ตอนที่ 17 : ล่ามรัก 2
“คุณชอบแบบไหน” โทนี่หันมากระซิบ ในขณะที่มินตราทำหน้ากระอักกระอ่วน ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาซื้อชุดชั้นในกับผู้ชายแบบนี้ ช่างเหนือความคาดหมายยิ่งนัก
“แบบไหนก็ได้ค่ะ เอามาสักชุดก่อนเถอะ”
หญิงสาวตอบห้วนๆ ไม่กล้าสบตาแม่ค้าที่มองมาด้วยความเอ็นดู กับคู่รักเฉพาะกิจอย่างหล่อนและเขา
“เดี๋ยวผมดูให้ดีกว่า หน้าอกสัก...สามสิบหกใช่ไหม ส่วนสะโพกนี่สักสามสิบห้าน่าจะได้”
โทนี่ปล่อยมือหล่อน แล้วเดินไปเลือกชุดชั้นในหลากสีสัน ที่แขวนไว้เรียงรายจนละลานตาไปหมด ซึ่งมันมีหลายขนาดหลายไซซ์ให้เลือกมากมายเลยทีเดียว
“สีดำนี่ก็สวยนะคะ เหมาะกับผิวของน้องผู้หญิงเขาดี” แม่ค้าแนะนำ ก่อนจะหยิบชุดชั้นในสีดำยื่นมาให้ชายหนุ่มเลือก
“ดูหนาไปครับ ภรรยาผมเขาชอบบางๆ เซ็กซี่ๆ หน่อย เขาชอบอ่อยให้ผมหิวบ่อยๆ น่ะครับ”
อีตาบ้า! มินตราอยากจะถอดรองเท้าแตะที่สวมอยู่ปาหัวเขานัก แต่ก็ทำได้แค่ยืนกัดฟันกรอด มองสามีสุดหล่อจอมโมเมกับแม้ค้าหน้าใสคุยกันถึงสัดส่วนของหล่อนด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
แปลกดี จะมีผู้ชายสักกี่คนที่จะมาเลือกซื้อชุดชั้นในให้ผู้หญิงแบบนี้ ระดับ โทนี่ วิลล์ เจ้าพ่อแห่งวงการเทคโนโลยีสมัยใหม่ จู่ๆ มาได้เขามาเลือกชุดชั้นในให้นี่นะ มินตราอยากจะบ้า
หญิงสาวผ่อนลมหายใจ ก่อนจะมองไปรอบๆ ตลาดด้วยความคิดสับสนวุ่นวาย ผู้คนมากหน้าหลายตาเดินขวักไขว่ไปมา ต่างคนต่างเลือกซื้อเสื้อผ้าและของกินกันอย่างมีความสุข แต่หล่อนล่ะ หล่อนมัวมาทำอะไรอยู่ตรงนี้
แผ่นหลังบึกบึนของคนที่กำลังง่วนกับการเลือกชุดชั้นผู้หญิง ทำให้มินตราเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว แม้จะอยู่ด้วยกันในระยะสั้นๆ แต่มินตราก็มองออกว่าโทนี่เป็นคนอย่างไร แม้จะปากร้าย แต่จิตใจของเขาก็ดีกว่าผู้ชายหลายคนที่หล่อนเคยพบเจอมาทีเดียว
“ตัวนี้แล้วกัน”
โทนี่หยิบชั้นในสีแดงสดออกมา พร้อมกับยิ้มอย่างพึงพอใจ หากมันอยู่บนเรือนร่างของมินตรา รับรองว่าหล่อนจะต้องเซ็กซี่กว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้แน่
“ตาถึงจริงๆ ค่ะ สีแดงเร้าใจ ใส่แล้วต้องเซ็กซี่มากๆ”
แม้ค้าสาวเห็นด้วย พร้อมยิ้มให้กับความน่ารักของฝ่ายชายที่ต้องการจะเอาใจฝ่ายหญิงเต็มที่
“เบบี๋ คุณว่าสีนี้เป็นไงครับ”
โทนี่หันกลับมาถามหล่อนด้วยแววตาซุกซน ทว่าทุกอย่าง ณ ตรงนั้นกลับมีเพียงความว่างเปล่า ไร้เงาของหญิงสาวที่เขาเก็บหล่อนไว้ข้างตัวมาตลอดหลายวัน
“มินนี่” โทนี่พึมพำ นี่หล่อนกล้าทิ้งเขาอีกครั้งแล้วอย่างนั้นหรือ
