ตอนที่ 3 : ผู้ปกครอง 3
“หนู...หนูอยู่กับคุณฉัตรก็ได้ค่ะ” เด็กสาวตัดสินใจ อยู่กับคนที่เต็มใจจะให้อยู่จะดีกว่า แม้จะอยากอยู่กับคนที่มีความเมตตาให้เธอมากกว่าก็ตาม
พนิดายิ้มออกมาเหมือนโล่งอก เมื่อเด็กสาวตัดสินใจออกมาอย่างนั้น ในขณะที่เอกภพทำหน้าผิดหวังนิดหน่อย ที่แพรไหมตัดสินใจไม่อยู่กับเขา และรู้สึกงงที่เธอเลือกที่จะอยู่กับเอกฉัตรแทน
“งั้นก็ไปกันค่ะ เดี๋ยวป้าจะเดินไปส่งที่บ้านคุณฉัตรเอง” สายหยุดหันไปบอกแพรไหม ก่อนจะลุกขึ้นและเดินนำออกไปจากบ้านหลังใหญ่ ในขณะที่แพรไหมรีบคว้ากระเป๋าเป้ใบกลางของตัวเอง แล้วรีบวิ่งตามสายหยุดไปอย่างรวดเร็ว
“พี่ฉัตรแกเลี้ยงเด็กได้แน่นะครับพี่ภพ” เอกราชมองตามไปด้วยแววตาวิตกกังวล ด้วยนิสัยชอบอยู่คนเดียวของพี่ชายคนรอง ทำให้เขาไม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายจะดูแลเด็กผู้หญิงอายุเพียงเท่านี้ได้
“ไม่รู้สิ แต่ก็ต้องปล่อยให้ตาฉัตรมันจัดการไปก่อน ดูท่าจะไม่ไหวยังไงก็ค่อยยื่นมือเข้าไปช่วย” เอกภพถอนหายใจ ไม่เข้าใจว่าน้องชายคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้อยากจะดูแลเด็กคนนี้เอง
“อยู่กับคุณฉัตรดีแล้วค่ะ คุณภพเองก็จะได้ไม่ต้องแบกรับภาระเอาไว้ด้วย ลำพังแค่งานในบริษัทก็ยุ่งจะตายอยู่แล้ว ดาว่าคุณภพอย่าหาเรื่องให้ต้องลำบากขึ้นกว่าเดิมเลยค่ะ”
ข้อเสนอแนะของพนิดาทำให้เอกราชถอนหายใจ หากตัดความจุ้นจ้านของพนิดาออกไป หญิงสาวก็ดูเป็นผู้หญิงที่ใช้ได้คนหนึ่งเลยทีเดียว หากแต่ก็ชอบวุ่นวายเรื่องในครอบครัวของเขาเสียเหลือเกิน ทำให้ไม่อยากจะเสวนาด้วยสักเท่าไร
“อยู่ได้ใช่ไหม”
คำถามของเจ้าของบ้านหลังงามถามเธอด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ เพราะหลังจากสายหยุดพาเธอมาส่งที่บ้านให้เขา แพรไหมก็ไม่พูดอะไรเลยสักคำ เอาแต่เงียบและทำหน้าเศร้า จนเขาต้องพาเธอเดินมาส่งที่ห้องนอนห้องหนึ่งในบ้านของเขาที่บิดาปลูกให้ แยกออกมาจากบ้านหลังใหญ่ของบิดาที่อยู่กับภรรยาคนแรก
เอกพลมีภรรยาสามคน คนแรกคือสินีมารดาของเอกภพ ซึ่งตอนนี้ป่วยและนอนอยู่ในห้องไม่ออกมาสุงสิงกับใคร แม้กระทั่งงานศพของสามี นางก็ออกไปร่วมงานในวันฌาปนกิจเท่านั้น
คนที่สองคือมารีน่า สาวลูกครึ่งไทย – อเมริกัน มารดาของเอกฉัตรเอง ซึ่งเสียชีวิตแล้วตั้งแต่เอกฉัตรอายุเพียงสิบสองปี และเอกฉัตรก็ใช้ชีวิตคนเดียวในบ้านหลังนี้จนอายุยี่สิบแปดปี
คนที่สามคือรังรอง มารดาของเอกราช ซึ่งแยกทางกับเอกพลตั้งแต่เอกราชเข้าเรียนมหาวิทยาลัย และย้ายกลับไปใช้ชีวิตที่ภาคเหนือบ้านเกิด โดยปล่อยให้เอกราชอยู่ในความดูแลของบิดา ซึ่งเอกฉัตรเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะสาเหตุอันใด หรืออาจจะเป็นเพราะความไม่รู้จักพอของเอกพลก็เป็นได้ เพราะแม้จะมีภรรยาถึงสามคนอยู่ในบ้าน แต่เอกพลก็ยังเที่ยวเตร่และมีผู้หญิงเข้ามาข้องเกี่ยวตลอด ทั้งนี้เพราะรูปลักษณ์ที่สง่างามและฐานะอันมีจะกินของเอกพลด้วย
“อยู่ได้ค่ะ”
แพรไหมพยักหน้า ห้องนอนใหญ่และหรูหราทำให้เธอแอบทึ่งในใจ เธอเคยนอนห้องเล็กๆ โทรมๆ มาทั้งตั้งแต่เกิดแล้ว จะให้อยู่แบบไหนก็อยู่ได้ อีกทั้งห้องนี้มันดูเลิศเลอเกินไปสำหรับเธอด้วยซ้ำ ทำให้เธอรู้สึกวางตัวไม่ถูกเอาเลย
“อยู่ได้ก็ดีแล้ว บ้านนี้ฉันอยู่คนเดียว ข้าวของห้องหับก็อาจจะรกนิดหน่อย ยังไงฝากเธอจัดการเองก็แล้วกัน อ้อ...ขาดเหลืออะไรก็หาเอาในบ้านได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ”
