คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เกียร์เเลช วตนเดชา
สิ่งที่แก้ไข เป็นสีแดงนะคะ
ใบสมัคร
รูปตัวจริง(อยู่บ้าน ไปเที่ยวกับคนรู้จัก เพื่อนสนิท มุ๋งมิ๋งสุดๆ)
รูปตอนแต่งหน้า(ออกงานสังคม ไปร้าน ทางการ ผมสีทองเกิดจากการย้อมสีชั่วคราว ล้างออกได้)
ข้อมูลภายนอกเกม
ชื่อ: เกียร์เเลช วตนเดชา (ชื่อในภาษาไอริชแปลว่าพระจันทร์ นามสกุลอ่าน วะ-ตะ-นะ-เด-ชา)
ชื่อเล่น:เกีย
เพศ: หญิง
อายุ: 23
สนใจในเพศ: ชอบผู้ชายหลายสไตล์(ออกแนวชมชอบของสวยๆงามๆ 555) หลักๆก็มีเด็กผู้ชายที่อายุน้อยกว่าน่าตาน่ารัก ถ้าเห็นเด็กแบบนี้จะเกิดความรู้สึกว่า "อยากให้เรียกว่าพี่สาวจังเลยยยยย >_<" มักเข้าไปช่วยเหลืออย่างไม่รู้ตัวด้วยความบริสุทธิ์ใจ(?)
ผู้ชายเถื่อนแต่แอบอ่อนโยน คือผู้ชายประเภททำเป็นโหดแต่จริงๆก็ใจอ่อน เข้าตำราปากร้ายใจดี ผู้ชายประเภทนี้มักจะโดนเกียร์แลชแกล้งให้หลุดมาดบ่อยๆด้วยความเอ็นดูปนหมั่นไส้
ผู้ชายเย็นชาโดดเดี่ยว ประเภทนี้เรียกความสงสารจากสัญชาติญาณความเป็นแม่ของผู้หญิงอย่างเกียร์แลชได้เป็นอย่างดี มักจะคอยดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ(ผู้ชายแบบนี้ไม่ชอบให้ใครอยู่ใกล้นี่นา TT)คอยเป็นเพื่อน(แม้จะถูกเขาไล่ตะเพิด ก็ยังสีทนได้ไม่เปลี่ยนแปลง TwT b ) ถ้าคนประเภทนี้ฝืนเกินตัวก็จะออกโรงห้ามปรามบวกสั่งสอนทันที(แม้จะถูกเชิดใส่ก็ตาม ฮือๆๆๆ) มโนไปเองว่าตัวเองคือเพื่อน+พี่สาวของคนประเภทนี้ทันที ทำไงได้ ก็คนมันอ่อนไหวกับพวกมีปมนี่นา...
ผู้ชายที่สวยกว่าผู้หญิง >>> เห็นเป็นไอดอล+เหยื่อในการแต่งฟิค ออกแนวชื่นชมเทิดทูนไว้บนหิ้ง มากกว่าจะอยากได้มาจริงๆ แค่ได้เห็นก็ทำให้โลกสดใสแล้ว! *w* b
อาชีพ: เจ้าของร้านอาหารชื่อดัง(เคยเป็นเชฟมาก่อน) ร้านเป็นภัตตาคารแปดชั้นขนาดกลาง ขายอาหารที่ทุกคนทุกชนชั้นชื่นชอบ แม้ในโลกที่ทุกๆอย่างสะดวกสบายไม่จำเป็นต้องก้าวเท้าออกจากบ้านก็อยู่ได้ แต่ผู้คนก็ยังแห่มากินอาหารร้านนี้ ทั้งยังขายเบเกอรี่ที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ไม่ว่าใครก็อยากมาร้านนี้ซักครั้งในชีวิต ร้านชื่อ Sil Yume (อ่านว่า ซิล-ยู-เม่) มาจากการสลับอักษรของคำว่า Elysium ที่แปลว่า ความสุขหรือสวรรค์ก็ได้ เมื่อมาเรียงใหม่เป็น Sil Yume คำว่า Sil ในภาษาเช็ก แปลว่ากำลัง/พลัง/กองทัพ Yume ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าความฝัน Sil Yume จึงแปลได้อีกนัยย์หนึ่งว่า พลังแห่งความฝัน)
ความถนัดหรืองานอดิเรก : นักออกแบบเวปไซต์และนักเขียน ทำอาหารได้มากกว่าสองพันชนิด ทำโมเดลต่างๆ(สัตว์ อาวุธ บ้าน) อ่านหนังสือ(นิยาย ประวัติศาสตร์ ทำอาหาร เทคนิคต่างๆ การเอาชีวิตรอดในป่าใหญ่(?) ฟิควาย!!!?)
