ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #170 : ภาคสัตว์หางพันธุกรรม ตอนที่ 66
เรนยะที่กลายเป็นคิวเลอร์ บีด้วยคาถาแปลงร่างกุมศีรษะด้วยความปวดแสบนำ้ตาเล็ดสายตาเขาจดจ้องไรคาเงะที่กำลังหิ้วคอตนด้วยความไม่พอใจ
“มองอะไรบีอยากได้อีกหมัด ?”
เห็นไรคาเงะยกกำปั้นขึ้นมาเตรียมจะเขกหัวเขาอีกรอบเรนยะเลยรีบถอนสายตาออกราวกับยอมจำนนแต่ภายในใจของเด็กชายนั้นได้แอบจดความแค้นนี้เอาไว้แล้ว
ฝากไหวก่อนเถอะ . . .
เรนยะได้ถูกไรคาเงะลากเข้าไปขังในห้องสำนึกผิดซึ่งก่อนที่อีกฝ่ายจะจากไปก็ยังไม่วายเขกกบาลส่งท้ายเขาอีกทีทำให้บนหัวของเด็กชายตอนนี้มีก้อนสีเนื้อทรงกลมสองก้อนต่อยอดราวกับไอศกรีมโคน
“อูย ~ เจ็บ !”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจากไปแล้วเรนยะก็คลายคาถาแปลงร่างใช้มือแตะหัวโนชวนเจ็บจี๊ดบนหัวตัวเองหวังบรรเทาความเจ็บแสบที่ได้รับจากไรคาเงะ
“รอเสร็จธุระก่อนเถอะ . . .”
เรนยะเอ่ยกัดฟันอย่างแค้นเคืองพลางมองสำรวจรอบๆห้องขังโล่งๆที่ทำจากไม้ธรรมดา
“หน้าห้องมีคนเฝ้าแค่คนเดียวสินะ”
การเฝ้าระวังไม่ค่อยแน่นหนาไม่น่าแปลกใจเลยที่คิวเลอร์ บีจะหนีเที่ยวได้ทุกครั้ง
เรนยะแอบบ่นเล็กน้อยก่อนที่ใช้การปกปิดตัวตนแอบออกมาจากห้องขังและตรงไปยังห้องเก็บเอกสารของไรคาเงะ
“ไม่ใช่ . . นี่ก็ไม่ใช่”
เรนยะรื้อเอกสารจำนวนมากมานานกว่าชั่วโมงแล้วทว่าเขาก็ยังไม่มีวี่แววจะเจอสิ่งที่ตามหาเลยแม้แต่น้อย
เด็กชายโยนเอกสารทิ้งแสดงการยอมแพ้สายตาเหล่มองนินจาผู้ดูแลห้องเอกสารที่ถูกเขาจับมัดเอาไว้แน่นอย่างหมดหนทางเพราะจากการสอบปากคำด้วยการอ่านความทรงจำแล้วอีกฝ่ายเองก็ไม่รู้ว่าร่างของสองพี่น้องคินกินถูกฝังที่ไหนเช่นกัน
“แสดงว่ามีแค่ไรคาเงะคนเดียวที่รู้สินะว่าศพของพี่น้องคินกินอยู่ที่ไหน”
เมื่อไม่มีเบาะแสอื่นอีกการอ่านความทรงจำผ่านการสัมผัสตัวไรคาเงะจึงกลายเป็นหนทางเดียวของเด็กชาย
นั่นจึงทำให้เรนยะใช้เวลาทั้งวันตามติดชีวิตไรคาเงะตลอดเพื่อหาโอกาสอ่านความทรงจำอีกฝ่าย
“ในที่สุดก็มีโอกาส”
จนกระทั่งตกดึกที่ไรคาเงะเข้านอนเรนยะก็ได้หยิบบางอย่างออกมาจากคลังสมบัติด้วยสีหน้าชั่วร้าย
ซึ่งเรนยะไม่ได้หยิบออกมาแค่ซองเดียวแต่เขาหยิบออกมามากกว่า 100 ซอง
“บังอาจมาเขกหัวท่านเรนยะผู้นี้จงรับโทษทัณฑ์ไปซะ !”