“หายไปไหนแล้วคะ ตะกี้ยังยืนอยู่ด้วยกันอยู่เลย”
แม่ค้าสาวยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความงุนงง เมื่อหันกลับมาแล้วพบว่าสาวสวยได้หายไปแล้ว
“เดี๋ยวเอาชุดนี้นะครับ” โทนี่ยื่นชุดที่เลือกให้แม่ค้า ในขณะที่ใบหน้าหล่อเงียบขรึมลงในทันที
“ได้ค่ะ” แม่ค้ารีบนำไปใส่ถุงให้ทันที แต่ก็อดรู้สึกแปลกๆ กับคู่รักคู่นี้ไม่น้อย
โทนี่เดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกจากร้านด้วยความเงียบงัน ก่อนจะหันไปมองรอบๆ ตัวแล้วถอนหายใจ อีกครั้งแล้วที่สินะที่มินตราทิ้งเขาไปโดยไม่ร่ำลากัน ทั้งที่หล่อนเองก็รู้ ว่าต่อให้หล่อนหนีเขาไปสุดหล้าฟ้าเขียว เขาก็จะหาหล่อนเจอทุกที่
คล้ายหัวใจหลุดลอยไป โทนี่รู้สึกอย่างนั้น สองขาก้าวเดินไปตามถนนอย่างช้าๆ และนึกถึงใบหน้าซีดๆ ของหล่อนด้วยความห่วงหาอาทร หล่อนยังเจ็บแผลอยู่แท้ๆ แต่ทำไมไม่คิดถึงความปลอดภัยของตัวเองเลย หล่อนจะรู้บ้างไหม ว่าหากแผลนั่นอักเสบและเรื้อรังไป หล่อนอาจจะถูกตัดแขนทิ้งไปเลยก็ได้
ให้ตายเถอะ! เกิดมาโทนี่ไม่เคยต้องมาคอยห่วงใยใครแบบนี้เลย ชีวิตของเขาสุขและสงบมานานจนผ่านมาสามสิบห้าปี ไม่เคยเลยสักครั้ง ที่เขาจะเป็นทุกข์และทรมานกับแคร์ใครสักคนแบบนี้ โทนี่ชักไม่แน่ใจแล้วสิ ว่าอาการแบบนี้ มันหมายถึงอะไรกันแน่ อะไรกันที่เขารู้สึกกับมินตราในตอนนี้
“แบบนี้เขาเรียกว่าอาการรัก”
คำตอบจากเพื่อนรักที่ลอยหน้าลอยตาอยู่ในจอคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กบนโต๊ะ ทำให้โทนี่ที่นั่งหมดอาลัยตายอยากถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดขึ้นมาทันที ก่อนจะตอบกลับคาร์ลที่ติดต่อมาถามไถ่ความเป็นไปของเขา หลังจากที่ได้รับข่าวบางอย่างของโทนี่จากสารวัตรเอกพล ที่แอบรายงานให้ทุกคนทราบเรื่องตอนไหนก็ไม่รู้
“อาการรักบ้าอะไรของแกวะคาร์ล มีเมียแล้วก็พูดมั่วเชียวแก”
โทนี่บ่นอุบ หลบสายตาจับผิดของเพื่อนที่ส่งมาจากแดนไกลถึงอเมริกา ความจริงโทนี่เองก็ถึงเวลาที่จะต้องกลับไปดูแลงานของตัวเองแล้วเหมือนกัน เพราะเขาบินมาพักผ่อนที่เมืองไทยก็นานหลายสัปดาห์แล้ว แต่เพราะยังมีเรื่องคาใจนิดหน่อย เขาจึงไม่ได้กลับไปพร้อมกับทุกคน
“มั่วอะไรล่ะ แกรู้แก่ใจดีโทนี่ ว่าแกกำลังคิดอะไรกับผู้หญิงคนนั้น คนอย่างโทนี่กล้าทำกล้ารับไม่ใช่หรือวะ กะอีแค่ความรู้สึกของตัวเอง ทำไมคนอย่างแกถึงจะยอมรับไม่ได้” คนไกลพูดแทงใจ เพราะอดหมั่นไส้ที่โทนี่เอาแต่ปากแข็งไม่ยอมรับความจริงอยู่นั่นแหละ
