ตอนที่ 30 : รัก...ละลายใจ 4
“ขอเถอะค่ะ อย่าเรียกฉันว่าภรรยาของคุณโทนี่เลย เราสองคนไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่ทุกคนคิด"
“แน่ใจหรือครับ ว่าไม่มีอะไรจริงๆ” เอกพลย้อนถามด้วยสายตาจับผิด และนั่นก็ทำให้มินตราถึงกับหันหน้าหนีไปมองทางอื่นเพื่อหลบสายตาทันที
“ที่คุณโทนี่เข้ามาพัวพันเรื่องนี้ เพราะมีอย่างเดียวที่เขาสนใจ นั่นก็คือคุณ เขาตามหาคุณตั้งแต่วันแรกที่คุณทิ้งเขาไปเลยนะครับคุณมินตรา และเมื่อเขาเจอคุณโดยบังเอิญที่เรือนั่น เขาก็ไม่ลังเลที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยคุณเลย เขาไม่สนใจด้วยซ้ำ ว่าคุณจะอยู่ฝ่ายไหนหรือฝ่ายใคร เขาสนแค่คุณ”
คำบอกเล่าของนายตำรวจหนุ่มทำให้มินตราถึงกับนิ่งอึ้งไป พร้อมกับความคิดอันสับสนที่วิ่งพล่านในหัวจนหล่อนมึนงงไปหมด ไม่รู้จะบอกให้ใครเข้าใจว่าอย่างไร
โทนี่ วิลล์ เขาตามหาหล่อนมาตลอดทำไมกัน ต้องการแก้แค้นเอาคืนที่หล่อนเคยทำไม่ดีกับเขาไว้ อย่างที่เขาเคยบอกกับหล่อน หรือว่ามีเหตุผลอื่นกันแน่
โอย...มินตราสับสนไปหมดแล้ว หล่อนจะเชื่อใจและไว้ใจใครได้ไหม โทนี่กับเอกพลดูเป็นคนดีและน่าเชื่อถือได้ ในขณะที่คำเตือนของผู้บังคับบัญชาก็ยังขัดแย้งกันอยู่ในหัว
เทวาบอกว่าโทนี่กับเอกพลไม่น่าไว้ใจ และอยากให้หล่อนอยู่ห่างๆ ทว่ายิ่งอยากห่าง ก็เหมือนกับยิ่งใกล้ ยิ่งหล่อนผลักไสโทนี่มากเท่าไร เขากลับพาตัวเองเข้ามาวนเวียนในชีวิตหล่อนมากขึ้นเท่านั้น
และครั้งนี้ เขาก็ยอมเจ็บตัวเพื่อปกป้องหล่อนให้ปลอดภัยโดยไม่คิดชีวิต ต่อให้เทวาบอกว่าเขาคือคนร้าย หรือหนึ่งในแก๊งของพวกค้ายา มินตราก็ไม่สนแล้วเหมือนกัน หล่อนเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง เชื่อในสายตาของผู้ชายอย่างโทนี่โดยไม่เคลือบแคลงใจแม้แต่น้อย
“ผมไม่รู้ว่าผู้บังคับบัญชาของคุณพูดถึงพวกเราว่าอย่างไร แต่ผมอยากให้คุณมินตราวางใจ ว่าพวกเราไม่ใช่พวกคนร้ายหรือมีส่วนรู้เห็นกับพวกค้ายานั่น เพราะหากเป็นอย่างนั้นจริง นายมังกรนั่นคงไม่ตามล่าคุณโทนี่กับคุณอย่างแน่นอน บอกตรงๆ นะครับ ว่าผมหรือเพื่อนๆ ของคุณโทนี่ทุกคนไม่สบายใจเลย ที่เขาพาตัวเองเข้ามาเกี่ยวพันในคดีใหญ่ๆ แบบนี้ แต่พวกเราก็สนับสนุนเขานะครับ เพราะรู้ว่าจุดหมายของเขาคืออะไร คุณมินตราเองก็คงไม่โง่ ที่จะมองไม่ออกว่าคุณโทนี่ต้องการอะไรอยู่ ต่อให้คุณพยายามหนีอย่างไร มันก็ไม่มีทางพ้นความจริงไปได้หรอกนะครับ ในเมื่อคุณโทนี่เองเขาไม่สนว่าคุณจะเป็นใครทำงานอะไร คุณเองก็ไม่ควรจะเคลือบแคลงใจเช่นเดียวกัน ว่าคุณโทนี่จะเข้ามาในชีวิตเพราะเหตุผลอื่น อย่างที่ใครบางคนพยายามกรอกหู”
กรอกหู...
