ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sugar daddy ♡ markno & nct

    ลำดับตอนที่ #5 : sugar daddy ♡ 04

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.74K
      229
      11 ม.ค. 62




    Sugar Daddy

     

    O4

     

     



    การไม่ได้เจอพ่อมานานทำให้เจโน่ไม่ค่อยชินนักเมื่อเห็นใบหน้าที่คล้ายกับตัวเองมาปรากฏตัวหลังจากที่อีกฝ่ายหายไปนานเป็นปี บรรยากาศในร้านอาหารก็อึมครึม เจโน่ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยเพราะมันทำให้นึกถึงวันที่พ่อกับแม่พาเขามาทานอาหารข้างนอกพร้อมกับพูดเรื่องหย่า ยังจำได้ดีว่าทั้งคู่ไม่แม้แต่จะสนใจว่าเขาจะรู้สึกยังไงด้วยซ้ำ

     

    ดวงตากลมได้แต่มองผู้ชายที่ได้ชื่อว่าพ่อตักอาหารให้ลูกเลี้ยงและภรรยาคนใหม่ เจโน่อยากลุกออกไปจากตรงนี้จะแย่ถ้าไม่ติดว่ามันดูเสียมารยาท พ่อคงโทรมาต่อว่าแน่ๆเหมือนที่เคยทำมาตลอดเวลาที่ถูกคิมเยริเป่าหู

     

    “พ่อมีอะไรรึเปล่าครับที่มาหาผมวันนี้” เจโน่ถามออกไปท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังมีความสุขสามคนพ่อ แม่ ลูก ไม่ได้รวมตัวเขา

     

    คนเป็นพ่อวางช้อนลงบนจานก่อนจะมองเจโน่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง จำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เจโน่ได้เห็นรอยยิ้มของพ่อนั่นมันเมื่อไหร่

     

    “พ่อได้ยินมาว่าลูกไปทำอะไรไม่ดีเอาไว้ ลูกเดือดร้อนเรื่องเงินมากขนาดนั้นเลยหรอพ่อไม่คิดว่าอายุเท่าลูกจะต้องใช้เงินอะไรมากมายนะเจโน่” น้ำเสียงทุ้มๆนั่นเต็มไปด้วยความตำหนิ

    “ถ้าผมบอกว่าผมไม่เคยทำอะไรไม่ดีพ่อจะเชื่อไหมครับ” เจโน่ถามกลับ

    “จะให้พ่อเชื่อลูกได้ยังไงในเมื่อเยริมาบอกว่าลูกทำงานสกปรกเป็นเด็กเสี่ยขายตัวให้คนแก่ๆที่มันตัณหากลับ ลูกทำแบบนั้นจริงหรอเจโน่”

    “พ่อคิดว่าพ่อสอนลูกดีมาตลอดเป็นเพราะผู้คนนั้นรึเปล่าที่ทำให้ลูกทำตัวเหลวไหลได้ขนาดนี้ รู้ถึงไหนคงอายเขาถึงนั่น”

     

    ลีเจโน่ได้แต่มองริมฝีปากที่กำลังพ่นสารพัดสิ่งออกมาจากปากไม่หยุด เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อพ่อแท้ๆกำลังพูดถึงแม่ซึ่งเคยเป็นคนรักในทางที่ไม่ดีเท่าไหร่ ถ้าจะมีใครผิดก็ต้องเป็นทั้งคู่แต่เจโน่ก็ไม่คิดจะโทษใครทั้งนั้น

     

    “ผมไม่เคยทำงานสกปรกอย่างที่พ่อได้ยินมา พี่เยริคงเข้าใจผิดเพราะสิ่งที่ผมทำตอนนี้ก็คือรับจ้างทำความสะอาดให้กับคนที่เขาจ้างผม พ่อคงไม่คิดหรอกใช่ไหมครับว่าการรับจ้างทำความสะอาดมันสกปรก”

    “ไม่จริงนะคะคุณพ่อ เจโน่ไม่ได้รับจ้างทำความสะอาด!” คิมเยริเถียงขึ้นมาทันทีด้วยสีหน้าเหมือนนางร้ายในละครหลังข่าวเจโน่คิดแบบนั้นตอนที่หันไปเห็น