เชื้อชาติ:ไทยเชื้อสายไอริช(จากทางแม่)
ลักษณะทั่วไป : ดวงตาสีฟ้าออกไปเฉดสีคราม ผมยาวสีน้ำตาล ร่างสูงเพรียวบาง(170 cm) หน้าตาสวยจนมีคนมาขายขนมจีบบ่อยๆแต่เจ้าตัวยังไม่ปิ๊งใครจริงจังซักที รูปร่างดูบอบบางแต่จริงๆแล้วแข็งแรงมาก งานเชฟที่เคยทำมาไม่ใช่งานง่ายๆสบายๆหรอกนะ!
นิสัย: ใจกว้างและใจดี แต่ก็ใช่ว่าจะเสียทีคนอื่นง่ายๆ แอบเจ้าเล่ห์นิดๆอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ โอนอ่อนผ่อนตามได้แต่ก็เด็ดขาดได้เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นสร้าง Sil Yume ขึ้นมาไม่ได้หรอก เป็นคนที่เข้าอกเข้าใจคนอื่นดีแม้คนคนนั้นจะไม่ได้พูดออกมา อาชีพรองจากการทำร้านอาหารคือที่ปรึกษาปัญหาชีวิตให้คนรอบตัว(ศิราณีนั่นเอง 555) เป็นคนที่มีแนวคิดแปลกๆเป็นบางครั้ง บางทีก็โดนเพื่อนชี้หน้าด่าว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวมาแล้ว เป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ดี ไม่ย่อท้อกับอะไรง่ายๆแต่ก็รู้ว่าควรถอยเมื่อไหร่(แยกคำว่ามุ่งมั่นพยายามกับบ้าระห่ำไม่รู้จักคิดได้) ให้ความสำคัญกับมิตรภาพมาก มีความเป็นผู้ใหญ่พอสมควร เป็นห่วงคนรอบข้างเสมอ มักเป็นคนกลางที่ต้องคอยพูดตักเตือนพวกที่โกรธกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่บ่อยๆ แม้จะเป็นคนแบบนี้ แต่กับศัตรูแล้วจะเด็ดขาด โหดเหี้ยมเย็นชาฆ่าไม่เลือก (ถือว่าไม่ใช่พวกตัวเอง) บุคลิคแทบเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำเอาแม้แต่พวกเดียวกันยังหนาวยะเยือก แต่ถ้าศัตรูกลายมาเป็นพวกเดียวกันจะค่อยๆดูไปก่อน ถ้าไว้ใจได้ก็จะไม่อคติอีก(ใจกว้าง) แต่ทุกครั้งจะพยายามเลี่ยงการต่อสู้(เพราะรำคาญ+ขี้เกียจ) แต่ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็มีเฮกันละ ทั้งๆที่คอยบอกคนอื่นๆว่า "อย่าฝืน" แต่ตัวเองกลับ "ฝืน" แบกรับเรื่องของตัวเองและคนอื่นไว้คนเดียว แถมยังไม่ค่อยยอมรับผิดในเรื่องนี้ซะด้วยสิ แต่ถ้าเจอคนที่พึ่งพาได้จะทำตัวออดอ้อนเหมือนลูกแมวจนคนถูกอ้อนไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว ดื้อเงียบเป็นบางครั้ง ชอบเห็นใจแม้กระทั่งคนทำเลวที่ทำเพราะเหตุผลบางอย่าง(ถ้ามันบอกเหตุผลที่ดีทันก่อนโดนฆ่า) บางครั้งไล่ฆ่าอย่างบ้าเลือดอยู่ดีๆ ก็ปล่อยไปซะเฉยๆ เชื่อว่าทุกอย่างมีเหตุผลของมันเอง แม้แต่คนที่เลวที่สุด เขาอาจเคยเป็นคนดีที่โดนทำร้ายมาก่อนก็ได้