เอกพลหมายถึงเทวาอย่างนั้นหรือ เทวาจะกรอกหูหล่อนไปเพื่ออะไร ในเมื่อหล่อนเองก็เปรียบเสมือนลูกสาวคนหนึ่งของเขา มินตรานับถือเขาเป็นประหนึ่งบิดา แล้วเรื่องอะไรกันล่ะ ที่เทวาจะต้องมากรอกหูหล่อนอย่างที่เอกพลพูดด้วย
“เอาล่ะ ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ มีธุระที่จะต้องจัดการ คุณไปพักผ่อนในห้องที่โรเจอร์จัดเตรียมไว้ให้ก่อนก็แล้วกันนะครับ หากว่าคุณโทนี่ฟื้นแล้ว ผมจะให้คนไปตาม” พูดจบเอกพลก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องพักฟื้นของโทนี่ทันที โดยทิ้งให้มินตรานั่งเงียบอย่างใช้ความคิดอยู่เพียงลำพัง
“คุณมินตราครับ คุณมินตรา”
เสียงเคาะประตูสองสามครั้งในตอนตีสาม ทำให้มินตราที่เผลอหลับไปหลังจากการอาบน้ำ และสวมเสื้อผ้าที่คนของโทนี่จัดหามาให้ ถึงกับตกใจและลุกพรวดขึ้นมานั่งบนเตียงทันที ก่อนจะมองไปยังประตูห้องบานใหญ่ แล้วรีบก้าวลงจากเตียงด้วยใบหน้าเคร่งเครียดในทันที
โทนี่เป็นอะไร ทำไมโรเจอร์ถึงมาเคาะประตูห้องของหล่อนดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ มินตราคิดวิตกไปต่างๆ นานา ก่อนจะรีบเปิดประตูออกไปแล้วพบว่าโรเจอร์ยืนอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าตื่นๆ ชอบกล
“คุณโทนี่เป็นอะไร” มินตราตั้งคำถามกับโรเจอร์ทันที พร้อมกับก้าวออกจากห้องแล้วเดินไปยังห้องพักฟื้นของโทนี่อย่างรวดเร็ว โดยไม่ฟังคำตอบของคนที่เดินตามหลังมา
“ฟื้นแล้วครับ” โรเจอร์รายงาน
“ฟื้นแล้วหรือคะ” หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความโล่งอก แบบนี้ค่อยใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย แอบกลัวว่าเขาจะไม่ฟื้นขึ้นมาเสียแล้ว
“ครับ แต่ว่า...”