    “พ่อไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรครับ แต่อยากให้พ่อรู้เอาไว้ว่าไม่ว่าพ่อจะคิดยังไงสำหรับผมพ่อก็ยังเป็นพ่อของผมเสมอ ขอตัวก่อนนะครับ”

     

    ไม่รอให้ผู้ใหญ่อนุญาตเจโน่เดินออกมาด้วยความรู้สึกมากมาย รู้ตัวอีกทีก็มานั่งอยู่บนโซฟาในคอนโดหรู ดวงตาแดงก่ำเพราะกลั้นน้ำตาเอาไว้ตั้งแต่บนรถแท็กซี่ไม่กล้าร้องไห้ข้างนอกไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา

     

    เจโน่ไม่อยากร้องไห้ให้กับเรื่องของครอบครัวอีกเพราะเขาสัญญากับตัวเองเอาไว้ เคยร้องไห้แทบตายให้กับซากปรักหักพังที่พ่อกับแม่ทิ้งเอาไว้ ตอนนั้นมันมากพอที่จะทำให้เขาสัญญาว่าจะไม่ร้องไห้อีกไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม แม้แต่ในวันที่รู้ว่าพ่อกับแม่แต่งงานใหม่ลีเจโน่ไม่ร้องไห้สักนิด ถึงจะรับรู้ถึงกลิ่นของน้ำตาแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ปล่อยให้มันไหลออกมาเหมือนอย่างทุกที

     

    จนวันนี้ความรู้สึกตอนนั้นมันวนเวียนกลับมาอีกครั้ง เจโน่เกลียดความรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ไร้ค่า และไม่เป็นที่ต้องการ

     

    “เป็นอะไรเด็กดี”

     

    ใครจะไปรู้ว่าเจโน่ร้องไห้ออกมาตอนที่เจอคุณมาร์คก้มลงมาพร้อมสีหน้าเป็นห่วง น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ไหลเหมือนเขื่อนแตก และมันมากมายพอที่จะทำให้คนแก่กว่าขยับไปโอบกอดเจโน่เอาไว้ด้วยสองแขน

     

    “ไปเจอพ่อมาวันนี้ไม่ดีเท่าไหร่ถึงได้กลับมาร้องไห้แบบนี้ รู้ไหมฉันไม่เคยชอบน้ำตาเธอเลย” เสียงทุ้มกระซิบบอกแผ่วเบาแล้วลูบแผ่นหลังปลอบประโลม

    “ฮึกพ่อฮึก พ่อบอกว่าผมขายตัวทำงานสกปรก ฮื่อออ ผะผมสกปรกใช่ไหมผมทำงานแบบนั้นจริงๆ ฮึก” เจโน่สะอื้นฮั่กอย่างน่าสงสาร ตัวผอมๆสั่นเทิ้มจนมาร์คต้องกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

    “เธอไม่ได้ขายตัวถึงคิดจะทำ แต่ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ ฉันอาจจะไม่เคยเป็นแบบเธอไม่เคยลำบากขนาดที่เธอลำบาก แต่ฉันรู้ว่าทุกอย่างมันบีบให้เธอไม่มีทางเลือก แล้วเธอก็ไม่เคยขายให้ใครเพราะสำหรับเราสองคนมันต่างออกไปรู้ใช่ไหมลีเจโน่”

    “สายตาของพ่อ ฮึก บอกว่าไม่เชื่อผม เหมือนผมไม่ใช่ลูกเขา” เจโน่พูดแล้วซุกหน้าเข้ากับอกแกร่งที่ตอนนี้เสื้อสูทราคาแพงเปียกปอนไปด้วยน้ำตาของตัวเอง

    “เด็กดีถึงคนบนโลกนี้จะไม่เชื่อเธอแต่ก็ยังมีฉันที่เชื่อในตัวเธอนะ”

     

    เจโน่ผละออกจากตัวของคนแก่กว่าเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยสองตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาจนภาพพร่าเบลอ รอยยิ้มที่อบอุ่นกับฝ่ามือที่กำลังเช็ดน้ำตาให้เขาอย่างแผ่วเบาอย่างที่ไม่เคยมีใครทำให้ เจโน่รู้สึกเหมือนตัวเองค้นพบความหมายของความสุขเมื่อถูกใครสักคนโอบกอดเอาไว้

