ตอนที่ 33 : Aria 28 : Let the games begin.
Aria 28
Let the games begin.
เธอชอบบาคุโก
เธอชอบบาคุโก คัตสึกิ
เธอชอบ…
พอคิดถึงตรงนี้ อายาเมะก็รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นแรงจนต้องรีบหยุดความคิดของตัวเอง
ใบหน้าของเด็กสาวขึ้นสีแดงก่ำจนเธอต้องกลิ้งตัวเอาหน้าซุกกับตุ๊กตากระต่ายโง่เอาไว้ ทั้งที่เธอนอนอยู่เพียงลำพังในห้องพัก
ทำไงดี หยุดคิดเรื่องของเขาไม่ได้เลย
ทั้งที่เมื่อวานกับวันนี้แทบจะไม่มีอะไรต่างกันเลยแท้ๆ แต่ในวินาทีที่อายาเมะรู้ตัวว่าเธอชอบบาคุโก เธอก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปจนหมด
เธอไม่เคยชอบใครมาก่อน...ไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้
แต่อายาเมะกลับมั่นใจว่านี่คือความรู้สึกที่เรียกว่า ‘ชอบ’
ความรู้สึกร้อนผ่าวแล่นจากใบหน้าของเธอลงไปจนทั่วทั้งร่างกาย ในอกของเธอฟูฟ่องไปด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกจนทำให้อายาเมะต้องกอดกระต่ายโง่เอาไว้แน่น
ก่อนที่ความคิดที่แวบผ่านเข้ามาจะทำให้ความรู้สึกฟูฟ่องนั่นแห้งเหี่ยวลงอย่างรวดเร็วเหมือนลูกโป่งที่ถูกเข็มเจาะจนฟีบลง
เธอชอบบาคุโก คัตสึกิ
ผู้ชายที่ประกาศกร้าวว่าจะเป็นอันดับหนึ่ง ผู้ชายที่มุ่งมั่นกับการไล่ตามเป้าหมายจนดูเหมือนจะไม่มีอะไรหยุดเขาไว้ได้ ผู้ชายที่ตรงไปตรงมาและปากร้ายมากที่สุดคนหนึ่งที่เธอเคยเจอมาในชีวิต
ผู้ชายที่คงจะให้ความสนใจกับเรื่องความรักเป็นศูนย์
ความจริงข้อนั้นพุ่งเข้าชนอายาเมะอย่างรุนแรงเหมือนก้อนหินที่ปาเข้ามาใส่หัวจนเธอมึนงงไปครู่หนึ่ง
อายาเมะหมุนตัวขึ้นมานอนหงายมองเพดาน แขนข้างหนึ่งยังกอดตุ๊กตากระต่ายโง่ไว้ ในขณะที่ความคิดต่างๆ แล่นผ่านไปมาในหัวของเธออย่างรวดเร็ว
มีโอกาสที่บาคุโกจะชอบเธอบ้างหรือเปล่า
ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น อายาเมะยังคิดว่าเธออาจจะพอมองออกได้บ้าง แต่กับเขาแล้วเธอไม่กล้าพูดเลยจริงๆ ว่าเข้าใจเขา
ปกติเวลาคนเราชอบใครสักคนก็น่าจะส่งสัญญาณอะไรออกมาบ้างนะ?
เด็กสาวขมวดคิ้ว พยายามคิดย้อนไปว่าเธอเคยเห็นสัญญาณอะไรพวกนั้นจากบาคุโกบ้างหรือเปล่า
…
ถ้าเมื่อครู่นี้ ความรู้สึกของเธอเป็นเหมือนลูกโป่งแฟ่บๆ ในตอนนี้มันก็คงเป็นลูกโป่งแฟ่บๆ ที่ถูกเหยียบจนแบนติดพื้น
เพราะใช่...อายาเมะคิดไม่ออกเลยว่าบาคุโกมีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกว่าเขาจะชอบเธอ
สิ้นหวังสุดๆ
พอได้ข้อสรุปกับตัวเองแล้ว อายาเมะก็ได้แต่นอนเหม่อมองเพดานไปอีกสักพัก
สลดชะมัดเลย…
เธอยกกระต่ายโง่ขึ้นมา จ้องมองหน้าของมันราวกับว่ามันจะช่วยให้สัญญาณบางอย่างแทนเจ้าของเดิมของมันได้
แต่มันก็เป็นแค่ตุ๊กตากระต่ายโง่
นอกจากดวงตาโตๆ ที่มองกลับมาแล้ว ก็ไม่มีคำตอบอื่นใดอีก
เป็นเรื่องตลกร้ายสุดๆ ที่คนที่ปฏิเสธคนอื่นเป็นประจำอย่างเธอ พอได้มีความรักครั้งแรกก็กลายเป็นฝ่ายโดนปฏิเสธบ้าง
อายาเมะได้แต่ถอนหายใจ
เธอนอนหลับตาอยู่เฉยๆ กอดตุ๊กตาเอาไว้ในอ้อมแขนแน่น ปล่อยให้ความคิดต่างๆ ผ่านเข้ามาในหัวอีกสักพัก ก่อนจะได้ข้อสรุปกับตัวเอง
ที่จริงนิสัยไม่สนใจความรักของบาคุโกอาจจะเป็นข้อดีก็ได้
มาลองนึกๆ ดูแล้ว แม้แต่พวกสาวๆ ห้อง A เองก็ไม่มีใครสนิทสนมกับบาคุโกมากเป็นพิเศษ
อายาเมะไม่เคยได้ยินว่าบาคุโกไปทานข้าวกับผู้หญิงคนไหน แต่ในวันนั้นเขาก็ยังเดินมานั่งเป็นเพื่อนเธอ
อายาเมะไม่เคยได้ยินว่าบาคุโกเดินไปส่งหรือรอใคร แต่เขาก็ทำอย่างนั้นให้เธอ
อายาเมะไม่เคยได้ยินว่าบาคุโกยกของรางวัลที่ตัวเองได้ให้ใคร แต่ตุ๊กตากระต่ายโง่ตัวนี้ก็กำลังนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของเธอ
ดังนั้นแล้ว ต่อให้มองแบบไม่เข้าข้างตัวเอง อายาเมะก็ยังสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าบาคุโกใจดีกับเธอมากกว่ากับคนอื่น
เพราะอย่างนั้นก็ยังเรียกได้ว่าตัวเธอยังมีความหวังหรือเปล่านะ?