ประโยคต่อมาของโรเจอร์ ทำให้หญิงสาวหยุดชะงักในทันที ก่อนจะหันกลับมามองคนสนิทของโทนี่ด้วยสายตาคาดคั้นและหวาดระแวง
“แต่ว่าอะไร คุณโทนี่เป็นอะไรอย่างนั้นหรือ”
“เปล่าครับ เจ้านายปลอดภัยดี แต่ว่าพอตื่นขึ้นมาก็โหวกเหวกโวยวายเสียงดังลั่นไปหมด ไล่ทั้งหมอทั้งพยาบาล จะลงจากเตียงไปตามหาตัวคุณมินตรา”
“หา! ว่าไงนะ” มินตราทำเสียงตกใจขึ้นมาทันที
“ทางเราพยายามบอกคุณโทนี่แล้ว ว่าคุณมินตราปลอดภัย และกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ แต่คุณโทนี่เหมือนไม่เชื่อพวกเรา ก็เลยโวยวายหาว่าพวกเราโกหก”
คุณพระ! มินตราอยากจะบ้าตายให้รู้แล้วรู้รอด
“แล้วสารวัตรล่ะคะ” มินตราถามถึงเอกพล ซึ่งน่าจะเอาโทนี่อยู่ได้
“สารวัตรไม่อยู่ครับ มีงานด่วนเข้ามากะทันหัน เพิ่งออกไปได้ไม่นานเอง” โรเจอร์อธิบาย เขาเห็นเพียงวิธีเดียวที่จะทำให้เจ้านายสงบได้ คือต้องให้โทนี่ได้พบกับมินตรา ชายหนุ่มจึงยอมเสียมารยาทไปเคาะประตูกลางดึก ทั้งที่แสนจะเกรงใจอีกฝ่ายมาก
“เจ็บตัวขนาดนี้ ยังจะมาดื้ออยู่อีก มันน่าตีให้ตายนัก” มินตราบ่นอุบ ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวไปที่ห้องพักของโทนี่ทันที ในขณะที่โรเจอร์แอบยิ้มขัน ที่เจ้านายนั้นเจอคู่ที่ร้ายสมน้ำสมเนื้อกันเสียที
มินตราถอนหายใจ เมื่อเดินไปถึงหน้าห้องของโทนี่ แล้วพบว่าทั้งหมอและพยาบาล รวมถึงคนของเขาอีกสองสามคน กำลังเผ่นออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเครียดๆ กันหมดทุกคน อีกทั้งยังมีเสียงโวยวายของคนเจ็บดังออกมานอกห้องให้ได้ยินอีกด้วย
“ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนก่อนนะคะ ทางนี้เดี๋ยวดิฉันจะจัดการเอง” มินตราบอกกับทุกคน ก่อนจะมองเข้าไปในห้องคนป่วยด้วยสีหน้าคาดโทษ
“อย่าให้ขยับตัวมากเกินไปนะครับ แผลคนไข้อาจจะฉีกและอักเสบได้ แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลแล้วล่ะครับ อาละวาดได้แบบนี้ แสดงว่าหายห่วงได้”
คำพูดติดตลกของคุณหมอทำให้มินตรานึกอยากจะขำ ทว่าก็ขำไม่ออก ได้แต่บอกให้ทุกคนออกไปพักผ่อนกันไปตามอัธยาศัยก่อน และหล่อนจะเป็นกล่อมให้เขาใจเย็นลงเอง
“ฝากด้วยนะครับ ถ้าคนไข้สงบลงแล้ว รบกวนเรียกหมอที เมื่อกี้สามีคุณนายเหวี่ยงขวดน้ำเกลือไล่พวกเรา และมันจะต้องใส่กลับไปใหม่เพื่อความปลอดภัยของเขาเอง” หมอบอกด้วยสีหน้าขบขัน เกิดมาเพิ่งเจอคนไข้เอาเรื่องก็วันนี้ล่ะ ทำเอาแตกตื่นกันทั้งทีมจริงๆ
“ได้ค่ะคุณหมอ” มินตรารับปาก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องคนป่วยด้วยใบหน้าบึ้งตึง โดยมีโรเจอร์ปิดและล็อกประตูให้อย่างรู้งาน พร้อมกับอดส่ายหัวให้กับความเอาแต่ใจของเจ้านายไม่ได้ งานนี้คงมีแต่มินตราคนเดียวเท่านั้น ที่จะทำให้โทนี่ยอมสงบลงได้