     

    “ที่ผมร้องไห้ตอนนี้ ฮึก.. เพราะความใจดีของคุณ”

     

    มาร์คหัวเราะเบาๆในลำคอแล้วเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด ใบหน้าหวานของเจโน่แดงก่ำไปหมดคงเพราะร้องไห้อย่างหนัก จมูกโด่งนั่นแดงแจ๋จนเขาต้องใช้นิ้วเขี่ยมันเล่นก่อนจะโน้มไปใกล้ใบหน้าหวานกดจูบลงบนเปลือกตาบาง

     

    “ถ้าฉันใจดีขอเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเธอแทนแล้วกัน”

     

     

     


     

     



    คิดหรอว่าคนแบบมาร์คลีจะปล่อยให้เรื่องของลีเจโน่ผ่านไปง่ายๆ ยิ่งเห็นเด็กในปกครองร้องไห้จะเป็นจะตายเหมือนเมื่อวันก่อนเขาก็อยู่ไม่สุข ประวัติครอบครัวของเจโน่ถูกหามาให้จนเกือบจะรู้ความเป็นไปทุกอย่างที่เกิดขึ้น อ่านไปก็สถบบ่นไปอย่างไม่สบอารมณ์เพราะไม่คิดว่าเด็กที่ยิ้มจนตาหยีจะต้องผ่านเรื่องเลวร้ายอะไรมาบ้างกับความรักของผู้หญิงกับผู้ชายที่ทำให้ลีเจโน่เกิดมา


    เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมร่างของเพื่อนสนิทปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า มาร์คพยักหน้าให้อีกฝ่ายเข้ามา

     

    “ทำไมดูอารมณ์ไม่ดีจังครับท่านประธาน” ลูคัสเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มก่อนจะนั่งลงโดยไม่รอให้เจ้าของห้องทำงานอนุญาต

    “มึงคิดยังไงกับพ่อแม่ที่ไม่คิดจะดูดำดูดีลูกตัวเอง” เสียงทุ้มเอ่ยถามเพื่อนสนิท

     

    ลูคัสเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะหยิบกระดาษที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาอ่าน อ่านไปขมวดคิ้วไปแล้วสุดท้ายก็วางมันคืนอย่างเดิม

     

    “เด็กมึงนี่เข้มแข็งกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลยว่ะ กูไม่แปลกใจเลยทำไมถึงได้คิดหาทางออกด้วยการใช้เว็บนั่นหาค่าเทอม พ่อแม่เด็กมึงเคยรู้อะไรบ้างเปล่าวะคิดว่าสมัยนี้ค่าเทอมมันถูกรึไง คิดได้ไงที่ไม่เคยส่งเสียอะไรเลยแล้วงานพาร์ทไทม์ใช่ว่าจะได้เงินเยอะซะเมื่อไหร่” ลูคัสตอบด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กๆ

    “ทำงานมาตั้งแต่สิบห้าเพราะตอนนั้นพ่อแม่เริ่มทะเลาะกันแล้วเกี่ยงกันเรื่องเงินดูแลลูก พอเจโน่จะเข้ามหาลัยก็ไม่เคยให้เงินอีกเลย แถมยังกล้าขายคอนโดที่เป็นแค่ที่เดียวที่เด็กนั่นจะกลับไปพักพิงให้คนอื่นต้องใจดำแค่ไหนกัน แค่อ่านถึงตรงนี้กูจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆคนเรามันจะแตกสลายได้กี่ครั้งกันลูคัส” มาร์คพูดแล้วขยำกระดาษในมือทิ้ง

     

    พวกเขาอยู่กับความสุขสบายมาตั้งแต่เกิด อยากได้อะไรแค่เอ่ยปากก็เหมือนเสกได้ทั้งนั้น บ้านหลังใหญ่ รถยนต์ราคาที่คนทั่วไปไม่มีวันเอื้อมถึง รวมไปถึงทุกๆอย่างที่ต้องการพวกเขาได้มันมาอย่างง่ายดาย

     

