ตอนที่ 18 : ใจเอ๋ยใจ 2
“เด็กในบ้านไม่ได้บอกเธอเหรอ ว่าฉายาของฉันคืออะไร”
“เอ๋...ฉายาอะไรเหรอคะ” แพรไหมขมวดคิ้ว เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องฉายาของเขามาก่อน
“เถื่อน ถ่อย ต่อยผู้หญิง”
“คะ...” แพรไหมทำตาโต กับฉายาแปลกใหม่ที่เพิ่งได้รับรู้ก็วันนี้นี่เขาพูดจริงหรือแค่หลอกเธอเล่นกันแน่
“ฉันทำได้หมด หากคนพวกนั้นคิดจะทำร้ายเธอ”
“คุณฉัตร”
แพรไหมไม่อยากจะเชื่อ เขาจะเป็นคนเลว จะเป็นอันธพาลและเป็นทุกอย่างเพราะเธออย่างนั้นหรือ ทำไมกัน ทำไมเขาจะต้องเจ็บแค้นแทนเธอขนาดนี้ด้วย
“ต่อยผู้หญิงแล้วไง ในเมื่อเขาเป็นคนไม่ดีที่ทำร้ายเธอก่อน ด่าผู้หญิงแล้วไง ในเมื่อเขาเป็นคนปากไม่ดีที่เที่ยวดูถูกดูแคลนคนอื่นก่อน แล้วฉันจะต้องเป็นสุภาพบุรุษไปทำไม หากแม้แต่ผู้หญิงของตัวเองก็ปกป้องไม่ได้”
แพรไหมมองหน้าเขาด้วยความตื้นตันใจ เขายินดีที่จะปกป้องเธออย่างเต็มใจ แม้จะต้องกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาคนอื่น แล้วแบบนี้เธอจะโกรธเกลียดเขาได้หรือ มิหนำซ้ำยังจะเทิดทูนบูชาเขามากขึ้นด้วยซ้ำ
ผู้หญิงของเขา...
แพรไหมขออยู่ในสถานะนี้ตลอดไปทั้งชีวิตเลยได้ไหม
“ขอบคุณนะคะ คนดีของหนู”
ไม่พูดเปล่า แต่ยังโผเข้ากอดเขาด้วยความซาบซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูก ทำให้คนโดนกอดถึงกับอ้าปากค้างและนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เมื่อจู่ๆ คนตัวเล็กก็โผเข้ากอดเขาเอาไว้แน่
คนดีของหนู...
บ้าเอ๊ย! ประโยคเดียวก็ฆ่าเขาได้ทั้งเป็นแล้ว
โธ่เอ๋ย แค่กอดเขาก็ใจสั่นไปหมดแล้ว ยังจะมาบอกว่าเขาเป็นคนดีของเธออีก เอกฉัตรอยากจะบ้าตายให้มันรู้แล้วรู้รอด จะผลักไสออกไปก็กลัวเธอจะโกรธ แต่จะปล่อยให้ทำแบบนี้ก็น่าเกลียดเกินไป อีกทั้งหัวใจเขาก็เต้นแรงอย่างน่าโมโหเลยทีเดียว
“แพรไหม” ชายหนุ่มเรียกเธอด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ ถ้าเขาดันเธอออกไป เธอก็จะคิดว่าเขารังเกียจอีก เพราะฉะนั้นที่เขาต้องทำคือสกัดกั้นอารมณ์คุกรุ่นที่พลุ่งพล่านขึ้นมาให้ได้
“หนูรู้ว่าที่คุณไม่มีเวลาให้ เพราะต้องทำงานหาเงินเลี้ยงหนู แต่หนูก็อดน้อยใจไม่ได้ ที่คุณไม่ยอมไปหาหนูที่โรงเรียนบ้างเลย จนบางครั้งหนูต้องทำอะไรบ้าๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคุณ”
“หืม...บ้าๆ แบบไหนกันแพรไหม” เขาเชยคางเธอขึ้นมาถามด้วยสายตาคาดคั้น แม่ตัวยุ่งทำอะไรกัน ทำไมเขาไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อน
“ก็...” แพรไหมทำหน้ารู้สึกผิด ละอายใจกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา
“ทำอะไร ไหนเธอบอกฉันมาสิแพรไหม”
“คือหนู...ที่หนูมีเรื่องกับเพื่อนที่โรงเรียนบ่อยๆ อะค่ะ” เธอก้มหน้างุด รู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เขลาเหลือเกิน
“ทำไม ยังไง” เอกฉัตรงุนงง การมีเรื่องกับเพื่อนที่โรงเรียนของเธอมีความหมายแอบแฝงอย่างนั้นหรือ
“ที่มีเรื่องกับเพื่อนบ่อยๆ เพราะอยากโดนเรียกผู้ปกครองไปที่โรงเรียน หนูอยากเจอคุณค่ะ หนูก็เลย...”
“ว่าไงนะแพรไหม” เอกฉัตรถึงบางอ้อ ก่อนจะมองเด็กในปกครองด้วยความตกใจและไม่คาดคิด นี่แพรไหมคิดการณ์ไกลไปถึงขนาดนี้เชียวหรือ ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ เลยให้ตาย
“หนูขอโทษค่ะ ขอโทษที่ทำตัวไม่ดี หนูแค่อยากให้คุณไปหาสักครั้งเท่านั้น แต่คุณก็ไม่ไป แถมยังให้คุณภพกับคุณราชไปแทนบ่อยๆ อีก”
เด็กน้อย...
