ตอนที่ 19 : ด้วยความคิดถึง 1
“อุ๊บ! อื้อ” มินตราอึกอักในลำคอ เมื่อจู่ๆ ร่างในเงามืดก็เข้าประชิดตัวหล่อนจากด้านหลัง ในขณะที่ฝ่ามือใหญ่ถูกยกขึ้นมาปิดปากหล่อนเอาไว้แน่นเลยทีเดียว
มินตราดิ้นสุดกำลัง ก่อนจะเอี้ยวตัวกลับมาคว้าหมับที่ร่างสูงใหญ่ในเงามืด แล้วหลังจากนั้นก็ทุ่มร่างปริศนาของผู้บุกรุกลงไปยังพื้นห้องทันที
“โอย...”
เสียงครางของผู้บุกรุกทำให้มินตรารู้ว่ามันเป็นผู้ชาย หญิงสาวอาศัยช่วงจังหวะนั้นกระโดดเข้าไปถีบโครมที่แผ่นอกของมัน ในขณะที่ร่างใหญ่นั้นกระเด็นออกไปชนกับขอบโต๊ะจนแก้วโกโก้ร่วงลงสู่พื้นแตกกระจาย
“แกเป็นใคร” มินตราคว้าปืนในลิ้นชักโต๊ะออกมาชี้ไปที่มัน รู้สึกคุ้นๆ กับลักษณะท่าทางของคนในเงามืดอย่างไรชอบกล
“ผมเอง นี่ใจคอจะฆ่าผัวจริงๆ เลยใช่ไหม”
คุณพระช่วย! มินตราตาเบิกโพลง เมื่อน้ำเสียงคุ้นเคยของคนตรงหน้าบ่งบอกชัดเจนว่าเขาเป็นใคร ในขณะที่ประตูห้องของหล่อนถูกเคาะเบาๆ สามครั้ง พร้อมกับเสียงตะโกนเอ่ยถามเข้ามาด้วยความสงสัยปนห่วงใย
“ยายมิน เป็นอะไรหรือเปล่า อาได้ยินเสียงโครมคราม” เสียงเทวาดังเข้ามา ทำให้มินตราจำต้องหันไปมองหน้าประตูด้วยสีหน้าตื่นตกใจเป็นอย่างมาก
เทวาจะทำอย่างไร หากรู้ว่าใครบางคนที่เขาต้องการให้มินตราอยู่ห่างมากที่สุด กำลังอยู่กับหล่อนในห้อง ณ ตอนนี้
“บอกอาคุณไปสิ ว่าผัวมาหา”
นั่นปากเขาเหรอที่พูด มินตราอยากจะบ้าตายให้มันรู้แล้วรู้รอด ก่อนจะรีบตอบคนข้างนอกไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียดที่สุดในชีวิต
“ไม่มีอะไรค่ะคุณอา มินแค่สะดุดพรมแล้วทำแก้วโกโก้ตกเท่านั้นเอง”
โกหกผู้ปกครองเพราะผู้ชาย งามหน้าไหมล่ะมินตรา
“อย่างนั้นเหรอ อืม...ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว งั้นก็รีบนอนพักซะนะ จะได้หายไวๆ”
“ค่ะคุณอา มินจะนอนแล้วค่ะ” มินตราตะโกนออกไป ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเทวาเดินห่างออกไป
“อุ้ย! ปล่อยนะคุณโทนี่”
มินตราอุทานเบาๆ เมื่อจู่ๆ ร่างสูงนั้นก็เดินเข้ามากอดหล่อนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับแย่งปืนในมือของหล่อนไปวางไว้ที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว
“นี่คุณมาได้...”
คำถามของหญิงสาวถูกกลืนหายไปในลำคอ เมื่อริมฝีปากหยักหนาของโทนี่กดลงบนริมฝีปากของหล่อนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะฉกฉวยโอกาสที่หล่อนกำลังตกใจ ปล้นจูบและดูดดื่มความหวานจากน้ำผึ้งรวงอย่างเอาแต่ใจ
โทนี่ วิลล์ อีตาบ้า!