“ขอบคุณค่ะ” แพรไหมยกมือไหว้ขอบคุณเขาจากใจ
“หิวไหม ถ้าหิวก็เข้าไปหาอะไรในครัวกินได้เลย แต่ถ้าไม่มีก็ทำเอาเอง ในตู้เย็นพอจะมีของสดให้เธอทำอะไรกินได้บ้าง ปกติฉันกินบ้างไม่กินบ้าง ก็เลยไม่ได้ซื้ออะไรมาตุนเอาไว”
เอกฉัตรบอกตามตรง เขาตัวคนเดียวย่อมถือเอาความสะดวกสบายมากกว่า อยากกินอะไรก็กินมาจากข้างนอก ขี้เกียจก็เดินไปหาของกินบ้านพี่ชาย ในครัวจึงไม่มีอะไรสำหรับทำอาหารมากนัก นอกจากว่าสายหยุดจะใจดีเอามาใส่ตู้เย็นไว้ให้
“ขอบคุณค่ะ”
“พูดอะไรได้มากกว่าคำว่าขอบคุณไหม” เอกฉัตรจ้องเธอด้วยความขบขันในใจ ไม่ง่ายเลยสำหรับจะดูแลใครสักคน แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะยากเกินไป หากเขาตั้งใจที่จะช่วยเหลือเด็กคนนี้ให้มีอนาคตที่ดีขึ้นหลังจากสูญเสียบิดากับมารดา
“หนู...”
“โอเคแพรไหม ต่อไปนี้เธอจะอยู่กับฉันในบ้านหลังนี้ในฐานะของเด็กในปกครองของฉัน จริงๆ ฉันก็ไม่มั่นใจหรอกนะ ว่าจะดูและเธอได้ดีอย่างที่ตั้งใจเอาไว้หรือเปล่า”
ใช่ ไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจเลยสักอย่าง แต่เพราะดวงตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความเสียใจของเธอ ทำให้เขารู้สึกเหมือนเห็นตัวเองอย่างไรอย่างนั้น เขากับเธอสูญเสียเหมือนๆ กัน เขาจึงคิดว่าตัวเองน่าจะเข้าใจเธอมากที่สุด
แพรไหมกะพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังหมายถึงอย่างไรกัน เขาไม่มั่นใจว่าจะดูและเธอได้ไหม แต่ก็ชวนเธอมาอยู่ด้วยนี่นะ อะไรของเขากัน
“เธอพักผ่อนให้สบายไปแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ห้องฉันอยู่ทางนั้น มีอะไรก็ไปเคาะเรียกได้”
แล้วเอกฉัตรก็เดินจากไป ทิ้งให้แพรไหมได้มองตามแผ่นหลังเขาไปอย่างงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
เอาเถอะ ชีวิตของเธอไม่มีอะไรจะต้องกลัวอีกแล้วนี่นา อยู่กับคนแปลกประหลาดอย่างเอกฉัตรก็ยังดีกว่าออกไปเผชิญโลกข้างนอกตามลำพัง ไม่มีทั้งความปลอดภัยและอนาคต ไม่มีใครให้เธอได้พึ่งพาอีกต่อไปแล้ว
สาวน้อยเดินเข้าห้องแล้วปิดประตูลง วางกระเป๋าเป้แล้วนั่งลงบนเตียงด้วยความรู้สึกโหวงเหวง หากบิดายังอยู่เธอคงไม่รู้สึกโดดเดี่ยวแบบนี้ แต่ตอนนี้เธอไม่เหลือใครแล้ว ชีวิตของเธอจะเดินไปทางไหนก็ยังไม่รู้เลย
แพรไหมสะอื้นออกมาอย่างสุดกลั้น หลายวันมานี้เธอพยายามทำตัวให้เข้มแข็งแต่ก็เจ็บปวดเหลือเกิน การสูญเสียที่ไม่ทันได้เตรียมใจมาก่อน มันช่างทรมานแสนสาหัส แต่ถ้าจะให้เธอร้องไห้ให้ตายอย่างไร มันก็ไม่อาจเรียกทุกอย่างกลับคืนมาๆได้
‘ใช้ชีวิตของลูกให้ดี จงอดทนและเข้มแข็งกับทุกอย่างที่เข้ามา’
นั่นเป็นคำสั่งเสียของบิดาก่อนจากไป แพรไหมจะท่องจำและทำให้ได้ แม้มันจะยากเย็นแสนเข็ญเพียงใดก็ตาม เธอจะใช้ชีวิตให้ดีที่สุดอย่างที่ท่านต้องการ จะอดทนและเข้มแข็งกับทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตให้มากที่สุด
****มีคนสงสัย ว่าคนไหนพระเอก อร๊ายย อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น อย่าเชื่อไรท์ ฮ่าา
- เดากันว่าไงจ๊ะ
- คุณภพ
- คุณฉัตร
- คุณราช
มาเดาๆกันเล่นๆจ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คุณฉัตร
หห้องเดียวกัน
คุณฉัตรค่ะ เพราะไรท์เคยขึ้นไว้ว่าอัพคุณฉัตร ก็คุณฉัตรเป็นพระเอกค่ะ..อิๆ
เดาทั้งสามคนเลยค่ะ คุณภพ คุณเอก คุณฉัตร
ใช่ๆๆ อยู่กับใครก็คนนั้นล่ะ