เด็กชายแง้มบานประตูอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะปาซองปริศนาทั้ง 100 ซองเข้าไปในห้องนอนไรคาเงะพร้อมเสียงหัวเราะคิกคัก
ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวก็ได้ทำให้ไรคาเงะลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความสงสัยแต่ยังไม่ทันจะได้ลุกจากเตียงก็มีเสียงต่อไปตามมาทันที
ปุ้ง !!!
“นั่นใครน่ะ !!!”
ไรคาเงะมองดูต้นตอของเสียงก็พบเข้ากับซองสีเงินประหลาดมากมายเกลื่อนเต็มพื้นห้องนอนของตน
ก่อนที่ไรคาเงะจะได้อ้าปากเรียกพวกหน่วยลับมาตรวจสอบจมูกของเขาก็ขยับฟุดฟิดเพราะได้กลิ่นบางอย่างฟุ้งเต็มห้องพร้อมด้วยมวลอากาศสีเหลืองอมเขียวที่เริ่มกระจายตัว
“ม . . เหม็นโว้ยย !!!”
ไรคาเงะที่เจอกลิ่นสุดเหม็นกระแทกจมูกเข้าไปก็หงายท้องสลบเหมือดตาเหลือกน้ำลายฟูมปากคาเตียงนอนทันทีซึ่งเรนยะที่ใช้เนตรจิตดูอยู่นอกห้องก็พยายามกลั้นขำสุดฤทธิ์เพราะกลัวว่าจะเผลอปล่อยก๊ากออกมาจนเสียงาน
เด็กชายเฝ้ารอจนเริ่มมั่นใจว่ากลิ่นมหาประลัยภายในห้องเริ่มจางลงแล้วจึงค่อยๆเริ่มแง้มประตูทีละน้อย
“เรียบร้อยเจอซองละ 5 บาทเข้าไป 100 ซองเป็นไงละ”
เรนยะกอดอกมองไรคาเงะอย่างสะใจเพราะได้แก้แค้นที่อีกฝ่ายบังอาจมาเขกหัวตน
“มาดูความทรงจำของไรคาเงะกันเลย”
เรนยะคาดหวังเล็กน้อยกับความทรงจำของคนระดับคาเงะของหมู่บ้านว่าจะมีความลับปกปิดเอาไว้มากขนาดไหน
ทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกับตัวไรคาเงะภาพความทรงจำก็หลั่งไหลเข้าสู่ความคิดของเด็กชายราวกับภาพยนตร์
แต่ในบรรดาความทรงจำทั้งหมดนี้มีเพียง 2 อย่างเท่านั้นที่เรนยะสนใจจริงๆ
อย่างแรกคือสถานที่ฝังศพของพี่น้องคินกินอันเป็นจุดประสงค์หลักของเด็กชาย
ส่วนอย่างที่สองนั้นคือศพของ ฮิวงะ ฮิซาชิ พ่อของฮิวงะเนจิที่ถูกหมู่บ้านคุโมะเก็บเอาไว้ศึกษาเนตรสีขาวที่ศูนย์วิจัยลับ
“ถือว่าเป็นของขวัญให้กับตระกูลฮิวงะก็แล้วกัน . . .”
เรนยะตัดสินใจว่าหลังขุดศพสองพี่น้องคินกินแล้วเขาจะถือโอกาสนี้พาร่างของฮิวงะ ฮิซาชิกลับคืนสู่โคโนฮะที่เป็นบ้านเกิด
ไม่ว่าพ่อของเนจิเลือกที่จะตายเพื่อหมู่บ้านตายเพื่อตระกูลหรือตายเพราะถูกลูกคิดของผู้บริหารระดับสูงของหมู่บ้านบังคับก็ตามแต่ในฐานะผู้เสียสละแล้วร่างของเขาก็สมควรได้รับการฝังอย่างสมเกียรติ
เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่คนมีชีวิตอยู่อย่างเราๆสามารถมอบให้แก่ผู้ตายได้ . . .
(ลง)
รู้กันอยู่ว่าตัวฟรีจะเลือกใคร
ความคิดเห็น