อายาเมะเม้มริมฝีปากอย่างครุ่นคิด ก่อนจะนอนแผ่บนเตียงแล้วถอนหายใจยาวๆ ด้วยสีหน้าราวกับคนปลงตก
ช่างมันเถอะ…
ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ไม่แย่สักหน่อย
ได้พูดคุยกันบ้าง ไปทานข้าวด้วยกันบ้าง หยอกล้อกันโดยที่ไม่โดนระเบิดตายไปเสียก่อน…เท่านี้ก็ดีมากแล้ว
ตัวเธอเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร
ถ้ามีอะไรสักอย่างที่อายาเมะมั่นใจก็คงเป็นความอดทนของเธอ
เธอเพิ่งจะรู้จักบาคุโกแค่ไม่กี่เดือนเอง และความรู้สึกของเธอก็คงจะไม่จางหายไปในแค่วันหรือสองวัน ยังมีเวลาอีกมากที่จะให้เธอได้รู้จักเขา และให้เขาได้รู้จักเธอ
พอคิดได้แบบนั้นแล้ว อายาเมะก็รู้สึกสบายใจขึ้นมานิดหน่อย
เธอกลับมานอนกลิ้งบนเตียงอีกครั้ง มือข้างหนึ่งยังกอดกระต่ายโง่ไว้ แต่อีกข้างเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
ตอนแรกอายาเมะตั้งใจจะกดเข้าแชทไปหาซาโยริ แต่ยังไม่ทันจะได้พิมพ์อะไรลงไป ก็มีข้อความใหม่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอเสียก่อน
Mr. Genius : ว่างไหม คนสวย
ชื่อไอดีแปลกๆ นั่นทำให้อายาเมะต้องขมวดคิ้วมอง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่านั่นคือไอดีของอายาโตะที่เจ้าตัวเคยมาแอบเปลี่ยนไว้ในมือถือของเธอ
ไม่ว่าอายาเมะจะเปลี่ยนกลับสักกี่รอบ พอรู้ตัวอีกทีก็ถูกอายาโตะเปลี่ยนใหม่อยู่เรื่อย จนเธอเป็นฝ่ายเหนื่อยใจไปเอง
ตอนแรกเธอคิดว่าจะเมินข้อความเขาไปคุยกับซาโยริก่อน แต่ถ้าไม่มีธุระอะไร อายาโตะก็ไม่น่าจะว่างขนาดทักมาชวนคุยเล่น
ตอบสักหน่อยก็ได้
Ichi_Ayame♫ : ว่างอยู่ มีอะไรหรือเปล่า?
