรยะก็ทำท่าทางหมดหนทางเล็กน้อยก่อนที่ทั้งสองจะช่วยกันไปส่งตัวประกันที่หมู่บ้านของพวกเขา

        

        ส่วนเรนยะที่แยกมาจากพวกนารูโตะนั้นตอนนี้เขากำลังเดินเรื่อยเปื่อยภายในป่าชมดวงจันทร์บนท้องฟ้าเพื่อสงบจิตใจ

        

        “นี่ก็ดึกมากแล้วไปพักที่เมืองซากะก็แล้วกัน

        

        สุดท้ายเมื่อเรนยะเริ่มปล่อยวางได้แล้วเขาก็เลยตัดสินใจที่จะไปอาศัยขอพักกับเพื่อนร่วมธุรกิจจากกลุ่มใต้ดินอย่างคุณริวคนเดิมเนื่องจากวันพรุ่งนี้ตัวเขามีนัดทดสอบฮิวงะ ฮานาบิแต่เช้าและเมืองซากะก็อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านโคโนฮะเท่าไหร่เรียกได้ว่าไปกลับค่อนข้างจะเร็วยิ่งเรนยะมียานเหาะวิมารด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง

        

        นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ตอนนี้เรนยะกำลังนั่งดื่มย้อมใจอยู่กับริวเจ้าพ่อวงการใต้ดินแห่งเมืองซากะ

        

        . . . แน่นอนว่าแก้วของเรนยะนั้นเป็นน้ำผลไม้เพราะไรโคเธอไม่อนุญาตให้เขาดื่มเครื่องดื่มมึนเมา

        

        “มา มา ! ลืมเรื่องแย่ๆแล้วมาดื่นกันเถอะ !”

        

        เรนยะที่นั่งดื่มกับริวเงียบๆจู่ๆเขาก็ดันไปสังเกตเห็น ผงสีขาวๆ บางอย่างบนโต๊ะทำงานอีกฝ่ายจึงได้เอ่ยถาม

        

        “คุณริวนี่มัน . . หรือ . . ว่า

        

        ริวหันไปมองเล็กน้อยก่อนที่จะตอบเรนยะไปอย่างมั่นใจว่า

        

        “เธอเข้าใจไม่ผิดหรอก . .”

        

        “มันคือ แป้ง ยังไงละ !!!

        

        

        

        แป้งพ่องสิคุณ ริว !!!

        

        

        

        เพรช 130 เม็ด ตั๋ว 15 ใบ . . .

        

        กิลกาเมซ ไม่ออก !!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×