“ฉัน...” คนมีความทุกข์ไม่รู้จะพูดอย่างไร สองชั่วโมงกว่าแล้ว ที่เขานั่งมองชุดชั้นในสีแดงที่อยู่ในถุงอย่างไร้จุดหมาย บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไรกับเจ้าของชั้นในชุดนี้กันแน่
มันทั้งโกรธ ทั้งขุ่นใจ ที่เจ้าหล่อนไม่เคยสนใจในความหวังดีของเขาเลย เอาแต่ดื้อ เอาแต่ใจ ทำให้เขาหัวหมุนไปหมด มาตอนนี้ก็แอบหนีเขาไปอีก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าหล่อนจะปลอดภัยดีหรือไม่
“ฉันว่าแกควรซื้อบ้านสักหลัง” คาร์ลเสนอแนะ
“ซื้อทำไมวะ บ้านฉันอยู่อเมริกาโน่น จะมาทีก็นอนบ้านแกบ้านคุณเคลวินก็ได้” โทนี่บอกตามที่คิด เพราะซื้อไว้ก็ใช่ว่าจะได้อยู่เสียเมื่อไร ซื้อไว้ให้ฝุ่นให้หยากไย่อยู่แทนก็จะไร้ประโยชน์
“นั่นมันก็ใช่ แต่ถ้าแกคิดจะมีเมียเป็นคนไทยเหมือนฉันหรือคุณเคลวิน แกก็น่าจะซื้อไว้เป็นของตัวเองสักหลังไม่ใช่หรือ”
“แกนี่ก็คิดไปโน่นนะคาร์ล”
โทนี่บ่นอุบ ดูเหมือนว่าเพื่อนรักจะปักใจแล้วว่าเขาชอบมินตรา จึงได้แนะนำให้เขาซื้อบ้านสักหลัง ทั้งที่บ้านของเคลวินที่เขาพักอาศัยอยู่ในขณะนี้ ก็ออกจะสะดวกสบายทุกอย่างดี แถมระบบความปลอดภัยก็ยอดเยี่ยมมากเลยทีเดียว ยากที่คนภายนอกจะเข้าถึงได้
“แกคิดไปไกลกว่าฉันอีกโทนี่ ไม่อย่างนั้นจะตามหาหล่อนเป็นบ้าเป็นหลัง แถมยังยอมเสี่ยงตายกระโดดลงไปช่วยหล่อนในแม่น้ำเจ้าพระยานั่นหรอก”
โทนี่กลอกตา นี่หมายความว่าเอกพลรายงานทุกคนหมดแล้วสินะ ว่าเขาทำอะไรที่ไหนอย่างไร แต่ก็นั่นแหละ การจะมีความลับกับเพื่อนฝูงอย่างคาร์ลนี่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ
“ถึงเวลาของแกแล้วล่ะโทนี่ เวลาที่แกจะได้พบกับพรหมลิขิตของแก เคยแช่งฉันไว้เยอะนี่ คราวนี้แกเจอกับตัวเองแล้วเป็นไง” คาร์ล เบอร์ตัน หัวเราะร่วน ส่วนโทนี่นั้นทำท่าเหมือนจะตายขึ้นมาทันที
“เอาน่า จะมีเมียมีความรัก ก็ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากเลย คนเขาก็มีกันโครมๆ ไม่เห็นเขาจะเป็นจะตายเหมือนแกสักคน”
“แกก็พูดเกินไป แล้วนี่ยายตัวเล็กไปไหน ทำไมแกมีเวลาว่างมาคุยกับฉันได้” โทนี่ถามหาตติญาภา ภรรยาตัวน้อยของคาร์ลเพื่อนรักที่รู้จักและสนิทสนมกันเป็นอย่างดี
“กระต่ายออกไปข้างนอกกับคุณจันทร์แล้วก็คุณม่านไหมน่ะ อีกนานกว่าจะกลับเข้ามา ฉันเป็นห่วงแกก็เลยแวะมาทักทาย กลัวจะโดนความรักเข้าตาจนทำให้หน้ามืดตาลาย”
“ไอ้เพื่อนบ้า” โทนี่อดหัวเราะไม่ได้ คาร์ลพูดถูก เพราะตอนนี้เขาเองกำลังสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปเหมือนกัน
ใจหนึ่งอยากจะปล่อยทุกอย่างให้ผ่านไป เพราะมินตราไม่เคยต้องการความห่วงหาจากเขาแม้แต่น้อย หากแต่ใจหนึ่งก็กลัวว่าหล่อนจะเป็นอะไรไป หล่อนตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน แถมยังทำงานที่เสี่ยงกับชีวิตและความปลอดภัยตลออดเวลา
“แกอาจจะเหนื่อยนะโทนี่ เพราะว่าที่เมียของแกคนนี้ไม่ธรรมดา แกต้องคิดดีๆ ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรกับหัวใจของแกกันแน่ แค่หลง แค่อยากได้เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไป หรือว่าอยากได้เธอมาอยู่ข้างๆ ตลอดไป”
คำแนะนำของเพื่อนรักทำให้โทนี่เงียบไปอย่างใช้ความคิด หากแค่หลง เขาเองก็คงหลงหัวปักหัวปำ หากเป็นความอยากได้ เขาก็คงอยากได้จนแทบบ้าคลั่ง แต่ถ้าหากอยากให้หล่อนอยู่เคียงข้างกัน เขาก็คงอยากให้อยู่ด้วยตลอดไป
“เมียแกไม่ใช่เจ้าของร้านขนมเหมือนเมียฉัน ไม่ใช่นักร้องสาวสวยเหมือนคุณจันทร์ภรรยาของอดีตเจ้านายเรา เธอเป็นถึงสายลับของหน่วยพิเศษแห่งกองปราบปรามยาเสพติด เพราะฉะนั้นการที่แกจะจีบหล่อน มันต้องใช้กลยุทธ์ขั้นสูงสุด”
จริงของคาร์ล มินตราเป็นสายลับสาวที่มีฤทธิ์เดชมากพอตัว เพราะฉะนั้นถ้าจะจับหล่อนให้อยู่หมัด เขาก็ต้องใช้วิธีที่เฉียบคมมากกว่านี้
“ฉันว่าคุณจันทร์กับเมียแกนี่ร้ายกาจมากแล้วนะคาร์ล แต่มาเจอมินตรานี่ฉันไปไม่เป็นจริงๆ เธอร้ายกว่ากระต่ายกับคุณจันทร์ผสมกันเสียอีก ยกขาทีนี่แทบจะก้านคอฉันได้” โทนี่บอกไปหัวเราะไป รู้สึกขำที่ตัวเองต้องมาพ่ายแพ้ให้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างมินตราได้
“ฮา...ได้ข่าวว่าตีกันแทบตายไม่ใช่เหรอ ระวังนะโว้ย ตีกันบ่อยแบบนี้เขาว่าจะมีลูกดก” คาร์ลแกล้งเย้า เพราะนานๆ ครั้งจะได้เห็นเพื่อนรักจนมุมเพราะผู้หญิงแบบนี้
“เป็นอย่างนั้นก็ดีสิ มินนี่จะได้เลิกทำงานแบบนั้นเสียที ฉันไม่ชอบเลยว่ะคาร์ล ไม่ชอบเลยที่เธอทำงานแบบนั้น เกิดพลาดท่าเสียทีไอ้พวกผู้ร้ายขึ้นมาสักวัน นั่นก็หมายถึงชีวิตของเธอเลย”
“ห่วงก็บอกเขาตรงๆ สิวะ จะมามัวกั๊กเอาไว้ทำไม แกเห็นฉันกับกระต่ายไหม กว่าจะได้ลงเอยกัน มันต้องผ่านอะไรมากมายเหลือเกิน แกมีโอกาสแล้วนะโทนี่ เพราะฉะนั้นรีบตักตวงเอาไว้ให้ดี อย่าปล่อยเวลาในแต่ละวันให้มันเลยเถิดไปถึงห้าปีเหมือนฉันกับกระต่าย แกก็เห็นไม่ใช่หรือ ว่ามันไม่มีใครมีความสุขเลย เพราะฉะนั้นแกรู้สึกอย่างไร ต้องการอะไร แกพูดแกทำไปเลย ก่อนที่แกจะไม่มีโอกาส”
“ขอบใจมากนะคาร์ล ยังเป็นแกเสมอที่เข้าใจฉัน” โทนี่ยิ้มให้เพื่อนอย่างขอบคุณ