ข้อความของเธอถูกอ่านในทันที และแค่ไม่ถึงหนึ่งนาทีถัดมา บนหน้าจอมือถือก็ปรากฏสายเรียกเข้าจากพี่ชายฝาแฝด
ตอนที่อายาเมะรับสาย เธอยังรู้สึกงงๆ อยู่นิดหน่อยเลยว่าอะไรดลใจให้เขาโทรมาหาเธอในวันนี้
อย่าบอกนะว่าเรื่องกลับบ้านอีกแล้ว…
“ฮัลโหล”
“เสียงคนสวยฟังดูสดใสนะ มีเรื่องอะไรดีๆ เกิดขึ้นหรือไง”
คำทักที่แม่นยำราวกับมานั่งอยู่ในหัวของเธอเองไม่ได้ทำให้อายาเมะแปลกใจสักนิด
ไม่สิ แปลกใจจนหายแปลกใจ ขนลุกจนหายขนลุก แถมยังกลัวจนหายกลัวไปแล้วมากกว่า
มันเป็นอะไรบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ แต่สองพี่น้องเรียกมันว่า ‘เซ้นส์แฝด’
สมัยเด็กๆ ตอนที่อายาเมะยังไม่รู้ว่าอัตลักษณ์ของเธอคืออะไร มีช่วงหนึ่งที่เธอแอบคิดไปว่าอัตลักษณ์ของเธอกับอายาโตะอาจจะเป็นการสื่อจิตระหว่างฝาแฝดด้วยซ้ำ
“อย่ามาเปิดโหมดสื่อจิตตามใจชอบสิ”
“แน่ะ เปลี่ยนเรื่อง”
“เปล่านะ”
“มีความลับกับพี่ชายเหรอ”
“เปล่าสักหน่อย” อายาเมะยังคงปฏิเสธอย่างหัวชนฝา ให้ตายก็ไม่ยอมบอกอายาโตะแน่ๆ ว่าวันนี้เธอค้นพบว่าตัวเองกำลังแอบชอบผู้ชายคนหนึ่ง
“อืม...เรื่องอะไรกันนะ” อายาโตะยังคงพูดไปเรื่อยๆ อย่างไม่สนใจเสียงของอายาเมะที่เริ่มจะเข้มขึ้นเรื่อยๆ อย่างพยายามจะตัดบทสนทนาแม้แต่น้อย
“อะฮ่า! รู้ละ”
น้ำเสียงสนุกสนานนั่นทำให้อายาเมะนึกอยากจะพุ่งเข้าไปหยิกแขนเขาผ่านมือถือมากจริงๆ ก่อนที่เธอจะเกือบทำโทรศัพท์ร่วงเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของอายาโตะ
“สาวน้อยมีรักแรกแล้วเหรอ”
…
อายาเมะรู้สึกหมดคำจะพูดจริงๆ เธอได้แต่เม้มปากแน่น ไม่ได้ตอบรับคำพูดของพี่ชาย แต่ดูเหมือนว่าความเงียบนั้นก็เป็นคำตอบในตัวของมันเองแล้ว
“บาคุโก คัตสึกิคนนั้นสินะ”
นี่มันชักจะเกินไปหน่อยแล้วมั้ง
เขารู้ว่าเธอแอบชอบคนยังไม่พอยังระบุตัวถูกอีก ทั้งที่เธอไม่เคยเล่าเรื่องของบาคุโกให้ฟังสักครั้ง
“เกินไปแล้วนะ อายาโตะ! หยุดสื่อจิตกันเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“พาล”
น้ำเสียงกึ่งหยอกล้อนั่นทำให้อายาเมะพลันรู้สึกทั้งเขินอายทั้งโมโหยิ่งกว่าเดิม อายาโตะไม่ได้เรียนอยู่โรงเรียนนี้ด้วยซ้ำ จะรู้ดีเกินไปหน่อยแล้ว
ไม่ต้องรอให้เขาได้พูดอะไรอีก อายาเมะก็กดตัดสายไปก่อนเรียบร้อย
ไม่คุยด้วยแล้ว
อายาเมะนั่งมองโทรศัพท์ของเธอ ก่อนจะแลบลิ้นใส่คนที่ไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้ด้วยความหมั่นไส้ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เก็บมือถือ ข้อความจากอายาโตะก็ถูกส่งมาหาเกือบจะในทันที
Mr. Genius : คนที่เธอชอบ ไม่ใช่คนที่คุณแม่จะยอมรับได้หรอกนะ
ข้อความกึ่งคำเตือนนั่นทำให้อายาเมะชะงักมือที่กำลังจะกดสติกเกอร์ส่งกลับไป เธอจ่อนิ้วลังเลอยู่เหนือคีย์บอร์ดสักพัก แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจพิมพ์ตอบข้อความนั้น
Ichi_Ayame♫ : ไม่ต้องห่วงหรอก
Ichi_Ayame♫ : เขาคงจะไม่ได้ชอบฉันอยู่แล้ว
ในเมื่ออายาเมะทำได้แค่แอบชอบบาคุโก เรื่องของเขาจะไม่มีทางไปถึงหูแม่ของเธอแน่นอน
เพราะฉะนั้นแล้วไม่เป็นไรหรอก
อายาเมะปลอบใจตัวเองอย่างนั้น ก่อนจะวางมือถือทิ้งไว้ข้างหมอนแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกรอบ ตุ๊กตากระต่ายโง่ยังคงนอนแอ้งแม้งอยู่ข้างตัวเธอในตอนที่อายาเมะตะแคงตัวหันไปมองมัน
ตาโตๆ กับรอยยิ้มโง่ๆ ของมันทำให้อายาเมะเผลอฟาดแขนใส่เพื่อจะระบายอารมณ์ความหมั่นไส้พี่ชายฝาแฝดของเธอ