ประวัติ: เกิดในครอบครัวที่มีชื่อเสียงและร่ำรวย แม่(ชาวไอริช)เสียไปตอนอายุห้าขวบ ไม่นานพ่อก็แต่งงานใหม่และมีลูกกับภรรยาใหม่สองคนเป็นฝาแฝดชายหญิงชื่อ ฑีฆายุ/ฑีรยา วตนเดชา ตอนนี้ทั้งสองคนอายุได้สิบหกปีแล้ว เป็นเด็กดีขยันเรียน โดยส่วนตัวแล้วเธอไม่ค่อยได้คุยกับน้องๆซักเท่าไหร่เพราะอายุที่ห่างกันถึงเจ็ดปี น้องวิ่งเล่นได้ เธอก็ต้องปวดหัวกับสมการหลากตัวแปรแล้ว แต่ความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ถือว่าดี เธอเองก็สนิทกับแม่เลี้ยงดีไม่มีปัญหา แต่จุดเปลี่ยนมันอยู่ที่ตอนเลือกทางเดินอนาคต พ่อของเธออยากให้เธอเรียนในสายที่จะสนับสนุนทางบ้านมากกว่า แต่เธอไม่อยากที่จะสืบทอดกิจการ ช่วงนั้นเธอทะเลาะกับพ่ออย่างรุนเเรง พ่อของเธอโมโหจนเผลอหยิบตุ๊กตาแก้วใกล้ๆตัวขว้างลงพื้น แต่ว่าตุ๊กตาตัวนั้นคือของดูต่างหน้าแม่ที่ตายไปแล้วของเธอ เธอจึงออกจากบ้านมาพร้อมกับเศษตุ๊กตาที่แตกโดยไม่ได้เก็บอะไรออกไปเลย มีเเค่เสื้อผ้าที่ใส่อยู่กับซากตุ๊กตาเท่านั้น เงินแม้แต่เหรียญเดียวก็ไม่มีติดตัว ช่วงแรกต้องลำบากมากเพราะปรับตัวไม่ได้ แต่เธอก็สู้มาตลอด เธอสอบเข้าชิงทุนเรียนทำอาหารทั้งยังศึกษาเองอีกมาก และได้กำลังใจจากคนรอบข้าง สุดท้ายเธอก็สร้าง Sil Yume ขึ้นมาด้วยสองมือเปล่า แม้ตอนนี้ญาติคนอื่นที่เคยดูแคลนเธอว่าต้องไปตายข้างถนนก็หุบปากสนิทแถมบางคนยังมาประจบประแจงด้วยซ้ำ แต่จนตอนนี้แม้จะกลับบ้านไปเยี่ยมพวกน้องๆบ้างในบางครั้งหรือวันเกิด แต่เธอก็ไม่เคยคุยอะไรกับพ่อตัวเองจริงจังอีกเลย ความสัมพันธ์ราวกับเป็นแค่คนรู้จักกัน ทักทายไม่กี่คำก็ไม่มีอะไรจะพูดกันแล้ว ตัวเธอเองก็ออกจากบ้านนั้นมาตั้งแต่อายุสิบห้า เพิ่งจะได้กลับไปตอนยี่สิบช่วงที่ร้านของเธอประสบความสำเร็จ และเธอก็ยังเก็บเศษตุ๊กตาแก้วที่ไม่มีวันต่อให้เหมือนเดิมได้ไว้กับตัวอยู่จนถึงทุกวันนี้...