“เพื่อนกันนี่หว่า ฉันก็อยากให้แกมีใครดูแลสักคนเสียที ฉันจะรอนะโทนี่ รอดูวันที่แกมีความสุขเหมือนกันกับฉัน เหมือนคุณเคลวินหรือว่าคุณพลากร เพราะฉะนั้นสู้เขานะโว้ยเพื่อน อย่าไปยอมแพ้เธอเด็ดขาด” คาร์ลกำชับเพื่อนอย่างจริงจัง ก่อนจะคุยอีกสองสามคำแล้วตัดสัญญาณไป ทิ้งให้โทนี่ได้แต่นั่งหัวเราะเบาๆ ด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นบ้าง
“เจ้านายครับ” โรเจอร์เปิดประตูเข้ามาหลังจากนั้น ทำให้โทนี่จำต้องรีบปรับสีหน้าให้กลับมาเงียบขรึมดังเดิม เพื่อไม่ให้ลูกน้องหนุ่มของเขาสงสัย
“ว่าไง ได้เรื่องไหม” โทนี่ตั้งคำถามทันที เขาสั่งให้โรเจอร์หาสัญญาณบนนาฬิกาข้อมือของมินตรา เพราะอยากรู้ว่าหล่อนหนีเขาไปที่ใดกันแน่
“อยู่ในกรุงเทพฯ นี่ล่ะครับ ไม่ไกลจากเราเท่าไร เจ้านายจะให้คนของเราที่เรียกตัวมาลงมือเลยไหม”
“ไม่ต้อง” โทนี่โบกมือห้าม เพราะเขาไม่อยากทำอะไรให้มันเอิกเกริก อีกอย่างก็ไม่ใช่เจ้าถิ่นด้วย กลัวจะไปสร้างความเดือดร้อนให้เอกพลได้
“บอกให้ทุกคนอยู่เฉยๆ และรอฟังคำสั่งฉันอย่างเดียว”
“ครับ” โรเจอร์รับคำสั่ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องของเจ้านายหนุ่มหลังจากนั้น เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอยู่คนเดียวมากกว่า
โทนี่เรียกคนของตัวเองมาจากอเมริกา เพราะกลัวว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น หลังจากที่เอกพลบอกกับเขาว่านายมังกรพ่อค้ายาคนนั้นหนีออกไปได้ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ แถมยังห่วงใยไปถึงความปลอดภัยของมินตราด้วย
หล่อนเป็นคนทำลายแผนการของพวกมัน ไม่แน่ว่าหลังจากนี้พวกมันอาจจะกลับมาแก้แค้นหล่อนเข้าก็ได้ แม้แต่เขากับเอกพลเองก็ต้องระวัง เพราะพวกเขาล้วนอยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นด้วยทั้งคู่ ด้วยเหตุนี้เอง โทนี่จึงเรียกคนของตัวเองมาเพื่อช่วยงานอย่างลับๆ หากเกิดอะไรขึ้นมา โทนี่เองก็พร้อมจะปะทะได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องเกรงกลัวใคร
**คาร์ล+กระต่าย จาก เจ้าสาวยอดรัก
**เคลวิน+จันทร์เจ้าขา จาก เจ้าสาวสะบัดช่อ
แวะมาบอกก่อน เดี๋ยวจะงงว่ามาจากไหน แฮ่ๆๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค้าา ฝากติดตามกันด้วยเน้ออ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

171 ความคิดเห็น
-
#44 สายลม (จากตอนที่ 17)วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 / 14:15นึกว่าหายไปหาอะไรกินรองท้องซะอีก 55#440
-
#43 Paiky Klongluang (จากตอนที่ 17)วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 / 10:03อะไร..คือเมียหนี..#431
-
#43-1 โอบ (จากตอนที่ 17)16 กุมภาพันธ์ 2561 / 10:4855555 สมหน้า#43-1
-