    โดยเฉพาะมาร์คลีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพราะเป็นลูกชายคนเล็กของตระกูลลีถึงได้รับการประคมประหงมเป็นพิเศษ อยากได้อะไรต้องได้ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยมีอะไรเลยที่เขาเอ่ยปากว่าอยากได้แล้วจะไม่ได้มันมา จนกระทั่งขึ้นมารับหน้าที่ประธานแทนพี่ชายคนโตที่ใฝ่ฝันอยากเปิดร้านอาหาร นิสัยอยากได้อะไรต้องได้ก็ยังมีอยู่เพียงแต่ตอนนี้มาร์คมีทุกอยากจนไม่อยากได้อะไรอีก

     

    จนกระทั่งได้พบลีเจโน่ในวันนั้น

     

    เขาต้องการลีเจโน่ ต้องการให้อีกฝ่ายอยู่ในชีวิตในสายตาอยู่ในปกครองของเขา วันที่พบกันเจโน่ก็เหมือนลูกแมวตัวเล็กที่กำลังบาดเจ็บ เกิดมายังไม่เคยเห็นใครที่เป็นแบบนั้นจากที่สงสารต้องการแค่รับเลี้ยงถือว่าสงสารลูกนกลูกกา แต่ตอนนี้กลายเป็นเขาไม่ใช่แค่สงสารอีกแล้ว

     

    “มึงจะเอายังไงต่อ เรื่องพ่อเจโน่มึงจะจัดการรึเปล่า” ลูคัสถามหลังจากนั่งเงียบๆไปนาน

    “คงยังไม่ทำอะไรตอนนี้ ไม่อยากให้เด็กนั่นร้องไห้อีกแล้วอย่างน้อยผู้ชายคนนั้นก็ยังเป็นพ่อของเด็กในปกครองกู ถ้าพลั้งทำอะไรตอนนี้คงพังไปหมด” มาร์คตอบแล้วถอนหายใจออกมา

    “ก็ดีแล้วพวกเราไม่ใช่วัยรุ่นเหมือนตอนนั้นที่ต้องปะทะทุกอย่างที่เข้ามาโดยไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น”

     

    ประธานหนุ่มวัยสามสิบพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อนสนิท แต่จริงๆตอนนี้นอกจากเรื่องครอบครัวเจโน่ก็ยังมีอีกเรื่องที่ต้องจัดการถึงตอนนี้จะยังไม่ได้มีประเด็น แต่อย่างน้อยเรื่องของเด็กที่ชื่อนาแจมินอะไรนั่นก็กันไว้ดีกว่าต้องมาปวดหัวทีหลัง

     

    “นาแจมินชื่อนี้มึงว่าคุ้นไหม”

    ลูคัสส่ายหน้าไปมาก่อนจะมองหน้าประธานหนุ่มตรงหน้าอย่างสงสัย

    “จำเรื่องดูตัวของแฮชานได้ไหมเมื่อสี่ห้าเดือนก่อน”

     

    ตอนนั้นแหละลูคัสถึงจำได้ว่าเพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่มเคยนัดดูตัวกับเด็กที่แก่กว่าสิบปี จำได้ว่าแฮชานมันบ่นขนาดไหนว่าเด็กที่ไปดูตัวกวนจนอยากฆ่าให้ตาย

     

    “ทำไมวะมึงรู้จักหรอ”

    มาร์คพยักหน้า

    “เพื่อนสนิทเจโน่เหมือนจะเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อซะด้วยสิ”

     

    ก๊อก ก๊อก !!

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ทั้งคู่มองไปที่ประตูเป็นตาเดียวก่อนเสียงจากเลขาจะเอ่ยชื่อคนที่กวนใจประธานหนุ่มทั้งวัน

     

    ลีเจโน่ก้มหัวให้ลูคัสแล้วเดินไปวางกระเป๋าที่โซฟาตามคำสั่งของเจ้าของห้อง มาร์คมองการกระทำพวกนั้นแล้วแอบยิ้มเพราะเจโน่มักจะเกร็งทุกทีเวลาเจอเพื่อนสนิทของเขา

     

    “งั้นกูกลับก่อนนะมีอะไรให้ช่วยก็โทรมาแล้วกัน กลับก่อนนะครับเด็กท่านประธาน” พูดลาเพื่อนสนิทมิวายยังหันไปแซวให้เด็กของเขาเขินจนทำตัวเหมือนแมวตกใจอีก