สิ่งที่ชอบ :ผู้ชายหน้าสวย(?)<<< เห็นแล้วตาเป็นประกายเหมือนเอฟซีเจอไอดอล พวกสัตว์มีขนฟูๆ<<<จะเข้าไปลูบๆและฟัดอย่างหมั่นเขี้ยว หน้าหนาว+หิมะ<<<เป็นช่วงวันเกิดตัวเอง เงือก<<<มาจากนิทานที่แม่เล่าให้ฟังสมัยเด็กๆ
สิ่งที่เกลียด: คนที่ชอบกะเกณฑ์ชีวิตคนอื่น(ไม่ชอบเพราะพ่อ) คนเสแร้งโกหก(มาจากประสบการณ์การทำงานเจอคนประเภทนี้แล้วเกลียด) คนไร้มารยาท(ไม่รู้ว่าทำไม แต่ไม่ชอบจริงๆเลย!!)
สิ่งที่กลัว :จิ้งจก(สมัยเด็กตักนมข้นชงเครื่องดื่มแล้วช้อนขึ้นมาเจอจิ้งจก ก็ไม่ทำไมหรอกนะ แค่ก่อนจะเจอหน้านั้นเธอใส่นมข้นไปสองช้อนแต่ไม่หวาน(ชิมไปแล้วววว T[]T) เลยกะใส่อีกช้อนดันเจอจิ้งจก มันฝังใจ TT ถ้าเจอจะสดุ้ง แล้วค่อยๆถอยออกมา หรือไม่ก็หาอะไรมาเคาะๆให้มันวิ่งหนีไป แต่ถ้ามันยังวิ่งเข้าหาจะหลุดกรี๊ดวิ่งหนีแบบหมดมาดทันที ถ้ามีใครอยู่ข้างๆจะเกาะไว้แล้วหลบข้างหลังพร้อมมองหาว่าจิ้งจกมันอยู่ไหน จะได้หนีทัน 555) กลัวการจากลา(มันน่าเศร้าออก การจากลากับคนที่เรารักนะ เหมือน... แม่ของฉัน...)
ข้อมูลในเกม
ชื่อตัวละคร: กิซต้า
สถานะภาพ: ผู้เล่น
ฉายา: เจ๊(คนที่นับถือกิซเรียก)/ ราชินีอสพิษ
เลเวล: 66
ระดับยศ : องครักษ์ (<<< องครักษ์พิทักษ์หนุ่มรูปงาม!! *w* b #ไม่ใช่ละ)
อาชีพ: อสพิษมนตรา
(ไม่ได้เขียนผิดนะคะ อด-สะ-พิษ เริ่มจาก
นักเวทย์ฝึกหัด(ใช้เวทย์ได้ทั่วไป พลังกายต่ำเหมือนนักเวททั่วไป)
V
นักเวทย์ (เวทย์แรงขึ้น)
V
เลือกว่าจะไปทางนักเวทย์ขั้นสูงๆไปเลยหรือจะเล่นสายมนตราที่ออกแนวประยุกต์ใช้กับสกิลหรืออาวุธได้
V
มนตราฝึกหัด(เริ่มพัตณาโจมตีด้วยอาวุธให้แรงขึ้น เลือกได้ถ้าอยากปรุงยาได้ต้องไปหาเควสลับเอง)
V
จอมมนตรา(ใช้เวทมนต์ในรูปเเบบของตัวเอง ต้องคิดประยุกต์ใช้เอง)
V
แล้วเลือกสายอันสุดท้ายว่าจะไปอะไรตามค่าที่มี(หากเงื่อนไขผ่านจะได้สายพิเศษ เช่น อสพิษมนตรา จอมมนตราแห่งศาตรา อสุรามนตรา เทวะมนตรา)
V
จอมมนตราแห่งแสง(เยียวยา/รักษา)/ความมืด(สายคำสาป/คำสาปยืดเยื้อส่งผลต่อเนื่องจนกว่าตัวละครจะตาย)/ปฐพี/วาโย/เตโช/พฤกษา/วารี/ศาตรา(เสริมอาวุธที่มีอยู่ให้โจมตีเวทพร้อมโจมตีกายภาพ ใช้ศาตราพร้อมกับหลายชิ้นได้)