ก่อนที่เด็กสาวจะนึกขึ้นได้ว่าตุ๊กตากระต่ายโง่นี่ได้มาจากใคร…
“อ๊ะ! ขอโทษนะ คุณกระต่าย” เธอเผลอพูดกับตุ๊กตาในอ้อมแขนทั้งที่มันไม่ได้มีชีวิตสักหน่อย แต่เหมือนว่าในใจของเธอจะเผลอมองมันเป็นตัวแทนของคนที่มอบมันให้กับเธอไปเสียแล้ว
อายาเมะลูบตรงที่เธอฟาดแขนลงไปเมื่อครู่ไปมาเบาๆ เหมือนจะปลอบเจ้ากระต่ายโง่
ลูบไปลูบมา จิตใจก็เหมือนจะคิดมากกับข้อความที่ส่งไปให้อายาโตะเองอยู่เหมือนกัน
ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าโอกาสที่บาคุโกจะตอบรับความรู้สึกของเธอมีน้อยจนแทบจะมองไม่เห็น แต่ก็ยังดึงดันจะชอบต่อไป
เธอนี่มัน…
เด็กสาวฝังหน้าลงกับพุงของคุณกระต่ายพลางถอนหายใจออกมาเสียงดัง
“เฮ้อ”
เอาเถอะ
ในเมื่อชอบไปแล้วก็ช่วยไม่ได้
อายาเมะจะถือว่ามันเป็นสีสันของชีวิตอย่างนึงตามหลักการของการ์ตูนสาวน้อยก็แล้วกัน
_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_
“ใกล้จะถึงช่วงสอบอีกแล้วล่ะ” ซาโยริเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นมาระหว่างที่พวกเธอกำลังเดินอยู่บนระเบียงทางเดินระหว่างตึกเรียนในช่วงยามบ่าย
อายาเมะฟังแล้วก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ในตอนนั้นเองว่าอีกประมาณสามสัปดาห์จะถึงช่วงเวลาของการสอบก่อนปิดเทอมฤดูหนาวแล้ว
“ฉันยังแทบจะไม่ได้อ่านอะไรเลย” อายาเมะโอดครวญกับเพื่อนสนิทสาวด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน
อันที่จริงไม่ใช่แค่เธอหรอก เพราะแต่ละคนต่างก็ยุ่งวุ่นวายกับงานเทศกาลโรงเรียนกันพักใหญ่ ทำให้ไม่มีใครได้ทบทวนบทเรียนกันอย่างจริงจัง
อายาเมะไม่คิดว่าเธอเป็นพวกเด็กเรียนถึงขนาดนั้น แต่เธอก็ไม่ใช่คนแบบที่จะปล่อยให้เกรดตกจนน่าเกลียดเหมือนกัน
ที่เธอสอบได้อันดับเจ็ดของห้องเมื่อรอบที่แล้วก็ถูกคุณแม่ตำหนิมาแล้วว่าควรจะทำได้ดีกว่านี้ ขืนรอบนี้ร่วงลงไปมากกว่านั้นคงจะโดนหักค่าขนมแล้วแน่
“รอบที่แล้วเธออ่านก่อนสอบแค่ไม่นานยังได้ตั้งที่เจ็ดเลย ถ้ารอบนี้เตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้ไม่มีทางได้อันดับแย่กว่าเดิมหรอกน่า” ซาโยริพูดปลอบใจได้อย่างสมเหตุสมผล ทำให้อายาเมะรู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง
“ถ้างั้นวันนี้เราไปห้องสมุดกันไหม” อายาเมะหันไปชวนซาโยริอย่างร่าเริง “รีบไปยืมหนังสือดีๆ ก่อนที่จะถูกแย่งไปจนหมดกันดีกว่า”
ซาโยริไม่ได้คัดค้านอะไร พวกเธอจึงมาลงเอยที่ห้องสมุดกลางขนาดใหญ่ของอาคารเรียนหลัก
ทันทีที่อายาเมะเดินไปถึงโซนโต๊ะอ่านหนังสือด้านใน เด็กสาวก็เผลอชะงักฝีเท้าไปในตอนที่เธอเห็นคนที่ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอในสถานที่นี้
เธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ในขณะที่ดวงตาสีน้ำทะเลจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะตัวริมหน้าต่างเพียงลำพัง
บาคุโกกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุด
ซาโยริที่เห็นเพื่อนของเธอยืนอยู่เฉยๆ ก็หันไปมองอย่างงุนงง แต่พอมองตามสายตาของอายาเมะไปแล้วเธอก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
อาการเหม่อมองของสาวน้อยในห้วงรักนั่นเอง
พอเห็นเพื่อนของเธอเป็นแบบนี้แล้ว ซาโยริก็ได้แต่แอบถอนหายใจกับตัวเอง ก่อนจะสะกิดเรียกอายาเมะ
“ไอจัง ขอโทษทีนะ ฉันเพิ่งนึกได้ว่าฉันสัญญากับโฮริจังไว้ว่าจะไปช่วยขนของตอนเย็นน่ะ”