มินตราได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจ ใบหน้าสวยถูกบังคับให้แหงนงายรับจูบดุดันที่หวานที่สุด ที่อีกฝ่ายตั้งใจมอบให้หล่อนอย่างจำยอม ใจจริงอยากจะกรีดร้องให้บ้านแตก แล้วปล่อยให้ผู้ปกครองจัดการเขาให้สาสมกับความบ้าบิ่นนี้ของเขา ทว่ามินตราก็ทำแบบนั้นไม่ได้ อย่าว่าแต่ปล่อยให้เขาตายเลย แค่ปฏิเสธจูบนี้มินตราก็ว่ายากเย็นที่สุดในชีวิตแล้ว
“แผลดีขึ้นยัง”
เสียงกระซิบข้างหูทำให้มินตรารู้สึกสึกขนลุกซู่ ก่อนจะเบี่ยงใบหน้าหนีลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดแก้มของหล่อนอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่รังแกหล่อนจนริมฝีปากช้ำไปหมด
โทนี่อุ้มหล่อนมานอนกอดบนเตียงหลังจากบังคับจูบจนพอใจ มินตราเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเอาเรี่ยวแรงไปทิ้งไว้ที่ไหนหมด หลังจากที่ถูกเขาแตะเนื้อต้องตัว นึกเกลียดและโมโหตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมต้องแพ้ทางสัมผัสหวามไหวของโทนี่ไปทุกครั้งด้วย แม้ตอนแรกจะทะเลาะหรือจะฆ่าจะแกงกันอย่างไร สุดท้ายโทนี่ก็ปราบหล่อนได้และลงเอยด้วยบทพิศวาสที่ยากปฏิเสธได้ทุกที
“ถามว่าแผลหายดีหรือยัง”
โทนี่ถามอีกครั้ง เมื่อหล่อนยังนอนเงียบไม่พูดไม่จา แถมยังหน้าบึ้งราวกับโกรธใครมาอย่างนั้น แต่หล่อนจะโกรธใครได้ล่ะ หากไม่ใช่เขาที่รังแกหล่อน ช่วยไม่ได้นี่นา ก็คนมันคิดถึงใจจะขาด
“ก็ปล่อยก่อนสิคะ แล้วลุกขึ้นไปนั่งคุยกันดีๆ”
มินตราต่อรอง นอนคุยกันแบบนี้รู้สึกแปลกๆ ในใจชอบกล เพราะกล้ามเนื้อแน่นๆ ของเขามันทำหล่อนใจเต้นแรงไปหมด
“ไม่เอา เดี๋ยวคุณก็หนีผมไปอีก” คนตัวโตไม่ยอม แถมยังคลอเคลียแก้มหล่อนวนไปวนมา จนมินตรากลัวว่ามันจะพลอยช้ำเหมือนริมฝีปากไปด้วย
“งั้นก็นอนเฉยๆ ค่ะ อย่ากอด”
“อยากกอด” คนเอาแต่ใจเถียงดื้อๆ
“คุณนี่มัน...”
มินตราหมดปัญญาจะต่อความ จะเอะอะโวยวายก็กลัวเทวาและคนในบ้านจะแตกตื่นจนต้องเอาปืนมาไล่ยิงเขากลางดึก ถึงหล่อนจะไม่ชอบขี้หน้าเขาเท่าไร แต่หล่อนก็ไม่อยากเห็นเขาตายหรอก อย่างน้อยโทนี่ก็คือผู้ช่วยชีวิตหล่อน และหล่อนก็ไม่ใช่คนเนรคุณใคร
“มาที่นี่ได้ยังไงคะ” มินตราอดถามไม่ได้
“แอบเข้ามา โรเจอร์ดูต้นทางให้”
โถ...อะไรจะพยายามขนาดนั้น เขาไม่กลัวเทวาจับได้หรืออย่างไร นี่หากเทวารู้ว่าแอบย่องเข้าห้องหล่อนตอนดึกๆ มีหวังคงเข้าใจว่าโทนี่มีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงแน่ แต่สำหรับมินตราแล้ว หล่อนคิดว่าโทนี่ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรอื่นเลย นอกจาก...
หล่อนมองตาเขาแล้วใจสั่น หากไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป โทนี่บุกมาที่นี่ก็เพราะหล่อน ซึ่งมินตราเองก็ไม่กล้าเดาเหมือนกัน ว่าในดวงตาคู่คมนั้นของโทนี่หมายความว่าอย่างไรกันแน่
“ที่นี่ระบบความปลอดภัยแน่นมาก แม้แต่หมาแมวยังผ่านเข้ามายากเลย แล้วคุณโทนี่...”