V
เทวะมนตรา(ได้รับคำอำนวยพรจากเทพ เยียวยาได้ เสริมได้ ที่สำคัญ โจมตีเเรง เเรงพิเศษถ้าโจมตีธาตุมืด
หรือสัตว์อสูรธาตุมืด)
V
อสุรามนตรา(อัญเชิญสัตว์อสูรมาช่วยสู้ ฝึกสัตว์ได้)
V
อสพิษมนตรา(ใช้ยาพิษร่วมกับเวทมนย์ เชี่ยวชาญเรื่องยาพิษและยาถอนพิษ แม้โจมตีไม่เเรงแต่ถ้าโดนพิษเข้าไปก็ตายได้ง่ายๆ ใช้อาวุธร่วมกับยาพิษได้ตามความถนัด แม้จะมีพิษเป็นตัวหลัก แต่เน้นเทคนิคและกลยุธเป็นสำคัญ ไม่เน้นปะทะ ออกแนวหลบไปหลบมา อีกฝ่ายก็ล้มไปแล้ว แม้พลังโจมตีจะพอมีแต่เน้นความเร็วมากกว่า อย่างไรก็ดีพลังป้องกันค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบในระดับเดียวกัน แต่เมื่อใช้"เวทย์ป้องกัน" และสวมเครื่องป้องกันดีๆ ก็พอจะถูไถไปได้ และก็มียาพิษที่ช่วยเพิ่มความสามารถในระยะสั้นแต่หลังจากหมดเวลามันก็จะเกิดผลข้างเคียงที่น่ากลัวมาก!)
ปล. อาชีพมนตรานี้สามารถใช้ธาตุได้ทุกธาตุที่เรียนมา(เลือกเรียนมา) แต่มักเรียนกันเฉพาะสายที่ส่งเสริมกันเช่น ลมกับไฟ เป็นต้น เพราะถ้าฝึกที่ต้านกันเช่น น้ำกับไฟ จะฝึกยากเพราะพลังตีกันเอง แต่ก็ใช่ว่าไม่มีคนทำแค่มันยากมากๆเท่านั้น เมื่อถึงขั้นมนตราฝึกหัดสามารถไปเรียนวิธีปรุงยาได้ แต่มักไม่ค่อยมีคนทำ เพราะหากเล่นสายเวทย์มาแล้วอยากปรุงยาต้องฝึกสกิลทำอาหารให้ได้ขั้นสูงสุดเสียก่อน ในยุคที่ผู้คนสะดวกสบายคนที่ทำอาหารได้มีอยู่น้อยนิด ดังนั้นใครที่อยากปรุงยาได้ก็จะเล่นสายปรุงยามาเลยเพราะสกิลทำอาการกับปรุงยามันแยกกัน สกิลปรุงยาจะไม่ยุ่งยากเท่า(ชั่ง วัด ตวง กะเวลา ไม่ต้องห่วงเรื่องรสชาติหรือพลิกเเพลงสูตรเพื่อผ่านระดับเหมือนทำอาหาร อาชีพพ่อครัวในเกมส์ค่อนข้างมีน้อย) การมีสกิลทำอาหารระดับสูงสุดเป็นเงื่อนไขในการเรียนปรุงยาของสายเวทย์ ดังนั้นหลายๆคนมองว่ายุ่งยากเลยไม่มีใครเรียน