“ขนของ?” อายาเมะหันกลับมามองเพื่อนของเธอในที่สุด ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ พูดทวนอย่างงุนงง “ให้ฉันไปช่วยด้วยไหม”
“ไม่ต้องหรอก ไม่ได้เยอะอะไร เธออ่านหนังสืออยู่ที่นี่ไปก่อนแล้วกัน แล้วไว้เจอกันตอนกินข้าวเย็น”
“เสร็จแล้วก็ส่งข้อความมาบอกละกันนะ” อายาเมะพูดทิ้งท้ายก่อนจะโบกมือลาเพื่อนของเธอที่กำลังเดินหายออกไปอีกทางเรียบร้อยแล้ว
เหลือแค่เธอเพียงคนเดียวแล้วสิ
พอซาโยริไม่อยู่แล้ว อายาเมะก็หันไปมองโต๊ะตัวริมหน้าต่างที่บาคุโกนั่งอยู่อีกครั้ง เธอเผลอกำสายกระเป๋าแน่นขึ้นขณะที่หัวใจเต้นถี่รัวขึ้นมาแค่เพียงเพราะได้เห็นหน้าเด็กหนุ่มคนนั้น
อายาเมะสูดหายใจเข้าลึกๆ หยิบมือถือขึ้นมาเปิดกล้องหน้า จัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทางอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินตรงไปหาเขาในที่สุด
“บาคุโก ที่นั่งตรงนี้ว่างไหม นั่งด้วยได้หรือเปล่า”
บาคุโกเพียงแค่เหลือบตามองเธอ ก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูไม่แยแสเหมือนเคยว่า “ตามใจ”
อายาเมะรีบทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวตรงข้ามเขาอย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าเด็กหนุ่มจะเปลี่ยนใจเสียก่อน
หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก
อายาเมะลุกไปหยิบหนังสือสองสามครั้ง พลิกเปลี่ยนหน้าหนังสือไปเรื่อยๆ เธออ่านรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็ไม่แปลกเมื่อคิดว่าเธอกำลังนั่งอยู่กับใคร
อืม...กำลังนั่งอยู่กับคนที่เธอเพิ่งจะยอมรับกับตัวเองได้เมื่อไม่กี่วันก่อนว่ากำลังแอบชอบเขาอยู่ไงล่ะ
ช่วงนี้เธอแทบไม่ได้เจอบาคุโกเลยเพราะพอผ่านช่วงงานเทศกาลไปแล้ว อายาเมะก็ไม่มีเหตุผลให้ไปนั่งเล่นอยู่ในหอพักของห้อง A อีก
และความสัมพันธ์ของเธอกับเพื่อนในห้องก็กลับมาดีขึ้นแบบก้าวกระโดดด้วย อายาเมะไม่อยากจะตีตัวห่างออกไปอีกรอบ เลยพยายามใช้เวลากับพวกเขาให้มากขึ้นอีกหน่อย
ช่วงนี้เธอเลยได้เจอบาคุโกแค่ตอนเดินผ่านกันตามทางเดินหรือโรงอาหารเท่านั้นเอง
แต่ที่จริงแล้วก็ดีเหมือนกัน มันทำให้เธอได้มีช่วงเวลาให้การรวบรวมสติก่อนจะกลับมาเจอเขา
ดวงตาสีน้ำทะเลไล่มองตัวอักษรในหน้าหนังสือได้ไม่นานนักก็เผลอตวัดขึ้นมามองเด็กหนุ่มตรงหน้าอีกรอบ
ท่าทางของเขาในตอนนี้ดูอยู่จุดกึ่งกลางระหว่างความสงบนิ่งกับความผ่อนคลาย
อายาเมะเคยเห็นทั้งตอนที่เขาฝึกใช้อัตลักษณ์ ตอนที่เขาตีกลอง ตอนที่เขาออกกำลังกาย แต่ไม่เคยเห็นตอนที่เขาอ่านหนังสือมาก่อน
ทั้งที่ภาพลักษณ์ของเขาดูเหมือนพวกหนุ่มนักกีฬามากกว่า แต่พอเห็นตอนที่เขานั่งอ่านหนังสือแบบนี้แล้ว เธอกลับอดคิดไม่ได้ว่ามันก็เข้ากับเขามากเหมือนกัน
แล้วทำไมเธอถึงต้องมานั่งคิดเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย…
นี่เธอตั้งใจจะมาอ่านหนังสือนะ!?
อายาเมะตบตีกับตัวเองในใจ แต่ยังไม่ทันได้ข้อสรุป ดวงตาสีแดงอีกคู่ก็ตวัดขึ้นมามองเธอพอดี
บาคุโกเลิกคิ้ว ก่อนจะถามว่า “มองอะไรของเธอ”
คำถามนั้นทำให้เธอได้แต่นั่งอ้าปากหุบปากสลับไปมาอย่างไม่มีคำตอบ
จะตอบว่ามองเขาก็ไม่ได้ ถึงความจริงแล้วเธอจะมองเขาอยู่จริงๆ ก็เถอะ
หัวสมองของเธอพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อจะหาข้ออ้างอะไรสักอย่าง แต่ในตอนนั้นเองก็มีเสียงสวรรค์มาช่วยเธอเอาไว้พอดี
“บาคุโก! เรื่องที่ว่าจะติว...อ่าว! นั่นมันอิชิคาวะนี่ สวัสดีตอนบ่าย!”