เอกฉัตรถอนหายใจ เป็นความผิดของเขาใช่ไหมที่ทำให้เธอทำอะไรบ้าๆไปแบบนี้ เพราะเขาทอดทิ้งเธอให้เดียวดาย เพราะเขาเชื่อว่าเป็นแบบนั้นมันจะมีประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย แพรไหมจะได้ตั้งใจเรียนและอิสระในการใช้ชีวิตของตัวเอง และเขาเองก็จะได้ไม่...
เอกฉัตรสลัดความรู้สึกบ้าๆ ออกจากความคิดทันที ไม่ว่าอย่างไรเด็กคนนี้ก็ควรมีอนาคตที่ดีที่สุด แม่ของเธอเสียชีวิตเพราะบิดาของเขา เพราะฉะนั้นเขาจะทำอะไรมากกว่าการส่งเสริมเธอให้มีอนาคตที่ดีไม่ได้เด็ดขาด
“ไม่ต้องสนใจหรอกนะแพรไหม ว่าฉันจะอยู่ตรงไหนในชีวิตของเธอ ฉันหวังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือส่งเธอให้ถึงฝั่งฝันที่ตั้งใจ ให้เธอมีอนาคตที่ดี”
“หนูรู้ค่ะ ว่าคุณหวังดีกับหนู บางครั้งหนูก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมคุณถึงต้องดีกับหนูถึงขนาดนี้ด้วย”
เอกฉัตรหลบสายตาอยากรู้อยากเห็นนั้น ไม่ใช่ว่ากลัว แต่เพราะหลายๆ อย่างทำให้เขาต้องทำอย่างนั้น แต่ทั้งนั้นทั้งนี้คือเขาเต็มใจทำ ยินดีที่จะเห็นแพรไหมมีความสุขเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ บนโลกนี้
“เพราะแม่เธอต้องมาจากไปเพราะพ่อของฉันไง แม่เธอทำงานให้บ้านเรามาหลายปี จู่ๆ ต้องมาเสียไปแบบนั้น ฉัตรากานต์ก็ต้องดูแลเธอเป็นการตอบแทนอยู่แล้ว”
“แต่ทำไมคุณดาถึงได้พูดถึงแม่แบบนั้นคะ”
“ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปเอาขยะมาเก็บไว้ในใจเลย” เอกฉัตรปรามเธอ แม้จะไม่ชอบใจนักที่พนิดาด่ากราดไปถึงพิมพ์ใจ ตอนเขาไปถึงก็ได้ยินประโยคนั้นเข้าพอดี ไม่แปลกใจเลยที่แพรไหมจะกำหมัดแน่นและทำท่าจะเอาคืนพนิดาให้ได้
เขากลับบ้านมาก็ไม่เจอเธอ พอรู้ว่าอยู่บ้านใหญ่ก็เลยไปตาม หากเขาไปช้ากว่านั้น แพรไหมก็คงโดนพนิดารังแกอีกแน่ เพียงแค่โดนตบหน้าทีเดียวเขาก็รู้สึกแย่จนพานโกรธตัวเองไปหมดแล้ว
“มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับแม่ที่หนูไม่รู้หรือเปล่าคะคุณฉัตร” แพรไหมเอ่ยถามเขาด้วยแววตาสงสัย
“ไม่มีอะไรหรอก บอกแล้วว่าอย่าไปสนใจคำพูดของคนอื่นเลย สนใจฉันดีกว่า หิวข้าวแล้วล่ะ มีอะไรอร่อย ให้กินไหม” เขาเปลี่ยนเรื่อง และมันก็ได้ผลทันที
“มีสิคะ เยอะแยะไปหมดเลย หนูเอาเงินที่คุณให้ไปซื้อของเข้าบ้านเข้าครัวหลายอย่าง คุณคงไม่ว่าอะไรหนูใช่ไหมคะ”
“จะว่าทำไมล่ะ ก็ให้เป็นสิทธิ์ของเธอแล้วนี่ จะทำอะไรก็ตามใจเถอะ” เขาขยี้ผมเธอเบาๆ ตัวแค่นี้ก็ทำโน่นทำนี่ไม่หยุด บ้านช่องก็สะอาดและเรียบร้อยไปหมด ทำให้เขาพึงพอใจมาก แต่จะหนักใจหน่อยก็ดวงตาใสๆ ซื่อๆ กับรอยยิ้มหวานของเธอนี่ล่ะ
“งั้นเราไปกินข้าวกันดีกว่าค่ะ คุณคงเหนื่อยและหิวมากแล้ว”
แน่นอนว่าเขาหิว แต่เป็นหิวอย่างอื่นมากกว่า แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นเพียงสัญชาตญาณดิบของมนุษย์เพียงเท่านั้น และเขาต้องรีบขจัดมันออกไป ก่อนที่มันจะบานปลายและเป็นผลร้ายต่อตัวเธอและเขาเอง
“ไปสิ” เขาพยักหน้า ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วเดินตามหลังเธอไปทันที พร้อมกับรอยยิ้มขบขัน เมื่อเห็นเธอร่าเริงดีใจราวกับได้รางวัล ทั้งที่เพิ่งโดนทำร้ายมาหยกๆ
***คนดีของหนู อร้ายย ลุ๊งงง ไหวมั้ยนั่นนน 555
***แพรรุกลุงหนักมากอ่าาา ร้ายแต่เด็กเลยนะเรา
***ว่าแต่ทำไมลุงน่ารักทุกวัน
ฉันจะต้องเป็นสุภาพบุรุษไปทำไม หากแม้แต่ผู้หญิงของตัวเองก็ปกป้องไม่ได้
กร้าวใจมาก!!!! ขอ 3 คำให้ลุงแกที
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สติลุง สติ ตั้งให้มั่นไว้น่ะค่ะ🤣🤣
เจ๋งจริงๆ ลุง
ใจหวั่นไหว.... มั้ยลุงงงงง