ใช้เวทย์ผ่านตัวกลางอื่นๆได้หลากหลายกว่านักเวทย์อาจใช้เวทย์ผ่านอาวุธได้เลยแต่ต้องไปทำเควสที่ยากมหาโหดก่อน(ต่างกันตรงที่พลังโจมตีของอาวุธสายจอมมนตราศาตราจะแรงกว่าและไม่ต้องทำเควส เพราะอาชีพอื่นใช้เวทย์"ผ่าน" อาวุธ แต่จอมมนตราแห่งศาตราใช้พร้อมกันและเสริมพลังไปในตัวด้วย)
สกิล:
Poison lobe (ร่ายบุปผา)เมื่อร่ายมนต์ จะเกิดสายลมพัดกลีบดอกไม้มา ส่งผลให้ติดสถานะถูดสะกด ทุกคนจะไม่สามารถขยับได้เป็นเวลา 10 s คูลดาว 4s
Sword of Blood (คมโลหิต) เมื่อใช้สกิลนี้เป้าหมายถูกโจมตีจะเลือดไหลไม่หยุด และร่างกายถูกกัดกินเน่าเปื่อย จนกว่าจะสกิลจะถูกยกเลิก ตาย หรือค่ามานาของผู้ใช้จะหมด คูลดาว 7 วัน
Thousand snowy deceased (พันหิมะโปรยปราย) ในระยะรัศมีหนึ่งพันเมตรจะมีหิมะตก ผู้ที่อยู่ในระยะจะโดนโจมตี(โดยไม่สนระดับ) ติดพิษทำให้หายใจไม่ออกยิ่งหายใจเข้าไปยิ่งทรมาณจากความหนาวเย็นสุดท้ายทั้งร่างจะแข็งกลายเป็นหิมะก่อนสลายไป ในระยะเวลาหนึ่งพันวัน(สองปี)ใช้ได้ไม่เกินสิบครั้ง โดยแต่ละครั้งต้องห่างกันอย่างน้อยหนึ่งพันชั่วโมง(ประมาณ41วัน)
Poison Sword เป็นสกิลใช้ยาพิษที่ติดตั้งในตัวดาบเลือกใช้ได้ตามชนิดยาพิษที่ใส่ลงไป อาจไม่ได้ผลหากผู้โดนโจมดีกินยาแก้พิษ(?)
Mist of Mistery เกิดหมอกปกคลุมไปทั่ว ผู้โดนโจมตีติดสถานะตาบอดชั่วคราว หลังหมอกจางลงจะติดสถานะภาพหลอนอีก 3 นาที (เปิดโอกาสหนี 555) คูลดาว 15 นาที
Adder wisper (สดับเสียงอสรพิษ) เรียกสัตว์อสูรประเภทงูและประเภทพิษมาช่วยสู้ได้ โดยไม่สามารถเรียกสัตว์อสูรที่ระดับสูงกว่าตัวเองออกมาได้ ใช้ได้จนกว่ามานาจะหมด คูลดาว 1 วัน
Fountain of dead เกิดเป็นน้ำร้อนพุพิษพุ่งขึ้นมา ไหลนองไปทั่วใครสัมผัสไอร้อนผิวหายใจเข้าไปจะถูกกรดกัดกร่อนอวัยวะภายใน ถ้าโดนน้ำจะถูกกรดกัดกร่อน ไม่มีคูลดาว กินค่าเลือดและมานา วินาทีละ 50 หน่วย
Poison wall เรียกกำแพงขึ้นมาป้องกันตัวเอง หากคู่ต่อสู้แตะต้องกำแพงโดยตรงจะติดพิษทันที
Poison wall เรียกใช้พร้อม Adder wisper ได้ กลายเป็น กำแพงอสรพิษ ใครเข้าใกล้จะโดนงูโจมตี หากแตะต้องโดยตรงก็จะติดพิษ(ส่วนใหญ่ใช้ป้องกันตัวในเวลาที่สู้ไม่ไหวแล้ว)