คิริชิมะโบกมือทักเธออย่างร่าเริง เปิดช่องในการตัดบทสนทนาเมื่อครู่ได้อย่างสวยงาม ทำให้อายาเมะรีบทักทายตอบกลับเขาไปอย่างรวดเร็ว
“สวัสดียามบ่ายเช่นกันนะ คิริชิมะคุง”
คิริชิมะนั่งลงที่เก้าอี้ด้านข้างเธอ ตอนแรกอายาเมะจะกระเถิบเลื่อนที่นั่งให้เขา แต่เจ้าตัวก็โบกมือไปมาเป็นสัญญาณบอกว่าไม่เป็นไร
พอมีคนที่สามเข้ามานั่งด้วยแล้ว อายาเมะก็พลันรู้สึกว่าเธอค่อยมีสมาธิอ่านหนังสือมากขึ้นหน่อย
แต่อ่านต่อไปได้อีกไม่ทันไร คิริชิมะก็หันมาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงขอโทษขอโพยว่า “อิชิคาวะ คือว่าพวกเราอาจจะเสียงดังกันหน่อยนะ ถ้ามันรบกวนเธอล่ะก็เดี๋ยวพวกฉันย้ายโต๊ะ...”
“ไม่เป็นไรหรอก” อายาเมะรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว เธอเป็นฝ่ายเข้ามานั่งกับบาคุโกเอง จะให้พวกเขาเป็นคนย้ายไปได้ยังไงกันล่ะ
ก่อนที่อายาเมะจะเริ่มเสียใจกับคำพูดของตัวเองทีหลัง
ที่คิริชิมะบอกว่าเสียงดัง ‘นิดหน่อย’ เป็นการพูดที่เข้าข้างตัวเองอย่างร้ายกาจมาก
“บอกให้ฆ่า X ออกไปก่อนไงวะ!!!!”
รู้ตัวอีกที การติวหนังสือก็กลายเป็นการแข่งกันตะโกนไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ อายาเมะนึกอยากจะมุดหน้าหนีลงไปหลังหนังสือด้วยความอับอายเหลือเกินในตอนที่มีสายตาไม่เป็นมิตรมองมาทางโต๊ะของพวกเธอเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน
เธอเหลือบไปมองด้านข้างก็เห็นคิริชิมะยังคงเกาหัวอย่างงุนงงกับคำอธิบายที่ช่วยอะไรไม่ได้เลยของบาคุโก
นอกจากบาคุโกจะไม่มีความอดทนพอในการเป็นอาจารย์แล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะสอนอะไรใครไม่ได้อีกด้วย
“คิริชิมะคุง บาคุโกหมายความว่าให้ลองย้ายข้าง X แล้วคูณทั้งสมการดูน่ะ”
“เข้าใจล่ะ!”
พอมีอายาเมะช่วยแปลภาษาของบาคุโกให้แล้ว คิริชิมะก็ดูจะเข้าใจได้ไวขึ้นกว่าเดิมมาก
อายาเมะเริ่มจะคิดแล้วล่ะว่าปัญหาอาจจะไม่ได้อยู่ที่การเรียนรู้ของคิริชิมะ แต่เป็นวิธีการสอนของบาคุโกต่างหาก
แต่เจ้าตัวก็อยากให้บาคุโกติวให้ ดังนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอควรจะเข้าไปยุ่งไหมนะ?
อายาเมะนั่งลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจว่าเธอควรจะอ่านหนังสือของตัวเองเหมือนกัน
แต่พลิกหน้าหนังสือต่อไปได้อีกแค่ยังไม่ถึงห้าหน้า เด็กสาวก็ค้นพบว่าเธอไม่สามารถอ่านหนังสือให้รู้เรื่องในสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้หรอก
“คิริชิมะคุง ฉันติวสอบให้นายก็ได้นะ” อายาเมะเป็นฝ่ายเสนอตัวอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นว่าบาคุโกเริ่มจะตะคอกใส่คิริชิมะเป็นรอบที่นับไม่ถ้วน
เธออาจจะไม่ได้เรียนเก่งมากมายอะไร แต่อย่างน้อยก็พูดรู้เรื่องและมีความอดทนพอที่จะสอนคนอื่นได้แน่ๆ
สีหน้าของคิริชิมะในตอนนั้นดูซาบซึ้งใจ ขัดกับสายตาของบาคุโกที่ตวัดมามองเธอตาขวางอย่างเปลี่ยนเป้าหมายแทน
“เอาตัวเองให้รอดก่อนเหอะ”
คำพูดแฝงแววดูถูกอย่างชัดเจนนั่นทำให้อายาเมะมองหน้าของบาคุโกตอบกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ เธอเบะปากนิดๆ ขณะที่ตอบกลับไปว่า
“เห็นแบบนี้ฉันก็อยู่อันดับเจ็ดของห้องนะ ถึงจะไม่ได้เก่งมากแต่แค่ติววิชาพื้นฐานน่ะทำได้อยู่แล้ว”
“เหอะ” บาคุโกแค่นเสียงออกจากจมูกด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูหยามเหยียดกว่าเดิมเสียอีก “ฉันได้ที่สาม”
อายาเมะได้แต่หันไปมองคิริชิมะราวกับจะขอคำยืนยัน ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าตอบกลับมา
บ้าบอเกินไปแล้ว...