“ระดับโทนี่ วิลล์ ระบบการป้องกันแค่นี้กระจอกมาก”
โทนี่บอกอย่างอวดอ้าง หากเขาไม่ใช่เจ้าพ่อเทคโนโลยีล้ำสมัย มันก็ยากที่จะเข้าถึงด้านในของบ้านหลังนี้ได้จริงๆ แต่ก็นั่นแหละ ที่ไหนที่ว่าอันตรายมากที่สุด ที่นั่นก็มักจะปลอดภัยมากที่สุดเช่นกัน เทวาคงนึกไม่ถึงหรอก ว่าโทนี่จะเจาะระบบความปลอดภัยโดยไม่ให้มีสัญญาณเตือน โดยมีโรเจอร์และคนของเขาคอยควบคุมอยู่เบื้องหลัง ทุกอย่างในบ้านจะดูปกติ ไม่มีภาพหรือเสียงของผู้บุกรุกแต่อย่างใด แต่ถ้าหากโทนี่ออกไปเมื่อไร ระบบป้องกันนี้ก็จะกลับมาเป็นระบบเดิม โดยที่ไม่มีใครเอะใจอย่างแน่นอน
“มันเสี่ยงมาก นี่ถ้าหากอาเทวารู้ว่าคุณมานี่ คุณตายแน่ๆ” มินตราไม่ได้ขู่ แต่โทนี่แอบมาแบบนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มาก ยากที่เทวาจะเข้าใจแน่
“ตายก็ตาย แค่ได้เห็นว่าคุณปลอดภัยก็พอใจแล้ว”
อะไรกัน นี่อย่าบอกนะว่าเขาห่วงหล่อน มินตราสบตาเขาอย่างค้นคว้าหาคำตอบ โทนี่มาที่นี่เพราะอยากจะเห็นว่าหล่อนปลอดภัยไหมอย่างนั้นเหรอ บ้าจริงๆ ทำแบบนี้มันหาเรื่องตายชัดๆ
“รีบกลับไปเถอะค่ะ คุณไม่ควรอยู่นี่นานเกินไป ฉันสบายดีแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะโดนตัดแขน” มินตราไล่เขาทันที แม้จะรู้สึกเต็มตื้นในใจกับความห่วงใยนั้น แต่หล่อนก็ไม่อาจรับความปรารถนาดีนั้นได้
ความรัก...เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับสมาชิกในหน่วยของเรามานานแล้ว มินเองก็รู้เรื่องนี้ดี อาเองไม่อยากให้มีปัญหาภายหลัง จึงอยากจะเตือนมินตรงๆ
คำเตือนของเทวายังก้องอยู่ในหูตลอดเวลา ทำให้มินตราตั้งกำแพงขึ้นมาเพื่อปิดกั้นไม่ให้ตัวเองรู้สึกหวั่นไหวมากไปกว่านี้ อาชีพอย่างหล่อนจะมีความรักไม่ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วพันธะที่เกิดขึ้นจะทำเสียงาน คนรัก ครอบครัว หรือญาติพี่น้อง จะตกอยู่ในความเสี่ยงและอันตรายไปด้วย หากเป้าหมายรอดไปได้และกลับมาแก้แค้น เฉกเช่นสมาชิกบางคนที่ต้องสูญเสียทุกอย่างไปเพราะผู้ร้ายที่รอดไปกลับมาแก้แค้นเอาคืน
แม้แต่เทวาเองก็สูญเสียคนรักไปอย่างไม่มีวันกลับ เพราะศัตรูที่เทวาเคยจับเข้าคุกดันแหกคุกออกมาได้ และกลับมาเล่นงานเขาทีหลัง สุดท้ายคนรักของเขากลายเป็นคนรับเคราะห์แทน ทำให้เทวาเสียใจเป็นอย่างมากจนตั้งกฎนี้ขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้คนในทีมต้องสูญเสียอะไรไป และถ้าใครทำไม่ได้ ก็ต้องลาออกไปจากหน่วยงาน อีกทั้งยังต้องเปลี่ยนชื่อนามสกุลและประวัติทั้งหมดเป็นคนใหม่ด้วย
“จะกลับไปตอนไหน นั่นผมจะเป็นคนตัดสินใจเอง”
โทนี่บอกเสียงเข้ม จ้องมองใบหน้าเนียนใสที่ตราตรึงใจเขาตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้ แทบจะทุกนาที ที่ใบหน้าและแววตาเศร้าๆ ของหล่อนจะวนเวียนอยู่ในความคิดของเขาเสมอ