Power up เพิ่มพลังทางกายภาพขึ้น 200% เป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังหมดเวลา ค่ามานาและเลือดจะโดนหัก 70%
Cooking สกิลทำอาหารขั้นเทพ แยกแยะชำแหละวัตถุดิบได้ ทำอาหารได้
Making potion สกิลปรุงยา ทั้งยาพิษและยาถอนพิษและยาเพิ่มพลังต่างๆ
อาวุธที่ถนัด: ดาบ และยาพิษ
ประวัติภายในเกม: เป็นพวกแอบเก่ง หลบอยู่ตามหลืบป่าเขา(?) รู้จักกันในวงแคบๆของพวกพ่อครัวนักปรุงยาหรือพวกสายมนตราระดับสูงๆ ปรุงยาพิษขายให้พวกนักฆ่าหรือกิลใหญ่ๆ ผ่านคนกลางอีกทีเพราะไม่อยากเผยตัว ยาแต่ละอย่างราคาสูงมาก อย่างต่ำก็หมื่นเหรียญ บางครั้งก็ล่าวัตถุดิบหายากไปขายให้นักปรุงยาหรือพ่อครัว ชอบท่องเที่ยวไปเรื่อย เพราะถือคติว่ามาเที่ยวพักผ่อน สไตล์การเล่นก็ออกไปแนว Walk and Travel เป็นส่วนใหญ่ ตอนแรกก็กะเล่นสายเวทมนต์นั่นแหละ แล้วก็ทำอาหารทานไปตามความเคยชิน ทำกินเองสะดวก+ประหยัด ดันผ่านเกณฑ์ได้สกิลทำอาหารมาแล้วดันผ่านเงื่อนไขการปรุงยา ใช้ดาบไปล่าสัตว์(ใช้เวททีไรเนื้อเอามาทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง) หั่นเนื้ออยู่ดีๆได้สกิลการใช้ดาบมีสิทธิ์เล่นสายมนตราซะงั้น(?) สุดท้ายรับเควสมั่วซั่ว(ไม่ได้จริงจังอะไรไงสบายๆ ปล่อยไปตามกรรม) กลายเป็น อสพิษมนตราได้ยังไงก็ยังงงๆอยู่ แต่ก็ยอมรับและฝึกจนหาแนวทางของตัวเองเจอ ส่วนใหญ่จะวางยาพิษ และพึ่งความเร็ว+ การวางแผนหนี (ไม่ชอบปะทะถ้าไม่จำเป็น) เดินทางไปทั่ว ที่ไม่เคยไปก็มี ดินแดนเอลฟ์ ดินแดนลอยฟ้า อาณาจักรคนแคระ เดินทางไปทั่วสุดท้ายก็ได้คู่หู(สัตว์เลี้ยง)กับเขามาคนหนึ่ง เป็นปีศาจจิ้งจอกที่ถูกผนึกอยู่ ณ แดนอสูร มาจากภารกิจหาวัตถุดิบจากแดนอสูรธรรมดา กลายเป็นภารกิจตามหาลูกแก้วจิ้งจอกเก้าหางไปเสียได้...
แม้ตอนแรกๆปีศาจจิ้งจอกเก้าหางผู้ถูกตั้งชื่อว่า ชิเซ็น จะไม่ค่อยเชื่อฟังเท่าไหร่ แต่พอเวลาผ่านไปก็กลายเป็นคู่หูที่ดี แล้วทั้งคู่ก็ออกเดินทางไปทั่ว มักจะอยู่ที่ฟรีกัสนานเป็นพิเศษเพราะชอบอากาศเย็นๆทั้งคู่ และเธอก็ชอบไปส่องเงือกที่เเดนเงือกเป็นประจำ ซักวันจะลงไปให้ได้!!