เธอเริ่มคิดแล้วสิว่าโลกนี้มันไม่มีความยุติธรรมอยู่จริงๆ
คนอะไรจะมีทั้งอัตลักษณ์ที่ดี เรียนเด่น กีฬาก็สุดยอด สูงยาวเข่าดี หน้าตา...เอาเป็นว่าอายาเมะก็คิดว่าเขาหน้าตาดีมาตั้งแต่ก่อนจะรู้ตัวว่าแอบชอบเขาอยู่แล้ว ไม่ได้มองผ่านฟิลเตอร์คนแอบชอบหรอกนะ!
คงเพราะแบบนี้ บาคุโกถึงได้เป็นคนปากร้าย
ไม่อย่างนั้นโลกนี้คงจะมีคนที่สมบูรณ์แบบมากเกินไปเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน
ถึงในใจอายาเมะจะรู้สึกว่าเธอสู้อะไรเขาไม่ได้เลยแม้กระทั่งในด้านวิชาการ แต่สายตาที่มองมาอย่างเหนือกว่านั้นก็ดูน่าหมั่นไส้มากจริงๆ
อายาเมะพูดสวนกลับไปทันทีอย่างอดไม่ได้ว่า “ที่สามก็ที่สามสิ สอบคราวนี้ฉันจะขึ้นอันดับสูงกว่าบาคุโกให้ดูเลย”
“หา?”
คิริชิมะมองเธอเหมือนเห็นหัวที่สองงอกออกมาจากคอของเธอ ส่วนบาคุโกกระตุกยิ้มเหี้ยมขึ้นขณะที่ดวงตาสีแดงหรี่ลง
“พูดแบบนี้ก็สวยสิวะ”
สายตาร้ายกาจที่กำลังจ้องมองมาราวกับจะแปลได้ว่า ‘กล้าท้าทายฉันคนนี้คงเตรียมตัวตายเอาไว้แล้ว?’
อายาเมะรู้สึกตัวเล็กลีบเหมือนเหมือนเป็นกระต่ายตัวจ้อยเบื้องหน้าราชสีห์ตัวใหญ่
“ผลสอบออกเมื่อไหร่ เตรียมตัวชดใช้ที่กล้ามาท้าทายฉันไว้เลย ยัยกระต่าย”
ชดใช้?
เกมลงโทษหรือไงน่ะ
จากคำพูดท้าทายชั่ววูบของเธอ ทำไมอยู่ๆ ถึงกลายเป็นเกมเดิมพันอะไรสักอย่างไปแล้ว
และสายตาของบาคุโกก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้พูดเล่น
แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว อายาเมะเองก็ไม่คิดจะถอนคำพูดของตัวเองเหมือนกัน
ในเมื่อบาคุโกมั่นใจมากว่าเธอต้องเป็นคนรับบทลงโทษ ถ้าเธอเพิ่มเดิมพันเข้าไปให้สูสีกัน เขาก็คงไม่มีปัญหาสินะ?
“คิริชิมะคุง เป็นพยานให้ฉันด้วยนะ” อายาเมะยืนกอดอก ดวงตาสีน้ำทะเลมองตรงเข้าไปในดวงตาของบาคุโกอย่างไม่ยอมแพ้ “ถ้าคะแนนสอบวิชาพื้นฐานของฉันได้มากกว่าบาคุโกล่ะก็ บาคุโกจะต้องไปเลือกของขวัญปีใหม่ให้มิทสึกิซังกับฉันโดยที่ห้ามบ่นอะไรสักคำ”
คิริชิมะที่อยู่ในสภาพคนกลางตอนนี้ดูจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ท่าทางเหมือนอยากจะห้ามพวกเขาแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
“คิริชิมะ” บาคุโกพูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำโดยที่ไม่ได้หันไปมองเพื่อนของตัวเอง ดวงตาสีแดงยังคงมองตรงไปยังเด็กสาวที่มองหน้าเขาตอบกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้
“รอดูกระต่ายขาหักได้เลย”
อายาเมะอ้าปากเหวอนิดๆ กับคำพูดนั่น แม้แต่คิริชิมะก็เหงื่อตกขณะที่พูดว่า “บาคุโก นายใจเย็นก่อน...”
“ไปปีนเขา”
บาคุโกพูดตัดบทห้วนๆ ทำให้อายาเมะได้แต่กะพริบตาปริบๆ มองขณะที่พยายามตีความคำพูดของเขา
ถ้าเธอแพ้...บาคุโกจะให้เธอไปปีนเขา?
“ตอนหน้าหนาว”
บาคุโกสำทับราวกับโปะหินอีกก้อนลงบนหินก้อนใหญ่ๆ ที่วางอยู่บนหัวของเธออีกที
ดวงตาสีแดงสดนั่นมองสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของอายาเมะด้วยความพอใจ
“ทำไม? ปอดแหกแล้ว?”