แน่ล่ะ! ก็หล่อนคือสาเหตุทุกอย่างของความคุ้มคลั่งนั้นนี่นะ
มินตราอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อทุกอย่างในห้องดูกระจัดกระจายเต็มพื้นห้องไปหมด ทั้งหมอนทั้งผ้าห่ม ทั้งขวดน้ำเกลือนอนกลิ้งไปมาไม่เป็นระเบียบ
“ออกไปให้หมด ออกไปให้พ้น” คนเจ็บที่นอนอยู่บนเตียงส่งเสียงตะโกนไล่ บ่งบอกว่ากำลังอยู่ในอารมณ์โมโหสุดขีด เมื่ออะไรๆ ก็ไม่ได้ดั่งใจ ทั้งที่ยังไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำ ว่าเป็นใครที่เดินเข้ามา
มินตราส่ายหน้าช้าๆ อ่อนใจกับความเอาแต่ใจและโมโหร้ายของโทนี่ วิลล์ เหลือเกิน เขาเพิ่งผ่านความเป็นความตายมาแท้ๆ แต่กลับออกฤทธิ์ได้มากถึงขนาดนี้เชียวหรือ
“จะให้ออกไปจริงๆ ใช่ไหมคะ”
โทนี่หันขวับมามองยังต้นเสียงทันที ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ เมื่อคนที่ยืนปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ คือผู้หญิงที่เขาคิดถึงทุกลมหายใจเข้าออก ทั้งหวงทั้งห่วงจนจะบ้าตายอยู่แล้ว
“มินนี่” ชายหนุ่มพยายามจะลุกขึ้นนั่ง แต่มินตราก็รีบปรี่เข้ามาหาเขาเสียก่อน พร้อมกับรีบบอกเขาเสียงเข้มในทันที
“ไม่ต้องลุกค่ะ นอนนิ่งๆ” มินตรากดเขาลงบนที่นอนตามเดิม ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียงแล้วมองเขาด้วยสายตาดุๆ ไม่พอใจ
“มินนี่ คุณจริงๆ ใช่ไหม ไม่ใช่เป็นเพราะผมตายแล้วฝันไปใช่หรือเปล่า”
มินตราค้อนขวับ เมื่อเขาพูดจาเพ้อเจ้อเป็นเรื่องเป็นราว หาว่าตัวเองตายแล้วฝันไปอย่างนั้น ทั้งที่เขาก็จับมือของหล่อนเอาไว้แน่นขนาดนี้
“เจ็บตัวแค่นี้ก็เพี้ยนไปแล้วหรือคะ ตายบ้าตายบออะไรกันล่ะ มีแรงเหวี่ยงทั้งหมอทั้งพยาบาลจนวิ่งหนีกันให้วุ่นไปหมด”
มินตราประชด ก่อนจะสำรวจทั้งเนื้อทั้งตัวเขาด้วยความไม่สบายใจ แผลที่หัวไหล่ของเขาท่าจะหนักที่สุด ส่วนที่อื่นๆ ก็มีเพียงแค่รอยถลอกเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
หญิงสาวยื่นมือไปแตะที่หน้าผากเขาแผ่วเบา นี่เขาหัวแตกด้วยอย่างนั้นเหรอ ทำไมตอนเกิดเหตุหล่อนไม่ทันได้สังเกตเลย
“เจ็บมากไหมคะ” หญิงสาวรู้สึกหน่วงๆ ที่หัวใจ หากเขาไม่ใช้ตัวเองเป็นเกราะกำบัง คนที่เจ็บอาจเป็นหล่อนและไม่ใช่เขา
“ไม่มากเท่าเมียหาย ตื่นมาแล้วไม่เจอคุณมันใจหายไปหมด มันห่วง มันจะบ้า กลัวว่าไอ้สารเลวนั่นมันจะมาแตะต้องคุณ”
#มีความรักเมีย โถ พ่อคุณขนุนหนังของแม่โอบ ขอให้ลูกผ่านการพิจารณานะลูก ฮ่าๆๆ คนเขียนก็ลุ้น รอหน่อยนะคะสาวๆ ขา มีความคืบหน้าจะมาแจ้งเน้อ
***ฝากโหวต ฝากเมนต์ ให้กำลังใจโอบด้วยนะค้าา
ปล. ฝากอีบุ๊คด้วยนะค้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น่าจะให้ปากเจ็บด้วย จะได้ไม่โวยวาย 555