“เราไม่ควรเจอกันอีก” มินตราบอกด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทั้งที่ในใจรู้สึกตรงกันข้าม
“ผมจะตัดสินใจเอง ว่าเราควรจะเจอกันหรือไม่ แม้ว่าเราจะตีกันก่อนที่จะได้คุยกันดีๆ ทุกครั้งไปก็ตาม”
มินตราอยากจะหัวเราะ ทว่าก็หัวเราะไม่ออก ทุกครั้งที่เจอกัน เขากับหล่อนมักใช้กำลังก่อนคุยกันเสมอ แม้แต่ครั้งนี้ หล่อนก็ถีบเขาซะกระเด็นจนจุกไปหมดกระมัง แต่ถึงกระนั้นโทนี่ก็ยังใจเย็นพอที่จะเอาคืนหล่อนด้วยจูบร้อนแรงจนได้
“ลาออกจากงานที่คุณทำได้ไหม”
“อะ...อะไรนะคะ” มินตราอุทานด้วยความตกใจ ที่จู่ๆ โทนี่ก็ขอให้หล่อนลาออกจากงานที่ทำอยู่ในตอนนี้ ทำเอาหล่อนถึงกับงงจนต้องขมวดคิ้วเข้าหากันทันที
“ผมเลี้ยงเอง นะมินนี่”
มินตราจ้องตาเขาเขม็ง สรุปว่าที่ตามตอแยอยู่นี่ เพียงเพราะเขาอยากจะยื่นข้อเสนอขอเลี้ยงดูเท่านั้นเองหรอกหรือ เขาอยากได้หล่อนตามประสาผู้ชายที่อยากได้ผู้หญิงทั่วไปอย่างนั้นใช่หรือเปล่า
ความคิดเองเออเองที่เกิดจากความโกรธทำให้หญิงสาวตาลุกวาว ก่อนจะออกแรงผลักไสอ้อมกอดนั้นออกไปให้พ้น แต่คนอย่างโทนี่เองก็ไม่ใช่จะยอมใครง่ายๆ นอกจากไม่ยอมปล่อยหล่อนแล้ว เขาก็ยังกอดหล่อนแน่นขึ้นอีกด้วย
“เป็นอะไร” ชายหนุ่มเลิกคิ้วงุนงง เมื่อครู่ยังเชื่องเป็นลูกแมวตัวน้อยของเขาอยู่เลย มาตอนนี้หล่อนก็แผลงฤทธิ์เป็นแม่เสือสาวจอมดุไปเสียแล้ว
“ปล่อย ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนมาช่วย”
“อ้าว ไหงเป็นงั้น” โทนี่เลิกคิ้วงุนงง ก่อนจะมองใบหน้าเง้างอดของหล่อนด้วยความงงใจ พยายามคิดทบทวนว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปให้หล่อนโกรธอย่างนั้นหรือ
“ฉันรักใจงานที่ทำ รักใจศักดิ์ศรีของตัวเอง หากคุณอยากจะเลี้ยงใครสักคน แน่นอนว่ามันจะไม่ใช่ฉันแน่”
อ๋อ...อย่างนี้นี่เอง โทนี่ถึงบางอ้อในทันที นี่หล่อนเข้าใจผิดคิดว่าเขาอยากเลี้ยงหล่อนเป็นอีหนูไว้ประดับบารมีเล่นเหมือนเศรษฐีทั่วๆ ไปสินะ ถึงได้โกรธเขามากขนาดนี้
แม่คุณทูนหัวเอ๋ย ใครเขาจะเสี่ยงชีวิตด้วยการแอบปีนเข้าบ้านของหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษดึกๆ ดื่นๆ เพียงเพื่อจะหาอีหนูมาเลี้ยงสักคน มันจะดูเล่นใหญ่ไปไหม
***มาถึงก็นัวเนียเมียเลยนะ มินเอ๋ย จะรอดเงื้อมมือป๋าไหมลูก ป๋าแกคลั่งรักขนาดนี้ ไม่น่าจะรอดเนอะ
***กดโหวต กดเมนต์ ให้กำลังใจป๋าด้วยนะคะ ให้กำลังใจไรท์ด้วยยยยย ยังไม่จบเลย งือออ อยากส่งต้นฉบับแล้ววววว
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ถ้าเขียนจบเร็ว คนอ่านก็ได้อ่านเร็ว
พี่โทนี่นี่ก็ชอบแกล้งมินนี่อยู่เรื่อยเลย