     

    เมื่อประตูปิดลงมาร์คถึงเรียกให้เจโน่เดินมาหาตบหน้าตักตัวเองเบาๆ ลอบสังเกตสีหน้าตกใจของคนเด็กกว่าที่ทำหน้าช็อคเหมือนเห็นผี

     

    “ตะ แต่นี่มัน เอ่อ ที่ทำงานนะครับคุณมาร์ค” เจโน่ยืนกำมือนิ่งส่งยิ้มแหยๆให้ประธานหนุ่ม

     

    มาร์คไม่ออกคำสั่งเป็นครั้งที่สองแต่ดึงข้อมือขาวให้ลงมานั่งบนตักของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว แถมยังกอดเอวบางเอาไว้เพราะเหมือนแมวตัวขาวกำลังจะพยศเขาด้วย

     

    “ที่นี่มันบริษัทฉันนะเจโน่แล้วห้องนี้ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาง่ายๆด้วย” มาร์คบอกแล้วหัวเราะให้กับอาการตื่นตูมของเด็กในปกครอง

    “ผมผม กลัวคนมองคุณมาร์คไม่ดี” เจโน่พูดเสียงเบา

    ประธานหนุ่มยักไหล่อย่างไม่แคร์ “ฉันไม่ได้จะทำอะไรเธอแค่นั่งตักมันจะไม่ดีได้ยังไงกัน”

     

    มาร์คมองเจโน่อ้าปากพะงาบๆเพราะเถียงไม่ออก นึกเอ็นดูกับท่าทางใสซื่อที่อีกฝ่ายแสดงออกมาเพราะถ้าเป็นสาวๆที่เขาคบด้วยพวกหล่อนคงไม่สนใจว่าจะเป็นที่ไหนเพียงแค่เป็นเขาพวกนั้นก็พร้อมพลีกายให้ตลอดเวลา

     

    “บางทีฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองโรคจิตรึเปล่า เวลาที่เธอแสดงออกมาอย่างใสซื่อทีไรก็นึกเอ็นดูจนรอคอยวันที่จะได้รักเธอแรงๆไม่ไหวเลยลีเจโน่”

     

    ประโยคส่องแง่สองง่ามของประธานหนุ่มที่กำลังกอดเอวเจโน่อยู่ทำให้เจ้าตัวเขินจนเหมือนหน้าจะไหม้ สายตาที่แสดงออกมาถ้ามองไม่ผิดเหมือนเด็กหนุ่มเห็นพญาราชสีห์ที่กำลังหลอกล่อกระต่ายตัวน้อยให้ตกหลุมพราง

     

    หัวใจของเจโน่เต้นเร็วจนรู้สึกได้ส่วนมือก็ชื้นไปหมด

     

    “ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอยังไม่พร้อม แต่รู้ใช่ไหมเด็กดีแค่เธอเอ่ยปากว่าต้องการฉัน

     

    มาร์คอุ้มร่างผอมของเจโน่ให้นั่งบนโต๊ะทำงาน ประคองใบหน้าหวานขึ้นสีจนสังเกตได้ชัดเจน ก้มลงไปจูบแก้มเนียนใสอย่างหลงใหล

     

    “ฉันพร้อมจะเป็นแดดดี๊บนเตียงของเธอตลอดเวลาเด็กดีของฉัน”

     

    พูดจบก็กดจูบลงบนริมฝีปากสีชมพูอ่อน ไม่รุกล้ำและไม่รีบเร่งเพียงแค่บดเบียดอวัยวะเดียวกันลงไป เพียงแค่นั้นที่มาร์คทำได้ในตอนนี้

     

     

     

     

     



    tbc.

     

    สวัสดีค่ะชิปเปอร์มาร์คโน่ทุกคนนน ฮื่ออ แดดดี๊เขาแบบอบอุ่นจนร้อนเลย

    รู้สึกจะเขียนให้น้องเจนร้องไห้ทุกตอนเลย… 

    กว่าจะมาต่อนานมากพอดีเพิ่งกลับจากจีนค่ะ ยังไงก็ฝากติชมหรือให้กำลังใจได้นะคะ

    ขอบคุณที่ติดตามค่ะ


    แท็ก #sugardmn

     






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×