ประวัติการเข้าเกม : เนื่องจากลูกค้าได้เรียกร้องให้ทางร้าน Sil Yume เพิ่มพื้นที่ในการให้บริการ ทางร้านจึงต้องปิดปรับปรุง จากตึกแปดชั้นจะถูกสร้างเพิ่มขึ้นอีก ตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้าง ช่วงที่รออยู่ก็ว่างๆเลยหาอะไรทำ เมื่อเจอคำว่าแดนเงือกในเกมส์ออนไลน์เกมส์หนึ่งก็อยากจะลองไปเห็นดูซักครั้งจะได้มีอะไรทำในช่วงว่างๆรอตึกสร้างเสร็จ(ให้เพื่อนที่เป็นผู้จัดการดูแลให้) สนใจท่องเที่ยวดูบรรยากาศในเกมส์มากกว่าการเล่นจริงจัง
เพิ่มเติมตัวละคร: อืม... แม้จะเป็นยุคที่อะไรๆก้าวหน้า อาหารก็สำเร็จรูปแบบต่างๆมีมาก แต่อาหารที่ทำออกมาใหม่ๆสดๆราคาจะค่อนข้างแพง ดังนั้นการกินอาหารจึงเป็นหนึ่งในความบันเทิงของคนรวยๆ บ้านของคนรวยๆจะมีเชฟประจำบ้านอยู่แล้ว แต่คนทั่วไปไม่ค่อยได้ทานอาหารแบบนี้ เมื่อร้านอาหารเปิดและขายในราคาที่คนชนชั้นธรรมดาเอื้อมถึงในขณะเดียวกันก็ถูกปากคนรวย ทั้งยังคุณภาพดี ดังนั้นจึงเป็นที่นิยม นอกจากขายอาหารธรรมดาเเบบปรุงใหม่ๆแล้ว ยังมีแบบสำเร็จรูปในแบรนของ Sil Yume อยู่ด้วย ซึ่งมีราคาถูกกว่าสำหรับคนที่สู้ราคาอาหารปรุงใหม่ๆไม่ได้ ทั้งอาหารคาวหวานและเบเกอรี่ก็มี ร้านเลยดังขึ้นมา (เกียร์แลชทำร้านโดยจ้างคนรู้จักและรุ่นน้องที่สนิทกันมาร่วมงาน)
เพิ่มเติมอื่นๆ: แม้ตอนแรกจะเอาแต่เที่ยวเล่นแต่เมื่อได้เจอกับพวกตัวเอกได้มองเห็นอะไรที่มันน่าสนุก มีเป้าหมายอะไรซักอย่าง ก็จะตามไปร่วมด้วยอย่างไม่อิดออด ก็มันน่าสนุกนี่นา!
อยากให้ตัวละครรับบทอะไร: เพื่อนพระเอกหรือนางเอกก็ได้
อยากฝากอะไรถึงไรเตอร์บ้างมั้ย: อยากให้จับคู่เกียกับใครก็ได้คะ ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรนะคะ อยากอ่านฉากที่มีเงือกเเล้วละคะ สู้ๆนะคะไรต์ จะรออ่าน แอดแฟนรอแล้วนะคะ ^w^bมีอะไรให้แก้ไขเพิ่มเติมบอกได้นะคะ (เขียนเยอะไปรึเปล่าเนี่ย TwT)
รูปในเกมส์ สโลแกน: เป็นผู้ใช้พิษแต่ไม่คิดทำลายชีวิตใครนะเคอะ >w<
ชิเซ็น (เอาแต่ใจเล็กน้อยมีเสน่ห์กับทุกเพศทุกวัย พลังเป็นประเภทมายาล่อลวงภาพลวงตาแปลงร่าง มักเป็นเหยื่อในการจิ้นวายของเจ้านายเป็นบางครั้งเนื่องจากสวย(?)เกินไป ชอบกินเต้าหู้ทอด ถึงจะชอบแขวะเจ้านายตัวเองเป็นบางครั้งแต่ ก็เป็นคู่หูที่ดี ความสามารถพิเศษคือ ใช้ไฟจิ้งจอกได้เหาะได้ พ่นไฟได้(?) แบกสัมพาระได้(?) เป็นพาหนะก็ได้ด้วยนะ ! ) <<< อันที่จริงก็สู้ได้ แต่เกียร์มันเห็นแต่เรื่องไร้สาระ
ฑีฆายุ/ฑีรยา
ความคิดเห็น