“ใครว่าล่ะ” อายาเมะตอบกลับไปในทันที “ตกลงตามนี้ รอดูผลสอบกันได้เลย!”
น้ำเสียงของเธอในตอนนั้นฟังดูมั่นใจกว่าความรู้สึกจริงๆ ของเธอมากทีเดียว
อย่างแย่ที่สุดก็แค่แพ้…
ก็แค่ต้องแบกร่างกายของคนที่แทบจะไม่ออกกำลังกายเลยอย่างเธอ ไปปีนเขาในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงเกือบจะเข้าฤดูหนาวแล้วก็เท่านั้นเอง
แค่คิดภาพตาม อายาเมะก็รู้สึกแล้วว่าสภาพของเธอจะต้องดูไม่จืดมากแน่ๆ
แต่สายตาราวกับรอดูความพ่ายแพ้ของเธอจากบาคุโกทำให้อายาเมะรู้สึกว่าตัวเองจะต้องลองพยายามสักตั้งจริงๆ
บาคุโกก็บาคุโกเถอะ
อย่ามาคิดว่าเธอเป็นกระต่ายที่กัดใครไม่ได้นะ
ถ้าชนะจะได้ไปเดทพร้อมกับซื้อของให้มิทสึกิซังด้วย
แต่ถ้าแพ้…ก็ยังได้ไปเดทเหมือนกัน แต่เป็นบนภูเขาเท่านั้นเอง!
_________________________
ขอโทษที่มาช้านะคะ พอดีแวบไปอัพพี่ดาบิกับคุมฮอว์กส์มา รอบนี้เลยหายไปหลายวันหน่อย
จะเริ่มเข้า arc ถัดไปแล้วนะคะ ตอนนี้กะคร่าวๆ คิดว่าน่าจะเดินทางมาเกือบจะถึงครึ่งเรื่องแล้วล่ะค่ะ! (ยาวมากเวอร์จนงงเลยค่ะ….)
การสื่อจิตในตอนนี้ Base on true story ของเรากับน้อง Pandora P. โดยที่พวกเราไม่ใช่แฝดหรือพี่น้องกันแต่อย่างใดค่ะ.... //คิดดูว่าน่าขนลุกกว่าแค่ไหน
เรื่องการ์ดสคส.อาจจะช้าหน่อยนะคะ เราเพิ่งจะกลับมาจากตจว.เองน่ะค่ะ ช่วงนี้ก็ยุ่งๆ อีกนิดหน่อย แต่ส่งเมื่อไรจะแจ้งแน่นอนค่ะ
แล้วก็ขอประกาศรายชื่อผู้โชคดีเพิ่มเติมจากกิจกรรมซานต้านะคะ!
1. คุณ peakthailandk
2. คุณ -นานาชิ-
3. คุณ ระบบทวงนิยาย
4. คุณ Yellowducklovely
5. คุณ อากิสะ88
6. คุณ bitter_caramel
7. คุณ siretorn
8. คุณ ParamiWashi32
9. คุณ Yusiga
10. คุณ Pattypimpisa
11. คุณ Kill181
เดี๋ยวเราจะทักข้อความลับไปนะคะ หรือถ้าใครล็อกไอดีแล้วเราทักไปไม่ได้ หรือไม่ได้ข้อความจากเรา รบกวนทักมาที่ทวิตเตอร์ของเรานะคะ @MissMargarita0 ค่ะ รบกวนส่งชื่อที่อยู่มาให้เราภายในวันที่ 15 มกราคมด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นจะขออนุญาตตัดสิทธิ์นะคะ เราน่าจะว่างไปส่งไปรษณีย์แบบรวดเดียวจริงๆ ค่ะ เลิกงานหลังไปรษณีย์ปิดทุกวันเลย Q-Q
ขอบคุณทุกเม้นท์ วิว ไลค์ และทุกคนที่เข้ามาร่วมสนุกกับเรามากๆ เลยนะคะ ทำให้เรามีแรงปั่นนิยายได้มากๆ เลยค่ะ!
และในตอนนี้ก็ขอบคุณน้อง Pandora P. มากๆ ด้วย ที่ช่วยเติมฟิลเตอร์สาวน้อยให้กับอายาเมะจัง… YY
ค่ำๆ นี้น่าจะไปอัพคุมฮอว์กส์นะคะ เอาไว้เจอกันที่นั่นค่ะ หรือถ้าใครไม่ได้อ่านก็ไว้เจอกันในคัตจังตอนถัดไปนะคะ!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องแอบร้ายนะ อยากเดทก็ไปขอเขาเลยสิ!!!!
ชอบความปลอบใจตัวเองในตอนท้าย5555
คุณแม่จะเป็นคนแบบไหนนะ
รอค่ะไรท์
ทำไมรู้สึกเหมือนน้องอายาเมะจะแพ้...;-; ถ้าไปปีนเขาอาจจะเป็นเดทที่ดีก็ได้นะ! นังคัตก็หาเรื่องไปเที่ยวกับน้องรึป่าวน้าาาา นี่มันชวนเดททางอ้อมแน่!!
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 มกราคม 2564 / 16:09